Sweet Home in Hong Kong ความรัก น้ำแข็งไส หัวใจสีส้ม [จบบริบูรณ์]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sweet Home in Hong Kong ความรัก น้ำแข็งไส หัวใจสีส้ม [จบบริบูรณ์]  (อ่าน 732994 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ciin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
กำลังหวานได้ที่อยู่พอดีเลยค่ะ
หวังว่าจะไม่มีพายุพัดมาน้าา

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
่ก่อนที่อะไร ๆ จะเป็นทางการ เจ้านายก็สอนบทเรียนก่อนวิวาห์ ให้ กระต่ายน้อย ไปทีละขั้นทีละตอน
ส่วนแม่นาง อริส จะมาทวงถามอะไรอีก คงต้องคอยจนกว่า เคนอิจิ จะมาเฉลย ....
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ
ปล. ตอนที่อธิบายเรื่องเห็นวัว ก็นึกภาพตามแล้ว แต่พอเห็นรูปที่นำมาแปะ  :m20:
      บันนี่ ไม่เคยโตเลย แม้กำลังจะออกเรือนแล้วก็ตาม  :m1:

ออฟไลน์ firstlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
คิดถึงบันนี่ฮ่องกง ><

chineigiro

  • บุคคลทั่วไป
ตามอ่านทันแล้ว บันนี่น่ารักเกิน

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
จะได้อ่านฉลองนิยายบันนี่ตอนนที่หน้าครบ100หรือเปล่านร้า
มาต่ออีกนร้าครับเคนอิจิ

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
งงเลย

งดหวานให้เห็นมานาน  มาโครมเดียวตกใจเลยอ่ะ  อิอิ

บันบันก็รู้นี่นา  นึกว่าไม่รู้ซะอีก  โฮะๆๆ

ออฟไลน์ nongnette

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คิดถึงบันนี่

Keniji Teruyama

  • บุคคลทั่วไป
Chapter  40

   อัลเบิร์ตแยกเขี้ยวขาววับหลังจากเดินอ้อมผ่านหลังบ้านเข้ามาเจออลิซที่ประตูรั้ว  แขกผู้มาเยือนชะงักเล็กน้อยก่อนจะถอยห่างออกมาจากโครงสเตนเลสซึ่งมีคมเขี้ยวสีขาวรออยู่ด้านใน ระหว่างการประจัญหน้าท่ามกลางสายฝนนั้น อัลเบิร์ตมองลอดรั้วออกไปด้านนอกและเห็นว่า รถยนต์ที่อลิซขับมาดูว่างเปล่า ไม่มีคนชุดดำเหมือนครั้งก่อน  อลิซชะเง้อคอเข้ามายังเขตด้านในของรั้วบ้านและเจอกับเคลวินที่กำลังพับขากางแล้วเดินลงบันไดมา เขาสวมรองเท้าแตะและถือร่มคันใหญ่คล้ายร่มกอล์ฟ ข้างกันนั้นมีวัวขนาดกลางหรือตัวอะไรซักอย่างเดินลงมาด้วย  เคลวินดีดนิ้วเรียกอัลเบิร์ตให้เดินเข้ามาในโรงจอดรถ และวัวสองขาที่อลิซเริ่มเห็นชัดว่าเป็นบันก็เข้ามาต้อนอัลเบิร์ตให้เข้าไปหลบฝน  บันดึงเอาผ้าขนหนูผืนเล็กที่ซุกไว้กับตัวออกมาเช็ดเจ้าหมาตัวใหญ่ ส่วนเคลวินยักคิ้วแล้วส่งคำถามไปให้อลิซซึ่งกำลังยืนนิ่งมองดูคนกับหมาในโรงรถ  สาวเลือดฝรั่งเศสดูจะมีแววตาสำนึกผิดแสดงให้เห็น เธอยิ้มแล้วใช้มือปัดหยดน้ำเล็ก ๆ ที่เกาะอยู่รอบ ๆ คอเสื้อ ก่อนจะพูดออกมา

“ฉันมาลาค่ะเคลวิน”

“ลา?   คุณจะไปไหน?”
เคลวินถาม

“ปารีสค่ะ  ฉันจะกลับฝรั่งตอนดึกวันนี้”

“ขอให้โชคดีและปลอดภัยในการเดินทาง”

“ฉันขอโทษสำหรับทุกเรื่องที่ผ่านมา ฉันคงไม่สบายใจ  ถ้าไม่ได้มาพูดคำนี้กับคุณค่ะ แม้จะเป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัย แต่ฉันก็ยังหวังว่าคุณคงจะยกโทษให้”
อลิซก้มหน้าแล้วปาดน้ำตา ภาพสาวมาดมั่นก่อนหน้านั้น หายไปหมดกับสายฝนเม็ดโตและบรรยากาศที่ดูอึมครึม

“ผมยกโทษให้คุณ แล้วอัลเบิร์ตก็คงไม่โกรธคุณ” เคลวินพูดแล้วหันไปทางโรงจอดรถ ก่อนจะเรียก “อัลเบิร์ต”

เจ้าหมาตัวใหญ่เดินออกมาจากโรงจอดรถแล้วเข้ามาหลบในร่มของเคลวินอย่างรู้งาน

“บอกลาซะสิ อลิซเขาจะกลับแล้ว”
เคลวินแตะหัวอัลเบิร์ตเบา ๆ มันมองหน้าเจ้านายอย่างสงสัยเหมือนมีคำถาม แต่ก็ทำตามคำสั่งโดยดี อัลเบิร์ตเอาตัวเข้าไปชิดประตูแล้วยื่นเท้าออกไปให้อลิซจับ

“ขอโทษนะที่ฉันเคยพูดไม่ดี แล้วก็เคยทำร้ายแก ฉันเสียใจที่ทำแกเจ็บ รู้ไหม คืนนั้นฉันนอนไม่หลับเลยตอนเห็นแกสลบไป”
อลิซร้องไห้แล้วยื่นมือเข้ามาจับเท้าอัลเบิร์ตเขย่าเบา ๆ  แขนเล็ก ๆ ของหญิงสาวกับขาหน้าที่เป็นขนฟู ๆ ของอัลเบิร์ตชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝน

“ต้องไปแล้วค่ะเคลวิน”
อลิซบอกลาพร้อมกับโบกมือเข้าไปที่โรงจอดรถซึ่งมีบันยืนอยู่ด้วย

“โชคดีครับ”
บันยิ้มแล้วโบกมือตอบ

“ฉันเพิ่งเข้าใจที่เคนตะพูดเดี๋ยวนี้เอง  เด็กคนนี้ยิ้มน่ารักมากจริง ๆ ฉันขอให้คุณสองคนโชคดีเช่นกันค่ะเคลวิน อีกอย่างนะ ก่อนมาหาคุณที่นี่ ฉันเพิ่งให้เอกสารการซื้อขายหุ้นให้คุณดาเนียลไป หุ้นในส่วนของฉันทั้งหมด ฉันจะไม่ถือมันไว้อีกแล้วค่ะ คุณสบายใจได้”

“ขอบคุณครับ”

“ฉันอยากให้เราจากกันด้วยความรู้สึกที่ดี  ลาก่อนค่ะเคลวิน”
อลิซยิ้มครั้งสุดท้ายแล้วเดินเข้าไปเปิดประตูรถ ก่อนจะขับออกไปท่ามกลางสายฝนเม็ดโต ว่ากันว่าหลังพายุใหญ่ที่มีฝนฟ้าคะนอง ทุกอย่างจะกลับมาสดใสอีกครั้ง เคลวินคิดว่าอลิซคงได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง และตัวเขาก็เช่นเดียวกัน ทุกอย่างรอบ ๆ ตัวดูจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น บ้านหลังเดิมที่เคยเงียบเหงาคล้ายกับภาพถ่ายสีขาวดำตอนนี้กลับกลายเป็นภาพถ่ายสีสันสดใส  ต้นไม้ใหญ่บนเนินแห้งแล้ง กำลังผลิใบสีเขียวอ่อนออกมารับแสงตะวัน เคลวินคิดว่าต่อจากนี้ไป ฤดูหนาวที่แสนยาวนานในชีวิตคงสิ้นสุดลงพร้อมกับการมาของฤดูใบไม้ผลิที่มีอากาศอบอุ่น น้ำแข็งที่เคยเกาะอยู่รอบ ๆ ตัว คงละลายลงด้วยสายลมที่พัดอ่อน ๆ มาจากที่ไหนซักแห่ง อาจจะเป็นลมอุ่น ๆ ที่พัดมาจากประเทศไทยก็ได้

“ไปหาของอุ่น ๆ กินกันดีกว่า”
เคลวินเดินจูงมือบันเข้าไปในบ้าน ข้างกันนั้นมีอัลเบิร์ตเดินช้า ๆ พร้อมกับโบกหางร่าเริงตามเข้าไปด้วย

# # # # # # #  # # # #  #

       ช่วงบ่ายโมงของวันที่มีอากาศอันแสนอบอ้าว บันนอนครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่บนเตียง  หน้าต่างที่เป็นกระจกใสเปิดรับลมเย็น ๆ จากแม่น้ำ ทำเอาผมเส้นเล็ก ๆ สีดำสนิทปลิวไปมาตามแรงลมซึ่งพัดเข้ามาเป็นระยะ  นี่เป็นเวลากว่าสองสัปดาห์แล้วที่บันกับอัลเบิร์ตเดินทางมาจากฮ่องกง ปฏิทินกระดาษที่ติดอยู่กับผนังห้อง มีรอยปากกาเคมีสีแดงขีดกากบาทคร่อมตัวเลขวันที่เอาไว้  หากจะนับวันตามที่อยู่บนปฏิทิน  วันนี้ก็ล่วงเข้าวันที่สิบห้าแล้ว เป็นเวลาครึ่งเดือนพอดิบพอดี หลังจากบันรับปากรับคำกับเคลวิน ก่อนจะเดินทางกลับมา

‘ให้เวลาสิบห้าวัน’

‘อะไรกันครับ แค่สิบห้าวัน’

‘ถ้าเลยสิบห้าวันแล้วยังไม่คืบหน้า ฉันจะไปจัดการเอง’


เสียงเคลวินยังก้องอยู่ในหัว นี่ก็ครบกำหนดเส้นตายที่เคลวินยื่นเอาไว้แล้ว เย็นนี้ยังไงบันคงต้องลงไปพูดกับแม่ แล้วให้แม่ไปพูดกับพ่อ หรือว่าจะพูดพร้อม ๆ กันหลังกินข้าวเย็น หรือว่าจะพูดกับพ่อก่อน บันขยี้หัวตัวเองอยู่บนเตียง และเผลอหลับไป

“บัน”

“อือ ฮืมม”
บันพึมพำในคอ ตอบรับเสียงในความฝัน

“บัน ตื่นได้แล้วลูก”
แม่เข้ามาสะกิดเรียกบันที่นอนคว่ำอยู่บนเตียง

“แม่”
บันพูดงัวเงีย

“ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปข้างล่าง”

“จะไปกินข้าวข้างนอกเหรอครับ แม่ บันอยากกินกุ้งร้านริมน้ำ วันนี้วันเสาร์ ร้านเปิดถึงกลางคืนเลย”
บันพลิกตัวแล้วพยายามปัดผมที่ปิดหน้าผาก ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า เพิ่งไปตัดผมมาเพราะอากาศร้อน

“คุณเคลวินเขามาคุยกับพ่ออยู่ข้างล่าง”
แม่พูดแล้วเข้ามาช่วยพับผ้าผืนบาง ๆ บนเตียง

“แม่ว่าอะไรนะ เคลวินมาเหรอครับ!”
บันหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง ตอนนี้เขากระโดดหย่องขึ้นมายืนจับแขนแม่

“ตัวจริงดูดีกว่าในหนังสือพิมพ์อีกนะ”
แม่หันหลังให้บันแล้วเดินเข้าไปเปิดตู้เสื้อผ้า  แม่เคยเห็นเคลวินในกระดาษหนังสือพิมพ์ฉบับที่เอามาห่อลูกฝรั่ง หนังสือพิมพ์ฉบับนั้น บันออกอาการอาลัยอาวรณ์จนต้องไปแกะออกมา แล้วรีดใหม่จนกลับมาเรียบเหมือนเดิม

“ไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุดนี้ลงไปหาพ่อข้างล่าง”
แม่เลือกเสื้อแขนยาวสีสุภาพออกมาจากตู้เสื้อผ้าได้หนึ่งตัวพร้อมกับกางเกงขายาวสีครีม

“บันขอโทษนะแม่………….แม่เสียใจหรือเปล่า?”
บันเข้ามากอดเอวแม่ไว้เบาๆ

“พ่อแม่ทุกคน พอมีลูก ก็อยากให้ลูกเรียนสูง ๆ มีการมีงานทำเลี้ยงตัวเองได้ เรื่องส่วนตัวหลังจากนั้น ก็เป็นเรื่องของลูก เป็นชีวิตของลูกที่จะต้องตัดสินใจเอง พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยไปตลอด อนาคตลูกก็ต้องอยู่กับคนที่ตัวเองเลือก ไม่ต้องกลัวว่าพ่อกับแม่จะโกรธหรือว่าเสียใจ เราสองคนเหมือนเรือที่พายส่งลูกขึ้นฝั่งมาแล้ว ฟังแม่นะ  ตอนนี้บันโตแล้ว เรียนจบแล้ว มีงานทำเป็นหลักแหล่งและเลี้ยงตัวเองได้ ชีวิตหลังจากนี้ บันต้องตัดสินใจเอง”
แม่เดินเข้าไปเปิดตู้เสื้อผ้าอีกครั้งแล้วหยิบเอาผ้าเส้นเล็กมายื่นให้

“ผูกหูกระต่ายด้วย จำได้ไหม  ว่าอันนี้ใครซื้อให้?”

บันรับหูกระต่ายสีน้ำตาลเข้ามาถือในมือแล้วยิ้ม “พ่อซื้อให้บันตอนงานวันเกิดอายุสิบขวบ”

“สิบห้านาทีนะ อาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย”
แม่ยิ้มแล้วเดินออกจากห้องไป

# # # # # # # # # # # #

       บันเดินย่องลงมาตามขั้นบันไดไม้อย่างเงียบเชียบที่สุด ภาพแรกที่เห็นหลังพ้นบันไดลงมาได้สามขั้นคือ เจ้าอัลเบิร์ตที่เข้ามานั่งหมอบเรียบร้อยอยู่ข้าง ๆ ขากางเกงยาว ๆ ที่บันคุ้นตา พอเดินลงบันไดมาจนถึงขั้นสุดท้าย บันเห็นเคลวินในชุดเสื้อแขนยาวสีขาวผูกเนกไทสีเทาอ่อนดูสุภาพ เขากำลังหมุนหัวไม้กอล์ฟในมือไปมาก่อนจะชี้ให้พ่อของบันดูข้อต่อตรงก้านไม้ด้วยความชำนาญ

“บันมานี่สิลูก”
พ่อพยักหน้าเรียก

“สวัสดีครับ”
บันเดินเกร็งๆ เข้าไปนั่งข้างพ่อแล้วยกมือไหว้เคลวิน

“เคลวินบอกว่า ให้บันมาพูดกับพ่อไว้ก่อน แต่ไม่เห็นบันพูดอะไรเลย”
พ่อส่ายหัว

“ก็บัน ………….บันว่าจะพูดวันนี้ตอนกินข้าวเย็น”
บันตอบอ้อมแอ้มสลับกับแอบมองเคลวินที่นั่งถัดไปทางด้านซ้ายของพ่อ

“เคลวินบอกว่า บันไม่กล้าบอก เขาเลยเข้ามาบอกเอง”

“ก็…………….วันนี้บันก็ว่าจะบอกอยู่แล้ว”
บันก้มหน้าลงกับพื้น เจอกับอัลเบิร์ตที่โบกหางเป็นกำลังใจ

“แล้วตกลงว่าไงล่ะ?”
พ่อถาม

“ครับ?”

“ครับคือ ตกลง หรือไม่ตกลง?”

“แล้วแต่พ่อครับ”

“มาแล้วแต่พ่อได้ไงล่ะ ตัดสินใจเอง ถ้าไม่ พ่อก็จะได้ให้เขากลับไป”
พ่อทำหน้าจริงจัง ส่วนเคลวินที่ฟังภาษาไทยไม่เข้าใจ ได้แต่ยิ้มแล้วหันมองพ่อสลับกับบัน

“แล้วเคลวินว่าไงล่ะครับ?”

“เขาบอกจะให้บันไปอยู่ด้วย  ถ้าพ่อตกลง เขาจะพาผู้ใหญ่ทางนู้นมาคุยอีกที”

“ครับ”

“ครับคือ ไป หรือไม่ไป?”
พ่อถาม

“พ่ออนุญาตบันหรือเปล่า?”

“ถ้าบันตัดสินใจแล้ว พ่อก็จะห้ามทำไมล่ะ” พ่อของบันยิ้มแล้วหันไปพูดกับเคลวินเป็นภาษาอังกฤษ “ไม่ต้องส่งผู้ใหญ่มาคุยเป็นทางการขนาดนั้นก็ได้ครับ แค่นัดมากินข้าวทำความรู้จักกันไว้ก็พอ แล้วเรื่องเงินหรือทรัพย์สินอะไรผมไม่เอาเพราะผมไม่ได้เลี้ยงลูกไว้ขายใคร ขออย่างเดียวให้คุณดูแลลูกของผมเหมือนที่ผมดูแลเขา  บันนิสัยเหมือนเด็ก บางครั้งก็ยังตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ ในเมื่อคุณเป็นผู้ใหญ่กว่า ผมก็หวังว่าคุณจะใช้เหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ บันไม่ใช่คนดื้อครับ ถ้าพูดกับเขาให้เข้าใจ”

“ผมสัญญาครับ”
เคลวินตอบ

“ถ้าคุณทำตามที่ตัวเองสัญญาไม่ได้ ผมจะไปรับลูกของผมกลับ”
พ่อพูดเสียงจริงจัง

“ครับ”
เคลวินยิ้มแล้วยกมือไหว้พ่อ เขาประนมมือที่อกตัวเองแล้วก้มตัวไหว้เหมือนคนไทย

“ถ้าบันดื้อหรือพูดไม่รู้เรื่อง ผมอนุญาตให้ทำโทษและตักเตือนได้ แต่ห้ามใช้กำลัง ถ้าบันเจ็บตัวหรือเลือดออกแม้แต่หยดเดียว ผมตามไปเล่นงานคุณแน่”
พ่อลุกขึ้นยืนแล้วตบหลังเคลวินเสียงดัง

“พาเคลวินไปเดินเล่นนอกบ้านสิบัน เดินดูรอบ ๆ บ้าน เดี๋ยววันนี้พ่อจะทำกับข้าวเลี้ยงคนฮ่องกง อีกสองชั่วโมงค่อยมากินข้าวเย็นกัน”
พ่อหันมาพูดกับบันแล้วเดินเลยเข้าครัวไป

# # # # # # # # # # # #

“ตกใจแทบแย่ ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงโผล่มาแบบนี้ล่ะครับ แล้วมาถูกได้ไง?”
บันพาเคลวินเดินออกมาหน้าบ้าน โดยมีเจ้าหมาขนฟูเดินตามมาด้วย อัลเบิร์ตมาอยู่กับบันได้ครึ่งเดือนแล้ว ทำให้รู้จักอาณาบริเวณของบ้านหลังนี้ได้เป็นอย่างดี อัลเบิร์ตเที่ยววิ่งเล่นจนทั่วบ้านเลยเข้าไปถึงสวนด้านหลังซึ่งติดกับคลองและแม่น้ำ

“ฉันคิดแล้ว ว่านายจะทำงานนี้พลาด  วันก่อนเคนซาบุโร่โทรมาถาม  เขาเลยวาดแผนที่มาให้”

“ที่ถามว่าพ่อกับแม่ชอบทำอะไรบ้าง ที่แท้ก็จะซื้อของมานี่เอง”
บันพาเคลวินเดินเข้ามานั่งบนแคร่ไม้ไผ่ใต้ต้นมังคุดใบใหญ่ บนหัวมีมังคุดหลงฤดูอยู่หลายลูก บันปีนขึ้นไปเด็ดเอาลูกกลม ๆ สีม่วงเข้มลงมาก่อนจะใช้สองมือบิแยกมันออกจากกันแล้วส่งให้เคลวิน

“ดีหรือเปล่าล่ะ?”
เคลวินถาม

“พ่อชอบตีกอล์ฟ เคลวินซื้อไม้กอล์ฟให้ใหม่ทั้งชุด ระวังพ่อจะเอามาตีคุณเวลาดุผมนะ”
บันยิ้ม

“ฉันเคยดุนายด้วยเหรอ?”
เคลวินถาม

“ไม่เคย เคยแต่ขู่ แล้วก็ชอบสั่ง”

“ต่อไปนี้ นายมีผู้ปกครองคนใหม่แล้ว ได้ยินที่พ่อพูดหรือเปล่า?”
เคลวินยิ้ม

“เมื่อกี้นอนอยู่ พอรู้ว่าเคลวินมา ผมตกใจแทบแย่”
บันหัวเราะ

# # # # # # # # # # # #

   แม่หยิบเอาผ้ากันเปื้อนใต้ลิ้นชักเข้ามาผูกเอวให้พ่อ ตอนนี้พ่อของบันเปิดตู้เย็นเลือกเอาผักและของสดออกมาวางเรียงกันไว้เต็มโต๊ะ มีทั้ง ชะอม ผักกระเฉด สะตอ กุ้งสด รวมถึงพริกขี้หนูสีแดงสีเขียวที่แม่เก็บมาจากต้นหลังบ้านเมื่อวันก่อน ในอ่างล้างผักใกล้กัน แม่กำลังล้างข่า   ตะไคร้ ใบมะกรูด และรากผักชี ปกติแล้วพ่อของบันเป็นคนที่ทำกับข้าวอร่อย แต่ด้วยงานที่ทำอยู่นั้นต้องกลับบ้านตอนช่วงค่ำอยู่บ่อย ๆ พ่อเลยไม่ค่อยได้เข้าครัว  หน้าที่นี้จึงเป็นของแม่ซึ่งมีที่ทำงานอยู่ใกล้บ้านมากกว่า วันนี้แม่ดูจะแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ทักอะไร
   พ่อเด็ดยอดอ่อนชะอมที่แม่ล้างมาให้ใส่ในชามแก้วใบใหญ่ จากนั้นก็เด็ดยอดกระเฉด และผ่าสะตอ ก่อนจะทุบพริกขี้หนูสีแดงและสีเขียวรวมกับกระเทียมด้วยท่าทางที่คล่องแคล่ว

   “แช่วุ้นเส้นด้วยแม่”
พ่อหันมาพูดกับแม่แล้วใช้ต้นแขนขวาขยับแว่นตาให้เข้าที่

“พ่อจะทำอะไร?”

“ผัดสามเหม็น”
พ่อชี้ให้ดูผักสามอย่างที่เตรียมไว้ในชาม ซึ่งเป็นผักที่มีกลิ่นแรง

“แล้วแฟนบันเขาจะกินได้เหรอพ่อ กลิ่นมันแรงทั้งนั้น แล้วใส่พริกเยอะขนาดนั้น เดี๋ยวก็ปากบวมพอดี คนทางนู้นเขาไม่กินเผ็ดเหมือนบ้านเรานะพ่อ”
แม่พูดแล้วเปิดตู้เก็บของด้านบนศีรษะ เลือกเอาวุ้นเส้นห่อกลางออกมาฉีกแล้วแช่น้ำไว้ในชามแก้วอีกใบ

“กินไม่ได้ก็ต้องกิน เดี๋ยวมีน้ำพริกกะปิอีกอย่าง แล้วก็ต้มยำกุ้ง”
พ่อหัวเราะต่ำ ๆ ในคอ

“เผ็ด ๆ ทั้งนั้นเลยพ่อ แกงจืดกับไข่เจียวเพิ่มมั้ย หรือผัดผักรวมไม่ใส่พริกอีกอย่าง”
แม่ท้วง

“เดี๋ยวแม่ทอดปีกไก่ให้บันอีกอย่างละกัน เอาแกงจืดลูกชิ้นด้วย บันชอบกิน เดี๋ยวกับข้าวคนฮ่องกงพ่อจัดการเอง”
พ่อพูดแล้วก็หันไปหยิบกระทะ ตั้งน้ำมัน

“จะหวงลูกอะไรปานนั้น เดี๋ยวเขาทนไม่ได้ หนีกลับไปทำไง”

“แค่นี้ยังทนไม่ได้ แล้วต่อไปจะทำอะไรได้ล่ะแม่”

“มันไม่เหมือนกัน เขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ดี แม่ว่าเขาก็ดูแลบันได้นะพ่อ”

“พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่แม่ แค่กับข้าวรับลูกเขยเข้าบ้าน”  พ่อยิ้มแปลก ๆ แล้วใช้มีดปาดพริกกองย่อมๆ บนเขียงลงไปในกระทะ “อย่าลืมหุงข้าวนะแม่  ข้าวหอมมะลินุ่ม ๆ กินกับกับข้าวของพ่อ รับรองจำไปอีกนาน”

# # # # # # # # # # # #


Keniji Teruyama

  • บุคคลทั่วไป

       บันพาเคลวินเดินออกมาจนถึงสะพานไม้ที่ทอดตัวโค้งข้ามแม่น้ำ มือขวาถือสายจูงเจ้าอัลเบิร์ตเอาไว้  หมาขนฟูตัวใหญ่ลงหมอบกับซี่ไม้บนสะพาน มองดูฝูงปลาตัวน้อยที่ว่ายทวนน้ำเชี่ยวนั้นด้วยความสนใจ ทางด้านฝั่งขวา มีจักรยานขี่ผ่านไปมาตามแผ่นไม้ที่ปูเอาไว้เป็นทางสัญจร  เคลวินวางมือลงบนไม้ที่ทำเป็นราวสะพานแล้วมองไปรอบ ๆ หูก็ฟังบันพูดเรื่องสมัยเด็กที่เคยมาเล่นแถวนี้อยู่บ่อย ๆ  แถวบ้านของบันแม้จะขับรถออกมาจากในเมืองใหญ่ของกรุงเทพฯ ได้ไม่ไกล แต่ก็ดูร่มรื่นและเงียบสงบเหมือนกับอยู่ในต่างจังหวัด  ตอนที่กำลังคุยกันอยู่นี้  ใต้สะพานที่เป็นผืนน้ำสีเขียวมรกตก็มีเรือพาย บรรทุกเอาผลไม้และขนมนานาชนิดล่องมาขาย บันเดินลงไปโบกเรืออยู่ริมท่าแล้วเลือกขนมชั้นสีเขียวใบเตยกับขนมครกร้อน ๆ ใส่ในกระทงใบตองเล็ก ๆ ที่แม่ค้าเสียบทางมะพร้าวลงมาเป็นไม้จิ้มให้ด้วย

“ลองชิมดูครับ อร่อยนะ แต่กินเยอะไม่ได้ เพราะต้องกลับไปกินข้าวที่บ้าน วันนี้พ่อทำกับข้าวเอง แสดงว่ามีอะไรพิเศษ”
บันยื่นกระทงใบตองเล็ก ๆ นั้นให้เคลวิน

“ที่ฮ่องกงเรามีเลี้ยงรับขวัญสมาชิกใหม่ในครอบครัว มีให้กินของขม ๆ อย่างมะระกับชาแก่”
เคลวินตอบ แล้วใช้มือจับทางมะพร้าว ก่อนจะจิ้มขนมครกในกระทงสีเขียวใส่เข้าไปในปาก

“ที่เมืองไทยไม่มีหรอกครับเคลวิน พ่อคงอยากทำอะไรพิเศษให้คุณเท่านั้นเอง พ่อผมทำกับข้าวอร่อยนะ คุณต้องกินเยอะ ๆ พ่อจะได้ไม่เสียใจ”

# # # # # # # # # # # #

       บันเช็ดช้อนกับส้อมแล้วเดินเข้าไปช่วยแม่ยกกับข้าวในครัวออกมาวางเรียงกันเอาไว้  พ่อเดินลงมาจากบันไดชั้นบนด้วยชุดใหม่เอี่ยม เป็นเสื้อโปโลที่บันซื้อให้ตอนกลับมาจากฮ่องกง  ส่วนแม่ก็เดินเข้าไปยกโถกระเบื้องใส่ข้าวออกมา จากนั้นก็ตักข้าวใส่จาน ส่งให้บันเรียงเอาไว้บนโต๊ะ

“เคลวินไปไหนแล้วล่ะบัน?”
พ่อนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหัวโต๊ะแล้วหันมาถามบัน

“เข้าห้องน้ำครับ เดี๋ยวออกมา”
บันวางจานข้าวลงแล้วเลื่อนจานไก่ทอดกับแกงจืดไว้หน้าเคลวิน

“นั่นของบัน ของเคลวินเป็นกับข้าวของพ่อ”
พ่อชี้ให้บันมองผัดผัก  น้ำพริกกะปิ ต้มยำกุ้ง กับยำอีกอย่างที่มีพริกสีแดงสด

“เคลวินเขาไม่เคยกินเผ็ดนะพ่อ”
บันยกจานผัดผักเข้ามามองใกล้ ๆ เห็นมีพริกขี้หนูเม็ดเล็ก ๆ กระจายอยู่เต็มจาน

“ไม่เคยก็ต้องลอง”
พ่อพูดแล้วปล่อยบันทำหน้าสงสัย

“ถ้าเคลวินเขากินไม่หมด บันคงไม่ได้ไปฮ่องกงแล้วล่ะนะ”
แม่อมยิ้มแล้วหันไปมองเคลวินที่เดินออกมาจากห้องน้ำ

“เชิญนั่งค่ะ ไม่ต้องเกรงใจนะคะ”
แม่ให้เคลวินนั่งทางด้านซ้ายของพ่อ ส่วนตัวเองก็ขยับเก้าอี้มานั่งฝั่งตรงข้ามใกล้กับบัน

       พ่อของบันชวนเคลวินคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ เคลวินบอกว่าฤดูร้อนของฮ่องกงมีฝนตกเกือบทุกวัน ลมพัดแรงและอากาศค่อนข้างชื้น ไม่เหมือนเมืองไทยที่อากาศแห้งกว่า  อย่างอัลเบิร์ตก็ดูจะอาการดีขึ้นเพราะที่บ้านของบันไม่มีอากาศชื้นเพราะไอฝนเหมือนที่ฮ่องกง ขณะที่พ่อชวนคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้ก็ตักกับข้าวใส่จานของเคลวินไปด้วย  ส่วนหนุ่มฮ่องกงก็ตักเข้าไปปากแล้วเคี้ยวโดยไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ในสิบนาทีแรก แต่พอคุยกันมาถึงเรื่องงานที่เคลวินทำอยู่ บันก็เห็นว่าน้ำในแก้วของเคลวินพร่องลงไปจนเกือบหมด หน้าผากก็มีเหงื่อซึมออกมาและสองแก้มเริ่มมีสีแดงเข้มขึ้นเรื่อย ๆ บันเข้าไปกดเอาน้ำแข็งในครัวใส่แก้วมาให้เคลวินแล้วก็เห็นว่าพริกสีแดงในจานที่พ่อตักมาให้ เคลวินไม่ได้เขี่ยออก แต่กินเข้าไปทั้งหมด

“กินเผ็ดขนาดนี้แล้วยังไม่พูดอะไรซักคำ แสดงว่าปกติก็ไม่ใช่คนพูดมาก”
พ่อพูดภาษาไทยกับบัน

“พ่อแกล้งเขา”
บันบ่นอุบอิบ

“ไม่ได้แกล้ง แค่เลี้ยงรับขวัญ”

“ถ้าเขาปวดท้องขึ้นมาทำไงน่ะพ่อ เดี๋ยวกลับไปโรงแรมแล้วอยู่คนเดียวด้วย”

“แค่นี้ไม่ถึงตายหรอก เรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ยังผ่านไปไม่ได้ เขาจะดูแลบันได้ไง”

“เขาก็กินหมดแล้วนะพ่อ ผ่านหรือยัง?”

“ผ่าน แต่ยังไงก็อย่าติดเขาให้มากแล้วกันนะ เดี๋ยวลืมคนที่บ้านนี้หมด”
พ่อพูดเหมือนน้อยใจ

“พ่อพูดอะไรอย่างงั้น ยังไงบันก็รักพ่อรักแม่เหมือนเดิม ใครจะลืมพ่อกับแม่ตัวเองได้”
บันยิ้ม

“ที่แท้ก็หวงลูก ทำเป็นเอาเรื่องอื่นมาอ้างนะพ่อ”
แม่ผสมโรง

พ่อแม่ลูกคุยกันเป็นภาษาไทยโขมงโฉงเฉงจนเคลวินเริ่มเห็นความผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้ขัดจังหวะ เขารวบช้อนกับส้อมแล้วหันมาขอบคุณพ่อกับแม่ที่เลี้ยงข้าวเย็น

“คงจะเผ็ดแย่”
แม่ยิ้มตอบเคลวินแล้วเดินเข้าไปในครัว ซักพักก็ออกมาพร้อมกับถ้วยที่มีไอศกรีมเล็ก ๆ สามสคูป เป็นไอศกรีมสีขาวนมที่มีไอเย็น ๆ ลอยขึ้นมา แม่เลื่อนถ้วยที่มีของดับร้อนไปให้เคลวิน แล้วหันมาถามบันว่า “ภาษาจีนเขาเรียกว่าไงนะบัน?”

“椰子漿 เย่จื่อเจี้ยง 冰淇淋 ปิงฉีหลิน  ไอศกรีมกะทิ”
บันตอบคำถามของแม่ด้วยการชี้ไปที่ถ้วยของเคลวิน

“โถพ่อคุณ กินเผ็ดจนหน้าแดง”
แม่ทำหน้าสงสาร

# # # # # # # # # # # #

       แม่ให้เคลวินขึ้นไปอาบน้ำที่ห้องนอนของบันเพราะเห็นว่าเขาเหงื่อออกจนเปียกชุ่มไปหมด เสื้อเชิ้ตของเคลวินหลังจากทานมื้อเย็นเสร็จ  ตอนนี้เปียกแนบติดกับแผ่นหลังเหมือนโดนคนเอาน้ำมาเทราดลงไป บันเดินไปค้นเสื้อยืดตัวใหญ่ในตู้มาให้แล้วรับเอาเสื้อตัวนอกกับเสื้อกล้ามตัวในของเคลวินลงมาซัก เคลวินถือโอกาสตอนอยู่คนเดียวมองไปรอบ ๆ ห้องนอนของบัน ห้องนอนนี้ออกแบบเป็นอย่างดีสมกับเจ้าของบ้านเป็นสถาปนิก พ่อของบันออกแบบห้องนอนให้ลมจากแม่น้ำพัดเข้ามาผ่านหน้าต่าง  ห้องของบันอยู่ทางทิศตะวันออกของบ้าน ทำให้ตอนเช้าจะมีแสงแดดส่องลอดเข้ามาพอดี ในห้องของบันไม่ได้ดูรก แต่ก็ไม่ได้เป็นระเบียบไปซะทีเดียว  ยังพอมีกองหนังสือและเอกสารวางอยู่ตามพื้นบ้าง เป็นงานของพ่อกับแม่ที่บันเอามาช่วยทำ บ้างก็เป็นหนังสือที่เคลวินซื้อให้ บางส่วนก็เป็นหนังสือภาษาญี่ปุ่นที่เคลวินคิดว่าคงเป็นของเคนตะ เขารวบหนังสือภาษาญี่ปุ่นลงไปกองอยู่ข้างใต้แล้วยกเอาหนังสือภาษาจีนขึ้นมาวางแทน  เคลวินรู้สึกพออกพอใจที่บันดูจะรักและทะนุถนอมของทุกอย่างที่เขาซื้อให้ ทั้ง หนังสือ เครื่องเขียน โทรศัพท์และตุ๊กตากระต่ายยักษ์ ตอนนี้เจ้าหลันชิงและหลันเหอนอนยิ้มแป้นแล้นอยู่บนเตียง
       เคลวินคว้าเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ที่บันบอกว่าซื้อเอาไว้ใส่นอน ขึ้นมาพาดไว้บนไหล่แล้วหยิบเอาผ้าขนหนูที่พับไว้บนเตียงขึ้นมา เขาบิดประตูห้องน้ำเข้าไปและพบกับห้องน้ำสีขาวสะอาดตา มีแผ่นกระเบื้องปูพื้นเป็นลายสุนัขดัลเมเชียน ข้างผนังมีประตูไม้ซึ่งเชื่อมออกไปสู่ลานหินทรายด้านนอก เป็นลานอาบน้ำโล่ง ๆ ไม่มีหลังคา แต่มีต้นกล้วยหอมที่ยืนต้นสูงมาจากชั้นล่างของบ้านทำหน้าที่เป็นฉากบัง ด้านบนมีฝักบัวทำด้วยสังกะสี เคลวินใช้เวลาสำรวจสิ่งละอันพันละน้อยของบันอยู่ซักพักก็อาบน้ำแล้วออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่และผมที่เปียกชื้น เขาแขวนผ้าขนหนูบนราวตากผ้าตรงระเบียงห้องแล้วเดินลงมายังชั้นล่างของบ้าน เจอกับพ่อของบันที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์รออยู่บนเบาะผ้าของโซฟารับแขก

“ค่ำแล้ว เดี๋ยวผมกับพ่อจะไปส่งที่โรงแรมครับเคลวิน”
บันกลับออกมาจากลานหินที่ใช้ตากผ้า แล้วเข้ามาสะกิดเรียกเคลวิน

“เดี๋ยวเรียกรถโรงแรมมารับ”
เคลวินตอบ

“พ่อบอกว่าใกล้จะดึกแล้ว กว่ารถโรงแรมจะมาก็คงอีกนาน แล้วตอนนี้รถในเมืองก็เยอะด้วยครับ กรุงเทพฯ รถติดมาก”
บันออกไปหยิบรองเท้าแตะมาเคาะ จากนั้นก็เดินไปเรียกอัลเบิร์ต

“อัล พ่อจะกลับแล้ว”
บันดีดนิ้วเรียก  ไม่นานเจ้าอัลเบิร์ตก็เดินแกว่งหางออกมา

“เดี๋ยวผมเก็บเสื้อไว้ให้ครับ ตอนนี้ใส่เสื้อผมไปก่อน  อ้อ แล้ววันนี้เป็นไงบ้างครับ?”
บันจิ้มตรงหน้าอกของเคลวิน แล้วหัวเราะ

“วันนี้เหรอ…………..ก็ น่าประทับใจดี”

“ยานี่เก็บไว้กินเวลาปวดท้องครับ”
บันสอดซองยาเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเคลวิน พอดีกับที่พ่อถือกุญแจรถเดินออกมา

       พ่อขับรถเรนจ์ โรเวอร์ซึ่งใช้อยู่ประจำออกมาตามถนนที่ค่อนข้างมืด นาน ๆ ถึงจะเจอกับเสาสูงที่มีหลอดไฟส่องสว่างอยู่ริมทาง บันนั่งหาวหวอดอยู่เบาะหลัง ส่วนเคลวินนั่งอยู่เบาะหน้ากับพ่อ กำลังคุยกันเรื่องต่อเติมบ้าน ซึ่งเคลวินสนใจหลังจากเห็นบ้านของบันที่มีการตกแต่งแตกต่างไปจากบ้านโดยทั่วไป บันนั่งอยู่ตรงกลางเบาะรับลมเย็น ๆ ของเครื่องปรับอากาศจากแผงคอนโซลหน้ารถ ไม่นานก็ตาปรือและม่อยหลับไปหลังจากได้ยินพ่อพูดเรื่องต้นไม้เมืองร้อน ต้นกล้วย ต้นธรรมรักษา

“เอ้า หลับไปแล้ว” พ่อเหลือบมองกระจกมองหลัง แล้วหันมาทางเคลวิน ตอนนี้รถยนต์ขับออกสู่ถนนเส้นหลัก มุ่งตรงสู่ย่านใจกลางเมือง

“ฝากบันด้วยนะครับ ลูกผมกินง่ายนอนง่าย คุณคงไม่ลำบากเท่าไหร่”

“ผมจะดูแลบันให้ดีที่สุดเหมือนคุณดูแลครับ สัญญา”
เคลวินพูดแล้วหันตัวไปมองเบาะหลัง ตอนนี้บันหลับไปแล้วโดยที่ไม่ได้ฟังเขาพูด แต่ยังไงก็ตาม เคลวินไม่ได้พูดรับปากเพื่อให้จบเรื่องไปเท่านั้น แต่เขานึกอยากดูแลบันจริง ๆ เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดตั้งแต่ตอนที่เฉินไปรับคนมาผิด กลายเป็นเรื่องผิดพลาดที่น่าดีใจ บันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา  เป็นเหมือนน้ำอุ่น ๆ ที่เข้ามาละลายช็อคโกแลตในตู้เย็น เป็นน้ำหวานสีส้มที่จับกับเกล็ดน้ำแข็งเย็น ๆ หรือเป็นอะไรซักอย่างที่ทำให้รู้สึกอุ่นในใจ นึกไปแล้ว ก็น่าให้รางวัลกับเฉิน จากที่ควรทำโทษด้วยการหักเงินโบนัสปลายปี ตอนนี้เคลวิน คงต้องให้รางวัลพิเศษแทน


Keniji Teruyama

  • บุคคลทั่วไป

บันทึกของบัน

       “ สองเดือนพอดีที่ผมปลูกดอกเซี่ยงรื่อขุย ครับ ชื่อมันเรียกยากจริง ๆ จะเรียกฮิมาวาริ ก็โดนห้าม ก็จะใครซะอีกล่ะครับ ก็คุณพ่อของอัลเบิร์ต มิสเตอร์เคลวินนั่นแหละ ห้ามใช้ภาษาญี่ปุ่นในบ้าน   ดอกเซี่ยงรื่อขุยหรือว่าทานตะวันที่ขุดหลุมปลูกไว้เมื่อสองเดือนก่อน ตอนนี้ออกดอกบานหมดแล้ว บางหลุมที่งอกขึ้นมาทั้งสามเมล็ด ผม (กับอัลเบิร์ต) ก็ช่วยกันย้ายมาปลูกหลุมอื่น ต่อกันเป็นแนวจนสุดประตูรั้วบ้านเลยครับ วันก่อนมีช่องทีวีฮ่องกงเข้ามาขอทำสารคดี ผมก็ต้องตามเคลวินมาให้สัมภาษณ์ด้วยครับ เพราะนักข่าวไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษ แล้วผมก็พูดกวางตุ้งได้แย่เกินกว่าจะออกทีวีได้

       เงินที่ได้มาจากรายการข่าว ผมให้เป็นของขวัญอัลเบิร์ต ตอบแทนที่มันช่วยเฝ้าสวน เงินที่ได้มากลายเป็นตุ๊กตาเป็ดฝูงใหม่ (ฝูงเดิมพิการ หัวขาด ปีกหลุดไปหมดแล้ว) แล้วก็ได้ปลอกคออันใหม่ อ้อ เกือบลืมเขียน นักข่าวและช่างภาพที่มาที่บ้านบอกว่า รายการจะออกอากาศตอนค่ำพรุ่งนี้ เป็นช่วงสารคดีที่น่าสนใจ ผมว่าถ้าไปปลูกในเมืองไทยคงไม่ได้ออกทีวี แต่ที่ฮ่องกง คงไม่มีใครปลูกทานตะวันมากขนาดนี้ ผม (กับอัลเบิร์ต) นับต้นเซี่ยงรื่อขุยได้ยี่สิบเจ็ดต้น จากที่คิดว่าจะปลูกประดับบ้านเฉย ๆ ตอนนี้มันกลายเป็นสวนขนาดย่อมที่มีคนเข้ามาขอถ่ายรูปทุกวันไปแล้ว อัลเบิร์ตดีใจที่มีคนมาเที่ยวบ่อย ๆ  และเจ้าขนฟูก็กลายเป็นไกด์นำเที่ยวสวนดอกไม้ขนาดเล็กของเราไปแล้ว

       หลังจากกลับมาจากบ้านที่เมืองไทย เคลวินให้ผมหยุดหนึ่งเดือน แต่จริง ๆ ก็ไม่ได้หยุดนะครับ ยังทำงานส่งอาจารย์และแก้งานอยู่เหมือนเดิม เป็นการศึกษาบทความสมัยราชวงศ์ถังที่มีอิทธิพลต่อคนในยุคสมัยใหม่   
           
       ที่ปรึกษาอีกคนก็คือคุณพ่อบ้านของพี่หลินครับ อนุญาตให้ไปทำการบ้านที่ห้องสมุดได้ทุกวัน และหลังจากบ่นกับตัวเองอยู่บ่อย ๆ (ตั้งใจให้เคลวินได้ยิน) ในที่สุด เคลวินก็พาไปลั่วหยาง และฉางอัน เคลวินบอกว่า ผมเอาแต่บ่นว่าไม่มีข้อมูล ก็เลยพาไปดูบทกวีที่หลี่ไป๋กับตู้ฝู่เขียนเอาไว้ (สงสัยคงรำคาญเสียงบ่นงึมงำซะมากกว่า) งานชิ้นสุดท้ายที่ส่งอาจารย์ไป ได้รับคำชมครับ ก็แน่อยู่แล้ว เพราะได้ครูเก่งอย่างคุณพ่อบ้าน แล้วเคลวินก็มาตรวจให้ด้วย เขาใช้ปากกาสีแดงวงเอาไว้ตรงที่ผมเขียนผิด เคลวินบอกว่า ถ้าลงทุนขนาดนี้แล้วผมไม่ได้รางวัลวิทยานิพนธ์ติดมือกลับมาตอนเรียนจบช่วงปลายปี เคลวินจะทำโทษ (อีกแล้ว) จริง ๆ ไม่ใช่ความผิดผมเลยนะเนี่ย

       หลังจากปิดเล่มวิทยานิพนธ์แล้ว เคลวินให้เริ่มงานที่บริษัทครับ ก็บริษัทของเคลวินนั่นแหละ พนักงานที่นั่นดีใจกันมากที่เคลวินยังเป็นเจ้าของ จากคำพูดนี้ ก็จะพอเห็นภาพว่า แม้จะดูเป็นคนเรียบเฉย(และเย็นชา)ไปบ้าง แต่เคลวิน(ของผม)ก็เป็นที่รักของคนในบริษัทเหมือนกันนะ และที่ทำให้ผมดีใจมาก ๆ ก็ตรงที่เคลวินให้ผมหยุดครึ่งวันได้ในวันศุกร์ ผมดีใจตรงที่จะได้ไปเที่ยวก่อนกลับเข้าบ้าน แต่ไม่ใช่หรอกครับ เคลวินก็หยุดครึ่งวันด้วยเหมือนกัน เป็นครึ่งวันที่เคลวินบอกว่า ต้องใช้เวลาด้วยกันก่อนกลับเข้าบ้าน  อย่างแรกที่ได้ทำตอนหยุดครึ่งวันคือ ได้ครัวใหม่ครับ เคลวินสั่งชุดครัวเข้ามาใหม่ แล้วเราก็เริ่มทำกับข้าวกินเอง (ผมว่าผมทำอร่อยกว่านะ) แต่เคลวินทำไม่อร่อยเลย ขนาดอัลเบิร์ตยังดมแล้วเดินหนี ยังไงก็ตาม อาหารอย่างเป็นทางการที่เราภูมิใจก็คือ เค้กครับ เค้กวันเกิดของเคลวินกับอัลเบิร์ต ผมเพิ่งรู้ว่าเคลวินเกิดก่อนอัลเบิร์ตหนึ่งวัน (แต่ก่อนหลายปีนะครับ ไม่ใช่ปีเดียวกัน เดี๋ยวจะหาว่าอัลเบิร์ตแก่)  โอ๊ย ฮาครับ ก็หมาอย่างอัลฯ ต้องคูณสิบสองใช่มั้ยล่ะครับ ถ้าเกิดปีเดียวกับเคลวิน สงสัยอัลฯ จะเป็นทวดของหมาเซนต์เบอร์นาร์ดในฮ่องกง

       พูดถึงเรื่องวันหยุด เคลวินจะพาผมไปเรียนว่ายน้ำในวันเสาร์หน้าแล้วก็พาไปเรียนขับรถ (พวงมาลัยกับเลนถนนของฮ่องกงไม่เหมือนเมืองไทย) แล้วก็จะให้ผมไปสอบใบขับขี่ด้วย (ถ้าไม่ผ่านก็จะโดนทำโทษเหมือนเช่นเคย)

       วันก่อนพ่อเพิ่งส่งของขวัญมาให้ เป็นแบบบ้านที่พ่อทำให้จากโครงเดิมที่เคลวินส่งไป เคลวินบอกว่าจะทำห้องนอนให้กว้างขึ้น แล้วย่อห้องผมให้เล็กลง เอาไว้ใช้เป็นที่เก็บของ ครับ เป็นการย้ายผมออกมาอย่างเป็นทางการ (เหมือนไล่ที่เลย)

       ช่วงสุดท้ายของบันทึก ผมจะเล่าเรื่องชีวิตรักของพี่ชายสี่คนของผมให้ฟัง

       เริ่มจาก พี่หลิน หลังจากที่คุณพ่อบ้านบ่นว่าตัวเองแก่มากแล้ว ชอบหลง ๆ ลืม ๆ พี่หลินควรจะมีคนรักมาทำหน้าที่นี้ ในที่สุดพี่หลินก็มีแฟนแล้วครับ สงสัยหรือเปล่า ว่าแฟนพี่หลินเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
       แฟนพี่หลินเป็นนักเปียโนหญิงครับ เล่นเก่งมาก พี่หลินเจอเธอครั้งแรกที่งานคอนเสิร์ตการกุศล แล้วบังเอิญเธอเอานกแก้วมารักษาที่คลินิกเลยได้พบกันอีก คุยกันไปมาก็ลองคบกันดู (พี่หลินเล่า)

       คนที่สอง ดาเนียล (ปลาหมึกจอมเลื้อย) คนนี้ยังไม่มีแฟนเพราะทำงานหนัก ลืมบอกไปว่า ดาเนียลจอมกะล่อน ตอนนี้ขยันทำงานมากครับ เย็นวันศุกร์ก็แวะเข้ามากินข้าวด้วยที่บ้านบ่อย ๆ

       คนที่สาม พี่ภูมิ พี่ของแม่ไก่ พี่ภูมิไปทำงานต่างประเทศแล้วได้แฟนเป็นคุณหมอลูกครึ่งไทยแคนาดากลับมา คุณหมอเป็นผู้ชายรูปร่างประมาณผมนี่แหละครับ (แม่ไก่บอกว่า สงสัยพี่ภูมิจะชอบคนประมาณนี้)


       คนสุดท้าย ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็พี่ชายสุดที่รักของผมไงครับ เคนตะซัง คนนี้พูดทีเล่นทีจริงกับเคลวินว่าเขาจะอยู่เป็นโสดไปอีกหลายปี เพื่อรอให้เคลวินเลิกกับผม จากนั้นก็จะรับผมไปอยู่ที่โตเกียว เคลวินไม่โกรธครับ แต่กลับบ้านมาก็เก็บหนังสือภาษาญี่ปุ่นของผมใส่กล่องไว้หมดเลย แถมยังห้ามพูดภาษาญี่ปุ่นในบ้านอีก ก็อย่างที่ผมบอกตอนต้นบันทึกแหละครับว่า ขนาดดอกทานตะวันยังให้เรียกเป็นภาษาจีนเลย เคลวินไม่ใช่คนขี้หึงครับ แต่เก็บเลขพาสเวิร์ดอีเมล์ผมไว้ทั้งหมด บอกว่าต้องทำหน้าที่ดูแลผมแทนพ่อที่เมืองไทย

       อากาศที่ฮ่องกงตอนนี้เริ่มหนาวแล้วครับ อัลเบิร์ตได้เสื้อกับที่นอนใหม่เอี่ยม ส่วนผมไม่ได้อะไรเลย จริง ๆ ครับ เคลวินบอกว่าผมทำงานมีเงินเดือนแล้ว แต่อัลเบิร์ตไม่มีงานทำ ยังไงก็เถอะ ผมก็อยากได้ของขวัญทุกวันหยุดสำคัญจากเคลวินอยู่ดี อากาศหนาวนี่น่านอนซุกผ้าห่มมากครับ อยากจะหยุดงานที่ทำไว้ทั้งหมด แต่เคลวินก็ชอบเอาเท้ามาเขี่ย (ผมไม่ได้มีสี่ขาเหมือนอัลเบิร์ตซะหน่อย) บางทีก็เอาปากกามาจิ้มท้อง ถ้าผมไม่ออกมาจากผ้าห่มมาทำงานต่อก็กระชากผ้าห่มออก (คิดว่าเคลวินจะยิ่งกว่าคุณพ่อของผมแล้วล่ะครับตอนนี้)

       จบการบันทึกไว้เท่านี้นะครับ เป็นบันทึกที่นินทาว่าร้ายเคลวินได้เต็มที่ เพราะเคลวินอ่านตัวหนังสือภาษาไทยไม่ออกครับ ขอบคุณพ่อขุนรามฯ ที่ท่านประดิษฐ์ตัวอักษรไทยขึ้นมาครับ”


บัน,@ฮ่องกง



Sweet Home in Hong Kong ความรัก น้ำแข็งไส หัวใจสีส้ม จบบริบูรณ์ครับ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2012 21:47:16 โดย Keniji »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ piggie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
คิดถึงน้องบัน น้องงบันก็มาให้หายคิดถึง น่ารักที่สุดเลยค่า



.......กรี๊ด!!!! ขอโทษทีค่าที่มาขั้น เมื่อกี้เรานึกว่าโพสจบแล้วอ่า ขอโทษทีนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2012 21:08:19 โดย piggie »

Keniji Teruyama

  • บุคคลทั่วไป
จบบริบูรณ์ครับ

ขอบคุณทุกรีพลาย ตั้งแต่รีพลายแรกและต่อไปอีกทุก ๆ รีพลาย ขอบคุณที่บวกคะแนนให้ผมและขอบคุณที่บวกเป็ดให้ด้วยครับ
แม้เรื่องนี้จะจบแล้ว แต่ยังไงก็อย่าลืมกันนะครับ อีกซักพัก(ใหญ่) คิดว่าจะมีกิจกรรมด้วยกัน แต่ยังไม่บอกรายละเอียดละกันนะ
เอาไว้มีอัพเดต ผมจะแจ้งเอาไว้บนหัวกระทู้นี้นะครับ ตอนนั้นกระทู้นี้คงไปอยู่ห้องนิยายจบแล้ว

แฟนนิยายรหัสลับนักปรุงยาที่รอตอนจบ ตอนนี้ผมแก้คำผิดกับแก้เนื้อหาบางตอนให้อ่านง่ายขึ้น เสร็จแล้วก็จะเอามาลงใหม่ทั้งหมดครับ
เป็นเหมือนรีไรท์แก้เนื้อหากับแก้คำผิดไปด้วย

ขอบคุณอีกครั้ง หากมีนิยายใหม่ออกมาก็ฝากด้วยนะครับ /เคนอิจิ

ปล.ใครนะ กดบวกเราเร็วมาก ^^ แล้วผมจะเข้ากดบวกให้ทีหลังครับ ตอนนี้ไปแก้งานอีกเรื่องก่อนครับ
ปล2. ทางเข้าเพจ กดตรงน้องก็อตซิลล่าตรงแบนเนอร์ลายเซ็นนะครับ ไปคุยกันได้ หรือฝากข้อความ ทวงนิยาย สอบถาม ได้ครับ


ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
บันทึกของบันให้ความรู้สึกเหมือนว่าจบแล้วเลยอ่ะ

เย้ย  จบแล้วจริง ๆ อ่ะ

ออฟไลน์ Tnapat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
อ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุขทุกตอน  ชอบนิยายที่อ่านแล้วได้ความรู้

honeystar

  • บุคคลทั่วไป
อ่านจบเเล้วววว ในความรู้สึกเหมือนเพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ไม่กี่วันก่อนเอง
ที่จริงอ่านเรื่องนี้ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกของเล้าเป็ดเลยค่ะ เป็นเรื่องแรก ๆ ที่ได้อ่านเลยด้วย
(ที่จริงแอบเป็นสมาชิกไร้เงามานาน เพิ่งสมัคสมาชิกเล้าเป็ดเมื่อเร็วๆนี้เองค่ะ)
ใจจริงยังไม่อยากให้เรื่องนี้จบเลยค่ะ T^T เหมือนมันยังไม่เต็มอิ่มเท่าไหร่
ยังหลงอยู่ในมนต์เสน่ห์ของบัน กับ เควิล เเล้วอัลเบิร์ต อยู่เลยค่ะ
ยังไงก็ ขอตอนพิเศษ เยอะๆนะคะ >< /*เปรี้ยง  :z6:
เเล้วเรื่องนี้จะมีรวมเล่มหรือเปล่าคะ ? ;w; คืออยากเก็บรวมเล่มอ่ะค่ะ ><
+1 เป็ดให้เเล้วนะคะ เสียดายยังกด + ไม่ได้ เลย

ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะที่เขียนนิยายสนุกๆ มาให้ได้อ่าน เป็นกำลังใจให้ค่ะ
รอเรื่องใหม่ค่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2012 21:16:33 โดย honeystar »

LoveFoolJoao

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ mr_longza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ขอบคุณมากๆครับ

ออฟไลน์ ErosAmor

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 851
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
คุณพ่อของบันน่ารักมาก  ส่วนเคลวินก็น่ารักเหมือนกัน อิอิ 
ว่าเเล้วว่าบันนี่ไม่กล้าพูดชัวร์ :laugh:
ไม่อยากให้จบเลยค่ะ อยากอ่านเเล้วยิ้มไปกับความน่ารักของบันนานๆ
ขอให้มีตอนพิเศษออกมาด้วยนะคะ  :impress2:

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
เรื่องนี้สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆๆให้อ่านกัน ^^   :L2:

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
มีความสุขมากกับเรื่องนี้ ไม่รู้จะเมนต์ไงเลย
เอาเป็นว่า ขอบคุณเคนอิจิมากๆนะคะ
รักนิยายเรื่องนี้มากเลย  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 o13 o13

ขอบคุณเคนจังด้วย สำหรับนิยาย Feel Good ดีดี อีกเรื่องนอกจากอ่านไป อารมณ์ดีไป

ยังได้สาระมากมาย


เรายังรอนิยายเรื่องใหม่จากเคนจังอยู่นะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
บันนี่จบซะแล้ว ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ

ออฟไลน์ firstlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ประทับใจเรื่องนี้มาก
ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว TT
อยากอ่านต่ออีกเรื่อยๆ
ฮืออออออออออออ

ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4
จบไปอีกหนึ่งเรื่องแล้วบันจังงงงงงงงงง เเอบเศร้าที่ต่อไปจะไม่มีเคลวินมาให้กรี๊ดแล้ว ขอบคุณมากนะคะที่มาลงเรื่องราวดีดีให้ได้อ่านกัน
ปอลอ อยากให้รวมเล่มเรื่องนี้ด้วยค่ะ ลงชื่อออกเสียงให้รวมเล่ม

bow55

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1: :L2:อรั้ยยยยย
รักกันๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ
รักบันรักเคลวินรักคุณเคนอิจิ

ออฟไลน์ dimth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
อ่านแล้วอุ่นดีจัง
:กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Ciin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จบแล้วหลอคะ
ยังไม่อยากให้จบเลยย
บันนี่น่ารักมากๆจิงๆ
ขอตินพิเศษแบบสวีทๆกันได้มั้ยคะ >"_<

Keniji Teruyama

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงน้องบัน น้องงบันก็มาให้หายคิดถึง น่ารักที่สุดเลยค่า

ไม่เป็นไรครับ คั่นได้ ปาดได้^^

.......กรี๊ด!!!! ขอโทษทีค่าที่มาขั้น เมื่อกี้เรานึกว่าโพสจบแล้วอ่า ขอโทษทีนะคะ

ไม่เป็นไรครับ คั่นได้ ปาดได้^^ ไม่ซีเรียส :กอด1:

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
จบซะแล้ว ว ว ;_______;

รักบัน รักเคลวิน รักอัลเบิร์ต รักตัวละครทุกตัวของเรื่องนี้

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่ให้อ่าน

หวังว่าจะมีเรื่องใหม่มาเสริฟในไม่ช้านี้

thisispom

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณสําหรับเรื่องราวแสนอบอุ่น คงคิดถึงบันนี่กับอัลเบิร์ตตลอดๆ ^_^'

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด