ตอนที่ 68 new year [part 2]
เฮ้อ.... กว่าจะว่าง... กว่าจะได้ปลีกตัวออกมาได้ก็เลยปีใหม่มาแล้วสองวัน ก็ที่ร้านน่ะสิ ยุ่งซะจนแทบไม่ได้หยุดได้พัก งานก็ยุ่ง แล้วไหนจะคุณสามีอีก น้องฐาล่ะอยากจะแยกร่างให้ได้สักสิบร่างจริงๆ นะคะเนี่ย
หนูถอนใจเฮือกขณะเดินตามพี่โต้งเข้าไปเที่ยวงานคาราวานปีใหม่ที่ยังตั้งอยู่เป็นวันสุดท้าย บรรยากาศคล้ายงานวัด หนูไม่ได้เที่ยวงานแบบนี้มานานแล้ว ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนต้องไปเที่ยวงานกาชาติแทบทุกปี เพิ่งจะเมื่อปีที่แล้วนี่เองที่ไม่ได้ไป เพราะเรื่องราวต่างๆ ที่เคยสร้างรอยยิ้มมันทำให้เราเจ็บปวดเมื่อนึกย้อนกลับไปอีกครั้ง
ช่างเถอะ ลืมเครื่องเครียดแล้วสนุกให้เต็มที่ดีกว่าเนอะ
“หิวไหมคะ” พี่โต้งถาม ก้มหน้าลงนิดนึง เพราะวันนี้หนูสะเออะใส่ส้นสูงมาด้วย เลยสูงเกือบจะเท่าพี่แกอยู่แล้ว นี่ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นคงไม่กล้า เพราะได้สูงลิบลิ่วเกินหน้าเป็นแน่แท้
“นิดนึงค่ะ” หนูตอบพลางสอดส่ายสายตาหาของกิน
“หมูกระทะไหม?”
“ฮื้อ.... พี่ก็ แค่นี้ก็เบื่อจะตายอยู่แล้ว ถ้าหนูลาออกเมื่อไรนะ จะไม่กินหมูกระทะไปเป็นปีเลยคอยดู”
พี่โต้งหัวเราะกุมมือหนูแล้วจูงพาเดินเข้าไปนั่งบนเสื่อที่วางด้วยโต๊ะญี่ปุ่น
“ร้านนี้แหละ สั่งได้หลายอย่างดี น้องฐาเอาอะไรคะ”
“หอยทอดกระทะร้อน” หนูตอบ เพราะเหมือนเค้าจะขาย หอยทอดกับผัดไทเป็นเมนูหลัก”
“หึหึ ยังไงก็ไม่พ้นกระทะอยู่ดีเนอะ”
“ก็ มันขายอยู่กี่อย่างกันน่ะพี่ดูสิ” หนูพยักพะเยิดให้ดูป้ายบอกรายการอาหาร
“ร้านข้างๆ เขาก็มีข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่นะคะ สั่งได้เหมือนกัน”
“ไม่เป็นไร เอานี่แหละ”
หนูนั่งกินหอยทอดพลางคิดถึงออย เพราะที่บ้านมันขายผัดไท หอยทอด
“เดือนนี้เพื่อนจะมาเยี่ยม... ให้มาค้างห้องเราได้ไหมคะ?”
“เพื่อนผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชายล่ะคะ?” พี่โต้งถามมองหน้าหนูนิ่ง จนหนูก็ได้แต่อึ้ง เอ๊ะ แล้วจะบอกว่าเป็นเพศไหนพี่โต้งถึงจะไม่ว่าล่ะ?
“เพศเดียวกับหนูนี่แหละ แต่สวยไม่เท่า... ยังไงดี บุคลิกคล้ายๆ พี่เอมั้ง”
“แล้ว ที่อื่นไม่มีว่างเลยหรือไง แถวนี้โรงแรมแล้วก็บังกาโลออกเยอะแยะ”
“ก็แหม... หนูก็อยากอยู่กับเพื่อนนานๆ ขนาดพี่ปอนด์มานอนด้วย หนูยังไม่ว่าอะไรสักคำนึง” หนูบอกเสียงอ่อยเหลือบตาขึ้นส่งสายตากดดัน จนอีกฝ่ายอึกอัด จะเถียงก็เถียงไม่ออก
“ตามใจ...” หนูยิ้ม เอียงตัวไปซบกอดแขนพี่โต้งแล้วเอาหัวถูไหล่
“ขอบคุณค่ะ หนูรู้ว่าพี่โต้งอ่ะใจดี...”
อิ่มแล้วหาอะไรทำดีกว่า
ช้อนปลาทอง.... อยู่ชั่วโมงเศษ ได้ปลามาสองตัว....
อร๊าย....... จะพาไปอยู่คอนโดสวยๆ เล่นตัวทำไมยะพวกหล่อน
เอาเถอะ สองตัวก็ได้ย่ะ จะได้เป็นคู่....
ทาสีตุ๊กตาอีกครึ่งชั่วโมง ได้ตุ๊กตาสวยหนึ่งตัว อัปลักษณ์อีกตัว....
“ออกมาเละขนาดนี้ บอกเขาไม่เอาได้ไหมเนี่ย” พี่โต้งขมวดคิ้ว เมื่อผลงานออกมาได้เป็นที่น่าพอใจทั้งที่แกก็ดูตั้งใจทามากอ่ะนะ
“โธ่พี่.... ทาไปแล้ว... สวยไม่ได้สวยก็เอากลับเถอะ สงสารมัน ถ้าพี่ไม่ชอบ แลกกับของหนูก็ได้” หนูยื่นตุ๊กตาตัวสวยของตัวเองให้คนตรงหน้าอย่างอวดๆ
“ไม่น่าเชื่อว่าอย่างเรานี่จะทำออกมาสวย”
“แหม...ว่าไป .... หนูเรียนศิลปะนะคะ....”
“เออ ลืม แต่ความจริงจะต้องแลกกันทำไม ยังไงก็อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องแยกว่าอันไหนของพี่ อันไหนของหนู รวมๆ เป็นของเราไปให้หมดเลยก็สิ้นเรื่องจริงไหม?”
หนูยิ้มหวาน พยักหน้ารัวๆ
ค่ะ....ของเรา.... ของเรา.....
“ปาโป่งได้ไหมคะ?” หนูถามเมื่อเดินมาเจอซุ้มปาโป่งเรียงราย โอ๊ย... สวย ตุ๊กตาๆ
“ได้สิคะ” พี่โต้งตอบ หนูยิ้มอย่างดีใจแล้วเดินนำไปที่ซุ้มเหมือนเด็ก
ลองปาอยู่พักนึง ก็ไม่พบว่าจะได้อะไรดี มีเพียงตุ๊กตาง่อยๆ มาปลอบใจเพียงเท่านั้น
แง้ ไม่เอาง่ะ หนูไม่ชอบ หนูจะเอาตัวหย่ายๆ ตัวโตๆ น่ะ
“พี่โต้งปาไหมคะ?” ในที่สุดหลังจากหมดไปสองร้อยแล้วก็ยังไม่สำเร็จ หนูทำหน้ามุ่ยหันไปถาม แบบหวังพึ่งพาสุดฤทธิ์ ก็เห็นแต่รอยยิ้มแล้วก็ส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรค่ะ น้องฐาปาเลย ปาไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งเอง”
บ้าแล้ว.... แบบว่าไอ้ตัวที่อยากได้อ่ะ มันต้องห้ามพลาดสักดอกนึง แล้วจะได้ง่ายๆ ไหมเนี่ย?
