-4-
มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อของเขาคือ ‘เป็นหนึ่ง’
เป็นหนึ่งเป็นเด็กหนุ่มผู้เพอร์เฟ็กเป็นที่หนึ่ง
ทุกอย่างล้วนได้มาโดยง่ายดาย
...จนเป็นหนึ่ง ไม่รู้จักคำว่า พยายาม...
...
ยามเช้าอากาศสดใส เสียงนกในเมืองร่วมกันขับขานทักทายยามเช้าในสวนที่ล้อมรอบตัวบ้านที่เรียกได้ว่าคฤหาสน์อย่างไม่อายปาก
เป็นหนึ่งนั่งกระดิกนิ้วเคาะ โต๊ะ มือหนึ่งก็ถึอแก้วกาแฟยี่ห้อหรูยกขึ้นจิบ อีกมือก็พลิกหน้าหนังสือพิมพ์เป็นระยะๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็ได้เจอกับชุดอาหารเช้าหอมฉุยซึ่งประกอบไปด้วยออมเล็ต เบคอน ขนมปังปิ้ง และอีกมากมายที่หัวหน้าแม่บ้านนำมาเสิร์ฟให้ด้วยตัวเอง
“เย็นนี้คุณหนึ่งอยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ? ป้าดาจะได้เตรียมไว้ให้”
เป็นหนึ่งเหลือบตามอง ก่อนจะตอบเสียงเรียบ “เย็นนี้หนึ่งกินข้าวนอกบ้านครับ”
เพียงแค่นั้นเจ้าหล่อนก็ถอยกลับ ทิ้งให้เจ้านายน้อยได้ดื่มด่ำกับอาหารเช้าเลอเลิศต่อไป
...ทุกๆอย่างล้วนง่ายดาย...
+++++++++++++++++++++++++++++++++
มีเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่ง ชื่อของเขาคือ ‘เสมอภาค’
เสมอภาคเกิดมาพร้อมกับความ ‘ไม่’ สมบูรณ์พร้อม
กว่าจะได้อะไรแต่ละอย่างมา ล้วนยากเย็น
...จนเสมอภาค ไม่รู้จักคำว่า ง่ายดาย...
...
เสียงหมาเห่าขรมกลางซอยหมู่บ้านจัดสรรดังระงมท้าทายยามเช้า บรรยากาศสดใสกลับเจือปนไปด้วยควันดำที่ฟุ้งโขมงออกมาจากห้องครัว
“แค้กๆๆๆ!!!” เสมอภาคปิดปากไอสำลักหลายที ก่อนจะรีบเสี่ยงชีวิตฝ่ากลุ่มควันเข้าไปในครัวเพื่อปิดเตา เมื่อมองไปที่อดีตไข่ดิบตั้งใจจะแปรรูปเป็นไข่ดาวแต่ดันกลายเป็นไข่เดี้ยงใน กระทะก็ต้องถอนหายใจ
“ไม่สำเร็จอีกแล้วเหรอ?” เสียงคุณพ่อดังจากห้องทานอาหารเรียกให้เสมอภาครีบยกจานผักสดหลากชนิดพร้อม กับน้ำสลัดสำเร็จรูปออกไปวางบนโต๊ะ แบ่งจานสลัดใส่จานสองใบ แถมเบคอนกรอบอีกนิดหน่อย ราดตามด้วยน้ำสลัด แล้วก็นั่งกินพลาง ฟังคำพร่ำพิราบของคุณพ่อยังหนุ่มไปพลาง
“พ่อ...ฮึก...พ่อขอโทษนะภาค เป็นเพราะพ่อไม่ดีเอง เพราะพ่อซื่อบื้อเกินไป แม่ถึงได้ทิ้งพวกเราไปอย่างนี้ พ่อ..ฮ...โฮ~”
...ทุกๆอย่างล้วนต้องใช้ความพยายาม...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แล้วเย็นวันหนึ่ง...
“บ้านนี้สินะ” หลังจากกดกริ่งเสร็จ เป็นหนึ่งก็ยิ้มหน้าระรื่นรออยู่ตรงประตูรั้วบ้านแห่งหนึ่ง มองเข้าไปก็ต้องยิ้มอย่างชื่นใจกับสภาพต้นไม้หลากชนิดถูกตัดแต่งอย่างสวยงาม วางเรียงเป็นระเบียบเย็นตาสบายใจ ...ในที่สุดเขาก็รู้จนได้ว่าบ้านของเสมอภาคอยู่ที่ไหน...ไม่นึกมาก่อนเลย ว่าจะห่างกันแค่ปากซอยท้ายซอยเท่านั้นเอง
ประตูบ้านถูกเปิดออกดังปัง พร้อมกับเด็กหนุ่มร่างบางในชุดผ้ากันเปื้อน พวงแก้มใสบัดนี้กลั้บเปื้อนเศษเกล็ดขนมปังที่เลอะเต็มมือข้างหนึ่ง น่ารักเสียจนเป็นหนึ่งจำเป็นต้องแอบหยิกมือตัวเองไม่ให้ถือวิสาสะขอปาดขอชิม ไปเสียก่อน “ม...มาทวงต้นฉบับเหรอครับ พ่อ...เอ้อ...พ่อบอกว่าถ้ามีคนมาทวงต้นฉบับให้บอกไปว่า...” เสมอภาคพูดอย่างที่เคย เพราะแขกที่มาหาเวลาเย็นอย่างนี้ ส่วนมากมักจะเป็นพนักงานของสำนักพิมพ์
“เดี๋ยวสิ นี่เราไง!” เป็นหนึ่งเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองยังไม่ได้ใส่แว่น เสมอภาคคงยังจำไม่ได้ จึงควักแว่นตาแสนเท่ห์ขึ้นมาสวม
แต่ปฏิกิริยาตอบกลับของเสมอภาคคือ...เอียงคอ...
“ก็เราไง ภาค หนึ่งน่ะหนึ่ง วันก่อนยังนั่งเรียนด้วยกันอยู่เลย” กำลังจะพูดต่อ จมูกโด่งๆก็ดันฟุดฟิดเจอกลิ่นอะไรแปลกๆ เมื่อชะโงกหน้าเข้าไปในบ้าน ก็ต้องตกใจกับควันโขมงโฉงเฉง หน้าตาเหรอหราของเป็นหนึ่งทำให้เสมอภาคเริ่มเอะใจ เมื่อหันกลับไปดูในตัวบ้านก็ต้องอุทานอย่างนึกขึ้นได้... “ทำอาหารอยู่นี่นา!”
แต่ปฏิกิริยาของเสมอภาคช้า เกินจะบรรยาย รู้ตัวอีกทีร่างสูงที่ยืนอยู่หน้ารั้วบ้านก็กระโดดข้ามรั้วกระโจนแผ่นผลุง เข้าตัวบ้านจัดการกับเตาที่เกือบจะลุกเป็นไฟเรียบร้อยแล้ว
“ข...ขอบคุณ” เสมอภาคว่าพลางจัดการเปิดหน้าต่างห้องครัวเพื่อระบายควันดำออกไป แล้วก็ต้องอุทานออกมาอีกคำเมื่อมีมือใหญ่เอื้อมมาจับเอวจากด้านหลัง พลิกตัวให้กลับไปเผชิญหน้ากับร่างสูง
“จำเราไม่ได้จริงๆเหรอ” เป็นหนึ่งพยายามยื่นหน้าเข้าไปให้ใกล้ที่สุด เผื่อร่างบางจะสายตาสั้นจนมองไม่เห็น...ใกล้เสียจนจมูกแทบจะชนกัน...ใกล้ เสียจนเศษขนมปังเกือบจะชนริมฝีปาก
แต่ก่อนที่เด็กหนุ่มจะได้แอบเล็มเศษขนมปังบนแก้มใส เสมอภาคก็ชิงพูดออกมาก่อน “หรือว่า...จะเป็นคนจากสำนักพิมพ์คนใหม่ครับ?”
แขนขาร่างสูงแทบจะอ่อน แรง...จำเขาไม่ได้เนี่ยนะ!!! ชั่วชีวิตของเป็นหนึ่ง เด็กหนุ่มผู้เป็นที่หนึ่งตลอดกาล ราวกับถูกฉายด้วยแสงสปอตไลท์ เป็นจุดสนใจท่ามกลางโรงเรียนอนุบาลที่มีนักเรียนนับพัน เป็นศูนย์กลางความสว่างไสวในโรงเรียนประถม เหมือนมีเวทีเคลื่อนติดตัวทุกที่ที่เขาอยู่ในโรงเรียนมัธยม ราวกับชีวิตประจำวันถูกแอบถ่ายเพื่อทำสารคดีอยู่ก็ไม่ปาน...ที่กล่าวมาทั้ง หมดหมายความว่า ทุกคนต่างก็จับตามองเป็นหนึ่ง ว่าชีวิตของเขาจะดำเนินไปในรูปแบบไหน จะเติบโตเป็นชายผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร ใครๆก็ต่างให้ความสนใจในเรื่องของเขา
...แต่คนที่เขาสนใจ กลับจำเขาไม่ได้!!!...
เป็นหนึ่งคว้าต้นแขนบางทั้ง สองข้างไว้ พยายามมองจ้องเข้าไปในดวงตากลมใส...แต่สิ่งที่สะท้อนออกมาก็แค่เงาตัวเองที่ กำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่เท่านั้น...เสมอภาคจำเขาไม่ได้จริงๆ...
“เฮ้อ!” เด็กหนุ่มร่างสูงถอนหายใจ ปล่อยต้นแขนทั้งสองของเสมอภาคให้เป็นอิสระ “งั้นแนะนำตัวใหม่...เราชื่อเป็นหนึ่ง ไหน...พูดตามดิ๊ เป็น-หนึ่ง” เขาพูดเสียงดังช้าชัดเจน หวังว่าจะสามารถสลักลึกในความทรงจำของเสมอภาคได้
“เป็น-หนึ่ง” เสมอภาคที่ยังเอ๋อเหรออยู่นิ่งไปสักพัก ก่อนจะพูดตามเพราะทนสายตาสีหน้าคาดคั้นเป็นยักษ์เป็นมารของเป็นหนึ่งไม่ได้
“โอเค รู้จักกันแล้ว ทีนี้ก็เป็นเพื่อนกันแล้วนะ” เป็นหนึ่งจัดการรวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัว...ที่จริงอยากจะบอกให้เป็นแฟนไป เลยเหมือนกัน แต่รอก่อนดีกว่า
เสมอภาคพยักหน้างงๆ “เพื่อน?”
มือใหญ่ขยี้หัวทุยจนเสมอภาค ต้องหลับตาปี๋ “ใช่...เพื่อน เอาล่ะ ทีนี้...” เป็นหนึ่งมองกวาดสภาพห้องครัวที่บัดนี้ควันดำหายไปหมดแล้วพลางยิ้มกริ่ม “...ทำกับข้าวต่อได้แล้ว”
ร่างสูงจัดการหั่นแตงกวาด้วย สปีดความเร็วสูง เมื่อหันกลับมาเจอเสมอภาคยืนถือมีดทำครัวนิ่งเอ๋อจึงค่อยยืนซ้อนหลังร่างบาง จับมือเล็กหั่นผักไปตามทิศทางที่ต้องการ “ต้องหั่นแบบนี้ ถึงจะบางกำลังพอดี ได้ความเร็วพอเหมาะ” แล้วก็แอบสูดกลิ่นหอมแชมพูโดยที่เสมอภาคผู้กำลังคร่ำเคร่งกับการหั่นผักไม่ ได้รู้ตัวเลย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“โอ้โห!!!” คุณพ่อของเสมอภาคอ้าปากหวอกับอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะทานอาหาร มันเปล่งประกายราวกับกุ๊กโรงแรมมือหนึ่งมาลงมือทำให้ถึงที่บ้าน
“ภ...ภาคทำเองหมดเลยเหรอ” ถามพลางมองลูกชายตัวเองอย่างคลางแคลงใจ
“เปล่า...เพื่อนมาช่วยทำ” เสมอภาคชำเลืองมองร่างสูงที่ยืนยิ้มภูมิใจอยู่ข้างๆ อยากแนะนำให้พ่อได้รู้จักเหมือนกัน แต่ว่า... “ชื่อ...” แล้วก็ลากยาวจนเสียงค่อยๆเบาลง
เป็นหนึ่งรอแสนรอ ชื่อก็ยังไม่ถูกแนะนำออกมาเสียที สุดท้ายก็ทนไม่ไหวต้องเป็นฝ่ายแนะนำตัวเอง “ชื่อเป็นหนึ่งครับ ชื่อผมคงจะจำยากหน่อย ภาคเลยจำไม่ได้ซะที”
คุณพ่อมองสีหน้าลำบากใจของ เด็กทั้งสองคน น้ำตาก็ค่อยๆเล็ดออกจากหางตา “พ...พ่อขอโทษนะ ภาคเป็นเด็กหัวช้าอย่างนี้ล่ะ พ่อขอโทษที่ลูกพ่อจำชื่อไม่ได้ เป็นเพราะพ่อไม่ดูแลภาคเอง พ่อ...” ก่อนที่จะรำพันต่อไปอีกยาว เสมอภาคก็ชิงตัดบท
“พ่อ กินข้าวก่อนนะ นิยายตอนต่อไปยังแต่งไม่เสร็จไม่ใช่เหรอ เดทไลน์พรุ่งนี้นะ”
“น...นั่นสินะ พ่อขอโทษนะ ที่แต่งนิยายช้าเกินไป เพราะพ่อพิมพ์ดีดช้าเกินไป พ่อ...”
เปลี่ยนอีกเรื่องก็รำพันอีกเรื่อง เสมอภาคถอนหายใจ ไม่สนใจกับเสียงบ่นหงุงหงิงของผู้เป็นพ่อ เริ่มลงมือตักข้าวเสิร์ฟแทน
“อร่อย” คุณพ่อชิมไปซับน้ำตาไป
“ไม่เท่าไหร่หรอกครับ” เป็นหนึ่งถือคติ...กับผู้ใหญ่ต้องถ่อมตัวไว้ก่อน จะดูน่ารักน่าชัง
“ภาคน่ะ...ทำอาหารทีไร บ้านเกือบจะไฟใหม้ทุกที สุดท้ายก็ได้กินแต่อาหารสำเร็จรูป ไอ้พ่อจะลงมือทำเอง พ่อก็ทำไม่เป็นเหมือนกัน พ่อขอโทษนะ เพราะพ่อไม่ดีเอง...”
แล้วโต๊ะอาหารแสนอร่อยก็เจือเคล้าไปด้วยเสียงขอโทษของคุณพ่อยังหนุ่ม
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ขอโทษนะ พ่อเราแต่งนิยายมากไปจนอ่อนไหวน่ะ” เสมอภาคพูดระหว่างที่บีบน้ำยาล้างจานลงบนฟองน้ำ
เป็นหนึ่งที่นั่งอยู่อีกฝั่ง ของห้องครัวแอบมองร่างบางที่ล้างจานด้วยสมาธิสูงสุด “ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่...” ร่างสูงลุกจากที่นั่ง เดินเข้าประชิดร่างบาง ยื่นหน้าสบตากันอีกครั้ง “จำชื่อเราได้ยัง?”
เสมอภาควางจานลงในอ่างล้าง นิ้วชี้ยกขึ้นเกาแก้มตัวเองตามความเคยชิน โดยที่ลืมไปว่า ฟองน้ำยาล้างจานยังติดอยู่ที่ปลายนิ้ว เด็กหนุ่มใช้เวลาคิดไม่นานก็ยิ้มออกมา “เป็นหนึ่ง”
เป็นหนึ่งยิ้มตอบอย่างยินดี “ถูกต้อง”
เสมอภาคหันกลับไปล้างจานต่อ “เราน่ะหัวช้า เพื่อนเลยเบื่อที่จะคุยด้วย กว่าจะจำชื่อใครได้ก็ใช้เวลาตั้งนาน ขอโทษทีนะ ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากจำได้หรอกนะ เราน่ะกว่าจะได้เป็นเพื่อนกับใคร ต้องพยายามสุดๆเลยน่ะ เลยไม่ค่อยมีใครอยากเป็นเพื่อนด้วย”
แล้วก็ต้องหันหน้าขึ้นสบตา ร่างสูงอีกครั้งเมื่อมือใหญ่ตระกองแก้มทั้งสองข้างไว้ เป็นหนึ่งใช้นิ้วโป้งปาดฟองน้ำยาล้างจานที่เปื้อนแก้มออกให้ ก่อนจะพูดกระซิบเบาๆ “แต่ตอนนี้เราอยากเป็นเพื่อนกับนายนะ...แล้วเรื่องจำไม่ได้...เราจะช่วยให้ จำได้ละกัน...”
ว่าพลางโน้มตัวลง แนบริมฝีปากสัมผัสกับปากแดงอิ่มด้านล่าง ดูดซับความหอมหวานชั่วครู่ก่อนจะผละออก
“ทีนี้จำเราได้รึยัง”
เสมอภาคมองอย่างงงงวย ไม่เข้าใจว่าการกระทำเมื่อครู่จะทำให้จำได้ได้ยังไง แต่ยังไงตอนนี้เขาก็จำเป็นหนึ่งได้ “จำได้”
“แล้วพรุ่งนี้จะจำได้มั้ย?” เป็นหนึ่งถามเผื่ออนาคตตามประสาคนมองการณ์ไกล
“เอ้อ...” เสมอภาคหลบตา “เรา...เราไม่แน่ใจ”
เป็นหนึ่งยิ้มกริ่ม “ไม่เป็นไร...งั้นเรา” ว่าพลางแอบเล็มแก้มใสอีกครั้งหนึ่ง “เราจะพยายามทำให้จำได้ทุกวันละกัน”
...
...
...แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เสมอภาคได้เพื่อนใหม่อย่างง่ายดาย...
...และเป็นครั้งแรกที่เป็นหนึ่งรู้จักกับคำว่า...พยายาม...
+++++++++++++++++++++++++++++++++
TBC