"Last Chapter : FAMILY"ดวงตาสีฟ้าอ่อนจ้องมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของคนข้างกาย ท่อนแขนแข็งแรงเลื่อนขึ้นไปโอบเอวเล็กพลางลากคนที่ขืนตัวอย่างดื้อดึงเข้ามาชิดอก
เมื่อคืนเมย์รั้นกับเขาเหมือนเด็กๆ กว่าจะจับตัวแล้วลงเอยกันได้ก็เอาด้ายจ่อรูเข็มเสียครึ่งค่อนคืน ไหนจะอ้างนู่นนี่ ไหนจะวิ่งหนีกัน ไหนจะต้องหลอกล่อเหมือนเอาลูกกวาดให้เด็กอีก..เพลียสุดๆ
ดังนั้น..พอสบโอกาส ‘สอย’ แด๊ดเลยเล่นจน ‘พรุน’
“ไอ้..บ้า..กาม” พฤษภานอนคว่ำหน้า พูดเสียงอู้อี้กับหมอนทั้งใบหูที่เป็นสีแดงจัด จนคนใกล้เคียงอดไม่ได้ ต้องโน้มตัวเข้าไปงับเบาๆ “ฮื่อ!”
“ตื่นเช้ามาแล้วพูดกับฮัสแบนด์แบบนี้เหรอ” เฟรดหัวเราะหึ ปากว่าไปมือก็อยู่ไม่สุข ไล้ปลายนิ้วไปมากับต้นคอขาว
“ไอ้..บ้า..กาม”
ร่างสูงใหญ่ทำเสียงฟึดออกจมูก ถึงอย่างนั้นมุมปากได้รูปก็ยังยกยิ้มเมื่อสังเกตเห็นแก้มที่ขึ้นสีมะเขือเทศสุก เขายกมือขึ้นเกลี่ยเบาๆเพื่อเอาใจ
“เงยหน้ามาเมย์..เดี๋ยวหายใจไม่ออก”
“ม่าย..ย..” ตาแก่อายุสามสิบเอ็ดส่ายหัวรัว
เฟรดยักไหล่ ช่วงแขนกว้างโอบรัดไหล่ลาดก่อนจะช้อนตัวเบาหวิวขึ้นนอนหงาย กุ๊กพฤษภ์โวยออกมาได้สองสามประโยคก็เงียบไปเพราะจูบเน้นๆ
“ว่าใครบ้ากาม” หนุ่มตัวสูงดันแขนขาวลงแนบเตียง ถลกผ้าห่มทิ้งแล้วขยับตัวขึ้นคร่อม ไอ้ส่วนล่างที่ยังเปลือยเลยแนบกันอย่างหวาดเสียว
“อยากรับก็รับไปดิ!” พฤษภาเบือนหน้าหนี กลั้นยิ้มเขินๆอย่างสุดความสามารถ “ไอ้..บ้า..กาม”
“ไม่ปฏิเสธครับ..” เขาหัวเราะ
เฟรดดีใจที่ได้เห็นแง่มุมหลากหลายของพฤษภา ตั้งแต่ตอนแรกที่เจอกัน กุ๊กก็ตั้งท่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเขามาโดยตลอด แหย่นิดหน่อยเป็นทำท่าหงุดหงิดใส่ หวิดจะวางมวยกันหลายรอบ แต่พอเริ่มสนิทถึงจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของพ่อหม้ายลูกติดคนนี้..บ้าบออย่าบอกใคร
เขาชอบเวลากุ๊กจริงจังกับงาน ชอบมองสีหน้าตอนโมโหเลยขยันแหย่ให้โกรธเพราะหนูตะเภาพองขนมันตลกดี ยิ่งใกล้ชิดกัน พ่อครัวที่ขี้งกและไม่ชอบวุ่นวายกับใครคนนี้กลับแสดงน้ำใจออกมาให้เห็นมากขึ้น ที่สำคัญกว่านั้น เขาไม่เคยคิดว่าจะเจอใครที่รักลูกเขาได้เท่ากับหรือมากกว่าที่เขารัก
..ในเมื่อเจอแล้ว..จะปล่อยหลุดมือไปทำไม..
..เขารักพฤษภา..และรู้ตัวดีแล้วว่าอยู่คนเดียวไม่ได้..
..ถ้าไม่มีกันและกันอยู่ข้างๆ..
“ผมรักคุณ..เมย์” ดวงตาสีฟ้าอ่อนมองมาอย่างหวานเชื่อม และเขาก็ได้เห็นสีเลือดซับอยู่สองข้างแก้มอีกครั้ง
“รู้หรอกน่า..” กุ๊กอุบอิบ กลั้นยิ้มจนแก้มบวม เขินนะเว้ย!
..จะให้พูดบ้างก็พูดไม่ออก..ลิ้นพันกันอยู่เรื่อย..
ชายหนุ่มก้มลงกดจูบตรงซอกคอที่หอมกลิ่นแป้งเด็กฟุ้ง ริมฝีปากอุ่นร้อนไล่มาเรื่อยจนถึงปากช่างพูดของพ่อครัวก่อนจะจูบทับแนบแน่น
“ฮื้อ..พอก่อน..แด๊ดดี้” กุ๊กอุบอิบ เอามือผลักแผ่นอกล่ำสันออกห่าง
“อีกนิด..” เฟรดโน้มเข้าหา เอียงหน้าทาบทับกันพร้อมกับขบริมฝีปากล่างอีกฝ่ายเบาๆ ปลายลิ้นอุ่นสอดลงโพรงปากแล้วกวาดต้อนไปมา
“หายใจไม่ออก”
“อีกห้าวิ..” กระซิบริมหูพลางลูบมือไปทั่วตัวเล็กบาง ถึงแต่ก่อนแด๊ดจะชอบผู้หญิงทรงโตเหมือนแม่วัวพันธุ์บะฮึ่ม แต่ตอนนี้ติดใจนมกล่องแบนๆมากกว่า..ยังไงก็บีบจาก ‘เต้า’ เหมือนกัน..นึกแล้วก็อยากฮัมเพลงโฆษณา
นมเมียของเฟรด..ใหม่และสด..รสดีเสมอ
“คิดบ้าอะไรวะ หน้าหื่นมาก”
“กำลังคิดว่า..” เฟรดยิ้มกริ่ม เหลือบมองอกขาวจั๊วะ “หิวนมจัง”
เพี๊ยะ!!!!!! โดนเข้าแล้วไงแด๊ด!!!
“ทะลึ่ง!” พฤษภาหน้าแดงก่ำ ทั้งแก้มร้อนฉ่ายิ่งกว่าเตาบาร์บีคิว ลองเอาเนื้อมัตสึซากะวางตอนนี้สิ เดี๋ยวจะสุกทันทีทันใด
“ทะลึ่งอะไร คุณก็แซวผมได้นะ” หนุ่มฝรั่งยักคิ้ว ดึงมือของพ่อครัวให้วางทับกึ่งกลางของเขา..แถวๆต้นขานั่นแหละ “อะไรเอ่ย..ใหญ่และ..โตงเตง”
กุ๊กแยกเขี้ยวใส่ ‘อะไรๆ’ ของไอ้หมอนี่ก็คือ ‘เล็กๆไม่ ใหญ่ๆเอา’ ไงล่ะ
“พอเลยๆ ไอ้ผีทะเลเอ๊ย!” คนขี้อายหันหน้าหนี รีบร้อนลงจากเตียงจนลืมหยิบเสื้อคลุมมาสวม เผลอเดินโชว์บั้นท้ายกลมๆให้แด๊ดดี้ชมจนอิ่มตา
“เมย์..” เฟรดนอนตะแคงข้าง เท้าหัวมองเพลิน
“หือ?” พ่อครัวตัวเล็กเอียงหน้ามาหาตอนกำลังจะเข้าห้องน้ำ “หิวแล้วเหรอครับ..เดี๋ยวผมอาบน้ำเสร็จแล้วจะไปทำข้าวเช้าให้นะ”
..อึดและถึกจริงๆยอดชายนายตัวกุ๊ก..
..โดนกระหน่ำคลุกวงในทั้งคืนยังยืนได้ทั้งขาสั่นๆ..
“แค่อยากบอกว่า..” เฟรดยิ้ม สายตาลวนลามเปิดเผย “ก้นงอนดี”
“เงียบไปเลย!!”
ในขณะที่เกิดสงครามหมอนเล็กๆในห้องนอนของพ่อจ๋า น้องเมษกับจอชชี่ที่ตื่นกันแต่เช้าเพื่อเป็นลูกมือของพี่พีทก็กำลังวุ่นวายอยู่ในครัว
อันที่จริงเด็กๆกินข้าวกันเรียบร้อยแล้ว ปีเตอร์ทำออมเล็ตกับแซนด์วิชไก่ให้ก่อนออกไปร้านมธุปายาส แต่พอท้องตึงและหนังตาไม่ได้หย่อน น้องเมษเลยชวนเพื่อนรักอย่างโจชัวร์มาลุยฐานทัพของพ่อจ๋า อ้างเหตุว่า พ่อๆยังไม่ได้กินอะไร พวกเราชาวนินจาเต่าจึงควรทดแทนบุญคุณพ่อเจ้าประคุณรุนช่องสองคนที่ยังนอนไม่ตื่น ปล่อยตะวันแยงก้นจนไหม้อยู่ข้างบน
“จะดีเหรอ” โจชัวร์เด็กฉลาดเอียงคออย่างไม่แน่ใจ สองมืออุ้มขนมปังฝรั่งเศสอันยักษ์ไว้แนบพุง “พ่อจะโกรธนะ”
เด็กชายเมษามุดตัวกลมๆเข้าไปรื้อเสบียงในตู้เย็น “ดีซี! เราเก่งนะ”
ไอ้ตัวร้ายรื้อวัตถุดิบออกมาเกลื่อน เห็นอันไหนไม่ใช่ก็โยนหวือลงพื้น อันไหนใช่ก็ยัดใส่กระเป๋ากางเกง หนักเข้าก็หย่อนลงเสื้อจะได้ไม่ต้องเดินหลายรอบ ตอนนี้ทั้งตัวน้องเมษเลยมีแต่ไข่ไก่กับผักเต็มไปหมด
“จะทำอะไรอ่ะ”
“อาหารในคืนหมาหอน!”
..สาบานซิว่านั่นคือชื่อเมนู..
โจชัวร์ลูกมือตัวกระจ๊อกปีนเคาน์เตอร์ไปช่วยเพื่อน น้องเมษยืนอยู่บนเก้าอี้ตัวสูงที่พ่อจ๋ามักให้นั่งเวลาขอให้เจ้าแสบมาเป็นลูกมือ
“มันคืออะไรเหรอ” โจชัวร์มุ่นหัวคิ้ว เห็นเพื่อนเมษล้วงเอาไข่ไก่ออกมาทีละใบสองใบ เสร็จแล้วก็ตอกป๊อก ตอกป๊อกท่าทางเชี่ยวชาญ
“ดูนะเด็กน้อย” เมษาจีบปากจีบคอ ตอกไข่ไก่ใส่ลงทัฟเปอร์แวร์แล้วเทคอนเฟล็กต์ไปครึ่งหนึ่ง บีบนมกล่องตามทั้งรสจืด รสหวาน รสช็อคโกแลต ตบท้ายด้วยโยเกิร์ตรสสตรอว์เบอร์รี่ มีวิปครีมเล็กๆ โรยพริกไทยอร่อยเหาะ
..เสร็จสรรพก็ปิดกล่อง ทำการเชค เชค..
“เราชาวนาอยู่กับควาย พอหมดงานไถ เราขี่หลังควายชมทุ่ง อ่าฮ่า..อ่าฮ่า” ต้องมีท่าเชค เชคด้วยนะจะบอกให้ ยกทัฟเปอร์แวร์เหนือหัว ส่ายตูดเบาๆ เอวบิดพริ้วสามสิบองศาโดยประมาณ
“ว้าว~”
“พออาบน้ำควายสำราญ..” เด็กชายเมษาหมุนตัวสามตลบ
พอกลับท่าเดิมแล้วเกิดงงงวย ตัวเลยเซไปปะทะเคาน์เตอร์ มือไม้อ่อนกะทันหันจนทัฟเปอร์แวร์ร่วงโพล๊ะ! ส่วนผสมในคืนหมาหอนตกกระจาย
“อ้าว..” โจชัวร์งงต่อ แต่น้องเมษไม่งง
“ขอไม้กวาดกับที่โกยหน่อย”
ลูกมือตัวจ้อยรีบเอามาให้ตามบอก ตากลมๆมองเพื่อนเอาไม้กวาดทางมะพร้าวที่ใช้เขี่ยเศษผมในห้องน้ำกวาดเมนูพิสดารของตัวเองเข้าที่โกย
“จอชเอาไปทิ้งให้”
“ไม่..มันกินได้” น้องเมษร้องบอก หยิบชามวางบนพื้นแล้วเทน้ำสีตุ่นๆในที่โกยผงใส่ลงไป “เมษเห็นชินจังทำ ชินจังก็บอกว่ากินได้”
“อ๋อ..” โจชัวร์เชื่อฟังอยู่แล้ว กินได้ก็กินได้สิเนาะ
“เทนมให้พ่อจ๋าด้วย เมื่อคืนพ่อจ๋าร้องหนวกหูม๊ากมาก”
จอชชี่รีบกระวีกระวาดทำตาม ด้วยความที่เป็นลูกคุณหนูฝรั่งไม่เคยทำอะไร พอจับปุ๊บก็ทำขวดนมหล่นปั๊บ นมไหลเป็นทาง
“เฮ้อ..ไม่ไหวๆ” เมษาส่ายหัว เอาผ้าขี้ริ้วเช็ดพื้นก่อนจะออกแรงบิดนมใส่แก้วตามเดิม เสร็จเรียบร้อยสองเมนูก็ยกใส่ถาด
..อร่อย..เหาะ..
โจชัวร์ปีนบันไดต้วมเตี้ยมขึ้นไปเปิดประตูห้องนอนของพ่อจ๋าให้เพื่อนซี้ พอน้องเมษโผล่หน้าปุ๊บ หมอนอันเบ้อเริ่มก็ลอยละลิ่วปลิวลมมาเต็มที่
“เดอะ ลาส เอ็กโซซิส!” เด็กชายเมษาร้องเฮ้! ทำสะพานโค้งหลบฉาก
พลั่ก! หมอนหนุนของพ่อจ๋าเลยปะทะหน้าโจชัวร์จังเบ้อเร่อ จบเกมไปทันใด ทีมพ่อคนไทยชนะพ่อฝรั่งใสๆแบบไม่เห็นฝุ่น
..มันใช่ซะที่ไหนล่ะวะ!..
“ตายหะ..” พฤษภาตาโต รีบตาลีตาลานปีนข้ามเตียงมาหาตัวเล็กจ้อยที่ล้มหงายเก๋งลงไปนอนดูดาว หน้ากลมๆดูเอ๋อไปครู่ใหญ่ “เจ็บมั้ยลูก!”
“โอ๊ะโอ..” เฟรดรีบเดินมาหา ไอ้หนูน้อยของเขากะพริบตาปริบๆ
กุ๊กประคองลูกชายอีกคนขึ้นมานั่งตัก เลิกผมหน้าม้าขึ้นดูว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือสมองถูกกระทบกระเทือนอะไรไปบ้าง
“พ่อขอโทษนะครับจอชชี่ โอ๋..เด็กดีของพ่อไม่เจ็บเนอะ เพี้ยง!”
โจชัวร์ส่ายหัว เด็กชายยิ้มร่า “ไม่เจ็บฮะ” แค่หน้าชาจี๊ดๆ
น้องเมษเดินตัวพองมาหาเพื่อน วางถาดในมือลงแล้วนั่งยองๆ
“จอชชี่เก๊งเก่ง” สองมือแปะลงหน้าผากใส “แต่ช้าแต่ แม่พวงมาลัย”
“มันใช่คำปลอบซะที่ไหนเล่าน้องเมษ” กุ๊กหัวเราะ หอมแก้มทั้งคู่ไปฟอดใหญ่ก่อนจะพยุงตัวเด็กๆให้ลุกขึ้น “มาหาพ่อถึงห้อง มีอะไรมั้ยเอ่ย”
เมษาพยักหน้าหงึก นั่งขัดสมาธิบนพื้นก่อนจะชี้มือไปที่อาหารเช้าซึ่งสรรค์สร้างมาจากความตั้งใจอันใหญ่ยิ่งของเด็กไร้เดียงสาตัวน้อยๆ
“พวกหนูทำให้กิน”
“ห๋า?” ลุงเฟรดตาโต ขนาดเขายังตอกไข่เละเลย “จริงเหรอน้องเมษ”
เด็กๆยิ้มรับอย่างลิงโลด สองพ่อมองหน้ากัน และในฉับพลันทันใด..กระแสความดีใจ ความภูมิใจ ความยินดีแบบปลื้มปริ่มน้ำตาไหลก็ท่วมเอ่อ
“ลูกของเราโตกันแล้วเนอะ” กุ๊กขอความเห็นคุณสามี ยกแก้วนมขึ้นด้วยน้ำตาคลอเบ้า “พูดไม่ออกเลย..”
เฟรดอาจจะตงิดกับสีตุ่นๆของซีเรียลในชาม แต่ความตั้งใจก็คือความตั้งใจอยู่ดี เห็นแล้วขอบตาร้อนผ่าวด้วยความชื่นชมเลย ให้ตาย!
มื้อเช้าดำเนินไปอย่างชื่นมื่น(และผะอืดผะอม) ต่อให้ตัวสองพ่อมันไม่อยากกิน แต่เจ้าตัวสองลูกมันก็บังคับให้กินกันจนได้
“ใช่แล้ว!” เฟรดที่กำลังหันหนีอาหารในคืนหมาหอนคำโตจากโจชัวร์นึกขึ้นได้ “แด๊ดมีเรื่องอยากจะคุยกับพวกเรา” ชายหนุ่มมีสีหน้าจริงจัง
พฤษภาโชคดีหน่อยที่นมในแก้วไม่ได้มีรสปุเลี่ยนเท่ากับซีเรียลถ้วยนั้น..ถึงจะประหลาดใจที่มันมีฝุ่นลอยอยู่ด้วยก็เถอะ..ยังไงซะรูปการณ์ก็ไม่หนักเท่าขาแมลงสาบที่ติดปากแด๊ดดี้อยู่หรอก (จ้างให้ก็ไม่บอก อิอิ)
“ว..ว่าไงเหรอคุณ คุยเลยสิ คุยเลย!” กุ๊กวางแก้วนมที่พร่องไปครึ่ง หนึ่งลงบนพื้น เปลี่ยนมานั่งขัดสมาธิโดยมีน้องเมษขยับเข้าไปนั่งตัก
เด็กชายเมษาตาวาวเมื่อเห็นแหวนตรงนิ้วนางซ้ายของพ่อจ๋า
“อะไรฮะ!”
พฤษภาเลิ่กลั่ก หลบสายตาฉงนสนเท่ห์ของเด็กๆที่จ้องมาไม่วาง
“แด๊ดอยากคุยกับพวกเราเรื่องนี้”
เฟรดเอื้อมไปดึงมือของพ่อครัวตัวเล็กมากุม พอสองมือของสองหนุ่มบีบกระชับเข้าหากัน เด็กๆก็เห็นแหวนสองวงสะท้อนเข้าสองตาพอดี
เมื่อคืนแด๊ดดี้ออกจะคึกไปหน่อย คิดว่าตนเองเป็นกวางหนุ่มปราดเปรียวเลยฟัดกวางสาวจนอิ่มแปล้ แต่พอฟ้าสว่างและแดดแยงตา ความจริงที่ว่ากวางสาวก็มีเขายาวโง้งเหมือนตัวเอง และยังพ่วงด้วยลูกเล็กๆมาอีกหนึ่งก็กระตุกใจให้คิดอยู่เหมือนกัน..ว่าพวกเขายอมรับกับสิ่งที่เป็นอยู่ได้
..แต่ลูกของเขากับลูกของอีกฝ่ายล่ะ..จะรับได้แค่ไหนกัน..
โอเค..ถึงมันจะช้าไปหน่อยก็เถอะที่มาจริงจังเอาตอนนี้ (ทีตอนบอกให้ลูกๆทำปลอกนิ้วให้ไม่ยักทำความเข้าใจกันก่อน) แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้พูดอะไรกันเลย เพราะนับจากนี้ไป..เด็กๆจะต้องอยู่กับสภาพแวดล้อมที่มี ‘คุณพ่อสองคน’ ไปอีกนานแสนนาน..หรือเทียบเท่ากับตลอดชีวิตของตน
พฤษภายิ้มแหะ นึกเรียบเรียงคำพูด หลังจากผ่านด่านความรู้สึกของผู้ใหญ่ พวกเขาก็ต้องการถามความเห็นและความสมัครใจของลูกๆด้วย เขากับคุณเฟรดไม่ได้นัดหมายกันในเรื่องนี้ แต่พอมองตากันก็พอจะเข้าใจได้อยู่
..นี่แหละ..ด่านอรหันต์ของชีวิตเลย..
“น้องเมษ..ถ้าพ่อบอกว่าพ่ออยากให้แด๊ดดี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา..น้องเมษจะว่ายังไงครับ”
หนุ่มต่างชาติพยักหน้าหงึก “แด๊ดรู้ว่าเคยสัญญากับจอชเอาไว้ว่าจะไม่หามัมคนใหม่ให้เรา จะไม่มีใครมาแทนที่มัมแซนดร้าได้..แต่ว่า..”
เมษากับโจชัวร์มองหน้ากัน สองแสบส่ายหัวไม่เข้าใจ
“ก็คือว่า..” กุ๊กใช้คำใหม่ “ต่อจากนี้ไป เราอาจจะย้ายไปบ้านลุงเฟรดอาทิตย์หนึ่ง ย้ายมานอนบ้านเราเองอาทิตย์หนึ่ง มีลุงเฟรดคอยรับส่ง..”
“มื้อเช้าของพวกเราก็จะมีพ่อจ๋าทำให้ มื้อเที่ยง มื้อเย็น หรือมื้อไหนๆ พ่อจ๋าก็จะเป็นคนคอยดูแล แด๊ดไปทำงาน กลับมาบ้านก็เจอพ่อจ๋ากับลูกๆ” เฟรดรีบสมทบ “เราจะเข้านอนพร้อมกัน ตื่นขึ้นมาพร้อมกัน ไปเที่ยวด้วยกัน”
“โจชัวร์จะได้เป็นพี่ชายของเมษ และเมษก็จะเป็นน้องชายของโจชัวร์”
สองพ่อมองตากันอย่างหวานซึ้ง..ทั้งที่เพิ่งทำสงครามหมอนกันหยกๆ
“แด๊ดดี้จะเป็นหัวหน้าครอบครัวของพวกเรา..จะคอยดูแล..และเป็นพ่อให้กับพวกหนูอีกคน” พฤษภายิ้มอ่อน “จอชกับเมษโอเคมั้ยครับ..”
เฟรดเสริม “ถ้าครอบครัวเราจะมีพ่อสองคน”
น้องเมษกับจอชชี่ที่นั่งฟังจนนกหลับปรือตามองแด๊ดดี้สลับกับพ่อจ๋า เด็กชายถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืน จูงมือเพื่อนเดินออกนอกห้องไปท่ามกลางความตกตะลึงของผู้ใหญ่ทั้งสอง
“เมย์..” แด๊ดดี้คราง เขาไม่ทันคาดคิดถึงปฏิกิริยานี้มาก่อน
พฤษภาหน้าเสีย พวกเขากุมมือกันโดยอัตโนมัติ “ถ้าลูกไม่โอเคล่ะ”
เฟรดดึงร่างเล็กๆมากอดปลอบ ลูบหัวลูบหลังยกใหญ่ ไม่รู้ว่าเขาคาดอะไรผิดหรือเรียงลำดับความสำคัญพลาดหรือเปล่า ผลถึงได้ออกมาแบบนี้
ตามปกติแล้วผู้ใหญ่ต้องจีบกันก่อน..พอสำเร็จค่อยถามเด็กๆไม่ใช่หรือไง หรือจริงๆต้องถามความเห็นเด็กก่อนแล้วค่อยไปจีบกันลับหลังเอง!
ก่อนที่สองพ่อจะคิดเกินเลยไปกว่าที่เป็นอยู่ เด็กชายเมษาที่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งพร้อมกับจูงมือเพื่อนซี้มาด้วยก็ยื่นกระดาษใบหนึ่งให้ดูต่อหน้า
กุ๊กพฤษภ์น้ำตาร่วงผล็อย รับกระดาษปอนด์ในมือของลูกชายมา
ดูเหมือนว่าน้องเมษจะวาดเอาไว้นานแล้ว เป็นครอบครัวตัวกลมที่มีบ้านหลังจ้อยอยู่ข้างหลัง มีแปลงคุณนายตื่นสายและตู้รับจดหมายอยู่ข้าง หน้า พ่อจ๋าใส่ชุดพ่อครัว น้องเมษยืนกินเบอร์เกอร์..ตัวแถมอย่างลุงโชคก็อยู่ไม่ไกลออกไป ส่วนอีกภาพหนึ่งเป็นฝีมือของโจชัวร์ ครอบครัวก้างปลาหัวโตประกอบไปด้วยแด๊ดดี้ จอชชี่ กับป้าสาวที่อ้วนตุ้ยนุ้ย
สองภาพวาดโดยเด็กสองคน แต่มันกลายเป็นภาพเดียวเพราะเด็กๆต้องการให้เป็นอย่างนั้น สก็อตเทปแผ่นบางๆเชื่อมต่อมันไว้ด้วยกัน
เรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องอธิบายซับซ้อน เพียงแค่มองและเปิดใจ
..ภาพทั้งหมดก็แสดงความหมายอย่างสมบูรณ์ด้วยตัวมันเอง..
‘แควมมิลี่’
..และนั่น..ก็คือคำตอบหนึ่งเดียวของเรื่องนี้..
“แด๊ดดี้” เด็กชายเมษายิ้มตาปิด “พ่อจ๋า”
โจชัวร์หันมองเพื่อนรักแล้วกุมปลายนิ้วนุ่มไว้แน่น ปากฮัมเป็นเพลง
“พ่อจ๋า..กับแด๊ดดี้ มีจอชชี่เป็นพี่ของเมษ”
พฤษภาน้ำตาปริ่ม ตั้งแต่รู้ตัวว่ามีใจให้คุณเฟรด..เขาก็ไม่ได้คาดหวังการยอมรับมากมายนักจากลูก อย่างน้อยแค่ลูกพอจะทำใจได้ พวกเขาก็มีความสุขแล้ว แต่สิ่งที่กำลังได้รับอยู่มันเกินคาด
..ไม่รู้ว่าเด็กๆเข้าใจหรือไม่กับสิ่งที่แสดงออกมา..
..แต่พฤษภากับเฟรดมั่นใจอยู่อย่างหนึ่ง..
..ความผูกพันในครอบครัวจะเป็นอันดับแรกที่พวกเขานึกถึงเสมอ..
เฟรดที่กำลังกะพริบตาไล่หยดน้ำที่คลอเบ้าอยู่ทิ้งไปดึงตัวเมย์ของเขามากอด พ่วงด้วยเด็กๆที่เฮโลเข้ามานั่งตักและกอดรัดกันอย่างอบอุ่น
“ดูเหมือนเราจะข้ามขั้นตอนอะไรไปอีกแล้วนะที่รัก..”
พฤษภาที่กำลังหอมแก้มลูกๆซ้ายขวาเงยหน้ามอง “อะไรครับ”
เมื่อคืนขอเขาแต่งงานอีกครั้งตอนเข้าด้ายเข้าเข็ม..เขาก็รับปากไปแล้วนี่หว่า..ถึงจะบอกว่าไม่ต้องทำพิธีอะไรก็เถอะ แค่ตกปากรับคำก็พอ แด๊ดดี้ก็ไม่เห็นจะแย้งนี่นะ..หรือว่าเขาลืมอะไรไปอีก
“คุณยังไม่ได้บอกรักผม” เฟรดแสร้งตัดพ้อ
กุ๊กหัวเราะร่า ขยับเข้าไปนั่งชิดกันแล้วเอนหัวลงซบบ่ากว้าง
เมษากับโจชัวร์หูผึ่งเหมือนจะลุ้น
“ผม..รั...” พ่อจ๋านิ่วหน้า ได้ยินเสียงอะไรแว่วๆในท้อง “อุ่ก..”
ครืดด!! ชัดเลย..ซื้อหวยไม่ถูกบ้างวะไอ้พฤษภ์!
“เงียบทำไมล่..ะ..” ร่างสูงทำคิ้วย่น สีหน้าเปลี่ยนเป็นเหยเก
คราดด!!
เด็กชายเมษาหัวเราะคิกคัก ยักคิ้วหลิ่วตาให้กับโจชัวร์หลังจากที่สองพ่อถลาเข้าห้องน้ำไป แด๊ดดี้ถูกสั่งให้วิ่งลงล่าง ส่วนพ่อจ๋าจะใช้ข้างบนแทน
ครอบครัวนี้ยังต้องวุ่นวายไปอีกนาน เพราะอะไรน่ะเหรอ...
Because….WE HAVE TWO SONS!! FIN แถมท้ายพฤษภาทำข้อตกลงกับคุณเฟรดเอาไว้ว่าพบกันคนละครึ่งทาง สำหรับเรื่องร้านอาหาร เขายินดีรับมา แต่ในช่วงจังหวะนี้ขอหยุดพักไว้ก่อน
เฟรดยอมตกลงและปิดร้านเอาไว้ชั่วคราว..จนกว่าทางคุณโชคชัยจะสามารถหาใครก็ตามที่มีฝีมือทัดเทียมหรือทำหน้าที่แทนพฤษภ์ได้ขึ้นมาแทน
“เขาไม่ว่าอะไรหรอกน่า” หนุ่มฝรั่งปลอบใจคนรัก
กุ๊กทำหน้าเหมือนจะเข้าที่ประหาร แค่มาบอกพี่ชายของอดีตเมียเท่านั้นเองว่าตกลงปลงใจใช้ชีวิตกับแด๊ดดี้เฟรด ซึ่งนั่นหมายรวมถึงเรื่องในอนาคตข้างหน้าว่าต้องแยกตัวออกไปทำมาหากินเองด้วย
พฤษภาสูดลมหายใจเข้าลึก เขาทักทายพวกพ่อครัวแม่ครัวผู้ช่วยก่อนจะบอกให้เฟรดดี้รอข้างนอก ส่วนตัวเขาจะเข้าไปหาพี่โชคในห้องทำงานเอง
“ไปด้วยกันก็ได้ เขาไม่ต่อยผมหรอก” เฟรดยักไหล่
กุ๊กตัวเล็กพยักหน้าหงึกอย่างจำยอม เขาค่อยๆแง้มประตูห้องของพี่โชคเข้าไปด้านใน มีแด๊ดดี้เยี่ยมหน้าตามเข้าไปอีกคน
..ก่อนที่ทั้งสองจะต้องชะงักกึก..
เบื้องหน้า..คุณโชคชัยที่ไม่รู้ไปอดหลับอดนอนมาจากไหนกำลังฟุบหน้าอยู่ตรงโต๊ะบัญชี อันที่จริงมันก็ไม่ได้แปลกประหลาดหรอก
มันมาแปลกไอ้ตรงที่ใกล้ๆกันนั้น..เด็กหนุ่มฝรั่งกำลังโน้มตัวอยู่เหนือร่างเจ้าของร้านคนไทยชนิดจมูกชนจมูก!
“หวา..” ก่อนที่พฤษภาจะได้โวยวายอะไรออกมา เฟรดก็ตะครุบปากแล้วลากตัวคนรักออกไปทันที
แต่กุ๊กยังทันเห็นเจ้าหนูปีเตอร์มันเอาปากชนปากนะนั่น!
..อะไรวะ!..มันเรื่องอะไรก๊านนนน!!..
“ผมตกข่าวอะไรไป!”
เฟรดยักไหล่ “ไม่ใช่เรื่องของคุณแล้ว..ที่รัก”
“ห๊ะ!!”
ดวงตาสีฟ้าสว่างดูร่าเริงกว่าเดิมอีกร้อยเท่า เขาจูงมือกุ๊กไปขึ้นรถ ไอ้เรื่องที่จะคุยกันวันนี้เลยต้องพับเก็บ..และก็แทบไม่รู้เลยว่าจะสบโอกาสเหมาะสำหรับพูดคุยกันในวันไหนอีก
“ผมรู้แล้วล่ะ..ว่าใครที่จะเข้ามาแทนที่คุณ..”
..สุภาษิตไทยว่าไว้..ระวังให้ดีนะคุณโชคชัย..
..เกลียดตัวกินไข่..เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง!!..
จบไปอีกเรื่องแว้วววว
ดีใจที่ซู้ดดด เพราะมันเขียนยากที่ซู้ดดดด
เวลาเจอเรื่องสบายๆคลายเครียดทีไร มันคิดหนักทุกทีว่าจะเดินเรื่องยังไงไม่ให้เครียด
เรื่องนี้เหมือนกับนิยายที่ไม่มีโครง คือเขียนไปเรื่อยๆ ไหลไปเรื่อยๆ
เอาแค่ว่าจะมีสถานการณ์อะไรมาให้สองพ่อมันรักกัน แล้วก็เน้นความกวนส้นติงของลูกๆ (โดยเฉพาะน้องเมษ) มากกว่า
พอมันไม่มีหลักในการเขียน ก็พาลจะไหวโอนเอนไปเรื่อยเหมือนต้นหลิวทุกที เอิ๊ก...ยากขิงๆ
ได้แต่หวังว่าภาค 2 จะเขียนได้ง่ายขึ้น (หรือยากขึ้นกว่าเดิมหว่า)
ต้องขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ตามกันมาจนถึงตอนจบของครอบครัวนี้ด้วยเน้ออ
ถึงแม้ว่าจะดองแล้วหายหัวไป ก็ยังติดตามและรอกันอยู่ อิอิ ขอบคุณจริงๆคร้าบบบ
อย่างไรก็ตาม ตอนจบนี้ยังไม่ใช่ตอนจบของครอบครัวโอคอนเนอร์จ้า
เพราะเรื่องนี้จงใจเขียนขึ้นมาเพื่อ 'สร้างปัญหา' ให้กับชีวิตรักของทั้งคู่
(แต่บังเอิญดันเขียนยาวยืดไปหน่อย มันเลยต้องแบ่งเป็น 2 ภาคฉะนี้แล
)
ครอบครัวของลุงเฟรดดี้ที่มีลูกชายชื่อจอชชี่จอมขี้แง ยังจะมาปรากฏตัวอีก...แต่ว่าไม่รู้เมื่อไหร่ ก๊ากก..
เมื่อถึงตอนนั้น น้องเมษกับจอชชี่ก็คงอยู่ชั้นประถมแล้ว (แน่นอนว่าต้องกวนตีนกว่าเดิมอีกหลายสิบเท่า)
และสุดท้ายก็จะเขียนเรื่องของสองพี่น้อง(ท้องชนกัน) เป็นบทสรุปของเรื่องทั้งหมด
ยังไงก็ขอฝากเอาไว้ด้วยเน้อออ (แม้ว่าจะอีกนานหลายปีก็ตาม โฮะๆๆ)
ปล. ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด 12 ส.ค.เป็นต้นไป เรื่องนี้ก็คงได้ฤกษ์ซะทีคร้าบ อิอิ
อยากพูดคุยหรือสอบถามอะไร แวะไปที่เพจได้เลยน้อออ
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านมากๆๆๆๆคร้าบบบ