สิงหาถึงกุมภา ทราบแล้วไม่เปลี่ยนโดยTRomance //ตัวอย่างหนังสือ P.101 มาแล้วค่ะ^^
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สิงหาถึงกุมภา ทราบแล้วไม่เปลี่ยนโดยTRomance //ตัวอย่างหนังสือ P.101 มาแล้วค่ะ^^  (อ่าน 812053 ครั้ง)

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
งืมม มาม่าแบบต่อเนื่อง อิๆ

aimaim

  • บุคคลทั่วไป
.... กรี๊ด~~!! เรื่องนี้น่ารักมากเลย ยิ้มไม่หุบตั้งแต่อ่านมาเลยล่ะ แต่มันอึ้งก็ตอนล่าสุดเนี่ยล่ะ ไม่คิดว่ามินตราจะคิดสั้นแบบนี้ หนีปัญหารึว่าอะไร รับไม่ได้ที่ท้องกับคนที่มีวรรณะต่ำกว่าตัวเอง รึว่าเรียกร้องความสนใจแบบโง่ๆ ไม่ว่าแบบไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องบางอย่างที่จ้างวานคนให้ไปทำและยังไม่เปิดเผยออกมานะ หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอกนะ ไม่งั้นพี่สิงห์คงตัดขาดไร้เยื่อใยแน่ๆ

( เราคนเดือนสิงหาต้องเข็มแข็งห้ามเกลียมัวนะค่ะ พี่สิงห์ ^^ )

sweet98

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงพี่สิงห์ กับน้องกุมจังค่ะ

ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
อ้างถึง
ตอนที่ 28 สิงหาถึงกุมภา...ทราบแล้วไม่เปลี่ยน

วามกังวลทั้งหลายที่เกิดจากมินตราถูกข่าวใหม่กลบซะจนมลายหายไปหมด มันตื้อไปทั้งสมองและตืบตันในลำคอจนพูดไม่ได้ ความห่วงใยถัดมาคือความรู้สึกของกุมภา
ไอ้เดือนสองยืนน้ำตาไหลอย่างไม่อายใครจนผมต้องฝ่าฝืนคำสั่งพ่อตาคว้ามือมันมากุมเอาไว้ ยัยมิกับแม่ยายผมกอดคอกันร้องไห้เป็นเรื่องเป็นราวมาก ส่วนพ่อตาผมผู้ซึ่งไม่ได้รู้เรื่องราวที่พัวพันกับพวกเรายังนั่งซึมไปเลย เด็กไร้เดียงสาอย่างหนูมีนเลยได้แต่หันไปมองคนนู้นคนนี้อย่างสงสัย
พ่อตาแม่ยายผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยกับมินตรายังสะเทือนใจจนจุกอกไปตามๆกัน แล้วคนที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อยในฐานะคนรู้จักกันอย่างผมล่ะ บอกตรงๆเลยว่าแทบจะทรุดลงไปเลยเหมือนกัน ความรู้สึกหลากหลายแต่สมองหนักอึ้งเกินกว่าจะแยกแยะได้พาลทำให้ปั่นป่วนในช่องท้อง
นานพอสมควรที่เราทุกคนตกอยู่ในความคิดของตัวเอง ยกเว้นผมที่คิดอะไรไม่ออกนอกจากกุมมือไอ้เดือนสองแน่นๆ บีบและขยำไปมาให้รู้ว่าแม้แต่โลกส่วนตัวที่มันกำลังสร้างให้ตัวเองอยู่นี้ มีผมเข้าไปขอเสือกอย่างหน้าด้านๆ ผมกับมันเป็นคนๆเดียวกันมานานแล้ว และเราก็เพิ่งตอกย้ำกันไปเมื่อกี้
ใช่!!!.....เมื่อกี้
ผมจำช่วงที่ผ่านมาได้ชัด แต่ผมกลับคิดถึงที่สิ่งกำลังจะเกิดขึ้นไม่ออก นอกจากรอให้แต่ละคนเรียกสติและวิญญาณที่หลุดลอยกลับเข้าร่าง
พ่อไอ้เดือนสองชายตามามองผมที่กุมมือลูกชายเค้าอยู่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมานอกจากก้มหน้าตามปกติ นั่นหมายถึงผมรอดตัว
“คุณครับ เราไปหาอาจารย์กันเถอะ ถึงคุณจะบอกว่าไม่เกี่ยวกับเรา แต่ถ้าเราตกอยู่ในความรู้สึกแบบนี้ ผมว่าเราก็มีส่วนเกี่ยวข้องแหละครับ”
เพราะมัวแต่พยายามสั่งให้สมองกลับมาใช้งานตามปกติ เลยไม่รู้ว่ากุมภาดีขึ้นแล้ว อย่างน้อยเค้าก็ตัดสินใจแนะนำผม แน่นอนว่าเพื่อเราทั้งคู่แน่ๆ
“กุมหมายถึงเราจะกลับกรุงเทพเพื่อเยี่ยมมินตรางั้นเหรอ”
“ครับ อย่างน้อยในฐานะลูกศิษย์ ส่วนคุณ อดีตคนรักที่ยังปรารถนาดีไงครับ”
“ไม่กลัวพี่สงสารมินตราจนกลับไปหาเธอเหรอ”
“นั่นเป็นเรื่องที่คุณต้องแยกแยะและหักห้ามใจครับ ผมเป็นคนดีแค่บางกรณีเท่านั้น และต้องไม่ใช่กรณีที่ผมจะบริจาคสามีให้ใคร”
ผมสะดุ้งโหยงเลย ไม่รู้ว่าสติมันเพิ่งกลับมาจนลืมนึกไปหรือเปล่าว่าพ่อแม่มันก็นั่งอยู่ด้วย ผมไม่กลัวว่าเค้าจะหมายหัวมันหรอก ผมกลัวว่ามันจะพาลมาที่สามีอย่างผมเนี่ยแหละ คำว่าสามีมันครอบคลุมความหมายแบบครอบจักรวาลนะผมว่า ไม่ต้องถอดค่ารากที่สองหรือแทนค่าสมการออะไรเลยก็รู้ว่าสามีหมายถึงผมกินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวลูกชายเขาไปแล้ว
แม่ยายผมยังซบหน้ากับบ่ายัยมิ
ส่วนพ่อตาผม กำลังเพ่งมองมาที่ลูกเขยอย่างคาดโทษ
‘แหะ แหะ คุณพ่อคร๊าบ ก็ลูกพ่อมันยั่วผมเลยหลวมตัวเยอะไปหน่อย’
คิดในใจ ยิ้มให้ และเกาท้ายทอยแกรกๆเหมือนไม่ได้ตั้งใจจริงๆ
ผมรู้ว่าพ่อไม่เชื่อกริยาที่ผมแสดงหรอก แต่บรรยากาศมันไม่เอื้อต่อไม้ตะพด ผมเลยยังลอยนวลอยู่ได้ แต่อยู่แบบเสียวๆสันหลังยังไงไม่รู้
“มิกับลูกรออยู่ที่นี่นะพี่สิงห์ มิทำใจกับเหตุการณ์นี้ไม่ได้อะ บอกตรงๆว่ารับไม่ได้”
ผมพยักหน้าแทนคำตอบ อย่างน้อยที่นี่ก็ยังมีปู่กับย่าคอยดูแลหนูมีน และถ้ายัยมิเลือกอยู่ที่นี่ก็ทำให้ผมหายห่วง เราใช้เวลาไม่นานสำหรับการเตรียมตัวเข้ากรุงเทพกะทันหันแบบนี้
ผมโทรถามข่าวมินตรากับคนรอบข้าง สิ่งที่รู้ทำให้สะเทือนใจมากขึ้นไปอีก
สถาพกายไม่น่ากังวลเท่าสภาพจิต ตอนนี้มินตราอยู่ในสภาพจิตใจย่ำแย่มากและอาจจะเป็นอันตรายกับลูกในท้อง
บนรถตอนนี้ ไอ้เดือนสองเปลี่ยนหน้าที่มาปลอบใจผมแทน เกียร์กลายเป็นสิ่งกีดขวางสำหรับเราไปเสียแล้ว มือข้างที่เหลือของผมถูกไอ้ปากแดงกุมอยู่ตลอดเวลา มันใช้ปลายนิ้วลูบไปมาที่แหวนผม ไม่รู้ว่าลูบเล่นเพลินๆหรือลูบเพื่อเตือนสติผมกันแน่
ระหว่างทางมีโทรศัพท์รายงานข่าวให้เราสองคนอยู่ตลอดเวลา แต่ข่าวที่ทำเอาผมต้องหันมามองหน้ากุมภาแทนรถบนถนนคือข่าวที่มินตราเขียนใบลาออกกับมหาวิทยาลัยล่วงหน้า 3 เดือน และวันที่สิ้นสุดการเป็นอาจารย์ของมินตราก็คือวันที่เธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย
แผนทุกอย่างถูกวางไว้อย่างดีตั้งแต่ต้นแล้ว มันเป็นความตั้งใจไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบอย่างที่ผมปลอบใจตัวเอง ว่าไม่ให้โกรธมินตรากับเรื่องราวที่ผ่านมาไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ผมปล่อยคันเร่งลดความเร็วของรถลงเหมือนต้องการถ่วงเวลาให้ถึงโรงพยาบาลช้าที่สุด ผมไม่ใช่เทวดานะที่จะปล่อยวางได้ อย่างน้อยก่อนจะวางก็ต้องเก็บมาคิดให้ขุ่นข้องหมองใจก่อนแหละ
เพราะสิงหาเป็นคนธรรมดาเท่านั้น!!
“กุม พี่คิดว่าก่อนหน้านี้มินตราตั้งใจจะทำลายชื่อเสียงกุมแต่ไม่สำเร็จ เค้าเลยคิดจะจัดการกุมซะ พี่คิดแบบนี้ดูเลวร้ายไปมั้ย”
ขณะที่พูด อารมณ์ผมก็ลุกโชนจนพวงมาลัยรถแทบจะแหลกคามือ แต่ก็ต้องประคับประคองอารมณ์ตัวเองให้นิ่งที่สุด บนท้องถนนถือว่าเป็นเขตอันตรายสำหรับคนใจร้อน และมันจะต้องระวังให้มากกว่านั้น เมื่อคนที่นั่งมาข้างคือคนสำคัญของชีวิต
“เพื่ออะไรครับ กำจัดผมเพื่อได้กลับไปหาคุณเหรอ ไม่ต้องลงทุนขนาดนั้น มาขอกับผมดีๆง่ายกว่ามั้ย”
“กุมจะเปิดทางให้เหรอ ถ้าเค้ามาคุยกับกุมตรงๆ”
“ไม่ครับ”
“เพราะเค้ารู้ว่ากุมไม่ยอมไง เลยทำแบบนี้”
“ถ้ากำจัดผมสำเร็จ เค้าก็กลับมาหาคุณไม่ได้อยู่ดี นี่คือชีวิตจริงนะครับ บ้านเมืองมีกฎหมาย มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ ไม่งั้นไม่พอใจหรือเห็นว่าใครเป็นเสี้ยนหนามก็สั่งฆ่าหมดสิครับ”
“มินตราถึงได้จ้างวานไง อย่างน้อยถ้าจับได้ขึ้นมาก็ยังลุ้นว่าคนทำมันจะไม่ซัดทอด”
“ถ้าอย่างนั้น อาจารย์มินตรามีคุณภาพในการสอนด้านวิชาการกับนักศึกษา แต่ไร้คุณภาพในการดำเนินชีวิตสินะครับ”
“กุมเอ๊ย อย่าหวังว่าถ้าเค้าเป็นอาจารย์แล้วเค้าจะงี่เง่าสิ้นคิดไม่ได้นะ อาจารย์ก็คือคน มีรัก โลภ โกรธ หลง ขาดสติยั้งคิดได้เหมือนกัน เค้าทำหน้าที่อาจารย์ได้ดีก็ใช่ว่าจะทำดีไปซะทุกอย่างในชีวิตนะ ทั้งพี่และกุมเองก็เคยทำไม่ดี แต่อาจจะไม่ร้ายแรงเท่าตรงที่เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนเท่านั้นเอง มันต่างกันที่ผลลัพธ์น่ะ”
“สมมุติว่าอาจารย์ทำอย่างที่คุณว่าจริงๆ ผมอยากให้คุณอภัยให้เธอนะครับ”
“หือ ทำไมขอพี่แบบนี้ล่ะ พี่โกรธนะบอกไว้ก่อน คิดจะฆ่าแกงกันมันเกินไป เกินที่พี่จะรับได้ กุมเป็นอะไรไปพี่ก็ไม่มีวันกลับไปรักมินตราหรอก มินตราเองก็ไม่ได้ทำเพราะรักพี่จริงๆแล้ว มันเอาคำว่ารักมาอ้างไม่ได้แล้ว”
“ผมขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะอีรุงตุงนังกันนะครับ หลังจากนี้เราคงต้องเดินกันคนละทาง”
“พี่ก็คิดว่าอย่างนั้น ถ้ามินตราหายเป็นปกตินะ”
ทางเดินของโรงพบาลเอกชน สวย สง่าห์ ดูดีทุกตารางเมตร แต่ก็เหงาจับใจ มันเวิ้งว้างไม่อบอุ่นเหมือนของรัฐบาลที่เดินเบียดกันจนอุ่นร้อน แต่ก็ไม่ได้หดหู่แบบนี้
คนป่วยที่ครั้งหนึ่งเคยเพียบพร้อมทั้งเกียรติ ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลรวมไปถึงหน้าตากลับนอนเดียวดายอยู่บนเตียงสีขาวในห้องกว้างตกแต่งหรูหรา พ่อกับแม่ให้้การรักษากับลูกสาวอย่างดีที่สุด แต่ไม่มาดูแล สายระโยงระยางที่ต่อเข้ากับเครื่องมือแพทย์ทำให้ระดับความโกรธของผมหายเกลี้ยง
คนที่สวยทั้งรูปร่างหน้าตาบัดนี้ซีดเซียวไปด้วยอาการเจ็บป่วย มีพยาบาลพิเศษเฝ้าตลอดเวลา เครื่องช่วยหายใจครอบปากเอาไว้เหมือนต้องการช่วยผู้ป่วยแบบทันท่วงทีถ้าเค้าต้องการจะหยุดลมหายใจตัวเอง
“คนไข้เป็นยังไงบ้างครับคุณพยาบาล”
“ปลอดภัยค่ะ สภาพร่างกายหายหมดแล้ว สำลักน้ำและขาดอากาศหายใจนิดหน่อยนะคะ คุณหมอช่วยทันค่ะ จากการตกน้ำไม่มีผลต่อสมองนะคะ แต่สภาพจิตใจส่งผลหนักอยู่ค่ะ”
“หมายความว่ายังไงครับ”
“คนไข้ไม่มีกำลังใจที่จะอยู่ต่อแล้วน่ะค่ะ เธอเลยไม่ตอบสนองพวกสิ่งเร้า เหม่อลอย เซื่องซึม มีอาการทางจิตเพิ่งจะส่งตรวจไป รอผลสรุปจากคุณหมอเฉพาะทางอีกที แต่ถ้าเธอไม่สู้เพื่อตัวเองแบบนี้ ลูกในท้องก็จะแย่นะคะ กำลังท้องอ่อนๆอันตราย”
ผมรู้ว่าพยาบาลอธิบายไปตามหน้าที่และตามอาการของมินตรา แต่เรื่องเด็ก เรื่องลูก เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนต่อกุมภามาก พอเค้าได้ยินเรื่องแบบนี้ เค้าเลยทิ้งตัวลงนั่งเหมือนคนหมดเรี่ยวแรงจนพยาบาลตกใจ
“ขอโทษนะคะ ดิฉันคิดว่าคุณสองคนเป็นเพื่อนคนไข้ ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายคนนี้เป็นแฟนหรือเปล่าคะ”
