ขออนุญาติมาต่อแทนพี่ aumzaa นะคับ (คงไม่ว่ากันนะคับ)
เห็นว่าทุกคนค้างกันนะเลยจะมาต่อให้
ไม่ต้องเสียเวลาแล้วมาต่อกันเลยนะคับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“เก่งตื่นได้แล้ว ตื่นสิถึงแล้ว “ เสียงกระซิบดังอยู่ใกล้ทำให้เก่งลืมตามองรอบๆอย่างงงๆ ที่นี่ที่ไหน! โอย กำลังหลับสบายเลย
เดี่ยวมองสภาพ เก่งที่เพิ่งตื่นขึ้นมาอย่างขำๆ ทำอย่างกะเด็กหลงทางแน่ะ เหงือที่ซึมจากหน้าของไอ้เด็กตัวน้อยของเขา ยังเปียกอยู่ที่หัวไหล่กลิ่นหอมอ่อนของแป้งเด็กที่เก่งใช้ติดอยู่จางๆ มันทำให้เขาไม่รู้สึกเมื่อยที่โดนพิงไหล่ กลับกันเขารู้สึกเหมือนหัวใจมันย้ายจากหน้าอกมาที่หัวไหล่ หึๆ เรานี่บ้าไปใหญ่แล้ว !
เด็กน้อยของเดี่ยวยังคงงงๆจนเดี่ยวต้องจูงมือลงจากรถไฟ หน้าตาดูสลึมสลือบอกบุญไม่รับเหมือนเด็กอดนอนมากๆทำให้ เดี่ยวมองหน้าอีกฝ่ายขำๆ เฮ้อ!ไอ้เก่งนี่มัน เกิน 5 ขวบรึยังเนี้ย!
แล้วเด็กตัวน้อยๆของเดี่ยวก็ทำให้เขาแปลกใจอีกครั้ง ตลอดเวลาที่นั่งรถต่อมายังรีสอสร์เก่งเอาแต่หลับตลอดทาง แต่เมื่อก้าวลงจากรถเข้าสู่รีสอทร์ของลุงไอ้พัฒน์ เก่งก็แปลงกายเป็นเด็กบ้าพลังเปลี่ยนเป็นคนละคนทันตาเห็น จนเดี่ยวตามอารมณ์ไม่ทัน
รีสอทร์ของลุงกับป้าของพัฒน์ อยู่ไกลจากหัวหินมาประมาณ 10 กิโลจึงทำให้ดูเงียบสงบเหมาะสำหรับการพักผ่อนตากอากาศ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนขาประจำซะเป็นส่วนใหญ่ และมักเป็นแขกชาวต่างประเทศ เพราะ ต่างติดใจบรรยากาศที่ดี และ ความเป็นมิตรตัวเจ้าของ
ตัวรีสอท เป็นอาคารทรงปั้นหยาแบบโบราณที่ยังดูไม่เก่า แยกออกเป็นหลังๆ เล็กใหญ่เรียงราย ต้นไม่ใหญ่ร่มครึ้มเย็นสบาย ด้านหน้าเป็นศาลารับลมขนาดใหญ่ ล้อมรอบไปด้วยต้นลีลาวดีต้นใหญ่ๆ ที่โปรยดอกร่วงลงพื้นหญ้าเขียว ชายหาดขาวสะอาด สลับกับโขดหิน เลยออกไปไกลทางซ้ายมือ เป็นหน้าผาเล็กๆมีเส้นทางเดินป่า ที่ทางรีสอทร์จัดไว้ให้นักท่องเที่ยว
อาหารทะเลมื้อใหญ่ที่เป็นอภินันทนาการจากลุงกับป้าของไอ้พัฒน์ ถูกวางเรียงรายเต็มโต๊ะอาหารตัวยาว เดี่ยวรู้สึกว่ามันมากมายเกินกว่าคน 7 คนจะกินหมด แต่เมื่อทุกคนเริ่มลงมือกิน มันทำให้เดี่ยวรู้ว่าเค้าคิดผิด เพราะอีก 6 คนที่ร่วมวงกินข้าวกันอยู่นั่น กลายร่างจากเด็กมัธยมเป็นปอบ ! ทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะถูกกวาดเรียบโดยใช้เวลาไม่นาน เออนะ ไอ้พวกนี้นี่มันเหมือนกันนี่เองถึงคบกันได้ เดี่ยวยิ้มขำเมื่อเห็นหัวหน้าปอบที่นั่งข้างเขาลูบท้องไล่ความอึดอัด แต่ก็ลุกขึ้นมากินต่อได้เมื่อเจอของหวาน โห ไอ้เก่งนี่มันกินมากขนาดนี้ทำไมไม่โตนะ !. เฮ้อ !ใครได้ไปเป็นแฟนกระเป๋าฉีกแน่ๆ เดี่ยวคิดแล้วหันมองคนข้างๆที่นั่งกินของหวานอย่างมีความสุข เอ แต่ก็นะ! กระเป๋าฉีกก็ยอมวะเรา!
“ เฮ้ยๆลุกๆ ไปเล่นน้ำทะเลกันเหอะ “ เก่งตะโกนบอกเพื่อนๆกำลังเอนหลังเคลิ้มๆบนเสื่อที่ปูใต้ต้นลีลาวดี หลังจากฟาดข้าวเที่ยงมื้อใหญ่
“ ไม่อาอ่ะ ง่วง! จานอน ไปเล่นคนเดียวไป๊“ เสียงไอ้แก้วที่ขยับตัวหนีการรังควานของเก่ง ร้องไล่ให้ไปไกลๆ
“ กูก็ไม่ไป ร้อน! กลัวดำ “ ไอ้พัฒน์บอกออกมาก่อนเมื่อเห็นเก่งหันมองหลังจากผิดหวังจากไอ้แก้ว
“ ไอ้พวกบ้า ไปคนเดียวก็ได้วะ “ เก่งงอนเมื่อไม่มีใครสนใจไปด้วย จะมีก็แต่อีกคนที่ยังไม่หลับทำท่าสนใจจะไปด้วย แต่รอให้เขาชวน เอ มันก็น่าชวนนะ แต่ไม่ชวนดีกว่าเมื่อกลางวันอยากแกล้งตูทำไม !
เก่งมองไปที่ชายหาดที่มี่หมาตัวโตกำลังคุ้ยทรายเล่นอย่างเมามัน อะ เค้าได้เพื่อนเล่นแล้ว เก่งถอดเสื้อออกแล้ววิ่งถลาลงไปเล่นกับเจ้าหมาที่กระดิกหางรอเหมือนรู้กัน
เดี่ยวนั่งมองภาพที่เห็นอย่างขำๆ แยกไม่ออกเลยว่าไหนคนไหนหมา เพราะทั้งหมาทั้งคนวิ่งเล่นกลิ้งเกลือกทราย โดดลงน้ำ จนมอมไปด้วยกันทั้งคู่ ผมรองทรงที่เริ่มยาวของเก่ง เปียก สะบัดไปตามแรงวิ่ง ทั้งที่มีทรายเกาะติดอยู่ เนื้อตัวมีทรายเกาะติดไปตามผิวขาว ๆ มันทำให้เดี่ยวไม่มีสมาธิจะอ่านหนังสือ ต้องวางหนังสือลงมองความสดใสที่ดูเย้ายวนนั่นอย่างเพลินตา
เสียงหัวเราะร่าเริงที่ ผสมกับเสียงเห่า ดังห่างออกไป เมื่อเก่งเริ่มเดินห่างจากด้านหน้าของรีสอทร์ไปสำรวจยังหน้าผาเล็กที่ห่างออกไปลิบๆ โดยมีเพื่อนที่เพิ่งสนิทกันวันนี้ เดินคลอเคลียขาตามไปชวนเล่นต่อ เดี่ยวยิ้มมุมปากเมื่อคิดอะไรได้แว๊บนึงแล้วถอดเสื้อวิ่งตามออกไป
ใกล้กับหน้าผาที่รกครึ้มด้วยต้นไม้เหนือพื้นทรายที่สะอาดราบเรียบ มีปราสาททรายเล็กที่เก่งเพิ่งสร้างขึ้นใหม่ๆ ข้างกันมีเพื่อนใหม่ที่นอนกัดกิ่งไม้อยู่ เก่งรู้สึกสนุกกับการที่ได้เที่ยวทะเล นี่มันนานมากแล้วมั้งที่ไม่ได้มา แดดอุ่นๆทำให้ เก่งล้มตัวลงนอนเหยียดยาวริมชายหาดปล่อยให้คลื่นซัดสาดเข้าหาตัว หลับตาลงอย่างผ่อนคลาย โดยไม่รู้ว่ามีสายตามองใครบางคนที่หยุดมองอย่างตะลึง
เดี่ยวจ้องภาพข้างแล้วรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว เด็กตัวน้อยที่ตอนนี้ไม่ได้เป็นเด็กอย่างที่คิด ตัวขาวๆที่นอนอยู่กลางคลื่นที่ซัดเข้ามา ดูมันช่างเร้าใจ เขาชะมัด!
“ เก่ง “ เสียงดังมาจากข้างหลังไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป้นใคร
“ทำไมเดินมาไกลจัง มันอันตรายนะ“ เดี่ยวบ่นพร้อมนั่งลงข้างๆแต่อีกฝ่ายที่ลุกขึ้นมานั่งอย่างรำคาญใจ
“เรามาดูหน้าผา แล้วนายตามทำไม ”เก่งย้อนถาม
“ อ้าวแล้วกันคนอุตสาห์เป็นห่วง “ เฮอะ ! ไอ้อันตรายที่ว่าน่ะนายมากกว่า เก่งคิดระแวง เมื่อเห็นรอยยิ้มมุมปากเกิดขึ้นวูบนึง
“ นี่ เก่งเราขอคุยเรื่องคืนนั้นหน่อยดิ “ อ้าวไอ้นี่อีกแล้ว ยังคิดไม่ทันขาดตอนเลย เก่งลุกขึ้นมาดื้อๆ
“ เรากลับแล้วนะ “ เก่งจะเดินหนีแต่มือที่ไวกว่าดึงไว้
“เดี๋ยวดิ คุยกันก่อน “ เก่งรู้สึกสยองเมื่อเดี่ยวยิ้มแววตาแปลก ๆ
“ ไม่เอาจะกลับแล้ว เฮ้ย !“ เดี่ยวไม่พูดพร่ำทำเพลงคว้าเก่งลากเข้าตรงซอกหินที่หน้าผา เก่งใจเต้นตูมสุดขีดเมื่อโดนกดให้นอนลงบนพื้นทรายแล้วโดนอีกฝ่ายทับไว้จนขยับตัวไม่ได้
“ นายจะทำอะไรน่ะ เฮ้ยปล่อย “ เก่งร้องลั่นเมื่อเดี่ยวก้มหน้าลงซุกที่ข้างแก้มแล้วเลื้อยลงมาที่ซอกคอ ช่วงล่างของเดี่ยวกดทับลงอย่างหนักหน่วงจนบางสิ่งที่แข็งๆร้อนจัด บดเบียดเข้ากับสิ่งหนึ่งของเก่งที่เริ่มร้อน
“ เดี่ยว อย่า อา “เสียงร้องห้ามเมื่อ เดี่ยวจดปากลงที่หน้าอก วนเวียนจูบไล้จนเก่งสะท้านไปทั้งตัว เก่งหลับตาปี๋ทั้งกลัวทั้งสะท้าน มือของเดี่ยววนเวียนลูบไล้ไปมาที่ท้องน้อยแล้วเลื่อนลงไปจะดึงกางเกงที่เก่งใส่อยู่
“ ไม่ พอแล้ว “ เก่งดึงกางเกงไว้ไม่มันเลื่อนออกไปจากตัว มือพยายามผลักไหล่ของเดี่ยวออก แต่แรงไม่มี เดี่ยวยังคงไม่สนเคลื่อนหน้าลงวนลิ้นที่รอบสะดือ เลื่อนหน้าลงไปยังส่วนที่เก่งพยายามเอามือมาปกปิด แกะมือนั่นออก พรมจูบลงไปจนทั่ว เก่งสะดุ้งตัวแอ่นลอยรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว เดี่ยวมองปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น ยิ้มอย่างพอใจในผลงานเมื่อเห็นอีกฝ่ายนอนนิ่งสิ้นฤทธิ์ตัวสั่นสะท้าน หอบหน้าแดง อยากจะทำให้มันมากกว่านี้ แต่ต้องรอให้เก่งบอกว่าต้องการเขาก่อน เดี่ยวเคลื่อนตัวมาทับร่างบางไว้อีกครั้ง ก้มหน้าลงหอมแก้มใสๆ ของเก่งที่เบือนหน้าหนีอย่างกลัวๆ น้ำตาเริ่มคลอ
“ เป็นไงมั่ง ทีนี่นายรู้รึยังว่าคนที่เค้าจะมีอะไรกัน มันรู้สึกไง “ เดี่ยวกระซิบเสียงแผ่วจมูกยังคงวนเวียนอยุ่ที่แก้มของเก่ง
“ แล้วนายมาบอกเราทำไม เราบอกแล้วว่าไม่อยากคุยรู้เรื่องนี้ “ เก่งเถียงแผ่วๆ ตัวสั่นอยู่ใต้ร่างที่ยังนอนทับอยู่
“ เราแค่จะบอกว่าคืนนั้นนายกะเรายังไม่มีอะไรกัน แต่นายไม่ฟังเราเอง เราเลยอยากทำให้นายรู้ ว่ามันเป้นยังไงเผื่อนายจะอยากยอมเราขึ้นมามั่ง “ เดี่ยวบอกอย่างเย้ายั่ว เก่งอายจนไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่าย นี่เขาคิดมากไปเองเรอะ ก็ใครจะไปคาดว่ายังบริสุทธิ์อยู่ เล่นแก้ผ้ากันซะงั้น ตอนนี้ความกลัวไม่มีหลงเหลือ กลายเป็นความแค้นใจแทน แต่ยังเงียบอยู่เพราะตกเป็นรอง
“ งั้นตกลงนายจะยอมให้เราจูบนายได้รึยัง “ เดี่ยวถามเสียงกระเส่า ก้มหน้าลงจนลมหายใจร้อนรดหน้าเก่ง
“ อืม นายหลับตาก่อนนะ “ เก่งบอกเสียงแผ่ว เดี่ยวยิ้มอย่างลิงโลดหลับตาลงพร้อมยื่นหน้าเก่งจูบได้ถนัดๆ ทรายกำใหญ่ถูกโป๊ะเข้าปากของเดี่ยวจาก เก่งที่กำลังโมโห
“ เฮ้ย ! ทรายที่ซัดเข้าเต็มปากทำให้เดี่ยวเผลอปล่อยมือจากเก่ง ความโมโหวูบขึ้นมาในหัว เก่งถือโอกาสวิ่งหนี เมื่อเป็นอิสระ แต่เดี่ยวที่ขายาวกว่าวิ่งตามไม่กี่ก้าวก็กระโจนที่เดียวรวบเก่งไว้ในอ้อมแขนได้
“ เฮ้ย ปล่อย !” เก่งดิ้นแรงสุดกำลังจนเดี่ยวที่รวบตัวเขาไว้เสียหลักล้มลง กลางคลื่นที่ซัดสาด
“ เล่นแรงอย่างนี้ งั้นนายก็เจอของจริงเลยแล้วกัน “ตาที่มองแบบถมึงทึงทำให้เก่งสั่นไปด้วยความกลัว เดี่ยวคำรามกดเก่งให้นอนลง พร้อมซุกหน้าลงที่ซอกคออีกครั้ง มือ2ข้างเก่งถูกจับกำยันไว้เหนือหัวโดยมือข้างเดียวของเดี่ยว มือข้างที่ว่างกระชากกางเกงของเก่งออกจนมันเลื่อนหลุดไปกองที่เข่า เก่งหัวใจกระตุกวูบจะพยายามดิ้นรนแต่มือยังโดนเดี่ยวกำไว้แน่นไม่หลุด เดี่ยวซุกไซร้ไปทั่วรุนแรงเอาแต่ใจ ก่อนผงกหัวขึ้นมอง เดี่ยวยิ้มสะใจมองดูเก่งไปทั่วตัว แต่มาสะดุดกับหน้าของเก่งนิ่งเงียบมองหน้าเดี่ยวเขม็งสั่นๆน้ำตาทะลักออกมาจากตาเหมือนคนช๊อกหนัก ๆ เดี่ยวหุบยิ้มขมวดคิ้วมอง น้ำตาที่ไหลเป็นสายโดยตัวคนร้องไม่ได้สะอึกสะอื้นแม้แต่น้อย นั่นทำให้เขารู้สึกใจหายวูบ นี่เขาทำรุนแรงไปเหรอ !
“ เก่ง อย่าร้องไห้ เราไม่ทำอะไรแล้ว อย่าร้อง “ เดี่ยวดึงเก่งตัวที่ยังสั่นๆขึ้นปลอบ กอดไว้เมื่อเห็นเก่งยังคงนิ่งเงียบ
“ อย่าเกลียดเรานะเก่ง อย่าเกลียดเรา “ เก่งที่ยังคงนิ่งอยู่ในอ้อมกอดมันทำให้เดี่ยวกลัว
“ อย่าร้องนะ เราขอโทษ นายจะว่าเรายังไงก็ได้แต่อย่าเกลียดเรานะ “ เดี่ยวเช็ดน้ำตาให้เก่งแล้วกอดไว้แนบอกแน่นเนิ่นนานไม่มีเสียงพูดจากเดี่ยว มีแต่เสียงหัวใจเต้นรัวที่ด้วยความกลัว นั่นให้เก่งรู้ว่าเดี่ยวคนเดิมกลับมาแล้ว หลังจากที่เดี่ยวอีกคนที่เค้าไม่รู้จักผ่านเข้าทำให้เขากลัว
“ เราอยากกลับแล้ว “ เก่งยันตัวออกพลางลุกขึ้น ไม่รู้สึกกลัวแล้ว แต่ขาก็ยังสั่นอยู่ไม่มีแรงเดิน
“ ไป ! เราพากลับเอง “ เดี่ยวคว้าเก่งขึ้นขี่หลัง เก่งดูเกร็งๆตัวอย่างระแวง แต่ก็ผ่อนคลายในที่สุด
“ ขอบคุณนะ พี่เดี่ยว “ เสียงบอกแผ่วที่ทำให้คนตัวใหญ่ใจคอดีขึ้น นี่เก่งมันหายโกรธแล้วสินะ
“ ไม่ต้องขอบใจหรอก ขอแค่ไม่เกลียดเดี่ยวก็พอแล้ว “ เดี่ยวยิ้มกับตัวเองรู้สึกโล่งไปหมด เห็นเก่งกลับกลายเป็นเด็กน้อยคนเดิม ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ นี่ ๆ พี่เดี่ยว อย่าเพิ่งดีใจ ไม่เกลียดแต่ยังไม่หายโกรธนะ “ เก่งรู้สึกหมั่นไส้คนที่ให้ขี่หลังเมื่อรุ้ว่าเขาอารมณ์ดีขึ้น เดินผิวปากเบาอย่างสบายอารมณ์ แต่ก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงเตือน
“ อ้าวแล้วกัน ยังโกรธอยู่เหรอ อุตสาห์ให้ขี่หลังนะ “
“ ไม่เกี่ยวเลยพี่เดี่ยว เราโกรธนะที่พี่เดี่ยวมาหลอกเรา รู้เปล่าว่าเรารู้สึกแย่ไปเลย “ เก่งบ่นอยู่บนหลังของคนตัวโตที่รู้สึกดีเมื่อเก่งเรียกเขาว่า
” พี่ “ เหมือนตอนเด็กๆ
“ แล้วจะให้ทำไงถึงจะหายโกรธ “ เดี่ยวถามอย่างเอาใจเมื่อเห็นเด็กน้อยบนหลังกำลังอารมณ์ดี
“ ก็อยากให้ทำให้หลายอย่างนะ แต่ตอนนี้คิดไม่ออก เดี๋ยวคิดออกแล้วบอกได้มั้ยล่ะ” เก่งยิ้มยื่นหน้าไปมองหน้าคนที่กำลังแบกตนอยู่เพื่อให้ขอคำตอบรับ
“ ก็ได้ “ แล้วสัญญาผูกมัดก็ถูกเอ่ยออกมาจากปากของเดี่ยว เก่งยิ้มรับ
“ งั้นตอนนี้ วิ่งกลับห้องไปเล้ย ! “
“ ได้เลย !“ แล้วคนตัวใหญ่ก็ออกวิ่งฉวัดเฉวียนสะบัดไปมาทำท่าทางเหมือนม้าพยศ พาคนที่อยู่บนหลังไปยังห้องพัก เสียงหัวเราะที่ผสมกับเสียงร้องโวยวายของทั้งคู่ดังก้องอยู่ในสายลมของชายทะเล