ตอนที่ 11 หนทางอันยาวไกล
หลังจากฟังประโยคคำตอบที่อยู่ในรูปประโยคคำถามนั่นแล้วหนูก็พ่นลมหายใจเซ็งๆ ก่อนจะพลิกกายกลับ
“เฮ้ย จะไปไหนล่ะ” มันร้องอย่างแปลกใจแล้วเดินเข้ามารั้งแขนหนูไว้
“ไม่เอาแล้ว ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ก็ไหนว่าเรามันห่วยไง งั้นก็ไปหาคนอื่นเถอะ” หนูบอกด้วยเสียงเหมือนจะงอน จนอีกฝ่ายปล่อยเสียงหัวเราะกวนๆ ออกมา
“น้อยใจที่โดนว่างั้นสิ” มันถามเหมือนเป็นเรื่องตลก หนูส่งสายตาเขียวใส่อย่างลืมตัว
“เป็นใครก็ต้องคิดทั้งนั้นแหละปากก็พูดว่าเราอย่างนั้นอย่างนี้แต่สุดท้ายก็.... อีกอย่างโรจน์คงไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บยังไง ไหนบอกว่าไม่เจ็บไง”
“แล้วมึงก็เชื่อ? มึงโง่หรือเปล่า มันครั้งแรกของมึงมันจะไม่เจ็บได้ยังไงล่ะ ครั้งต่อๆไปมันก็ชินไปเองแหละ” ฮื้อ... ยังจะมี “ต่อๆ ไป” อีกเหรอ
“อย่าลีลาน่า เดี๋ยวกูเลี้ยงขนม” ไอ้โรจน์ยื่นข้อเสนอทุเรศๆ
จะบ้าเหรอยะ หนูไม่ได้เห็นแก่กินแบบอีออยซะหน่อย ถึงจะเอาของกินมาล่อได้ หนูทำหน้าเบ้อย่างไม่สบอารมณ์ จนอีกฝ่ายถอนใจแรงๆ อย่างเหลืออด
“พูดยากนักนะมึง หรือจะให้กูข่มขืน!!” มันส่งเสียงเครียดจนหนูสะดุ้ง...
ท้ายที่สุด ก็เหมือนเดิม.... ไปไหนไม่รอด.....
.............................
กลายเป็นว่าวันไหนที่มาโรงเรียนแล้วไม่เห็นรถไอ้โรจน์ เป็นอันเดาได้ว่ามันจะต้องรอกลับบ้านพร้อมกัน เราสองคนจะไปนั่งหน้าโรงเรียน ปล่อยให้รถสองแถวผ่านไปคันแล้วคันเล่า จนศาลาหน้าโรงเรียนปลอดคนแล้วจึงนั่งสองแถวกลับบ้านพร้อมกัน....
“ไวๆ ดิมึง กระมิดกระเมี้ยนอยู่ได้” ไอ้โรจน์โวยวาย ขณะนั่งแกว่งเท้าอยู่บนโต๊ะอาจารย์รอหนูลบกระดานดำ
ชิ!! ทำมาเป็นเร่งถ้าอยากให้เร็วทำไมไม่ช่วยกันล่ะยะ....ได้ข่าวว่างานของตัวเองแท้ๆ ได้แต่บ่นพึมพำอยู่ในใจคนเดียวด้วยอารมณ์โกรธกรุ่น
“เดี๋ยวโรจน์เดินไปก่อนก็ได้นะ เราต้องเอาการบ้านไปส่งที่ห้องพักครูก่อน” บอกด้วยเสียงอ่อนๆ
“ไปส่งทำไม ไม่ใช่หน้าที่มึงสักหน่อย” มันว่า เพราะรู้ว่าหน้าที่ส่งการบ้านควรจะเป็นหน้าที่ของหัวหน้าห้อง
“เป้เขาวานน่ะ” หนูว่าไป อีกฝ่ายทำหน้ายุ่ง
“มึงมันก็เป็นซะอย่างนี้แหละ ใครใช้ก็ทำ ใครด่าก็เออออไปหมด” มันด่าเพิ่มเติมซึ่งเป็นความจริง ก็ไอ้คนที่ทั้งใช้ทั้งด่าหนูมากที่สุดก็เป็นมันนั่นแหละ
“ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เอง ทีกับโรจน์เรายังทำอะไรให้ตั้งเยอะ” เยอะจริงๆ ทำเวร ทำการบ้าน ต่อแถวซื้อของแทน และอื่นๆ อีก
“ก็นั่นมันกู....” หนูอึ้งไปนิดกับคำพูดที่ทำให้รู้สึกว่ามันพิเศษกว่าคนอื่น ส่วนมันเองก็นิ่งไปก่อนจะตัดบท
“เออ.... งั้นกูไปรอหน้าโรงเรียน”
วงจรอุบาทว์ยังวนเวียนต่อไปกับการที่หนูต้องกลายเป็นคนโกหก บางทีก็บอกที่บ้านว่าไปนอนบ้านออยบ้านโอ๋ บ้านปาล์ม แต่ที่จริงแล้วไปม่อยอยู่บ้านไอ้โรจน์ โกหกเพื่อนว่าที่ทำท่าทางอ่อนเพลีย ง่วงบ่อยก็เพราะเล่นเกมจนดึก หรือเวลามีอาการเดินขัดๆ ก็เพราะซุ่มซ่ามตกท่อตกบันไดอะไรไปมั่วซั่ว ซึ่งแรกๆ มันเชื่อเพราะรู้ว่าหนูมันพวกซุ่มซ่ามอยู่แล้ว จนนานๆ เข้า พวกมันก็เริ่มๆ จะสงสัยกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของทั้งหนูทั้งไอ้โรจน์
“ต่อไปไม่ต้องเอาการบ้านไปส่งแล้วนะฐา” เป้มาบอกในวันต่อมา ระหว่างที่หนูนั่งกินข้าวกลางวัน
“ทำไมล่ะ” หนูถามอย่างแปลกใจ
“ก็....มันเป็นหน้าที่ของเรานี่นา” อีกฝ่ายตอบเลี่ยงๆ
“ไม่เป็นไรเป้ ก็ช่วยๆ กัน” หนูตอบอย่างใจดี ส่งยิ้มจริงใจไปให้หัวหน้าห้อง เพราะรู้ว่ามันรับภาระหลายอย่าง ช่วยแบ่งเบาบ้างก็ถูกต้องแล้ว
“อย่าเลย เดี๋ยวโรจน์มันกัดเรา” อ้าววววววววววววววววว
เป้เดินจากไปพร้อมกับคำพูดสุดท้ายที่ทำให้เพื่อนทั้งกลุ่มหันมามองหน้าหนูเป็นสายตาเดียว จนหนูทนสายตาที่แสดงถึงคำถามไม่ไหวจนต้องลุกขึ้นทันที
“ไปซื้อไอติมนะ” หนูหลบฉากโดยไว เดินไปต่อแถวซื้อไอศกรีมเพื่อหนีปัญหา พอได้ไอติมมาแล้วก็ยืนกินอยู่ใต้ต้นไม้ข้างโต๊ะ ทำไม่รู้ไม่ชี้กับสายตาล้อเลียนในทีของบรรดาเพื่อนทั้งหลาย แต่ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก ระหว่างดูดไอติมไปได้นิดเดียว ไอ้โรจน์ดันเดินผ่านมาพอดี มันดึงไอติมแบบแท่งที่หนูกัดไปแล้วหนึ่งคำไปถือไว้ทำท่าจะกินต่อ ทำให้หนูต้องมองตาโต
“เดี๋ยวโรจน์ อันนี้เรากินไปแล้ว เดี๋ยวเราซื้ออันใหม่ให้นะ” หนูว่า เพราะไม่อยากให้มันต้องกินไอติมแท่งเดียวกันต่อ แต่อีกฝ่ายกลับงับไอติมแท่งเดิมหน้าตาเฉย ควักเงินในกระเป๋ากางเกงออกมายื่นให้ยี่สิบ
