[ เรื่องสั้น ] ♥ Fall In Love' แล้วคุณจะหลงรักผม ตอน สมรภูมิ P.30 {18/พฤษภาคม/56}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ เรื่องสั้น ] ♥ Fall In Love' แล้วคุณจะหลงรักผม ตอน สมรภูมิ P.30 {18/พฤษภาคม/56}  (อ่าน 237671 ครั้ง)

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
โหยย น่ารักอะ
ดูรักกันดีจัง

ชอบคะๆ ขออีกซักตอนนะ
5555555.

สู้ๆจ้า  :กอด1:

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
คนเขาเปิดเผยดีเนาะ...น่ารักอ่ะ :o8:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
โอ๊ย ไม่แคร์สื่อ อิอิ
หวานกันเข้าไป คนอ่านอิจฉาอยากได้บ้างซักคนสองคน กร๊ากก

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
อยากรู้จักเขามารักกันได้ยังไง
ยูนิตดูแล เอาใจใส่ หวง น้องหมี
แบบว่าทำให้อิจฉาอ่ะ :-[

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4
 :L1: ชอบอ่ะ น่ารักมาก อยากอ่านตอนเจอกันครั้งแรกอ่ะ จีบกันเลยป่ะอยากรู้จังเลย  :L1:

ออฟไลน์ kazhiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-2
น่ารักอะไรอย่างนี้ หลงรักแล้วค่ะ ไม่จะแระ รักเลยยยยยย  :กอด1:

+1 กันไป ขอบคุณมาก

tatar*

  • บุคคลทั่วไป
“ได้แล้ว กูเสียตัวให้มันครั้งแรกเมื่อ ตอน ม.4 Understand!!”


 o22 คุณสะใภ้ห้องสองคะ จะตรงไปไหนน??

โคตรกรี้ดด 555

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7
 :z2:มารอน้องหมวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :z2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ eyerabbit

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-10

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
สำลักความหวานแบบมากมายมหาศาลของเรื่องนี้มากๆ

อยากรู้ว่าสองคนมาลงเอยกันได้อย่างไร คนเขียนย้อนอดีตหน่อยสิ

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4
มาวางกับดักให้เราติดกับ แล้วก็หายไป   :z3:

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7

ออฟไลน์ boylove_yj

  • ล้มแล้วยืน คือคนที่แกร่ง!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1203/-48
    • http://www.facebook.com/pages/Chocolate-Love-Fan-Club/255241697823084
ไม่ดึกๆ ก็วันพรุ่งนี้

นะคะคนอ่านทั้งหลาย

ว่าจะเอาเจ้าพ่ออัพด้วย ดีไหมหว่า 55555555+

Panda-Ba

  • บุคคลทั่วไป
ขอดึก ๆ ละกันนะคะ
เอาเจ้าพ่อด้วยยยยยยย!  :call:

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4
ขอเป็นดึกๆ วันนี้ได้ป่าวอ่ะ จะรอน้า  o15


 :pig4: ขอบคุณล่วงหน้า

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7

ออฟไลน์ boylove_yj

  • ล้มแล้วยืน คือคนที่แกร่ง!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1203/-48
    • http://www.facebook.com/pages/Chocolate-Love-Fan-Club/255241697823084
กับดักรักหลุมที่ 3

.
.
.
.

ขณะนี้เป็นเวลา 01.30 ทุกคนเริ่มเข้านอนกันหมดแล้ว  แต่แม่ไอ้ฟอสทำข้าวต้มรอบดึกไว้ให้ เลยมีบางส่วนที่นั่งกินกันอยู่หน้าโซฟา และบางส่วนก็นอนๆนั่งอยู่แถวนั้น  ห้องน้ำมีทั้งข้างล่างและข้างบน ผมรอให้พวกมันอาบเสร็จก่อน แล้วค่อยอาบคนสุดท้าย ส่วนไอ้ฟอสกับไอ้กรรกำลังขนที่นอนลงมาเพิ่ม  สมาชิก 6/5 โรงเรียนสิริธารฯ เยอะได้อีก แม่งมองไปทางไหนก็อืดอ่ะ พวกผู้หญิงก็ไม่แคร์ครับ ว่าจะทำหน้าตาหรือแสดงอะไรๆออกมาได้ เป๋อๆ หรือฮา ๆ เพราะสนิทกันอยู่แล้ว

เต็มที่เลยครับงานนี้ ใครอยากนอนตรงไหนก็เลือกได้เต็มที่ เจ้าของบ้านอย่างไอ้ฟอสก็ต้องลงมานอนข้างล่าง เพราะไม่มีใครนอนข้างบน ผมเห็นมันซุบซิบกับไอ้ยูกันสองคนตอนที่ผมเผลอ  แล้วก็ได้คำตอบว่า ไอ้ยูมันอยากให้ผมนอนข้างบน ไอ้ฟอสก็บอกว่าเดี๋ยวจัดการให้ แต่ปรากฏว่าไอ้ฟอสหักหลังไอ้ยูครับ กักตัวผมให้นอนด้านล่าง ซึ่งผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว นอนข้างล่างก็ไม่เสียหายอะไร เพื่อนเยอะอีกต่างหาก

“ถึงบ้านยัง?”  ผมเดินไปรับโทรศัพท์ ที่ไอ้ทองเดินมายื่นให้ สงสัยมันดังจนพวกมันหนวกหูแน่ๆ ไม่งั้นคงไม่มีใครหน้าไหนเดินเอามาให้ถึงตัวอย่างนี้ 

“ถึงแล้วครับ...............”  เสียงปิดประตูรถดังแทรกเข้ามา อะไรจะเคร่งครัดต่อหน้าที่ปานนั้น ถึงห้องก่อนก็ได้ แล้วมึงค่อยโทรมา กูก็ไม่ว่า

“กินข้าวเลยนะมึง ห้ามลืม ไปกินเลย อิดๆออดๆ อาบน้ำเสร็จแล้วค่อยโทรมาทีเดียวเลย” 

“กินข้าวตอน ตีหนึ่งเนี่ยนะครับ”  เอ๊าๆ!! มันจะแปลกตอนไหน บางวันกูยังลุกขึ้นมากินตอน ตีสองตีสามเลย  อารมณ์หิวมันมาเมื่อไร เราก็สนองมันเมื่อนั้น

“หรือมึงจะไม่กิน งั้นพรุ่งนี้ไม่ต้องเสนอหน้ามารับกู...”     ขู่มันกลับบ้างแหละดี มันเข้มงวดกับผมได้ แล้วทำไมผมจะเข้มงวดกับมันไม่ได้

“ครับๆ งั้นแค่นี้นะครับ กินข้าว อาบน้ำเสร็จยูจะโทรหา”  ให้มันได้อย่างนี้ซิ สั่งเป็นสั่ง ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครมันมีอำนาจมากกว่าใครกันแน่

“ยูนิต.......” 

“ครับ??”   

“มึงก็วางไปซิ  รอทำหอกอะไร” 

ปัญหาระดับชาติ ที่ไม่ว่าชาติไหนก็แก้ไขไม่ได้ ใครจะเป็นคนวางก่อนกัน ไม่ว่าจะถอดรูสและสมการอย่างไร ผมก็คิดไม่ตกซักทีว่าไอ้ใครวางก่อนใครมันจะแก้ไขอย่างไร

“ฮะๆ ครับๆ หมีนอนดีกว่านะ ดึกมากแล้ว เดี๋ยวยูเมสเซสไปหา พักผ่อนนะครับ”

ผมรับคำแล้วกดวาง ถ้าไม่วางคราวนี้ได้มีด่า ใครด่าใคร อันนี้ไม่ต้องบอกนะครับ

หลังจากวางสายจากไอ้ยูเสร็จ ไอ้ฟอสก็ลากผมไปอาบน้ำ ซึ่งใช้เวลาอาบเพียง 5 นาทีเท่านั้น ไอ้กรรนี่ถึงกับด่าในความสะอาด ( ประชด ) ของผม แต่ทำไมอ่ะ ก็คนมันไม่ถูกกับน้ำ เหมือนมึงไง ไม่ชอบกินไข่แดง แต่ชอบกินไข่เจียว แม่งๆ แตกต่างกันมากว่ะสัด

ครืดดดดดดดดดด.........ครืดดดดดดดดดดดดดดดด

สะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะโทรศัพท์เครื่องเล็กกว่าฝาบ้านนิดๆ แต่น่ารัก ของผมมันเกิดอาการชักแล้วก็สั่นขึ้นมา  เปิดฝาผับขึ้นมาก็เจอกับ 1 ข้อความจาก…..

‘สวามี’

“ห่างกันแค่นี้ แม่งต้องรายงาน”   ไอ้ฟอสที่นอนด้านขวาผมพูดขึ้นมา ไอ้ห่า กูก็นึกว่าหลับแล้ว ตกใจหมดสัด!!!!!!!

ไอ้พวกไม่เคยมีแฟน มึงไม่รู้หรอกว่าการมีบ่วงมาผูกคอนั้นมีความสุขแค่ไหน แล้วอีกอย่างเขาไม่เรียกว่ารายงานโว้ย อย่างนี้มันเรียกว่าเล่าสู่กันฟัง เราทำอะไรหรือว่าเขาทำอะไร มันต้องเอามาเล่าให้อีกฝ่ายฟัง นี่แหละชีวิตคู่ของจริง ไม่อิงนิยาย

“นอนๆไป พรุ่งนี้ตื่นทำกับข้าวให้พวกกูแดกด้วย”   ผมเอาผ้าคลุมหัวจนมิดแล้วจดเปิดเข้าไปอ่านข้อความ อะไรมันจะปกปิดปานนั้น ฮ่าๆ

‘ฝันดีนะครับหมีน้อย >>>>>>>…… ห้ามให้ใครกอดด้วย ไม่งั้นจะโดนไม่ใช่น้อยนะครับ’

เสือกหักมุมตอนหลังซะงั้น ประโยคข้างหน้าแม่งอย่างสวยงามอ่ะ พออ่านไล่ๆมาด้านล่าง มันก็ยังคงคอนเซ็ปต์หวงได้ทุกที และทุกเวลาจริงๆ  กดปุ่มแดงออกเมนูข้อความ ก็มาเจอกับหน้าไอ้ยูที่ยิ้มอยู่บนหน้าจอผม  รูปนี้มันถ่ายของมันเอง แล้วมันก็ตั้งค่าเป็นภาพพื้นหลังเครื่องผมเอง  ในขณะที่เครื่องมันก็ทำอย่างนี้เหมือนกัน เอารูปผมที่หอมแก้มมันขึ้น แต่มันไม่ค่อยให้ใครจับโทรศัพท์มันหรอกครับ เพราะความลับเยอะ ไม่ใช่ซ่อนกิ๊กหรืออะไรนะครับ ในเครื่องมันมีอะไร หลายๆอย่างที่ผมกับมันทำไว้ เอ่อ............พูดมากกว่านี้ไม่ได้ครับ ความลับ ฮ่าๆ

“ไอ้กรร มือมึงน่ะเอาออกจากเอวกูนะบัดนาว”  ผมตะแคงหันไปบอกไอ้กรรที่นอนด้านซ้ายเอามือเท่าใบลานของมันออกจากเอว ซึ่งมันก็ทำตามได้ดีมากครับ ไม่ปฏิบัติตาม แถมยังกอดแน่นกว่าเดิมอีก   ผิดผีแล้วสัด

“แม่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง กูจากอดดดดดดดดดดดดดดด คายยจะทำมายยย ”  ผมนอนกลางไอ้สองตัวร้อยมันนอนขนาบข้าง ขาไอ้ฟอสนี่ก็เกยอยู่บนตัวผม ขาผมก็เกยเอวไอ้ฟอส ฟรีสไตร์มากครับพี่น้อง  ถ้าไอ้ยูนิตมันมาเห็น ผมว่ามันได้อกแตกตายแน่ๆ ฮ่าๆ

“มึงก็รู้ว่ามันมีผัวแล้ว  เข้าใจป่ะว่าไอ้ยูมันหวง” 

เหมือนไอ้ฟอสจะเป็นคนดี แต่ก็ไม่เลยครับ เพราะมือมันก็พาดอยู่บนหลังผมเหมือนกัน ยังมีสอดเข้าไปเกาหลังให้อีกด้วยนะ เหี้ยยยยยย!!!!!!!!!!!! จ่ายค่าทำขวัญกูมาซะดีๆ เอ๊ะ! หรือความจริงแล้วผมชอบก็ได้

“มึงจะแหกปากเสียงดังทำไม เดี๋ยวพวกนั้นก็ตื่นหรอก กว่าพวกมันจะหลับได้ กูนี่ลุ้นจนเหนื่อย แม่ง”   พวกไอ้ทองอ่ะครับ มันไม่ได้เมาเหล้านะ แต่มันเมาแกงจืด พูดเหี้ยไรนักหนา ด่าไปอาบน้ำก็ไม่ไป ด่าไปนอนก็ไม่ฟัง จนสุดท้าย ไอ้หนอนสตรีผู้น่ารักก็ลากไปอาบด้วยท่าทางที่สวยงาม แล้วขู่จะตัดคะแนน นั่นแหละ พวกไอ้ทองมันถึงพระบรรทมได้

“อายเหรอสัด  ..... ทีตอนเย็นแม่งนั่งเกยกันทำไมไม่อาย”   ไอ้กรรพูดเสียงนิ่ง ผมกับไอ้ฟอสเลยนิ่งฟังมัน อยากรู้ว่ามันนิ่งเพราะด้วยเหตุผลอะไร  หรือความจริงแล้วมันรับไม่ได้ที่ผมเอาผู้ชายด้วยกันทำผัว

“มึงรับไม่ได้เหรอที่กูเป็นเกย์”  ผมตะแคงไปหาไอ้กรรทันที ยังไงผมก็แคร์มันอยู่ดีนั่นแหละครับ ผม ไอ้กรร ไอ้ฟอส คบกันมาตั้งแต่ ม.ต้น ยังไงความรู้สึกลึกๆบางครั้ง มันก็แคร์เพื่อนมากกว่าแฟนอยู่บ้าง

“ไม่ใช่ว่ากูรับไม่ได้.... แต่ .....กูแม่ง หวงมึงอ่ะสัด”   

เมื่อมาถึงจุดนี้ ผมกับไอ้ฟอสก็ข่มเสียงหัวเราะกันสุดฤทธิ์ แม่งเอ๊ยๆ อยากให้เป็นตอนกลางวันจริงๆ พอจะหัวเราะให้เต็มที่ แต่ตอนนี้ทำไมไม่ได้ ดึกแล้ว หัวเราะมากเดี๋ยวผีหลอก ( เกี่ยวไหม)

“อย่างที่ไอ้กรรพูดก็ถูกนะไอ้หมี  ไม่ได้รังเกียจ แต่ก็ช่วยเกรงใจพวกกูสองคนหน่อย ยังไงมึงก็เพื่อนตายพวกกูนั่นแหละ อีกอย่าง อิจฉาว่ะสัด”   สันดารมากอ่ะ เหี้ยยยยยยย หักมุม

“อย่ามาซึ้งดิสัด.............แต่กูรักพวกมึงจัง”      พวกมันสองตัวก็กระโจนกอดผมซะแน่นกว่าเก่าอีกครับพี่น้อง จากที่หนาวๆ อยู่ร้อนขึ้นมาเลยอ่ะ

“มึงรักมากได้กูไม่ได้ว่าอะไรเลย แต่มึงก็เผื่อใจไว้บ้าง ตอนเจ็บจะได้ไม่ต้องเจ็บมาก”   ไอ้ฟอสพูดถูก เผื่อใจไว้บ้าง เคยทำแล้วครับ แต่ผลปรากฏว่าทำได้แค่ 10 นาที แล้ววหลังจากนั้นก็กลับมารักไอ้ยูอย่างโงหัวไม่ขึ้นเหมือนเดิม

“กูทำไม่ได้ว่ะ ..........มันเป็นของมันเอง แต่ยังไงถ้ากูเจ็บ ยังมีพวกมึงปลอบใจกูอยู่นี่หน่า”

“เพื่อนน่ะ อยู่กับมึงไม่ได้ตลอดเวลาหรอกนะ แต่แฟนมึงน่ะอยู่กับมึงตลอด แต่ไม่ใช่ว่าที่พวกกูไม่พูด แปลว่าไม่สนใจ บางครั้งการแสดงออกว่าห่วงใยมันอาจไม่จำเป็น  ความรู้สึกข้างในต่างหากที่ห่วงมึงไม่เปลี่ยนแปลง”  ไอ้กรรไกรใส่มาเป็นชุด ผมนี่น้ำตาซึมเลยครับ

ใช่แล้วครับ พวกมันไม่ค่อยแสดงออกมาห่วงผม เวลาเป็นไข้ก็แค่โทรไปถาม ไม่ได้ไปเยี่ยมที่บ้าน จนบางครั้งผมยังอดน้อยใจพวกมันไม่ได้  ว่าทำไมถึงไม่ห่วงใยกันเลย มารู้วันนี้นั่นแหละครับ ว่าทุกอย่างมันมีที่มา

“กูไม่โกรธที่มึงปิดบังเรื่องแฟน  แต่กูโกรธตัวเองมากกว่าที่มัวแต่มองมึงอย่างเงียบๆ แล้วไม่ได้เอ่ยปากถาม ทั้งที่มึงก็รอให้กูถามอยู่เหมือนกัน”   ไอ้ฟอสจับมือผมไปกุม เลยกลายเป็นว่ามือทั้งสองข้างของผม กุมมือไอ้ฟอสกับไอ้กรรไกรเอาไว้

“กูไม่ได้อยากปิดบังนะโว้ย แต่.........พวกมึงไม่ถามเองอ่ะ”  เสียงอ่อยไปไหมไอ้หมี อย่างงี้แหละผม ในกลุ่มจะเป็นน้องเล็กในกลุ่มก็ว่าได้ แต่ลิมิตความซ่าส์นี่แซงพวกมันสองคนอีกนะ

เลยกลายเป็นว่านอนคุยกันซะงั้นครับ  นอนค้างร่วมกันบ่อยก็จริง แต่ส่วนมากจะค้างเพราะว่านัดกันเล่นเกมส์มากกว่า บางคืนไม่ได้นอนก็ยังทำมาแล้ว  ไอ้ที่นอนปรับทุกข์คุยกันอย่างนี้ไม่มีหรอกครับ

“แม่งอีกไม่กี่เดือน ก็จะจบ ม.6 แล้ว โอยยยยยยยยยยยยยย ไม่อยากจบ”   ไอ้กรรไกร

“ลงเรียนซ้ำอีกรอบซิมึง”     ไอ้หมี

“ความคิดดี งั้นเดี๋ยวก็แกล้งสอบตก แล้วเรียนซ้ำอีกปี พวกมึงว่าไง”  ไอ้ฟอส

“เหี้ย!!!!!!!!!!”   ไอ้หมี+ไอ้กรรไกร

“นี่กูคบกับพวกมึง มา 6 ปีแล้วเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อ อะไรจะเร็วปานนั้น”   

“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ มึงต้องขอบใจกูที่เชื้อพระวงศ์อย่างกูลดตัวมาคบกับพวกมึง”    ไอ้เหี้ยกรรไกรครับ ไอ้บ้านี่ชอบเล่นมุขอย่างนี้แหละครับ ชอบบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าชายจากแคว้นอันแสนไกลโพ้น แต่มันพัดพรากกับพระแม่ กับพระพ่อมันตั้งแต่ยังน้อย ๆสาเหตุก็เพราะระหว่างที่นั่งเครื่องบนผ่านไทย แม่มันเสือกทำมันหลุดมือ มันเลยกลายเป็นเจ้าชายผู้ตกยาก คนอ่านอย่าถือสาเพื่อนผมนะครับ ถ้าสงสารมันมากๆ ก็ช่วยซื้อโอเลี้ยงกับหัวผักกาดมาให้มันก็พอแล้วครับ ฮ่าๆ

“กูเริ่มยอมรับไม่ได้กับความเยอะไปของมึงแล้วนะกรรไกร นอนๆ เลิกฟุ้งซ่าน พรุ่งนี้ต้องลุยงานธรรมเนียมต่ออีก” ไอ้ฟอสด่าให้นอน มันลุกขึ้นแล้วชะโงกตัวไปจับผ้าห่มคลุมหน้าผมกับหน้าไอ้กรร แล้วก็ขู่ให้นอนอย่างจริงจัง ไม่งั้นได้ออกไปนอนนับดาวหน้าบ้านแน่ครับ

“พวกมึงน่ะเพื่อนตาย  ของกู”   เหี้ยฟอส!!!!!!!!!  ซึ้งปิดท้ายเหรอมึง


 
************************************************

ไอ้ฟอสกับผมตื่นตั้งแต่ ตี4 อันเนื่องมาจากมันและผมต้องช่วยกันเตรียมข้าวเช้าส่วน คนอื่นๆก็ทยอยตื่นตาม  อาบน้ำกันเสร็จก็ 6 โมงพอดี ไอ้กรรกับพวกที่เหลือก็เก็บที่นอนหมอน มุ้ง ( ไม่มี ) ผ้าห่มรอเวลาแดก ( รับประทาน 55+ ) ส่วนเรื่อง ปัดกวาดเช็ดถูก็เป็นหน้าที่ของผู้หญิง   ซึ่งนำทีมโดยไอ้หนอน ผู้อ่อนหวาน ( ประชด )

เสียงรถยนต์มาจอดหน้าบ้าน พวกผมก็มองหน้ากัน แบบลุ้นๆมาใครมา แล้วพวกมันก็เล่นทายปริศนากันครับ

“กูว่ายูนิต เพราะเหี้ยนี่ห่างเมียนานๆไม่ได้”   ไอ้ฟอส

“กูกด like ไอ้ฟอส เพราะมึงพูดได้ตรงมาก”   ไอ้กรรไกร

“แต่กูว่าไม่ใช่ อาจจะเป็นพ่อไอ้ฟอสก็ได้”  ไอ้ทอง

“กูว่าคนส่งพิซซ่า”  ไอ้หนอน พ่อมึงซิ ใครที่ไหนเอารถยนต์มาขับส่งพิซซ่า กว่าจะถึง แข็งเป็นซอฟซิลพอดี   แล้วแม่งไอ้หน้ากร๊วกที่ไหนสั่งพิซซ่าตอน ตี5 ครับ กูว่าเกินไปล่ะ

“กูว่าบุรุษไปรษณีย์”   ไอ้เพียงครับ  พวกมึงยิ่งคุยยิ่งออกดาวอังคารไปโน้นนนน แล้ว พอๆ เลิกไร้สาระ ไอ้ยูนั่นแหละครับ เพราะก่อนออกมามันโทรมาถามผมว่าจะกินอะไรไหม จะซื้อไปฝาก เพราะปากซอยบ้านมันมีตลาดเช้าตั้งขายอยู่ ไอ้หมีสั่งโอวันติลร้อนๆ แล้วก็สั่งปาท่องโก๋ ให้กับพวกผีปอปทั้งหลาย ความจริงอยากกินข้าวมันไก่นะครับ แต่กลัวว่าจะอิ่มแล้วกินข้าวเช้าที่ผม ไอ้ฟอส และแม่ฟินช่วยกันทำไม่ได้เต็มที่ เพราะฉะนั้นเลยเผื่อท้องไว้ดีกว่า

พวกแม่งก็พนันกันเต็มที่ ใครที่เล่นเสี่ยงทายในเกมส์นี้ถ้าแพ้ต้องจ่ายคนละ 100 บาท เบี้ยวไม่ได้ เพราะดอกจะงอกเงยตามด้วย  อะไรไม่พอเล่น พวกมันก็เอามาเล่นจนได้ครับ

“โอ้วววววววววว เป็นมึงจริงๆด้วย”  ไอ้ฟอสกับไอ้กรรไกรนี่น้ำตาแทบไหลเมื่อเห็นหน้ายูนิตครับ ส่วนพวกที่เหลือก็น็อคตายคาที่ไปแล้วครับ

ที่รักผมมองทุกคนอย่าง งงๆ ผมก็ส่ายหน้าให้อย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรแล้ว พวกแม่งปัญญาอ่อนเกิน

“จ่ายกูมาซะดีๆ ใครเบี้ยว นี่จ่ายสองเท่านะครับ”  ไอ้ฟอสเดินเก็บเงินอย่างสบายอารมณ์ ได้ครบก็เอามาแบ่งกับไอ้กรรสองคน สบายไปหลายวันซิมึง

