ตอนที่ 40 หวง
“ฮะ?....” นั่นคือคำตอบของหนูในคำถามที่ว่า ‘ถ้าเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันอยู่ไหม?’
อีกนิดเดียว....อีกนิดเดียว.... หุบปากช้ากว่านี้อีกนิดเดียว แมลงวันได้ตีลังกาเกลียวสองชั้นเข้าไปแน่ๆ
“ล้อเล่นแค่นี้ทำเป็นตกใจไปได้น่า” ประโยคต่อมาทำให้หนูได้สติสมประดีพลางถอนใจอย่างโล่งอก
“เฮ้อ....เดย์...คราวหลังอย่าพูดอะไรให้ใจหายใจคว่ำได้ไหม นึกว่าจะชะตาขาดซะแล้ว” หนูบอกพลางยิ้มออกทันทีที่เริ่มเก็ทว่าทุกอย่างเป็นแค่เรื่องโจ๊ก
“อะไร...แค่เป็นกิ๊กกันเฉยๆ ทำไมต้องทำท่ากลัวขนาดนั้นด้วยล่ะ ไอ้แว่นหน้าจืดอย่างเราอ่ะ มันไม่น่าคบขนาดนั้นเลยเหรอ” อีกฝ่ายถามกลับมาด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ
ใครบอกว่าเดย์หน้าจืด หนูว่าหล่อดีเหมือนกันแหละ ถึงใส่แว่นก็ไม่ได้เชยอะไร ดูเท่ดีเสียด้วยซ้ำ
“บ้า ไม่ใช่อย่างนั้น แต่เดย์ก็รู้ว่าเราอ่ะมีแฟนแล้ว แล้วพี่แกก็โคตรๆ ขี้หึงเลยอ่ะ เรายังไม่อยากโดนผ่าท้องแทนกบเท่านั้นเอง” หนูรีบปฏิเสธเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายน้อยใจพลางทำท่าสยองๆ ประกอบจนอีกฝ่ายหลุดยิ้ม งอนไม่ลง
“แล้วไป”
……………………
…………………………………
เอิ่ม....จะมองอีกนานไหมคะ?
น้องฐาจำต้องกลืนน้ำลงคอดังเอื๊อกๆ ด้วยความหวาดหวั่น เมื่อเห็นดวงตาที่เบิกค้างยามจ้องมองคนรักในคราบนิสิตสาวแสนสวยเต็มรูปแบบอีกครั้งหนึ่ง....
คิดถึงละครช่องสาม ยามเมื่อพระเอกนางเอกได้ใกล้ชิด สนิทแนบมันต้องมีซีนซึ้ง จ้องตากันปิ๊งปั๊งแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์หน้าสิวหน้าฝ้าเอ๊ยหน้าสิ่วหน้าขวานปานใดก็ปาน
แต่ขอโทษนะคะ นิยายเรื่องนี้มิมีซินเดอร์เรลล่า เจ้าหญิงนิทรา โฉมงามกับเจ้าชายอสูร หรือแม้นางใดในเทพนิยายปรัมปรา จะมีก็แต่... “พ่อค้าตับกับกะเทยแสนงาม” เพียงเท่านั้น....
โดนสายตาพ่อเดย์ไปแล้วตั้งแต่เช้าก็ตกประหม่าเหงื่อโซมไปแล้วรอบหนึ่งแล้วยังไม่พอ ยังต้องมาโดนคุณพี่โต้งสุดที่รักมองเอาอีก โอย....น้องฐาอยากจะละลายเป็นไอติมเจอปลายลิ้น อ๊า....
และแล้ว...คำแรกที่เจ้าชายรูปงามจักกล่าววาจาแก่เจ้าหญิงโฉมงามนั่นคือ....
“พี่ถามจริงๆ เถอะ น้องฐามีตังค์พอใช้ไหมคะ?” อึ้ย.... อยู่ดีๆ มาถามอะไรกันแบบนี้ หยาบคายที่สุด
หนูก็นึกว่าจะชมว่าสวยเซ็กซี่ เย้ายวน มีเน่ห์อะไรสักหน่อย ไหงถามอย่างนี้ล่ะคะ?
