##อาจเป็นเพราะพรหมลิขิต
ก่อนอื่นใดๆ พันด้าต้องน้อมตัวลงนับพับเพียบเรียบร้อย
จากนั้นก็ขอบอกว่า"ขออภัยเจ้าค่ะ" อิชั้นผิดไปแล้ว
มาลงตอนจบให้เจ้าค่ะ ขอโทษที่หายหัวไปนานเนิ่น
วันนี้ติดฝน สิงอยู่ที่ร้านเน็ตก็เลยมารับผิดเจ้่าค่ะ
ขอบคุณป้าๆ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ นักอ่านทุกท่านที่คอยให้กำลังใจเสมอมา
กอดชดเชยส่วนที่หายไป ขอบคุณ และ ขอบคุณค่ะล
อ่านต่อได้เลยเจ้าค่ะ... ***************************
เสียงครางหวีดหวิว ร่างข้างใต้ที่คอยขยับตอบรับทุกการกระทำอย่างเต็มใจ แม้ว่าในห้องจะมืดจนมองแทบไม่เห็น แต่ก็ขอจินตนาการว่าใบหน้าขาวไร้กรอบแว่นคงกำลังแดงเรื่อ ริมฝีปากบางแดงช้ำเพราะถูกกระทำหลายต่อหลายครา หากไม่ได้ยินเสียงครางนั่นก็เพราะโดนคว้ามาจูบสนิท ไม่ใช่ว่าไม่อยากฟังเสียง แต่เพราะทนฟังไม่ไหวต่างหาก
ยิ่งกระหน่ำซ้ำลงไปก็ยิ่งหลงใหล ลืมหมดสิ้นทุกสิ่งอย่างรอบตัว รู้เพียงแค่ต้องไขว่คว้าเจ้าของร่างตรงหน้าเอาไว้ไม่ให้ถดถอยหนี และจะไม่ยอมปล่อยมืออีกเด็ดขาด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เพิ่งจะเข้าใจคำว่าลุ่มหลงมัวเมาจนถอนตัวไม่ขึ้น จวบจนรสรักร้อนแรงสิ้นสุดลง
ยังคงชัดเจน...ทุกท่วงท่า....แม้ว่าตอนนี้เจ้าตัวจะเพลียหลับไปแล้วในอ้อมแขนนี้ คงเพราะเพลียเหนื่อยอ่อน ไม่น่าเชื่อและไม่อยากจะเชื่อว่า 'ครั้งแรก' ทั้งที่ร้อนแรงให้หลงใหลได้มากมายขนาดนี้ อยากกอด อยากจูบ อยากตีตราจองให้ทั่วผิวขาวๆนั้นเป็นรอย แสดงความเป็นเจ้าของและบอกใครต่อใครว่าลิงแว่นตัวนี้เป็นของนายแรร์และผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว
ริมฝีปากได้รูปแตะลงบนไหล่ขาวที่โผล่พ้นชายผ้า คนที่กำลังหลับขยับตัวคล้ายจะหนีทั้งที่ยังหลับตา แต่แล้วก็พลิกตัวกลับมาหาแล้วซุกหัวมุดเข้ามาในอ้อมกอด ..นายแรร์คลี่ยิ้มกว้างกับตัวเอง...เพิ่งจะรู้ว่า 'ความรัก' ทำให้ใครบางคนสุขจนใกล้บ้าได้ขนาดนี้...'รัก' มันเป็นแบบนี้เอง
"ฝันดี...ที่รัก...".
.
.
"พี่แรร์..."
"พี่แรร์ค่ะ เหม่ออะไรอยู่ได้นะ" น้องหมิวสาวสวยคณะบัญชีที่ใครหลายคนหมายปอง เพราะเธอเป็นถึงเชียร์รีดเดอร์ประจำคณะ ตัวเล็ก ผิวขาว หน้าตาจิ้มลิ้มพอที่จะมีแมวมองมาทาบทาม เธอคนนั้นที่เป็นที่กล่าวถึงตอนนี้กำลังควงแขนอยู่กับนายแรร์คนนี้ให้เพื่อนๆมันอิจฉาเล่นว่ะครับ
"เหม่อเหรอ ไม่นี่" ผมตอบไปแบบนั้น น้องหมิวทำหน้ามุ่ย..ช่างน่ารักในสายตาคนมอง
แต่สำหรับผม....มันเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป ทั้งที่ไม่เข้าใจและหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ แต่ตอนที่เพื่อนๆมันยุให้ไปจีบ ไอ้แรร์คนนี้ก็เดินหน้าแล้วก็ได้มาซึ่งของที่ต้องการ แถมด้วยการยืดอกพกแฟนสุดน่ารักมาอวดเพื่อนๆ
ตอนแรกๆก็ยังไม่มีอะไร น้องหมิวน่ารัก ไม่เรื่องมากเหมือนคนอื่นๆที่ชอบให้เอาใจ ชอบนั่งเฉยๆ และไม่บ่นตอนที่ผมติดเล่นเกมส์กีฬากับพวกเพื่อนๆ ไม่งี่เง่าเวลามีสาวๆ มากรี๊ดกร๊าดตอนเลิกเล่น แล้ว...สิ่งที่ผมขาดไป...คืออะไร..?
"หมิวมีอะไรรึป่าว?" น้องหมิวส่ายหัวก่อนจะก้มหน้าก้มตามองตัวหนังสือเล่มที่เปิดค้างไว้...และผมก็ไม่ชอบเซ้าซี้...บรรยากาศระหว่างเราก็เลยเงียบกริบเข้าขั้นวิกฤติ
"หมิวแค่ถามว่าพี่แรร์กำลังมองหาอะไร" คำถามที่น้องหมิวหลุดปากบอกออกมาในที่สุด
"มองหา? ไม่นี่!" เออ...นั่นดิ...มองหาอะไร
แค่....วันนี้ยังไม่ได้เห็นนะซิ ไอ้อริที่กล้ามาชกปากนายแรร์คนนี้ท่ามกลางสายตาท่านผู้ชมมากมายที่สนามเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน แม้ว่าแรกๆจะไปตามมันถึงถิ่น ไอ้ลิงแว่นนั้นมันก็ยังสามารถสับขาหลอกหลบหลีกได้เนียนกริบ จนป่านนี้แผลหาย เลิกเจ็บใจ แต่ความแค้นมันยังฝังรากซึมลึก อาจจะเป็นเพราะความเคยชินที่ตามล่าตัวมันมาหลายอาทิตย์ พอวันไหนไม่ได้มองหามันก็เลยเหมือนขาดอะไรบางสิ่งในชีวิตประจำวันไป
แล้วก็...เวลาที่ได้สบตากันบ้างชั่วเสี้ยววินาที ตอนที่ไอ้ลิงเอ๋อมันโดดหลบ(ถ้าคิดจะเอาจริงมันไม่พ้นมือหรอกเหอะ) หรือตอนที่มันหลบสายตา แทนที่จะโกรธ ไอ้แรร์คนนี้ก็หลุดขำทุกครั้งไป ได้ข่าวว่าตอนนี้มันออกไปฝึกงานแล้ว...แต่ทุกครั้งที่เผลอก็อดมองหาไม่ได้...ไม่รู้ทำไม
.
.
.
.
"เราเลิกกันเถอะพี่แรร์..." อึ้ง....ดิ...!! โดนสาวบอกเลิกเป็นคราที่เท่าไหร่แล้วก็...ไม่ได้จำ...อย่างที่เขาว่า...มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อๆมานั่นแหละ ก็ตั้งแต่น้องหมิวที่โดนบอกเลิกตั้งแต่ตอนที่ผมเริ่มฝึกงาน เหตุเพราะเราไม่มีเวลาให้กัน และน้องก็เจอคนที่เข้าใจกว่า..ประมาณนั้น แล้วผมก็ไม่ใช่คนช่างตื้อ พอน้องบอกมาตรงๆเราก็เลยจากกันด้วยดี
รายล่าสุดตรงหน้าตอนนี้ยังไม่ทันจะได้ครึ่งปี เจอกันที่ทำงาน เราเป็นพนักงานใหม่ทั้งคู่ แต่ผมย้ายที่ทำงานตั้งแต่ได้สองเดือนแรกจากนั้นเราก็ติดต่อกันเรื่อยมา นัดกินข้าว ไปเที่ยวกันบ้างเป็นครั้งคราว แล้ววันนี้เราก็นัดมาเจอกันเหมือนทุกครั้งที่แตกต่างไปก็...แค่...ครั้งสุดท้าย
"ทำไมล่ะ...." ผมถามเสียงเย็น แต่พอเห็นอีกฝ่ายทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ก็เลยหยุดไว้แค่นั้น
คำตอบก็เหมือนเดิม...และผมไม่เคยรู้สึกว่าสูญเสีย หรือเสียใจ อาจะเป็นเพราะชินชาก็ได้ เพราะงั้นหัวใจมันก็เลยชิน
จากนั้นชีวิตนายแรร์ก็เลยมีแต่งาน และงาน ทำงาน บอกตัวเองว่าไม่ได้ขาดเหลืออะไร ชินชากับสายตาที่มองมา บางครั้งรูปกายภายนอกก็ไม่ได้ช่วยอะไร ขี้เกียจจะต้องมาทนนั่งฟังสาเหตุของการเลิกรา และสัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าหากเจอคนที่ใช่ นายแรร์คนนี้จะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปด้วยเหตุผลบ้าบอคอแตกเหมือนที่ผ่านมา ต่อจะให้สูญเสียอะไรไป ความรักครั้งต่อไปจะต้องได้มันมาครอบครอง....
แล้ว....ก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลก...
"โอ๊ะ...!!" กลิ่นกาแฟ และสัมผัสชื้นๆตั้งแต่อกเสื้อลงไป ทำเอาอารมณ์ขึ้นอีกครั้งของวันหลังจากตามหาเพื่อนร่วมงานไม่เจอมาได้ซักพัก แล้วในที่สุด...ก็เจอ...เข้าให้แล้ว....
.
.
.
.
.
.
"แรร์...ไอ้คุณแรร์ครับ! หนัก..." เสียงเรียกปนหงุดหงิดของใครบางคนที่กำลังมุ่ยเงยหน้าขึ้นมากระพริบตาปริบๆ ทั้งตัวยังคงถูกขังเอาไว้ในอ้อมแขน ..หึหึ หนีไปไหนไม่ได้แล้วซินะ ไอ้ลิงเอ๋อ
เจ้าของเตียงที่แกล้งขมวดคิ้วเหลือบมองนาฬิกาที่ผนัง แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ จะตื่นเช้าอะไรนักหนา จำได้ว่าเมื่อคืนเพิ่งรับศึกหนักจนเพลียหลับไปไม่ใช่เหรอ แล้วจะมาปลุกให้ตื่นอะไรตอน 6 โมงเช้าแบบนี้ พอแกล้งกอดมันแน่นๆก็ได้ยินเสียงครางขัดใจ และอาการดิ้นไปมา...คงสู้ได้หรอกนะ...ผอมแห้งแรงน้อยขนาดนี้
"อึ้ย~ อย่าซิ...ไอ้บ้านี่!" ขัดใจไปก็เท่านั้นแหละ ยังไงนายแรร์คนนี้ก็ยังได้หอมแก้มหลายฟอด ไอ้ลิงเอ๋อที่ตอนนี้ไร้แว่นยังคงทำหน้าตาหงุดหงิด แต่ก็ซ่อนเอาไว้ไม่มิดหรอกนะ อาการเขินจนหน้าแดงแบบนั้น
"ปลุกทำไม ยังเช้าอยู่เลย" ยังฟัดแก้ม ไล่เรื่อยไปตามใบหู งับไหล่ซุกไซ้ซอกคอไม่เลิก จะว่าไป..ไอ้แว่นมันตัวหอมแบบนี้เลยแหะ รู้แบบนี้ ตอนที่วิ่งไล่ตามมันตั้งแต่ตอนเรียน เปลี่ยนจากเตะ เป็นแตะต้องแบบนี้....ก็ดีหรอก...หึหึ
"เช้าไรล่ะ สายแล้ว ต้องไปเตรียมของเปิดร้าน" เจ้าของร้านคนขยันพยายามอย่างยิ่งที่จะกลิ้งออกไปจากอ้อมแขนให้ได้ แต่ก็โดนไอ้คุณแรร์เอาขาเกี่ยวกลับมาอยู่ท่าเดิมทุกครั้งไป
"หยุดซักวันไม่ได้เหรอ" ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างไอ้คุณแรร์จะทำตัวเหมือนอ้อนใครเป็น ที่ผ่านมาไม่มีแน่ สาบานได้
"หยุดได้ไงล่ะ ต้องทำงานเลี้ยงชีพโว้ย ปล่อยซักทีดิ๊ หนักนะ!" แหมๆ ทีนี้ล่ะทำบ่น แค่กอดบ้างอะไรบ้าง ทีเมื่อคืนรับไว้ทั้งตัวยังไม่เห็นบ่นซักคำ เอ๊ะ! หรือว่ามันบ่น...แต่ไม่เป็นภาษา...(?)
"เดี๋ยวเลี้ยงเองก็ได้ แฟนคนเดียวเลี้ยงไหว" ไอ้แว่นเหมือนกำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะกลั้นยิ้ม เออเนอะ!...เพิ่งเห็นว่าตอนมันเขินก็น่ารักดี ยิ่งตอนพยายามกลั้นไว้แบบนี้ก็ยิ่งน่าแกล้ง
"เว่อร์เหอะ ไม่ได้ขอซักหน่อย" เสียงบ่นหงุงหงิงๆ เขินอ่ะดิ ไอ้แว่นมันกำลังเขินจัดหนัก หน้าแดงไปจนถึงหู....น่าฟัดชะมัด
"ไม่ขอก็ให้ บังคับให้รับด้วย โอ๊ย! กัดเหรอ ใช้กำลังเหรอแว่น!" ไอ้แว่นทำหน้างอ ก่อนจะงับหมับเข้าให้ที่ต้นแขนที่โอบอยู่รอบคอมันนั่นแหละ ...ปีนี้ได้ฉีดยารึป่าวว่ะ เดี๋ยวติดเชื้อเอ๋อเข้า
โดนกัดไปที ไม่ใช่ว่าเจ็บเจียนตาย ก็แค่คมเขี้ยวที่งับเล่นๆ แม้ไม่ได้ผูกใจเจ็บ แต่นายแรร์คนนี้..ก็จะเอาคืนล่ะ หึหึ แต่เป็นการเอาคืนที่ละมุนละม่อมที่สุดเท่าที่จะทำได้ ..ไอ้ลิงเอ๋อดิ้นพล่านไปมาในอ้อมแขนพร้อมกับเสียงหัวเราะลั่น ก็เพราะ....เมื่อคืนมันเพลียจนหลับไปก่อน ทั้งตัวก็เลยมีแต่กางเกงนอนตัวเดียว จะจับจะแตะอะไรก็สะดวกมือนายแรร์ซิงานนี้ หึหึ
"โอ๊ยๆ ฮ่าๆ แรร์ ฮ่าๆ อย่าๆ มันจั๊กจี้ ฮ่าๆ" ไอ้แว่นกำลังดิ้นไปดิ้นมาพร้อมกับอาการหัวเราะอย่างบ้าคลั่งที่โดนฟัดไปทั่วตัว อาการหอบหนักเพราะเหนื่อย..ทำไม..มองเหมือนมันกำลังยั่วเลยวะ...เดี๋ยวปั๊ดจัดอีกรอบหรอก!
"ห่วงหรอกนะ กลัวไปทำไม่ไหว ไม่นอนพักซักหน่อยเหรอ"
"ทำพูดดี เพราะใครกันล่ะ" เสียงบ่นอุบอิบๆกับอกเพราะมันมุดหน้าลงไป คงจะซ่อนความอายนั่นแหละ แต่...ทำแบบนี้...เจ้าของอ้อมแขนจะทนไม่ไหวเอา
"หึหึ เพราะโดนยั่วต่างหาก" ไอ้แว่นเงยหน้าขึ้นมาค้อนขวับ ก่อนจะซัดกำปั้นเข้าให้กลางอก แล้วแถมด้วยการจับเนื้อตรงพุงบิดเข้าให้ ทำเอาทางนี้เอี้ยวตัวหลบแทบไม่ทัน
"ไอ้คิงคองหื่น" ดูมันด่า
"ไอ้ลิงยั่ว" ยอมที่ไหนล่ะครับ
"ไอ้...!"
"ถ้ายังมีแรงรบ ลองออกศึกอีกซักรอบดีไหม" จากที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาจะด่า ไอ้ลิงแว่นก็ตาเหลือกส่ายหน้าลนลานพยายามคลานหนีออกจากอ้อมแขน แต่...ช้าไปไหม..เพราะมันมัวเอ๋อ กว่าจะได้ลงจากเตียงกันเช้านั้น....ก็เกือบๆจะได้เวลาเข้างาน(งานเข้า)กันทั้งคู่
ชดเชยช่วงเวลาที่สูญเสียไป ให้วิ่งอ้อมโลกตามหาอยู่ตั้งนานกว่าจะรู้ใจ ในที่สุดก็มาบรรจบเสียทีพรหมลิขิตของกันและกัน....
*****************************
ตอนจบของร้านกาแฟแล้วเจ้าค่ะ
ท่านใดที่กำลังลุกออกไป แต่ยังไม่ได้จ่ายตังค์ เชิญที่เคาเตอร์นะคะ
(ก็ยังงกถึงวินาทีสุดท้าย )
ได้เวลาปิดร้านแล้ว ขอบพระคุณผู้มีอุปการคุณทุกท่านเจ้าค่ะ
"รักทุกคนที่สุดเลยเจ้าค่ะ"