ต่อๆ
"อะไรนะ(ตะโกงด้วยความตกใจ)นางโชคมันเป็น ไบ(กระซิบ)โอนี่"แหม่ม ถามด้วยความตกใจ
"เงียบหน่อย(ผมก้มหน้าเขียนรายงานภาษาอังกฤษ)เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยินหมดหรอก"
"เป็นไปได้ไง"
"ก็มันเป็นไปแล้วนี่"ผมตอบ
"เธอจะทำไงทีนี้(จ้องหน้าผม)เสียใจแย่เลยสิ อุส่าจะเปิดใจทั้งที ร้องไห้กับฉันก็ได้นะ"แหม่มทำอย่างกับผมเป็นคนน่าสงสาร-_-!
"อะไร(เงยหน้าจากรายงานมองแหม่ม)เราสบายดี ไม่เอานะ เราไม่ได้รักเจ้านั้นสักหน่อย"
"เธอโกหก"
"เปล่า"
"เธอโกหก (หยิบรายงานผมไป)เธอเสียใจฉันรู้ หยุดโกหกตัวเองได้ไม"
"โอเค อย่างน้อยเขาก็ช่วยให้ผมคิดได้ในหลายๆเรื่อง(หยิบรายงานคืน) ผมขอบคุณเขานะ"
"เธอโกหก(จ้องหน้าผมใกล้ๆ)เธอคิดว่าเขาก็เหมือนกันย์ที่ หลอกลวงนายตั้งแต่ต้น ทำเหมือนเธอเป็นของเล่น นั้นคือเรื่องจริงที่เธอคิด ฉันรู้ดี"
"Stop talk about Kan"ผมขึ้นเสียง
"ok sorry!"แหม่ม เงียบไป
ความจริงคือใช่ โชคก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากกันย์ พยายามให้ผมหลงรักเขา แต่ลับหลังก็ไม่ซื่อสัตย์กับผมแบบนี้ ผมเกลียด ที่เกลียดที่สุดคือตัวผม ผมโง่จริงๆ ที่เกือบจะหลงเชื่อคำพูดบ้าบอของคนเหมือนๆกันซ้ำสองและผมก็โกรธที่เขาไม่พยายามอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงแม้ตัวผมจะทำเหมือนไม่อยากรับรู้ก็ตามที ผมจบแล้ว ผมจบกับเขา และเบื่อที่จะทนเกลียดตัวเองเพราะคนอื่นไม่ไหว
หลังเลิกเรียนผมกลับบ้านนอน จากนั้นก็ แต่งตัวออกมาในแบบของผม นั้นคือ รสนิยมการแต่งตัวที่สุดจะเท่ (ดีกว่าใส่สูทเยอะ)
ผมไปนั่งผับที่ผมไปประจำ นั่งดื่ม เพลินๆ คืนนี้ก็อีกคืนที่ผมจะต้องเริ่มใช้ชีวิตแบบเก่าของผม ผมตัดสินใจแบบนี้
ผมลาออกจากงานที่เขาให้โดยไม่บอกเขาสักคำ และตอนนี้ผมก็ปิดเครื่อง(บางทีผมก็ดูเหมือนเด็กๆ ที่โครดจะเอาแต่ใจ อะไร!ก้ผม18 จะเอาแต่ใจบ้างไม่ได้หรือไง)
สักพักก็มีคนเดินเข้ามา หน้าตาออก แครส นิดๆ เขามานั่งข้างๆ และคำแรกที่ออกจากปากเขาคือ(เท่าไหร่)
และผมก็ชอบ มันตรงดี และง่ายๆ หลังจากที่ตกลงราคาเสร็จ ผมก็ติดรถเขาไปที่ โรงแรม ปิคนิก ว่ากันตรงๆก็คือม่านรูด
ยอมรับว่าเขาเป็นคนมีความต้องการทางเพศสูงและออกจะชอบใช้ความรุนแรงนิดๆ ส่วนผมอย่างไงก็ได้ตามใจลูกค้าอย่แล้ว มีเพียงสองสิ่งที่ผมไม่ทำคือ ยอมเสียตูดกับถ่ายคลิปวีดีโอ และเจ้านั้นก็ขอผม
เขาขอรุกผมและจะถ่ายวีดีโอเก็บ และสัญญาว่าจะจ่ายเพิ่ม สิ่งเดียวที่ผมเกลียดคือ พูดแล้วไม่รักษาคำพูด เราตกลงกันว่าผมรุก ไม่รับ แต่นี้มัน เกินเส้นที่ผมขีดไว้