“ก็...พอมีค่ะ ไม่ขัดสนอะไร แต่ถ้าจะยืมล่ะก็....อื่ม.....” หนูครางในลำคออย่างคิดหนัก
“ไม่ได้จะยืมค่ะ แต่ที่ถามเนี่ย” พี่แกส่งยิ้มหวานปานฆ่าคนได้มาให้ อันเป็นรอยยิ้มที่คุ้นเคยเป็นที่ยิ่ง เห็นทีไรก็เสียวสันหลังมันทุกคราวไป
“ทำไมเหรอคะ?” หนูถามเสียงอ่อย
“ก็แค่อยากรู้เฉยๆ ว่าน้องฐายากจนมากขนาดซื้อเสื้อผ้าที่มันพอดีๆ ตัวไม่ได้หรือไงคะ ถึงได้ซื้อกระโปรงสั้นจนปิด....แทบไม่มิด กับเสื้อที่กระดุมมันจะหลุดมิหลุดหลุดแหล่อย่างนี้มาใส่ อย่าได้เดินแรงนะคะหนู เดี๋ยวกระดุมมันจะกระเด็นไปทิ่มตาชาวบ้านเขา .......” แอร๋ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
บอกได้คำเดียวว่าเละ!!
โดนด่าเละไม่มีเหลือหรอ
พูดก็เพราะแท้ๆ แต่ทำไมฟังแล้วเจ็บไปถึงลำไส้!!
หงิงๆ ได้แต่ครางเป็นหมาน้อยธรรมดาอยู่ในลำคอเบาๆ จะพูดจะเถียงอะไรก็ไม่กล้าเพราะใบหน้าสุดถมึงทึงที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าพ่อค้านี่ยังกับจะเอาปังตอฟันคอลูกค้าซะอย่างนั้น
ในที่สุด...ร่างสูงเพรียวระหงถูกยัดเข้าไปในรถเก๋งคันเก่าอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า ประหนึ่งเสี่ยใหญ่ยัดเด็กขายขึ้นรถและต้องรีบออกตัวเพราะกลัวโดนปาปารัสซี่ หรือดีเทคทีป(โมริ) มือดีถ่ายรูปไปให้อาซ้อใหญ่ได้ยลยินกระนั้น
หลังจากโดนด่ายับไม่มีเหลือและเริ่มสั่งสอนถึงความเป็นกุลสตรีไทย จนหนูเกือบหลงเข้าใจว่าอันตัวเรานี้คือสตรีแท้ 1000% หาใช่กะเทยแอ๊บมาไม่ พี่แกก็ถอนหายใจอย่างปลงอนิจจังแล้วเริ่มเคลื่อนรถออกจากที่จอด ไม่รู้ว่าด่าจนพอใจแล้วหรือเพราะเข้าใจว่าหนูเป็นบัวเหล่าที่สี่เลยเลิกบ่นก็ไม่รู้ได้
น้องฐาก้มหน้าซ่อนหน้ามู่ทู่ทั้งโศกเศร้าเสียใจ(ที่โดนด่าแล้วไม่กล้าเถียง)พอให้อีกฝ่ายเข้าใจไปว่าสำนึกผิด ทั้งๆ ที่ความจริงอยากจะเถียงเสียเหลือเกินว่าไม่ได้สั้นขนาดนั้น ไม่ได้โป๊ขนาดนั้นซะหน่อย พี่แกเอามาตรฐานไหนมาวัดกันล่ะ คนอื่นเขาสั้นกว่านี้รัดกว่านี้เยอะแยะอ่ะ ของหนูมันแค่เบๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้จะใส่แบบนี้บ่อยๆ ซะหน่อยนะคะ ฮือ....
