มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อของเขาคือ ‘เสมอภาค’
เสมอภาคมีความหวัง...
แต่ไม่เคยกล้าลงมือทำให้ความหวังเป็นจริง
...เสมอภาคจึงไม่รู้จัก ‘ความตื่นเต้นของการรอคอย’... ...
...
“ส่งแบบไหนคะ?” เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ถามคำถามด้วยความเร็วแสง เรียกเครื่องหมายคำถามให้ปรากฏบนใบหน้าใสๆของเสมอภาค
“...อ...อะไรนะฮะ?”
“ส่งแบบไหนคะ? ธรรมดา ลงทะเบียน สิ่งตีพิมพ์ หรือว่าอีเอ็มเอส?” เจ้าหล่อนร่ายยาวโดยหารู้ไม่ว่าในหัวของเสมอภาคเกิดคำถามขึ้นว่า...
...ส...ส่งแบบไหนล่ะ? มันต่างกันยังไง? แล้วทำไมต้องมีให้เลือกหลายแบบด้วย?...
“เอ่อ...”
ด้วยคิดนานจนพนักงานเกรงว่าคนที่เข้าแถวด้านหลังจะก่อวอร์ดขู่วางระเบิดรัฐสภาเสียก่อน เธอจึงใจดีหาทางออกให้ “เอกสารของน้องสำคัญรึเปล่าล่ะจ๊ะ?”
เสมอภาคพยักหน้าหงึกๆ
“ต้องการส่งเร็วรึเปล่าจ๊ะ?”
เสมอภาคพยักหน้าอีกหงึก
“งั้นอีเอ็มเอสละกันนะ” เจ้าหล่อนจัดการเลือกให้เรียบร้อยเร็วทันใจ พลางเอ่ยค่าบริการ ส่งใบเสร็จให้เป็นที่เรียบร้อย
เด็กหนุ่มรับใบเสร็จพลางเดินออกจากที่ทำการไปรษณีย์ อากาศหนาวยามเช้าทำให้ต้องกระชับเสื้อแขนยาวข้างนอกเข้ากับตัว ดวงตาสีนิลก้มลงมองกระดาษใบน้อยที่อยู่ในมือ
...ในที่สุดก็ส่งงานทันวันประกวด...
...แก๊งง!...
เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาทำให้เด็กหนุ่มหลุดออกจากภวังค์ นึกขึ้นได้ว่านัดกับเป็นหนึ่งไว้ที่สวนสาธารณะ จึงออกวิ่งไปโดยลืมกังวลกับผลที่จะประกาศในอีกไม่กี่วันนี้เสียสนิทใจ
...เสมอภาคยังไม่รู้จัก ‘ความตื่นเต้นของการรอคอย’...
++++++++++++++++++++++++++++
มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อของเขาคือ ‘เป็นหนึ่ง’
เป็นหนึ่งมีความหวัง
แต่เป็นหนึ่งหวังอะไร...ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้ความหวังนั้นเป็นจริง
...เป็นหนึ่งจึงไม่รู้จัก ‘ความตื่นเต้นของการรอคอย’... ...
...
“ส่งเรียบร้อยแล้วนะครับ” เสียงรายงานของพนักงานขับรถดังผ่านหูฟังโทรศัพท์ เป็นหนึ่งเพียงแค่ตอบรับสั้นๆก่อนจะวางสายไป
...ก็แค่เอาผลงานที่ยังไงๆก็รู้ว่าจะต้องได้ที่หนึ่งของงานประกวดอยู่แล้วไปส่ง มันไม่น่ารื่นรมย์เท่าเรื่องที่จะทำในวันนี้หรอก...
เด็กหนุ่มคิดอย่างครึ้มอกครึ้มใจ ดันแว่นตากันแดดให้รับกับดั้งจมูกด้วยท่าทางสุดเท่ห์ ชำเลืองมองนาฬิกาข้อมือเป็นรอบที่สิบทั้งๆที่กว่าจะถึงเวลานัด ก็อีกตั้งสิบกว่านาที
...รีบๆมาหน่อยสิ เสมอภาค...
คิดพลางล้วงแผ่นพับแผ่นใหญ่ออกกาง แสดงเป็นแผนที่สวนสนุกที่ถูกวาดแต่งเติมตัวการ์ตูนอย่างสวยงาม จัดการคว้าปากกาในกระเป๋า ขีดเน้นแผนการที่คิดไว้เสร์จสรรพตั้งแต่เมื่อคืนอีกครั้งหนึ่ง
ในสมอง...ไร้ความกังวลกับผลที่จะประกาศในอีกไม่กี่วันนี้โดยสิ้นเชิง
...เป็นหนึ่งไม่รู้จัก ‘ความตื่นเต้นของการรอคอย’...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
/ยินดีต้อนรับสู่เนเวอร์แลนด์ สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เครื่องเล่นมากมายจากทั่วทุกมุมโลกกำลังรอท้าทายผู้กล้าทุกท่าน ถ้าคิดว่าเจ๋งจริง กล้าจริง อย่ารอช้า รีบมายังเนเวอร์แลนด์ แล้วท่านจะรู้ว่าโลกนี้ยังมีเรื่องน่าตื่นเต้นรออยู่อีกมาก/ (ปล. ยืมสวนสนุกคุณคีหน่อยนะคะ ^__^;
เสียงประกาศจากลำโพงหน้าประตูสวนสนุกพร้อมเพลงท่วงทำนองร่าเริงทำให้เสมอภาคที่เพิ่งเดินลงจากรถอ้าปากหวอ สายตาจ้องมองตุ๊กตาหมีแบรี่แบรี่อย่างทึ่งๆกับท่าเต้นลึกลับพิศดาร ก่อนจะโดนเป็นหนึ่งลากแท่ดๆๆไปยังช่องขายตั๋ว
“เอ้า! หมวก” เป็นหนึ่งวางหมวกที่ได้แถมจากการซื้อบัตรวีไอพีปุลงบนหัวทุยๆของเสมอภาค ก่อนจะถอยหลังมาหนึ่งก้าวชื่นชมความน่ารักของเจ้าตัวเอ๋อ
จะว่ายังไงดี...วันนี้เสมอภาค...น่ารักสุดใจ
เสื้อกล้ามสีอ่อนกับเสื้อแขนยาวที่สวมทับ กางเกงผ้าขายาวหลวมโพรกแต่ก็ดูเข้ากับเจ้าตัวดี กับใบหน้าใสๆเอ๋อๆ ดวงตากลมโตกับผมสีดำที่แนบแก้มนุ่มเนื่องจากหมวกสีน้ำตาลลายลูกหมี
น่ารักอย่างนี้แฟนใครเนี่ย??
มือใหญ่ถือโอกาสจูงมือเล็ก เดินนำเข้าสวนสนุก โดยไม่ลืมหลีกทางให้เด็กผีป่าจำนวนโหลกว่าๆที่พุ่งเข้ารุมสกรัมแบรี่หมีน้อยอาภัพ
“ภาคเล่นเครื่องเล่นหนักๆได้รึเปล่า” เป็นหนึ่งถามด้วยความเป็นห่วง
หันกลับมาอีกที ก็รู้ได้โดยไม่ต้องรอคำตอบ เมื่อเจ้าตัวเล็กเดินเหม่อไปต่อคิวรถไฟเหาะตีลังกาเรียบร้อยแล้ว
...
...
“เฮ้อ!!” เป็นหนึ่งทิ้งตัวลงนอนบนผืนหญ้านุ่ม หลังจากตรากตรำกับเครื่องเล่นชวนกระชากหัวใจต่อกันจากเช้าถึงเที่ยง อึดๆอย่างร่างสูงก็ต้องขอยอมแพ้ แต่จะให้ทำยังไง เครื่องเล่นหวือหวาดันถูกใจเด็กหนุ่มหน้าใสอย่างเสมอภาคซะงั้น เจ้าตัวถึงได้ลากเขาต่อคิวแต่เครื่องประเภทนี้ เล่นซะแผนที่ขีดลากไว้พังครืนไม่เป็นท่า
“เหนื่อยมากเลยเหรอ” เสมอภาคที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆก้มลงมองด้วยความเป็นห่วง
ร่างสูงได้ที คลานกระดึ๊บ กระดึ๊บ วางหัวปุลงบนตักนุ่มนิ่ม “ขอพักอย่างนี้แป๊บนึงละกัน”
ช่วงเวลาที่ได้นอนหงายหนุนตัก แหงนมองท้องฟ้ากระจ่างกับแสงแดดอ่อนๆที่ลอดผ่านต้นไม้ใหญ่ลงมา มีแซนด์วิชสดยื่นให้เคี้ยวถึงปาก ช่างเป็นช่วงเวลาที่ผาสุขเหลือเกิน
...มีความสุข...
...ไม่อยากให้ความสุขนี้หายไป...
...ไม่อยากแยกจากเสมอภาค...
เป็นหนึ่งยกแขนแกร่งขึ้นพาดตาตนเอง ปกปิดความสับสนไว้ในใจ ยามนึกถึงค่ำคืนหนึ่งที่ผู้เป็นพ่อโทรศัพท์มาหา
‘...อย่าคิดว่าจะได้ที่หนึ่งตลอดไป ฉันเตรียมคู่แข่งที่...อาจจะเหนือกว่าไว้ให้แกแล้ว...’
“มีอะไรรึเปล่า?” เสมอภาคพอจะรับรู้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของร่างสูงได้
“...ภาค...” เสียงเรียกเบาๆได้ยินไม่ถนัดทำให้ร่างบางต้องโน้มใบหน้าลงต่ำ “เราน่ะนะ...ต่อให้เป็นใคร เราก็ไม่ยอมแพ้หรอก...ก็เราเป็นที่หนึ่งมาตลอดนี่นา!”
“...อืม...” เสมอภาคตอบรับเบาๆในลำคอ ไพล่ไปกังวลใจกับงานที่เพิ่งส่งเข้าประกวดเมื่อเช้านี้
...เขา...ถ้าเป็นไปได้...ก็ไม่อยากจะแพ้ใครเหมือนกัน...
“จำได้รึเปล่า เราเคยถามภาคว่า ถ้าให้เลือกระหว่างคนสำคัญกับความฝัน ภาคจะเลือกอะไร?” เป็นหนึ่งลุกขึ้นนั่งพลางจ้องดวงตาแน่วแน่ของตนเองสบกับดวงตาไหวระริกของเสมอภาค โดยไม่ทันตั้งตัวก็คว้าบ่าบางมากอดไว้แนบแน่นเสียแล้ว เป็นหนึ่งเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่น “สำหรับเราน่ะนะ... เราจะคว้ามาอยู่กับเราให้ได้ทั้งภาคทั้งความฝัน เราจะไม่ยอมเสียอย่างใดอย่างหนึ่งไปเป็นอันขาด...เพราะภาค...เป็นคนสำคัญที่เราอยากให้ร่วมฉลองกับเรา ในวันที่ความฝันเป็นจริง”
...เลือกสองอย่าง...งั้นเหรอ?...
...เป็นหนึ่งทำได้...เพราะเป็นหนึ่งสามารถทำได้...
อุ้งมือใหญ่บีบกระชับมือของเขาแน่น ออกแรงดึงร่างเล็กขึ้นยืนพลางปัดเศษใบไม้ที่เกาะกางเกงออกให้ ใบหน้าเปลี่ยนอารมณ์เป็นสนุกสนานอย่างรวดเร็วเสียจนเสมอภาคตามไม่ทัน “ไปเล่นเครื่องเล่นกันต่อเหอะ ช่วงบ่ายๆเล่นแบบเบาๆหน่อยดีกว่านะ?”
เสมอภาคออกแรงวิ่งตามแรงฉุดที่กระตุ้นให้ร่าเริง ยิ้มพยักหน้าตามคำชวน ทั้งๆที่ในใจยังคงมีคำถามอยู่
...แล้วเขาล่ะ? ถ้าต้องเลือกระหว่างคนสำคัญกับความฝัน...เขาจะเลือกอะไร?...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผ่านบ่ายแก่ๆมาสองสามชั่วโมง พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำ เหมาะสำหรับนั่งชมวิวสองต่อสองบนชิงช้าสวรรค์
เนื่องจากไม่ใช่วันหยุดยาว อีกทั้งคนที่มาเที่ยวส่วนใหญ่มักจะเป็นเด็กๆทั้งนั้น เวลาที่เริ่มมืดอย่างนี้จึงเหลือคนอยู่ไม่มากนัก เสมอภาคชายตามองคนที่นั่งกุมมือตนอยู่เคียงข้าง...เป็นหนึ่งหลับไปแล้ว...
ดูจากแผ่นพับแผนที่ที่โยงปากกายั้วเยี้ยพร้อมโน้ตสั้นๆประปราย คาดว่าคงจะนั่งคิดโปรแกรมมาทั้งคืน...ก็ไม่แปลกที่หลังจากผ่านการเล่นอย่างดุเดือดมาทั้งวัน พอขึ้นชิงช้าสวรรค์ปุ๊บก็เลยหลับปุ๋ยเหมือนปิดสวิตซ์ปั๊บอย่างนี้
ร่างบางละสายตาจากทิวทัศน์ยามพระอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า มามองใบหน้าของเป็นหนึ่งแทน แสงสีส้มสาดส่องเข้าใบหน้าหล่อเหลาทำให้คิ้วของเป็นหนึ่งขมวดน้อยๆ เสมอภาคอมยิ้มก่อนจะแอบแนบริมฝีปากชุ่มชื้นลงกับริมฝีปากของอีกฝ่าย เมื่อถอนออกมาก็ยังคงไม่ยอมห่างไปไหน ปล่อยให้เงาของตนเองบังแสงแดดให้เป็นหนึ่งอยู่อย่างนั้น
มือเล็กที่ถูกกุมอยู่พลิกกลับเป็นฝ่ายกุมมือใหญ่แทน คำพูดระหว่างเที่ยวเล่นบ่ายวันนี้ผ่านวาบเข้ามาในใจ
...เราส่งภาพวาดไปประกวดออกแบบเครื่องประดับ... เป็นหนึ่งพูดต่ออย่างมั่นใจ ราวกับต้องการจะย้ำกับตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ...เราจะไม่ยอมแพ้คนที่พ่อส่งประกวดด้วยหรอก...ไม่ยอมแพ้เด็ดขาด...
...เขา...ถ้าเป็นไปได้...ก็ไม่อยากจะแพ้ใครเหมือนกัน...
...ถ้าต้องเลือกระหว่างคนสำคัญกับความฝัน...เขาจะเลือกอะไร?...
เสมอภาคตอบไม่ได้
ลมเย็นๆพัดผ่านซี่ลูกกรงกระเช้าเข้ามา อาบไล้ร่างของเด็กหนุ่มทั้งสองราวกับจะปลอบประโลม ดวงตากลมโตเริ่มหรี่ปรือ ความเพลียจากงานประกวดที่เร่งทำให้เสร็จเมื่อคืนเริ่มทำพิษ
..
...เสมอภาคหลับไปแล้ว...
เป็นหนึ่งกระพริบตาเบาๆ อมยิ้มน้อยๆ ยกมือข้างที่ว่างขึ้นแตะริมฝีปากของตนเอง
...หอมหวานเหลือเกิน คนรักที่น่ารักของเขา...
กระเช้าชิงช้าสวรรค์วนครบรอบ แต่ร่างบางที่นอนหลับซบบ่าเขายังไม่มีทีท่าจะตื่น เป็นหนึ่งส่งสัญญาณมือขอต่อรอบกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งพนักงานใจดีก็ยินยอมให้ต่ออย่างง่ายดาย
อีกเพียงแค่สองอาทิตย์ ผลการตัดสินก็จะถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ
...เขากับภาคจะต้องได้อยู่ด้วยกัน เขาจะต้องชนะ...
...ฉันเตรียมคู่แข่งที่...อาจจะเหนือกว่าไว้ให้แกแล้ว...
...เขาจะต้องชนะ...ใช่มั้ย...
ในความกังวลเจือกับร่างกายที่อ่อนเพลียมาทั้งวัน ทำให้เปลือกตาบางหรี่ปรือลงอีกครั้ง ก่อนที่เด็กหนุ่มทั้งสอง จะผลอยหลับเคียงกันท่ามกลางแสงสุดท้ายของวัน
...
...
...นี่เป็นครั้งแรกที่เสมอภาคได้รู้จัก ‘ความตื่นเต้นของการรอคอย’...
...และก็เป็นครั้งแรกเช่นกัน ที่เป็นหนึ่งได้รู้จัก ‘ความตื่นเต้นของการรอคอย’... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
TBC
ปล. เรื่องนี้ happy ค่ะ
