กลับมาแล้ว ตอนที่ 50 แล้วด้วยยย “กรี๊ดดดดด” เสียงหวีดร้องอย่างตื่นตกใจ
โครมคราม ตุ๊บตั้บ เอ๋งๆ เสียงหนีเอาตัวรอดของหมู่คนกล้า กล้ามาทดสอบกับภูตผี วิญญาณ แต่พอเอาเข้าจริงก็วิ่งหนีกันป่าราบแต่จะมีอยู่คนที่กลับไม่หนีดังเช่นคนอื่น เค้ายืนเด่นเป็นสง่า ขวางทางของเจ้าวิญญาณร้ายที่พุ่งตัวเข้ามาอย่างกล้าหาญ
“อะไรวะ ชวนมาพิสูจน์ผีแต่พอมีก็หนี โอ้ย” เจ้าผีร้ายที่ควรจะทะลุผ่านร่างเค้าไปแต่ที่ไหนได้มันกลับชนเค้าอย่างจัง
“ผู้หญิงสวยอย่างเจ้าช่างกล้านักที่ไม่กลัวผีดูดเลือดอย่างข้า”
“หือ ผีดูดเลือด ผิดเรื่องหรือเปล่าวะ บ้านร้างอย่างงี้มันต้องผีหวงบ้านหรือไม่ก็พวกที่มาตายที่นี่ซิทำไมกลายพันธ์วะ” คนถูกหาว่าสวยบ่นงึม แต่เจ้าผีดูดเลือดก็ไม่ได้ฟังกลับตรงเข้ามาโอบรัดหมายจะดูดเลือดที่ซอกคอขาวผ่อง
“เฮ้ยเจ้าเป็นชาย” อือหือไอ้ลามกเอ้ย จะงับคอเค้าแต่มือมันกลับวางแหมะที่หน้าอกซะงั้น
“เออ เป็นผู้ชายแล้วไง ไอ้ผีลามก”
“โอ้ยย” ไม่พูดเปล่ายังตบเข้าบ้องหูไอ้ค้างคาวเวรนั้นเข้าอีกด้วย แต่แทนที่มันจะปล่อยมือมันกลับยิ่งรัดแน่นเข้าไปอีก
“เจ็บนะ ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่ถ้าเป็นผู้หญิงก็เคลิ้มไปกับหน้าหล่อๆของข้าง่ายหน่อย แถมเมื่อกี้ยังเป็นลูกหลานของตระกูลที่ทำให้บ้านข้าต้องอยู่อย่างหลบซ่อนอีกด้วย แต่ได้เจ้ามาก็ดีเพราะเท่าที่ข้าได้ยินเจ้าดูจะมีความสำคัญในการสืบสกุลมากกว่านังผู้นั้น ข้าจะทำให้เจ้ามาเป็นสาวกของข้า จะอยู่ก็เหมือนตาย ฮ่ะฮ่ะ..โอ้ย” เสียงร้องที่น่าจะมาจากความตกใจมากกว่าเจ็บ ดังจากปากแวมไพร์หลงตัวเอง
“เฮอะไอ้อ่อนหัด มาเข้ามา” เหยื่อเมื่อกี้ หลุดออกมาเต้นฟุตเวิร์ก กำหมัดรอ หลังจากซัดกะโหลกแวมไพร์ไปอีกที
“ข้าไปตามหาน้องเจ้าก็ได้” แวมไพร์เตรียมแปลงร่างหนีแต่ชายในห้องรู้ตัวก่อนจึงเตะสกัดเข้าที่ข้อพับ คนจะหนีล้มลง ก่อนตัวคนเตะจะขึ้นไปนั่งทับอยู่บนหลัง
“นายลองแปลงเป็นค้างคาวซิ พ่อจะนั่งทับให้บี้เชียว เรามาตกลงกัน ถ้านายสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับน้องสาวหรือคนที่บ้านอีกนายจะเอายังไงก็ว่ามา”
“แอ็ก เจ้าลงจากหลังข้าก่อนได้มั้ย ข้าหนัก” ก่อนลงยังซัดกะโหลกแวมไพร์ไปอีกรอบ ข้อหาว่าคนอื่นอ้วน
“เจ้าชื่ออะไร ข้าซื่อเซบาส..” แวมไพร์หนุ่มพยายามผูกมิตรอย่าติดจะเกรงๆ แต่ถูกขัดซะก่อน
“แหวะ โหล เชยแหลก เซบาสเตียน ละซิ อี๋ งั้นเรียกนายว่า บาสก็แล้วกัน เราชื่อเบล”
“ง่ะตามใจเจ้าเถอะ แล้วเจ้าทำไมอยู่ๆถึงได้ เปลี่ยนใจ มาตกลงกับข้า”
“เฮ้อ เบลไม่อยากเหนื่อยป้องกัน เพราะถ้าเผลอ บาสก็คงแว็บเข้ามาได้ซักวัน แล้วอีกอย่างเบลเบื่อชีวิตที่เป็นอยู่นี่มาก ถึงมากที่สุด อีกอาทิตย์ก็จะถึงงานแต่งงานของเบลแล้ว ที่บ้านบังคับให้เบลแต่งงานกับผู้หญิงที่เบลไม่ได้รัก เบลรักผู้หญิงไม่ได้ เบลไม่อยากตกนรกทั้งเป็นไปตลอดชีวิต สู้ให้เบลตายจากไปจริงๆ จะดีซะกว่า” เสียงขมขื่น บนสะอิดสะเอียนออกจากปากคนหน้าสวย
“บาสบอกว่าจะทำให้เบลเป็นสาวก ก็หมายความว่าเบลต้องไปอยู่กับบาสตลอดไปใช่มั้ย”
“อื่อ”
“บาสจะหาเลี้ยงเบลไปชั่วชีวิต”
“อื่อ”
“บาสจะไม่ทิ้งเบล”
“อื่อ”
“บาส แบบนี้แถวบ้านเค้าเรียกว่าขอแต่งงานว่ะ และเบลตกลง”
“หา” แวมไพร์ที่หน้าซีดอยู่แล้วกลับดูเหมือนซีดลงไปอีก
“ เบลสัญญาว่านอกบ้านบาสจะเป็นใหญ่เป็นเจ้านายของเบล แต่ในบ้านคนที่ใหญ่ที่สุดต้องเป็นเบลนะ” เซบาสเตียนเผลอพยักหน้ารับเพราะมันคือกฎการครองเรือนที่ใครก็รู้
“เร็วๆ เลย จะให้ทำอะไรก็ว่ามา ต้องกัดคอดื่มเลือด หรือเบลต้องดื่มเลือดบาส หรือว่าเลือดเบล บาสกินไม่ได้ กินได้เฉพาะเลือดสาวเท่านั้น” แวมไพร์หล่อเอ๋อ ได้แต่ส่ายหน้าลูกเดียว เมื่อเจอคำถามเร็วปรื๋อ แถมเปลี่ยนอารมณ์ไม่ทันอีกคน
“เฮ้ย เอาไงก็เอาซักอย่างซิสั่นอยู่ได้หน้าหนะ เดี๋ยวปั้ด” แวมไพร์หนุ่มมือสั่นพั่บแทบทำอะไรไม่ถูก
“ข้าต้องง ดึ่ ดื่ม เลือดจากคอจะเจ้า..” แวมไพร์หนุ่มตอบอย่างหวาด แถมในใจยังนึกเกรงเจ้าคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างประหลาด
“อ้อ งั้นก็มา เข้ามา” แถมเอียงคอรออีกต่างหาก แต่แวมไพร์หนุ่มกลับยังนิ่งอึ้ง
“ เฮ้ย ชักช้าเสียเวล่ำ มาซักที” แวมไพร์โดนตวาดก็รีบกุรีกุจอ ง้างเขียวเข้ามาหมายกัดที่คอ
“อย่าให้เจ็บนะไม่งั้น สวย” เขี้ยวหด ได้แต่พยักหน้ารับหงึกๆ ก่อนจะแยกเขี้ยวอีกครั้งอย่างเกร็งๆ
เมื่อพิธีการผ่านไป เบลพื้นจากการสลบขึ้นมา อย่างเบลอๆ ในอ้อมแขนแข็งแรง ที่ค่อยวางคนตัวเล็กลงยืนบนพื้น
“เสร็จแล้วหรอ” เบลขยับแขนขาเช็คดูความเปลี่ยนแปลงแต่ดูแล้วก็ยังเหมือนเดิม เพียงแต่สถานที่จากบ้านร้างที่เข้าไปลองของกลับกลายเป็นห้องหรูหราอลังการ พร้อมเตียงสี่เสาหลังใหญ่ ขณะที่เบลกำลังเดินสำรวจไปรอบ แวมไพร์หนุ่มก็กำลังนึกเสียใจว่า เมื่อกี้ตอนที่ยังมีโอกาสทำไมตัวเองกลับไม่ดูดเลือดของเบลให้หมดตัวไปเลย จะได้ไม่ต้องมายืนหวั่นคนตัวเล็กอย่างที่เป็นอยู่
“บาส คิดเสียดายโอกาสฆ่าเบลอยู่ใช่มั้ย” เสียงที่ถามมาทำเอาแวมไพร์หนุ่มถึงกับสะดุ้งโหยง เมื่อหันไปมองคนถามก็เห็นขึ้นไปนอนเลื้อยอยู่บนเตียงอย่างยั่วยวน แวมไพร์ผู้หวาดกลัว กลับความคิดอีกครั้ง ดีแล้วที่ตอนนั้นเราเกรงเจ้าตัวเล็กนี่ เพราะดูท่าว่าชีวิตที่เหลือแม้จะต้องอยู่ในกำมือของเบลแต่ก็คงมีเรื่องสนุกสนานรออยู่เป็นแน่
“หือ ฮันนีมูนกันตั้งแต่คืนนี้เลยหรอ บาส ว้าว แจ๋ว เตียงอย่างที่ฝันเลย เบลช้อบชอบ” เบลที่นอนกลิ้งอยู่บนเตียงกระดิกนิ้วเรียกบาสให้เดินเข้าไปหาราวต้องมนต์ บาสสะบัดมือเพียงเบาๆ เทียนที่จุดให้ความสว่างอยู่ทั่วห้องก็ดับมืดลง เหลือเพียงเสียงความเคลื่อนไหวของคนสองคน
.
.
“อ๊ะ อืออ โอ้ยย อือม บะ บาส อ๊า อ๊าว ซี๊ดด อืม”
“อ๊าวว ซี๊ดด อือม อ๊า”และเสียงลมหายใจ เสียงครางอย่างเจ็บปวดปนสุขสมของคนทั้งสองให้ได้ยิน ไปจนเช้าวันใหม่
.
.
“บาส พอก่อน เบลอยากนอนแล้ว อ๊า บาสส” แม้จะเป็นยามเช้าแต่ภายในห้องก็ยังมืดสนิทเพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทำให้ม่านในห้องสามารถกันแสงและรังสียูวีได้ร้อยเปอเซ็น แวมไพร์หนุ่มสามารถหาความสำราญกับเจ้าสาวหมาดๆได้อย่างไม่ต้องหนีลงไปนอนในโลงให้เสียเวลา
เพี๊ยะ!!
“บาส พอก่อนไง เบลเหนื่อยนะ หิวด้วย” เซบาสเตียนจำต้องหยุดเมื่อเบลขึ้นเสียงอย่างเอาจริง ก็ให้รู้บ้างว่าในบ้านใครใหญ่
“งั้นเดียวข้าเอาเลือดให้เจ้ากินก่อนแล้วเราค่อยมาต่อกันนะ” แวมไพร์หนุ่มกระดี้กระด้าไปที่ตู้เก็บเลือดแล้วหยิบเอามาสองถุง
“หือ บาส ในเมื่อนายมีตู้เก็บเลือดอยู่แบบนี้แล้วทำไมเมื่อคืนถึงได้ออกไปหากินอีกล่ะ” เบลค่อยๆ ละเลียดจิบเลือดไปที่ละน้อยอย่างไม่คุ้นเคย
“อ๋อ เมื่อคืน ไม่ได้ไปออกหากินหรอแต่ข้าชอบหาดูว่าที่ไหนที่เค้าว่าเฮี้ยนข้าก็จะไปลองของดูเพื่อความตื่นเต้นหนะ แต่ส่วนใหญ่มันจะกลายเป็นข้าที่มักจะทำให้บ้านร้างตามที่ต่างๆ ดังระเบิดระเบ้อ เพราะข้าชอบตกใจตอนเจอคนแล้วมักจะแปลงกายหนี คนเหล่านั้นก็จะร่ำลือกันไปต่างๆ นานา แต่ก็สนุกดี ฆ่าเวลาที่ยาวนานได้เป็นอย่างดี และแถมยังทำให้ข้าได้เจอกับเจ้าอีกต่างหาก การฮันนีมูนของคู่รักคู่ใหม่กินเวลายาวนานไปเกือบอาทิตย์ แต่หลังหมดโปรโมทชั่น
แวมไพร์หนุ่มกลับรู้สึกอยากตายไปให้รู้แล้วรู้รอด เพราะนอกจากจะได้ออกไปจากบ้านน้อยครั้งมากและครั้งละไม่นานนอกนั้นทั้งสองคนก็ใช้ชีวิตอยู่แต่กับบ้านตลอด
“รวยหรอ เชอะคิดว่ารวยแล้วไม่ต้องทำงานหรือไง หายใจทิ้งไปเปล่าๆ ไร้สาระ เบลจะหางานให้ทำ ไม่ต้องออกไปไหนก็ทำได้ ดูนี่งานในเครื่องคอมมีให้เลือกตั้งเยอะแยะ ทำงานเสร็จ ก็เอาชีวิตที่เคยผ่านๆมา เขียนเป็นนิยายเข้า ส่งให้สำนักพิมพ์ขี้คร้านจะได้เงินเป็นกอบ อย่า มานอนอืดเป็นหมูขี้เกียจนะ” เผด็จการในบ้านช่างขยันหางานการมาโยนให้ทำจนไม่มีเวลาแม้แต่จะโอดครวญ แต่เมื่อถึงเวลาพักเจ้าเผด็จการน้อยก็กลายร่างเป็นแมวยั่วสวาทจนแวมไพร์หนุ่มหนีไปไหนไม่รอด ได้แต่ร้องครางอย่างสุขสมอยู่กับร่างเล็กไม่รู้เบื่อ.....
The end
คิดถึงคนอ่านและคิดถึงนิยายที่อ่านทุกเรื่องมากๆ เลย