“พอค่ะ... เลิกเศร้าได้แล้วพี่ก็หายเคืองแล้วล่ะ ถ้ารู้ว่าไม่ชอบคราวหลังก็อย่าทำอีกนะคะ” โถพ่อคุณทูนหัว ไม่หายก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วค่ะเล่นเทศนาไปตั้งหลายกัณฑ์ ทั้งๆ ที่ยังดื้อด้านอยากเถียงอยู่แต่ไม่อยากให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่เลยต้องพยักหน้าเออออรับคำไปให้จบเรื่อง พี่แกก็เลยพลอยยิ้มอารมณ์ดีขึ้นมาได้อีก มีการชวนคุยต่อเหมือนไม่มีเรื่องบาดหมางอีกต่างหากนะคะ เยี่ยมจริงๆ จ๊อด ซาร่าว่ามันยอดมาก....
“เมื่อเช้า ทำไมไม่ปลุกพี่ล่ะ?” หา ว่าไงนะ?
หนูหันไปมองคนขับรถด้วยสีหน้าเอือมระอาเป็นที่ยิ่ง ไม่แน่ใจว่าเรียนมากจนสมองเบลอไปแล้ว หรือแก่แล้วเลยเป็นอัลไซเมอร์กันแน่น่ะพ่อคุณ
“โอ๊ย....ปลุกจนไม่รู้ปลุกยังไงแล้วค่ะ นี่ถ้าบ้านไฟไหม้คงโดนคลอกตายอยู่ในนั้น” หนูตอบกลับอย่างหมั่นไส้
“นั่นปากหรือคะ” อีกฝ่ายถามกลับมาเสียงหวาน แต่มีแววประชดในที
“อ๋อ ไม่ใช่หรอกค่ะ เนี่ยตูด....” หนูตอบรับกลับไปด้วยเสียงหวานไม่แพ้กัน
“อ้าว...จริงเหรอคะ แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก งั้นที่ผ่านมาก็เสียบผิดรูมาตลอดเลยสิ!!”
อึก!! สำลักน้ำลายทันควัน
อะกรี๊ดดดด น้องฐาอยากจะกรี๊ดดดด
เอากับเขาสิ คำพูดคำจาปากคอเราะร้ายขึ้นทุกวันนะยะ
ดีนะที่หนูไม่ได้กินอะไรอยู่ ไม่งั้นคงพ่นพรวดออกมาหรือไม่ก็ต้องสำลักจนติดคอตายกันไปข้างนึงแน่เลย
“อีพี่บ้า พูดอะไรก็ไม่รู้ บัดสีบัดเถลิง หนูรับไม่ได้” หนูรีบต่อว่าอีกฝ่ายหน้าแดงก่ำด้วยความเขินสะดีดสะดิ้งซะจน จนคนขับต้องส่ายหัว
“แหม... ทีอย่างนี้ล่ะทำมาเป็นรับไม่ได้ เห็นปกติก็มีแต่เราน่ะแหละ ที่พูดจาลามกอยู่เป็นประจำ” พี่แกยังไม่เลิกใส่ความอีกค่ะ ชิ.... มุสาน่ะผิดศีลข้อสี่นะคะพี่....
“อะไร? ไม่มี้... น้องฐาเป็นสตรีไทยใจงามที่โลกจารึก เรียบร้อยเหมือนผ้ายัดไว้ เอ๊ย พับไว้ขนาดนี้ จะพูดจาทะลึ่งทะลึงตังได้ยังไงกัน ปรักปรำกันชัดๆ ไม่มีหลักฐานเอาผิดจำเลยไม่ได้หรอกนะคะ” หนูเถียงคอเป็นเอ็นไม่ยอมรับเด็ดขาด
“ค่ะ ค่ะ ไว้วันหลังอย่าเผลอแล้วกัน จะอัดเสียงมาเปิดให้ฟังสักหลายๆ รอบ” พี่แกตอบกลับมาเป็นการปิดประเด็นว่าแกขี้เกียจเถียงเพราะเถียงไปก็คงสู้ไม่ได้ค่ะ อิอิ
“อ่า..ว่าแต่นี่เราจะไปไหนกันเหรอคะ เหมือนจะคนละทางกับทางกลับบ้าน” หนูละสายตาจากมองหน้าด้านข้างของพี่โต้งแล้วหันไปสนใจมองทางก็เริ่มจะแปลกใจเพราะหลุดออกมาตรงถนนใหญ่แทนที่จะเลี้ยวเข้าตรอกซอกซอยไปคอนโดพี่เขา
“ว้า... รู้ตัวซะแล้ว กำลังว่าจะเอาไปขายอยู่พอดี” ตอบพร้อมใบหน้าเจ้าเล่ห์ให้ตกใจเล่น
หา!! ขายเหรอ? เกิดอะไรขึ้น??
หรือว่าพี่โต้งติดยาขั้นร้ายแรง แล้วตอนนี้กำลังกรอบเลยต้องหาเงินมาซื้อยาเสพ
หรือว่าติดหนี้พนันบอลไม่มีใช้เขา เลยต้องเอาหนูไปขายใช้หนี้....
ไม่จริงใช่ไหม?.......
“ซ่องไหนคะพี่? เอาแบบเกรดดีๆ นะคะ” หนูตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามไม่ให้เห็นถึงความเศร้าแต่ก็ทำได้ยากนัก ถึงแม้จะเศร้าแค่ไหน แต่เพื่อคนที่รัก ไม่เป็นไร ...หนูยอมได้....
“หือ.... ถามมาได้ว่าซ่องไหน” ปุ! ฝ่ามือโตตีลงมาที่หัวหนูเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยวเกินทน
“พี่ตีหนูทำไมล่ะ” หนูส่งเสียงงุ้งงิ้งเอามือคลำหัวที่โดนประทุษร้ายหน้าเบ้บีบน้ำตาเหมือนโดนตีด้วยขวดเบียร์ ทั้งที่ความจริงมันไม่ได้แรงอะไรนักหรอก
“หมั่นเขี้ยว ถามแบบว่าอยากให้เอาไปขายมากๆ เลยนะซ่องน่ะ”
“ไม่ได้อยากซะหน่อย ชอบเข้าใจหนูผิดอยู่เรื่อยเลย แค่ทำตัวเป็นคนรักที่ดี หนูกลัวว่าพี่โต้งจะไม่มีตังค์ไปใช้หนี้พนันบอลแล้วจะโดนขู่ฆ่าตัดแขนตัดขา จะเอาหนูไปขัดดอกหนูก็ไม่ว่าหรอกค่ะ หนูยอมเสียสละตัวเองเพื่อคนที่หนูรัก...” อร๊าง..... เห็นความจงรักภักดีของกะเทยใจงามอย่างหนูไหม? แฟนน่ารักอย่างนี้น่ะต้องทะนุถนอมให้มากนะคะ ขอโบกกกกก
“จินตนาการล้ำเลิศจริง จริ๊ง” ปลายเสียงสูงอย่างประชดประชันปนขำ “ใครว่าจะเอาไปขายซ่องล่ะ จะเอาไปขายที่โรงฆ่าสัตว์ต่างหาก” ว่าไปนั่น
อะไรกันคะ ขายซ่องกับโรงฆ่าสัตว์เนี่ยมันคนละเกรดกันเลยนะคะ
ดูถูกสาวสวยสุดฮอตอย่างนี้ไม่ได้นะคะ หนูไม่ยอมจริงๆ ด้วย
“โอ๊ย....กว่าจะถึงตรุษจีนอีกตั้งนานอย่างเพิ่งไปเลย เดี๋ยวราคาตก” หนูรีบหาทางรอดไม่อยากไปโรงฆ่าสัตว์
“เออจริง! งั้นรอตรุษจีนก่อนแล้วกันค่อยไป...” อร๊ายยย ยังไม่จบค่ะ กัดไม่ปล่อยเลยจริงๆ นะคะเนี่ย!!
“กะเทยนะคะ มิใช่หมู” หนูแผดเสียงกลับไปพร้อมหน้ามุ่ยอย่างงอนๆ แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะร่วนอย่างมีความสุข ที่ได้แกล้งหนู
น้องฐาอาภัพแท้ รอบกายมีแต่ไอ้โรคจิต วันๆ ไม่ค่อยทำอะไรหรอก
เอาแต่แกล้งคนสวยอยู่นั่นแหละ งอน งอน งอน
.....................................
................................................
“ร้อนค่ะ.... รุงรังด้วย ไม่ใส่ไม่ได้เหรอคะ?” หนูรีบต่อรองทันทีที่ถึงจุดหมายปลายทาง นั่นคือ “โรงฆ่าสัตว์” เอ๊ยไม่ใช่ค่ะ... ห้างสรรพสินค้าต่างหาก
“แป๊บเดียวค่ะ เดี๋ยวเดินเข้าไปน่ะก็ปกติแล้ว ข้างในแอร์เย็นเจี๊ยบเลย” พี่แกตอบกลับมาขณะที่รูดซิบเสื้อแจกเกตของตัวเองที่บรรจงสวมให้หนูจนสุดแทบจะหายใจไม่ออก เสื้อตัวโตมันปกปิดทุกอย่างมิดจนแทบเดาไม่ออกเลยว่าข้างในใส่ชุดนิสิตหญิงอยู่ จนดูตลกๆ ยังไงก็ไม่รู้
หนูทำท่าจะเถียงอีกครั้งอีกฝ่ายก็ไม่เว้นจังหวะให้พูดให้จา วาดแขนมาโอบไหล่แล้วรั้งร่างพาเดินเข้าไปข้างในซะอย่างนั้น
“เลิกทำหน้ามุ่ยได้แล้วค่ะ อยากกินอะไรก็หยิบใส่ตะกร้ามา พี่เริ่มหิวแล้ว” พี่โต้งบอกขณะที่สองมือดันรถเข็นไปตามพื้นที่ขาย
“ก็แหม... มันอึดอัดนี่คะ” หนูยังไม่วายบ่นอุบ เรื่องแฟชั่นแนวใหม่สุดเก๋ที่ออกแบบโดยพ่อค้าตับ
“รู้หรอกน่าว่าอยากโชว์ชุด โชว์อึ๋ม ก็ไม่รู้จะโชว์ไปทำไมถ้าไม่ตั้งใจมองก็คงไม่เห็นหรอกมั้งว่ามี”
ฮึ้ย!! อะไรกันคะ อกเค้าออกจะบึ้มขนาดนี้หาว่าไม่มีได้ไง??
“ค้า..... ไม่มีหรอกค้า ถ้าไม่มีแล้วจะให้ปิดไว้ทำไมล่ะคะ?” หนูดัดเสียงถามอย่างไม่สบอารมณ์ มันทั้งหงุดหงิดที่ต้องมาใส่เสื้อคลุมทับทั้งๆ ที่หนูก็เพิ่งจะได้มีโอกาสใส่ชุดนิสิตหญิงแค่ไม่กี่วันเอง รวมถึงโดนหาว่า “แบน” อีกต่างหาก
ทำดีที่สุดแล้ว......ไม่เห็นมีใครเข้าใจ!!
รู้ไหม? กว่าจะได้ขนาดนี้ กินไก่เป็นๆ เอ๊ยไม่ใช่ กินไก่เป็นตัวๆ เทคยาอยู่ตั้งนานนะยะ
มันน้อยใจกะเทยเหลืออนาถ... ฮือ...ฮือ.....
“หวง....” ปล่อยหนูรำพึงรำพันน้อยใจเป็นนานกว่าอีกฝ่ายจะหลุดคำนี้ออกมาได้
คำสั้นๆ ที่มีความหมายสุดลึกซึ้ง....
“ฮะ? ว่าไงนะ” คำพูดแค่นั้นทำให้หนูเลิกทำหน้าเบะ แล้วหันไปมองหน้าอีกฝ่ายพลางเลิกคิ้ว....
“พี่บอกว่าพี่หวงไง จะเล็กจะใหญ่อะไรมันไม่สำคัญหรอก แต่พี่รักของพี่ ก็หวงของพี่... พี่ไม่ชอบให้คนมองเรา แค่นั้นเอง พี่เจ้ากี้เจ้าการวุ่นวายมากเกินไปหรือไง หรือว่าน้องฐาลำบากใจมาก” เอาแล้วไง ทำไมเป็นคนแบบนี้คะ? ทำไมขี้น้อยใจแบบนี้ พี่เป็นเกย์นะคะไม่ใช่ชะนี ไม่ต้องมาอาร์ตตัวแม่บีบน้ำตาใส่หนู ง้า...
“ไม่หรอกค่ะ...ไม่ลำบาก” แล้วทำไมหนูต้องเสียงอ่อนแบบนี้ทุกทีเลยอ่ะ?
“แล้วน้องฐารักพี่ไหมคะ?” มันเกี่ยวกันไหม?
“รักสิคะ รักมากๆ ค่ะ”
“งั้นถ้าน้องฐารักพี่ น้องฐาก็จะไม่ทำให้คนที่น้องฐารักต้องผิดหวังและเสียใจใช่ไหมคะ?” แรมต่ำนิดหน่อย ยังดูงงๆ กับคำถามแต่เมื่อเห็นแววตารอคอยก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากพยักหน้ารับอีกตามเคย
“งั้นถ้าอย่าพยายามงอแงขอถอดเสื้อออกจนกว่าถึงห้องนะคะ ไม่งั้นพี่จะเสียใจ”
เล่นแบบนี้เลยเหรอ!! พูดแบบนี้แล้วใครมันจะไปปฏิเสธลง
ทำอะไรไม่ได้นอกจากพยักหน้ารับอย่างหน้าชื่นอกฟีบไปอีกครั้ง ยิ่งเห็นรอยยิ้มพึงพอใจที่หนูตกเป็นเบี้ยล่างเชื่อฟังด้วยแล้วอดคิดไม่ได้เลยว่า รอยยิ้มหวานๆ ของพี่แกนี่นับวันมันจะอาบยาพิษขึ้นทุกวันนะคะ
“แหม...น้องฐานี่น่า.......รักสุดๆ เลยนะคะ” พี่แกพูดเสียงหวานพร้อมทั้งรวบแขนหนูเข้าไปกอดกลบเกลื่อนตามเคย
เฮ้อ... ช่างมันเถิด....อะไรจะเกิดก็ปล่อยมันไป!
คงต้องทำใจว่ายังไงกะเทยแบ๊ว ไร้เดียงสาอย่างหนูคงตามเล่ห์เหลี่ยมคุณพี่ไม่ไหวหรอกค่ะ ยังไงผู้บริโภคก็ต้องเสียเปรียบพ่อค้าคนกลางอยู่วันยังค่ำ
ยอมแล้ว.... ยอมให้พูดหวานๆ แล้วกอดให้พอใจเลย
แต่เอ๊ะ!!
ว่าแต่มาสวีทกันตรงนี้จะดีเหรอ?
เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า...นี้มันกลางห้างนะคะ!!……………………………………………………………………………
บอกไว้ในกระทู้โน้นว่าจะแวะมาต่อน้องฐา
แต่พอเอาเข้าจริง... คิดไม่ออกเฉยเลย
โอยกว่าจะมาได้.....เรียบเรียงพล็อตจนงง
มาช้าดีกว่าไม่มาเนอะ...
.............
อ้อ...
พรุ่งนี้จะครบรอบวันแก่นิแล้วค่ะ (21/03) แก่อีกปีแล้ว บอกไว้เผื่อมีคนอยากอวยพร อิอิ