ยูนิตมองเพื่อนผมยิ้มๆ แล้วถามว่ามีอะไรกันเหรอ ผมก็บอกไปว่ามันเอามึงไปเล่นพนัน  ยูนิตก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เดินไปเอาเงินกับไอ้ฟอส 200 เล่นเอาฮากันทั้งห้องครับ มันบอกว่าขอค่านายหน้าหน่อยแล้วกัน หลังจากนั้นมันก็ยื่นเงินมาให้ผม ไอ้หมีก็รับเงินไปใส่กระเป๋ากางเกงด้วยความเร็วแสง ชักช้าเดี๋ยวไอ้ฟอสกับไอ้กรรไกรมันจะแย่งกลับคืน

“ปลาท่องโก๋น้ำเต้าหู้ .......นี่โอวันติลร้อนของหมีนะครับ”   มันยื่นของกินสารพัดอย่างมาให้ผมดู ผมชื่นชมเสร็จก็เรียกให้ไอ้ทองเอาไปวางไว้ในครัว กำชับว่าใครหิวก็กินรองท้องรอไปก่อน ส่วนโอวันติลร้อนผมกัดตูดถุงแล้วดูดมันเพียวๆไปเลย  ก็ร้อนไปซิครับ

“มันร้อนไม่ใช่เหรอ ...... เดี๋ยวก็ลวกปากหรอก”   มันเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับปากให้ผมนิดหน่อยแล้วก็พากันเดินเข้าไปนั่งดูข่าวภาคเช้า รวมกับคนอื่นๆ

“คุณยูครับ  เสนอหน้ามาแต่เช้าเลยนะครับ”      ปากไอ้ทองคาบปลาท่องโก๋ ส่วนในมือก็แก้วน้ำเต้าหู้ คนที่ซื้อมาก็หน้าบานไปซิ  ยูนิตมันเป็นคนที่ชอบเอาใจใส่คนรอบข้างครับ ยิ่งมาเห็นเพื่อนๆผมกินปาท่องโก๋กันอย่างถ้วนหน้า ยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่ 

ไอ้ยูไม่ตอบ แต่หันมามองหน้าผมเล็กน้อย ทำไม?? หน้ากูมีอะไร มองได้มองดี มองแม่ง อยู่นั่นแหละ แล้วมันต้องเป็นธรรมดาของคนเราที่จะต้องพะวงว่าหน้าของเรามันติดอะไรหรือเปลา  เอ๊ะ!! หรือว่าเมื่อคืนนอนน้ำลายไหล แล้วมันลงเหลือแล้วทิ้งคาบเอาไว้ ไอ้หมีลูบหน้าใหญ่เลยครับ

“มีอะไรติดหน้ากูหรือเปล่า??  ขี้ตา..ขี้ฟัน...น้ำลาย”   

มันไม่ตอบมองแล้วยิ้มอย่างเดียว อะไรว่ะ กำลังจะหันไปถามคนอื่นๆ มันก็ดึงแขนห้ามเอาไว้ก่อน ผมหันไปจิ๊ปากใส่ มันก็ก้มลงมาหอมแก้มด้วยความรวดเร็ว  ซึ่งไอ้พวกที่เหลือที่นั่งรอสอดส่องพฤติกรรมไอ้ยูก็ส่งเสียงโห่ แซวขึ้นมาอย่างกับ ผีได้น้ำมนต์  กรีดร้องซะดัง

“โดนน้ำมนต์สาดเหรอสัด ร้องอยู่ได้  ไอ้หนอนรีดผ้าไป ไม่ต้องมอง”   โวยวายเพื่อกลบเกลื่อนความอาย แต่ถึงยังไงด่าพวกมันด้วยกระบวนท่าไหน ก็ไม่สลดหรอกครับ  พวกนี้มันหน้ามึนระดับขั้นเทพ

พวกมันมองผมอย่างประณาม เอ๊าๆ !!! แฟนกัน แค่หอมแก้มนี่มันจะเป็นไรไป แต่ก็ลืมไปว่าไอ้พวกนี้มันยังอินโนเซนต์เรื่องพวกนี้อยู่   แล้วตอนที่พวกมึงดูคลิปทำไมไม่อาย

“อาบน้ำหรือยังครับ”

“อืม”     กำลังเบลอ เพราะเหมือนจะง่วงอีกรอบ   มือไม้ก็อ่อนไปหมด ไอ้ยูมันจับไปวางไว้ที่ตักมัน ผมก็ไม่ว่า เพราะผมก็ชอบด้วยไง ฮ่าๆ

“วันนี้มีคาบสุดท้ายว่างใช่ไหมครับ?”   มันอาศัยความเนียนและความด้านซึ่งเป็นเอกลักษเฉพาะตัวค่อยๆดึงเอวผมเข้าไปนั่งข้างมัน พวกที่เหลือมันก็นั่งดูข่าวไปกันอย่างครื้นเครง ไม่มีซะละไอ้ที่ว่าเบลอจากตื่นนอน ไอ้พวกนี้มันพร้อมคุยพร้อมฮากันทุกเมื่อ และทุกสถานการณ์ครับ

“อืม”   คือ มึงรู้ดีกว่ากูได้ไง  อ้อ ลืมไป มันมีตารางเรียน ตารางอ่านหนังสือผมนี่หน่า

“งั้น ไปบ้านยูกันนะ”

“อืม....................!!!!!!!!!!”   

  เฮ้ยยยย!!!!!!!!!!!!!

หายง่วงเลยไหมล่ะไอ้หมี หันไปมองมันก็นั่งทำหน้าตาเจ้าเล่ห์มองผมอย่างกับไอ้หมีเป็นแกะตัวน้อยๆให้มันเชือดอย่างนั้นแหละ  น่ากลัวมากอ่ะ  ถึงจะยอมรับหน้าชื่นตาบานว่าได้กันแล้ว!! แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆแล้วผมก็ซีดเหมือนกันครับ เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็สลบซัก วันสองวัน ฮ่าๆ

“ล้อเล่นครับ มันน่าตกใจขนาดนั้นเชียว”      กูไม่ได้ตกใจ แต่กูกลับหลบใน!

“เปล่าๆ กูทำหน้าโอเวอร์ไปอย่างนั้นแหละ  ใครมันจะตกใจ  ( กูแค่ผวา )”   ผมทำทียัดส้มเข้าปากหน้าตาเฉย แต่ข้างในนี่ตื่นเต้นจนลำไส้ใหญ่มันจะเต้นบีบอยอยู่แล้ว กลัวมันจะทำจริงๆ ไอ้นี่ไว้ใจไม่ได้ มันชอบทำอะไรหน้ายิ้มๆ ซึ่งยิ้มร้ายๆนั่นแหละคืออาวุธของมัน  เจอเมื่อไรผมก็ตายน็อคไปเลยครับ

“ความจริงยูก็ว่าจะพาหมีไปจริงๆแล้ว แต่มันติดงานของ ม.6 อยู่นี่ครับ”   กูนึกรัก ผอ. ก็วันนี้นี่แหละ ถ้าไม่มีงานนี่ผมว่าต้องไปนอนเสร็จมันที่บ้านสองยกเพียวๆแน่ๆ

“นานๆมึงจะสำนึกได้  ถ้าขืนกูและมึงหายกันทั้งคู่ งานนี้มีแต่เละกับเละ”

ไอ้ยูก็หัวเรี่ยว หัวแรงในการทำเวที ซึ่งคาดว่าได้ทำวันนี้แน่ๆ ส่วนผมก็หัวหน้าฝ่ายดีไซน์และตกแต่ง โดดไม่ได้ครับ ถ้าโดดงานไม่เดินแน่ๆ เพราะห้องอื่นๆเขาก็มีงานในส่วนของเขา

จริงอยู่ที่ ม.6 ทั้ง 16 ห้องไม่ได้สมานฉัน กันทุกห้อง จะมีแต่ห้องผมกับห้องไอ้ยูนี่แหละที่ดูเหมือนจะรักใคร่กลมเกลียวกัน นอกนั้นก็แยกเขี้ยวใส่กันอย่างเดียว เข้าใจนะครับว่าความคิดของคนเรามันค่อนข้างที่ต่างกัน นานๆครั้งที่จะมีใครสักคนยอมหยุดฟัง และยอมรับความคิดของคนอื่น   แต่เวลามีงาน พวกม.6  มันก็รู้เรื่อง รู้งานดีครับ ไม่มีมาตีกันให้รุ่นน้องเห็นหรอก ก็เป็นพี่ใหญ่สุดในโรงเรียน ต้องทำตัวให้น้องๆเคารพหน่อย ถ้าหากมันมือคันเท้า(ตีน) ก็จะนัดกันที่ค่ายมวยกันเลยครับ ยกไปเชียร์กันทั้งห้อง ซึ่งผมก็ว่าแฟร์ดีนะ มีกฎ มีกติกา ใครแพ้ก็ต้องยอมรับ

นั่งคุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ผมก็เดินไปรับชุดนักเรียนกับไอ้หนอน ตอนแรกมันไม่ให้ดีๆหรอกครับ ผมเลยเดินกลับมาเอาแบงก์ยี่สิบกับไอ้ยูสองใบ แล้วเดินกลับเอาไปให้มัน นั่นแหละไอ้หนอนมันถึงยอมปล่อยเสื้อกับกางเกงมาให้ผม ตอนแรกคิดว่าผมจะโดนคนเดียว ที่ไหนได้โดนทั้งกลุ่มเลยครับ เว้นแต่ไอ้ฟอสคนเดียว เพราะมันไม่ได้เอาเสื้อกับกางเกงมาให้ไอ้หนอนรีดให้

“กินให้อิ่มนะทุกคน เดี๋ยวจะเรียนไม่รู้เรื่อง”   แม่ไอ้ฟอสพูดขึ้นอย่างใจดี ท่านเอาน้ำผลไม้มาวางให้ทุกคนเสร็จเรียบร้อย ก็ขอตัวออกไปดูต้นไม้ที่สวนข้างๆบ้าน

ถ้าพวกมึงกินข้าวต้มคนละ 3 ชามแล้วเรียนไม่รู้เรื่องนี่กูว่าลาออกไปรับจ้างล้างจานตามร้ายก๋วยเตี๋ยวดีกว่า สุดยอดอ่ะ ยัดเป็นยัด ไอ้ยูเห็นหน้าหล่อ ผู้ดีๆอย่างนี้มันกินไป 3 ชาม นมหนึ่งแก้ว แอปเปิลหนึ่งลูก  ซึ่งมันก็ยังแพ้ผมอยู่ดี ผมนี่ฟาด 4 ชาม นมอีก 1 มะละกอครึ่งลูก ส้มเขียวหวานอีก 2  เบสิคมากครับสำหรับเรื่องแดก ว่าจะปิดท้ายด้วยคุ้กกี้ แต่ไอ้ยูมันมองแบบนิ่งๆใส่ก่อน ก็เลยไม่กิน  มันกลัวว่าผมจะกินเยอะ แล้วอ้วกครับ

“แม่ฟินครับ หมีไปเรียนก่อนนะครับ เดี๋ยววันหลังแวะมาค้างอีกนะครับ”   ไม่ได้บอกลานะครับ เพราะยังไงก็ต้องแวะมาอีก แม่ไอ้ฟอสพยักหน้าแล้วอวยพรให้เรียนรู้เรื่อง   ถ้าคำอวยพรของคุณแม่เป็นจริง ปานนี้ผมไม่ต้องไปนั่งอ่านหนังสือหรอกครับ

“หมี เพื่อนหมีไปโรงเรียนกันยังไง ถ้ารถคันไหนแน่นมาก ให้มานั่งรถเราก็ได้นะ”  มันใช้คำว่ารถเราครับพี่น้อง ได้ข่าวว่าคันนี้แม่มึงซื้อมึงในฐานะที่ลูกตัวเองเล่นเกมส์เก็บผักชนะกูไม่ใช่เหรอ อย่าตกใจครับ นี่คือเรื่องจริง ผมเล่นเกมส์ปลูกผักแพ้ยูนิต แล้วแม่ยีนต์ แม่ของไอ้ยูก็เลยตบรางวัลซื้อรถให้ลูก เพื่อแสดงความดีใจ  แต่จริงๆแล้ว แม่ยีนต์อยากให้ยูเฉยๆ เลยเอาเรื่องเกมส์มาอ้าง แต่ความจริงแล้วแม่ยีนต์บอกผมว่าอยากปลอบใจมันที่มันไม่ได้ไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ออสเตรเลีย

ผมก็เลยบอกแม่ยีนต์ไปตามเนื้อผ้าว่า ที่ยูนิตมันไม่ไปก็เพราะผม ผมก็เลยขอโทษแม่ยีนต์ยกใหญ่ ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะยังไงแม่ผมกับแม่มันต้องส่งไปเรียนนอกอยู่แล้วหลัง จบ ม.6  พวกแม่ๆ เขาคุยกันเอาเองครับ ผมกับยูนิตยังไม่ได้บอกว่าจะไปเรียนเลย 

“เฮ้ยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!   คันไหนแน่น มานั่งกับกูได้  คนหล่อใจดี”   พวกมันหันมามองพรึบพรับ มันจะแน่นได้ไงครับ ก็บ้านรวยกันทุกคน บางคนก็เอารถมา บางคนรถที่บ้านก็มารอรับ คนไหนที่ไม่มีรถส่วนตัว ก็อาศัยนั่งไปกับเพื่อน ตะโกนไปอย่างนั้นแหละ เชื่อฟังผัวไม่ผิดนี่ครับ

“กูเกรงใจอ่ะสัด”  เกรงใจบ้านมึงซิ เกรงใจเขาไม่ทำอย่างนี้หรอกเว้ย ไอ้ห่ากรรปากบอกว่าเกรงใจแต่มันเดินหอบกระเป๋ากับหนังสือเรียนเดินมาเปิดประตูหลังเข้าไปนั่งทำหน้ากวนตีนแล้วครับ 

“ไอ้ฟอส .....รถมึงก็มี แล้วทำไมไม่เอาไป”   ไอ้เพื่อนเวรทำหูทวนลมแล้วก็เปิดเข้าไปนั่งคู่กับไอ้กรรไกร พวกมึงสองตัวทำหน้ากวนตีนจนน่าตบมากอ่ะ  ส่วนไอ้คนขับก็ไม่พูดอะไรครับ มันยิ้มอย่างเดียว ที่บ้านมันส่งมายิ้มครับ เดี๋ยววันหลังส่งมันไปยิ้มกับพวกเสื้อแดง ( เกี่ยวไรกัน )

“คือกูอยากนั่งพรีอุสไปโรงเรียน รถกูเก่าแล้ว เบาะมันแข็ง อีกอย่างขี้เกียจขับ”   ได้ข่าวว่ารถมึงเพิ่งซื้อเมื่อ 3 เดือนที่แล้วก่อนขึ้น ม.6  ไอ้พวกนี้มันยังไง มีรถก็ขี้เกียจขับ โอนมาให้กูซิ กูจะขับแม่งทั้งวันเลย

“ลืมของหรือเปล่าครับ โทรศัพท์ กระเป๋าเรียน กระเป๋าสตางค์ หนังสือ........”   ไอ้หมีก็นึกตามที่มันพูด ปรากฏว่าลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่ห้องไอ้ฟอส  เจ้าของห้องก็เลยต้องขึ้นไปเอาให้

“สามีดีเด่นประจำปีเลยนะนายอ่ะ”  ไอ้ฟอสยัดกระเป๋าสตางค์ใส่มือผมแล้วก็ไม่ลืมปิดท้ายด้วยการตบหัวผมเล่น เดี๋ยวๆ เดี๋ยวมึงจะโดนไอ้ยูมันด่า

“ฟลอเซ็นต์ เราว่าเมื่อกี้นายตบหัวหมีแรงไปนะ”  เห็นไหม มันไม่ได้ด่าแบบคนอื่นะเขานะ ไอ้นี่มันด่านิ่งๆ ผมเลยหัวเราะเยาะแม่งเลย

“ถนอมกันเข้าไป เดี๋ยวแม่งก็เป็นง่อย”  ไอ้กรรพูดแล้วเอื้อมมือมาหยิกหูผม  ไอ้ยูนี่หันขวับเลยครับ แต่คราวนี้ไม่ได้ว่าอะไรไอ้กรรเลย เพราะไอ้กรรไกรมันทำหน้านิ่งมองไอ้ยูอยู่

ผมเข้าใจมันนะ กรรไกรมันแค่อยากให้ยูนิตเลิกถนอมผมซะที เพราะเดี๋ยวผมจะเคยตัว ซึ่งก็ไม่ทันแล้วครับ เพราะตอนนี้ไอ้หมีเคยตัว เคยใจไปตั้งนานสองนานแล้วครับพี่น้องแม้ว!!





กด 1 โหวต หมี

กด 2 โหวด ยูนิต

กด 3 โหวต คนเขียน

กด 4 โหวต ตัวเอง


ไม่กด  >>>>>>>>  "หน้าเหี่ยว" สาธุ!!!!!!!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7
 :impress2:กด 1 and 2 หมีและยูนิต



น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก o13

ออฟไลน์ boylove_yj

  • ล้มแล้วยืน คือคนที่แกร่ง!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1203/-48
    • http://www.facebook.com/pages/Chocolate-Love-Fan-Club/255241697823084
 :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:


จ้ะเอ๋!!!!!!!!

คนอ่านอยู่ไหน


เม้นจงมา เพี้ยงงงงงงงงงงงงงงง

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
ลูกหมีน่ารักอ่ะ เกรียนได้ใจ
กด3 เลือกคนแต่งจ้า

tatar*

  • บุคคลทั่วไป
กด 3 รัวๆๆ

ชอบยูนิต ><

อยากได้แบบนี้!  :serius2:

ออฟไลน์ kazhiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-2
กด 2  ยูนิต น่ารักมากกก ไม่ไหวแระ สลบๆๆๆ

ออฟไลน์ boylove_yj

  • ล้มแล้วยืน คือคนที่แกร่ง!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1203/-48
    • http://www.facebook.com/pages/Chocolate-Love-Fan-Club/255241697823084





   เนื้อผ้า....   
เจอกันก่อนสงกานต์ นะคะทุกคน อยากจะบอกอะไรนิดๆหน่อย ก่อนที่จะไปอ่านเรื่องสั้นตอนต่อไป

“อย่ากลัวที่จะได้รัก เมื่อใดที่หัวใจกลัว เมื่อนั้นความรักก็จะหลุดลอยไป”

หลายสิ่งหลายอย่างทำให้ “ชีวิต” ของคนเราเติบโต และก้าวหน้าไปเรื่อยๆ คงไม่มีใครเดินถอยหลัง แล้วพบกับความสูญเสียหรอกนะ หากเราเลือกใช้ความรักในทางที่ถูก ย่อมจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นไปด้วย แต่เมื่อใดที่เราความรักมาใช้ในทางที่ผิด นำไปความไว้ใจของคนที่เรารักไปใช้เพื่อทำประโยชน์บางอย่างให้แก่ตนเอง คนๆนั้นก็จะเป็นคน “โง่” มีไม่ทางได้พบเจอกับความรักอีก...

ช่วงชีวิตในวัยแห่งความรักของแต่ละคนนั้นคงไม่เหมือนกัน แต่สำหรับหมวยแล้ว “รัก” สอนให้รู้อะไรหลายๆอย่าง “เมื่อใดที่รักบังตา เมื่อนั้นตาก็แทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย”  เจอกับตัวเองมาแล้ว เจ็บกับตัวเองก็มาแล้ว.....

แต่สำหรับเรื่องสั้น  “Fall In love แล้วคุณจะหลงรักผม” นั้น คนเขียนจะพยายามถ่ายทอดความรู้สึกของการได้รัก และการถูกรักผ่านตัวหนังสือ เพื่อให้ผู้อ่านได้รำลึกถึง “เรื่องรัก” ของตนเอง  เพราะฉะนั้นเรื่องสั้นเรื่องนี้จะไม่มีตัวอิจฉา และจะไม่มีตัวโกง มาให้ขุ่นคล้องหมองใจแต่อย่างใด  จะไม่มีซีนดราม่าตบแย่งคนหล่อ ไม่มีการด่าทอ หรือพูดให้ร้าย..

หากจะมีแต่เรื่องราว “ความรัก” ที่ทั้งสองคนช่วยกันถักทอกันมา กว่าจะมีวันนี้ทั้งสองอาจจะผ่านอะไรมาเยอะ คนเขียนจะพยายามสื่ออารมณ์ให้หลากหลาย และให้สนุกน่าอ่านที่สุด บางครั้งอาจจะสอดแทรก “นิยามเพื่อนแท้”  เพื่อให้คนอ่านได้พึงระลึกเสมอว่า “เพื่อน” นั้นอยู่ได้มั่นคงถาวรกว่า “แฟน”  แค่ไหน

MUAY


……………………………………………………………………………………………………..

Doesn’t matter how hard I try
Cause my heart…
Nothing stays the same
I won’t lie you got me saying I need you


ไม่สำคัญหรอกว่าฉันจะพยายามมากแค่ไหน
...เพราะว่าหัวใจของฉัน
ไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นเหมือนเดิม
ฉันไม่ได้โกหก คุณทำให้ฉันต้องพูดว่าฉันต้องการคุณ




กับดักรัก หลุมที่ 4


    I

.
.
.
“คิดได้หรือยังว่าจะเลือกคณะไหน”  ยูนิตถามขึ้นระหว่างทาง ทำเอาผมที่กำลังก้มหน้าก้มตาเล่นเน็ทโทรศัพทอยู่ ต้องเงยหน้าขึ้นมามองมันอย่าง งงๆ ไม่นึกว่ามันจะมาอารมณ์รักการเรียน การศึกษาตอนนี้

“คิดแล้ว แต่ยังตัดสินใจไม่ได้”   เลิกสนใจโทรศัพท์ดีกว่า ไว้ตอนเข้าแถวเดี๋ยวค่อยเล่น เพราะถ้าหากยูนิตมันพูดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว แสดงว่าผมต้องสนใจ และตั้งใจฟังมันด้วย

“ลงทันตไหม อย่างหมีเข้าได้สบายๆอยู่แล้ว”  ผมขมวดคิ้วนิดหน่อย เรียนน่ะเรียนได้ ไม่ใช่คนที่โง่จนน่าเกลียดอะไร (เหรอ ) แต่ผมน่ะมันคนไม่ชอบเอาใจใคร ดีไม่ดีไปเจอคนไข้เรื่องมาก จับเขาเหวี่ยงออกมาจากห้องตรวจพอดี

คุยกับพวกไอ้ฟอส กับกรรแล้วว่า ถ้าใครคนไหนลงตามเพื่อน หรือว่าลงไปเพราะคะแนนต่ำนั้น จะโดนลงโทษด้วยการไม่พูดจากัน 1 ปี เพราะฉะนั้น พวกผมทั้งสามคนเลยซีเรียสกับเรื่องคณะเป็นพิเศษ  ต้องชอบและมองหน้าที่การงานไว้ในอนาคตด้วย

ใจผมน่ะอยากเป็นหลายอย่างอยู่เหมือนกัน ทั้งนักโบราณคดี ทั้งนักกฎหมาย นักเศรษฐศาสตร์ เพราะผมค่อนข้างถนัดในสาขาวิชาดังกล่าว  แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็เลยเป็นปัญหาเลยครับ ไม่รู้ว่าจะเลือกอันไหน

“กูว่าอย่างมึงนี่ต้องเป็นครูอนุบาล จะได้ไปเต้นปัญญาอ่อนๆให้เด็กมันดู”  ไอ้กรรก็พูดซะผมเห็นภาพเลยครับ อีกอย่างที่เกลียดและกลัวที่สุดลองจาก ตุ๊กแกก็คือ “เด็ก”  

เด็กเป็นอะไรที่งี่เง่ามากอ่ะ บอกซ้ายมันไปขวา บอกให้หยุดเดินมันเสือกวิ่ง จับนั่งอยู่เฉยๆก็มือซนคว้าโน้นนี่นั่นมาเล่น แค่หลานที่อยู่ต่างจังหวัด ญาติห่างๆของแม่ผมก็ปวดหัวแล้ว ขืนให้ไปเลี้ยงลูกคนอื่น ผมว่าต้องเป็นประสาทเอาแน่ๆ ของอย่างนี้มันคิดอยู่กับจิตใจครับ ถ้าใครรักเด็กแบบเอ็นดูเวอร์ๆ ผมว่าได้นะ

“กูไม่ชอบอ่ะ ทั้งทันตแพทย์ ทั้งครูอนุบาล....มึงว่ากูเหมาะที่จะเป็นนักเศรษฐศาสตร์ป่ะ”  ประโยคหลังหันไปถามยูนิตมันครับ ถ้าไม่นับตอนที่ผมนั่งเล่นโทรศัพท์นะ ผมว่าตอนไอ้ยูมันตั้งใจขับรถก็ดูดีไปอีกแบบเหมือนกันนะ

“เก่งวิเคราะห์เศรษฐกิจหรือเปล่าล่ะ ดูข่าวบ่อยไหม คนไหนที่ติดตามข่าวสารตลอดเวลา จะได้เปรียบเป็นพิเศษตอนสอบ”  ยูนิตมันก็อธิบายไป ผม ไอ้ฟอส ไอ้กรรก็ตั้งใจฟังกันไป

“มึงพูดเหมือนมึงไปสอบมาแล้วอ่ะ”

“อาเล่าให้ฟังครับ พอดีท่านเป็นนักวิเคราะห์ของบริษัทต่างชาติแถวชลบุรีน่ะครับ”

“ติดต่ออามึงให้หน่อยดิ เผื่อมาติวกูได้”
“หมีทนได้เหรอ ใช่ว่าท่านดุหรอกนะครับ แต่ท่านจะขนตำราตั้งแต่รุ่นพ่อมาให้หมีอ่านให้เสร็จภายในวันเดียว วันต่อไปตำราเนื้อหามันก็จะยากยิ่งๆขึ้นไปอีก”  พูดซะกูเห็นภาพเลยนะมึง

“พูดอย่างนี้แสดงว่ามึงโดนมากับตัวแล้วใช่ไหม”  ไอ้กรรพูดขึ้น ผมเลยหันคอไปดูทางคนโดนถามทันที

และก็เป็นอย่างที่ไอ้กรรคิดจริงๆครับ ยูนิตมันพยักหน้าแล้วยิ้มให้เล็กน้อย ครอบครัวมึงนี่ ลึกๆกูก็ว่าน่ากลัวนะ

ถ้าถามว่า พ่อกับแม่ผมทำงานอะไรเหรอ ผมจะตอบได้อย่างมั่นอกมั่นใจเลยว่า ท่านทั้งสองมีธุรกิจเล็กๆอยู่บนเขาครับ “ไร่ชาด้วยรัก”   เขาจะเรียกว่าชาวไร่ก็ไม่อายครับ เพราะนั่นคือความสำเร็จที่พ่อและแม่ผมช่วยกันสร้างด้วยน้ำพักน้ำแรง ผืนดินรกร้างบนเขา กินเนื้อที่ ร้อยกว่าไร่คือ มรดกที่ปู่ยกให้พ่อผม สมัยนั้นผู้คนยังไม่ค่อยสนใจในที่ดินบนภูเขาเท่าไร เลยไม่มีใครมาติดต่อซื้อ พ่อกับแม่จึงช่วยกันพลิกผืนดินธรรมดาเป็นไร่ชา ที่ทำกำไรให้ปีละหลายสิบล้าน

และไม่นานมานี้ “ธุรกิจชาเขียว”  ก็สามารถตีตลาดของผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี ใบชาคุณภาพดีจากไร่ผมก็ราคาดีขึ้นไปอีกเท่าตัว  และเมื่อสั่งสมประสบการณ์พอตัวแล้ว ไร่ชาด้วยรัก ก็มีผลิตภัณฑ์ชาเขียวแท้ต้นตำรับ แบนด์ “ชากุชิ” ส่งออกไปขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ฟันกำไรไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร

และนั่นแหละคือเป้าหมายของผม นักเศรษฐศาสตร์ เพื่อที่จะมาช่วยบริษัทของตัวเอง และถ้าหากมีโอกาสก็จะไปเรียนกฎหมาย และเกษตรมาเพิ่ม เพื่อเอาความรู้ความสามารถทั้งหมดมาส่งเสริมให้ไร่ชาของตัวเองก้าวหน้าขึ้นไปอีก
“ทำไมเงียบ”  

หลังจากที่จอดรถเข้าที่แล้วเดินไปนั่งโรงอาหารเพื่อรอเข้าแถวแล้ว ยูนิตมันก็เงียบมาตลอดทางเลยครับ ผมได้แต่สงสัยยังไม่อยากถาม

“กำลังคิดว่า ยูกับหมีเหมาะสมกันหรือเปล่า”  

ไวเท่าความคิดครับ มือผมยกขึ้นไปตีปากมันทันที ไม่กั๊กไว้ซักนิดเลยครับ ความแรงนี่เต็มเหนี่ยว แต่ระดับปานกลาง ตีเพื่อเตือนสติมันเท่านั้นแหละ

“ไอ้ความคิดอย่างนี้เมื่อไรมึงจะลบไปจากสมองมึงซักที”  ไอ้ผมที่กำลังนั่งดูดน้ำทับทิมอยู่ดีๆ หมดอร่อยเลยครับ ปล่อยหลอดออกจากปาก แล้วหันหน้าไปเอาเรื่องมันทันที นี่ถ้าอยู่บ้าน ผมจะกระโดดกัดหูมันให้ขาดไปเลย

อีกอย่างที่มันพูดอย่างนี้ใช่ว่าบ้านมันจนนะ บ้านมันน่ะทำธุรกิจส่งออก พวกเครื่องจักร โรงงานอุตสาหกรรมไรเงี้ย แต่เห็นพ่อบอกว่า พ่อไอ้ยูกำลังวางโครงการสร้างวิลล่าแถวๆโคราชไอ้อีก ถ้าระดับนี้จน ผมว่าทักษิณก็เป็นภารโรงไปแล้วล่ะครับ  จัดอันดับคนรวยในเมืองไทยทีไร บ้านมัน กับ บ้านผม ติดโผทุกที แต่ของอย่างนี้บอกกล่าวไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวเขาหาว่าอวด

“ต่อไปหมีก็คงเป็นนักเศรษฐศาสตร์มือหนึ่งของไร่ด้วยรัก  มีหรือที่นักธุรกิจจนๆ อย่างยูจะไปสู้ได้”  

อ่ะไอ้เหี้ย!! พูดอย่างเดียวก็ได้ ทำไมต้องมาทำหน้าตาน่ารักแบบหลุดๆ ให้กูเห็นด้วยเนี่ย ยิ่งคนมันรัก มันหลงอยู่ แค่นี้ก็ไปไหนไม่รอดแล้วครับ  จากอารมณ์อยากกัดหูเปลี่ยนเป็นอยากกัดปากมันแทน ฮ่าๆ

“ป่ะ”
 
“ไปไหนครับ”

“ไปจดใบหย่ากัน ผัวจนๆอย่างมึง กูไม่เอาแล้ว”
 
“ไปจดได้ไงครับ ในเมื่อยังไม่ได้เซ็น”    

“งั้นก็ดี จะได้เลิกกันง่ายๆ”

“พูดเล่นใช่ไหมครับ”
 
“มึงเห็นกูหัวเราะ แล้วหกสูงให้มึงเห็นหรือเปล่าล่ะ”

“................................”  

“ไม่ต้องมาเงียบ ตงลงเลิกไม่เลิก”   ไอ้ฟอสกับไอ้กรรที่นั่งอยู่ข้างๆ มองมาที่พวกผมอย่าง งงๆ ประมาณว่าพวกมึงสองตัวตีไรกันแต่เช้า ผมเลยส่งสายตาให้มันไปนั่งไกลๆ เดี๋ยวได้โดนลูกหลง

มันไม่พูดครับ กำข้อมือผมอย่างเดียว ซึ่งเดาก็รู้ว่าอีกไม่กี่น่าทีข้างหน้ามันจะช้ำแล้วก็เขียวขึ้นมาแน่ๆ แต่ไม่ร้องครับ กับเรื่องแค่นี้ ถ้าจะมัวมาร้องห่มร้องไห้ก็ไม่เป็นอันทำมาหากินพอดี

“ยูนิตบางเรื่อง มึงก็ระแวงเกินไป ซึ่งนั้นก็คือข้อด้อยของมึง ม.ต้น ยัน ม.ปลาย มึงก็แก้ไม่หาย ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว มึงน่ะทัดเทียมกูทุกอย่าง ทำไมมึงต้องคิดให้ตัวเองต่ำค่าลงไปกว่านี้ด้วย  บ้านกูกับบ้านมึงน่ะคบกันด้วยใจ ไม่ใช่เรื่องเงิน เหมือนกับกูที่มองว่ามึงเป็นแฟนกูเสมอ เป็นคนสำคัญรองลงมาจากพ่อและแม่ เป็นคนอันดับต้นๆที่กูจะนึกถึงเป็นคนแรก แค่นี้มันยังไม่พออีกเหรอ ที่จะทำมึงมั่นใจ”

คนเริ่มทยอยเข้าไปแถวแล้วครับ เหลือ ม.6 บางส่วนที่กำลังกินข้าวอยู่  เป็นพี่สุดก็อย่างนี้แหละครับ แม่ค้า รุ่นน้อง พากันเกรงใจไปหมด

“รักนะคะ”  

 นั้นไง ดราม่าอยู่ดีๆ มันก็ผ่าอารมณ์แบบสุดๆ มาบอกรักกลางโรงอาหารอย่างนี้ ไม่เอาโล่ไปให้ถึงบ้านก็ไม่รู้ว่าจะให้อะไรแล้ว! เมื่อก่อนตอนมันจีบผมนี่ พูด  “ค่ะ” “คะ” ทุกคำเลยนะครับ เพื่อนๆมันบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “น่ารัก”  แต่สำหรับผม “น่าถีบ” มากกว่า ปัญญาอ่อนเกินไปครับ ไอ้หมีไม่ใช่ผู้หญิงนะ มาพูดค่ะให้ฟัง มันแสลงหูนะโว้ย เป็นแฟนกันแล้วก็เลยบังคับให้มันเลิกพูด มันก็เปลี่ยนจาก “ค่ะ” มาเป็น “ครับ” อย่างนี้ค่อยน่าฟังหน่อย

“หายแล้วครับ....”   นี่ถ้าเป็นที่บ้าน หรือในรถนะ ผมว่าถ้าไม่โดนมันจูบ ก็โดนมันลากไปกอดแน่ๆ ดีที่มันยังสำนึกและระลึกได้ว่านี่คือโรงเรียน

“ไม่ได้อยากพูดให้หมีอารมณ์เสียนะครับ แต่อารมณ์ยูมันพาไปเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอยู่ดีๆ ถึงพูดออกมา”

ผมพอจะรู้นะ อาการของมันน่ะ เกิดจากความวิตกกังวล สารพัดเรื่องของมันนั่นแหละ เรื่องคณะเรียน แล้วมันก็คิดไกลไปอีกถึงเรื่องทำงาน แล้วก็เลยเถิดไปเรื่องสถานะ ความร่ำรวย ห่าหวอะไรก็หลั่งไหลเข้ามาหามันทันที  ก็บอกแล้วว่ามันน่ะ “คิดมาก” เกินไป

“อืม กูก็ไม่ได้โกรธมึงอยู่แล้ว .......อ่ะ กินน้ำทับทิมให้หมด เดี๋ยวจะได้ไปเข้าแถว”    มันพยักหน้าแล้วดูดเอาๆ เมื่อกี้น้องๆแฟนคลับผมเอาข้าวกล่องมาให้ ไม่อยากปฏิเสธไปครับว่ากินข้าวเช้ามาแล้ว กลัวน้องจะเสียใจ ก็เลยรับไว้  ให้ความรู้สึกว่าญี่ปุ่นมากอ่ครับ ห่อด้วยถุงผ้ามาด้วยเว้ย น่ารักอ่ะน้อง

“มึงๆ ช่วยกูกินหน่อย”  ตัดสินใจเปิดกินเลยแล้วกัน เดี๋ยวจะบูดทิ้งเสียเปล่าๆ ยิ่งอากาศร้อนๆอย่างนี้ ของยิ่งเสียง่าย  เปิดฝากล่องออกมาก็เจอ ออมเล็ตสารพัดผักอยู่ข้างใน โอยยยยยยย หิวขึ้นมากะทันหันทันที

“ออมเล็ตเหรอ  หมีกินไข่ตอนเช้าแล้วจะไม่อ้วกเหรอ มันเลี่ยนๆนะ”   ก็ถูกของมัน แต่กูอยากกินอ่ะ

“จะพูดทำหอกทำไมละครับคุณแฟน ตงลงกินไม่กิน”  

“ถ้าป้อนก็กิน ถ้าไม่ป้อน.............”  มีการเว้นเสียงไว้นิดหน่อย อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะพูดอะไรต่อ

“ถ้าไม่ป้อน ก็กินอยู่ดีนั่นแหละครับ ฮ่าๆ” กลายเป็นว่าผมเลยอดหัวเราะตามมันไม่ได้  ตักใส่ปากผมแล้ว ผมก็ตักป้อนไอ้ยูไปคำใหญ่ ผลัดกันกินไปกินมาก็หมดพอดี สัญญาณโค้งอันตรายของการเข้าแถวก็ดังพอดี  กินน้ำมะนาวคนละแล้วเพื่อกันเลี่ยน แล้วผมกับมันก็มุ่งหน้าไปเข้าแถวทันที




หน้าเสาธง

ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย ~ ……

ร้องเพลงชาติเพื่อแสดงความรักชาติ และจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์กันอย่างพร้อมเพรียงมากครับ กรรมการนักเรียนหน้าตาดีอย่างไอ้หนอนก็นำสวดมนต์ ไอ้อาร์ที่เป็นประธานนักเรียนก็ยืนคุมเชิงอยู่ข้างๆ รุ่นน้อง ม.ต้น ที่อยู่ข้างหน้าดูจะดี๋ด๋าที่สุดเมื่อเทียบกับพวก ม.ปลายที่อยู่ด้านหลัง มองไม่ค่อยเห็นเท่าไรครับ ก็กรรมการนักเรียนชุดนี้มันหล่อสวยกันเกือบทุกคนเลยครับ

“สวัสดีนักเรียนทุกระดับชั้นที่น่ารักทุกคนนะครับ  วันนี้ ผอ. ก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากนะ ก็เรื่องเดิมๆนั่นแหละ เรื่องความสะอาดและระเบียบวินัยของนักเรียน...”

ท่าน ผอ. พูดปราสัยหาเสียงอยู่ประมาณ 5 นาที เรื่องเก่าๆนั่นแหละครับ ความสะอาดในโรงเรียน  การเข้าแถวในตรงเวลา หลังจาก ผอ. ก็รวบรัดเข้างานประเพณีของ ม.6 ตัดตอนมากอ่ะ

“ตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นไป  จะไม่มีการเรียนการสอนในนักเรียนชั้น ม.6 เพื่อที่จะให้เวลาทำเวทีได้เต็มที่และเสร็จภายในเย็นนี้ เพราะฉะนั้น ถ้าหากใครรู้ตัวว่าอยู่ ม.6 ก็กรุณาไปร่วมแรงร่วมใจทำงาน ช่วยโรงเรียนด้วยนะครับ”

ครืดดดดดดดดดดด.....ครืดดดดดดดดดดดดด


โทรศัพท์มันสั่นในกระเป๋ากางเกง จะล้วงออกมาดูว่าใครโทรมาก็ไม่ได้ เพราะ “เจ้ไก่”  อาจารย์ที่ปรึกษากำลังยืนค้ำหัวผมอยู่ เจ้แกค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องของการใช้โทรศัพท์มือถือน่ะครับ

“ไอ้หมีโทรศัพท์มึงสั่น”   ไอ้ฟอสที่นั่งข้างๆ คงรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนละมั้งครับ มันถึงได้สะกิดบอก

“รู้แล้วครับท่าน แม่ยืนค้ำหัวอยู่อย่างนี้ ใครมันจะกล้าเอาออกมารับวะ”   กระซิบๆ นะครับ
 
“คุยอะไรกัน ผอ. กำลังพูดอยู่ ตั้งใจฟังหน่อย”  นั่นประไร ไอ้เราก็อุตส่าห์กระซิบ กระซาบ แต่เจ้ก็ยังได้ยินอยู่ดีอ่ะครับ

กรรมการนักเรียนประกาศให้ อาจารย์ทุกระดับชั้น “ระดมสมองที่ลานอโศก”  ท่านแม่ก็ยวดยาดออกไปอย่างช้าๆ ไม่มีอะไรมากมายหรอกครับ แก่ ผอ. เรียกครูประชุมนิดหน่อยเท่านั้นเอง

“อืม......ว่า”       ชะเง้อคอขึ้นมองไปยัง ห้องสอง ก็เจอยูนิตมันมองกลับหลังมายังห้องผม พอสายตามันสบกับผม เราสองคนก็ยิ้มให้กัน แล้วหดหัวลงมาในแถว ประเจิดประเจ้อไม่ได้ครับ ไม่อยากเป็นข่าว ฮ่าๆ

“มีคนขอเบอร์ครับ อยู่ห้องหนึ่ง”  

“ให้ไปดิ”    เอ๊าๆ หักมุมใช่ไหมครับ  ว่าทำไมผมถึงไม่โวยวาย  หรือแสดงออกว่าหึงหวงมันอะไรอย่างนี้ จะทำอย่างนั้นไปทำไมล่ะครับ ในเมื่อคนของเรามันไม่ได้ไปทำผิดอะไร ก็แค่มีคนมาขอเบอร์

“ให้แล้วครับ”     และผมก็รู้ด้วยว่ามันจะให้เบอร์ใครไป  

“แล้วไงต่อ”    

“เดี๋ยวเขาก็คงโทรไป”      ก็มันให้เบอร์ผมไป เพราะรู้ว่าผมมีวิธีจัดการได้ฮาและน่ารักๆ เสมอครับ วิธีไม่ซ้ำแบบ ก็คนเขียนมันบอกไปแล้วว่าไม่มีซีนนางร้ายให้ต้องปวดหัวแน่นอน

โทรศัพท์ผมเตือนว่ามีสายโทรเข้า ผมเลยให้มันวางไปก่อน  ได้ฮากันตั้งแต่เช้าเลยล่ะครับงานนี้

“ฮัลโหล ชัยบริการ ยินดีรับใช้ครับ”   ก้มหน้าทำเสียงให้มันขรึมๆ เท่ห์ ๆ  แม่งเจ็บกกลิ้น พวกไอ้กรรไกร กับไอ้ฟอส ก็พอจะเดาออกว่า ผมกำลังทำอะไร

“เอ่อ.....ใช่เบอร์ยูนิตหรือเปล่าคะ”  

“ไม่ใช่ครับ  แคกๆ แคกๆ นี่เบอร์รถดูดส้วมครับ แคกๆ ไม่ทราบว่าต้องการให้เราไปดูดที่ไหนครับ”

โอยยยยยยยยยยยยย ปวดกระพุ้งแก้ม แบบว่ากลั้นหัวเราะมากอ่ะครับ ส่วนพวกไอ้กรรกับไอ้ฟอส มันหันหน้าไปปล่อยฮากันเรียบร้อยแล้วครับ

“เอ่อ.......ขอโทษค่ะ สงสัยจะโทรผิด สวัสดีค่ะ”    แล้วเธอก็วางไป ไอ้หมีปล่อยก๊ากออกมาทันที แต่รอได้ไม่ถึง 5 นาที เบอร์แปลกอีกเบอร์ก็โทรเข้ามาอีก สงสัยเธอคงเอาเบอร์เพื่อนคนอื่นโทรเข้ามาอีก ของอย่างนี้เดาไม่ยากครับ

“ร้านส่งแก๊สสาหวีดลีฮ้า ~”    คราวนี้ผมยกโทรศัพท์ไปให้ไอ้กรรมันจัดการครับ มันบีบจมูกแล้วพูดเสียงแหลมได้แรดมากครับ ยังไม่พอครับ ยังแอ๊บเป็นเจ๊กอีกด้วย

“เอ่อ.............”   มันเปิดสปีกเกอร์โฟนครับ เลยได้ยินกันถ้วนหน้า

“กี่ถังครับ อาตี๋!! เอาแก๊สมา2ถัง ลูกค้ามันสั่ง  บ่ๆ บ่แม่น อันนี่ร้านแก๊สนะฮ้า”    เอ่อๆ ได้ข่าวว่าเมื่อกี้มึงเป็นเจ๊กไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมพูดลาวว่ะ ก๊ากกกกกกกกกกกกก

“เอ่อ..........ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ สงสัยโทรผิด แค่นี้นะคะ”   เสร็จไปอีกราย หัวเราะกันไปตามระเบียบ ฮ่าๆ

“ผัวมึงมันหล่อเท่ห์ ต้องทำใจว่ะ”    ไอ้กรรพูดปลอบใจแล้วตบบ่าผม นี่มึงสงสาร หรือซ้ำเติมกูกันแน่ว่ะเนี่ย

“กูก็ไม่ได้ว่าอะไร มันก็มีอยู่แล้วไอ้เรื่องอย่างนี้”

กรรมการนักเรียนเริ่มปล่อยแถวแล้วครับ  ตอนปล่อยแถวนี่ก็เดินกันแบบทหารมากอ่ะ ไหล่ตึงหน้าตั้ง ดีที่ไม่ต้องทำมือทำแขนด้วย ไม่งั้นหนักกว่านี้อีกครับ

“ปากบอกไม่ว่าๆ แต่ใจมึงต้องคิดบ้างล่ะ โกหกใครได้ แต่อย่ามาโกหกพวกกู”  

ยอมรับครับว่าบางครั้งมันก็ต้องมีคิดบ้าง แต่ตอนนี้มันมั่นคงแล้วครับ  เราคบกันด้วยใจ มีอะไรก็พูด และปรึกษากันตลอด ทะเลาะบ้างเป็นบางครั้ง แต่นานๆครั้งถึงจะมี บางครั้งก็กลัวเหมือนกันเพราะอะไรมันดูเรียบง่ายไปหมด ไม่มีปัญหามารบกวน ไม่มีมารผจญ จนบางครั้งยังอดคิดไม่ได้ว่า รักที่ไม่มี “อุปสรรค” มันจะจืดชืดเร็วไหม

แต่ยูนิตมันก็ทำให้ผมได้รู้ว่า ที่ทุกอย่างมันเรียบง่ายมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะผมและมันต่างช่วยกันพยุง “รัก” คนละมือ ไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ มีแต่ความเท่าเทียม และร่วมกันแชร์ความรู้สึก มันทำให้ผมได้รู้ว่า การที่เราจะรักใครสักคนนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และมันก็ทำให้ผมได้รู้ว่า  “เกินคำว่า ..รัก”  นั้นมันเป็นอย่างไร

“ครับๆ พวกมึงน่ะเก่ง เทพไปทุกเรื่อง เหอะ”  ทำปากใส่แต่พองาม ผมก็แวะไปซื้อดินสอ 2B ยางลบ เพื่อใช้เรียนในวิชาศิลปะ ในคาบที่สอง ส่วนคาบแรกนั้นเป็นวิชาภาษาไทยครับ

มองไปทางไหนก็เห็นหน้าไอ้กรรกับไอ้ฟอส โชว์อยู่ตามทางเต็มไปหมด พรีเซนเตอร์โรงเรียนเขาดีจริงๆ เบื้องหน้านี่พี่กรรกับพี่ฟอสจะเป็นรุ่นพี่ที่ใจดี สดใสร่าเริง ปาจิงโก๊ะ แต่เบื้องหลังแล้ว พวกมันปากหมา กวนตีน ไร้สาระ ก็บอกแล้วว่าของเขาดีจริงๆ

ระหว่างที่รอเงินถอนจากร้านอุปกรณ์เครื่องเขียนในโรงเรียนอยู่นั้น สายตาผมก็พลันหันไปเห็น “แฟน”  กำลังยืนคุยกับ สตรีนางหนึ่งอย่างสนุกสนาน ถามว่าโมโหไหม ไม่เลยครับ ก็พวกมันสองคนไม่ได้ผสมพันธุ์กันอยู่นี่น่า จะโมโหไปทำไมล่ะ

รับเงินถอนแล้ว ผมก็ยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหน คือยากรู้ว่าพวกมันสองตัวจะทำอะไรกันต่อ  ยูนิตามันหันมาเห็นผมยืนจ้องอยู่ หน้ามันก็ซีดลงเรื่อยๆ จากเมื่อกี้ที่ยิ้มแย้ม ตอนนี้สลดไปหมดแล้วครับ สตรีท่านนั้นก็มองรอบทิศว่ายูนิตมันมองหาใคร แล้วหล่อนก็หันมาเจอผมอีกคน

หมดเวลาเล่นสนุกแล้วครับ ผมหันหลังแล้วเดินออกไปจากร้านทันที ไม่ได้โมโหหรือโกรธนะ ก็แค่มองดูมันเฉยๆ ไม่คิดว่าจะมันวิ่งมาดักหน้าแล้วจูงมือไปยังโต๊ะหลัง อาคาร 4  กูต้องไปเรียนภาษาไทยนะโว้ย ขาดไม่ได้ วันนี้มีสอบกาพย์เห่เรือ

“กูมีเรียนนะมึง มีสอบเห่เรือด้วย”  

“ไม่โกรธนะครับ”  มือมันลูบมือผมไปมา หลังอาคารค่อนข้างลับตา   ทำอะไรก็ได้ครับ แต่อย่าให้ประเจิดประเจ้อจนเกินไป เพราะเด็กนั่งเรียนชอบมานั่งเล่นแถวนี้เป็นจำนวนมากเหมือนกัน

“กูไปโกรธมึงตอนไหน คิดมาก แค่มองเฉยๆ หรือว่ามองไม่ได้”

“มองได้ครับ นึกว่าหมีจะโกรธก็เลยพามานั่งนี่ไง”

“ก็มองเฉยๆ เห็นมึงยืนคุยกับเขา .......ไปเรียนได้แล้ว”   มันพยักหน้า แล้วเดินมาส่งผมหน้าอาคาร 5 ซึ่งเป็นอาคารเรียนหมวดภาษาไทยและหมวดคณิตศาสตร์

พักเที่ยง

นักเรียนทั้งโรงเรียน มุ่งหน้าสู่โรงอาหาร คิดดูแล้วกันครับ นักเรียนทุกระดับชั้นซึ่งมีจำนวนไม่น้อยไปแออัดยัดเยียดกันซื้อข้าว วุ่นวายอ่ะ และนั่นก็ทำให้ผมอารมณ์เสียไม่น้อย คนเยอะ แดดร้อน เสียงดัง พวกไอ้กรรกับไอ้ฟอสมีประชุมกับชมรมถ่ายภาพ เดี๋ยวมันจะตามไปทีหลัง ผมก็เลยเดินมานั่งรอยูนิตที่หน้าอาคาร 5 รอมันเดินมารับ มันเรียนอาคาร 6  ไกลพอสมควรครับ เพราะอาคาร 6 มันอยู่ด้านหน้า

“เมื่อไรมึงจะมาซักที กูรอนานแล้วนะ แม่ง! ทำเหี้ยไรอยู่”   ไม่ไหวครับ นั่งรอมัน 10 นาทีเห็นจะได้ รอไม่ไหวก็เลยโทรไปด่าแม่งเลย รุ่นน้องที่เดินผ่านเห็นผมอารมณ์ไม่ค่อยดี ก็เลยไม่กล้าเข้ามาทัก
“ขอโทษครับ  เดี๋ยวก็ถึงแล้ว ยูเพิ่งลงมาจากอาคารอ่ะ”  

“เออๆ ให้มันเร็วๆหน่อยดิ คนยิ่งหิวๆ”   แล้วผมก็ตัดสายนั่งรอมันอย่างใจเย็น( เหรอ ) อีกครั้ง 5 นาทีผ่านไปก็เห็นมันเดินคู่มากับ “ชะนี”  อีกแล้ว แล้วแม่งคนเดียวกับเมื่อตอนเช้าอีกด้วย เส้นอารมณ์ที่มีน้อยนิดของผมขาดผึงเลยครับ แม่งที่มาช้ามัวแต่เดินคุยเล่นคุยหัวกันอยู่ล่ะซิ  ไอ้หมีลุกขึ้นแล้วเดินมุ่งหน้าไปโรงอาหารทันที ได้ยินเสียงไอ้ยูมันเรียกอยู่ข้างหลัง แต่ไม่รอแล้วครับ  ไม่อยากเห็นหน้ามัน เดี๋ยวจะได้เหวี่ยงมันก่อนแดกข้าว

แต่เดินได้ประมาณ 5 ก้าว มือผมก็ถูกกระชากกลับ รู้ครับว่าใครมันทำ แต่ผมก็ฝืนไม่หันแล้วก้าวขาเดินต่อไป ไม่หวั่นว่าใครจะมองอย่างไรด้วย ไม่แคร์ครับ

“เป็นอะไรครับ  หิวข้าวเหรอ  ขอโทษครับพอดีจีนถามเรื่องงานวันนี้น่ะ”

“.....................”   ผมไม่ตอบคำถามมัน แต่เดินตามแรงดึงมันเอา ไม่ได้จูงมือหวานแหววนะครับ มันลากแขนผม นั่นแหละคือความจริง

“ถ้ายังไม่หายโกรธ เดี๋ยวจะโดนหอมแก้มกลางโรงอาหารนะครับ”    เสียงมันหวานโอเคนะ แต่ ผมรู้ว่านั่นน่ะมันพูดขู่ และไม่ได้ขู่ธรรมดานะครับ มันทำจริง ปฏิบัติ เองอีกต่างหาก ตอนนี้ก็เดินเข้าโรงอาหารแล้วเรียบร้อย ไม่หวั่นเกรง

รู้ไหมว่าผมทำไง ผมก็หันตัว 180 องศาไปหามันแล้วส่งยิ้มพิมพ์ใจที่สุดเท่าที่ยิ้มได้ให้มันเห็น

“^____^”    นี่ถ้ามีสายสะพาย มงกุฎประจำตำแหน่ง กับโบกมือนิดหน่อย ผมว่าผมก็เข้าข่ายนางงามเลยนะ แม่งไอ้ยูมันแน่อย่างนี้แหละครับ ขู่ทีเดียว ไอ้หมี “จอด!!”  

“กูไม่ได้โกรธ  กูแค่อารมณ์เสีย เออๆ หายแล้ว มือมึงน่ะ!!! อย่าไวๆข้อร้อง”  เมื่อกี้ลากแขน แต่ไปๆมาๆ ตอนนี้มันจะโอบเอวผมซะงั้น เรื่องไรให้มันทำ แค่นี้ก็โด่งดังตัวแล้ว  สังเกตเลยครับ รุ่นน้องคนอื่นๆ เล็งโทรศัพท์มาทางผมซะเยอะแยะ ก็อย่างนี้แหละครับ คนมันฮ๊อต    

ผมแยกเดินไปนั่งที่โต๊ะประจำ ยูนิตมันไปซื้อข้าว นั่งยังไม่ถึง 2 นาที ไอ้ฟอสกับไอ้กรรก็เดินเข้ามา สีหน้าพวกมันแต่ละคนนี่เหน็ดเหนื่อยมากครับ ดูก็รู้ว่าต้องเกี่ยวกับงานของ ม.6 ที่จะถึงนี่แน่ๆ

“แม่ง เห็นกูยอมให้หน่อย แม่งก็ใช้เอาๆ เดี๋ยวกูจะเล่นตัวให้พวกมันรู้สึก”

ไอ้ฟอสมาถึงก็ใส่เอาๆ ผมเลยต้องหันไปทางไอ้กรร มันก็เลยเล่ามาตั้งแต่ต้นจนจบ เรื่องมีอยูว่า ชมรมถ่ายภาพต้องการที่จะตามถ่ายมันทุกที่ทุกเวลาในพรุ่งนี้ เพราะต้องการเอารูปของพวกมันสองคนไปทำวิดีโอให้ผู้ปกครองดูว่า ม.6 ในหนึ่งวันนั้นเขาทำอะไรบ้าง  แค่เล่านี่ผมก็เห็นภาพแล้วครับ แม่งคิดแล้วอึดอัดแทน ทำอะไรที่เป็นตัวของาตัวเองก็ไม่ได้ เพราะต้องคำนึงถึงภาพพจน์ตลอดเวลา

“คิดซะว่าช่วยโรงเรียน มาๆ ไปสั่งตำไทยใส่กุ้งแห้งเยอะมาแดกแก้เซ็งดีกว่า”    ไอ้กรรพยักหน้ารับแล้วเดินไปยังร้านส้มตำ ส่วนไอ้ฟอสก็บ่นๆ บ่น  ๆ แล้วก็บ่น พอมันระบายจนพอใจ มันก็ลุกไปสั่งต้มยำกุ้งมาแดก  กินเพรียวๆเลยนะครับ ไม่กินกับข้าว นี่แหละไอ้ฟอส บ้าของเผ็ด

“ข้าวผัดกุ้งกับกุนเชียงนะครับวันนี้”    ที่รักวางจานข้าวเสร็จก็เดินกลับไปซื้อน้ำ หันไปดูจานของมัน ก็อย่างเดิมล่ะครับ อาหารสิ้นคิด กระเพระหมูกรอบไข่ดาว

“ฟลอเซนต์ ทำไมดูเครียดๆ กลุ้มใจเรื่องงานหรือเปล่าครับ”   ยูนิตถามไอ้ฟอสอย่างห่วงใย ไอ้ฟอสก็ดีแสนดี ไม่เงยหน้าขึ้นมาดู เอาแต่ก้มหน้าก้มตากินต้มยำ ไอ้กรรเลยเป็นคนเล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมด

“แย่หน่อยนะครับ คงอึดอัดน่าดู”     ไอ้ฟอสพยักหน้ารับรู้แล้วก้มหน้าแดกต่อ เห็นกุ้งในจานมันแล้วกิเลสมันก็ตามมาทันที ผมเลยใช้เท้าเขี่ยเท้าไอ้กรรที่กำลังก้มหน้ากินก๊วยเตี๊ยวอยู่ มันเงยหน้ามองผมอย่าง งงๆ เลยส่งซิกทางสายตาให้มันรู้จุดประสงค์ของผม  แล้วไอ้กรรไกรก็เข้าใจครับ

“ไอ้ฟอสน้องคนนั้นมองมึง”   ไอ้กรรเริ่มปฏิบัติตามแผน
 




 








เอาลงอีกตอน เพราะกลัวว่าพรุ่งนี้ไม่ได้ลง เจอกันอีกที หลังสงกานต์นะคะ

เที่ยงสงกานต์อย่างระมัดระวังนะคะ รักษา "ชีวิต" ให้ดีๆนะ เทศกาลมันมีทุกปี มันไม่คุ้มถ้าเราเกิด "อุบัติเหตุ"  


By M:U:A:Y
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2011 23:19:01 โดย boylove_yj »

ออฟไลน์ boylove_yj

  • ล้มแล้วยืน คือคนที่แกร่ง!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1203/-48
    • http://www.facebook.com/pages/Chocolate-Love-Fan-Club/255241697823084




II




“ไหนว่ะ”     และทันใดนั้นเอง เมื่อไอ้ฟอสหันหลังไป ช้อนผมที่เตรียมไว้รออยู่แล้วก็จ้วงตักกุ้งในชามไอ้ฟอสขึ้นมาใส่ไว้ในจานตัวเองอย่างรวดเร็ว เอาหมดครับ หมึก เห็นนางฟ้า เห็ดฟาง ไก่ ลูกชิ้น

“ไหนว่ะไอ้กรร น้องคนไหนมองกู”   ก็ยังโง่ต่อไป ยูนิตนี่มันกลั้นหัวเราะเต็มที่ล่ะครับ น้องๆโต๊ะข้างๆ ก็อยากจะช่วยเต็มที่ แต่พอเจอรอยยิ้มพิฆาตของไอ้กรร ทุกคนก็ยอมนิ่งและดูเฉยๆล่ะครับ

“เหี้ย!!!!!!  พวกมึงนี่เลวได้โล่อ่ะ”  ไอ้ฟอสหันมาแล้วครับ ซึ่งผมก็กำลังแกะกุ้งใส่ปากอยู่ ส่วนไอ้กรรก็กำลังคาบหมึก ในจานผมนื่หลักฐานเต็ม ที่ของไอ้กรรมันทำลายทิ้งหมดแล้วครับ

เลยโดนมันโบกหัวคนละทีสองที มันก็ไม่ว่าอะไร ยิ้มให้แล้วถามว่าอร่อยไหม เอ๊ะๆ ผมว่ามันแปลกๆนะ ทำไมมันดูโวยวายน้อยไปจัง ทุกทีเวลาเล่นมุกนี้มันจะ บ่น เป็น วรรค เป็นเวรเลย

“อร่อยไหมล่ะพวกมึง เมื่อกี้ตอนกูหัน กูเห็นแมงวันบินตกไปอ่ะ” 

ห๊ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!     มึงว่าอะไรนะ ไอ้ฟลอเซนต์

“OoO!!” 

 ช้อนค่อยๆตกจากมือลงไปนอนแน่นิ่งอยู่บนจาน ปากนี่อ้าค้างแบบช๊อกแบบสุดๆ เงยหน้ามองไอ้กรร ก็อาการเดียวกันเลยครับ หน้ามันติดซีดไปแล้วอ่ะ

“ทำไมไม่กินต่อล่ะครับคุณเพื่อน  นี่ไงกุ้งเอาป่ะ”    มันตักกุ้งในชามที่ยังเหลืออยู่มาให้ผม  ยูนิตมันเลยยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยการตักกุ้งขึ้นมาป้อนผม เหี้ยยยยยยย!!!!!!!! ช่วยกูได้มากอ่ะที่รัก

“อ้วกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!”  ผมกับไอ้กรรประสานเสียงทันที ไม่ทันแล้วครับ ไอ้ยูเลยพาไปห้องน้ำหลังโรงอาหาร ออกมาหมดนั่นแหละครับ แค่นึกถึง แมงวันที่มันนอนว่ายน้ำแล้วส่งยิ้มอยู่ในชามต้มยำกุ้ง ผมก็ขนลุกแล้ว   คุณแฟนก็แสนดีเหลือเกินไปซื้อเค้กกับนมปั่นมาให้ แต่ผมก็กินได้แค่นิดเดียวเท่านั้นแหละ  ภาพในจินตนาการมันติดตาแล้วก็ติดใจครับ

“ประกาศจากสำนักงานผู้อำนวยการ ....ขอพบนักเรียนชั้น ม.6 ทุกคนที่หน้าเสาธงด้วยครับ ขอบคุณครับ”  สิ้นเสียงของประชาสัมพันธ์ เป็นอันรู้กันว่า ได้เวลาที่พวกผมต้องทำงานกันจริงจังๆแล้ว ทำน่ะทำได้ครับ ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงอะไรเลย แต่อากาศนี่ซิมันไม่ค่อยเป็นใจเท่าไร แดดร้อนแบบสามารถเอาไก่ดิบไปตากแดดไว้แล้วมันสุกเลยอ่ะ ( เวอร์ )

พวกห้องสองก็ทำป้ายเวทีไป ห้องหนึ่งนั่งเช็ครายชื่อแขก ห้องสามแยกสีผ้า ห้องสี่เช็ดจานและชาม ห้องห้าทำของชำรวย ห้องอื่นๆ ก็ทำงานในส่วนต่างๆที่หัวหน้าห้องได้รับมอบหมายไป ม.6 มีทั้งหมด 16 ห้อง เหลือเฟือครับคนทำงาน งานจัดวันเสาร์นี้ (หรือเปล่า )  ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจ ทั้งเรียน ทั้งทำงาน เบลอไปหมดแล้วครับ   

“น้องเป็นสาวขอนแก่น ยัง บ่ เคยมีแฟน บ้านอยู่แดนอีสาน”   ไอ้หนอนที่นั่งเมาท์มานาน อยู่ดีๆก็ร้องเพลงขึ้นมาซะงั้น ไม่หนักใจ เพราะมันเป็นอย่างนี้ประจำ สงสัยร้องเพลงแซวหนุ่มห้อง 3 มั้งครับ

“เปรียบกับพี่เป็นแค่ขอนไม้ ต่อให้รักเจ้ามากเพียงไหน พุพังไปพึ่งพาก็ได้ไม่นาน”  ไอ้ปอห้องสองก็ร้องเพลงสวนกลับมา เสียงกรี๊ด เสียงหัวเราะนี่เซ็งแซ่มากครับ แต่ผม ไอ้กรร ไอ้ฟอสนี่หัวเราะท้องแข็ง ไปแล้วครับ ไอ้ฟอสหนักสุด ลงไปนอนชักดิ้นชักงอบนพื้นหญ้าเลยอ่ะ

“มีเวลาโทรมาด้วยเหรอ ได้ข่าวแฟนเธอคอยคุมแจแทบทุกนาที”     ไอ้หนอนก็ไม่ยอมแพ้ครับ งัดเพลงเด่นประจำห้องออกมาร้องโต้กลับ ลูกทุ่งล้วนๆ และก็ปราศจากลูกคอเหมือนกัน ก๊ากกกกกกกกๆ

“น้ำครับ”    นั่งติดสติ๊กเกอร์อยู่ดีๆ ก็มีแก้วน้ำลอยมาอยู่ข้างหน้า มองขึ้นไปตามมือ ก็เจอกับ คิมจุนซู!!

ไม่น่ะ ทำไมคิมจุนซูแห่งดงบังชินกิถึงมาอยู่ สิรินธานฯได้ล่ะ กรี๊ดดดดดด นั่นๆ ยังไม่พอครับ ยังยิ้มให้ผมอีกด้วย ไอ้หมีสาวแตกไปแล้ว
“ไอ้หมีรับไปซิ มัวแต่ทำตาเยิ้มอยู่ได้”    เมื่อได้ยินเสียงไอ้กรร สติก็เข้าร่างทันที แสร้งเก๊กหน้าขรึมแล้วยิ้มนิดๆอย่างที่ประจำ ถึงแม้จะทำช้าไปหน่อยก็ไม่เป็นไรครับ

“ขอบคุณครับ.....นั่งก่อนซิครับ”   ความจริงถ้าเป็นคนอื่นผมไล่ไปตั้งนานแล้วนะ แต่สำหรับคนนี้ละไว้ในฐานที่เข้าใจก็แล้วกัน นานๆจะเห็นแฝด ตี๋จุนซักที มองใกล้ยิ่งเหมือนนะ ตาชั้นเดียว เรียวอีกต่างหาก จมูกดวง ปากเล็กเป็นกระจับ กล้ามนิดๆ ฮิ้วววววววว สุดหล่อ!!

“ห้องไหนอ่ะ ทำไมเราไม่เคยเห็นหน้า”   ไอ้หมียิงคำถามทันที ไม่มีการเกรงใจอะไรแต่อย่างใด ไอ้ฟอสที่นั่งข้างๆนี่หยิกขาผมใหญ่ ส่งซิกให้รู้ว่า ยูนิตมันมองมาจากเวที ตอนนี้กำลังทำหน้าโหดอยู่ 

ไอ้หมี I don’t care !!!  ( แร๊งงงงงงงงงงงง )

“ห้องหนึ่งอ่ะ ชื่อจูน”   นั่นปะไร ชื่อก็คล้องจองกัน จูน จุน จูน จุน  สองคนนี้เป็นแฝดคนที่สามของตระกูลคิมชัวร์ พี่จุนโฮครับ น้องพี่อยู่ทางนี้ ฮ่าๆ

“อืมๆ เราชื่อหมีนะ”    ขยับห่างออกมาจากไอ้จูนเล็กน้อย อันเนื่องมาจากผัวยืนมองอยู่บนเวที ไม่ได้มองธรรมดานะครับ ท้าวเอวทำหน้าเครียดอีกด้วย

“ทำไมไม่ช่วยเพื่อนเช็ครายชื่อแขกล่ะ อู้เหรอ”   

“ฮ่าๆ เปล่าหรอก ส่วนของเราทำเสร็จแล้วอ่ะ”    ยิ้มแล้วครับ ผมแล้วแบ๊วมากกกกกกกกกกกกกกก กรี๊ดดดดดด  เหมือนได้น้องเพิ่มมาอีกคนเลยอ่ะ ไม่ได้คลั่งแบบอยากได้มาเป็นแฟนนะครับ แต่ชอบแบบพี่น้องมากกว่า ผมว่าไอ้จูนมันหน้าเด็กมากอ่ะ ถ้ามันหลอกว่าอยู่ ม.4 ผมเชื่อนะ หน้ากิ๊กมากอ่ะ

“ตุ๊ดเปล่าว่ะ  หน้าแม่งอย่างขาวอ่ะ”   ไอ้กรร ไอ้ปากหมา มึงไม่ชอบมึงก็เงียบไปซิ มึงจะเห่า จะหอนให้คนอื่นเขาหน้าเสียทำไม

“เหี้ยกรร หุบปากไป ไอ้ฟอส เอาลิบบิ้นมัดปากมันดิ เดี๋ยวจะเห่าอีก”   ซึ่งไอ้ฟอสก็ทำตามครับ รับมุกอย่างแรง ทำท่าจะเอาริบบิ้นมัดปากไอ้กรรจริงๆ

“เราขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะ มันไม่ใช่คนคิดร้ายอะไร อาจจะอายจูนอยูก็ได้”     

“ไม่เป็นไรหรอกหมี เราก็ไม่ได้โกรธอะไร ขำขำมากกว่า”   

“ถามจริง จูนอายุเท่าไร”   

“ทำไมเหรอ??”  มันจับหน้าตัวเองใหญ่เลยครับ มองแล้วน่ารักดีนะเนี่ย
 
“เปล่าหรอก ไม่มีอะไรติดหน้าจูนหรอก แต่เราสงสัยว่าทำไมหน้าจูนถึงได้เด็กขนาดนี้ ทั้งที่อยู่ ม.6 แท้”

ไม่ได้มีจุดประสงค์ ว่าพวกเดียวกัน “หน้าแก่นะครับ”  ไอ้หนอนที่นั่งอยู่ข้างๆ สงสัยได้ยินมันเลยขว้างม้วนกระดาษทิชชู่ใส่หัวผม มึงแม่นมากอ่ะ เอาซะกลางหัวกูเลย

“ความจริงเราก็เข้าก่อนเกณฑ์อ่ะ ถ้าเอาจริงๆ ตอนนี้เราต้องอยู่ ม.5”     

กูว่าแล้ว หน้าอย่างมึงน่ะ รุ่นน้องกูชัดๆ กำลังจะซักไซ้ไล่เรียงกันมากกว่านี้ “ตัวจริง”  ของผมก็เดินหน้าหล่อเข้ามาแล้วครับ มาถึงก็บอกไอ้ฟอสลุกไปนั่งอีกด้านของวง เพราะตัวมันจะนั่งข้างผม

“เราขอตัวก่อนนะ”   จูนนี่ ( ตั้งให้ใหม่)  เดินหายไปแล้วครับ แอบเสียดายเหมือนกันยังไม่ได้คุยกันเลยอ่ะ ไว้วันหลังค่อยให้ไอ้กรรไปสืบก็แล้วกัน

“เหงื่อไหลเต็มเลย”   ผมเอาผ้าเย็นออกมาจากกระติ๊กน้ำแข็ง ตบถุงให้มันแตกแล้วเอาผ้าออกมาซับหน้าให้ไอ้ยูมัน  สงสารขึ้นมาทันที แดดร้อนๆอย่างนี้ แต่พวกผู้ชายทุกคนต่างพากันปีนโน่นนี่นั่นเพื่อตกแต่งเวที เพื่อให้มันออกมาดูดี และอลังการ

“ใครครับ??”   ปากยิ้มนะ แต่ตาไม่ยิ้ม มุกนี้กูรู้ทันหมดแล้วว่ะที่รัก ฮ่าๆ

“อ๋อ เพื่อนห้องหนึ่ง ชื่อจูน เพิ่งรู้จักกันเมื่อกี้เอง”

“ดูสนิทกันดีนะครับ ทั้งที่ความจริงเพิ่งรู้จักกัน”   มันดึงผ้าออกไปจากมือผมแล้วเช็ดเอาเอง ผมเลยเอาน้ำเปล่าขึ้นมาให้กินแก้กระหาย

“ไม่หรอก เพื่อนระดับเดียวกันไง คุยกันนิดหน่อยก็สนิทกันแล้ว”

“ครับ อย่าให้มันเกินเลยล่ะ เดี๋ยวจะหาว่ายูใจร้าย”   หน้านี่โหดขึ้นมาเลย  แต่สำหรับผม มันน่ารักนะ 

นี่แหละตรงตัวตรงใจ หึงก็บอกว่าหึง ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ  พอผมรู้ตัวว่าไปทำไรเกินๆไว้กับคนอื่น ก็จะปรับตัวทันที เพราะมันเป็นอย่างนี้นี่ไง ผมกับมันถึงได้คบกันมายืดยาว  ไม่ได้ครับไม่ได้ ผัวขี้หึงเกินมนุษยมนาครับ







ออฟไลน์ boylove_yj

  • ล้มแล้วยืน คือคนที่แกร่ง!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1203/-48
    • http://www.facebook.com/pages/Chocolate-Love-Fan-Club/255241697823084

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด