ตอนที่ 15 น้ำยังไม่เดือด ...
โครก.....คราก.... เสียงอะไรเอ่ย...ดังแว่วมา
น้องฐาลืมตาขึ้นมองหาเสียง
แล้วก็พบว่าไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ เป็นเสียงพยาธิในท้องน้องฐาเองค่ะมันร้องระงมบอกว่า “หิว” มากแล้ว แม้จะยังเพลียอยู่มากจนไม่ค่อยอยากขยับเขยื้อน แต่กองทัพย่อมเดินด้วยท้อง พอรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วจะให้หลับทั้งๆ ที่ท้องหิวก็เป็นเรื่องยากนิดนึง จึงเอาแขนออกจากผ้านวมผืนหนา มองนาฬิกาที่แขนตัวเองบอกเวลาเกือบสี่โมงเย็นเข้าไปแล้ว อะไรจะนอนมาราธอนขนาดนั้นเนี่ย
เคลื่อนกายอย่างแผ่วเบาหาเสื้อผ้าที่เรี่ยราด (อีกตามเคย) มาสวมอย่างรวดเร็วในขณะที่คนบนเตียงซึ่งนอนหงายอยู่ค่อยๆตะแคงตัวมาทางหนู วาดแขนเหมือนะจะรั้งให้ไปกอดเหมือนที่ทำอยู่เมื่อคืนก่อนจะหลับไป แต่เมื่อพบกับความว่างเปล่า คนตัวสูงก็ค่อยกระพริบตาตื่น งัวเงียขึ้นมาเจอหนูที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็ขมวดคิ้ว
“ตื่นนานแล้วเหรอ?”
“เมื่อครู่นี้เองค่ะ”
“แล้วจะรีบแต่งตัวไปไหน” ต๊ายยยย พี่ขา จะให้เปลือยล่อนจ้อนตลอดเวลาเป็นเปรตวัดสุทัศน์เหมือนคุณพี่ได้ไงคะ เห็นอย่างนี้หนูก็อายเป็นค่ะพี่
“เอ่อ.... ก็ว่าจะกลับแล้วล่ะค่ะ”
“จะรีบไปไหนเล่า มีธุระเหรอ”
“เอ่อ....” แล้งจะให้อยู่ทำไมล่ะคะพี่.... แค่นี้หนูก็ระบมแย่แล้ว
“ไปไหน มีนัดกับใคร” ถามมาด้วยเสียงห้วนห้าวเหมือนไม่พอใจอีกแล้วค่ะ น่ากลัวจริงๆ เลยค่ะคุณพ่อค้า
“ไม่มีค่ะ” จำต้องรีบตอบเพราะกลัวจากง้อกันดีๆ จะมีพายุลงอีกรอบ หนูคงไม่รอดแน่คราวนี้
“แล้ววันจันทร์มีเรียนกี่โมง”
“สิบโมงค่ะ”
“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งวันจันทร์ตอนเช้าดีไหม”
“ไม่ดีมั้งคะ...” หนูทำหน้าหวาดๆ ค่ะ
“ทำไมล่ะ กลัวอะไร” ไม่อยากจะพูดแต่ก็ต้องพูดค่ะ
“หนูกลัวไปส่งหนูวันจันทร์หนูคงไม่ได้ไปเรียน แต่ไปหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาลแทน” ตอบอ้อมแอ้มค่ะ อายนะแต่ก็
ต้องพูด
พี่เขาเปลี่ยนหน้าบึ้งเป็นยิ้มขำค่ะ
“เอาเถอะ งั้นพี่ไปส่งเราพรุ่งนี้ก็ได้ รับรองว่าไม่ทำให้ถึงขั้นหยอดน้ำข้าวต้มแน่ๆ” เชื่อใจได้แน่เรอะเนี่ย
“เอ่อ....ก็ได้ค่ะ” เฮ้อ.... แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ ไม่ให้กลับก็ต้องอยู่ล่ะนะ ไม่อยากขัดใจให้เป็นประเด็นใหญ่โต “แต่ตอนนี้หนูหิวอ่ะค่ะพี่ เราหาอะไรทานกันก่อนดีไหมคะ?”
หลังจากนั้นพี่เขาก็บอกว่าจะพาไปกินนั่นกินนี่ แต่น้องฐาไม่มีแรงพอจะไปนั่งกินลมชมวิวกินบรรยากาศหรือกินอะไรยากๆ หรอกค่ะ อยากได้ของกินง่ายถ่ายคล่องมากกว่าเลยบอกพี่เขาว่าหนูอยากกินโจ๊ก แต่ป่านนี้คงหากินยาก ได้ข้าวต้มก็ยังดี พี่เขาก็พยักหน้าเออออแล้วก็ให้หนูนั่งรออยู่ในห้องค่ะ
หลังจากตื่นนอน สิ่งที่น้องฐาคิดอยู่ตลอดคือขอให้สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานไม่ใช่ความฝัน แม้จะมีเรื่องราวสะเทือนอารมณ์เกิดขึ้นหลายอย่างก็ตาม แต่ถ้อยคำสุดท้ายที่ออกจากปากพี่โต้งยังดังซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในสมองน้อยๆ ของหนูไม่เลือนหาย และทำให้หนูยอมยกโทษให้ทุกคำพูดทุกการกระทำของพี่เขาโดยสิ้นเชิง
....พี่รักน้องฐาค่ะ....
อร๊ายยยยย..... แค่คิดถึงก็ชุ่มฉ่ำหัวใจแล้วค่ะ ฮุฮุ
“เป็นอะไรคะนั่งยิ้มอยู่ได้” พี่โต้งถามมาขณะวางชามโจ๊กร้อนๆ ที่อุตส่าห์ไปหาซื้อมาให้จากไหนก็ไม่รู้มาตรงหน้าหนูค่ะ
“เปล่าค่ะ แค่ดีใจที่ได้กินอะไรสักที กำลังหิวเลยค่ะ” หิวจริงๆ นะคะกว่าจะได้กินข้าวเช้าก็ปาไปสี่โมงเย็นแล้วค่ะ ในที่สุดก็ได้กินอย่างอื่นนอกจากตับเสียทีนะคะ อิ่มอกอิ่มใจมานานขออิ่มท้องสักทีก็ดีเหมือนกัน
“เหรอคะ งั้นกินเยอะๆ นะยังมีอีกถุง” ขุนให้อ้วนเหรอคะเนี่ย หนูพยักหน้าแล้วลงมือทานโจ๊กค่ะ
“อ้าว ไม่ปรุงเหรอ เครื่องปรุงอยู่นี่” หนูเงยหน้าขึ้นส่ายหน้าค่ะตามใจปากลำบากตูดค่ะ ไม่อยากกินอาหารรสจัดให้มันทำลายลำไส้มากไปกว่านี้ค่ะ
“แล้วพี่ล่ะคะไม่กินเหรอคะ” พี่เขานั่งมองหนูกินเฉยๆ ค่ะ
“แค่เห็นน้องฐากินพี่ก็อิ่มแล้วค่ะ” อร๊ายยยยย หวานได้อีกค่ะ น้องฐานั่งคนโจ๊กเล่นเลยค่ะทีนี้ เขินจัด
“อะไร กินไม่ไหวเหรอคะ” พี่เขาถามมาพร้อมแย่งช้อนไปถือแล้วก็ตักโจ๊กมาป้อนให้ค่ะ
โอ๊ย... ตายแล้ว เหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันมากๆ อะไรจะมีความสุขได้ขนาดนี้.....
หลังจากหนูกินอิ่มแล้วพี่เขาก็เอาเสื้อผ้ามาให้หนูค่ะให้อาบน้ำ แล้วก็เปิดโฮมเธียร์เตอร์ในห้องดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง อลังการมากมาย รู้สึกว่าตอนดูพี่เขาจะนั่งอยู่ข้างๆ หนูก็แอบเนียนดูไปก็เอนไปอิงซบไหล่พี่เขา เขาก็ไม่ว่าอะไร ดูไปยังไม่ถึงครึ่งเรื่องก็หลับไปอีก แล้วทีนี้ก็นอนยาวไปยันเช้า ตื่นมาอีกทีก็หลับอยู่บนเตียง ไม่รู้ตัวสักนิดว่าถูกอุ้มมาตั้งแต่ตอนไหน สายๆ พี่เขาก็พาหนูออกไปกินโจ๊กอีกค่ะ แล้วก็พาไปส่งที่หอ
“บ่ายวันพฤหัสว่างไหมคะน้องฐา”
“ว่างค่ะ มีอะไรเหรอคะ”
“จะพาไปกินข้าว ดูหนัง” ว้าวๆ มีพาไปเดทด้วยดีจัง
“แต่...ไม่ใช่ในสถานะพี่น้องนะ” กรี๊ดดดดดดดดดดดด ไม่ใช่พี่น้องแล้วเป็นฐานะอะไรเอ่ย? ผัวเมียป่าวคะ? คิคิ เอาแต่ยิ้มค่ะ
“เดี๋ยวพี่จะโทรหานะคะ เดินดีๆ ล่ะ” เพิ่งรู้ว่าบทจะแสนดีก็ดีได้ขนาดนี้เลยเรอะ หนูพยักหน้าตอบแล้วหันไปเปิดประตูรถ
ค่ะ
“เดี๋ยวค่ะน้องฐา” หนูชะงักมือที่จะเปิดประตูค่ะแล้วหันมาหาพี่เขา
“มีอะไรคะ?” ไม่มีคำตอบเป็นคำพูดค่ะแต่เป็นริมฝีปากที่โน้มลงมาดูดปากแทน
แอร๋ยยยยยยยยยยยย พอแล้วค่า น้องฐาจะละลายยยยยยยยยย
.......................................................................
บอกให้ต้มน้ำรอลวกมาม่าค่ะไม่ใช่ลวกตับนะคะ แต่ก่อนมาม่าจะมา เหมือนมันหวานนิดๆ อ่า ไม่อยากจะตัดอารมณ์ในตอนเดียวเลยเปลี่ยนใจ ยังไม่มาม่าดีกว่า เอาไว้ตอนหน้าแทน อิอิ
รักนะจุ๊บๆ