กันย์ไมได้ตายด้านหรอกค่ะ กันย์น่ะมันหน้าด้านต่างหาก ฮาๆ
18.2 วันเกิด
เมื่อตัวอันตรายหลับลงไปได้ ผมค่อยคลายใจ หันไปกอดร่างหนาของคนข้างกายแล้วนอนหลับตามไปบ้าง จวบจนกระทั่งเช้า....
“อื๊อ....” ครางอย่างขี้เกียจ เมื่อสติเริ่มรับรู้อะไรมากขึ้น ปรือตาขึ้นด้วยความง่วงงุน เมื่อไปอีกทางหนึ่งก็พบดวงตาใสแจ๋วพอๆ กับจิ้งจกจ้องเขม็ง
“เฮ้ย!!” ร้องอย่างตกใจ
“เป็นอะไร ร้องซะขี้หูกันย์เต้นระบำหมดแล้ว” กันย์ถามมาทำท่าเอามือแคะหู
“มึงเล่นจ้องกูแบบนี้ กูตกใจหมด” กันย์คงตื่นก่อนผมสักพักแล้ว น่าแปลก ทั้งๆ ที่ปกติขี้เซามากแท้ๆ
“ตกใจอะไรเล่า ก็กิ๊งตอนนอนหลับมันน่ามองนี่นา” กันย์บอกมาพร้อมยิ้มหวาน
ผมขยับกายจะลุกขึ้น แต่แขนแกร่งของกันย์ตวัดมารวบร่างไปแนบชิด
“อย่าเพิ่งลุกสิ เพิ่งหกโมงกว่าเอง นอนต่ออีกนิดก็ได้” กันย์ว่าเอาหน้ามาซุกที่คอเหมือนแมว
“ไม่เอา...อย่าแกล้งสิ” ผมจั๊กจี้ครับเลยห้ามเสียงง้องแง้ง
“หึหึ... อย่าทำเสียงน่ารักแบบนั้นสิ กันย์เป็นคนนะไม่ใช่พระอิฐพระปูน” อ้าว พูดอะไรแบบนั้นวะ ก็มึงตายด้านไปแล้วไม่ใช่เรอะ ผมตาโตใส่มัน
“แล้วก็อย่าทำหน้าตาน่ารักแบบนี้ด้วย เห็นแล้วมันน่าฟัดมากๆ” หน้าผมก็เหมือนเดิมเป๊ะๆ เป็นแบบนี้ตลอดไม่ได้ทำอะไรเล้ย
มันรวบร่างผมไปกอดแน่นจูบแก้มผมแรงๆ
“ไอ้หื่นเอ๊ย ..... ปล่อยกู๊.......” บอกพร้อมเอามือยันอกมันออก ยิ่งยัน ยิ่งรัดยังกับงูเหลือมรัดเหยื่อ
“ชู่ว์....กิ๊ง เงียบๆ” มันทำเสียงจริงจังมา ทำให้ผมนิ่งด้วยความตกใจ “ได้ยินเสียงอะไรป่ะ”
“อะไร” ทำเสียงตื่นเต้นไปกับมันด้วย
“ไม่ได้ยินจริงๆ เหรอกิ๊ง” นั่น เสียงมันสร้างความระทึกกว่าเดิมอีก ผมส่ายหน้าอยู่กับอกมัน
“ไม่ได้ยินเสียงหัวใจกันย์เต้นเหรอ?” โห่..... มามุขไหนอีกเนี่ย
“หัวใจมึงไม่เต้น มึงก็ตายแล้วสิ”
“ก็มันเต้นดัง โครมครามเลยนะ ตอนที่อยู่ใกล้ๆ กิ๊งอ่ะ” มันบอกแล้วเอามือผมไปวางไว้ตรงอกข้างซ้ายของมัน ซึ่งมันเต้นแรงจริงๆ จนรู้สึกได้
แต่...... มันรู้บ้างไหมว่าหัวใจผมเต้นแรงกว่ามันอีก....
คิดผิดชะมัดที่ตัดสินใจมานอนกับมันที่นี่... ฮือ....
แล้วจะรอดไหมเนี่ย...
“กันย์ ปล่อยกูเลย” ยังโวยวายต่อไม่เลิก
“ไม่ปล่อย กิ๊งนั่นแหละผิด รู้ไหมว่ากันย์ต้องใช้ความพยายามเท่าไรที่จะหักห้ามใจไม่ให้กอด ไม่ให้จูบ ไม่ให้นึกอยากกดกิ๊งได้แต่ละที แต่กิ๊งกลับเสนอตัวมาให้ มานอนอยู่ข้างๆ กันย์แบบนี้ แล้วเช้าๆ แบบนี้... รู้ไหมว่ากันย์ทรมานแค่ไหนที่....” ผมเอามืออุดปากมันไว้ ไม่ต้องบอกก็เข้าใจแล้ว
เฮ้อ....ยอมให้มันกอดมันหอม ยอมให้จูบแต่โดยดี เพราะตอนเช้าๆ แล้วผู้ชายทุกคนเป็นเหมือนกันหมด คือพอพี่ชายตื่นน้องชายมันก็ตื่นขึ้นมาด้วย....
“เออ กูเข้าใจ....” อย่าว่าแต่มันเลยผมก็รู้สึก....แต่ก็ยังกลัวๆ อยู่ดี คิดหาทางเอาตัวรอดต่อไป....
“แต่กูจะไปห้องน้ำ”
“ไปทำอะไร” แน่ะ ยังจะมาอยากรู้...
“กูจะไปขี้!!” ชัดป่ะ จะได้เลิกกวน
“โห่...ใจร้ายว่ะ” บ่นกระปอดกระแปด แต่ยอมปล่อยแต่โดยดี เจอคำตอบนี้เข้าไป ใครๆ ก็ต้องหมดอารมณ์ ฮาๆ
เอาเป็นว่าวันนี้ รอดตายไปอีกหนึ่งวัน....
เย็นวันนั้นกันย์ก็ชวนเพื่อนๆ มากินเหล้ากันที่บ้านครับ ผมก็พาฐา หมอกกับอ้อมมาด้วย คนอื่นๆนั่งกินเหล้ากัน ส่วนผมก็นั่งกินโค้กครับนั่งฟังคนอื่นๆ คุยกันไปตามเรื่อง เปิดเพลงฟัง นั่งคุยกันไป
ท้ายที่สุด หัวข้อสนทนามันเดินทางมายังไงก็ไม่รู้ดันเลี้ยวมาที่เรื่องของขนาดเจ้าโลก โดยศรมันบอกว่าของกันย์น่ะเล็ก...
“อย่ามาดูถูก ลูกชายกูอ่ะมังกรนะ” กันย์แก้ตัว
“มังกรจริงอ่ะ มังกรหรือหนอนชาเขียว” ศรว่าพร้อมหัวเราะ
“ของใครๆ ก็ว่าของตัวเองใหญ่ทั้งนั้นอ่ะมันต้องถามคนอื่น อยากรู้ว่าของไอ้กันย์ใหญ่จริงป่าว ลองถามกิ๊งดูดิ” ชายทิวผู้เงียบปากตลอดแต่พูดอะไรขึ้นมาสักคำนี่มีสาระตลอด
ของไอ้กันย์แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับกูวะ!
ทุกคนหันมาทางผมทันที
“ว่าไงกิ๊งของกันย์น่ะมันมังกรหรือหนอนวะ” ศรถาม ว่าแต่เป็นเพื่อนกันมาหลายปีมึงไม่เคยเห็นเรอะ?
“ไม่รู้โว้ย” ผมตอบโดยไม่เงยหน้าเลย
“ไม่ต้องเขินๆ ของเคยๆ มือ” ศรยังคะยั้นคะยอให้ตอบ เคยที่ไหนวะ ไม่เค้ย.....
“ไม่รู้จริงๆ กูไม่เคยเห็นและไม่เคยจับด้วย” ผมตอบเขินๆ รู้ว่าตัวเองต้องหน้าแดงแป๊ดไปแล้วแหงๆ
“โห จริงดิ กันย์มึงไม่ได้เรื่องเลยว่ะ ไร้น้ำยาสุดๆ” ศรโวยวาย
“เรียกว่าความอดทนสูงจะดีกว่ามั้ง” หมอกออกความเห็น
“อ้อมว่า กันย์ออกจะสุภาพบุรุษ” อ้อมก็ยังอยากจะมีเอี่ยว
“ที่ไม่ทำซะทีเพราะไม่รู้วิธีเหรอคะ มาถามโปรเฟสชั่นนอลนี่ รู้ดีทุกชอต ว่างๆ แวะมาซ้อมก่อนได้” โห ฐา อีเพื่อนทรยศ เผลอเป็นไม่ได้คิดจะตีท้ายครัวกูตลอด ผมหันไปจิกตาใส่มัน
“อย่าเพิ่งไปเร่งดิ กันย์กำลังหาโอกาสอยู่ใช่ไหมวะ” เฟลมปลอบใจ
“อือ...ก็รอกิ๊งเห็นใจอยู่” กันย์มันยิ้มแล้วหันมาทำหน้าอ้อนใส่ผม
“เราว่า อย่ามีอะไรกันเลยดีกว่า เดี๋ยวกิ๊งมันท้อง ก็กันย์มันชักช้า โฮะๆๆๆ” พูดเสร็จฐามันก็หัวเราะแบบสะใจมาก
หึย อีเพื่อนเลว เกรงใจกันบ้างไม่มีเล้ย
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าท้องเดี๋ยวกันย์รับผิดชอบเอง” แหมยังอุตส่าห์รับมุขอีกนะกันย์ -*-
มีใครเห็นใจผมมั่งไหมว่าอายจะตายอยู่แล้ว....
ตอนดึกๆ กันย์กับศรก็ออกไปสูบบุหรี่ที่หน้าบ้านแต่กันย์ดันวางโทรศัพท์ไว้ข้างใน พอมีสายเข้าผมก็เลยเดินเอาโทรศัพท์ออกไปหน้าบ้าน แต่ไม่ทันจะออกไปก็ต้องชะงักเพราะบทสนทนา
“นี่มึงกับกิ๊งนี่ยังไม่มีอะไรอีกจริงเหรอวะ” ศรถามขึ้นมา
“เออดิ ทำไมวะ” กันย์ตอบยิ้มๆ
“เหรอ... นึกว่าอายเลยบอกปัด คบกันมาเป็นเดือนๆ แล้วนี่ยังไม่มีอะไร ไม่สมกับเป็นมึงเลยว่ะ”
“เฮ้ย เกินไปมั้ง ในสายตามึงอ่ะ กูหื่นขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
“โคตรๆ แล้วอ่ะ”
“เหรอ กูก็เคยคิดเหมือนกันว่ากูเป็นแบบนั้น แต่จะให้กูทำไงได้ล่ะ ก็กิ๊งมันไม่ยอม แล้วจะให้กูไปข่มเขาโคขืนให้กลืนกล้วยอ่ะ กูทำไม่ลงหรอก”
“กูว่านะ ถ้าคบกันไปเฉยๆ แล้วไม่มีอะไรกันเลย ก็ไม่ต่างกับตอนเป็นเพื่อนกันเลยไม่ใช่เหรอ? แถมเป็นเพื่อนกันยังดีซะกว่า ตรงที่ยังไม่ได้เป็นเจ้าของกันและกัน แล้วมึงจะมีใครคนอื่นก็ไม่ผิด”
“จริงของมึง แต่ตอนนี้กูก็มีความสุขดีนะ เพราะนอกจากกูไม่มีใครแล้วกิ๊งก็ไม่มีใครนอกจากกูเหมือนกัน” อืม.... ก็จริง....
“แน่ใจเหรอว่า มึงมีความสุขจริงๆ มึงไม่คิดเหรอว่าสิ่งที่มึงรู้สึกกับกิ๊งตอนนี้อาจจะไม่ใช่ความรักจริงๆ อาจจะเป็นแค่ความหลงใหล เผลอใจเพราะคิดว่ากิ๊งมันสวยเหมือนผู้หญิง แต่ที่จริงมันก็ไม่ใช่ ที่มึงยังทนได้ทุกวันนี้ก็เพราะที่จริงมึงไม่ได้ชอบมันแบบคนรัก เป็นแค่ความเข้าใจผิด ความจริงแล้ว มึงอาจจะไม่ได้ชอบผู้ชายจริงๆ ก็ได้นะกันย์”
“ศร มึงพูดซะกูเครียดเลย กูรักมันสิกูถึงทนได้ ไอ้บ้า”
“ที่กูพูดเพราะกูหวังดีนะกันย์ คิดดูดีๆ เปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังทัน ลองทบทวนตัวเองอีกทีว่ามึงรักมันแบบไหนกันแน่”
“กูรู้ตัวกูเองน่าว่ากูรักมันแบบไหน ไม่งั้นกูจะทนจีบมันมาได้ตั้งนานสองนานเหรอวะ ไม่ได้ว่าได้มาง่ายๆ นะเนี่ย”
“เออ... แล้วกูจะรอดูว่ามึงจะทนไปได้สักกี่น้ำ”
ดูเหมือนว่า....กันย์จะพยายามปฏิเสธความหวังดีของศร แต่เป็นผมต่างหากที่คิดมาก
นั่นแหละเป็นสิ่งที่ผมคิดมาตลอด และกลัวมาตลอด
ถ้าวันนึงที่เราสองคนก้าวข้ามความกลัว และลึกซึ้งมากเกินกว่าจะกลับไปสู่คำว่าเพื่อนแล้ว
ถ้ามีวันนึงที่กันย์จะรู้ตัวว่า กันย์คิดผิด มันไม่ได้รักผมแบบคนรัก หรือความจริงแล้ว มันอยากจะคบกับผู้หญิงมากกว่า แล้วผมจะทำยังไงดี....
ผมจะทนรับความจริงนั้นได้ไหม? ....
................
วันนี้ไม่มีอะไรมากนอกจากขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ทุกกำลังใจนะคะ
ถ้ากิ๊งอยากจะพิสูจน์ว่าตายด้านจริงอะป่าว จะต้องทำยังไงดีน้า
เป็นกำลังใจให้น้องนินะจ๊ะ เขียนสองเรื่องไปพร้อมกันเก่งมากๆ
จะเป็นแบบซี่รีย์ สี่หัวใจขุนเขา สี่เรื่องสี่รส รึป่าวคะ
แต่ของเราได้สามคู่ล่ะ กิ๊งกันย์-ฐาพี่โต้ง-เฮียตุลย์ (คนอ่านมัดมือชก)
ปล.เมนท์ที่แล้วเวฟไอติม คือจะว่าถ้าเจอน้องเซเว่นเอง ป้าคงเครียด ที่ไม่ไหวจะอั้นขำ
สงสัยจะใช้คำผิดว่ามุข จริงๆเค้าเรียกแก๊กมั้ง หรือยังไง เมนท์เองยังงงเอง หะหะ
คาดว่ามีสี่คู่นะคะเพราะว่า นิจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับกิ๊ง...อีกเรื่อง แบบว่ามีกิ๊งเป็นร้าย
คือจะเขียนเรื่องของนัท เพื่อนที่กิ๊งแอบชอบน่ะค่ะ แบบว่าตอนสมัยมัธยม กิ๊งก็แอบร้าย ฮาๆๆ