มาลงเลยดีกว่า
ตอนที่ 3
วันนี้ผมต้องกลับบ้านครับ ผมมีความรู้สึกว่าไม่อยากจะอยู่ที่หอมอสเท่าไหร่แล้ว อาจจะเพราะความน้อยใจทีสะสมมา พยายามเข้าใจว่ามันยุ่ง แต่กลับมีแฟน ไปสวีทกับแฟน ไม่ติดต่อเพื่อนเลย เพื่อนคนนี้มันไม่สำคัญแล้วสินะ
ผมกลับมานอนบ้าน ทุกคนต่างตื่นเต้นกับการเรียนจบของผม แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์มายินดีหรอกครับ ผมกำลังน้อยใจเพื่อนอยู่
ผมอยู่บ้านได้อาทิตย์นึง ผมกับมอสได้คุยกันแค่ 2 วัน คือวันที่ผมมาประเทศไทย และเมื่อวานซืน ดูสิครับ เพื่อนกลับมาทั้งที จะบอกว่ายุ่งมากมันก็คงไม่ใช่ ก็มันมีแฟนแล้วนี่ครับ คบกันมา 1 ปีแล้ว เพื่อนคนนี้เลยถูกเขี่ยทิ้ง
“แม่ครับ วันนี้ผมจะไปหางานนะ ผมอยากทำงานแล้ว ไม่อยากนั่งกินนอนกินแบบนี้”ก็จริงครับ ไอ้ผมก็อุตส่าห์คิดว่ากลับมาจะไปเที่ยวกับมอสให้หนำใจ แต่มันก็ต้องพังทลายเพราะมอสเขามีแฟนแล้ว
ผมเริ่มออกหางานตามสาขาวิชาที่ผมเรียน นั่นก็คือวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ผมเลยเริ่มตระเวนหาที่ทำงาน ผมไปสมัครที่แรกเขาก็รับผมเข้าทำงานแล้ว อาจจะเพราะเกรดของผม หรือไม่ก็ความสามารถของผม ผมไม่อยากคิดว่าเขาจะรับเพราะผมจบต่างประเทศหรอกครับ มันดูถูกคนไทยเกินไป คนไทยมีความสามารถมากมาย คนที่ไม่ได้เรียนที่ต่างประเทศฉลาดกว่าผมก็เยอะแยะไป
ผมจะเริ่มทำงานวันจันทร์ ซึ่งก็เหลืออีก 3 วัน ผมเลยต้องไปหาซื้อเสื้อผ้าไว้ใส่ทำงานเสียหน่อย ต้องให้เหมาะสมกับสถานที่ทำงานด้วย ขณะที่ผมกำลังเดินดูอยู่นั้น ผมก็เจอมอสเดินมากับผู้หญิงในรูป พวกเขาดูสนิทสนมกันมาก มากซะจนผมอิจฉา เมื่อก่อนผมกับมันก็มักจะมาเดินดูเสื้อผ้ากับแบบนี้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เป็นมันกับแฟนของมัน ส่วนผม ก็เดินคนเดียว......
ผมเลือกจะเลี่ยงการพบปะ เพราะผมไม่อยากคุยตอนนี้ จะว่าผมพาลก็ได้ ผมน้อยใจเพื่อนผมอยู่สินะ ทำไมล่ะ แค่เพื่อนมีแฟนทำไมต้องน้อยใจหรือว่า.........ผม............รัก...........มอส...........
วันนี้เป็นวันที่ผมต้องเริ่มทำงานแล้ว ก็ดีที่ว่า ผมจะได้ไม่ต้องนั่งเพ้อไปวัน ๆ ผมเริ่มทำงานในส่วนของIT เป็นโปรแกรมเมอร์ ทำงานเหมือนที่คนอื่นเขาทำกัน เป็นมนุษย์เงินเดือนขั้นฝึกหัด พี่ ๆ ที่นี่คอยช่วย คอยสอนงานให้ พี่ ๆ เขาใจดีมาก ๆ มันทำให้ผมได้มีเพื่อนอีกครั้ง เพื่อนที่ทำงาน สังคมใหม่ของผม
ทุกวันผมต้องตื่นแต่เช้าทำทุกอย่างให้เรียบร้อย เพื่อที่จะไปทำงาน เวลางานก็ก้มหน้าก้มตาทำงาน เวลาพักก็ไปกินข้าวกับพี่ ๆ ที่ทำงาน เวลาเลิกก็ขึ้นรถประจำทางกลับ เป็นแบบนี้เสมอ แต่วันนี้..........
“วันนี้จะมีหัวหน้าคนใหม่มาแทนพี่คมนะ ขอเชิญหัวหน้าคนใหม่ของพวกเรา คุณกันต์ค่า”เสียงของพี่หน่อย พี่ที่คอยสอนงานให้ผมดังลั่นแผนก เพราะจะมีหัวหน้าคนใหม่มาแทนพี่นิคมหัวหน้าคนเก่าที่ออกไปทำธุรกิจส่วนตัว ทุกคนดูตื่นเต้นมาก โดยเฉพาะผู้หญิง ไม่ว่าจะวัยไหน ขอให้เป็นผู้หญิง เพราะได้ข่าวมาว่าหัวหน้าคนใหม่หน้าตาดีมาก ดูดีทุกระเบียดนิ้ว ผมก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าจะหล่อเหมือนที่เขาลือกันหรือเปล่า
“สวัสดีครับทุกคน ยินดีที่ได้รู้จักนะ ผมชื่อกันตพงศ์ เรียกผมว่ากันต์ก็ได้นะ”คุณกันต์พูดพลางยิ้มไปด้วย ทำให้ผู้หญิงในแผนกแทบละลาย ผมไม่ได้โอเวอร์ครับ แต่พี่หน่อยเขามาซบไหล่ผมแล้ว เพราะยืนไม่ไหว ความหล่อมันทำให้พี่เขาละลาย เขาว่างี้
“ผมอยากให้ทุกคนช่วยแนะนำตัวกันหน่อยนะครับ เอาชื่อเล่นกับอายุก็พอครับ เพราะจะได้เรียกกันถูกหน่อย”คุณกันต์พูดจบก็ยิ้ม เขาเป็นคนยิ้มเก่งจังเลยนะ หรือว่าต้องการให้ผู้หญิงกลายเป็นทาสเขา นี่ก็เวอร์ไป
“แหมคุณกันต์ ถามแบบนี้เสียมารยาทกับผู้หญิงไปหรือเปล่าคะ มันเจ็บจังเลยเวลาโดนคนถามเรื่องอายุ มันเป็นเพียงตัวเลขนะคะ ไม่ต้องถามก็ได้”พี่ฝนพูดพร้อมทำท่าว่าเขาเจ็บจริง ๆ นะเวลาโดนถามอายุ คราวผมก็เหมือนกัน ผมไปถามเขาว่าอายุเท่าไหร่ จะได้เรียกถูก ว่าจะเรียกพี่หรือป้าดี ^^
“งั้นใครที่ไม่บอกผมจะเรียกว่าพี่ละกันนะครับ งั้นขอเชิญคนแรกเลยครับ ใครดีเอ่ย”คุณกันต์มองไปรอบ ๆ แล้วสายตาก็มาหยุดที่..........ผม
“คุณก่อนเลยละกันครับ”คน ๆ นั้น คือผมเองครับ
“ชื่อ ต้า ครับ อายุ 25 ครับ”ผมก็บอกตามความจริงไปเพราะผู้ชายมันคงไม่ต้องมาเก็บความลับเหมือนผู้หญิงเขาหรอก
“อายุ 25 แล้วเหรอครับ มากกว่าที่คิดไว้แฮะ หน้าคุณดูเด็กมากเลยนะ ผมนึกว่า 20 ต้น ๆ” คุณกันต์ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ ทำไมครับ มาเคลียร์กับผมมั้ย อยากพูดนะครับ แต่ท่องไว้ เขาเป็นหัวหน้า ๆ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณต้า คนต่อไปเชิญเลยครับ”แล้วก็มีคนแนะนำต่อจากผม และต่อไปเรื่อย ๆ จนหมดแผนก
“เอาล่ะครับ ตอนนี้ผมรู้จักทุกคนแล้ว แต่ถ้าผมทักคุณแต่ชื่อคนอื่นก็อย่าถือสาผมเลยนะครับ ผมจะพยายามจำ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เวลาคุณกันต์พูด ดิฉันจะหันตามเสียงเองค่ะ”พี่ฝนพูดแหย่คุณกันต์ไป ผมไม่รู้ว่าคิดจริง ทำจริงหรือเปล่า แต่นิสัยพี่ฝนเขาชอบแหย่อยู่แล้ว
“งั้นเดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีต้องไปดูงานที่ค้าง ๆ ไว้หน่อย ตั้งใจทำงานกันนะครับทุกคน”คุณกันต์พูดทิ้งท้ายไว้ ก่อนที่จะไปที่โต๊ะของตัวเอง แต่ก่อนที่จะเดินไปผมเห็นคุณกันต์มองมาทางผมด้วย ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้เขา มองผมจังเลย
โต๊ะของหัวหน้าจะอยู่ในห้องเดียวกัน คือนั่งรวมกับลูกน้องน่ะครับ ไม่รู้เพราะอะไร แต่พี่คมหัวหน้าคนก่อนเขาเป็นกันเองมาก อาจจะเพราะแบบนั้นเลยอยากมานั่งด้วยกันกับลูกน้อง ที่ผมเรียกว่าลูกน้องเพราะพี่คมเขาชอบพูดกรอกหูตอนผมเป็นมนุษย์เงินเดือนขั้นฝึกงานบ่อย ๆ ผมเลยติดมาด้วย เพราะพี่คมคนเดียว
ตั้งแต่วันที่คุณกันต์มาเป็นหัวหน้าใหม่ที่นี่ เขาจะทักทายทุกคนเวลาเจอ ทักผิดทักถูกอยู่เสมอ แต่กับผมนี่ไม่เคยจะผิดเลย อาจจะเพราะว่าผมแนะนำตัวคนแรกด้วยเลยเด่น ผมจะเจอคุณกันต์ทุกเช้า ทุกเวลาพัก และทุกวันตอนกลับบ้าน เจอกันบ่อยมากครับ มันเหมือนกิจวัตรประจำวันทำงานเลย
ตอนนี้ผมทำงานได้ 6 เดือน เวลาผ่านไปเร็วมากครับ แต่เชื่อมั้ยครับ 6 เดือนที่ผมทำงานมา ผมยังไม่เคยได้กินข้าวกับมอสเลย ไม่เคยจริง ๆ ครับ โทรศัพท์ก็แทบจะไม่ได้คุยกันเลย จากเพื่อนสนิทที่เคยอยู่เคียงข้างกันตลอด กลับกลายเป็นแค่เพื่อนธรรมดา ๆ เพียงเพราะผมไปเรียนมา 7 ปี มันทำให้มอสเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ พอคิดเรื่องนี้ผมก็อยากจะร้องไห้ทุกที ผมก็ใช้วิธีเดิมครับ กดแก้มทำปากจู๋ แล้วส่ายหน้าไปมา แต่วันนี้ คุณกันต์ดันมาเห็นเข้าสิครับ
“เอ่อ.....ต้า ทำอะไรน่ะ”ตอนนี้เวลาคุณกันต์เรียกผมจะเป็นต้าแทนคุณต้า ผมก็จะเรียกพี่กันต์แทนคุณกันต์ เพราะคุณกันต์บอกว่าจะได้สนิทสนมกันไว้ แต่เวลาผมอยู่ข้างนอกหรือคุยกับคนอื่น ผมจะเรียกเขาว่าคุณกันต์ เพราะเขาเป็นหัวหน้าผม
“เอ่อ....ฮึก....อย่าเข้ามานะครับ....ฮึก”พอเห็นคุณกันต์เข้ามาผมก็ปล่อยมือที่ทำไว้สิครับ ผลของมันคือ ผมร้องไห้ ต่อหน้าคุณกันต์
“ต้าเป็นอะไร ใครทำอะไรเหรอ”คุณกันต์มีท่าทีตกใจที่เห็นผมร้องไห้ ตอนนี้ผมอยากมีคนมากอดผมเหลือเกิน กอดเหมือนที่มอสเคยทำ คอยปลอบใจผมเวลาร้องไห้
“ฮึก.....ไม่มี....ฮึก”ผมพูดต่อไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ผมอ่อนแอเหลือเกิน เพียงเพราะเพื่อนไม่สนใจ ก็ทำให้ร้องไห้ได้มากขนาดนี้
“ไม่เป็นไรนะต้า พี่อยู่ตรงนี้แล้ว”คุณกันต์พูดปลอบผมพร้อมกับสวมกอดผมอย่างเบามือ
ตอนนี้จะเป็นอะไรมั้ยนะ ถ้าเกิดผมจะยอมรับอ้อมกอดนี้ ยอมรับคำปลอบประโลมผมที่อ่อนโยน จะดีมั้ยนะ