ปาทั้งคืนก็คงไม่ได้อ่ะอย่างนี้
หนูหันไปปาลูกดอกต่อจนหมด พอเห็นพี่โต้งทำท่าจะซื้อเพิ่มอีกก็ต้องรีบห้าม
“พอแล้วค่ะพี่ ไม่ไหว ยากเกิน เที่ยวต่อดีกว่า” หนูบอกหันไปหิ้วถุงตุ๊กตาตัวเล็กๆ แล้วหันมาหากอดแขนคนมาด้วย เดินออกจากซุ้มนั้น
ระหว่างทางหนูก็มองซ้ายมองขวาหาของเล่นอื่นอีก ทำไงนะถึงจะได้ตุ๊กตา.....
ยิงปืน..
เรียงเบอร์
บิงโก... แล้วก็ชะงัก
“อยากเล่นบิงโกเหรอคะ?” พี่โต้งถาม
หนูหันไปส่ายหน้า
ก็แค่....ระลึกถึงความหลัง
เปลี่ยนแฟน...ชีวิตก็เปลี่ยน อะไรมันจะ “ง่าย” อะไรมันจะ “ได้” ไปหมดทุกอย่างแบบนี้
ต่างกับเมื่อสองปีก่อนโดยสิ้นเชิง ตอนนั้นหนูถึงกับยกเลิกนัดที่จะไปเที่ยวเกาะช้างกับครอบครัว เพื่อจะอยู่เป็นเพื่อนดื่มให้ “มัน” แต่ไม่คิดว่ามันจะชวนไปเที่ยวงานกาชาติ ทุกๆ อย่างที่ยังเป็นหนู ที่เคยพูด เคยร้องขอในสถานการณ์คล้ายกัน แต่คำตอบที่ได้มันต่างกันอย่างชัดเจน
“โรจน์ ปาโป่งกัน...เราอยากได้ตุ๊ก-ตาอ่ะ”
“มึงมีปัญญาปาเหรอ แตกยากชิบหาย”
“อย่าบอกว่าอยากได้ลูกโป่งนะ...”
“ถ้าบอกว่าใช่ แล้วโรจน์จะซื้อให้ป่ะล่ะ?”
“ไม่...และถ้าจะซื้อล่ะก็ เดินให้ห่างกูสักสามเมตรเลยนะ” มันไม่ใช่คนโรแมนติกแบบพี่โต้ง ถึงจะไปเดินด้วยกันก็ไม่ได้ควงแขนหรือเอาอกเอาใจแบบนี้ แต่ไม่รู้สิคนไม่โรแมนติกเวลาที่ตั้งใจทำอะไรให้ ถึงจะดูธรรมดา เล็กน้อย แต่ทำก็ทำให้ชื่นหัวใจจนลืมไม่ลงทีเดียว
ตอนนั้นมันไม่ยอมปาโป่งด้วยกัน ไม่ตามใจมากมายแบบนี้ แถมยังทิ้งหนูให้ทาสีตุ๊กตาอยู่คนเดียว...
ส่วนตัวมันหายไปเล่นบิงโก แล้วเอาตุ๊กตามาฝาก.... ตุ๊กตาที่หนูหอบหิ้วไปทิ้งข้างถังขยะหน้าบ้านแล้วตัดใจไม่ได้อุ้มกลับมาอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนตอนนี้มันเนื้อตัวมอมแมมนอนหลับอยู่ในห้องเก็บของ
“ถ้าอยากได้ตุ๊กตาขนาดนั้น พี่จะซื้อให้เอาไหม” หนูเกือบสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงพี่โต้งเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อุ๊ย.... ไม่เอาหรอกค่ะ เปลืองตังค์เปล่าๆ”
“ไม่หรอก เราจะได้ได้ของที่เราชอบโดยไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องรอไง”
ก็จริง เวลาเดินถือก็คงไม่มีคนรู้หรอกว่าซื้อหรือว่าได้มากจากอะไร แต่ความรู้สึกมันไม่เหมือนกันน่ะสิ...เอาเงินซื้อเลยมันง่าย แต่มันไม่ภูมิใจ
“ไม่เอาดีกว่า เกะกะ เดินเที่ยวเฉยๆ น่ะดีแล้ว ไปเถอะค่ะ” หนูยิ้มตอบลากพี่โต้งให้เดินต่อ....
ในเมื่อเวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน ไม่จำเป็นต้องคาดหวังให้ใครคนใหม่ทำอะไรให้เหมือนคนเก่า เพราะเป็นคนละคนกัน หนูจะไม่คิดถึงเรื่องดีๆ ที่มันเคยทำ เพราะมันไม่มีประโยชน์ เพราะถึงเคยดียังไง สุดท้ายมันก็ทิ้งหนูไปแล้วอยู่ดี....
เพราะฉะนั้น ..... หนูจะลืมความสุขในอดีตให้หมด เพื่อจะมีความสุขกับปัจจุบัน....
แล้ว ณ ปัจจุบัน หนูก็เจอ....คนขายลูกโป่งอยู่ตรงหน้าพอดีเลยด้วย...
“พี่คะ อยากได้ลูกโป่ง...” หนูรีบหันควับไปทำตาวิ้งวั้ง เสียงเล็กเสียงน้อยอ้อนปัจจุบันให้ใจอ่อนทันที...
“น้องฐาคะ.... อายุเราน่ะเลือกตั้งได้แล้วนะ ยังจะเล่นอะไรเป็นเด็กๆ อีกเหรอ?”
“ก็.... ตอนเด็กๆ ไม่มีคนซื้อให้นี่นา....”
“แต่มันเด่นนะ ซื้อมาแล้วจะกล้าถือหรือเปล่า?”
“หนูน่ะกล้าถือ แต่พี่น่ะสิ กล้าเดินกับหนูหรือเปล่า?”
“ถ้าอยากได้จริงๆ จะซื้อให้ก็ได้”
“จริงเหรอคะ เอาแมวอ่ะ แมวๆ”
“แมว? คิตตี้อ่ะนะ” หนูพยักหน้าที่ยิ้มร่าตาจะปิดเมื่อเห็นพี่โต้งทำหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อยตอนเดินไปซื้อลูกโป่ง ไม่นานก็กลับมาพร้อมลูกโป่งสีแดงในมือ
“ไหนอ่ะแมว” หนูย่นคิ้วถามเมื่อเห็นว่าพี่โต้งไม่ได้ซื้อคิตตี้มาอย่างที่หนูบอก
“พี่ว่าหัวใจมันความหมายดีกว่านะ หรือว่าไม่อยากได้” แน่ะ มีงอนดึงลูกโป่งรูปหัวใจกลับไป
“อยากได้ซี่ สวยดีออก ให้ไรก็ดีใจหมดอ่ะถ้าพี่โต้งให้อ่า....” หนูรีบบอกเสียงหวานอย่างประจบประแจง รีบยื่นมือคว้าเชือกดึงลูกโป่งกลับคืนมา แล้วถึงเชือกนั้นให้สั้นลงๆ จนได้ลูกโป่งมากอดไว้ในอก
“เอ่อ... ลูกโป่งไม่ใช่ตุ๊กตานะคะ จะได้กอดไว้แบบนั้น”
“ไม่ใช่ก็จะกอด เพราะทำให้อุ่นได้เหมือนกัน....”
“อุ่นจริงเหรอคะ?” พี่โต้งถามแล้วก้มหน้าลงกระซิบถามเบาๆว่า “อุ่นมากกว่าถูกพี่กอดหรือเปล่า?”
อ่านะ ก็แค่คำถามง่ายๆ แต่ฟังแล้วมันเขินๆ ยังไงก็ไม่รู้สิ....
“เอ่อ..... ก็......นะ......น้อยกว่านี้ดดดดดดนึง.....”
..................................
หรือว่านิกำลังตั้งหม้อมาม่าอยู่รึเปล่าหว่า
รู้ใจนะคะเชลบี้ ....