ผมเดินเข้าห้องน้ำ สวมเสื้อ กำลังจะออกไป จู่ๆก็มีของเข็งมากระทบท้ายถอยของผมแรงๆ ผมค่อนข้างแน่ใจว่าเลือดไหล่ที่หลังศรีษะผม ผมรีบหันมา พร้อมกับตอยเจ้านั้นที่ถือ ถ้วยรองบุหรี่ที่ฟัดหัวผมเมื่อตะกี้ ยังดีที่ผมรวบรวมสะติได้ และรวบรวมความกล้าและแรงทั้งหมดที่มี
ต่อสู้กับเขาจนถึงที่สุด ผมสวมหน้าเขาไปสองหมัด แลเจ้าตัวเถื่อน ตอยผมเป็นสิบ ผมกระทืบ เขาไปห้า แต่โดนทืบกลับ เกือบตาย สรุป ยังไงผมก็สู้เจ้านั่นไม่ได้ สุดท้ายผมรวบรวมแรงที่มีอยู่น้อยนิด วิ่งหนีออกมาจากที่นั้น จนถึงทางเดินถนน แม้จะมีคนมากมาย แต่ผมก็ไม่ไว้วางใจที่จะขอความช่วยเหลือจะใคร เพราะผมไม่ไว้ใจ ผมกลัว
ตัวผมอาบเลือดไปทั้งตัว ผมพยุงตัวเอเดินเร็วๆ เพราะกลัวเจ้านั่นตามมา และผมก็เดินมาถึงหน้าโรงบาลและสลบหน้าทางเข้าโรงบาล
รู้ตัวอีกทีผมก็โดนผ้าพันแผล พันไว้เหมือน มัมมี่ หมอบอกว่าคงต้องอยู่โรงบาลอีกหลายอาทิตย์ เพราะกระดุกผมหักสองซี่ และหน้าผมก็ปวมช้ำไปหมดผมนึกเสมอว่าผมโตแล้ว ทำงานเลี้ยงตัวเอง รับผิดชอบตัวเองทุกๆอย่าง แต่พอมาถึงจุดนี้ ผมก็ทำอะไรไม่ทุกรู้สึกตัวเองเป็นคนล้มแหลว สุดท้าย ผมก้เป็นเด็กอายุสิบแปดที่ ปกป้องตัวเองจากคนอื่นยังไม่เป็น ผมเกลียดตัวเอง และไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ ผมสิ่นหวัง ไร้กำลังใจ
"เป็นไงล่ะ ฉันบอกแล้ว ว่าอย่าไปทำงานแบบนั้นอีก(หยิบผลไม้ขึ้นมา)ไม่เชื่อคนสวยแล้วเป็นไง(ยัดใส่ปากผม)คราวนี้เจอคนอัพ ยาบ้าล่ะสิ (มองผมรอบๆ)โธ๋ๆๆ ดูไม่ได้เลย"แหม่มนั่งอยู่ข้างๆเตียนผม
และตอนนั้นเองที่เพื่อนเกย์สามคนเดินเข้ามา
"ไงเพื่อน ยังเขี้ยวได้อีกหรอ? ฉันก็นึกว่านายจะแย่กว่านี้ ฮาๆๆๆ"ไอซ์
ในยามที่ขาดกำลังใจ พวกเขาก็จะโผล่มาให้ผมเห็นเสมอๆ มันคืออะไรที่ผมเองก็บอกไม่ถูก
"อ้าวมสาวสวยข้างกายเพื่อนอย่างพวกเรา คงไม่มาก็ได้มั้ง"เอ็ม
"นี่ๆ ซื้อ ซูชิของโปรดมาฝากแน่"เป้
"คราวนี้ ต้องไปแอบเป็น แฟนใครอีกล่ะ"ผมถามเสียงผมเบามากๆจนทุกคนต้องตั้งใจฟัง
"ฮาๆๆๆ"ทุกคนหัวเราะ
คงเป็นเหตุผลเดียวที่ผมยังมีชีวิตอยู่ต่อ ที่พวกเขาทำให้ผมในวันนี้ มันคงไม่จบลงด้วยคำว่าขอบคุณง่ายๆสองคำ เพราะถ้าเป็นอย่างงั้น ผมเองก็ละอายใจเหมือนกัน แต่ที่รู้มันนี้ ผมรักพวกเขา นี่คือความรักอีกแบบที่ คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน สำรวจตัวเองรอบข้างดู แล้วคุณจะเห็นมัน ไม่จำเป็นต้องไปหวนหาความรักให้ยากหรอก เพียงแค่เปิดใจ มองดูคนรอบข้าง