ตะวันโพล้เพล้กำลังจะลับเหลี่ยมมะพร้าวริมแม่น้ำแม่กลอง..รุ่งโรจน์เดินเกาะบ่าสุริยา โดยมีแสงทองนำหน้า..ตลาดยามเย็นที่ชุมชนอัมพวา สร้างความประทับใจให้ทั้งสามอยู่ไม่น้อย..ขนมไทยมากมายในราคาที่ไม่แพงมากดูมีเสน่ห์จนรุ่งโรจน์ยังกรากเข้าไปชี้สั่งกินตรงนั้น..
“คิดจะเที่ยวแบบกิน อย่าสั่งเยอะ เอาแค่ชิมพอ ประมาณถ้าเขาว่าก๋วยเตี๋ยวอร่อย ก็ต้องหนึ่งหารสาม ขนมบัวลอยไข่เต่าอร่อยก็หนึ่งหารสาม จะได้กินหมดไม่เหลือทิ้งขว้าง..” สุริยาร้องบอก พอทั้งคู่ปฏิบัติตาม จึงเป็นเรื่องสนุกสนาน..ประมาณมะพร้าวอ่อนหนึ่งลูกหลอดสามแล้วแย่งกันดูดน้ำ..
เป็นธรรมดาที่แสงทองเสียเปรียบ เพราะระวังไม่ให้ใบหน้าตนไปถูกใบหน้าหนุ่ม ๆ ..
และค่ำคืนที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง..หิ่งห้อยนับแสนนับล้านตัว บนต้นลำพูใหญ่ในคลองผีหลอก และริมแม่น้ำแม่กลอง..มีมากมายหลายร้อยต้น ส่งแสงเรืองรองระยิบระยับประดุจดวงดาวบนฟากฟ้ามาแต่งเติม.แสงทองถึงก็โอ้โฮ อ้าฮา ตลอดการเดินทางโดยเรือหางยาว..เสียงไกด์จำเป็นคือคนขับเรือให้ความรู้เป็นระยะ
“ถ้าแม่น้ำสายไหน มีหิ่งห้อยแสดงว่าแม่น้ำนั้นยังสะอาดเพราะตัวหิ่งห้อยจะลงไปวางไข่ในน้ำแล้วกลางคืนก็จะเป็นอย่างที่เห็น”
“โกโบริ โกโบริ ฉันอังสุมารินมาแล้ว คุณอยู่ไหน แวร์ อาร์ ยู ไอ เลิฟ ยู โกโบริ..โกโบริ” แสงทองตะโกนเบา ๆ พอให้สองหนุ่มขำแล้วก็ใช้มะเหงกเคาะหัวให้เบา ๆ ทำนองหยอกล้อ..
“ไม่คิดนะคะว่า มันจะกระพริบพร้อมกัน ไฟฟ้าหรือเปล่าลุงไปใกล้ ๆ ซิ” แสงทองทำตลก..จนกระทั่งเรือที่พาชมหิ่งห้อยตามลำน้ำแม่กลองแล่นกลับ แสงทองจึงเอ่ยว่า
“มาเห็นก็เป็นบุญตา แต่มันก็เปลืองตังค์”
“อย่างไรคนมันต้องใช้เงินอยู่แล้วแสงทอง ไม่ใช้เที่ยวก็ใช้ทำอย่างอื่น หรือไม่ทำอย่างอื่นสุดท้ายก็ต้องทำงานศพ หรือไม่ก็ทิ้งไว้ให้คนอื่นใช้..เงินไม่เหลือติดมือกลับบ้านเก่าสักบาท..เพราะฉะนั้นหาความสุขให้เป็น ทำบุญบ้าง เที่ยวเปิดสมอง ดูชีวิตคนบนโลกนี้บ้าง แค่นี้กำไรแล้ว..”
“สาธุ” ทั้งรุ่งโรจน์และแสงทองรับสาธุการพร้อมกัน อดีตพระจึงหน้าแดงต้องแก้เขินโดยวักน้ำใส่ให้ร้องโวยวายด้วยอากาศเย็นยามค่ำคืนเป็นทุนเดิม
ค่ำคืนนั้นแสงทองคงมีความสุขอย่างมาก ระหว่างที่เดินกลับมาโรงแรม หญิงสาวกล่าวขอบคุณทั้งสุริยาและรุ่งโรจน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า..
เมื่อแยกย้ายกันเข้าห้อง สุริยาต้องใจเต้นแรงอีกครั้ง ด้วยรุ่งโรจน์ จิบเบียร์ไปหลายกระป๋องตั้งแต่อยู่บนเรือ..คนเมาขาดสติย่อมปล่อยให้ความยั้งคิดถดถอย
สิ่งแรกที่รุ่งโรจน์ทำเมื่อเดินเข้าห้อง คือถอดเสื้อเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่หน้าอกและต้นแขนดูกำยำล่ำสัน เขานั่งไขว่ห้างพลางจิบเบียร์สายตาก็จดจ่ออยู่กับภาพข่าวโทรทัศน์ และความประจวบเหมาะก็เกิดขึ้นเนื้อหาในข่าว เป็นภาพของน้องแอนนี่กับแฟนหนุ่มดาราหน้าใหม่..สุริยาเองก็ยืนดูอยู่โดยไม่กล่าวว่าอะไร หลังจากนั้นก็ใช้ผ้าเช็ดตัวของโรงแรมนุ่งก่อนจะถอดกางเกงและเสื้อยืดคอกลม พอเสื้อยืดพ้นคอ รุ่งโรจน์ก็ทำในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง คือโยนกระป๋องเบียร์เปล่าปะทะข้างฝาห้องพักอย่างแรง
“ผู้หญิงน่าเบื่อที่สุด” เขาสบถออกมาแววตามีความเจ็บปวด แต่เมื่อเห็นสีหน้าสุริยา เขาจึงเสไปยืนรับลมเย็น ๆ ที่ระเบียง สุริยานึกเป็นห่วงจึงได้เดินตามออกไปยืนชมวิวเคียงกัน แล้วก็ได้ยินเสียงถอนหายใจของอีกคน
“เครียดเรื่องอะไร”
“คุณเคยถูกผู้หญิงหลอกไหม” รุ่งโรจน์เปิดเผยความในใจ..สุริยาสั่นหัว คนถามจึงหัวเราะหึ ๆ
“แม่แอนนี่สาวสวย ดาราดาวรุ่งนะซิ ตอนที่มันอยู่กับผมมันก็บอกว่ารักผมคนเดียว รักตั้งแต่แรกพบ รักปานจะกลืนกิน พอตอนหลังมันดัง ผมเริ่มมีชื่อเสียง เพราะควงกับมันออกงานบ่อย ๆ คุณแม่ผมก็สั่งให้แม่นั่นเลิกคบกับผม ผมมารู้ตอนหลังว่าแม่จ้างมันมาเล่นละคร..”
“ก็ไหนคุณเคยบอกว่าไม่ได้รักใคร่ใยดีเธอไม่ใช่รึ”
“ผมไม่ได้รักเธอหลอก แต่พอเห็นคนดัดจริตแล้วมันแค้นนะซิ นี่มันคงกำลังหลอกไอ้พระเอกหน้าโง่นี่อยู่เหมือนกัน หรือวงการมายามันเป็นอย่างนั้นก็ไม่รู้ คบกันเพื่อให้ได้เป็นข่าว”
“แค้นไปก็เท่านั้นคุณรุ่ง สู้ให้อภัย อโหสิกรรมต่อกันไป ทางใครทางมัน ตอนนี้คุณก็มีทางเดินของตัวคุณเองแล้วไม่ใช่รึ ผมรู้นะว่าคุณกำลังเลือกที่จะทำในสิ่งที่คุณพอใจ”
“ถ้าสิ่งที่ผมพอใจมีคุณอยู่ด้วยคุณจะให้ความร่วมมือไหม” รุ่งโรจน์ย้อนถาม..แต่สุริยาไม่ตอบ ไม่กล้าแม้จะสบตาที่มองมาด้วย
“คุณคงเมา ..เข้าไปข้างในเถอะเดี๋ยวตกลงไป..” สุริยาเปลี่ยนเรื่องคุย พลางเปิดประตูเชื้อเชิญอีกคนเข้าไปในห้อง..ด้วยเขาเองก็รู้สึกว่าลมที่พัดจากแม่น้ำทำให้ทั่วทั้งสรรพางค์กายยะเยือกเย็น จนถึงหัวใจ..
“เบียร์แค่นี้ผมไม่เมาหรอก..” ไม่เมาแต่เดินเซมากอดเอวและซบลงที่หัวไหล่ให้อีกคนประคองกลับมานั่งที่โซฟา..กลิ่นเบียร์คละคลุ้งออกมาเมื่อใกล้ชิด จนสุริยาต้องเบือนหน้าหนี..
“รังเกียจผมหรือไง” พูดแล้วก็ยิ่งยื่นหน้ามาจนจมูกชิดกัน..สุริยาไม่ตอบ..โดยเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ สักพักก็ได้ยินเสียงเคาะประตู สุริยารีบนุ่งผ้า ตัดสินใจเปิดรับ..พบอีกคนอยู่ในลักษณะนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวเช่นกัน
“ผมอาบน้ำด้วยคนได้ไหม อยากให้ถูหลังให้..” สุริยาไม่ทันตอบ รุ่งโรจน์ก็จู่โจมเข้ามา ดึงประตูปิดปังแล้วกดล็อค
“ห้องน้ำมันเล็กหายใจไม่ออก เปิดประตูเถอะ” ทำท่าจะไปที่ประตูแต่รุ่งโรจน์ดึงข้อมือไว้ หลังจากนั้นเขาก็ปลดผ้าขนหนูเผยให้เห็นกางเกงในสีขาวตัวจิ๋ว..และต้นขาด้านบนกับหน้าท้องที่เป็นลอนกล้ามเนื้อ..
“คุณถอดด้วยซิ เราจะอาบน้ำด้วยกันไง” รุ่งโรจน์รบเร้า แต่สุริยาจับปมผ้าไว้แน่น..
“ไม่หรอก ผมไม่ถอด ผมอาย แต่ผมถูหลังให้คุณได้” สุริยารีบหมุนวาล์วน้ำอุ่นให้ค่อย ๆ ไหลรดตัวคนที่ยืนหันหลังให้..หลังจากนั้นก็ถูสบู่ไปทั่วแผ่นหลังอย่างเบามือ..
“มือคุณเบากว่ามือผู้หญิงอีกนะเนี่ย” สุริยาไม่ตอบแต่รู้สึกน้อยใจอย่างประหลาด ..อีกคนจึงหันหน้ากลับมาพร้อมกับดึงมือที่มีสบู่ให้ช่วยถูบริเวณด้านหน้า..
“มือคุณก็มีนี่” สุริยา ตัดสินใจ ดึงมือรุ่งโรจน์มา ยัดสบู่ให้ แล้วรีบเปิดประตูผละออกจากห้องน้ำ เมื่อเดินออกมา เขาได้ยินเสียง เพลงคนไม่มีแฟน (ของธงไชย แมคอินไตย์) ที่รุ่งโรจน์ร้องประสานเสียงน้ำไหลว่า
“ในชีวิตเคยมีคนผ่านมา แต่ว่าเขาเข้ามาเพื่อผ่านไป หัวใจนี้ไม่มีใคร ไม่ว่ารักฉันมีให้กับใคร บทสุดท้ายก็ลงแบบเดิมคือช้ำใจ...กลับมาทุกครั้ง ฉันเหมือนคนโชคร้ายที่โดนสาปไว้ให้พบแต่ผิดหวัง ขอเป็นเธอได้ไหม ช่วยปลดคำสาปร้าย คำนั้น..ให้ฉันได้เจอรักเสียที อยากโดนเป็นเจ้าของ อยากมีคนจับจอง แม้เธอได้ครอบครอง เจ้าของใจดวงนี้ จะคอยให้ความรักจะดูแลอย่างดี ที่เธอทำให้ฉันไม่ต้องทน เป็นคนนี้ คนไม่มีแฟน..”
ขณะที่รุ่งโรจน์ร้อง สุริยาก็รีบเร่งเสียงโทรทัศน์กลบ แต่เขาก็ยังตะโกนร้องเพลงออกมาอย่างเสียงดัง จนคนเร่งเสียงโทรทัศน์ต้องยอมแพ้..ไปยืนทำตาเขียวอยู่ที่หน้าประตู พลางถามว่า..
“เดี๋ยวแสงทองมันก็มาเคาะประตูถามว่า เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก”..
“ไม่อยากให้บ้าก็ฟังซิว่าผมร้องเพลงอะไร” เขานุ่งผ้าเช็ดตัวก่อนจะปลดกางเกงในลง..กองอยู่บนพื้น
“ทำอย่างไรดีกับเจ้านี่ ทิ้งเนอะ”
“เสียดาย ..เพิ่งซื้อมา ใส่ได้ไม่กี่ครั้งเอง เอาไว้นั้นแหละเดี๋ยวจัดการให้” สุริยาเกาหัวแกร็ก ๆ และต้องหลบทางวูบ เมื่อคนทิ้งเจ้าตัวจิ๋วเดินออกจากห้องน้ำหน้าตาเฉย เมื่อรุ่งโรจน์ออกไป สุริยาจึงผลุบเข้าไปแล้ว ฮัมเพลงคนไม่มีแฟนท่อนที่ว่า
“ฉันเหมือนคนโชคร้ายที่โดนสาปไว้ให้พบแต่ผิดหวัง ขอเป็นเธอได้ไหม ช่วยปลดคำสาปร้ายคำนั้น ..ให้ฉันได้เจอรักเสียที”
และยังร้องไม่ทันจบ คนที่เพิ่งออกจากห้องน้ำไปก็กลับมาเคาะประตูแล้วพูดมาว่า
“คำสาปคุณถูกปลดแล้ว..แต่คุณรักเป็นหรือเปล่า”
ทีนี้สุริยาไม่ตอบ..แต่รีบเปิดน้ำให้ไหลรดหน้าสุดแรง เพราะไม่อยากได้ยินอะไรที่ทำให้หัวใจหวั่นไหวอีกแล้ว
