Lonely Love หัวใจขอมีรัก แค่สักครั้ง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Lonely Love หัวใจขอมีรัก แค่สักครั้ง  (อ่าน 136534 ครั้ง)

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
ขอบคุณพี่บอยมากคับที่มาต่อให้ 

หายไปตั้งนานแน่ะ  โชคดีวันนี้ได้เล่นแล้วได้อ่านเรื่องพี่บอย

ลัลล้า~~~~~

รออ่านตอนต่อไปอยู่นะค๊าบ  คิดถึงพี่บอยน๊า

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

หายไปอีกแร้ว

มาต่อไว ๆ น๊า.....

 o15

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
คนเราเจ็บแล้วจำ ยากจะลืม  :m15:  :m15:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ขอแสดงความยินดีกับหนูบอยด้วยนะครับ

สำหรับ อธิศร ตัวร้ายยอดเยี่ยม เซ็งเป็ดอวอร์ด

ยินดีด้วยคร้าบบบบบบ

 :m24: :m24: :m24: :m24:


ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

 :m4: :m4: :m4: :m4:
ดีจายยยย
เป็ดน้อยจะได้ไปอยู่กะพี่บอยด้วยอ่ะ

ว่าแต่ว่าพี่บอยอยากได้คนทำเป็ดไปอยู่ด้วยอ๊ะป่ะ  :m26:
เลี้ยงง่าย ไม่ดื้อ ไม่ซน กินไม่จุ  :m13: :m13:


yayoy

  • บุคคลทั่วไป
จิ้มตูดน้องแป๋ม..... o17 o17 o17

ยินดีด้วยนะจ๊ะน้องบอย สำหรับรางวัล....แต่งได้ร้ายจัดจ้านมากๆ อิอิ


ว่าแต่ว่าพี่บอยอยากได้คนทำเป็ดไปอยู่ด้วยอ๊ะป่ะ  :m26:
เลี้ยงง่าย ไม่ดื้อ ไม่ซน กินไม่จุ  :m13: :m13:


เลี้ยงง่าย ไม่ดื้อ ไม่ซน กินไม่จุ <<< ระวังนะบอย......ที่บอกมาอ่ะ ตรงข้ามหมดเลย
กร่ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก...

 :laugh: :laugh: :laugh:

sun

  • บุคคลทั่วไป
:o11:     สงารภีม  สงสารภีม.....

ไม่ได้สงสารพาสุห์ เลยนะ...จิงจิ๊งงง....    o16

เพราะพาสุห์ ยังไม่น่าสงสาร โฮ่ะๆ        o7


อบ่างพาสุห์ ต้อง โดดตึ๊บ      :เตะ1:      ซ้ำๆ หลายๆครั้ง คึคึ


ป๋อล๋อ*... อุ๊ย...โหดเกินงามไปอีกแล่ะซิน      :o8:

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
มาดันรอพี่บอยอ่ะ คิกคิก

ยินดีด้วยกะรางวัลแต่งตัวร้ายได้ร้ายชนะใจคนอ่าน แบบว่าร้ายมากกกกกกกก  อิอิ :m24:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
พี่บอยค๊าบบบบ

ไหนบอกน้องเมื่อหลายวันก่อนจะมาต่อให้งายค๊าบบบบ

รอนานแล้วน๊า ใจจะขาดแล้วด้วย

นึกว่าสงสารน้องตาดำๆคนนึง

มาต่อให้ด้วยน๊า        :sad2: :sad2:

ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
พี่บอยหายปายยยยยยย  :m17: :m17: :m17:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Lonely Love หัวใจขอมีรัก แค่สักครั้ง
« ตอบ #189 เมื่อ: 08-11-2007 10:59:11 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
มารอเป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ สาวเครือฟ้า

  • "IF I WERE A BOY"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 607
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
    • http://images.forstudent.com/
มาเป็นกำลังใจด้วยคนครับ 

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
 :impress:

รีบมาต่อด่วนเลยครับ

นะนะนะนะนะนะ

 o15

TaDa

  • บุคคลทั่วไป
พี่บอย

หายไปหนายยยยยยยยยยยยยยยอ่ะ

มารอ พาสุห์ พาสุห์

Bboyseries

  • บุคคลทั่วไป

ขออนุญาตนะท่านเจ้าของบอร์ด ขอฝากข่าวประชาสัมพันธ์นิดนึงครับ


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=3023.0



เรื่องของพาสุห์ กับ ภิธาร  จะรีบมาต่อให้เร็วๆนี้ครับ


ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
อุดหนุนค๊าบบบบบบบบบ  :a9:

เล่ม 2 ออกแล้ว ดีใจ ดีใจ   :a10:

ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
ยังรอคุงบอยเสมอ มีเวลาจะรีบไปโอนจ้า  :m13:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
อ่านเล่ม 2 จบล่ะ

พร้อมกับเมื่อกี้คุยกับบอย
บอกว่าจะรีบมาลงเรื่องนี้ต่อให้

และ เร็วๆนี้ก็จะมีเรื่องใหม่มาลงด้วย

เลยต้องรีบมาดันเอาไว้ก่อนค๊าบ ก่อนกระทู้จะตกมากกว่านี้

===============================
บอยค๊าบ มาดันแล้วนะ รีบมาลงต่อด่วนๆเลย

Bboyseries

  • บุคคลทั่วไป
หายจากกระทู้ไปนานมากๆ ตอนนี้ก็พร้อมที่จะมาต่อนิยายดองเค็มเรื่องนี้ให้แล้วครับ สำหรับใครที่ยังรออยู่ ก็ตามอ่านได้เลยครับ
.
.
.
.
.
.
ภิธารเอี้ยวตัวมองกลับไปทางด้านหลังเมื่อรู้สึกถึงแสงไฟบางอย่างสาดเข้าที่ร่าง แน่ล่ะมันเป็นแสงไฟที่ส่องมาจากหน้ารถของพาสุห์ เด็กหนุ่มยันกายลุกยืนเมื่อเห็นรถคันดังกล่าวกำลังขับตรงมาหาตน

“ไม่นะภีมคุณอย่าทำแบบนั้นนะ”พาสุห์เผลอครางอยู่ในรถตัวเองขณะขับตรงไปยังร่างคนที่เขาเพิ่งจะแคร์ขึ้นมา ภิธารกำลังจะวิ่งหนีรถเขาฝ่าสายฝนออกไปทางด้านนอกรั้วมหาวิทยาลัย

เอี๊ยดดดด เสียงเบรกรถดังก้องกัมปนาทแหวกเสียงฝนไปทั่วทั้งบริเวณ พาสุห์เองแม้จะนั่งอยู่ในรถที่ปิดกระจกมิดทุกด้านยังสะท้านไปกับเสียงนั่นที่แว่วผ่านเข้ามาให้ได้ยิน

“ภีม !!”เด็กหนุ่มเผลอร้องเสียงหลงก่อนจะตัดสินใจหยุดรถตัวเองอย่างไม่ต้องคิด ภาพที่ฉายชัดผ่านสองตาของเขาเมื่อครู่ทำให้ภายในใจเต้นระส่ำขณะที่เปิดประตูรถลงมายืนตากฝนด้านนอก สายตาคู่เข้มจ้องมองไปยังร่างคนที่ปากเพิ่งจะร้องเรียกเมื่อครู่ ร่างนั้นนอนสงบนิ่งตากฝนอยู่หน้ารถยนต์คันหนึ่ง เจ้าของรถที่เป็นเด็กหนุ่มวัยน่าจะใกล้เคียงกับเขากำลังยืนจ้องร่างนั้นเหมือนๆกับเขาไม่ต่างกัน

บัดซบ แกจะยืนมองทำซากอะไร พาสุห์นึกเค่นเขี้ยวในใจเมื่อเห็นคนที่เพิ่งจะขับรถพุ่งชนภิธารต่อหน้าต่อตาเขายืนนิ่งไม่ขยับ เหมือนกำลังดูอาการว่าเหยื่อจะเป็นยังไง เด็กหนุ่มตัดสินใจวิ่งฝ่าสายฝนตรงไปยังร่างที่นอนสงบนิ่ง นาทีแรกที่ไปถึงหัวใจที่เต้นระส่ำพลันชื้นขึ้นมาเมื่อเห็นว่าร่างนั้นยังนอนลืมตาและหายใจรวยรินอยู่

“ภีมใจแข็งไว้นะ”พาสุห์เอ่ยบอกก่อนจะตัดสินใจตรงเข้าช้อนร่างภิธารให้ลุกเมื่อประเมินสถานการณ์แล้วว่าภิธารคงจะไม่เป็นอะไรมาก

“ช่วยกันหน่อยสิวะ”เด็กหนุ่มหันมาตะคอกใส่คนที่ยืนบื้อมองอยู่อย่างนึกเคืองในท่าที นี่ถ้าไม่ติดว่าร่างภิธารนอนขวางหน้ารถมันเอาไว้ มันคงจะขับหนีไปถึงไหนต่อไหนแล้วแน่ๆ ท่ามกลางพายุฝนแบบนี้ ใครล่ะจะทันสังเกตมองเห็นว่ามันได้ขับรถชนใครเข้า

“เอาไปรถผม”พาสุห์ออกคำสั่งเมื่อคนยืนบื้อตรงเข้าช่วยเขาพยุงร่างปวกเปียกลุกขึ้นได้ ฝ่ายนั้นไม่โต้แย้งใดๆนอกเสียจากทำตามคำสั่ง

“ทะเบียนรถคุณจำไม่ยาก คิดดูละกันว่าคุณจะตามมาหรือคิดจะหนีไป”พาสุห์เอ่ยขึ้นอีกกับคนที่ช่วยตนพยุงร่างภิธารเข้าไปให้นอนราบอยู่บนเบาะหลังรถเขาได้สำเร็จ

“คนของคุณวิ่งชนรถผมเอง ทำไมผมจะต้องหนี”ฝ่ายนั้นยอมเอ่ยขึ้นเป็นประโยคแรกเมื่อปิดประตูรถลงได้ สองคนมองสู้สายตากันท่ามกลางสายฝน ก่อนที่พาสุห์จะเป็นฝ่ายละสายตาแล้ววิ่งอ้อมตรงไปเปิดประตูรถฝั่งคนขับ ขึ้นไปนั่งได้ก็รีบบึ่งรถออกไปทันที นาทีนี้เขาควรจะพาภิธารไปถึงมือหมอให้เร็วที่สุด

ลับหลังรถพาสุห์ คาวี ยกเท้าเตะพื้นน้ำที่เริ่มเจิ่งนองอย่างหงุดหงิด

“ทำไมมันซวยแบบนี้วะ”เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างหัวเสีย เพราะรู้กฎจราจรดีว่าตรงที่ตนบึ่งรถเข้าชนใครคนหนึ่งเมื่อครู่เป็นเขตทางเท้าหน้ามหาวิทยาลัย และแววตาสุดท้ายของคนที่ยืนสู้สายตาเขาเมื่อครู่ก็บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าถ้าเขาหนี มันคงตามเอาเรื่องเขาอย่างถึงที่สุดแน่ไอ้นี่หน้าตามันใช่จะซื่อจะโง่ซะเมื่อไหร่ ถึงแม้ว่าเขาจะมั่นใจอยู่ว่าไอ้หมอนี่คงทำอะไรเขาได้ไม่มากมาย แต่ใครล่ะอยากที่จะให้ชีวิตวุ่นวาย


ที่โรงพยาบาลพาสุห์ยืนระส่ำระส่ายอยู่หน้าห้องตรวจที่เหล่าพยาบาลเพิ่งเข็นร่างภิธารเข้าไป แม้ห้องนั้นจะไม่ใช่ห้องไอซียู แต่ทำไมเขาถึงนั่งไม่ติดเก้าอี้ หรือเพราะหัวใจนึกห่วงคนที่เพิ่งถูกเข็นเขาไปเข้าแล้วจริงๆ

“โลกมันกลมจังนะครับเนี่ย”เสียงหนึ่งเดินดังขึ้นข้างหูขณะที่คนนั่งไม่ติดเก้าอี้กำลังยกมือเสยผมลวกๆ


“คุณนะเอง”พาสุห์เอ่ยทักเมื่อหันไปมองแล้วเห็นกรกฤษณ์ยืนยิ้มให้อยู่

“ดูแล้วอาการคุณภิธารคงไม่เป็นอะไรมากหรอกครับคุณอย่าเครียดมากเลย”กรกฤษณ์เอ่ยต่อ เขาก็เป็นคนหนึ่งที่เห็นว่าภิธารถูกเข็นร่างเข้าไปในห้องตรวจ เพียงแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้เป็นทีมแพทย์เหมือนอย่างครั้งแรกที่ภิธารมาที่นี่ในสภาพปางตายกว่านี้หลายเท่าตัว

“รู้ได้ไง คุณไม่ใช่หมอ”พาสุห์ตอบรวนด้วยลึกๆรู้สึกหึงหวงอย่างประหลาดเมื่อนึกถึงว่าพยาบาลหนุ่มหน้าใสรายนี้ได้เคยเฝ้าประคบประหงมภิธารเพียงไร

“โธ่คุณ อาการที่คุณภิธารมาที่นี่ครั้งแรกปางตายกว่านี้หลายเท่าเขาก็ยังรอดมาได้เลยนี่ครับ”กรกฤษณ์บอกตามประสาซื่อ แต่คนที่ยืนฟังกลับรู้สึกสะท้านใจนัก ใช่สินะ เมื่อก่อนเขาไปอยู่ที่ไหน ตอนที่คนที่ถูกพูดถึงปางตายจนหลายคนคิดว่าอาจจะไม่รอด หรือพิการ

“ก็ขอให้เป็นอย่างนั้น”เด็กหนุ่มพึมพำเบาๆอย่างคนหมดเรี่ยวแรง เพราะรู้สึกห่อเหี่ยวหัวใจขึ้นมา ร่างสูงพาตัวเองไปนั่งกุมใบหน้า กรกฤษณ์มองตามแล้วส่ายหัวนิดๆก่อนแยกตัวไปทำหน้าที่ของตน
พาสุห์นั่งจมอยู่กับความคิดตัวเองได้ซักพัก ก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีเสียงหนึ่งดังทักขึ้นอีกครั้ง

“คนของคุณเป็นไงบ้าง”

“นึกว่าหนีไปแล้วซะอีก”เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อแหงนหน้ามองแล้วเห็นว่าเป็นใครยืนอยู่

“บอกแล้วไงว่าผมไม่จำเป็นต้องหนี คนของคุณวิ่งชนรถผมเองนี่ แล้วเป็นไงบ้างล่ะ ตายหรือว่ารอด”คาวีกล่าวอย่างยียวน ที่ตามมานี่ก็ใช่ว่าเขาจะรู้สึกผิดอะไรนักหนา ก็แค่ไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นพวกชนแล้วหนีก็แค่นั้น

“เฮ้ยปากเหรอที่พูด”พาสุห์ลืมตัวยกมือชี้หน้าเอ่ยเสียงขึงขังใส่คนที่ทำท่าทีกวนประสาท คนถูกชี้หน้ายกมือตนขึ้นปัดมือคนชี้สุดแรงพลางเอ่ยหยาบคายขึ้นตามหลัง

“ถ้ามึงรู้ว่ากูเป็นใคร มึงคงไม่ทำแบบนี้”
พาสุห์ขึงขังที่จะทำอะไรซักอย่าง แต่ทว่าเด็กหนุ่มต้องชะงักเอาไว้ เมื่อเห็นว่าประตูห้องที่ร่างภิธารเพิ่งถูกเข็นเข้าไปเปิดออกมา ตามด้วยหมอวัยกลางคนที่โผล่ร่างมาให้เห็น

“เพื่อนผมป็นไงบ้างครับ”เด็กหนุ่มตรงเข้าถามคนเพิ่งออกมาจากห้องทันที

“ไม่เป็นไรมากหรอกครับ ร่างกายบอบช้ำจากแรงกระแทกนิดๆหน่อย สบายใจได้ครับ เพื่อนคุณปลอดภัยแล้ว เดี๋ยวเราจะย้ายไปห้องพักฟื้น อีกสองสามวันก็ออกไปเดินป๋อได้แล้วล่ะครับ”

พาสุห์ยิ้มรับกับคำตอบ ก่อนจะชำเลืองตามองคนที่เหมือนจะประกาศเป็นศรัตรูกับตนเมื่อครู่

“อ้าว คาวี”เสียงหมอกลางคนเอ่ยทักตามสายตาเขา ทำพาสุห์ฉงนน้อยๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจนัก ปล่อยให้คนที่ทำเหมือนจะรู้จักกันทักทายกันไป ตอนนี้เขาสนใจแต่เพียงเรื่องของภิธารเท่านั้น


ภายในห้องสี่เหลี่ยม ภิธารนอนถอนหายใจอย่างนึกเซ็งกับชีวิตตัวเองที่ต้องกลับมานอนบนเตียงผู้ป่วยอีกรอบ

“มันจะอะไรนักหนานะ”เด็กหนุ่มเผลอสบถอย่างอดไม่ได้ แม้สภาพตอนนี้จะดีกว่าคราวก่อนมากโขอยู่ แต่ก็อดที่จะเหนื่อยใจไม่ได้ ห่วงแต่ความรู้สึกของคนที่บ้านจะเป็นห่วง

ประตูห้องถูกเปิดออก ร่างสูงของพาสุห์ก้าวเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม สภาพที่มองเห็นทำเอาภิธารตกใจหน่อยๆ คนที่เคยดูดีบัดนี้ทำไมมอซอนัก ผมเผ้าก็ดูยุ่งเหยิง ขอบตาดูคล้ำลง หนำซ้ำริมฝีปากที่เคยสดกลับซีดลงจนน่าตกใจ

“ผมดีใจนะที่คุณไม่เป็นอะไรไปอีก”คนสภาพเปลี่ยนไปเดินเข้ามาทักตรงปลายเตียง คนถูกทักขยับตัวนั่งก่อนจะอดที่จะเอ่ยไม่ได้

“คุณดูแย่ไปนะพาสุห์”

“แค่นี้ยังน้อยไป ผมฝ่าสายฝนมาขนาดนี้ เชื่อเถอะอีกไม่กี่วันผมก็คงได้นอนบนเตียงผู้ป่วยเหมือนคุณนี่แหละ”พาสุห์ตอบอย่างรู้ตัวดี ด้วยตอนนี้ตัวเองก็เริ่มสะลึมสะลือไปไม่น้อย ที่ยืนอยู่ได้ตอนนี้ก็เพราะด้วยฤทธิ์ยาจากคราวก่อนที่อัดทานเข้าไปแค่นั้น

“ผมไม่น่าทำไรงี่เง่าเลยใช่มั๊ย”ภิธารเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิดอยู่ในที ถ้าเพียงเขาไม่ขี้อ่อนไหวและใจน้อยจนเกินเหตุ เหตุการณ์วุ่นวายนี่คงไม่เกิดขึ้น

“ไม่หรอก อย่าโทษตัวเองเลย ผมเองแหละที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้”พาสุห์เอ่ยค้านก่อนจะยิ้มเศร้าๆ นึกเข้าใจว่าภิธารคงยากที่จะกลับมาไว้ใจและเข้าใจเขาอย่างเดิม

“แล้วรถคันนั้นล่ะ”ภิธารเปลี่ยนเรื่องถามไปถึงรถคันที่พุ่งเข้าชนตนบนทางเท้า ดีที่เจ้าของรถคันนั้นเบรกรถเอาไว้ทันก่อนที่จะพุ่งกระแทกร่างเขาเต็มเหยียด ไม่งั้นเขาคงไม่มีโอกาสได้พูดได้คุยแบบนี้

“เจ้าของมันก็อยู่ที่นี่แหละ กำลังคุยกับหมออยู่ ท่าทางจะรู้จักกัน คุณจะเอาเรื่องเขามั๊ย ผมเป็นพยานให้ได้นะว่ามันน่ะผิดเต็มๆ”พาสุห์เอ่ยบอกก่อนจะถามถึงการตัดสินใจของอีกฝ่ายเพราะรู้ดีว่าคนๆนี้ติดที่จะยังไงก็ได้ และยอมคนอื่นเขาไปทั่ว รวมถึงการที่เคยยอมเขามาตลอดด้วย

“ผมไม่เป็นอะไรมากแล้ว อย่าให้เรื่องมันวุ่นวายละกัน”ภิธารบอกในที่สุด พาสุห์พยักหน้ารับน้อยๆ เขารู้อยู่แล้วว่าผลมันต้องเป็นแบบนี้ เด็กหนุ่มกำลังจะเอ่ยอะไรอีก แต่พลันประตูห้องถูกเปิดเข้ามาขัดจังหวะซะก่อน ร่างสูงของคาวีเดินเข้ามาพร้อมสีหน้าและแววตาเรียบเฉย พาสุห์เบี่ยงตัวหลบให้ร่างนั้นเดินเข้าไปหาเหยื่อที่มันเกือบจะทำให้พิการหรือตาย เด็กหนุ่มลอบมองสถานการณ์ห่างๆ

“เป็นบ้างครับ ผมขอโทษนะ ผมผิดเอง เดี๋ยวผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้”คาวีเอ่ยยิ้มๆอย่างนุ่มนวลให้ภิธาร พาสุห์ซึ่งมองดูอยู่เกิดอาการเคืองขุ่นที่รู้สึกว่าไอ้นี่ช่างสร้างภาพเหลือทน ก็ตอนที่มันสู้สายตากับเขา มันพูดแบบนี้ซะเมื่อไหร่กัน

“ตะกี้นายพูดแบบนี้เหรอ”เด็กหนุ่มเอ่ยขัดขึ้นด้วยสรรพนามที่ไม่ไม่ไว้หน้า เพราะรู้สึกแน่ชัดแล้วว่าไอ้คาวีที่เขารู้จักชื่อจากปากหมอเมื่อครู่ก็คงจะรุ่นราวคราวเดียวกับตน

“ผมพูดอะไรตอนไหน”คาวีหันมาตีหน้าตายใส่ เขานึกชิงชังการกระทำนายนี่ตั้งแต่ตอนที่ยื่นมือชี้หน้าเขาแล้ว เกิดมาไม่เคยมีใครทำกับเขาแบบนี้ เขาต่างหากที่มีสิทธิ์ทำกับคนอื่นเพียงผู้เดียว ไม่ใช่มัน เขาเป็นลูกชายคนเล็กของนายตำรวจใหญ่ที่เป็นเพื่อนกับอาหมอที่เอ่ยทักทายเขาเมื่อครู่ เขาเข้าออกโรงพยาบาลแห่งนี้จนรู้จักกับใครต่อใครไปทั่ว รวมถึงกรกฤษณ์ เขาสอบถามบุรุษพยาบาลหนุ่มรายนี้จนรู้หมดแล้วถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนที่นอนแอ้งแม้งบนเตียงกับคนที่ยืนตัวซีดสู้สายตาเขาอยู่ตอนนี้ มาทำขึงขังท้าทายใครไม่ทำ มาทำกับเขา มันก็ต้องมีการถอนคืนกันบ้างล่ะ แต่ถ้าจะถอนคืนแบบวิธีลูกผู้ชายอย่างงั้นหรือเขาไม่ทำหรอก เพราะดูมันจะง่ายเกินไป ลำพังอิทธิพลลูกชายคนเล็กของตระกูลใหญ่ จะว่าจ้างใครซักกี่คนมาอัดไอ้นี่ให้หมอบมันจิ๊บๆนัก งานนี้ถ้าจะเล่นมันขอเล่นให้มันเจ็บไปทั้งทรวงเลยน่าจะดี นั่นไงล่ะเครื่องมือเชือดมัน ไอ้ภิธารหน้าซื่อนี่ไง หึหึ พวกมันกำลังมีปัญหากันอยู่ แต่ดูเหมือนว่าคนที่พยามไล่ตามจะเป็นไอ้พาสุห์หน้าซีดนี่ ก็เอาสิ เขาจะยอมลดตัวลงไปเพื่อหว่านเสน่ห์ให้คนที่มันกำลังวิ่งตามดูซักหน่อย รับรองรายนี้ดูท่าจะติดร่างแหได้ไม่ยาก คราวนี้แหละมึง กูจะทำให้มึงแค้นกูให้กระอักเชียว ไอ้พาสุห์

“เพื่อนหรือแฟนคุณครับเนี่ย ท่าทางห่วงคุณจัง”คนวาดแผนการหันมาเอ่ยกับคนที่วางสีหน้าไม่ถูกอยู่บนเตียง

“ผะ เพื่อนครับ” ภิธารตอบเพราะคิดอะไรไม่ทัน ยอมรับอย่างหนึ่งว่าสายตาของคนที่หันมามองเขามันคมลึกนัก เหมือนซ่อนอะไรเอาไว้บางอย่าง

“โล่งอกจังผมดีใจนะที่เขาไม่ใช่แฟนคุณ”คาวีเอ่ยต่อตามเกม เบื้องหลังเขา พาสุห์กำลังส่งสายตามองภิธารอย่างรู้สึกกังวลอะไรเล็กๆ เขาเคยใช้แววตาและคำพูดแบบนี้กับภิธาร ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคาวีกำลังจะทำอะไร แต่นิสัยตีสองหน้าของนายนี่มันน่าไว้ใจได้ซะที่ไหน ภิธาร คุณอย่าอ่อนไหวง่ายๆไปกับมันนะ ผมขอร้อง

“ทะ ทำไมต้องดีใจด้วยล่ะครับ”ภิธารเริ่มเอ่ยตะกุกตะกัก ไม่ใช่เพราะหวั่นไหวอะไรกับแววตาและท่าทีที่ได้เห็น แต่ที่ตกอยู่ในอาการแบบนี้เพราะได้มองสบตากับใครบางคนที่ลอบมองทอดมองอยู่ทางด้านหลังต่างหาก พาสุห์ทำเหมือนจะบอกอะไรเขาซักอย่างผ่านทางสายตานั่น

“อืม นั่นสิ ทำไมผมต้องดีใจ เอาไว้ให้คุณหายดีแล้วผมจะบอกนะครับ ตอนนี้ผมว่าคุณควรพักผ่อนก่อนดีกว่านะ เรื่องค่าใช้จ่ายหรืออะไรทั้งหมดผมรับผิดชอบเอง”คาวีเอ่ยยิ้มๆอย่างเดิม เด็กหนุ่มนึกหมั่นไส้และเคืองนิดๆในใจเมื่อเห็นว่าคนที่ตนพยายามหว่านเสน่ห์ให้ลอบมองผ่านเขาไปสบตากับคนที่อยู่ด้านหลังเขาตลอด ท่าทางแผนการครั้งนี้ของเขามันจะไม่ง่ายซะแล้วสิ หึ ผูกพันกันเข้าไปเถอะ กูจะดูสิว่าพวกมึงจะไปกันได้ซักกี่น้ำ

“พักผ่อนเยอะๆนะครับ ผมคงต้องไปแล้ว แล้วผมจะมาใหม่ครับ”เอ่ยจบเด็กหนุ่มจึงหันหลังจะเดินออกจากห้อง แต่ก่อนพ้นประตูสายตาก็ไม่ลืมที่จะมองไปที่พาสุห์ รอยยิ้มหยันถูกส่งให้ฝ่ายนั้นนิดๆ ก่อนจะเปรยเบาๆเอให้ได้ยินกันแค่สองคนว่า

“แฟนมึงหน้าตาท่าทีก็ไม่เลว กูขอยืมใช้ซักวันสองวันนะพวก”

พาสุห์ทำทีจะตอบโต้ แต่ไม่ทันเพราะคนเอ่ยได้เดิมยิ้มเยาะจากไปอย่างผู้กำชัยในเกมเบื้องต้น เมื่อรู้สึกหงุดหงิดที่ตอบโต้อะไรไม่ทันเด็กหนุ่มจึงไม่วายที่จะหันมาแขวะคนของตน

“เคลิ้มเลยล่ะสิ”

“พูดเรื่องอะไรพาสุห์”ภิธารสวนทันควันเช่นกัน ไม่รู้สิ นาทีนี้เขาไม่อยากที่จะเป็นฝ่ายยอมพาสุห์ได้อีกแล้ว

“อย่าทำเป็นไร้เดียงสาหน่อยเลย ถูกโฉลกกับโรงพยาบาลหรือไง เข้ามาเมื่อไหร่ถึงมีแต่คนมาจีบ”พาสุห์ว่าอีกด้วยนึกพาลไปถึงกรกฤษณ์อีกคนที่ดูจะมีท่าทีให้คนของเขาอยู่ไม่น้อย

ภิธารเงียบไม่ตอบโต้ ถ้อยคำที่พาสุห์ต่อว่าเขารุนแรงกว่านี้เขายังเคยผ่านมาได้ แค่คำค่อนแคะแค่นี้ วินาทีนี้มันระคายได้แค่ผิวใจแค่นั้น

“จะให้บอกที่บ้านคุณมั๊ย”พาสุห์เอ่ยต่อเมื่อเห็นคู่กรณีเงียบไปพักใหญ่

“รู้วิธีติดต่อหรือไง”ภิธารหันมาว่าจนคนคิดจะอาสาสะอึก ความหมายโดยนัยที่ได้ยินคล้ายๆคนเอ่ยจะบอกว่าเขาเคยใส่ใจความเป็นไปเจ้าตัวซะที่ไหน

“ก็ถ้าคุณบอกทำไมผมจะไม่รู้ล่ะ”เด็กหนุ่มไหลไปอย่างคนที่เสียหน้าแต่ไม่ยอมเสียฟอร์ม

“ไม่ต้องวุ่นวายหรอก ผมไม่เป็นอะไรมาก อย่าให้พวกเขาต้องปวดหัวกับผมอีกดีกว่า”ภิธารบอกแล้วกลับลงไปนอนนิ่งอย่างเดิม ทำไม่สนใจคนอยู่ร่วมห้อง จนเจ้าตัวเดินออกไปนั่นแหละ เด็กหนุ่มจึงมองตามหลังคิดตามเงียบๆ.....กำลังจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราอีกนะพาสุห์

Bboyseries

  • บุคคลทั่วไป
“ผมยุ่งอยู่ ผมไปหาไม่ได้ ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ”พาสุห์อดไม่ได้ที่จะหันไปทางเสียงตะคอกที่สองหูได้ยินชัดระหว่างที่เดินออกจากห้องพักของภิธาร เด็กหนุ่มส่ายหน้าอย่างนึกระอา เมื่อเห็นเจ้าของเสียงตะคอกนั้นคือ คาวี เด็กหนุ่มรายนั้นกำลังยืนถือโทรศัพท์แนบหูเหมือนฟังอะไรบางอย่างจากคู่สนทนาหลังจากที่ตนตะคอกเสร็จไป

“ถ้าคุณตามผมมากๆระวังผมจะเลิกกับคุณจริงๆนะ คุณเป็นอะไรของคุณ จะตามติดอะไรผมนักหนา รู้ตัวมั๊ยว่าผมรำคาญ”เสียงคาวีดังมาให้ได้ยินอีก คราวนี้คนยืนมองถึงกับอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน คาวีช่างเหมือนเงาสะท้อนในกระจกใบใหญ่ของตนนัก ใครกันนะที่คาวีกำลังเอ่ยถ้อยคำทำร้ายจิตใจอยู่ตอนนี้ แต่จะใครก็ช่างเถอะ คนๆนั้นคงไม่คิดทำอะไรแผลงๆอย่างที่ภิธารเคยทำหรอกนะ คิดแล้วเด็กหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองทางห้องที่เพิ่งเดินออกมาแล้วพึมพำเบาๆ
“ผมเสียใจนะภีม ที่คำพูดของผมเคยเกือบจะฆ่าคุณ”

“นี่อย่าทำอะไรบ้าๆนะ คิดเหรอว่าทำแบบนั้นอะไรๆมันจะดีขึ้น”เสียงคาวีตวาดลั่นให้ได้ยินอีก คนพึมพำหันหน้ามามองต้นเสียงอีกครั้ง คราวนี้เด็กหนุ่มคิดไปถึงคู่สนทนาของคาวีว่าคงคิดจะทำอะไรอย่างที่ภิธารเคยทำ นั่นคือ ทำร้ายตัวเอง ไม่นะ ทำไมคนเราถึงสิ้นคิดเพราะปัญหาแบบนี้ด้วย

“งั้นอยากตายก็ตายไปดีชีวิตผมจะได้สงบสุขซะที”คาวีพล่ามออกมาอีก ก่อนจะวางสายลง พาสุห์เดินเลี่ยงหนีไปทางอื่นทันทีที่คนเพิ่งเลิกคุยโทรศัพท์หันมาทางตนพอดี

คาวีมองตามร่างพาสุห์ชั่วครู่ก่อนจะมองเลยไปยังประตูห้องภิธาร เด็กหนุ่มกระหยิ่มยิ้ม เมื่อนึกคิดอะไรบางอย่างได้ ภิธารไม่ได้มีค่าแค่ให้เขาเล่นเกมกับพาสุห์เท่านั้น มากกว่านั้นเขาอาจใช้ไอ้หน้าซื่อนี่ดึงเขาออกมาจากการตามจิกตามรังควาญจากคู่ขาที่หลงระเริงว่าตัวเองเป็นคู่รักเขาได้ดี

ในห้อง ภิธารใช้เวลาที่อยู่คนเดียวแล้วไม่มีอะไรจะทำคิดถึงอดีตที่เคยผ่านๆมาของตนเงียบๆ

“ป่านนี้นายจะเป็นไงบ้างนะ”เด็กหนุ่มพึมพำออกมาเบาๆเมื่อในห้วงหนึ่งของความคิด หัวใจได้ลอยไปหาใครบางคน คนที่เป็นคนแรกของหัวใจ ใครคนนั้นไม่ได้ทำร้ายจิตใจเขาก่อนจากไปด้วยถ้อยคำกรีดใจ แต่ด้วยวิถีชีวิตที่ไม่เข้ากันนั่นเล่าที่ทำให้เขาได้เข้าใจและซึ้งกับคำว่าความเจ็บปวดจนเป็นปมในใจมาจนวันนี้

“นายเป็นบ้าอะไรภีม”เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงสั่นบอกตัวเองเบาๆเมื่อรู้สึกถึงขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมา แล้วสุดท้ายสิ่งที่เป็นเพื่อนยามเหงาก็แสดงตัวออกมาจนได้ เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปาดขอบตาสองข้างลวกๆเมื่อรู้สึกถึงหยดน้ำตากำลังจะไหลอาบแก้ม

“พอทีภีมพอที”เด็กหนุ่มสั่งตัวเองเสียงดังเมื่อรู้สึกถึงแรงกดดันภายในใจจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำไมนะ ทำไมเขาต้องเจ็บปวดกับอดีตได้ถึงเพียงนี้ น้ำตาที่หยดเพียงทีละนิดบัดนี้กำลังจะไหลทะลักออกมาอย่างคนที่กลั้นไว้ไม่อยู่

ประตูห้องถูกเปิดออกอีกครั้ง พาสุห์ยืนนิ่งอึ้งมองสบตาคนที่นั่งเช็ดน้ำตาตัวเองอยู่บนเตียง

“ภีม คุณเป็นอะไร”เด็กหนุ่มเอ่ยทักด้วยความรู้สึกตกใจ นัยน์ตาภิธารแดงกล่ำอย่างคนที่ผ่านการร้องให้มาอย่างหนักขณะมองสบตาเขา

“ปะเปล่าไม่มีอะไร”คนโดนถามปฏิเสธทั้งๆที่เสียงยังสั่นและแหบพร่าอยู่

“ท่าทางคุณแย่ๆนะ”พาสุห์เดินเข้ามาทักใกล้ๆ ในตอนที่หัวใจอ่อนแอเช่นนี้ ภิธารอยากที่จะโผเข้าซบให้คนทักปลอบใจและให้ความอุ่นใจเหลือทน แต่เด็กหนุ่มจำต้องปัดความต้องการของตัวเองทิ้งไปเมื่อคิดได้ว่าคนๆนี้คงไม่ใช่คนที่เขาจะฝากหัวใจ และฝากความหวังใดๆเอาไว้ได้อีกแล้ว

“ผมไม่เป็นไรจริงๆ คุณล่ะไปหาหมอมาหรือยัง”คนคิดตัดใจเอ่ยถามยิ้มๆเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกตัวเองถ้าหากไม่อยากถูกมองอย่างสมเพช และถูกตราหน้าว่าเรียกร้องความสนใจอยู่ต่อหน้าต่อตาผู้ชายคนนี้เขาควรจะเก็บอารมณ์อ่อนไหวและน้ำตาไว้ให้มิดที่สุด

“ไปมาแล้ว หมอเขาฉีดยาให้ ผมคงไม่แย่นักหรอก”พาสุห์ตอบ แต่ก็ไม่วายที่จะพยายามมองค้นหาความรู้สึกที่ภิธารทำท่าว่าจะปกปิดเอาไว้ ทำไมภิธารต้องร้องไห้หนักขนาดนี้ เพราะเขาเหรอ ไม่สิ ก่อนที่เขาจะเดินออกไปคนๆนี้ยังต่อล้อต่อเถียงเขาได้อยู่นี่

“บอกผมได้มั๊ยคุณร้องไห้ทำไม”เมื่ออดไม่ได้คนอยากรู้จึงก้มหน้าลงไปถามคนเหมือนปกปิดอารมณ์ตัวเองด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

ภิธารเงยหน้ามองสบตาคนที่ใบหน้าอยู่ห่างจากเขาไม่ถึงคืบ เด็กหนุ่มเกือบจะหวั่นไหวไปกับแววตาอ่อนโยนที่ถูกส่งให้แต่แล้วเสียงระฆังที่ช่วยเตือนตัวเองก็ถูกแทรกเข้ามาเสียก่อน คนที่เปิดประตูห้องเข้ามาใหม่นั่นเองที่เป็นเจ้าของเสียงระฆังที่ว่า

“มาทำไมให้ตายสิ”พาสุห์เผลอสบถเบาๆเมื่อเอี้ยวตัวหันไปมองแล้วเจอคาวียืนยิ้มเท่ห์อยู่หน้าห้องภิธารลอบสังเกตอาการคนสบถ ทำไมพาสุห์จะต้องไม่สบอารมณ์ทุกครั้งที่เห็นหน้าคนที่หน้าประตูด้วย ทำยังกะตัวเองเป็นฝ่ายโดนคนๆนั้นขับรถชนซะเอง

“ผมลืมไปว่าผมยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย”คาวีเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสองสายตามองมาทางเขา พาสุห์ยอมถอยร่างออกมาจากภิธารเมื่อเห็นคนเอ่ยเมื่อครู่เดินเข้ามาหา

“กับนายฉันคงไม่แนะนำตัวหรอกนะนายพาสุห์”คนเดินเข้าหาเอ่ยชัดถ้อยชัดคำใส่หน้าคนถอยร่าง ภิธารรู้สึกแปลกๆเมื่อเห็นสองคนตรงหน้าสู้สายตากันเอง เด็กหนุ่มจำต้องกระแอมเสียงในลำคอเบาๆเพื่อแยกสายตาทั้งคู่ออกจากกัน ได้ผล คนมาใหม่ละสายตาจากพาสุห์แล้วหันมามองเขาเอ่ยขึ้น

“ผมคาวีนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักคุณเอ่อ ภิธาร”

“เรียกผมภีม ก็ได้ครับ ง่ายดี”ภิธารเอ่ยตอบรับ พลางส่งสายตาเป็นมิตรให้นิดหน่อยพอไม่ให้เสียมารยาท แต่อีกคนที่ยืนมองไม่คิดแบบนั้นนี่สิ

“คราวนี้ยิ้มออกเลยนะภีม”คนคิดไปทางอื่นแขวะขึ้นอย่างอดไม่ได้ ทำไมล่ะ ทำไมภิธารถึงปรับสีหน้าและอารมณ์ให้ร่าเริงเมื่อเจอกับนายคาวีนี่ด้วย ดูเอาเถอะนัยน์ตาแดงกล่ำที่เขามองเห็นแต่แรกบัดนี้มันกำลังจะกลายเป็นสุกใสดั่งเดิม

“เพื่อคุณนี่รวนดีเนาะ”คาวีเอ่ยต่ออย่างอารมณ์ดีอย่างนี้สิที่เขาต้องการ

“ปล่อยเขาเถอะครับ เขาเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว”ภิธารตามน้ำไปอย่างไม่คิดอะไร ด้วยไม่รู้ว่าจะปกป้องอะไรพาสุห์ดี คำพูดเขาคงไม่มีค่าอะไรขนาดนั้น

“อาหมอบอกว่าภีมไม่เป็นอะไรมากอีกวันสองวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้ จะเป็นอะไรมั๊ยถ้าอยู่ข้างนอกผมจะขอเป็นเพื่อนภีมอีกคน”คาวีเอ่ยนำทางให้ตนอย่างดื้อๆ คนอย่างเขาไม่เคยอ้อมค้อมอะไรกับใครอยู่แล้ว ตอนนี้นาทีนี้ภิธารมีค่าตั้งสองทางคือหนึ่งช่วยเขากลั่นแกล้งคนที่เขาไม่ชอบหน้า และสองอาจช่วยดึงเขาให้พ้นจากการติดตามจากคู่ขาที่เขานึกเบื่อ เขาก็ต้องเร่งทำเวลาแบบนี้แหละ

“ไม่จำเป็น เพื่อนภีมเขามีเป็นโขยง ออกไปจากที่นี่นายก็ไปตามทางของนายดีกว่า”พาสุห์ขัดขึ้นอย่างรู้สึกใจหวิวนิดๆ ในยามที่ภิธารกำลังอารมณ์แปรปรวนอยู่แบบนี้เขากลัวนัก กลัวว่านายคาวีนี่จะเข้าไปมีอิทธิพลในใจภิธารได้ง่าย ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงทนไม่ได้แน่ ไม่รู้สิตอนนี้เขาไม่อยากให้ภิธารข้องแวะกับใคร สรุปคือลึกๆเขาอยากให้ภิธารกลับมาคบกับเขาเหมือนเดิมก็แค่นั้น

“ว่าไงครับภีม ผมถามคุณนะ ผมไม่ได้ถามเขา”คาวีเอ่ยขึ้นอย่างไม่สนใจคำค้านของพาสุห์

“ก็ได้ครับ ผมไม่ซีเรียส”ภิธารตอบออกมา พาสุห์ถึงกับใจกระตุก เด็กหนุ่มส่ายหน้าช้าๆอย่างแอบผิดหวังที่ภิธารเปิดใจตัวเองได้ง่ายนัก

“ไงล่ะ ได้ยินชัดแล้วใช่มั๊ยพาสุห์”คาวีหันมาเอ่ยกับคนแอบผิดหวัง พาสุห์หมดเรี่ยวแรงที่จะโต้ตอบใดๆ การตัดสินใจของภิธารมันเหมือนเป็นสัญญาณเตือนว่าเส้นตรงสองเส้นที่เขาพยามดึงมันมาบรรจบกันกำลังจะกลับไปเป็นเส้นขนานกันดังเดิม

เส้นหนึ่งคือหัวใจของเขา และอีกเส้นหนึ่งคือหัวใจของ ภิธาร!!


โปรดติดตามตอนต่อไป

ขอบคุณครับ

Boy


**กำลังโพสเรื่องอยู่ดีๆ เหลือบเห็นเรื่อง DREAM โผล่ขึ้นมา ป้อมก็เร็วใช้ได้แฮะ**

 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Lonely Love หัวใจขอมีรัก แค่สักครั้ง
« ตอบ #199 เมื่อ: 28-01-2008 22:28:47 »





ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
เหอะ เหอะ มีแอบแซวนะ บอย :m12:

ขอบคุณครับ มาต่อให้ตั้งเยอะเลย อย่าหายไปนานๆอีกล่ะ

คนอ่านคิดถึง  :m13:

ออฟไลน์ kaporzung

  • miKapleXD
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • [Premier Сasual Dating  Living Women]
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะ พาสุห์ คนเดียวววววววววววววว  :angry2:

ไอ้ผู้ชายห่วยๆๆๆๆๆ  :angry2:

ถีมต้องม่ายเป็นไรนะ  :serius2:

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
ภีมหาคนรักใหม่เถอะ ง่ายสุดแล้ว

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
บอยมาแว้วววววววว

รักนนี้ท่าทางจะอีกยาวไกล

คงฟาดฟันกันสุดฤทธิ์

เอิ๊กๆๆๆ

 o13

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับ ไม่ชอบคนที่มาใหม่เลยอิอิ

คือ คาวี นะ สงสัยจะแรงนะอารมณ์ด้วย

เอาใจช่วย ธีมและพาสุห์ ครับ ผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยดีนะครับ

 :impress: :impress: :impress:

Bboyseries

  • บุคคลทั่วไป
“ผมไม่ค่อยสบายน่ะครับพิธ คงออกไปเจอไม่ได้”พาสุห์บอกปัดความต้องการของนิพิธขณะที่กำลังขับรถกลับบ้าน เจตนาตอนแรกเด็กหนุ่มว่าอยู่เป็นเพื่อนภิธาร แต่แล้วเหตุการณ์ที่เขาได้เห็นและได้ยินตอนที่คาวีเข้าไปขอสานสัมพันธ์กับเจ้าตัวถึงในห้องพักทำให้เขาเกิดอาการน้อยใจขึ้นมาดื้อๆจนไม่อาจที่จะอยู่ตรงนั้นต่อไปได้ เขาไม่ได้บอกภิธารถึงการหนีกลับบ้านครั้งนี้ ไม่รู้สิ ดูภิธารดูท่าจะมีใจเลยเถิดไปกับคาวีซะจนเขาคิดว่าตัวเองคงหมดความหมายเลยตัดสินใจหนีออกมาแบบไม่บอกกล่าว
“พอดีผมโดนฝนเมื่อช่วงเย็นน่ะครับ เลยปวดหัวนิดหน่อย พิธมีอะไรสำคัญจะคุยกับผมมากมั๊ย”เด็กหนุ่มเอ่ยต่อออกไปเมื่อโดนคู่สนทนาถามกลับว่าเป็นอะไรถึงไม่สบาย เสียงนิพิธที่โทรเข้ามาแม้จะดูไม่ดีนัก แต่ร่างกายเขาตอนนี้ก็เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวเด็กหนุ่มจึงไม่อาจที่จะใส่ใจใครได้
“ทะเลาะกับเพื่อน อืม อย่าคิดมากเลยครับ คนเราคบกันก็ต้องมีทะเลาะเบาะแว้งกันกันบ้าง ลองนอนพักดูก่อนสิครับ ตื่นขึ้นมาอาจรู้สึกดีขึ้นก็ได้”เด็กหนุ่มเอ่ยต่อเมื่อต้นสายที่โทรเข้ามาตอบคำถามที่เขาถามไป ก่อนเลือกที่จะวางสายเมื่อรู้สึกสติกำลังจะไม่อยู่กับตัว
“แค่นี้ก่อนนะพิธ ผมกำลังขับรถอยู่ แล้วรู้สึกปวดหัวด้วย มันอันตราย”
โทรศัพท์ถูกวางลงไปแล้วข้างตัว เวลาผ่านไปได้ซักพัก คนวางจึงหยิบมันขึ้นมาใหม่ นึกชั่งใจอยู่นานสุดท้ายก็ยอมกดเบอร์ปลายทางจนได้

ภิธารสะดุ้งนิดๆเมื่อจู่ๆเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่กำลังคิดอะไรเงียบๆ มันเป็นโทรศัพท์ของห้องที่พักอยู่ ใครโทรเข้ามา เขาไม่ได้บอกใครนี่ว่าเขาได้เข้ามานอนพักที่นี่อีกครั้ง
“สวัสดีครับ”เด็กหนุ่มเอ่ยทักทายหลังยกโทรศัพท์มาแนบหูได้
“ผมเองนะ”เสียงที่ทักกลับมาแม้จะมองไม่เห็นคนพูดแต่จิตใจก็รับรู้ได้ดีถึงสำเนียงและจังหวะการเอ่ย
“ถึงบ้านแล้วเหรอครับ”คนรับรู้เอ่ยทักอีก คนที่โทรเข้ามาแทบสะอึก
“รู้ได้ไงว่าผมจะกลับบ้าน”
“ก็..เปล่าครับ แค่เดาเอา”คำตอบที่หลุดออกไปมันไม่ตรงใจคนเอ่ยนัก ก็ใจมันอยากเอ่ยเหลือเกินน่ะสิว่า มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ แต่จะให้พูดยังไงล่ะ ประชดไปก็ใช่ว่าอะไรๆจะดีขึ้น
“ขอโทษนะที่กลับโดยไม่บอก ผมเห็นว่าคุณน่าจะมีคนเฝ้าแล้วเลยไม่อยากอยู่กวน”พาสุห์บอกไปในสิ่งที่คิด แต่แล้วต้องใจหวิวไปกับสิ่งที่โดนตอบกลับมา
“ถ้าไม่อยากที่จะเหนื่อยกับผมก็ไม่น่าที่จะเอาคนอื่นมาอ้างเลยนี่พาสุห์ แค่นี้นะครับ ผมจะนอนแล้ว”โทรศัพท์ที่แนบหูถูกวางลงที่แป้นดังเดิม คนวางนั่งนิ่งถอนหายใจ เหตุผลของคนเคยใจร้ายฟังยังไงมันก็ฟังไม่ขึ้นหรอก อย่าไปสนใจอีกจะดีกว่า

พาสุห์คิดที่จะกลับรถไปทางเดิมเพื่อเคลียร์สิ่งที่ภิธารตัดพ้อเขาเมื่อครู่ แต่แล้วเด็กหนุ่มต้องถอดใจ เมื่อรู้สึกเพลียจนไม่อาจฝืนร่างกายได้ จึงจำใจขับรถตรงเข้าบ้านอย่างเสียไม่ได้ ข้างฝ่ายภิธาร แม้จะคิดทำใจ แต่ลึกๆก็แอบผิดหวังเล็กๆที่คำตัดพ้อของเขาไม่อาจทำให้พาสุห์สะเทือนใจได้เลย คนเราถ้าแคร์กันจริงๆ โดนว่าขนาดนี้มีเหรอจะไม่พยายามมาเคลียร์ให้อะไรๆมันกระจ่าง หึ แค่โทรกลับมาฝ่ายนั้นยังไม่คิดจะทำ ทุกอย่างมันแน่ชัดแล้วจริงๆว่านายกำลังจะโดนปั่นหัวอีกรอบ ภีม


ตอนเช้า ภิธารแจ้งความประสงค์ที่จะออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปพักต่อที่บ้าน เมื่อหมอไม่ขัดข้องเด็กหนุ่มจึงเตรียมตัวที่จะกลับเองตามลำพังแต่พลันคาวีก็เข้ามาเป็นคนอาสาที่จะไปส่งที่บ้าน เด็กหนุ่มปฎิเสธในตอนแรก แต่พอเจอหน้ากับกรกฤษณ์โดยบังเอิญ บุรุษพยาบาลรายนี้กลับแนะนำให้เขาไปกับคนอาสา เขาเลยยากที่จะปฎิเสธ

ฝ่ายพาสุห์ร่างกายที่เพลียมาทั้งคืนพาลทำให้เด็กหนุ่มลุกจากที่นอนไม่ได้เลยจนถึงบ่าย พอลุกขึ้นได้ ก็ถึงกับใจหาย นี่มันผ่านไปกี่ชั่วโมงกันแล้วจากที่เขาตั้งใจจะไปหาภิธารเพื่อเคลียร์เรื่องที่โดนตัดพ้อเมื่อคืน

“ป่านนี้คิดเตลิดไปไหนแล้วก็ไม่รู้”เด็กหนุ่มบ่นกับตัวเองก่อนจะรีบลุกขึ้นทำธุระส่วนตัวแล้วบึ่งรถไปที่โรงพยาบาลทันที
“คุณคาวีพากลับไปแล้วครับ”กรกฤษณ์เป็นคนออกมาให้คำตอบให้กระจ่างเมื่อไปถึง
“เมื่อไหร่”เด็กหนุ่มถามห้วนๆ
“ตั้งแต่เช้าแล้วครับน่าจะถึงห้องพักคุณภิธารแล้วมั้ง”คนได้คำตอบเอ่ยขอบคุณคนแจ้งข่าวก่อนจะรีบบึ่งรถตามเป้าหมาย

ทางด้านภิธาร เด็กหนุ่มรู้สึกอึดอัดใจเมื่อคาวีขอขึ้นไปส่งตนที่ห้อง จึงหาทางปฎิเสธแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น

“ห้องผมมันรกน่ะครับ อย่าขึ้นไปเลย”
“ไม่เป็นไรนี่ครับ ผมไม่ถือ”
“เอาไว้วันหลังดีกว่านะครับ พอดีวันนี้ผมเพลียอยากพัก”
“ผมขึ้นไปแป๊บเดียวเองไม่อยู่กวนภีมนานหรอกครับ”
“แต่ผมไม่สะดวกจริงๆนะครับ เอาไว้วันหลังดีกว่า”
“อืม ดูภีมจะกลัวๆผมยังไงไม่รู้นะครับนี่ ผมไม่ใช่โจรนะครับ ผมเป็นลูกนายตำรวจนะ”
“ลูกตำรวจแหละตัวดี จะตื้ออะไรนักหนา เจ้าของห้องเขาไม่ให้ขึ้นก็ฟังบ้างสิ”ไม่ใช่เสียงภิธารเป็นพูด แต่เป็นเสียงของพาสุห์นั่นเองที่ดังแทรกเข้ามา แล้วเจ้าตัวก็พาร่างสูงของตัวเองไปยืนข้างเจ้าของห้อง
“มาได้ไง”ภิธารลอบถามเงียบๆ
“ทำยังกะห้องนี้ผมไม่เคยมางั้นล่ะ”พาสุห์ตอบเสียงต่ำเช่นกันก่อนจะส่งสายตาดุๆให้ ดีนะที่เขามาทันได้ยินคำปฎิเสธ แม้จะรู้สึกดีที่คนๆนี้ไม่ได้คิดเปิดใจให้คนเพิ่งรู้จักง่ายๆแต่ยังไงลึกๆในใจก็ยังอดเคืองไม่ได้ที่ยอมให้ไอ้คนขี้โอ่มันมารู้จักถึงตึกที่พัก
“ว้าตัวจริงเขามาแล้ว แย่เลย”คาวีเอ่ยขึ้นลอยๆเพื่อแยกสายตาสองคนให้ออกจากกัน ภิธารเป็นฝ่ายละสายตาก่อน แล้วเด็กหนุ่มก็หวนไปคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่พาสุห์ทำให้ผิดหวังและน้อยใจซ้ำๆจึงตัดสินใจเอ่ยบางสิ่งออกมาอย่างไม่ตรงใจตัวเองนัก
“เขาไม่ใช่ตัวจริงผมหรอกคาวี ตอนนี้ผมเองก็หายเพลียแล้วคุณยังคิดอยากที่จะขึ้นไปห้องผมอีกมั๊ยครับ”
“นี่ไม่ได้นะภีม ผมไม่ยอมนะ”พาสุห์ขัดขึ้นทันควันเมื่อได้ยินสิ่งที่ไม่อยากจะเชื่อว่าภิธารจะกล้าเอ่ย
“นี่ห้องผมนะพาสุห์ ผมจะให้ใครเข้าใครออกคุณเกี่ยวอะไรด้วย”ภิธารเอ่ยตอบอย่างไม่ไว้หน้า ใบหน้าพาสุห์ซีดเผือดไปทันที ให้ตายเถอะ อะไรเข้าสิงให้เขาเอ่ยแบบนี้ออกไป
“ผมรู้ว่านั่นห้องคุณ แต่คนที่กำลังชวนขึ้นไปคุณเองเพิ่งรู้จักกะเขานะ”
“แล้วไง คนเราถูกใจกัน ทำไมจะต้องเอาเวลามาเป็นเงื่อนไขด้วยล่ะ”
“นี่คุณหมายความว่าไงภีม อย่าบอกนะว่าคุณหลงลมปากนายนี่ไปแล้ว”
“แปลกตรงไหนล่ะ คนอย่างผมมันหลงคารมใครง่ายอยู่แล้วนี่ คุณก็น่าจะรู้”
“ไม่รู้ล่ะ คุณจะพูดยังไงก็ช่าง แต่ผมไม่ยอมให้คุณพานายนี่ขึ้นไปบนห้องที่ผมเคยมีสิทธิ์หรอก”
“คุณพูดเองนะว่าเคยมีสิทธิ์พาสุห์”
“หมายความว่าไง”
“ก็หมายความอย่างที่ผมพูดนั่นแหละครับ ไปกันเถอะคาวี อย่าเสียเวลาเลยครับ”
“ผมบอกแล้วไงภีมว่าผมไม่ยอม นั่นมันห้องที่ผมเคย..!!”
“เคยอะไร!! ถ้าจะพูดจาเลอะเทอะกลับไปซะ ถือว่าผมขอละกัน”
“ผมไม่กลับจนกว่านายคาวีนี่จะกลับ”
“เขาจะกลับได้ไง เขาเป็นแขกผมนะ”
“แล้วผมล่ะ คุณเห็นผมเป็นอะไรไปแล้วถึงไล่ผมกลับ”
“คนเคยรู้จักไง”
“ภีม มันจะมากไปแล้วนะ”
“แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ กลับไปซะ!! แล้วอย่ามาที่นี่อีก”

เงียบ บรรยากาศที่ครุกรุ่นพลันสงบไปพักใหญ่เมื่อภิธารตัดสินใจระเบิดเสียงในประโยคสุดท้ายจนดังลั่น หลายคนที่อยู่บริเวณโดยรอบเริ่มหันมาสนใจเหตุการณ์ คาวีแอบสะใจที่เห็นใบหน้าพาสุห์เจื่อนลงอย่างคนที่กำลังผิดหวังอย่างรุนแรง เด็กหนุ่มใช้สถานการณ์ที่ผู้คนกำลังสนใจบีบบังคับให้ภิธารพาตนขึ้นไปห้องพักเร็วขึ้น

“คนมองกันเยอะแล้วนะภีม ผมว่าเราขึ้นบนห้องกันก่อนดีกว่านะ”
“อยากขึ้นไปนักหรือไงวะห้องคนอื่น”พาสุห์ขัดขึ้นอีกอย่างไม่ยอมแพ้ ก่อนจะหน้าชาไปกับคำพูดที่เจ้าของห้องตอบกลับมา
“คุณต่างหากพาสุห์ที่เป็นคนอื่น”
“คุมตัวเองหน่อยสิภีม คุณเป็นอะไรของคุณ นี่ผมพาสุห์ ทำไมคุณพูดกับผมแบบนี้”
“แล้วผมต้องพูดยังไงล่ะ”
“ก็ไม่รู้ล่ะ แต่ที่คุณพูดเมื่อกี้ผมรู้สึกก็แล้วกัน”
“นั่นมันก็เรื่องของคุณ ผมเสียเวลามากแล้ว ขอตัวนะ คาวี ไปกันเถอะครับ”
“ก็ได้ภีม คุณแน่มาก ไปเลย จะขึ้นไปทำอะไรกันก็ไปเลย ผมมันไม่สำคัญกับคุณแล้วนี่” พาสุห์เอ่ยประชดออกไปเมื่อนึกใจเสียกับสิ่งที่ได้เห็น ภิธารกำลังเอื้อมมือมาจูงแขนนายคาวีนั่นชัดๆ
“ขอโทษนะที่มาขัดจังหวะการปฎิเสธเพื่อตีค่าตัวเองให้สูงขึ้นของคุณ”เด็กหนุ่มเอ่ยต่ออย่างคนผิดหวังปนโมโหที่ภิธารทำไม่สะท้านกับคำประชดของตน ได้ผล คราวนี้ภิธารชะงักหน่อยๆเมื่อเขาเอ่ยจบ แต่แล้วสิ่งที่ฝ่ายนั้นเอ่ยตอบกลับมาก็ทำให้เขาชะงักไปไม่ต่างกัน
“ขอบคุณที่ยอมเข้าใจอะไรง่ายๆนะครับ”
“โชคดีละกันนะถ้าคิดว่าครั้งนี้รักของคุณจะสมหวังอย่างที่ตั้งใจ”เด็กหนุ่มพูดออกไปอีกอย่างพลั้งปากเมื่อตั้งสติได้
“ขอบคุณนะที่อวยพร รับรองถ้าผมกับคาวีคบกันจริงๆ ผมจะไม่ยอมให้อดีตมันซ้ำรอยเดิมอีกแน่“ภิธารเอ่ยสู้อย่างไม่ยอมแพ้
“ได้ แล้วผมจะรอดู คนอย่างคุณจะมีคนทนได้ซักกี่คนกันเชียว เชิญล้อเล่นกับหัวใจตัวเองต่อไปเถอะ”พาสุห์เอ่ยรับทันควันเช่นกัน คำพูดของภิธารทำให้ใจเจ็บอยู่ไม่น้อยแล้วจะให้เขายอมไปมากกว่านี้งั้นเหรอ ไม่มีทาง!!

สองสายตามองท้าทายกันได้ซักพัก ก่อนที่คนเอ่ยประโยคสุดท้ายจะเป็นคนหลบก่อนแล้วหันหลังเดินหนีอย่างคนผิดหวัง

คาวีแสร้งเข้าไปกุมมือภิธารที่ยืนตัวสั่นสะท้านอย่างคนกำลังข่มอารมณ์บางอย่างขณะมองตามหลังพาสุห์ไป
“ขึ้นห้องนะครับ อย่าไปสนใจเขาเลยนะ ผมอยู่ทั้งคน” เด็กหนุ่มเอ่ยยิ้มๆ ยิ้มที่ไม่ได้ออกมาจากใจนัก ก่อนจะเดินตามคนตัวสั่นที่ออกเดินนำไปก่อนโดยไม่เอ่ยอะไรอีก

พาสุห์อดหันกลับมามองภาพที่บาดตาบาดใจตัวเองไม่ได้ คาวีกำลังเดินคู่คนที่เคยเป็นของเขาขึ้นไปยังห้องที่เขาเคยคุ้นเคย คำพูดร้ายๆเมื่อครู่ที่เอ่ยออกไปก็แค่รู้สึกเสียหน้าจนเกินจะทนเท่านั้น ทำไมล่ะ ภิธารไม่รู้หรือไงว่าเขาเป็นคนแบบไหน ทำไมถึงมายั่วโมโหเขาด้วยล่ะ ทำไม ?


Bboyseries

  • บุคคลทั่วไป
ภิธารอิดออดที่จะให้คาวีเข้าไปในห้องตัวเองเมื่อนำพาฝ่ายนั้นเดินมาจนหยุดหยุดหน้าประตูห้องแล้ว
“ผมขอโทษนะคาวี คือตอนนี้ผมอยากอยู่คนเดียวจริงๆ”เด็กหนุ่มเอ่ยบอกเหตุผลเมื่อเห็นคาวีชักสีหน้าไม่พอใจ
“ผมขอแค่เข้าไปนั่งพักแป็บเดียวเอง ภีมจะไม่มีน้ำใจเลยเหรอครับ ผมอุตส่าห์ขับรถมาส่งนะ”คาวีเอ่ยออกไปอย่างคนที่ไม่รู้จักคนข้างหน้าดีพอ เออหนอเด็กหนุ่มไม่รู้เลยซักนิดว่าคำพูดเมื่อครู่นั่นฆ่าตัวตายชัดๆ
“ผมไม่ได้ขอร้องให้คุณมาส่งนี่ครับ”ภิธารเอ่ยตรงๆอย่างคนที่หมดความรู้สึกดีๆ ไม่รู้หรอกว่าตัวเองด้านชากับความรักไปแล้วหรือสัมผัสบางอย่างในส่วนลึกบอกคนๆนี้คงไม่ได้ดีไปกว่าใครจึงทำให้หัวใจเฉยๆกับการเหมือนจะโดนตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเมื่อครู่ก็แค่ต้องการประชดคนบางคนเท่านั้น นึกขึ้นได้ก็ระอาตัวเองเหมือนกันที่ทำไปได้ขนาดนั้น พาสุห์จะคิดเตลิดไปไหนแล้วก็ไม่รู้
“โอเค งั้นผมไม่กวนคุณก็ได้ พักผ่อนละกัน ผมไปล่ะ”คาวีเจอคำพูดตรงๆที่ทำให้หน้าชาเข้าไปถึงยอมที่จะกลับง่ายๆ เด็กหนุ่มเดินลงจากตึกอย่างคนที่ไม่สบอารมณ์หมายนัก ก็ไหนๆเขามาถึงขนาดนี้แล้ว เขาก็น่าที่จะมีอะไรสนุกๆทำบ้างตามนิสัยชอบเปลี่ยนคู่ขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ภิธารเองก็ดูยั่วยวนชวนชมอยู่น้อยซะเมื่อไหร่ น้อยครั้งซะด้วยสิที่เขาจะได้สัมผัสและใกล้ชิดคนที่เหมือนจะหวงตัวอยู่ในที แต่เอาเถอะ แม้ครั้งนี้จะทำแต้มให้ตัวเองไม่ได้โอกาสหน้ามันก็น่าจะมีบ้างแหละน่า เฮอะ ก็เกมมันเพิ่งเริ่มนี่ จะรีบร้อนกันไปทำไมล่ะ
.
.
.
.
หลังกลับจากห้องพักภิธารพาสุห์จึงแวะไปซ้อมดนตรีที่มหาวิทยาลัยต่อ เด็กหนุ่มถอนหายใจไประหว่างทางเพราะด้วยรู้ว่าอารมณ์ตัวเองยังคงไม่สุนทรีพอที่จะเล่นอะไรที่ละเมียดละไมอย่างงั้นได้

เสียงโทรศัพท์คู่กายที่วางตรงเบาะข้างตัวดังขึ้นขณะรถกำลังจะเลี้ยวเข้าในเขตเป้าหมาย สายตาคมหันมองชั่วแวบก่อนจะปล่อยให้มันดังอยู่แบบนั้นจนมันเงียบไปเมื่อหาที่จอดรถได้

“ขอโทษนะพิธ ผมยังไม่พร้อมที่จะคุยกับใคร”เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อจอดรถเสร็จและตัดสินใจปิดโทรศัพท์โดยทันควัน
.
.
.
.
“อีกแล้วนะพาสุห์ เธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”เสียงอาจารย์ผู้ฝึกสอนดังท้วงอีกเมื่อคนที่ทำวงล่มคือคนๆเดิมที่ดูท่าจะไม่ได้เรื่องเลยซักวัน
“ผมขอโทษครับ แล้วผมจะพยายาม”พาสุห์เอ่ยเบาๆก้มหน้านิ่งอย่างรู้สึกผิด เขาตัดเรื่องที่เห็นภิธารเดินนำคาวีขึ้นไปบนห้องไม่ได้จริงๆ ป่านนี้สองคนนั้นจะทำกิจกรรมอะไรกันอยู่ เขาไม่อยากจะคิดแต่มันก็อดไม่ได้
“ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนเลยนะ เราคงรออะไรไม่ได้อีกแล้ว”เสียงผู้มีอำนาจดังลอยมาอีก คราวนี้คนรับรู้ยอมเงยหน้ามองสบตา เด็กหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อไม่ได้มีสายตาแค่คนมีอำนาจคู่เดียวที่กำลังมองตน แต่ตอนนี้ใบหน้าเจื่อนๆของเขากำลังถูกมองจากคนทั้งห้องจึงตัดสินใจเอ่ย
“งั้นผมก็ขอโทษครับที่ผ่านมาผมสร้างความล่าช้าให้โดยตลอดขอให้โชคดีครับ พรุ่งนี้ผมคงไม่มาอีก”
มีเสียงฮือจากหลายคนให้ได้ยิน แต่พาสุห์ไม่สนใจแล้วว่าเสียงนั้นจะแทรกไปในความรู้สึกใด เด็กหนุ่มตัดสินใจลุกพรวดเดินออกจากห้อง
“อะไรจะเกิดก็เกิดสิวะ”เสียงบ่นเบาๆดังพอให้ได้ยินแค่ตัวเองเมื่อใจคิดไปถึงแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนหากว่าข่าวการตัดสินใจหันหลังให้สิ่งที่โดนคนในครอบครัวฝากฝังให้ดังไปถึงที่นั่น
.
.
.
.

“ก็ได้ครับพิธ พอดีผมว่างอยู่แล้วครับ”พาสุห์เอ่ยบอกนิพิธทางโทรศัพท์เมื่อเขาเปิดเครื่องหลังจากที่ปิดทิ้งไว้แล้วเจอชื่อนิพิธโทรหาเกือบจะทุกๆห้านาที
“ที่ไหนนะครับ ร้าน.....เหรอ คือผมยังไม่อยากกลับไปเที่ยวอีกน่ะครับ เจอกันที่อื่นได้มั๊ย”เด็กหนุ่มบอกอีกเมื่อได้รับแจ้งสถานที่ที่ฝ่ายนั้นอยากให้เขาไปหา
“ห้องพิธเลยเหรอ อืม ก็ได้ครับแล้วผมจะไป”โทรศัพท์ถูกตัดสัญญาณทิ้งไปเมื่อพาสุห์เอ่ยเสร็จเป็นประโยคสุดท้าย เด็กหนุ่มถอนหายใจเบาๆ เผลอนึกคิดไปว่าทำไมคนที่โทรมาบอกว่าอยากเจอเขาไม่ใช่ภิธาร ด้วยเพราะตอนนี้เวลานี้เขาอยากเจอเจ้าตัวมากกว่าใคร
“เขาคงคิดถึงแกหรอกพาสุห์ ป่านนี้ไอ้คาวีมันกลับไปหรือยังก็ไม่รู้”เด็กหนุ่มสรุปให้ตัวเองเสร็จสรรพเมื่อคิดถึงสถานการณ์ต่างๆวนไปวนมา

.
.
.
.
.
.
พาสุห์มาถึงห้องนิพิธตอนใกล้ดึก เด็กหนุ่มเลือกที่จะให้เจ้าของห้องลงมาคุยกับเขาตรงลานพักใต้หอแทน ฝ่ายนั้นก็ทำตามอย่างว่าง่าย

นิพิธพาร่างกายผอมซูบลงมาข้างล่างจนคนที่มองเห็นแปลกใจปนตกใจ นี่มันอะไรกัน ช่วงเวลาที่เขาหายไปจากคนๆนี้ก็ไม่นานเท่าไรนี่นา ทำไมร่างกายที่เขามองเห็นถึงผอมโทรมได้ขนาดนี้
“พิธ คุณไม่สบายเหรอ”พาสุห์ลุกเอ่ยถามเมื่อคนร่างกายผอมโทรมเดินมายิ้มโรยราให้
“ก็นิดหน่อยครับ ผมดีใจนะที่คุณมาพาสุห์”นิพิธตอบเสียงแหบพร่า สายตาพาสุห์อดมองสังเกตที่หน้าตาของคนตอบคำถามไม่ได้ ทำไมมันถึงได้บวมช้ำอย่างคนผ่านการร้องห่มร้องไห้มาอย่างนี้ล่ะ ไม่สิ รอยแบบนี้คงไม่ใช่แค่ร้องให้แน่ๆ
“พิธ นี่เกิดอะไรขึ้นกับคุณเหรอครับ”คนสังเกตอาการเอ่ยถามเมื่อนึกอะไรได้ ใบหน้านิพิธเหมือนผ่านการโดนซ้อมมาอย่างไงอย่างงั้น
“ค่อยๆเล่าให้ผมฟังนะพิธว่ามันเกิดอะไรกับคุณ อาการคุณเหมือนโดนซ้อมมาเลยนะครับ”เด็กหนุ่มเอ่ยถามต่อเมื่อเวลาผ่านไปได้ซักพัก แต่คนที่ตนถามเอาแต่นิ่งเงียบก่อนเดินนำเขาไปหาที่นั่ง
“ผมไม่ไหวแล้วพาสุห์ ผมไม่ไหว ผมไม่ไหวแล้ว”นิพิธยอมเปิดปากเล่าเหตุการณ์เบื้องต้นเมื่อนั่งลงเสร็จ ก่อนจะซบหน้าลงสะอื้นกับตัวเอง พลอยทำให้คนที่นั่งอยู่ด้วยสะท้านไปด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน
“ไม่เป็นไรพิธ ผมอยู่นี่แล้ว เกิดอะไรขึ้น เล่าให้ผมฟังสิ เผื่อผมจะช่วยได้”
“แค่คุณมาหาผมผมก็ดีใจแล้วพาสุห์ ตอนนี้ผมเคว้งเหลือเกิน เขาเหมือนจะทิ้งผมไปแล้ว เขาเหมือนจะทิ้งผมแล้ว”นิพิธเอ่ยบอกปนสะอื้น พาสุห์เกิดความสงสัย เขานี่ใครกัน
“พิธ ผมว่าเราต้องคุยกันแล้วล่ะ อย่าเป็นแบบนี้เลยนะ มันไม่ดีหรอก”เด็กหนุ่มเอ่ยบอก เขาผิดสังเกตตั้งแต่ตอนรู้จักกันแรกๆแล้วว่าท่าทางนิพิธเหมือนมีอะไรแอบซ่อนอยู่ แต่ ณ.ตอนนั้นเขายังไม่อยากใส่ใจเท่าไรนัก เลยปล่อยผ่านๆไปแบบนั้น
“ผมขอโทษที่ผมไม่เคยบอกคุณ”นิพิธเอ่ยเป็นปริศนาอีก พาสุห์ถอนหายใจเอ่ยขึ้น
“ไม่เป็นไรหรอก ผมเองก็ใช่ว่าจะบอกอะไรพิธหมด”
“หมายความว่าไงครับ”
“อืม อย่าเพิ่งสนใจเลยครับเรื่องนั้น เอาเป็นว่าตอนนี้พิธอยากระบายอะไรให้ผมฟังก็ระบายมาละกันครับ อะไรๆจะได้ดีขึ้น”
นิพิธพยักหน้ารับ รู้สึกอบอุ่นขึ้นมามากโขเมื่อได้รับรอยยิ้มที่พาสุห์ส่งให้ แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยปากบอกอะไรต่อ เด็กหนุ่มก็กลับมีท่าทีลนลานเข้ามาแทนที่
“พิธ พิธ มีอะไรหรือเปล่าครับ”พาสุห์รีบท้วงเมื่อเห็นท่าทีแปลกๆนั่น
“ปะเปล่า ไม่มีอะไรครับ ผมต้องขึ้นห้องแล้วล่ะพาสุห์ ขอบคุณนะครับที่คุณมา ไว้วันหลังค่อยคุยกันนะครับ”นิพิธเอ่ยร้อนรนก่อนจะลุกขึ้นเดินแกมวิ่งไปทางห้องพักตัวเอง พาสุห์มองตามอยากแปลกใจ นิพิธทำเหมือนกลัวใครหรืออะไรซักอย่าง เหตุกาณ์ที่นี่ก็ปกติดีนี่ถ้าไม่นับว่ามีแสงไฟจากรถคันหนึ่งส่องเข้ามาที่ร่างเขาขณะที่เจ้าของรถกำลังจะเลี้ยวเข้าจอด


Bboyseries

  • บุคคลทั่วไป
หัวใจเธออาจไม่เหมือนแต่ก่อน
ไม่เคยนอนนับดาวอีกเลยใช่ไหม
เหมือนว่าเธอ ลืมไปแล้วว่าฟ้าสวยเพียงใด
เพราะเขาแค่เดินจากไปเท่านั้นเอง

ไม่มีเขาอาจดูไม่เหลือใคร
ใจเธอนั้นเจ็บสักเท่าไร

อย่าลืมว่าฉันรักเธอไม่รู้เธอลืมหรือเปล่า
ในวันที่เธอเหงาจำกันได้ไหม
ว่ามีอีกคนรักเธอ ยืนอยู่รอเธอเสมอไป
ขอให้จำเอาไว้ ว่ามีฉันที่ยังเต็มใจเพราะรักเธอ

ทุกดวงดาวอยู่ตรงนั้นอย่างเก่า
รอเธอมานับดาวอย่างในวันวาน
ฟ้าไกลๆ ก็ยังสวยเช่นเคยเหมือนทุกวัน
ไม่มีเขาก็ยังมีฉันที่รักเธอ

ให้เป็นฉันที่ยืนข้างๆ เธอ ในวันที่เธอไม่เหลือใคร

อย่าลืมว่าฉันรักเธอไม่รู้เธอลืมหรือเปล่า
ในวันที่เธอเหงาจำกันได้ไหม
ว่ามีอีกคนรักเธอ ยืนอยู่รอเธอเสมอไป
ขอให้จำเอาไว้ ว่ามีฉันที่ยังเต็มใจเพราะรักเธอ

อย่าลืมว่าฉันรักเธอไม่รู้เธอลืมหรือเปล่า
ในวันที่เธอเหงาจำกันได้ไหม
ว่ามีอีกคนรักเธอ ยืนอยู่รอเธอเสมอไป
ขอให้จำเอาไว้ ว่ามีฉันที่ยังเต็มใจเพราะรักเธอ

เสียงเพลงที่เปิดเอาไว้จบลงไปพร้อมๆกับน้ำตาคนฟังที่ไหลอาบสองแก้ม
ภิธารกรพริบตาถี่ๆเพื่อไล่หยาดน้ำตา ทำไมล่ะทำไมเวลาที่อยู่คนเดียว หัวใจเจ้ากรรมจึงมักพาลที่จะชวนร้องไห้เสียทุกครั้ง บทเพลงที่จบลงไปเมื่อครู่ก็ฟังดูอบอุ่นดี แต่ทำไมน้ำตาถึงไหลได้ ใช่สิ นั่นมันความฝันนี่ มันไม่ใช่เรื่องจริง จะมีใครกันล่ะที่จะจริงจังอะไรกะเราจริงๆ เพลงรักบางเพลงแม้เนื้อหาจะดูดีสวยงาม แต่ก็ใช่ว่าจะทำให้ทุกหัวใจยิ้มได้เสมอไป โลกนี้มันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ

โทรศัพท์บนหัวเตียงสั่นสะท้านปลุกคนเหงาให้ตื่นจากภวังค์ เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบมากดดูข้อความที่ถูกส่งเข้ามา
“ฝันดีนะครับ ผมขอโทษที่งี่เง่าเมื่อตอนเย็น อย่าคิดมากเรื่องเขานะครับ คิดถึงผม ถ้าคิดว่าคุณไม่มีใคร”
ใจทั้งใจเบาหวิวขึ้นมาดื้อๆเมื่อสายตาไล่ดูทุกตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์จนหมด
คาวี อักษรทั้งหมดในบรรทัดสุดท้ายบอกให้เด็กหนุ่มวางเครื่องมือสื่อสารนั่นลงช้าๆ คาวีเหรอ ทำไมชื่อเจ้าของข้อความไม่ใช่พาสุห์ ทำไม?


ที่ผับแห่งหนึ่งใจกลางกรุง คาวีนั่งกระหยิ่มยิ้มอย่างคนมีความคิดเจ้าเล่ห์ ข้อความที่เขาเพิ่งส่งออกไปให้ภิธารทำให้เขารู้สึกสมเพชใจอยู่ลึกๆ ก็ข้อความนั่นมันออกจากใจเขาซะเมื่อไหร่ล่ะ ภิธารเอ้ย คนโง่ๆซื่อๆอย่างคุณใครมันจะไปรักไปหลงลง ไม่แปลกใจเลยซักนิดที่ครั้งหนึ่งนายพาสุห์นั่นเคยคิดปลีกตัวออกห่าง คนอะไรเฉิ่มซะไม่มี หวงตัวหรือก็ไม่เข้าท่า คิดว่าตนเป็นนางเอกในละครหรือยังไง เข้าใกล้นิดเข้าใกล้หน่อยทำสะดิ้ง คนแบบนี้แค่คืนเดียวครั้งเดียวก็น่าจะเกินพอแหละว่ะ ถือซะว่าลองของแปลกๆใหม่ๆ

โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งทำให้คนนั่งคิดหันมาสนใจ พอเห็นชื่อคนโทรเข้ามาจึงกดรับ

“เออว่าไงวะ”
.
.
.
.


ที่ลานจอดรถด้านหน้าตึกห้องพักนิพิธ ไม่รู้เพราะอะไรจึงทำให้พาสุห์จดจ้องและยืนมองหนุ่มรูปร่างกำยำที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ตอนลงมาจากรถแล้ว มันเป็นรถคันที่เข้ามาจอดตอนนิพิธวิ่งขึ้นไปน่ะแหละมั้ง เขาเลยต้องมอง

บนห้อง นิพิธนั่งชันเข่ากอดตัวเองอยู่มุมหนึ่งอย่างคนหวาดกลัวอะไรซักอย่างที่คงจะมาเยือนเขาในอีกวินาทีเป็นแน่ รถคันที่เพิ่งวิ่งเข้ามาจอดตอนที่เขากำลังระบายอารมณ์กับพาสุห์ทำให้เด็กหนุ่มต้องเกิดอาการเช่นนี้ ภาพเหตุการณ์ในช่วงเย็นแล่นเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ

“พวกนายมาทำไม แล้วคาวีล่ะ”
“พี่คาวีติดธุระ มาไม่ได้”
“มาไม่ได้แล้วพวกนายมาทำไม”
“ก็มาแจ้งข่าวให้รู้ไง”
“แจ้งข่าวอะไร”
“พี่คาวีเจอกิ๊กใหม่แล้ว น่ารักกว่ามึงเยอะเชียว”
“ไร้สาระ ฉันไม่เชื่อพวกนายหรอก กลับไปซะ แล้วบอกคาวีด้วย มีอะไรก็บอกกันตรงๆ อย่าส่งลิ่วล้อมาแบบนี้ มันหน้าตัวเมีย”
“แหม ปากแบบนี้นี่เองพี่คาวีถึงบอกให้พวกกูอยากทำอะไรมึงก็ทำ เพราะมันรำคาญมึงเต็มทนแล้ว”
“นี่หมายความว่าไง”
 “จะหมายความว่าไงล่ะ ก็พี่คาวีบอกพวกกูว่ามึงน่ะเก่ง ฟิต พวกกูก็เลยอยากมาลองก็แค่นั้น”
“ทุเรศ ลิ่วล้ออย่างพวกนาย ไปหาเอาข้างหน้าเถอะไป ฉันไม่เล่นกะพวกแกด้วยหรอก”
“มึงไม่เล่นก็เรื่องของมึงสิ แต่พวกกูจะเล่นมึงเอง สามต่อหนึ่งแค่นี้มึงคงรับไหวมั้ง”
“ทุเรศ กลับไปเลยนะ อย่ามายุ่งกะฉัน”
“พวกกูกลับแน่แต่ขออัดมึงก่อนล่ะ เฮ้ยพวกมึงจับมันขึงเลยโว้ย”

สิ้นประโยคแค่นั้นตอนนั้นที่เด็กหนุ่มได้ยินและรับรู้ ก่อนที่สติจะหลุดลอยตอนที่โดนเข้าประชิดตัวแล้วโดนมือโดนเท้าประเคนใส่ตัว สำนึกสุดท้ายที่ได้ยินตอนสะลึมสะลือตื่นคือ
“จำไว้อย่ายุ่งอย่าตามพี่คาวีอีก ไม่งั้นมึงจะโดนแบบนี้แหละ คืนนี้กูจะกลับมาอีก แล้วอย่าสะเออะไปบอกใครล่ะมึง ไม่งั้น เละ”.
.
.
.
ก็อกๆๆ เสียงเคาะประตูห้องดังระรัวทำเอาคนนั่งตัวงอสะท้านไปทั้งตัว

“คาวี ทำไมคุณทำแบบนี้”เด็กหนุ่มรำพันกับตัวเองก่อนจะกอดตัวเองแน่นขึ้น พอๆกับเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นเรื่อยๆ

ที่ด้านนอก พาสุห์ตัดสินใจเดินตามหนุ่มร่างกำยำขึ้นมาบนตึกเพราะสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง จนเห็นว่าคนที่ตนตามมากำลังยืนเคาะห้องนิพิธอยู่จึงเข้าไปทัก

“ทำไมต้องเคาะแรงขนาดนั้นด้วยครับ”เด็กหนุ่มทัก
“เสือกอะไรวะ อยู่ห้องไหนเนี่ยมึง”หนุ่มนั้นหันมาว่า ก่อนจะหันไปเคาะห้องใหม่เสียงดังกว่าเดิม
“เคาะแบบนี้ใครจะกล้าออกมาเปิดล่ะคุณ”
“เฮ้ย ยุ่งว่ะ”คนร่างกำยำหันมาผลักอกคนที่กวนอารมณ์พลางทำท่าจะชกตาม แต่ทว่าประตูห้องถูกเปิดออกมาซะก่อนตามด้วยเสียงทักที่ทำเอามันชะงัก
“อย่าทำอะไรเพื่อนฉันนะ แกมาที่นี่อีกทำไม”
“ก็บอกแล้วไงว่ากูจะมา”คนชะงักหันมาเอ่ยเมื่อได้ยินแล้วว่าเป็นเสียงนิพิธ
“แล้วมาทำไมล่ะ กลับไป และก็บอกคาวีด้วยว่าฉันจะไม่ยุ่งกับเขาอีกก็ได้ เขามีคนใหม่ ฉันก็มีคนใหม่ได้เหมือนกัน”
“อ้อ อย่าบอกนะว่าไอ้หน้าอ่อนนี่เป็นกิ๊กใหม่มึง”
“ใช่ แล้วมีปัญหาอะไรมั๊ยล่ะ กลับไปซะ ฉันยอมทำตามที่ลูกพี่แกขอแล้ว”ท้ายประโยคพาสุห์สังเกตเห็นคนพูดตัวสั่นสะท้านคล้ายจะร้องให้อย่างเห็นได้ชัด นี่มันอะไรกัน ตะกี้นิพิธเอ่ยชื่อคาวีออกมา คาวีนี่คาวีไหน หรือว่า
“พิธ ผมอยากคุยกับคุณ”เด็กหนุ่มตัดสินใจเอ่ย นิพิธตั้งสติข่มใจเดินไปฉุดแขนคนขอคุยเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูปังใหญ่ใส่หน้าคนที่ตามมารังควาญจนมันถอยล่ากลับไป

ภายในห้อง นิพิธนั่งร้องไห้ราวกับเขื่อนแตก ก่อนจะระบายความจริงที่ปิดบังพาสุห์มาโดยตลอดฟังจนหมดสิ้น

“ที่แท้คุณก็คบกับคาวีมาก่อนจะเจอผมเหรอครับเนี่ย”คนรับฟังเอ่ยถามเมื่อฟังข้อมูลจนพอจะจับทางได้
 “ครับ ผมคบกับคาวีมาได้ระยะหนึ่งแล้วก่อนผมเจอพาสุห์ ผมยอมรับว่าผมเคยเป็นคนเที่ยวเก่ง แต่ผมก็คิดจะหยุดเพื่อเขานะ จนเราเกิดปัญหาระหองระแหงกันผมจึงเริ่มกลับไปคลายเครียดอีกครั้งจนเจอคุณน่ะครับ จำได้มั๊ยคืนที่ผมขอตัวแยกออกมาเพื่อไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาล ที่แท้ผมก็เยี่ยมเขานี่แหละครับ คืนนั้นเขาเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย ผมเฝ้าดูแลเขาจนเราเหมือนจะเข้าใจกันดังเดิม แต่เพราะอะไรไม่รู้ พอเขาหายออกจากโรงพยาบาลได้เขาก็เริ่มหาเรื่องระรานผมอีก เขาบอกเบื่อผม อยากเลิกกับผม เขาไม่เคยคิดถึงใจผมเลยว่าผมรักเขาขนาดไหน เขาเป็นคนอารมณ์ร้าย ไม่พอใจก็ลงไม้ลงมือ เตะต่อย ถ้าผมไม่รัก ผมจะทนรองมือรองเท้าเขาเพื่ออะไร ทำไมเขาไม่คิดบ้าง ผมไม่เข้าใจพาสุห์ ผมไม่เข้าใจ”
“ทำไมคุณไม่หือกับเขาบ้างล่ะครับ”
“เขาเป็นลูกนายตำรวจนะครับ ลูกสมุนเขาเยอะ ลองผมหือ ผมคงไม่โดนเขาทำร้ายคนเดียวแน่ เขาเคยขู่ว่าจะให้คนของเขามาซ้อมผมถ้าผมยังตามเขาไม่เลิก ผมคิดว่าเขาแค่ขู่ แต่เขาทำจริงๆพาสุห์เขาทำกับผมจริงๆ ผมไม่ไหวแล้ว ผมไม่ไหวแล้ว”ถึงตอนนี้นิพิธสะท้านหนักจนตัวโยน พาสุหือดไม่ได้ที่จะเข้าไปโอบกอด ทั้งๆที่ในใจเริ่มครุกรุ่นแล้วกับสิ่งที่ได้ยิน เขาเคยรู้ตัวเองว่าเป็นคนอารมณ์ร้ายมาก่อน แต่สาบานได้ว่าเขาไม่เคยมีความคิดป่าเถื่อนถึงขนาดที่จะเอาพวกมารุมซ้อมคนที่รักตน คาวี นายนี่มันเลวเหลือขอจริงๆ แล้วตอนนี้มันทำเหมือนจะมีแผนการล่อภิธารให้ติดกับมันอีก ไม่สิ เรื่องเลวร้ายแบบนี้ต้องไม่เกิดขึ้นกับภิธาร เขาเคยทำร้ายคนๆนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง เขาจะยอมให้นายคาวีมาทำหยาบช้าแบบนี้กับคนที่เขากำลังรู้สึกผิดให้ไม่ได้เด็ดขาด แต่เขาจะเข้าไปแทรกในใจภิธารดังเดิมได้ยังไงกันล่ะ เพราะดูท่าภิธารจะปิดตายประตูทุกบานไม่เหลือทางให้เขาเข้าไปแทรกได้แล้ว ใช่สิ เขายังมีกลุ่มเพื่อนนี่ กลุ่มเพื่อนที่จะต้องแยกภิธารออกมาจากนายคาวีนั่นได้ วิวรรธน์กับโอเล่รักและเป็นห่วงภิธารยิ่งกว่าอะไรดี สองคนนั้นคงไม่ยอมให้คนเลวๆแบนายคาวีนั่นได้ข้องแวะกับภิธารเป็นแน่
 
 
ที่ผับหรูใจกลางกรุงที่เดิม คาวีนั่งเข่นเขี้ยวเมื่อเพิ่งได้รับรายงานจากสมุนว่านิพิธยอมที่จะไม่ข้องแวะกับตนแล้วเพราะมีกิ๊กใหม่มาหาถึงที่ห้อง เด็กหนุ่มนึกอยากรู้ขึ้นมาตงิดว่าคนที่นิพิธอ้างว่าเป็นกิ๊กใหม่ของเจ้าตัวป็นใคร ใช่อยู่แม้เขาจะแอบโล่งใจที่นิพิธคิดที่จะสละทิ้งเขาไป แต่นิพิธจะจากไปแบบยโสแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด คนที่จะผละจากเขาต้องจากไปทั้งน้ำตาเท่านั้นไม่ใช่รอยยิ้มและถ้อยคำถากถาง!!

พาสุห์โทรไปหาซี้เก่าอย่างวิวรรธน์ในวันต่อมาถึงเรื่องที่คาวีกำลังเข้าไปข้องแวะภิธาร เด็กหนุ่มหวังเหลือเกินว่าเพื่อนจะร้อนรนเป็นห่วงคนที่เขาเองก็กำลังห่วงสุดใจ แต่ผลกลับไม่เป็นตามนั้น

“ภีมมีคนมาจีบ ก็ดีแล้วนี่ ชีวิตเขาจะได้พ้นๆจากคนเลวๆอย่างมึงซะที”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะไอ้วรรธน์ กูจะไม่ว่าเลยถ้าคนที่เข้ามาหาภีมเป็นคนดี”
“อ๋อ มึงกำลังจะบอกว่ามึงเป็นคนดีว่างั้น”
“มึงไม่ต้องมาประชดกู กูรู้ว่าที่ผ่านมากูอาจจะผิด แต่คนคิดที่จะกลับใจ มึงไม่คิดที่จะเข้าใจบ้างเหรอวะ”
“โอ้ย พวกกูเข้าใจมึงจนเกินจะเข้าใจแล้วไอ้คุณชาย”
“ไอ้วรรธน์ที่กูโทรมานี่ กูไม่ได้จะมาทะเลาะกะมึงนะ”
“แล้วกูชวนมึงทะเลาะตอนไหน”
“ก็มึงกำลังรวนกูอยู่นี่ไง”
“ก็มันน่ามั๊ยล่ะ หมาหวงก้างแบบมึง มันต้องโดนแบบนี้แหละ”
“กูจะหวงก้างหวงเนื้ออะไรมันก็เรื่องของกู นี่ไม่ใช่ประเด็นที่กูอยากให้มึงช่วย”
“แล้วไง มึงจะให้กูช่วยอะไร”
“กันนายคาวีนั่นออกจากภิธารแทนกูที”
“เฮ้ยตลกว่ะ มึงคิดได้ไงเนี่ย คนเขาจะมีคู่ ให้กูเข้าไปกันท่า บ้าหรือเปล่าวะ”
“พวกมึงยังรักภิธารอยู่หรือเปล่าล่ะ”
“นั่นมันแน่อยู่แล้ว คนดีๆแบบนั้นมีอะไรให้ต้องเกลียดล่ะ”
“ว่าแด-กูอีกแล้วนะมึง”
“เปล๊า กูพุดเรื่องจริง”
“เออ จริงก็จริง แต่กูขอร้องล่ะ มึงช่วยพาพวกโอเล่และก็เพื่อนในกลุ่มไปบอกภิธารให้กูทีว่าอย่าหลวมตัวให้ไอ้คาวีนั่น”
“แล้วทำไมมึงไม่ไปบอกเอง”
“เขาฟังกูที่ไหนล่ะ มึงก็น่าจะรู้”
“ก็เหมือนกับที่มึงไม่เคยฟังเขา”
“เออ กูมันคนไม่ดี ว่าแต่มึงจะช่วยกูมั๊ย”
“มึงกะพวกกูขาดกันตั้งนานแล้ว แค่นี้มึงก็น่าจะได้คำตอบแล้วนะไอ้พาสุห์”โทรศัพท์ถูกตัดไปทันควัน คนโทรถึงกับเข่าอ่อนใจวูบ นี่เขาโดนเพื่อนตัดขาดจริงๆแล้วงั้นเหรอ เอาเถอะ โอเล่ต้องเข้าใจเขา

“โทรมาทำไมพาสุห์”เสียงห้วนสั้นถามกลับมาทันทีที่เด็กหนุ่มกดโทรหาคนที่สมองนึกถึง
“โอเล่ ฟังฉันนะ”เด็กหนุ่มเกริ่นนำ ก่อนจะหน้าชาเมื่อโดนตอกกลับมาว่า
“ฉันไม่ว่างพอที่จะมารับฟังปัญหาอะไรของนายทั้งนั้น แค่นี้นะพ่อคนเก่ง”แล้วสัญญาณถูกตัดทิ้งไปอีกครั้ง
“โธ่โว้ย”คนถูกตัดสายร้องออกมาอย่างคนตีบตันความคิด คนเคยรักก็ตั้งท่าเล่นแง่ เพื่อนๆก็หนีหายไปทีละคน แล้วอย่างนี้ นายคาวีมันก็ทำอะไรหยาบๆได้ตามใจนึกน่ะสิหากว่ามันเกิดขัดใจอะไรขึ้นมา นิพิธ ใช่สิ ในฐานะที่เด็กหนุ่มนี่เคยคบกับนายคาวีจนรู้ไส้ เด็กหนุ่มนี่ก็น่าจะเตือนสติคนที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อรายต่อไปได้ดีกว่าใครน่ะสิ

“พิธเหรอครับ ว่างมั๊ยผมอยากคุยอะไรด้วยหน่อย”พาสุห์เอ่ยขึ้นทันทีที่โทรหาคนที่ตนต้องการขอความช่วยเหลือ
“มีอะไรครับพาสุห์”นิพิธทักกลับก่อนจะรับฟังสิ่งที่พาสุห์ยอมเปิดปากบอกตนครั้งแรก
“ได้ครับ แล้วผมจะช่วยพูดให้”เด็กหนุ่มเอ่ยรับปากเมื่อฟังเรื่องราวจากคนบอกเล่าจบ

พาสุห์ยิ้มให้กับตัวเองด้วยคิดว่านิพิธคงจะเตือนสติภิธารได้อย่างที่เขาหวัง อนิจจา เด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่า คนที่ตัวเองให้เบอร์โทรฯคนที่ตนนึกห่วงไปกำลังนั่งจับเบอร์โทรฯนั่นคิดอะไรอยู่กับตัวเอง

“คุณก็มีเรื่องปิดผมอยู่เหมือนกันนี่พาสุห์”คนจมกับความคิดตัวเองพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะไล่สายตามองตัวเลขสิบหลักที่อยู่บนกระดาษโน้ต
“ภิธาร ฉันขอพาสุห์ให้ช่วยเลียแผลใจฉันหายก่อนละกันนะ แล้วฉันจะคืนให้นาย”เสียงพึมพำดังลอดออกมาจากปากอีกครั้งก่อนที่คนพูดจะกดหมายเลขสิบหลักบนโทรศัพท์มือถือตัวเองแล้วกดโทรออกหาเจ้าของเบอร์

“สวัสดีครับ คุณภิธารหรือเปล่าครับ”
.
.
.
.
.
.
.
ติดตามตอนต่อไปนะ

ขอบคุณครับ

Boy
 
 

 

 
 

 

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

เข้ามาเป็นกำลังใจให้พี่บอย  :m4:


first117

  • บุคคลทั่วไป
 :oni2:ขอบคุณมากมายเลยคร๊าบ แล้วรีบมาต่อเร็วน้าคร๊าบบบบบบบบบบ ขอบคุณคร๊าบ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด