กฏเล้าประกาศ 22/9/2019 จะลบนิยายที่ไม่มาต่อจนจบทิ้งทั้งหมดเล้าเป็ดรณรงค์ ให้ใช้เรียกนักเขียน นักอ่านแทน ไรท์เตอร์ รีดเดอร์ เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของเว็บเรากันนะคะ
สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ
ตอนที่ 28 สิงหาถึงกุมภา...ทราบแล้วไม่เปลี่ยนวามกังวลทั้งหลายที่เกิดจากมินตราถูกข่าวใหม่กลบซะจนมลายหายไปหมด มันตื้อไปทั้งสมองและตืบตันในลำคอจนพูดไม่ได้ ความห่วงใยถัดมาคือความรู้สึกของกุมภาไอ้เดือนสองยืนน้ำตาไหลอย่างไม่อายใครจนผมต้องฝ่าฝืนคำสั่งพ่อตาคว้ามือมันมากุมเอาไว้ ยัยมิกับแม่ยายผมกอดคอกันร้องไห้เป็นเรื่องเป็นราวมาก ส่วนพ่อตาผมผู้ซึ่งไม่ได้รู้เรื่องราวที่พัวพันกับพวกเรายังนั่งซึมไปเลย เด็กไร้เดียงสาอย่างหนูมีนเลยได้แต่หันไปมองคนนู้นคนนี้อย่างสงสัย พ่อตาแม่ยายผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยกับมินตรายังสะเทือนใจจนจุกอกไปตามๆกัน แล้วคนที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อยในฐานะคนรู้จักกันอย่างผมล่ะ บอกตรงๆเลยว่าแทบจะทรุดลงไปเลยเหมือนกัน ความรู้สึกหลากหลายแต่สมองหนักอึ้งเกินกว่าจะแยกแยะได้พาลทำให้ปั่นป่วนในช่องท้องนานพอสมควรที่เราทุกคนตกอยู่ในความคิดของตัวเอง ยกเว้นผมที่คิดอะไรไม่ออกนอกจากกุมมือไอ้เดือนสองแน่นๆ บีบและขยำไปมาให้รู้ว่าแม้แต่โลกส่วนตัวที่มันกำลังสร้างให้ตัวเองอยู่นี้ มีผมเข้าไปขอเสือกอย่างหน้าด้านๆ ผมกับมันเป็นคนๆเดียวกันมานานแล้ว และเราก็เพิ่งตอกย้ำกันไปเมื่อกี้ใช่!!!.....เมื่อกี้ผมจำช่วงที่ผ่านมาได้ชัด แต่ผมกลับคิดถึงที่สิ่งกำลังจะเกิดขึ้นไม่ออก นอกจากรอให้แต่ละคนเรียกสติและวิญญาณที่หลุดลอยกลับเข้าร่าง พ่อไอ้เดือนสองชายตามามองผมที่กุมมือลูกชายเค้าอยู่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมานอกจากก้มหน้าตามปกติ นั่นหมายถึงผมรอดตัว“คุณครับ เราไปหาอาจารย์กันเถอะ ถึงคุณจะบอกว่าไม่เกี่ยวกับเรา แต่ถ้าเราตกอยู่ในความรู้สึกแบบนี้ ผมว่าเราก็มีส่วนเกี่ยวข้องแหละครับ”เพราะมัวแต่พยายามสั่งให้สมองกลับมาใช้งานตามปกติ เลยไม่รู้ว่ากุมภาดีขึ้นแล้ว อย่างน้อยเค้าก็ตัดสินใจแนะนำผม แน่นอนว่าเพื่อเราทั้งคู่แน่ๆ“กุมหมายถึงเราจะกลับกรุงเทพเพื่อเยี่ยมมินตรางั้นเหรอ”“ครับ อย่างน้อยในฐานะลูกศิษย์ ส่วนคุณ อดีตคนรักที่ยังปรารถนาดีไงครับ”“ไม่กลัวพี่สงสารมินตราจนกลับไปหาเธอเหรอ”“นั่นเป็นเรื่องที่คุณต้องแยกแยะและหักห้ามใจครับ ผมเป็นคนดีแค่บางกรณีเท่านั้น และต้องไม่ใช่กรณีที่ผมจะบริจาคสามีให้ใคร”ผมสะดุ้งโหยงเลย ไม่รู้ว่าสติมันเพิ่งกลับมาจนลืมนึกไปหรือเปล่าว่าพ่อแม่มันก็นั่งอยู่ด้วย ผมไม่กลัวว่าเค้าจะหมายหัวมันหรอก ผมกลัวว่ามันจะพาลมาที่สามีอย่างผมเนี่ยแหละ คำว่าสามีมันครอบคลุมความหมายแบบครอบจักรวาลนะผมว่า ไม่ต้องถอดค่ารากที่สองหรือแทนค่าสมการออะไรเลยก็รู้ว่าสามีหมายถึงผมกินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวลูกชายเขาไปแล้วแม่ยายผมยังซบหน้ากับบ่ายัยมิส่วนพ่อตาผม กำลังเพ่งมองมาที่ลูกเขยอย่างคาดโทษ‘แหะ แหะ คุณพ่อคร๊าบ ก็ลูกพ่อมันยั่วผมเลยหลวมตัวเยอะไปหน่อย’คิดในใจ ยิ้มให้ และเกาท้ายทอยแกรกๆเหมือนไม่ได้ตั้งใจจริงๆผมรู้ว่าพ่อไม่เชื่อกริยาที่ผมแสดงหรอก แต่บรรยากาศมันไม่เอื้อต่อไม้ตะพด ผมเลยยังลอยนวลอยู่ได้ แต่อยู่แบบเสียวๆสันหลังยังไงไม่รู้“มิกับลูกรออยู่ที่นี่นะพี่สิงห์ มิทำใจกับเหตุการณ์นี้ไม่ได้อะ บอกตรงๆว่ารับไม่ได้”ผมพยักหน้าแทนคำตอบ อย่างน้อยที่นี่ก็ยังมีปู่กับย่าคอยดูแลหนูมีน และถ้ายัยมิเลือกอยู่ที่นี่ก็ทำให้ผมหายห่วง เราใช้เวลาไม่นานสำหรับการเตรียมตัวเข้ากรุงเทพกะทันหันแบบนี้ผมโทรถามข่าวมินตรากับคนรอบข้าง สิ่งที่รู้ทำให้สะเทือนใจมากขึ้นไปอีก สถาพกายไม่น่ากังวลเท่าสภาพจิต ตอนนี้มินตราอยู่ในสภาพจิตใจย่ำแย่มากและอาจจะเป็นอันตรายกับลูกในท้องบนรถตอนนี้ ไอ้เดือนสองเปลี่ยนหน้าที่มาปลอบใจผมแทน เกียร์กลายเป็นสิ่งกีดขวางสำหรับเราไปเสียแล้ว มือข้างที่เหลือของผมถูกไอ้ปากแดงกุมอยู่ตลอดเวลา มันใช้ปลายนิ้วลูบไปมาที่แหวนผม ไม่รู้ว่าลูบเล่นเพลินๆหรือลูบเพื่อเตือนสติผมกันแน่ระหว่างทางมีโทรศัพท์รายงานข่าวให้เราสองคนอยู่ตลอดเวลา แต่ข่าวที่ทำเอาผมต้องหันมามองหน้ากุมภาแทนรถบนถนนคือข่าวที่มินตราเขียนใบลาออกกับมหาวิทยาลัยล่วงหน้า 3 เดือน และวันที่สิ้นสุดการเป็นอาจารย์ของมินตราก็คือวันที่เธอตัดสินใจฆ่าตัวตายแผนทุกอย่างถูกวางไว้อย่างดีตั้งแต่ต้นแล้ว มันเป็นความตั้งใจไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบอย่างที่ผมปลอบใจตัวเอง ว่าไม่ให้โกรธมินตรากับเรื่องราวที่ผ่านมาไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ผมปล่อยคันเร่งลดความเร็วของรถลงเหมือนต้องการถ่วงเวลาให้ถึงโรงพยาบาลช้าที่สุด ผมไม่ใช่เทวดานะที่จะปล่อยวางได้ อย่างน้อยก่อนจะวางก็ต้องเก็บมาคิดให้ขุ่นข้องหมองใจก่อนแหละเพราะสิงหาเป็นคนธรรมดาเท่านั้น!!“กุม พี่คิดว่าก่อนหน้านี้มินตราตั้งใจจะทำลายชื่อเสียงกุมแต่ไม่สำเร็จ เค้าเลยคิดจะจัดการกุมซะ พี่คิดแบบนี้ดูเลวร้ายไปมั้ย”ขณะที่พูด อารมณ์ผมก็ลุกโชนจนพวงมาลัยรถแทบจะแหลกคามือ แต่ก็ต้องประคับประคองอารมณ์ตัวเองให้นิ่งที่สุด บนท้องถนนถือว่าเป็นเขตอันตรายสำหรับคนใจร้อน และมันจะต้องระวังให้มากกว่านั้น เมื่อคนที่นั่งมาข้างคือคนสำคัญของชีวิต“เพื่ออะไรครับ กำจัดผมเพื่อได้กลับไปหาคุณเหรอ ไม่ต้องลงทุนขนาดนั้น มาขอกับผมดีๆง่ายกว่ามั้ย”“กุมจะเปิดทางให้เหรอ ถ้าเค้ามาคุยกับกุมตรงๆ”“ไม่ครับ”“เพราะเค้ารู้ว่ากุมไม่ยอมไง เลยทำแบบนี้”“ถ้ากำจัดผมสำเร็จ เค้าก็กลับมาหาคุณไม่ได้อยู่ดี นี่คือชีวิตจริงนะครับ บ้านเมืองมีกฎหมาย มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ ไม่งั้นไม่พอใจหรือเห็นว่าใครเป็นเสี้ยนหนามก็สั่งฆ่าหมดสิครับ”“มินตราถึงได้จ้างวานไง อย่างน้อยถ้าจับได้ขึ้นมาก็ยังลุ้นว่าคนทำมันจะไม่ซัดทอด”“ถ้าอย่างนั้น อาจารย์มินตรามีคุณภาพในการสอนด้านวิชาการกับนักศึกษา แต่ไร้คุณภาพในการดำเนินชีวิตสินะครับ”“กุมเอ๊ย อย่าหวังว่าถ้าเค้าเป็นอาจารย์แล้วเค้าจะงี่เง่าสิ้นคิดไม่ได้นะ อาจารย์ก็คือคน มีรัก โลภ โกรธ หลง ขาดสติยั้งคิดได้เหมือนกัน เค้าทำหน้าที่อาจารย์ได้ดีก็ใช่ว่าจะทำดีไปซะทุกอย่างในชีวิตนะ ทั้งพี่และกุมเองก็เคยทำไม่ดี แต่อาจจะไม่ร้ายแรงเท่าตรงที่เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนเท่านั้นเอง มันต่างกันที่ผลลัพธ์น่ะ”“สมมุติว่าอาจารย์ทำอย่างที่คุณว่าจริงๆ ผมอยากให้คุณอภัยให้เธอนะครับ”“หือ ทำไมขอพี่แบบนี้ล่ะ พี่โกรธนะบอกไว้ก่อน คิดจะฆ่าแกงกันมันเกินไป เกินที่พี่จะรับได้ กุมเป็นอะไรไปพี่ก็ไม่มีวันกลับไปรักมินตราหรอก มินตราเองก็ไม่ได้ทำเพราะรักพี่จริงๆแล้ว มันเอาคำว่ารักมาอ้างไม่ได้แล้ว”“ผมขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะอีรุงตุงนังกันนะครับ หลังจากนี้เราคงต้องเดินกันคนละทาง”“พี่ก็คิดว่าอย่างนั้น ถ้ามินตราหายเป็นปกตินะ”ทางเดินของโรงพบาลเอกชน สวย สง่าห์ ดูดีทุกตารางเมตร แต่ก็เหงาจับใจ มันเวิ้งว้างไม่อบอุ่นเหมือนของรัฐบาลที่เดินเบียดกันจนอุ่นร้อน แต่ก็ไม่ได้หดหู่แบบนี้คนป่วยที่ครั้งหนึ่งเคยเพียบพร้อมทั้งเกียรติ ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลรวมไปถึงหน้าตากลับนอนเดียวดายอยู่บนเตียงสีขาวในห้องกว้างตกแต่งหรูหรา พ่อกับแม่ให้้การรักษากับลูกสาวอย่างดีที่สุด แต่ไม่มาดูแล สายระโยงระยางที่ต่อเข้ากับเครื่องมือแพทย์ทำให้ระดับความโกรธของผมหายเกลี้ยง คนที่สวยทั้งรูปร่างหน้าตาบัดนี้ซีดเซียวไปด้วยอาการเจ็บป่วย มีพยาบาลพิเศษเฝ้าตลอดเวลา เครื่องช่วยหายใจครอบปากเอาไว้เหมือนต้องการช่วยผู้ป่วยแบบทันท่วงทีถ้าเค้าต้องการจะหยุดลมหายใจตัวเอง“คนไข้เป็นยังไงบ้างครับคุณพยาบาล”“ปลอดภัยค่ะ สภาพร่างกายหายหมดแล้ว สำลักน้ำและขาดอากาศหายใจนิดหน่อยนะคะ คุณหมอช่วยทันค่ะ จากการตกน้ำไม่มีผลต่อสมองนะคะ แต่สภาพจิตใจส่งผลหนักอยู่ค่ะ”“หมายความว่ายังไงครับ”“คนไข้ไม่มีกำลังใจที่จะอยู่ต่อแล้วน่ะค่ะ เธอเลยไม่ตอบสนองพวกสิ่งเร้า เหม่อลอย เซื่องซึม มีอาการทางจิตเพิ่งจะส่งตรวจไป รอผลสรุปจากคุณหมอเฉพาะทางอีกที แต่ถ้าเธอไม่สู้เพื่อตัวเองแบบนี้ ลูกในท้องก็จะแย่นะคะ กำลังท้องอ่อนๆอันตราย”ผมรู้ว่าพยาบาลอธิบายไปตามหน้าที่และตามอาการของมินตรา แต่เรื่องเด็ก เรื่องลูก เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนต่อกุมภามาก พอเค้าได้ยินเรื่องแบบนี้ เค้าเลยทิ้งตัวลงนั่งเหมือนคนหมดเรี่ยวแรงจนพยาบาลตกใจ“ขอโทษนะคะ ดิฉันคิดว่าคุณสองคนเป็นเพื่อนคนไข้ ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายคนนี้เป็นแฟนหรือเปล่าคะ”ดูก็รู้ว่าพยายาบาลเองก็ไม่มั่นใจที่จะถาม ข่าวของมินตราคงทำให้เธอไม่มั่นใจ“เปล่าครับ ผมเป็นแค่คนรู้จัก”ไอ้ปากแดงเลี่ยงคำว่าลูกศิษย์เพราะไม่อยากให้คุณพยาบาลรู้สึกแย่ หรือจะคิดไปอีกอย่างคือ ไม่อยากให้เอาฐานะหรือคำนำหน้าว่าอาจารย์มาริดรอนเกียรติของมินตราอีก แค่นี้ก็เกินพอแล้วสำหรับบทสรุปของคนที่อคิติและคิดร้าย ทั้งๆที่ผลเหล่านั้นมาจากการตัดสินใจของเธอเอง ถ้าถามว่าทำไมผมไม่เสียสละกลับไปคบกับเธอเพื่อให้ชีวิตเธอสมบูรณ์ดังเดิมผมไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้น และมันก็รังแต่จะทำให้ไม่มีความสุขกันทั้งสองฝ่าย เพราะผมไม่มีใจให้แฟนเก่าอย่างเธออีกแล้ว ผมตัดใจได้ก่อนจะเจอกุมภาเสียอีก ส่วนเธอก็คงได้ผมไปแต่ตัว มันคงเป็นบทสรุปที่ไม่ดีนักหรอก ทางออกคือเราต้องตัดใจในสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้ว ควรมองไปที่อนาคตข้างหน้า ไม่ใช่เหลียวหลังไปมองอดีตที่มันไม่ย้อนกลับมาหาเรา“คุณแม่ของมิินตราว่ายังไงบ้างครับ” แม่ของมินตราเป็นผู้ดีเก่าที่เคร่งครัดในขนบธรรมเนียมที่ปฎิบัติต่อกันมา หน้าตาและชื่อเสียงคือเอกราชที่ต้องรักษาเอาไว้เสมอเกียรติที่รักษากันมายาวนาน ผมกลัวว่าแม่ของมินตราจะรับเรื่องนี้ไม่ได้ แล้วความกลัวของผมก็ต้องเกิดขึึ้น ไม่มีปาฎิหารย์เหมือนตอนที่พ่อตากับแม่ยายผมยอมรับเรื่องเราได้อีกแล้ว“คุณแม่คนไข้มาแค่ครั้งเดียวตอนแอดมิดค่ะ เธอต้องการทราบผลว่าคนไข้มีอาการทางจิตหรือไม่ ถ้าผลตรวจออกมาว่ามี เธอจะให้เอาเด็กออกค่ะ”“มันเกี่ยวอะไรกับเด็กครับ”“ถ้าแม่ไม่สามารถดูแลตัวเองตอนตั้งครรภ์ได้และสภาพพจิตใจไม่พร้อม อาจจะทำให้เด็กเจริญเติบโตและมีพัฒนาการในท้องได้ไม่เต็มที่น่ะค่ะ แต่ถ้าดูแลดีๆก็ยังสามารถตั้งครรภ์ต่อไปจนคลอดได้ แต่ คุณแม่เด็กเองก็ดูเหมือนจะไม่ต้องการลูกตัวเองนะคะ”บทสนทนาตอกย้ำน้ำตาและความสะเทือนใจของไอ้ปากแดงเพียงแค่นี้ เรานั่งคุยกับพยาบาลตามมารยาทอีกไม่นานก็ขอตัวกลับ มินตราไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะพูดคุยสารทุกข์สุกดิบได้คอนโดผมดูเงียบและกว้างขึ้นเยอะตอนที่เราอยู่กันสองคนโดยไม่มีหนูมีน มีความเงียบจนรู้สึกเหงาเพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง สถานที่และบรรยากาศเป็นใจ แต่เราไม่มีใจจะสวีทเรื่องอะไรแบบนั้น กุมภาอาการไม่สู้ดี ผมรู้ว่าเค้าเก็บเรื่องมินตรามาคิด ลองเอาปลายนิ้วคลึงหัวคิ้วเค้าเบาๆไอ้เดือนสองก็หันหน้ามาหา“กำลังคิดเรื่องมินตราอยู่ใช่มั้ย”“คุณ ผมอยากให้อาจารย์เก็บเด็กเอาไว้”“เราจะเอาสิทธิ์อะไรไปร้องขอล่ะ”“เรารับเลี้ยงเด็กคนนั้นเองก็ได้ ใช่มั้ยครับคุณ”มันช้อนตามองซะเศร้าสร้อยขนาดนี้ น้ำเสียงออดอ้อดถึงขีดสุดขั้นแม๊กซ์ แล้วแถมปิดทางผมด้วยคำว่า ‘เรา’ อีก ใครจะไปปฏิเสธมันได้ ผมทำอย่างนั้นกับเมียตัวเองไม่ลงจริงๆครับ ผมคงหลงเมียจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วล่ะ เมียทำอะไรไม่เคยผิดพลาด เป็นอภิชาตเมียสำหรับโจรป่าอย่างผมแท้ๆ“มันไม่ง่ายน่ะสิกุม ถ้ามินตรามีอาการทางจิตจริง เค้าต้องไปรักษาอาการทางประสาท แล้วเรื่องบำรุงลูกในท้องไม่สำคัญเท่าเด็กที่จะเกิดมาและเจริญเติบโตในวันข้างหน้าหรอกนะ”“คุณรับเป็นพ่อเด็กได้มั้ยครับ ถ้าอาจารย์มีอาการทางประสาท คุณจะมีสิทธิ์ดูแลลูกแต่เพียงผู้เดียว”“แล้วพ่อแม่ญาติพี่น้องเค้าล่ะกุม แล้วถ้าอนาคตข้างหน้ามินตราหาย มาทวงลูกคืน ถ้าตอนนั้นเราเองก็รักเค้าเท่าชีวิตเหมือนที่รักหนูมีน กุมจะทำยังไงถ้าต้องเสียเค้าไปให้คนที่มีสิทธิ์ในตัวเค้าครึ่งหนึ่งเท่าที่พี่มี”“อาจารย์จะใจดำขนาดนั้นเลยเหรอครับ จะไม่เห็นน้ำใจที่เราเลี้ยงดูลูกมาด้วยความรักเลยเหรอครับ”“พี่มองไม่เห็นอนาคตหรอกนะ เลยยืนยันไม่ได้ ถ้าตอบอย่างใจร้าย พี่ก็ต้องบอกว่าไม่ไว้ใจ เพราะครั้งหนึ่งเค้าเคยคิดร้ายกับกุม”“ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดนี่ครับว่าอาจารย์ทำแบบนั้นจริงๆ เค้าอาจจะว่าจ้างทำอย่างอื่น”“จะว่าจ้างทำอะไรก็เป็นเรื่องไม่ดีทั้งนั้นแหละกุม”“แต่ผมสงสารเด็ก ถ้าเค้าไม่ได้ลืมตาดูโลก ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดของเค้าเลย ผมอยากคุยเรื่องนี้กับอาจารย์จัง”ผมได้แต่ลูบหัวกุมภาด้วยความเอ็นดูและเห็นใจเต็มที่ ผละเข้าห้องไปเตรียมน้ำให้เค้าอาบเผื่อจะสดชื่นขึ้น มันจะง่ายกว่านี้มากถ้าเด็กคนนั้นเกิดจากผมที่พลาด มันจะง่ายกว่านั้นมาก ถ้าใครคนใดคนหนึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องเหมือนที่กุมภามีตอนเกิดเรื่องหนูมีน แต่นี่เราเป็นคนนอกโดยสมบูรณ์ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่คิดไปได้หลายทางโดยมีเด็กหนึ่งคนเป็นเดิมพัน ไม่ใช่ผมไม่สะเทือนใจกับสิ่งที่รับรู้ แต่บางครั้งการเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องมากไปก็เป็นทุกข์แต่มันจะทุกข์หนักตรงที่ผมแบกความทุกข์ของตัวเองแล้วแถมเอาความทุกข์ของไอ้เดือนสองมาทุกข์ด้วยนี่แหละ ถ้าไม่ใช่เพราะทั้งผมและมันไม่มีใครมีมดลูกเลยสักคน ผมก็คงจะขยันเสกลูกเข้าท้องมันอยู่หรอก เอาเถอะ ถึงจะเยอะจนตั้งทีมฟุตบอลได้ผมก็เลี้ยงไหว แต่นี่จะเอามดลูกจากไหนมาฝังตัวเด็กล่ะ จะพึ่งยัยมิอีกมันก็คงไม่ยอม วันข้างหน้ามันก็คงจะอยากเลี้ยงลูกเองบ้าง ทุกวันนี้มันก็บ่นว่าผมกับกุมผูกขาดลูกมัน“กุม ไปอาบน้ำเถอะ พี่ทำน้ำอุ่นไว้ให้ อาบแล้วจะได้สบายตัวนะ”“คุณอาบให้หน่อยได้มั้ย ผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแล้วอะ อยากจะล้มตัวลงนอนทั้งแบบนี้ด้วยซ้ำ”นี่ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ร่วมสถานการณ์กับมันมา ผมนึกว่ามันยั่วผมนะเนี่ย มีอย่างที่ไหนมาให้สามีอาบน้ำให้ นี่มันชี้เล้าให้หมูชัดๆ แต่ผมรู้ดีว่าไอ้ปากแดงมันคิดได้ไม่ลึกเท่าผมหรอก เพราะมันคงไม่มีใจจะไปคิดอะไรแล้ว“งั้นอาบพร้อมกันเลยนะ”“ครับ”อุวะ!! มันยอมรับง่ายดายจัง ปกติมันจะต้องหรี่ตามองผมว่าตาผมจะฟ้องแผนหื่นกามอะไรออกมา แต่วันนี้มันรับคำแบบไม่ผ่านขบวนการกลั่นกลองเลย เวลามันปล่อยตัวปล่อยสติแบบนี้มีแต่ความไร้เดียงสา ผมก็หักหาญน้ำใจหรือบังคับใจมันไม่ลงหรอก ได้กอดได้หอมนิดๆหน่อยๆก็เอาแล้ว วันนี้ปลาได้ตอด วันหน้าต้องมีวันที่ปลาได้งับเหยื่อบ้างแหละปาดเหงื่อและถอนหายใจให้กับชะตากรรมตัวเองแล้วก็จัดการเปลื้องผ้ากุมภาที่มันยอมทำตามคำบอกผมว่าให้ยกส่วนไหนขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการลอกคราบ“ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา”พอตัวมันลงนั่งแช่ในน้ำก็ถอนหายใจออกมาเหมือนได้ปลดปล่อยบางสิ่งบางอย่างที่มันหนักอึ้งอยู่ในสมองไปบ้างแล้วไอ้ปากแดงมันตัวขาวเนียนจริงๆนะ พออุณหภูมิเปลี่ยน สีสรรตามตัวมันก็ฟ้อง นี่แค่น้ำอุ่นอุณหภูมิกำลังผ่อนคลาย มันตัวแดง หน้าแดงหูแดงจนเห็นชัด เหมือนตัวจะสุกเสียให้ได้ ส่วนผม สิงหาก็เป็นสิงหาแหละครับ ผิวหน้าผมด้านขนาดไหน ผิวหนังผมจะคูณอะไรก็เอาตามที่คิดไว้ในใจเถอะครับ ผมชิน!!พอมันปล่อยอารมณ์ทิ้ง มันก็เริ่มตีน้ำ แต่ตาเหม่อลอยเหมือนหาเรื่องใหม่มาคิดอีกแล้ว ผมเอาสบูถูไปตามตัว มันก็หันมาส่งยิ้มให้ แล้วก็หันไปคิดอะไรของมันต่อ ตัวกุมภาไม่ค่อยมีมัดกล้ามของผู้ชายเลย แต่จับแล้วก็เป็นเนื้อแน่นๆ ไม่เหลว ผมสำรวจมันเสียเพลิน ต้องอาศัยสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะไร้กาละเทศะแบบนี้แหละสำรวจมัน เพราะนอกเหนือจากนั้น มีเหรอครับที่เมียสิงห์จะยอม มันก็ร้ายพอๆกับสิงห์นั่นแหละครับ ไม่งั้นจะอยู่กันได้เหรอ ทำไมผมถึงมีอารมณ์สุนทรีย์เวลาอยู่กับกุมภาทั้งๆที่เราผ่านเรื่องมาหนักหนาสาหัส คำตอบของผมคือ แยกแยะ ไม่มีทางที่สิงหาจะเอาเรื่องคนอื่นมาคิดตลอดเวลา ผมว่าเรากำลังใช้พลังงานของสมองมากเกินไปคนที่แย่ที่สุดคือเรา คิดเท่าที่สมควร คิดให้มีสติบ้าง แต่ก็นั่นแหละ เหมือนตัวเองจะปล่อยวางหรือแยกแยะได้ แต่บางเรื่องผมก็ไม่เอาไหนเหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่เริ่มเหม่อลอยอีกแล้ว“กุม”........................“ครับ”“ดีขึ้นหรือยัง”“นิดหน่อยแล้วครับ คุณ ผมคิดว่าผมจะไปคุยกับพ่อแม่อาจารย์เรื่องเด็กดีมั้ย”ไม่ดี ไม่มีอะไรเลยที่เข้าข่ายดี ให้เค้าจัดการเรื่องนี้กันเองในครอบครัวเถอะกุม เรื่องครอบครัวของเราก็ยังมีอีกเยอะที่ต้องจัดการนะ ผมต่อต้านสุดลิ่มทิ่มประตูเลยกับเรื่องนี้ แต่ปัญหามันอยู่ที่ ผมได้แต่ต่อต้านความคิดนี้ของไอ้ปากแดงอยู่ในใจอัพซ่อมแซมข้อมข้อมูลที่หายค่ะ เป็นฉบับที่อยู่ในเมลล์เซ เลยยังไม่ได้แก้คำผิดตามที่คนอ่านช่วยแก้ให้นะคะ ขอโทษค่ะ