“มึงเอาตังค์ไปซื้อแท่งใหม่มากินแล้วกัน กูกินแท่งนี้แหละขี้เกียจรอ ....ไปนะ” แล้วมันก็จากไปพร้อมไอติมของหนู ปล่อยให้หนูยืนมึนอยู่กับเงินยี่สิบบาท
“กูว่าได้กลิ่นตุๆ แล้วว่ะ” โอ๋เอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบ.... หนูกลืนน้ำลายเอื๊อกลงคอหันไปมองนักสืบมือสมัครเล่นกำลังตั้งข้อสงสัย
“ทำไมไอ้โรจน์มันต้องใจดีไปว่าเป้เรื่องใช้อีฐาทำงาน....” โอ๋ว่า
“ไอ้โรจน์มันกินไอติมต่อจากเพื่อนกูหน้าตาเฉยโดยไม่รังเกียจขี้ปากเลย” ปาล์มว่าต่อ
“ ไอ้โรจน์ให้ตังค์ค่าไอติมทั้งๆ ที่ปกติไม่เคยออกสักบาทมีแต่ไถเอาๆ” ออยว่ายิ้มๆ
“มึงมีอะไรปิดพวกกูหรือเปล่า?” อีโอ๋ถามเสียงเครียด
“กูปวดขี้ ไปห้องน้ำก่อนนะ” หนูตอบไปคนละเรื่องแล้วไล่ตัวเองออกจากสถานการณ์กดดันนั้นทันที
แต่ความลับไม่มีในโลก....
เย็นวันหนึ่งหลังจากเสร็จสิ้นกิจกามแล้วไอ้โรจน์ขับรถมาส่งหนูที่หน้าบ้านตอนหัวค่ำ ซึ่งหนูโทรมา(โกหก)ที่บ้านแล้วว่าจะไปทำรายงานบ้านเพื่อน พอลงจากรถแล้วยืนมองไอ้โรจน์ขับรถจากไปกำลังจะเดินเข้าบ้านก็ต้องชะงักเมื่อพบกับสายตาเหมือนจะบอกว่า “กูว่าแล้ว” อยู่ในที หนูหน้าซีดเผือดเมื่อมองหน้าเพื่อนสนิทตัวเองด้วยความตกใจที่ถูกรู้ความลับ
หนูเล่าเรื่องทั้งหมดให้โอ๋ฟังอย่างไม่มีทางเลือก พลางขอร้องให้มันช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ถ้าปล่อยให้คนอื่นๆ รู้ขึ้นมาหนูจะเป็นยังไงก็ไม่รู้...
ถึงเรื่องของหนูกับไอ้โรจน์จะเคยเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์มาแล้ว แต่ถึงยังไงก็เป็นแค่ข่าวลือที่ยังไม่มีมูลความจริงอยู่ดี คนส่วนใหญ่ก็มองว่าเป็นแค่เรื่องตลกๆ ที่อำแกล้งกันเท่านั้น ไม่มีคนคิดอะไรจริงจัง หรือไม่ก็คิดว่า เป็นไปไม่ได้ การที่ไอ้โรจน์มันทำตัวเฉยๆ กับข่าวลือก็เพราะว่ามันคิดว่าจะห้ามปากคนเป็นเรื่องยาก และมันไม่ใช่เรื่องจริง
แต่เมื่อตอนนี้มันเกิดเป็นเรื่องจริงขึ้นมา หนูไม่คิดว่าคนอย่างมันจะยอมให้เรื่องรู้ถึงหูคนอื่นได้โดยไม่ทำอะไรแน่ๆ หรือถ้าทำอะไรไม่ได้จริงคนซวยมันก็ไม่พ้นเป็นหนูอีกนั่นแหละ
ปิดปากอีโอ๋ด้วยการสัญญาว่าจะเลี้ยงเคเอฟซีมันก็เลยรับคำง่ายกว่าที่คิด ก็ดีเหมือนกัน เพราะมันทำให้หนูสบายใจขึ้นเยอะเลย
เพิ่งจะรู้ว่า การเป็นกะเทยเนี่ยแท้จริงแสนลำบาก..... ไม่ได้โรยโดยกลีบกุหลาบเลยจริงๆ
“หัวไปโดนอะไรมา” ออยถามอย่างเป็นห่วงเมือ่พบหนูเดินหน้าตูมเข้ามาห้องเรียน พลางยื่นนิ้วมือเรียวมาแตะที่หน้าผากปูดๆ ของหนูเบาๆ หนูทำท่าลำบากใจก่อนจะตอบว่า
“ลื่นล้มในห้องน้ำอ่ะ” หนูว่าพลางไขว้นิ้วด้านหลังเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้
“แกนี่ซุ่มซ่ามชะมัดเลย ระวังๆ หน่อยสิ” ออยบ่นพลางทำหน้าระอา
“ใช่ แค่นี้ก็ขี้เหร่จะแย่อยู่แล้ว อย่าให้อัปลักษณ์ไปมากกว่านี้เลย” ดูปากมันสิ อีปาล์ม หนูค้อนใส่หน้าคว่ำ จนเพื่อนพากันขำมีแต่โอ๋ที่ทำหน้ารู้ทันใส่
เป็นอย่างที่โอ๋มันคิดแหละค่ะว่าหนูโกหกอีกแล้ว...ตั้งแต่ที่รู้จักไอ้โรจน์มาทำให้หนูโกหกเก่งขึ้นอีกเยอะ จะให้พูดความจริงได้ยังไงว่า เกิดเหตุการณ์เลวร้ายอะไรขึ้น แค่คิดก็อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี พอดีเมื่อวานมันเกิดแอ็คซิเดนท์นิดหน่อย พอดีหนูบังอาจไป “แจกทอง” ไอ้โรจน์เข้า มันโมโหก็เลย “เผลอ” ถีบหนูกลิ้งตกเตียงลงมา บังเอิญตอนขาลงดันซวยหัวไปโขกขาโต๊ะเขียนหนังสือหัวก็เลยโนอย่างที่เห็นไม่นับรวมทั้งแขนและลำตัวที่เขียวอื๋อเพราะแรงกระแทกอีกล่ะ?
หลังจากนั้นหนูเลยระวังตัวมากขึ้น ถ้ารู้ล่วงหน้าก็จะอดข้าวกลางวันมันซะเลย เป็นการเตรียม
พร้อม... แต่ใครจะรู้ว่าคนผอมบาง ร่างกายอ่อนแออย่างหนูจะทนรับไม่ไหว จนเป็นลมคาคาบพละ เลยต้องไปนอนแหม็บอยู่ที่ห้องพยาบาลอีกจนได้
“แกนะแก ทำไมไม่ดูแลตัวเองบ้างเลย ข้าวปลาไม่ยอมกินแล้วก็มาเป็นลมเป็นแล้งรู้บ้างไหมว่าเพื่อนๆ เป็นห่วงเนี่ย” อีโอ๋บ่นด้วยเสียงที่แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่ง
“ก็ฉันไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยนี่นา” หนูแก้ตัวเสียงอ่อย
“อะไรอีก....”
“ก็ถ้ากินข้าวเข้าไปเยอะแล้วมันก็ต้องปวดท้องอ่ะ แล้ว... ฉันไม่อยากไปแจกทองให้โดนกระทืบอีกเท่านั้นเอง ฉันผิดตรงไหนอ่ะ” น้องฐาว่าพลางน้ำตาร่วงกับความรันทดอดสูในชะตากรรมของตัวเอง
“จะบ้าเหรอไง ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย จะกินเยอะกินน้อยก็เหอะ ก่อนจะทำ ก็ไปทำแท้งซะก็จบแล้ว”
“.......ทำแท้ง..... บ้าเหรอ? ฉันไม่ได้ท้องแล้วจะทำแท้งทำไมล่ะ” หนูแหวกลับทันที
“นี่แกไม่รู้จัก “ทำแท้ง” จริงๆ เหรอ?” มันถามกลับมาเหมือนคิดว่าหนูเล่นมุก แต่ก็เจอแต่หน้าโง่ๆของหนู...
“.............................” เงียบ.... แล้วมันอะไรล่ะคะ?
“.............................” อีโอ๋ทำหน้าเหนื่อยหน่าย ก่อนจะด่าเป็นชุด “โธ่อีฐา .....อีโง่...... มึงเป็นกะเทยจริงๆ หรือเปล่าเนี่ย เรื่องแค่นี้มึงไม่รู้ได้ยังไง อย่างนี้สมควรแล้วที่จะโดนกระทืบ!!” หา?? อะไรอีกล่ะ ยังมีอะไรที่หนูไม่รู้อีกเหรอ?
โอ๊ย... ชีวิตกะเทยช่างแสนลำบากจริงๆ หนอ
หนทางสู่การเป็นสาวเซ็กซี่สุดฮอตมันช่างแสนยาวไกลและไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลยจริงนะ
.............................
ทำแท้ง = การใช้น้ำฉีดเข้าทวารหนักเพื่อล้างทำความสะอาดก่อนจะมีเพศสัมพันธ์กัน
นิยายที่นิติดและเพิ่งอ่านจบ ก็คือ รักร้ายๆ ของผู้ชายในคุกค่ะ
ตอนล่าสุดนี่ มาม่าลงตับกันเลยทีเดียว ถึงกับน้ำตาร่วง อินมากค่ะ
อยากอ่านต่อไวๆ
ยังมีนิยายในลิสต์ที่รอต่อคิวแล้วยังไม่ได้อ่านอีกบานเลย แต่ตอนนี้อยากอ่านนิยายที่จบแล้วมากกว่าไม่อยากค้าง ....
ส่วนน้องฐา คงไม่ค่อยค้างเนอะ ....... ฮ่าๆ
บอกแล้วใช่ไหมว่าตอนต่อไปมาไวกว่าที่คิดจริงๆ อิอิ
เฮ้อ.... อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่า เมื่อก่อนฐามันช่างไร้เดียงสาจริงๆ นะ
เรื่องอดอาหารก่อนมีเซ็กส์นั้น ฐาก็ยังทำอยู่จนตอนนี้เลย แม้ว่าจะทำแท้งเป็นแล้วแต่สังเกตว่าตอนกับพี่โต้ง ฐาก็จะอดอาหารคู่กันไปด้วยเพื่อกันพลาดเพราะยังฝังใจอยู่
ปล. นึกว่าจะชอบพระเอกจำพวกโหดเถื่อน ซึนๆ ซะอีกที่ไหนได้ คิดถึงพี่โต้งกันใหญ่ ฮ่าๆๆ
จริงๆโรจน์มันก็น่ารักดีนะ ฮาๆ
ส่วนพี่โต้งก็จะได้กลับมาอีกค่ะ แต่ต้องรอนิจบภาคโรจน์ก่อนนะ ซึ่งตอนนี้ยังคิดหนักว่าจะจบตอนไหน
ระหว่าง ตอนที่สองคนนี้รักกัน หรือตอนที่สองคนนี้เลิกกันดี วานเพื่อนๆ ช่วยคิดแทนทีนะคะ ว่าอยากอ่านถึงตรงไหน....
แต่นิอยาจบตอนที่มันรักกันมากกว่า ส่วนตอนเลิกกันอาจจเล่าคร่าวๆ อีกทีในภาคพี่โงเพราะอย่างน้อยก็มีพี่โต้งคอยปลอบ อิอิ อย่างนั้นดีกว่าเนอะ...
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ รักคนอ่านทุกคน