ดูก็รู้ว่าพยายาบาลเองก็ไม่มั่นใจที่จะถาม ข่าวของมินตราคงทำให้เธอไม่มั่นใจ
“เปล่าครับ ผมเป็นแค่คนรู้จัก”
ไอ้ปากแดงเลี่ยงคำว่าลูกศิษย์เพราะไม่อยากให้คุณพยาบาลรู้สึกแย่ หรือจะคิดไปอีกอย่างคือ ไม่อยากให้เอาฐานะหรือคำนำหน้าว่าอาจารย์มาริดรอนเกียรติของมินตราอีก แค่นี้ก็เกินพอแล้วสำหรับบทสรุปของคนที่อคิติและคิดร้าย ทั้งๆที่ผลเหล่านั้นมาจากการตัดสินใจของเธอเอง ถ้าถามว่าทำไมผมไม่เสียสละกลับไปคบกับเธอเพื่อให้ชีวิตเธอสมบูรณ์ดังเดิม
ผมไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้น
และมันก็รังแต่จะทำให้ไม่มีความสุขกันทั้งสองฝ่าย เพราะผมไม่มีใจให้แฟนเก่าอย่างเธออีกแล้ว ผมตัดใจได้ก่อนจะเจอกุมภาเสียอีก ส่วนเธอก็คงได้ผมไปแต่ตัว มันคงเป็นบทสรุปที่ไม่ดีนักหรอก ทางออกคือเราต้องตัดใจในสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้ว ควรมองไปที่อนาคตข้างหน้า ไม่ใช่เหลียวหลังไปมองอดีตที่มันไม่ย้อนกลับมาหาเรา
“คุณแม่ของมิินตราว่ายังไงบ้างครับ”
แม่ของมินตราเป็นผู้ดีเก่าที่เคร่งครัดในขนบธรรมเนียมที่ปฎิบัติต่อกันมา หน้าตาและชื่อเสียงคือเอกราชที่ต้องรักษาเอาไว้เสมอเกียรติที่รักษากันมายาวนาน ผมกลัวว่าแม่ของมินตราจะรับเรื่องนี้ไม่ได้ แล้วความกลัวของผมก็ต้องเกิดขึึ้น ไม่มีปาฎิหารย์เหมือนตอนที่พ่อตากับแม่ยายผมยอมรับเรื่องเราได้อีกแล้ว
“คุณแม่คนไข้มาแค่ครั้งเดียวตอนแอดมิดค่ะ เธอต้องการทราบผลว่าคนไข้มีอาการทางจิตหรือไม่ ถ้าผลตรวจออกมาว่ามี เธอจะให้เอาเด็กออกค่ะ”
“มันเกี่ยวอะไรกับเด็กครับ”
“ถ้าแม่ไม่สามารถดูแลตัวเองตอนตั้งครรภ์ได้และสภาพพจิตใจไม่พร้อม อาจจะทำให้เด็กเจริญเติบโตและมีพัฒนาการในท้องได้ไม่เต็มที่น่ะค่ะ แต่ถ้าดูแลดีๆก็ยังสามารถตั้งครรภ์ต่อไปจนคลอดได้ แต่ คุณแม่เด็กเองก็ดูเหมือนจะไม่ต้องการลูกตัวเองนะคะ”
บทสนทนาตอกย้ำน้ำตาและความสะเทือนใจของไอ้ปากแดงเพียงแค่นี้ เรานั่งคุยกับพยาบาลตามมารยาทอีกไม่นานก็ขอตัวกลับ มินตราไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะพูดคุยสารทุกข์สุกดิบได้
คอนโดผมดูเงียบและกว้างขึ้นเยอะตอนที่เราอยู่กันสองคนโดยไม่มีหนูมีน มีความเงียบจนรู้สึกเหงาเพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง สถานที่และบรรยากาศเป็นใจ แต่เราไม่มีใจจะสวีทเรื่องอะไรแบบนั้น กุมภาอาการไม่สู้ดี ผมรู้ว่าเค้าเก็บเรื่องมินตรามาคิด ลองเอาปลายนิ้วคลึงหัวคิ้วเค้าเบาๆไอ้เดือนสองก็หันหน้ามาหา
“กำลังคิดเรื่องมินตราอยู่ใช่มั้ย”
“คุณ ผมอยากให้อาจารย์เก็บเด็กเอาไว้”
“เราจะเอาสิทธิ์อะไรไปร้องขอล่ะ”
“เรารับเลี้ยงเด็กคนนั้นเองก็ได้ ใช่มั้ยครับคุณ”
มันช้อนตามองซะเศร้าสร้อยขนาดนี้ น้ำเสียงออดอ้อดถึงขีดสุดขั้นแม๊กซ์ แล้วแถมปิดทางผมด้วยคำว่า ‘เรา’ อีก ใครจะไปปฏิเสธมันได้ ผมทำอย่างนั้นกับเมียตัวเองไม่ลงจริงๆครับ ผมคงหลงเมียจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วล่ะ เมียทำอะไรไม่เคยผิดพลาด เป็นอภิชาตเมียสำหรับโจรป่าอย่างผมแท้ๆ
“มันไม่ง่ายน่ะสิกุม ถ้ามินตรามีอาการทางจิตจริง เค้าต้องไปรักษาอาการทางประสาท แล้วเรื่องบำรุงลูกในท้องไม่สำคัญเท่าเด็กที่จะเกิดมาและเจริญเติบโตในวันข้างหน้าหรอกนะ”
“คุณรับเป็นพ่อเด็กได้มั้ยครับ ถ้าอาจารย์มีอาการทางประสาท คุณจะมีสิทธิ์ดูแลลูกแต่เพียงผู้เดียว”
“แล้วพ่อแม่ญาติพี่น้องเค้าล่ะกุม แล้วถ้าอนาคตข้างหน้ามินตราหาย มาทวงลูกคืน ถ้าตอนนั้นเราเองก็รักเค้าเท่าชีวิตเหมือนที่รักหนูมีน กุมจะทำยังไงถ้าต้องเสียเค้าไปให้คนที่มีสิทธิ์ในตัวเค้าครึ่งหนึ่งเท่าที่พี่มี”
“อาจารย์จะใจดำขนาดนั้นเลยเหรอครับ จะไม่เห็นน้ำใจที่เราเลี้ยงดูลูกมาด้วยความรักเลยเหรอครับ”
“พี่มองไม่เห็นอนาคตหรอกนะ เลยยืนยันไม่ได้ ถ้าตอบอย่างใจร้าย พี่ก็ต้องบอกว่าไม่ไว้ใจ เพราะครั้งหนึ่งเค้าเคยคิดร้ายกับกุม”
“ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดนี่ครับว่าอาจารย์ทำแบบนั้นจริงๆ เค้าอาจจะว่าจ้างทำอย่างอื่น”
“จะว่าจ้างทำอะไรก็เป็นเรื่องไม่ดีทั้งนั้นแหละกุม”
“แต่ผมสงสารเด็ก ถ้าเค้าไม่ได้ลืมตาดูโลก ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดของเค้าเลย ผมอยากคุยเรื่องนี้กับอาจารย์จัง”
ผมได้แต่ลูบหัวกุมภาด้วยความเอ็นดูและเห็นใจเต็มที่ ผละเข้าห้องไปเตรียมน้ำให้เค้าอาบเผื่อจะสดชื่นขึ้น
มันจะง่ายกว่านี้มากถ้าเด็กคนนั้นเกิดจากผมที่พลาด มันจะง่ายกว่านั้นมาก ถ้าใครคนใดคนหนึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องเหมือนที่กุมภามีตอนเกิดเรื่องหนูมีน แต่นี่เราเป็นคนนอกโดยสมบูรณ์ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่คิดไปได้หลายทางโดยมีเด็กหนึ่งคนเป็นเดิมพัน ไม่ใช่ผมไม่สะเทือนใจกับสิ่งที่รับรู้ แต่บางครั้งการเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องมากไปก็เป็นทุกข์
แต่มันจะทุกข์หนักตรงที่ผมแบกความทุกข์ของตัวเองแล้วแถมเอาความทุกข์ของไอ้เดือนสองมาทุกข์ด้วยนี่แหละ ถ้าไม่ใช่เพราะทั้งผมและมันไม่มีใครมีมดลูกเลยสักคน ผมก็คงจะขยันเสกลูกเข้าท้องมันอยู่หรอก เอาเถอะ ถึงจะเยอะจนตั้งทีมฟุตบอลได้ผมก็เลี้ยงไหว แต่นี่จะเอามดลูกจากไหนมาฝังตัวเด็กล่ะ จะพึ่งยัยมิอีกมันก็คงไม่ยอม วันข้างหน้ามันก็คงจะอยากเลี้ยงลูกเองบ้าง ทุกวันนี้มันก็บ่นว่าผมกับกุมผูกขาดลูกมัน
“กุม ไปอาบน้ำเถอะ พี่ทำน้ำอุ่นไว้ให้ อาบแล้วจะได้สบายตัวนะ”
“คุณอาบให้หน่อยได้มั้ย ผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแล้วอะ อยากจะล้มตัวลงนอนทั้งแบบนี้ด้วยซ้ำ”
นี่ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ร่วมสถานการณ์กับมันมา ผมนึกว่ามันยั่วผมนะเนี่ย มีอย่างที่ไหนมาให้สามีอาบน้ำให้ นี่มันชี้เล้าให้หมูชัดๆ แต่ผมรู้ดีว่าไอ้ปากแดงมันคิดได้ไม่ลึกเท่าผมหรอก เพราะมันคงไม่มีใจจะไปคิดอะไรแล้ว
“งั้นอาบพร้อมกันเลยนะ”
“ครับ”
อุวะ!! มันยอมรับง่ายดายจัง ปกติมันจะต้องหรี่ตามองผมว่าตาผมจะฟ้องแผนหื่นกามอะไรออกมา แต่วันนี้มันรับคำแบบไม่ผ่านขบวนการกลั่นกลองเลย เวลามันปล่อยตัวปล่อยสติแบบนี้มีแต่ความไร้เดียงสา ผมก็หักหาญน้ำใจหรือบังคับใจมันไม่ลงหรอก ได้กอดได้หอมนิดๆหน่อยๆก็เอาแล้ว วันนี้ปลาได้ตอด วันหน้าต้องมีวันที่ปลาได้งับเหยื่อบ้างแหละ
ปาดเหงื่อและถอนหายใจให้กับชะตากรรมตัวเองแล้วก็จัดการเปลื้องผ้ากุมภาที่มันยอมทำตามคำบอกผมว่าให้ยกส่วนไหนขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการลอกคราบ
“ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา”
พอตัวมันลงนั่งแช่ในน้ำก็ถอนหายใจออกมาเหมือนได้ปลดปล่อยบางสิ่งบางอย่างที่มันหนักอึ้งอยู่ในสมองไปบ้างแล้ว
ไอ้ปากแดงมันตัวขาวเนียนจริงๆนะ พออุณหภูมิเปลี่ยน สีสรรตามตัวมันก็ฟ้อง นี่แค่น้ำอุ่นอุณหภูมิกำลังผ่อนคลาย มันตัวแดง หน้าแดงหูแดงจนเห็นชัด เหมือนตัวจะสุกเสียให้ได้ ส่วนผม สิงหาก็เป็นสิงหาแหละครับ ผิวหน้าผมด้านขนาดไหน ผิวหนังผมจะคูณอะไรก็เอาตามที่คิดไว้ในใจเถอะครับ ผมชิน!!
พอมันปล่อยอารมณ์ทิ้ง มันก็เริ่มตีน้ำ แต่ตาเหม่อลอยเหมือนหาเรื่องใหม่มาคิดอีกแล้ว ผมเอาสบูถูไปตามตัว มันก็หันมาส่งยิ้มให้ แล้วก็หันไปคิดอะไรของมันต่อ ตัวกุมภาไม่ค่อยมีมัดกล้ามของผู้ชายเลย แต่จับแล้วก็เป็นเนื้อแน่นๆ ไม่เหลว ผมสำรวจมันเสียเพลิน ต้องอาศัยสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะไร้กาละเทศะแบบนี้แหละสำรวจมัน เพราะนอกเหนือจากนั้น มีเหรอครับที่เมียสิงห์จะยอม มันก็ร้ายพอๆกับสิงห์นั่นแหละครับ ไม่งั้นจะอยู่กันได้เหรอ
ทำไมผมถึงมีอารมณ์สุนทรีย์เวลาอยู่กับกุมภาทั้งๆที่เราผ่านเรื่องมาหนักหนาสาหัส คำตอบของผมคือ แยกแยะ ไม่มีทางที่สิงหาจะเอาเรื่องคนอื่นมาคิดตลอดเวลา ผมว่าเรากำลังใช้พลังงานของสมองมากเกินไปคนที่แย่ที่สุดคือเรา คิดเท่าที่สมควร คิดให้มีสติบ้าง แต่ก็นั่นแหละ เหมือนตัวเองจะปล่อยวางหรือแยกแยะได้ แต่บางเรื่องผมก็ไม่เอาไหนเหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่เริ่มเหม่อลอยอีกแล้ว
“กุม”........................“ครับ”
“ดีขึ้นหรือยัง”
“นิดหน่อยแล้วครับ คุณ ผมคิดว่าผมจะไปคุยกับพ่อแม่อาจารย์เรื่องเด็กดีมั้ย”
ไม่ดี ไม่มีอะไรเลยที่เข้าข่ายดี ให้เค้าจัดการเรื่องนี้กันเองในครอบครัวเถอะกุม เรื่องครอบครัวของเราก็ยังมีอีกเยอะที่ต้องจัดการนะ ผมต่อต้านสุดลิ่มทิ่มประตูเลยกับเรื่องนี้
แต่ปัญหามันอยู่ที่ ผมได้แต่ต่อต้านความคิดนี้ของไอ้ปากแดงอยู่ในใจ



อัพซ่อมแซมข้อมข้อมูลที่หายค่ะ  เป็นฉบับที่อยู่ในเมลล์เซ เลยยังไม่ได้แก้คำผิดตามที่คนอ่านช่วยแก้ให้นะคะ ขอโทษค่ะ

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
น้องกุมภ์น่ารักอ่ะ...แต่ถ้าเจอแบบนั้นจริงๆก็คงต้องช่วยๆเหลือกันนะ

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
ยังไงก็คิดดีๆนะ  พี่สิงห์ก็ห้ามเมียบ้างดิ

lovely1714

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
น้องกุมภาเป็นคนดีจริงๆ o13

ออฟไลน์ viky_mama

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
พี่สิงนี่เข้าข่ายกลัวเมียนะเนี่ย

ออฟไลน์ POPEA

  • Blood Type :: Y
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • http://writer.dek-d.com/popae/writer/view.php?id=794488
ชอบเดือนแปด + เดือนสอง
:กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






iPuii

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1:น้องกุม หนูช่างเป็นคนดีเสียจิง ชักอยากได้น้องเดือนสองมาเป็นของตัวเองซะแล้วสิ  :man1:
*//ผั๊วะ// พี่สิงห์บ้องหัวหนูทะมายยยย หนูแค่นึกเองงง แค่นึกเค้าใจม๊ายยย  พี่สิงห์: แค่นึกก็ไม่ได้โว้ยยยยย*


*กลั่นกลอง=กลั่นกรอง


 :กอด1:

Titatis

  • บุคคลทั่วไป
อ่าาา พี่กุมเป็นคนดีจังครับ วู้ๆๆ

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
น้องเดือนสองเค้ามีสัญชาตญาณความเป็นแม่เต็มเปี่ยม
เป็นคนที่จิตใจดีมากกก น่าดีใจแทนพี่เดือนแปดจริงๆ

- คราส -

  • บุคคลทั่วไป
พึ่งตามอ่านจบ
เดือนสองน่ารักมาก  :-[
 o13

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
มารอ มาดัน
พี่สิงห์ น้องกุมภ์  :L2: :L2:

sweet98

  • บุคคลทั่วไป
มารอ พี่สิงห์ น้องกุมภ์  เหมือนกันค่ะ
รู้มั้ยว่าคิดถึงมากนะจ๊ะ  :call:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
เย้อ่านทันแล้ว
หลงรักกุมโดยไม่รู้ตัว
แบบว่ากุมน่ารักมากเลย
เกินคำบรรยาย
 :กอด1: :L1:

tamekung

  • บุคคลทั่วไป
คอมเม้นซ่อมบ้าง  :-[
อ่านกี่รอบน้องกุมก็ยังน่ารักแล้วลุงสิงห์ก็ยังหื่นตามสไตล์ 555
เป็นกำลังใจให้ผ่านปัญหาทุกอย่างไปได้ด้วยดีค่ะ  :กอด1:

nam_lah

  • บุคคลทั่วไป

nona159

  • บุคคลทั่วไป
กุมนี่น่ารักจริงๆเลยน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






aimaim

  • บุคคลทั่วไป
=w= เซกิกะคนเขียนบ้านน้ำท่วมไหม? เป็นห่วงจัง เพิ่งได้ใช้เน็ต ตอนนี้ลี้ภัยมาเมืองเลยเจ้าค่ะ รับรองน้ำไม่ท่วม!! แม่บอกว่ามันมาแล้วก้ไป เราเป็นเพียงทางผ่าน ที่น้ำไม่อยากอยู่ เหอๆๆ

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4

ออฟไลน์ mizzmizz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
รอน้องกุมภ์ กับพี่สิงห์อยู่นะค้าาาาา

runynam

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ได้เข้ามาอ่านสักักเพราะติดสอบ
และก็ดันลืมซะงั้นว่าอ่านถึงไหนแล้ว เลยต้องหาตอนจ้าละหวั่น
ได้อานแล้วอิจฉาพ่อสิงห์ของเราจริงๆ
พ่อตาแม่ยายก็ยอมรับแต่โดยดี แถมมีจัดงานแต่งด้วย o18
น่ารักมาก เสียอย่างเดียว ยัยมินตรานี่ขยันสร้างปัญหานะ
แต่ก็สงสารเหมือนกันที่เป็นแบบนี้
แต่ว่า น้องกุมภ์ใจดีไปไหมที่ไปรับลูกมินตรามาเลี้ยงอ่ะ
 :เฮ้อ:ต้องรอดูกันต่อไป
 :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ CHADMM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
คิดถึงพี่สิงห์กับน้องกุมแล้ววววค่า

รีบมาต่อไวๆน้า   

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
คิดถึงจังเลยยยยยยยยยยยยยย
 :catrun:

ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
ตอนที่ 29 สิงหาถึงกุมภา ทราบแล้วไม่เปลี่ยน

“พีสิงห์กลัวเมียนี่นา ฮ่าๆ”
“แกจะหัวเราะเสียงดังทำไมวะ สะใจเงียบๆไม่เป็นหรือไง”
“โอ๊ะ มินขอโทษ แต่มันขำจริงๆนะพี่สิงห์ ไม่เห็นด้วยแต่ไม่มีปัญญาจะห้ามพี่กุมเนี่ยนะ”
“เออ กูกลัวไอ้ปากแดงมันจะเสียใจ”
“อานุภาพแห่งรักนี่มันยิ่งใหญ่จริงๆ”
อยากจะปากร้ายให้สมกับที่หมั่นไส้น้องตัวเองมากกว่านี้ อยากจะย้อนถามเหมือนกันว่าใครล่ะที่มันเคยแอบชอบไอ้ปากแดงทั้งๆที่รู้ว่าไอ้ตัวดีนั้นชอบผู้ชายอยู่ก่อนแล้ว ไม่อยากจะคลุกวงในหรอกนะ เดี๋ยวยัยมิจะสวนกลับมาให้หน้าหงายอีกว่า หนูมีนที่ผมกับไอ้ปากแดงอุ้มชูอยู่นั้น เป็นผลผลิตของมันกับกุมภา
“แล้วพี่สิงห์จะเอาไงต่อ”
“ไม่รู้ว่ะ”
“อ้าว”
“อ้าวอะไรล่ะ ก็คิดอะไรไม่ออก”
คิดอะไรไม่ออกจริงๆครับ ตอนเรียนสถาปัตย์อาจารย์ก็ไม่ได้สอนด้วยสิ ว่ากรณีเมียและแฟนเก่าเข้ามาเกี่ยวข้องอีรุงตุงนังในเรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ต้องทำยังไง ความอ่อนไหวของคนที่มีหัวอกคนเป็นพ่ออย่างไอ้ปากแดงนั้นมีมากแค่ไหนผมก็รู้ดี ส่วนคนที่เป็นพ่อจำเป็นอย่างผมนั้นคงไม่มีวันรู้ได้เท่าทันไอ้ปากแดงแน่ๆ
เสียงหัวเราะของหนูมีนคือเสียงที่ทำให้ผมและยัยมิต้องหยุดประชุมเครียดระหว่างพี่น้องกันไปก่อน เราสองคนพี่น้องย่องเงียบชนิดตีนแมวต้องโค้งคำนับให้มายังห้องนั่งเล่นห้องเล็กๆที่คุณแม่ไอ้ปากแดงเนรมิตให้เป็นห้องพักผ่อนของหลาน
บนพื้นกันลื่นสีสันสดใสที่ต่อเรียงรายกันเป็นจิ๊กซอว์มีหนูมีนนั่งเป็นประธานนางฟ้าตัวน้อย ระหว่างขาป้อมมีชามข้าวรูปการ์ตูนตัวเต่าวางอยู่ มีข้าวเหลือติดชามอยู่เล็กน้อยแต่กระจายเป็นวงกว้างในพื้นที่รอบๆแทน หนูมีนกำลังเล่นชามข้าวตัวเองอย่างสนุกสนาน แต่คนดูแลที่คอยป้อนข้าวนั้นกลับเหม่อลอยทั้งๆที่ยังถือช้อนข้าวลูกค้างเอาไว้
“พี่กุมเป็นเยอะนะพี่สิงห์”
ผมพยักหน้ารับด้วยใจหม่นหมองเต็มที่ ไม่รู้จะโทษให้เป็นความผิดของใครนอกจากชะตากรรมที่เราต้องมาประสบด้วยกัน ยัยมิเดินเข้าไปอุ้มหนูมีนออกไปอาบน้ำ ข้าวที่คลุ้งไปด้วยกลิ่นไข่ติดขึ้นไปถึงบนหัว ส่วนพ่อของลูกคงต้องเป็นหน้าที่ผมที่ต้องดูแล
เพียงแค่ฝืนดึงช้อนที่ค้างคามือออกมาไอ้เดือนสองก็ทำตาปริบๆใส่ผมเหมือนเพิ่งตื่นจากฝันแล้วยังงงๆอยู่ มันมองหน้าผมสลับกับช้อนในมือด้วยอาการสงสัย ก่อนจะสะดุ้งเพราะคิดได้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเองทำอะไรอยู่
“ยัยมิเอาหนูมีนไปอาบน้ำแล้ว แกเล่นข้าวจนเลอะไปทั้งตัว”
“เพราะผมใช่มั้ยครับคุณ”
เพราะจิ้งจกบนฝ้าเพดานมั้ง!!
ถ้าผมพูดออกไป ประโยคน่ารักๆนั่นจะเป็นคำหยาบคายที่ส่งผลให้ต้องนอนคนเดียวไปอีกหลายวันแน่ๆเลยเชียว ผมอยากจะตามใจทุกความคิดและความต้องการของกุมภานะ สภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้อึดอัดใจมาก แต่สิ่งแวดล้อมรอบข้างมันไม่ง่ายที่จะตัดสินใจอะไรเพียงแค่ความรู้สึกสลดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ถึงแม้อย่างน้อยเหตุการณ์นี้จะทำให้ผมรู้ว่า ผมถางป่าตามหาเพชรแท้เจอแล้ว และผมต้องรักษาไว้ถึงแม้ต้องแลกกับคำว่าไม่ใช่ผู้ชายก็ตาม
“คุณครับ”
เจอช้อนตามองแบบนี้เข้าไป เล่นเอาเคลิ้มเลยนะ สติสัมปัชชัญญะดับวูบ
“หืม”
“คุณรักผมมั้ย”
มันเป็นคำถามง่ายๆที่ตอบออกมาให้ตรงอย่างใจลำบากนะ อย่างแรกคือ สิ่งที่ตามมาหลังจากที่ผมตอบมันไปว่ารักสุดหัวใจคืออะไร นี่ต่างหากที่ทำให้ผมกลืนน้ำลายลงคอได้ลำบากโคตร
“คุณคิดนานนะ”
ผมไม่ได้คิดอะไรเลย เป็นคำถามที่ตอบได้โดยไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ แต่ที่เงียบไปนานเป็นเพราะพี่สิงห์กำลังทำใจรับสิ่งที่ตามมาครับเมีย
“ระ รักสิ ถามแบบนี้ทำไมเหรอ”
“ผมอยากได้ความมั่นใจ”
ตาเบิกโพลงเหมือนคนเห็นผี นี่มันยังไม่มั่นใจอีกเหรอ แค่ที่ผมกล้าเสี่ยงต่อลูกตะกั่วพ่อตานี่ยังไม่เพียงพอต่อคำว่ารักที่มันรับรู้ได้อีกเหรอ เดี๋ยวพ่อลากเข้าห้องแล้วถามย้ำด้วยเทคนิคเฉพาะตัวซะเลยนี่
“มีอะไรที่พี่ทำให้กุมไม่มั่นใจอีกเหรอ”
หย่อนโทนเสียงประหนึ่งพระเอกกำลังน้อยใจ กะว่าให้ดูน่าสงสารแบบพอดีๆ ให้อีกฝ่ายรู้ว่าผมกำลังหน่วงในอกกับคำถามนี้แค่ไหน เอาให้ไอ้เดือนสองมันฉุกใจคิดการที่ผู้ชายตัวใหญ่ๆ ถึกๆล่ำๆอย่างผมแสดงโหมดอ่อนแอออกไปจะต้องเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อจิตใจมาก มากจน
อ้าว!! ไอ้เดือนสองมันหายหัวไปไหนแล้ววะ กำลังสั่งน้ำตาเหมือนกบสุวนันท์อยู่เลย ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาแล้วไม่เห็นไอ้เดือนสองอยู่ตรงหน้า วูบหนึ่งของความรู้สึกคือใจกระตุกขึ้นมาจริงๆ มันวูบโหวง มันใจหาย ทั้งๆที่มือผมยังกุมหน้าอกตัวเองไว้แน่นว่าต้องมั่นใจในรักครั้งนี้ เรามาไกลกันถึงขนาดจะแต่งงานใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอยู่แล้ว
ผมเดินคอตกออกมาด้านนอก ไอ้เดือนสองไวยิ่งกว่าลิงอีก มองหาอีกทีก็ไม่เจอมันแล้ว ไม่รู้หายหัวไปไหนของมัน ผมเองก็ห่อเหี่ยวเกินกว่าจะร้องเพลงข้ามภูเขาตามหามันเหมือนในหนังอินเดียแล้ว
จุดหมายที่ผมตั้งใจจะไปนั่งพักเพื่อให้ทีวีช่วยกลบเกลื่อนความรู้สึกหม่นหมองนี้ซะ ถ้าหากผมยังจมอยู่กับความหน่วงในอก ผู้ใหญ่อย่างผมก็คงไม่ต่างอะไรกับกระต่ายตื่นตูมดีๆนี่เอง แทนที่คนไม่มั่นใจในรักจะเป็นไอ้เดือนสอง มันจะกลายเป็นพี่เดือนแปดไปเสียฉิบ
รู้ตัวว่าตัดสินใจผิดพลาดอย่างแรงก็ต่อเมื่อพาตัวเองเข้ามาครึ่งห้องนั่งเล่นแล้ว  เกิดภาวะจะกลับตัวก็ไม่ได้แต่ถ้าเดินไปก็อาจจะสมาธิขาดผึง ลมปราณแตกซ่านเพราะมีการเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์รวดเร็วเกิน
“วันนี้ก็ดีนะคะคุณแม่ เลขวันเลขเดือนสวย เรายังเก็บไว้ลุ้นหวยอีกด้วยนะคะ”
ผมขมวดคิ้วให้กับเสียงบาดแก้วหูที่คำว่าคุณแม่ ยัยมิเรียกแม่ไอ้ปากแดงได้สนิทสนมได้น่าหมั่นไส้จนต้องเบะปาก ผมเจ้าบ่าว ไอ้ปากแดงก็เจ้าบ่าว แล้วยัยน้องสาวตัวดีมันมาเจ้ากี้เจ้าการอะไรของมันเนี่ย
“แม่ว่าวันนี้ดีกว่านะ ตรงกับวันหยุด สะดวกกันทุกฝ่าย”
แล้วสองสาวที่ก้มหัวชนกันเพื่อดูกระดาษหนึ่งแผ่นก็ฉีกยิ้มกว้างให้กันแล้วพยักหน้าหงึกหงักเหมือนยอมรับกับคำแนะนำของอีกฝ่ายซะเต็มประดา
ในขณะที่เจ้าบ่าวคนหนึ่งกำลังหม่นหมองกับเรื่องของคนอื่นตามประสาหัวอกคนเป็นพ่อที่อ่อนไหวกับเรื่องลูกเป็นอันดับหนึ่ง และเจ้าบ่าวอีกคนอย่างผมกำลังถูกเมินด้วยเรื่องอะไรไม่รู้โดยสมบูรณ์แบบ แต่แม่ยายที่เคารพรักกลับเดินหน้าหาฤกษ์จัดงานให้ผมกับกุมภาแบบไม่มีหวั่น ที่สำคัญไปกว่านั้น แม่ยายผมสามารถเอาฤกษ์ดีที่แต่ละที่ให้มาคอมแพร์กันอย่างเมามันโดยมียัยมิเป็นลูกคู่
“จัดงานวันไหนไม่ใช่ประเด็นหรอกคุณ วันที่เพิ่มเข้าไปนิดเดียวก็ได้แล้ว แต่แบบการ์ดเชิญสิ ดูกันแล้วหรือยัง จะเอากี่แบบล่ะ สำหรับเพื่อนฝูงแบบนึงแล้วสำหรับแขกเหรื่อผู้ใหญ่อีกแบบนึงหรือเปล่า”
ผมตกตะลึงแทบไม่เชื่อหูว่านั่นคือเสียงว่าที่พ่อตา ผมนึกว่าตัวเองเหม่อลอยจนต้องหยิกเนื้อตัวเองเพื่อเรียกสติ ทุกคนตื่นเต้นเหมือนเป็นงานแต่งงานที่มีบ่าวสาวตามปกติ นี่ทุกคนเลือกที่จะมองข้ามหรือลืมไปกันแน่ว่างานแต่งครั้งนี้มีแต่เจ้าบ่าวกับเจ้าบ่าว แล้วไหนพ่อตาผมบอกว่าจะไม่จัดอะไรเอิกเริกไง แล้วถึงขั้นมีการ์ดนี่มันเป็นงานเงียบๆตรงไหนไม่ทราบ
“เรื่องนี้ต้องถามพี่กุมกับพี่สิงห์ค่ะ อ้าว พี่สิงห์มาพอดี มานี่ๆ”
ผมเลยต้องเดินเข้าไปหาอย่างช่วยไม่ได้ ผู้ใหญ่สองคนมองมาทางนี้เป็นตาเดียว
“ออกแบบการ์ดเชิญหรือยัง”
ส่ายหน้าเป็นหมาถูกเจ้าของทิ้งเลยผม ถามว่าไอ้เดือนสองมันยังจะร่วมหัวจมท้ายกับผมมั้ยดีกว่า
“เป็นอะไรอะ ทะเลาะกับพี่กุมเหรอ”
“เปล่า”
“แล้วเป็นอะไร”
“เป็นพี่ชายแกไง”
“มุกนี้ไม่ตลกเลยนะ อายคุณลุงคุณป้าเค้า”
ผมก็ไม่อยากเสียมารยาทหรอก แต่ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี มันเรียบเรียงคำพูดที่ให้คนรอบข้างเข้าใจได้ยาก เพราะผมเองยังอธิบายให้ตัวเองเข้าใจไม่ได้เลย
“เหมือนกุมจะเอาความมั่นใจจากพี่เพื่อตัดสินใจอะไรบางอย่างเลยว่ะ”
“เราไปคุยกันในห้องมั้ยพี่สิงห์ เดี๋ยวคุณลุงคุณป้าจะไม่สบายใจ”
ยัยมิโผมากระซิบกระซาบกับผมแลวหันไปส่งยิ้มแห้งๆให้กับพ่อแม่กุมภา เราใช้หนูมีนเป็นข้ออ้างที่จะปลีกตัวออกมา กว่าจะหลบผู้ใหญ่มาถึงห้องพักส่วนตัวได้ เล่นเอาอยากอัดบุหรี่เข้าปอดสักตัว สองพี่น้องถอนหายใจพร้อมกันเมื่อทางสะดวกสำหรับเรื่องที่ผมอยากจะปรึกษา
“ตกลงเกิดอะไรขึ้นเหรอพี่สิงห์ ชีวิตพี่นี่นารีเป็นอุปสรรคจริงๆนะ”
“เฮ้อ พี่จะเริ่มยังไงดีวะ”
“เรื่องพี่มินเหรอ”
“ก้ำกึ่งว่ะ มันก็เกี่ยวข้องกันอยู่ กูไม่รู้จะเริ่มยังไงจริงๆนะเว้ยยัยมิ”
“พี่ก็ข้ามไอ้ที่หวานๆหวีตๆกันไปก็ได้ มิรู้ว่าพี่สิงห์อาย เอาเรื่องที่ทำให้พี่สิงห์รู้สึกไม่สบายใจอะ”
“พี่รู้สึกว่ากุมเค้าจะเดินหน้าเรื่องลูกมินตราอะ”
“พี่กุมจะรับลูกพี่มินมาเลี้ยงเหรอ”
“อืม ห้ามแล้ว ชักแม่น้ำทั้งประเทศไทยก็แล้ว แอบขโมยแม่น้ำของพม่าด้วยก็แล้ว แต่มันไม่ง่ายนะเว้ย ฝ่ายมินตราเค้ามีพ่อแม่ แล้วเรื่องเด็กมันไม่ง่ายเหมือนซื้อขนมสายไหมนะมึง”
“มิเข้าใจความยุ่งยากในหลายๆเรื่อง แต่พี่กุมคงมองไปถึงสิทธิ์ที่เด็กตาดำๆควรจะมีเพราะเค้าไม่ผิดอะไรอะพี่สิงห์ เหมือนตอนหนูมีนไง”
“พี่เข้าใจนะ ถ้าในโลกนี้มีแค่มินตราคนเดียวมันจะง่ายกว่านี้ ถึงอนาคตมินตราจะหายเป็นปกติเรื่องมันจะไม่ยุ่งยากอะไรเลย แล้วอีกอย่างที่พี่กลัวก็คือเค้าจะให้พี่เข้าไปเกี่ยวข้องกับมินตราอีกน่ะสิ”
“เกี่ยวข้องยังไง”
“ก็ตอนแกท้อง กุมภามันไม่มีโอกาสได้ดูแลแกตอนท้องเลย เหมือนไม่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันก่อนลูกจะลืมตาดูโลก พี่กลัวกุมจะฝังใจกับเรื่องนี้ แล้วให้พี่เข้าไปช่วยดูแลสภาพจิตใจมินตราจนกว่าจะคลอด ถ้าแม่สภาพจิตดีมันก็จะดีต่อไปถึงลูกไง”
“ล้ำลึกมากพี่สิงห์ มิคิดไปไม่ถึงเลยนะ”
“พี่ไม่ได้รังเกียจมินตรานะ สภาพจิตใจเค้าบอบช้ำมาก อาจจะไม่ปกติด้วยซ้ำ แต่อย่างที่พี่บอก เราคือคนนอกนะ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน กลัวมันจะไปกันใหญ่น่ะสิ โอละพ่อกันก็งานนี้อะ”
“มิเข้าใจ”
“ขอบใจแกนะที่อยู่กับพี่ เข้าใจพี่”
“มิเข้าพี่กุม”
“ห๊ะ”
“แล้วก็เข้าใจพี่สิงห์ด้วย ถ้าเป็นคนอื่นพี่สิงห์คงโวยวายตามสไตล์พี่สิงห์ไปแล้วใช่มั้ย แต่นี่เป็นเพราะพี่กุม แล้วก็เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนด้านความรู้สึกแบบนี้ด้วย”
“อืม พี่รู้ว่ากุมมุ่งมั่นที่จะช่วย เลือกที่จะแยกแยะมินตราออกจากเด็กที่ไม่มีส่วนอะไรเลย แค่นี้พี่ก็นับถือใจมันสุดๆอยู่แล้ว ถ้าเป็นคนอื่นนะ เจอกรณีมินตราเข้าไป เค้าโล่งใจกันด้วยซ้ำ แต่่กุมก็สะเทือนใจไปกับเค้า ทั้งๆที่มินตราคิดร้ายกับตัวเองแท้ๆ”
“พี่สิงห์หมายความว่า”
ยัยมิตาเบิกโพลงเมื่อผมวกเข้าเรื่องราวร้ายๆที่มินตราก่อเอาไว้กับไอ้ปากแดง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่มหาลัยหรือเรื่องร้ายแรงถึงชีวิตที่มินตราทำไม่สำเร็จ ถึงผมจะรู้จักมินตราในภาพที่สวยงามมาตลอด คิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่ามินตราจะคิดได้ขนาดนั้น ถึงไม่มีหลักฐานยืนยันแต่ต้องยอมรับว่าผมคิดไปขนาดนั้นแล้ว คนเราเมื่อตัวเองคิดว่าจนตรอกมักจะสู้หัวชนฝา ถึงมันจะเป็นความคิดสั้นๆในความรู้สึกของใคร แต่คนเรานั้นอารมณ์ชั่ววูบและความผิดหวังมันทำให้คนเราทำได้ทุกอย่างจริงๆ
“มินตราอาจจะจ้างวานฆ่ากุมแล้วไม่สำเร็จ”
“คุณพระ นั่นมันไม่ใช่คนแล้วพี่สิงห์ พี่มินใจร้ายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“พี่ไม่รู้”
เสียงผมแห้งผาก สองมือยกขึ้นลูบหน้าด้วยความเหนื่อยล้าทั้งกายใจ เราหยุดพูดคุยและทิ้งความคลุมเครือไว้แต่เพียงเท่านี้แล้วแยกย้ายไปสร้างโลกส่วนตัวตามอัธยาศรัย ในสมองมีเรื่องคนแค่คนเดียวตีกันให้วุ่นวาย ไอ้เดือนสองเป็นผู้ชายที่ขับเคลื่อนทุกอย่างได้ด้วยตัวเองโดยมีความมั่นใจเป็นทัพเสริม ผมเรียนรู้ที่จะเข้าใจคนรักตัวเองว่าเค้าไม่อยู่นิ่งเพื่อเอาตัวเองเป็นที่ตั้งแล้วยัดเยียดภาระให้ใคร ไอ้เดือนสองไม่ต้องการผู้น้ำ ไม่ต้องการให้ใครมาปกป้อง เขาแค่ต้องการใครสักคนอยู่ข้างๆเท่านั้น
ผมควรจะเชื่อมั่นในตัวเมียตัวเองใช่มั้ย?
แต่ความห่วงใยก็ยังกรุ่นอยู่ในใจเหมือนไอความร้อนของน้ำอุ่นที่เกาะกระจกนี่แหละ ยิ่งใช้ความคิด ความห่วงใยก็ทวีความหนาแน่นขึ้น การรอคอยการกลับมาของใครสักคนไม่ใช่เรื่องที่จำใจ แต่มันคือความเคยชินของชีวิตคู่ ยอมรับแบบแมนๆก็ได้ว่านอนไม่หลับแล้วถ้าไม่มีกุมภานอนอยู่ใกล้ๆ หรือไม่รู้ความเป็นอยู่ของมันว่าเป็นยังไง
โทรศัพท์เจ้าตัวนอนแอ้งแม้งอยู่บนที่นอน กดให้ตายก็ไม่ต่างอะไรกับโทรหาตัวเอง ผมจะดัดนิสัยลุยเดี่ยวของไอ้เดือนสองยังไงดีวะเนี่ย เข้าไปยุ่งมากก็ไม่ได้ เหมือนมันจะหาว่าผมมองมันเป็นผู้หญิงอีก ชอบผู้ชายแต่ก็แมนเกินห้ามใจจริงๆเมียผม
ทุกความเคลื่อนไหวอยู่ในโสตประสาทการรับรู้ของผมหมด แต่คนก็คือคน เวลาหมุนมาถึงช่วงที่ต้องพักผ่อน มันก็มีบ้างที่สติผมจะเลือนหายไป แต่จิตใต้สำนึกก็ปลุกผมขึ้นมาอย่างนี้บ่อยครั้ง ดึกขนาดนี้แล้วยังไม่มีวี่แววไอ้เดือนสองจะกลับมา จากความเฉื่อยชาของผมกลายเป็นกระวนกระวาย มันเป็นความทรมานที่ผมทำได้แค่เดินไปเดินมาในห้องแคบๆเท่านั้น
แกร๊ก!!
ผมหันไปตามเสียง สภาพคนที่เปิดประตูเข้ามาเล่นเอาผมใจหาย ไอ้เดือนสองดูโทรมและเหนื่อยล้า เบ้าตาสั่นระริกมีน้ำคลอ ชายเสื้อหลุดรุ่ยออกนอกกางเกง แค่นี้ก็เรียกร้องให้ผมสาวเท้าเข้าไปหาแล้วดึงมันเข้ามากอดเอาไว้แล้ว
แต่ผมไม่น่าลูบหัวลูบหลังมันเลย เพราะเพียงแค่ผมทำแบบนั้นมันก็ร้องไห้เหมือนตอนหนูมีนงอแงเพราะไม่ได้ดั่งใจทันที
“ใจเย็นๆ กุมเป็นอะไรบอกพี่ วันนี้ออกไปไหนมา”
มันส่ายหน้าไปมากับอกผม รอยน้ำตาชื้นทะลุเสื้อเข้ามาโดนผิวเนื้ออุ่นร้อน ใจผมเองอยากจะจับมันแล้วเขย่าเรียกสติไต่ถามว่ามันไปเจอกับอะไรมาถึงได้ตกอยู่ในสภาพแบบนี้
อาจจะไม่นานสำหรับน้ำตาลูกผู้ชายอย่างไอ้เดือนสองมัน แต่มันโคตรนานสำหรับคนที่เป็นสามีมันอย่างผม
“อาจารย์มินตราแท้งแล้วนะครับคุณ”
“อะไรนะ”
“อาจารย์มินตราแท้งลูกครับ”
ใจหายแล้วก็รูสึกชาวูบวาบตามปลายนิ้ว ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับมินตราเป็นเรื่องที่ผมกันเอาไว้เป็นเรื่องรอบนอกตัวเอง แต่ต้องยอมรับว่าพอรับรู้แล้วอดสะเทือนใจไม่ได้ ถึงผมไม่ได้ยินดียินร้ายกับเด็กที่จะเกิดมา แต่ผมก็ไม่เคยมีความคิดว่าเด็กคนนั้นจะไม่มีโอกาสลืมตาดูโลก
“กุมรู้ได้ยังไง”
“จากแม่อาจารย์ครับ”
“แม่มินตราเหรอ”
“ครับ”
“บังเอิญเจอกันหรือกุมตั้งใจไปหา”
เหมือนเค้าจะรู้ตัวเองว่าผมกำลังอยู่ในโหมดอารมณ์และความรู้สึกแบบไหน เค้าถึงได้ผละออกมาแล้วมองตาผมอย่างขอความเห็นใจ มันก็ใช้ไม้ตายแบบนี้กับผมทุกที ไอ้เราก็แพ้ทาง
“ผมตั้งใจไปพบครับ อยากลองไปคุยเรื่องนั้น แต่”
ผมเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมอำนาจฝ่ายร้ายถึงบอกผมว่าแม่มินตราอาจเป็นคนที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ ทั้งๆที่ความจริงแล้วไม่ว่าจะมินตราหรือเด็กที่จะเกิดมาก็ล้วนแต่มีสายเลือดมาจากเธอทั้งนั้น
“ไม่สำเร็จใช่มั้ย ไม่เป็นไรหรอกนะ เรามีหนูมีนคนเดียวก็พอแล้ว ต่อไปยัยมิมีครอบครัวเราก็มีหลาน เด็กเต็มบ้านให้กุมได้ปวดหัวแน่ๆไม่ต้องห่วงหรอก”
“ผมยังไม่ทันจะเสนอหรือร้องขออะไรเลย แม่อาจารย์บอกว่าร่างกายและจิตใจอ่อนแอเกินกว่าเด็กจะฝังตัวอยู่ได้”
ผมสะอึกกับคำบอกเล่านี้จนไม่รู้จะต้องอุทานว่าเวรกรรมหรือหมดเคราะห์หมดโศกดี บางครั้งถ้ามินตราจะเสียสติอยู่ในโลกส่วนตัวใบใหม่ที่เกิดขึ้นมาก็อาจจะดีกว่ารักษาจนหายดีแล้วต้องมาพบกับความเจ็บปวดที่ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดจากเธอทำตัวเธอเอง มันอาจจะเป็นบาปสำหรับความคิดแบบนี้ และผมก็ไม่มีสิทธิ์คิดแบบนี้แทนใคร
“ทำใจนะ เหนื่อยหรือเปล่า ให้พี่อาบน้ำให้มั้ย จะได้พักผ่อน”
“ครับ แต่หวังว่าคุณคงไม่มีแผนอะไรในใจนะ”
“แผนอะไรล่ะ”
“ไม่รู้สิครับ ในภาวะที่ผมไม่เป็นตัวของตัวเอง คุณมักฉวยโอกาสเอากับตัวผมทุกที”
“ไม่มีอารมณ์ทำอะไรแบบนั้นหรอกน่า”
ต้องวงเล็บว่าถ้าไอ้ปากแดงไม่ดักคอซะก่อนล่ะก็นะ แต่ผมก็ไม่ได้มีอารมณ์วาบหวามอะไรแบบนั้นจริงๆ มันหดหู่ สะเทือนใจ และความคิดหลายๆทางก็ปั่นป่วนจนผมเองอยากอยู่นิ่งๆ ปล่อยให้เวลาเป็นตัวเยียวยาความรู้สึกเหล่านี้
“คุณไม่โกรธอาจารย์แล้วใช่มั้ยครับ ไม่ว่าคุณจะรับรู้อะไรมาหรือคิดอะไรอยู่ในใจก่อนหน้านี้ ลืมมันไปเถอะนะครับ ผมว่าวงจรของพวกเราจบลงตรงนี้แล้วล่ะ”
“อืม แล้วเราจะไปเยี่ยมอาจารย์ของกุมด้วยกันนะ”
“อาจารย์ของผมอย่างเดียวเหรอครับ”
“ใช่ อาจารย์ของกุมแล้วก็เพื่อนของพี่”
“ครับ คุณ”
“หืม”
“คุณยังไม่ลืมใช่มั้ยครับ”
“ลืมเรื่องอะไร”
“ลืมไปว่าผมรักคุณ”
โอ๊ย!!มันจะทนไม่ไหวเพราะไอ้ปากแดงพล่ามประโยคนี้ออกมาเนี่ยแหละ สิ่งที่กุมภาล่วงรู้ความรู้สึกนึกคิดผมนั้นทำให้ขนทั้งตัวของผมลุกชัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ผมกดผู้ชายด้วยกัน แต่มันเป็นพรหมลิขิตให้คู่ชีวิตของผมคือผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ไม่เหมือนใครอย่างผมก็ต้องเจอกับผู้ชายที่ไม่มีใครเหมือนอย่างไอ้เดือนสองนี่แหละเค้าถึงจะเรียกว่ากิ่งทองใบหยก


สวัสดีค่ะ เรื่องนี้ดองนานเลย อีกอย่างเรื่องก็ดำเนินมาสุดทางแล้วล่ะ เป็นเรื่องที่ราบเรื่อยไม่ค่อยตื่นเต้นอะไร อ่านยิ้มๆแก้ว่างนะคะ ขอโทษที่ดองนานที่สุดที่เคยดองเลย
ตอนหน้าเรื่องนี้จะจบแล้วล่ะค่ะ สมควรแก่เวลาแล้ว คนเขียนหมดมุก  :sad4: ใจหายเสียดายพี่สิงห์กะล่อน กับน้องปากแดงสุดแมนนะคะ แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเนาะ คิดว่าน่าจะมีตอนพิเศษส่วนของกุมภาแหละ อยากเขียนฝั่งไอ้ปากแดงบ้างว่าคิดยังไงกับพี่สิงห์ แล้วไปชอบเค้าตอนไหน แล้วใจกล้าบ้าบิ่นยังไงถึงบุกบ้านเค้าอย่างนั้น นอกจากความรับผิดชอบที่มีต่อลูกแล้ว มันน่าจะมีอะไรนอกเหนือจากนั้นสิน่า สปอยล์ไปมั้ยคะ  :laugh:
ขอบคุณคนอ่านที่ติดตาม ทวงถาม รอคอยและอยู่ด้วยกันจนสุดปลายทางค่ะ ขอบคุณมากค่ะ TRomance
TRomance's Fanpage

ออฟไลน์ KOWPOON

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
 :z13: :z13: :z13: :z13:       :pig4: :pig4: :pig4: 

ทิ่มอันนี้

ออฟไลน์ POPEA

  • Blood Type :: Y
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • http://writer.dek-d.com/popae/writer/view.php?id=794488
คิดถึงน้องเดือนสองกับพี่เดือนแปด~
หนูกุมน่ารักอะ! แอบเห็นใจยัยมินตราเหมือนกันนิดๆ แหละ
 :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2011 20:20:10 โดย POPEA »

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด