Ti Voglio {ฉันอยากมีนาย!}
shot.18 50%
“บอกจุดอ่อนของเวสเปอร์แฟมมิลี่มาซะ”
…ประโยค…ที่บอกความต้องการทั้งหมดของฟงเจิ้นฮ่าว
“ร่วมมือกับผม ว่าง่ายๆ แล้วผมจะขอให้คนคนนั้นปราณีคุณ”
…อีกประโยค…ที่บอกให้รู้ว่าคนคนนั้นคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังและมีอำนาจมากที่สุดที่แท้จริง…
เขาใช้เวลาไปเท่าไหร่กันนะถึงได้ประโยคที่ต้องการเหล่านี้?
“คงรู้ว่าผมชอบใช้ความรุนแรงสินะครับ? ไม่ขัดข้องหรอกนะที่จะใช้มันกับคุณด้วย นั่นคือสิ่งที่ผมรอคอยเลยล่ะ”
คงจะเริ่มต้นที่ประโยคนี้สินะ?.
.
.
.
แส้ม้าทำจากหนังชั้นดีตวัดฟาดเข้าซ้ำที่แผ่นหลังขาวสล้างซึ่งประดับประดาไปด้วยรอยแผลเก่าใหม่ละลานตา สีแดงช้ำตัดกับสีขาวซีดเซียวดูเด่นสะดุดตาจนทำให้ฟงเจิ้นฮ่าวที่เป็นผู้ลงแส้แทบจะสำลักความสุขตายเอาเสียตรงนั้น
หนุ่มชาวจีนมองรัตติกรที่ขบฟันลงกับริมฝีปากล่างเพื่อข่มเสียงร้องครวญครางของตนเอง หารู้ไม่เลยว่าท่าทางของผู้ที่ไม่ยอมศิโรราบเช่นนี้คือสิ่งที่เขาโปรดปรานมากที่สุด!
“เค้น...ให้ตาย อึก! ก็อย่าหวัง....ว่าจะได้อะไรไปจากผม เพราะ...แค่ก! ...เพราะสุดท้าย แกหรือไม่ก็คนข้างหลังแก ก็จะฆ่าผมทิ้งอยู่ดี...ไม่ใช่รึไง!?”น้ำเสียงหอบพร่าทว่ายังน้ำคำยังหาเรื่องใส่ตัวไม่เปลี่ยน ฟงเจิ้นฮ่าวยิ้มเหี้ยมทั้งๆที่ขัดใจกับเจ้าคนตรงหน้าที่มันดื้อเหลือแสน แต่ก็นั่นแหละ
ยิ่งได้มายาก ยามที่กลายเป็น
ผู้ครอบครอง ความสุขมันก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น!
“ไม่แน่หรอกครับถ้าคุณจะทำตัวเป็นเด็กดีว่าง่ายกว่านี้หน่อย บอกตรงๆนะว่าฆ่าคุณทิ้งน่ะ ใครๆเขาก็รู้ว่ามันเสียของ ไม่รู้ค่าของตัวเองเลยหรือไงครับ?”ว่าไปพลาง ปลายด้ามแส้ม้าก็กดไล้ไปตามรอยแผล หยดเลือดสีเข้มไหลตามแท่งไม้ลงมาสัมผัสกับมือของผู้ถือ ก่อให้เกิดกลิ่นคาวจางๆที่เร่งให้รอยยิ้มสมใจของชายผู้ทรยศให้กว้างขึ้นจนรัตติกรเผลอสะท้านเฮือก
นับเวลาตั้งแต่ที่ฟงเจิ้นฮ่าวลักพาตัวรัตติกรมา ตอนนี้ก็ล่วงเข้าวันใหม่เข้าไปแล้ว การทรมานเพื่อเค้นหาความลับที่คนคนนั้นต้องการเริ่มต้นขึ้นในชั่วโมงที่สามหลังจากการเจรจาไถ่ถามแต่โดยดีไม่เป็นผล เลขาของเวสเปอร์แฟมมิลี่คนนี้หัวดื้อและปากแข็งเกินกว่าเหยื่อคนไหนๆที่เขาเคยเจอ หลังจากที่เจิ้นฮ่าวเปลี่ยนไปใช้วิธีรุนแรงในการสอบถาม เสียงที่หลุดพ้นออกมาจากลำคอระหงอันงดงามก็มีแค่เพียงเสียงครางเบาๆเท่านั้น ไร้ซึ่งคำตอบหรือคำต่อว่า สิ่งที่รับกลับมามีเพียงดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่ยังคงฉายประกายวาววับของผู้เหนือกว่าอยู่เช่นเคย
แต่ตอนนี้ดวงตาคู่นั้นกำลังอ่อนแสงลง ความหวาดกลัวที่เจ้าตัวเพียรจะข่มไว้กลับดึงดันที่จะเข้าควบคุบสำนึกทั้งหมดที่มี มันส่งผลให้ร่างกายของเขาสั่นระริก แย่งชิงเสียงจริงๆของเขาไปจนมันสั่นพร่า พิษบาดแผลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอดเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมงริดรอนกำลังกายและทลายความอดทนของหนุ่มชาวไทยลงไปช้าๆ
“อย่าดื้อไปมากกว่านี้จะดีกว่านะครับ บอกผมมาดีกว่าว่าจุดอ่อนของเวสเปอร์คืออะไร เล่นกับคุณแบบนี้ผมก็สนุกดีอยู่หรอกนะ แต่ถ้าปล่อยให่มันผ่านไปนานกว่านี้อีกล่ะก็ คนคนนั้นเค้าจะเปลี่ยนใจเอาได้น่ะสิ อย่าให้ผมหมดความอดทนจนเผลอเล่นสนุกแล้วฆ่าคุณตายดีกว่านะครับ ผมออกจะเสียดายมากๆเลยนะ”
เสียงพูดของฟงเจิ้นฮ่าวที่ผ่านเข้ามาในหูรัตติกรเบาแสนเบาจนเขาแทบจับใจความสำคัญไม่ได้ แต่ยังไงก็คงไม่พ้นเรื่องเดิมๆที่เจ้าตัวขอให้เขาบอกออกมาสักทีนั่นแหละ หนุ่มชาวไทยเงยหน้าขึ้นช้าๆ รอยบาดจากคมมีดที่เจิ้นฮ่าวเลือกมาเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ทรมานประปรายอยู่ตามใบหน้าของเขา มันเป็นเพียงรอยเล็กๆที่กรีดไม่ลึก แค่เจ็บแสบแบบคันๆและเรียกเลือดของเขาออกไปนิดหน่อยเท่านั้น เมื่อใช้ไปแล้วไม่ได้ผล เจิ้นฮ่าวที่รู้สึกเสียดายใบหน้าของรัตติกรจึงเปลี่ยนไปหาของเล่นชิ้นอื่นแทน
ต่อจากมีด เหมือนจะเป็นสนับมือ...รึเปล่านะ? “หาไปให้เขาไม่ทัน ของที่หวังไว้จะหายไปสินะ? หึ…หึหึ”แรงจะพูดแทบจะสลายหายไปหมด เสียงของรัตติกรที่ตอบกลับไปจึงทั้งแผ่วเบาและแหบพร่า แต่แค่นั้นก็เพียงพอให้ผู้ถือแส้ที่พยายามใจเย็นอยู่ยกมือขึ้นอีกครั้ง แส้ม้าชั้นดีโบกฟาดเข้าที่แผ่นหลังขาวเนียนเต็มแรง เลือดสีสดสาดกระเซ็นลงมาประดับพื้นคล้ายกับกลีบดอกไม้สีสดที่ปลิดร่วงลงมาจากต้นทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาร่วงโรย
ดูเหมือนความอนทนของรัตติกรจะมาสิ้นสุดที่ตรงนั้น ความเจ็บปวดกระชากสติที่เหลืออยู่ทั้งหมดของหนุ่มชาวไทยลงสู่ความมืดมิด ทิ้งให้ร่างกายซึ่งรับบาดแผลสาหัสมายาวนานทิ่งตัวลงสงบนิ่งดั่งหุ่นชักที่ถูกตัดป่านจนขาดสะบั้น
ฟงเจิ้นฮ่าวหอบแฮ่ก มองดูคนตรงหน้าที่สลบไปในที่สุด เสื้อเชิ้ตสีขาวที่อีกฝ่ายใส่มากลายเป็นผ้าขี้ริ้วเปื้อดเลือดกองอยู่ตรงพื้นใต้ร่างของผู้เป็นเจ้าของ เผยผิวขาวซีดอย่างคนที่ไม่ออกแดด ซึ่งตอนนี้เจิ้นฮ่าวช่วยตกแต่งมันด้วยรอยแผลต่างๆนานาจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม ทั้งเนื้อทั้งตัวของหนุ่มชาวไทยเหลือเพียงกางเกงขายาวสีดำปกปิดร่างเอาไว้เท่านั้น
สวยงาม…เหนือกว่าที่คาดคิดไว้โขเลยทีเดียว เสียงประตูเหล็กลั่นครืดคราดดังมาจากประตูห้องขังเหนือบันไดหินเก่าแก่ คนสนิทของฟงเจิ้นฮ่าวก้าวเข้ามาเพื่อเตือนนายของตนว่าถึงเวลาต้องออกไปรับประทานอาหารเย็นได้แล้ว หนุ่มชาวจีนที่สนุกกับการทรมานนักโทษของตนเองจึงถอนหายใจอย่างเสียไม่ได้ โชคดีไปที่ตอนนี้รัตติกรหมดสติอยู่ เพราะการเล่นกับเหยื่อที่ไม่มีการตอบสนองใดๆนั้นน่าเบื่อสิ้นดี
อีกอย่างถ้าโชคดี คนคนนั้นอาจจะยอมออกจากห้องมาร่วมรับประทานอาหารกับเขาก็ได้…
“เอาน้ำเกลือเย็นๆไปสาดจนกว่ามันจะตื่นขึ้นมาร้องครวญครางให้พวกแกฟัง ฉันต้องเห็นมันอยู่ในสภาพที่แย่ที่สุดตอนที่ฉันกลับมาอีกครั้ง ไม่งั้นคนที่ต้องทรมานกว่ามันก็คือพวกแกเอง!”
ว่าจบฟงเจิ้นฮ่าวจึงวางมือ เขาส่งแส้ให้ลูกน้องอีกคนที่รออยู่ในห้องให้เอาไปทำความสะอาด ทอดตามองร่างขาวสล้างที่มีสภาพไม่ต่างไปจากนกปีกหักเป็นการส่งท้ายแล้วก็ได้แต่ยิ้มกริ่มอยู่ในใจ สุดท้ายแล้วเขาก็ก้าวออกจากห้องไปโดยมีคนสนิทเป็นผู้ปิดประตูตามหลัง
โดยไม่ทันได้สังเกตเหยื่อคนนี้ดีๆอีกครั้ง ว่าดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่ค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆนั้นกำลังฉายประกายบางอย่างที่น่าหวาดหวั่น…
เสียงกรีดร้องของอดีตเริ่มดังแว่วขึ้นมาในหัวของรัตติกรอีกครั้ง!______________________________________
ยังไม่จบนะครับ แต่คอมผมค้างสุดๆอ่ะ เดี๋ยวทยอยๆลงนะครับ ขอพิมพ์ส่วนที่เหลืออีกนิดนึง

ขอโทษน้าาา
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาลงต่อนะครับ ตอนนี้ขอไปนอนก่อน ตีสามอาเมน~
(ตั้งแต่เปิดเรียนมหาลัย ไม่เคยได้นอนเร็วกว่าตีสองเลยง่ะ
หมีแพนด้าก็หมีแพนด้าเถอะครับ มาเจอโยแพนด้าตอนนี้ก็สู้ไม่ได้อ่ะ ว่าแล้วก็ลาไปนอน เจอกันคร้าบ)
ืNamioto Yo