“เธอ... ว่าไงนะ...” ดารกานต์กำลังคิดว่าหล่อนหูฝาด...
“ผมเป็นคนรักของคุณรังสิ...คุณตะวัน... ลูกชายคนรองของคุณหญิงดารกานต์... เราสองคนรักกันมาก... เขาอยากให้คุณหญิงยอมรับผม... ผมเลยได้มาเป็นพี่เลี้ยงของ...คุณหนูไวโอลิน... เพราะฉะนั้น... ถ้าคุณตัดแขนหรือตัดขาผมส่งไปให้คุณรังสิมันต์... รับรองได้ว่าเขาต้องรีบมาเร็วมากแน่ๆ... เพราะเขาเป็นคนใจร้อน... แล้ว...เอ่อ...”
“ฮ่ะๆ...ฮ่าๆๆ... เห็นสีหน้าอีนังคุณหญิงตอนนี้แล้วมันสะใจจริงโว้ย... ฮ่าๆๆ ลูกชายมีเมียเป็นผู้ชาย... เป็นเรื่องน่ายินดีมากเลยนะ... เออดี... งั้นฉันจะได้จัดการไปทั้งคู่เลย... เอาเด็กวางไว้ตรงนั้นสิ... ฉันจะได้จัดการเธอก่อน...” ชายผมสีเทาพูดกับเขาด้วยแววตาพราวระยับ... สีหน้าแลดูมีความสุขและผ่อนคลาย...
น้ำฟ้าเดินเบี่ยงหนูลินไปข้างตัวเพราะชายไว้เคราที่ยืนถือมีดจ่อเขากำลังยื่นมือเข้ามาหา... น้ำฟ้าตัดสินใจในเสี้ยวนาทีนั้น เขาหลับตาสูดหายใจเข้าลึกแล้ววิ่งลอดใต้แขนชายไว้เคราพุ่งตัวเองไปหาคุณหญิงดารกานต์... โชคดีที่เขาตัวเล็กและเพราะคนเป็นต่อคงไม่คิดว่าเหยื่อที่ถูกต้อนจนจนมุมจะกล้าวิ่งหนีไปแบบไม่ให้ทันตั้งตัวภายในเสี้ยววินาทีแบบนี้...
“คุณหญิง...ผมฝากลูกด้วย...” น้ำฟ้าเอ่ยเสียงสั่น... น้ำตาแทบจะไหลตอนที่ต้องปล่อยหนูลินออกไปจากอกแล้วต้องยื่นให้คนอื่นกับมือตัวเอง...
คุณหญิงดารกานต์ไม่มีเวลาจะอึ้งนาน... เมื่อจู่ๆเด็กหนุ่มตรงหน้าก็ยัดห่อผ้าสีฟ้าที่มีเสียงเด็กงอแงมาให้ตรงหน้า... มือของหล่อนก็ยกขึ้นมารับทันทีแบบอัตโนมัติ... ส่วนเจ้าตัวเล็กก็เหมือนจะรู้ว่าต้องห่างจากอกแม่ เจ้าหนูจึงเริ่มเบะปากแล้วส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาทันที...
“เดี๋ยว...นี่เธอจะทำบ้าอะไร !” คุณหญิงกดเสียงให้ต่ำและเบาที่สุด... เด็กน้ำฟ้าน้ำตาร่วงผล็อยลงสองข้างแก้ม... เขาไม่ตอบคำถามหล่อนเพียงแต่พูดฝากลูกชายอีกครั้งพร้อมเอามือลูบแก้มเด็กน้อยแผ่วเบา...
“...ผมฝากหนูลินด้วย... ถ้าผมเป็นอะไรไปช่วยดูแลแกแทนผมที... ผมขอร้อง...” น้ำฟ้าบอก รู้สึกใจวูบโหวงทันทีที่นิ้วเล็กๆของหนูลินทันเอื้อมมาเกี่ยวผมของเขาไว้แล้วกำแน่นไม่ยอมปล่อย... เขาเองก็ไม่อยากปล่อยมือไปจากนิ้วนุ่มนิ่มของหนูน้อยเช่นกัน... แต่ทว่าเสียงตวาดที่ดังมาจากด้านหลังก็ทำให้เขาต้องรีบแกะนิ้วน้อยออกจากผมตัวเองอย่างรวดเร็ว...
“สั่งเสียร่ำลากันเสร็จรึยังวะ... ไวจริงนะมึงไอเด็กโง่... เดี๋ยวลูกมึงก็จะตายตามมึงไปแล้ว... ค่อยไปร่ำลากันในนรกก็ไม่สายเสียหน่อย ฮ่าๆ... ชักช้าจริง...มานี่ !!!” ชายไว้หนวดเดินถือมีดดุ่มๆเข้ามาหาน้ำฟ้า เอื้อมมือคว้าแขนเล็กๆได้ก็ดึงอย่างแรง... แต่ทว่าก็ติดที่แขนเล็กๆของหนูลินมันดึงผมน้ำฟ้าไว้แน่นมาก จนทำให้มันไม่สามารถดึงตัวไอเด็กคนนี้ออกมาได้... “ยุ่งยากจริงนะมึง...!”
มันคำรามก้อง... ก่อนจะเงื้อมีดขึ้นแล้วจ้วงแทงลงในเสี้ยววินาที...
“
อย่า !!!” น้ำฟ้าพลันใจหายวูบ แว่บนั้นนึกไปว่าแขนลูกโดนตัดขาดแน่ ตั้งใจจะเอาแขนตัวเองยื่นเข้าไปรับแทน... แต่พอรู้สึกตัวอีกทีก็รู้สึกถึงเศษอะไรซักอย่างที่ปลิวว่อนลงพื้น... พอหันมองตามพร้อมอาการเจ็บแปลบบนศีรษะเป็นหย่อมๆที่แล่นปราดขึ้นมา เขาก็พบว่าเป็นผมตัวเองที่มารับกรรมโดนมีดนั่นตัดจนขาด มันหวิ่นแหว่งติดนิ้วหนูลินส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือก็ร่วงผล็อยกระจายเต็มพื้น...
“แหม...พลาดไปนิดเดียวเองเสียดายจัง... ไม่เป็นไร... รอเอาไว้ตัดแขนไอเด็กนั่นรอบหน้าแล้วกัน ไอเดชกูเปลี่ยนใจแล้ว... จับไอเด็กนั่นกร้อนผมเสียให้หมด... ไม่ต้องตัดนิ้วตัดแขนมันแล้ว... ผิวมันขาวดีน่าจะเอาไปขายได้... โดนตัดแล้วเดี๋ยวจะเสียราคา...” ธรรณธรพูดเรื่อยๆ เขาสาวเท้าเดินเข้ามาดูหน้าน้ำฟ้าใกล้ๆ... ผิวขาวละเอียด พอลองจับดูแล้วก็ไม่สากระคายเหมือนผิวผู้ชายเลยแม้แต่นิด ช่วงนี้ออเดอร์แนวนี้กำลังมาแรง แถมสินค้าก็หายาก เพราะมันหลอกไม่ง่ายเหมือนหลอกเด็ก... ถ้าเอาไปขายปนๆกับสินค้ามนุษย์จากญี่ปุ่นไม่ก็ฮ่องกงน่าจะรีดเงินเอาได้ไม่น้อย... เอ๊ะ...หรือจะเก็บผมมันไว้ด้วยดี หัวล้านแล้วท่าจะไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่...
“ไอเดช จับตัดผมมันอย่างเดียวก็พอ อย่าให้ล้านล่ะเดี๋ยวลูกค้าไม่ชอบ... ผมแกมันก็สวยดี น่าจะเรียกราคาได้เยอะกว่าปกติหน่อย... เอาตัวออกไปข้างนอก...” ธรรณธรสั่งลูกน้อง คนรับคำสั่งก็ทำหน้าที่ตัวเองอย่างขึงขัง... คว้าจับเอาผ้าที่พันรอบตัวเด็กหนุ่มออกได้ก็เผลอตะลึงไปชั่วครู่... มันจ้องมองร่างผ่ายผอมที่มีหัวนมชมพูแล้วนึกพึงใจขึ้นมาประหลาด
“โหนาย... ไอเด็กนี่มันเนียนยิ่งกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก... นี่ถ้าจับขุนให้อ้วนอีกนิดก่อนออกตลาดนะ ได้เป็นสินค้าเกรดเอชัวร์เลยนาย... แต่ไม่รู้เรื่องบนเตียงจะคล่องด้วยรึเปล่า... ให้ผมสอนมันเองได้มั้ยนาย...”
“...ท่าทางแบบนี้คงไม่ต้องสอนมากแล้วละมั้ง... มันก็เพิ่งบอกอยู่ว่าเป็นเมียคุณชายรองบ้านภูบดีอัศวเมศวร์ ลีลาท่าจะเด็ดอยู่ไม่น้อย ไอคุณชายนั่นมันถึงจับเอาทำเมียออกหน้าออกตาขนาดที่จะให้แม่มันยอมรับ...”
ระหว่างที่สองคนนายบ่าวกำลังหัวเราะชอบใจกับแผนการ โดยลืมคุณหญิงดารกานต์กับเด็กน้อยไว้ด้านหลัง... คุณหญิงก็ค่อยๆกระเถิบไปนั่งลงบนโซฟา... ค่อยๆหยิบเอาเสื้อหนูลินแล้วดึงแต่ตัวกระดุมให้ขาด ภาวนาในใจว่าขอให้น้ำฟ้าดึงความสนใจของสองคนนั่นเอาไว้ให้ได้อีกครู่ หล่อนกำลังจะกดส่งสัญญาณที่อยู่ด้านหลังกระดุมเพื่อขอความช่วยเหลือไปที่ลูกและสามีของตน แว่บแรกที่เห็นสัญลักษณ์ของตระกูลบนกระดุมเสื้อหนูลินหล่อนก็รู้ได้ทันทีว่าลูกชายคงจะเป็นคนทำเอาไว้...
เด็กน้ำฟ้าที่คอยแต่จะเหลือบตามามองหนูลินก็เหมือนจะรู้ว่าหล่อนคงจะพยายามทำอะไรซักอย่าง จึงได้พยายามดิ้นหนีสะบัดตัวดึงความสนใจจากสองคนนั่นเอาไว้ให้ตามความประสงค์ของหล่อน ดารกานต์พยายามควานนิ้วกดปุ่มเล็กๆด้านหลังกระดุม
และทันทีที่กด... เสียงอะไรซักอย่างกระแทกประตูดังโครม ! ก็ทำเอาทุกคนในห้องสะดุ้งขึ้นทันที...
“เฮ้ย !! เกิดอะไรขึ้นวะ !!” ธรรณธรตวาดลั่นห้องขึ้นมาอย่างหัวเสีย เมื่อจู่ๆลูกน้องอีกคนก็รีบลนลานวิ่งถือปืนเข้ามาในห้องพุ่งตรงมาหาเขา
“นาย...นาย พวกมันมาแล้วนาย... มากันเยอะมากเลย...” ลูกน้องเขาพูดเสียงสั่น... ธรรณธรสะบัดเท้าเตะคนพูดออกไปห่างๆ... เพราะรำคาญตาที่เห็นทีท่ามันกลัวจนหัวหด
“มึงจะกลัวอะไร ทั้งแม่ ทั้งลูก ทั้งเมียมันอยู่กับกูนี่... บ้าเอ๊ย ! มากันเร็วชิบ !... ไอเดช...มึงตบเด็กนั่นไปซักที โทษฐานที่พวกมันเข้ามาแบบไม่มีมารยาท... แล้วมึงก็จับเด็กนั่นเป็นตัวประกันเอาไว้ ส่วนที่เหลือเอาปืนจ่ออีคุณหญิงแล้วพาตามกูมา... กูจะไปต้อนรับไอพวกลูกหนี้ที่เอาเงินพันล้านมาคืนกูเสียหน่อย... ฮ่าๆ...” ธรรณธรหัวเราะแบบสะใจเมื่อได้เห็นไอเดช ลูกน้องมือขวาของเขาใช้สันมือตบน้ำฟ้าจนหน้าหัน... ผิวเนื้ออ่อนที่แก้มขึ้นสีแดงช้ำในทันทีเพราะแรงที่ตบไม่มีออมเลย น้ำฟ้ารู้สึกเค็มปร่าในปาก เพราะตอนที่ตบเขาไม่ทันได้ตั้งตัว ฟันเผลอไปกัดเข้ากระพุ้งแก้มเลือดไหลซิบในทันที...
น้ำฟ้าถูกแรงกระชากถูลู่ถูกังตามนายเดชออกไปนอกห้อง โดยที่มือข้างหนึ่งของมันเอามาล็อกคอเขาไว้ ส่วนอีกข้างก็เอามีดมาจ่อที่เอว เสียงลมหายใจฟืดฟาดของมันดังอยู่ข้างหู มันทำให้น้ำฟ้ารู้สึกขยะแขยงจนแทบอ้วก... รู้สึกได้ถึงความต่างอย่างชัดเจนในตอนที่ตัวเองโดนรังสิมันต์คลอเคลียอยู่ข้างหู ถึงตอนนั้นจะดิ้นรนขัดขืน...แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาไม่ได้รู้สึกรังเกียจหรือขยะแขยงเหมือนเวลาโดนผู้ชายคนอื่นเข้าใกล้ชิดแบบนี้เลย...
ร่างเล็กๆของน้ำฟ้าโดนลากออกมาจากห้องอับทึมนั่น เพื่อมาพบว่าภายนอกห้องนั้นมันเป็นโกดังเก็บของที่กว้างมาก มันมีสองชั้นโดยชั้นบนมีราวเหล็กกั้นอยู่เป็นทางเดินวนรอบ ส่วนด้านในชั้นสองน้ำฟ้าเห็นเพียงริมๆว่ามันก็เต็มไปด้วยกล่องที่ทำจากไม้อัดต่างสีที่ขนาดต่างกันวางเรียงกันอยู่เต็ม... ไม่ต่างอะไรจากพื้นที่ในโกดังชั้นล่างที่ถูกกล่องลังพวกนั้นจับจองพื้นที่ไปหมด เหลือไว้เป็นช่องทางเดินตรงกลางกว้างประมาณสองคันรถจอดเรียงกัน...
แต่ที่ทำให้น้ำฟ้ารู้สึกเหมือนหัวใจเริ่มกลับมาเต้นแรงและเนื้อตัวร้อนผ่าวเหมือนได้ชีวิตกลับคืนมาอีกครั้ง คือร่างสูงโปร่งที่ยืนเคียงข้างกับชายสูงวัยอีกคนที่น้ำฟ้าพอจะจำได้ว่าคือเจ้าสัวใหญ่ คุณปู่แท้ๆของหนูลิน... รอบข้างของสองคนนั่นมีชายหนุ่มอีกหลายคนยืนถือปืนจ่อมาแต่น้ำฟ้าไม่ทันได้สนใจว่าเป็นใครบ้าง เพราะตอนนี้ในสายตามันโฟกัสอยู่แต่กับร่างสูงใหญ่นั่น แม้ว่าตอนนี้จะมีมีดมาจ่ออยู่ที่เอวก็รู้สึกไม่กลัวเลยซักนิด... มั่นใจว่าตัวเองและหนูลินปลอดภัยแน่แล้ว... ถ้าที่ตรงนี้จะยังผู้ชายคนนี้อยู่... น้ำฟ้าคิดแล้วแทบจะเข่าอ่อนเพราะรู้สึก...ดีใจและอุ่นใจขึ้นมาอย่างมากมาย...
แต่อย่างหนึ่งที่น้ำฟ้าไม่รู้ก็คือ... อารมณ์ของรังสิมันต์ในตอนนี้มันช่างต่างกันสุดขั้วกับน้ำฟ้าเสียจริงๆ เขารู้สึกร่างกายเย็นเฉียบทันทีที่เห็นร่างบางๆของเด็กหนุ่มมีเพียงกางเกงที่เปื้อนรอยเลือดเป็นดวงๆใส่ติดกายอยู่เพียงเท่านั้น แถมไอบ้านั่นมันยังกล้าเอามีดมาจี้ที่เอวน้ำฟ้าอีก... แล้วพอลองเพ่งพิศแลดูใบหน้าของน้ำฟ้าให้ละเอียดอีกครั้งมือที่อยู่ข้างตัวก็กำเข้าหากันแน่นเพื่อระงับโทสะไม่ให้วู่วาม กระโดดเข้าไปเอาปืนจ่อหัวแล้วยิงคนที่ตบน้ำฟ้าจนเลือดกบปาก เพราะมันจะผิดแผนจากที่พวกเขาวางเอาไว้สำหรับถอนรากถอนโคนพวกมันโดยเฉพาะ...
“ว่ายังไง... ไหนภรรยาและหลานของฉันล่ะ...” คุณศิลาเริ่มต้นบทสนทนาก่อน สีหน้าเขาแลดูผ่อนคลาย ผิดกับลูกชายที่แผ่รังสีอันตรายจนแม้แต่ตัวเองยังอยากเอาโซ่มาล่ามเพื่อกันไม่ให้มันอาละวาดจนเสียแผนหมด... แค่ที่มันพังประตูแบบไม่ทันได้ปรึกษากันเมื่อครู่ นายใหญ่ศิลาก็ต้องยกมือมาก่ายหน้าผากแล้ว...
“มาแบบไร้มารยาทสิ้นดีเลยนะเจ้าสัว... ทำไมต้องทำลายข้าวของกันด้วย... เราแค่ต้องการเจรจากันอย่างสันติ ของมา...คนไป แค่นั้นเอง...” ธรรณธรตอบกลับอย่างใจเย็น ตามองดูต้นเหตุเสียงดังโครมใหญ่เมื่อครู่ว่ามันมาจากตรงประตูที่เค้าใช้ไม้กั้นเอาไว้ แต่ตอนนี้มันกลับล้มลงไปนอนราบกับพื้นเพราะคงโดนรถยี่ห้อม้าลำพองสีแดงสดพุ่งชนเข้าจนล้ม และเจ้าของที่เป็นคนขับก็คงจะเป็นนายหนุ่มรูปงามที่ยืนเคียงข้างบิดานั่นแน่... เขารู้ได้ในทันทีเมื่อหลักฐานที่เป็นพวงกุญแจรถยังอยู่ในมือใหญ่โตที่กำเข้าหากันจนแน่น...
“หมาอย่างแกคงไม่มีคำว่าสันติหรอก... วิธีที่แกใช้... เขาเรียกว่าหมาลอบกัดต่างหาก... มันเป็นวิธีที่ไอพวกขี้แพ้เขาชอบทำกันไม่ใช่รึไง...” รังสิมันต์พูดขึ้นโดยไม่เกรงอาวุโสเลยแม้แต่นิด... คุณศิลาฟังแล้วยังตกใจไม่คิดว่าลูกชายจะกล้าพูดแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้คิดห้ามปรามเพียงแค่เหลือบตามองเล็กน้อยเท่านั้น...
“ปากดีนักนะคุณชาย... ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อของคุณชายโกงเอาเกาะรังนกนั่นไปก่อน เรื่องแบบวันนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้นหรอก...” ธรรณธรพูดตอบอย่างใจเย็น... หูแว่วได้ยินเสียงเด็กร้องไห้จ้าพร้อมเสียงด่าขรมของอีคุณหญิงดังเข้ามาใกล้แล้ว... ในใจก็นึกกระหยิ่งยินดีเพราะยังไงก็ยังถือว่าตนเป็นต่ออยู่หลายขุม... อารมณ์ดีจนเผลอหัวเราะออกมาให้รังสิมันต์เผลอยกมือขึ้นชักปืนที่อยู่ตรงราวเอวเตรียมขึ้นไกยิง... แต่สีหน้าเจ็บปวดของน้ำฟ้าที่โดนปลายมีดกดเข้าผิวเนื้อก็ทำให้เขาพยายามใจเย็น ไม่กล้าผลีผลามวู่วามดังที่ได้สัญญากับบิดาไว้ก่อนออกจากบ้าน...
คุณหญิงดารกานต์ที่อุ้มหนูลินถูกลูกน้องนายธรรณธาห้าหกคนรุมล้อมต้อนให้เดินออกมา... คุณหญิงแม้มือจะโดนพันธนาการด้วยหลานตัวน้อย แต่ปากหล่อนไม่ได้ถูกปิด ดังนั้นใครก็ตามที่เข้ามาใกล้หล่อนดารกานต์ด่าไม่ไว้หน้าทั้งสิ้น... แล้วยิ่งเมื่อเห็นว่าตรงหน้ามีทั้งสามีและลูกชาย รวมทั้งคนของตระกูลเต็มไปหมดก็ยิ่งดีใจใหญ่ อ้าปากฟ้องสามีปาวๆทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น...
“คุณศิลา !... คุณต้องเอาพวกมันให้ตายทั้งหมดนะ ไม่งั้นฉันไม่ยอม... มันมาปากใส่ฉันแถมยังผลักฉันด้วย... แล้วก็นะ...มันยังตัดผมเด็กนะ...”
“เอาน่าคุณหญิง... เงียบๆก่อน เก็บแรงจะด่าไว้ไปเคลียร์กับผมที่บ้าน โอเคมั้ย...เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยนะคุณหญิง...” นายใหญ่ศิลาพูดจาเรียบๆเหมือนเวลาโต้ตอบกับภรรยาเวลาอยู่บ้านโดยไม่แคร์สถานการณ์เลยซักนิด... ซึ่งนั่นก็ได้ผลเมื่อคุณหญิงดารกานต์หุบปากฉับ เพราะรู้ตัวดีว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเรื่องในวันนี้ขึ้นก็เป็นเพราะหล่อน...
“อย่าคิดว่าจะได้กลับไปง่ายๆแบบนั้นสิเจ้าสัว... ไหนล่ะเอกสารที่โกงผมไป... รีบๆเอามาแล้วผมจะปล่อยตัวอีนังคุณหญิงนี่ไปให้...” ธรรณธรพูดเข้าเรื่องขึ้นมาอย่างเหลืออด พวกมันทำเหมือนการที่เขาได้ตัวนังคุณหญิงนี่มาเป็นตัวประกันเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว... เจ้าพวกนั้นคงจะไม่รู้ว่าเขาไม่ได้ง่ายให้เคี้ยวเล่นเป็นอาหารว่างแบบนั้นหรอก...
“พิชิตเอาเอกสารมา...” คุณศิลาเอ่ย... ชายผมสีดอกเลามือขวาของคุณศิลานามพิชิตก็หยิบเอกสารออกมาจากซองสีน้ำตาล กระดาษสีเหลืองหม่นแผ่นเดียวที่แสนจะมีมูลค่ามากมายมหาศาลถูกยื่นพลิกมาให้ธรรณธรดู... มันคือฉโนดที่ดินบนเกาะเหลาลาดิงที่ภาคใต้... รูปแสดงขนาดเกาะเล็กนิดเดียว แต่มูลค่าและทรัพยากรบนที่ดินบนเกาะนั่นต่างหาก ที่จะช่วยสร้างมูลค่ามากมายมหาศาลได้ตลอดปี... พูดง่ายๆก็คือมันก็เปรียบเหมือนแหล่งผลิตธนบัตรเงินตราสำหรับใช้จ่ายดีๆนี่เอง...
“วันนั้นเราไม่ได้โกงคุณนะครับ... คุณต่างหาก...ที่ประเมินมูลค่าของเกาะนี่ผิดไป... มันมีค่ามากกว่าที่คุณเสนอเงินไปหลายเท่า... ผมเลยชนะประมูลไปในวันนั้น...”
“อย่ามาตอแหลหน่อยเลย... ลูกน้องฉันเห็น ว่าก่อนหน้าที่จะมีการประมูล แกไปยัดเงินใต้โต๊ะให้ไอแก่นั่น... มันเลยให้แกชนะไปไม่ใช่รึไง !”
“คุณก็รู้ราคาที่ผมเสนอไปนี่... มันเกินไปเกือบครึ่งจากราคาที่คุณเสนอไปเลยนะ...” พิชิตยังคงพูดจาต่อไปอย่างใจเย็น... เขามองสีหน้าของคู่แข่งอย่างธรรณธรที่กำลังโกรธจัดแล้วอาศัยหลักจิตวิทยาในการยอมอ่อนให้ก่อนเพื่อคงสถานการณ์โดยการบอกว่า “เอาล่ะ... ถึงตอนนี้ผมจะอธิบายอะไรออกไปคุณก็คงจะไม่ฟัง... เพราะงั้นเพื่ออย่าให้ยืดเยื้อไปมากกว่านี้... คุณปล่อยตัวคุณหญิงดารกานต์ คุณหนู แล้วก็เด็กหนุ่มคนนั้นมา แล้วเอกสารนี่จะเป็นของคุณ...”
“แล้วฉันจะรู้ได้ยังไง... ว่าเอกสารนี่มันเป็นของจริง... แล้วพวกแกจะไม่เล่นตุกติกกับฉัน...” ธรรณธรตวาดถามกลับตามประสาคนขี้ระแวง...
นายใหญ่ศิลายกมือห้ามให้ทุกคนเก็บปืนแล้วเอ่ยตอบว่า “ฉันไม่ใช่พวกชอบเล่นอะไรไม่ซื่อเหมือนแกนี่... ฉันชอบทำอะไรแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน... ถ้าไม่เชื่อแกก็เข้ามาเอาเอกสารนี่ไปตรวจสอบก่อนได้... ว่ามันเป็นของจริง หรือของปลอม...” นายใหญ่ศิลาเอ่ยเสียงเรียบรื่น... ธรรณธรมองอย่างไม่ไว้วางใจ
“ให้ผมเข้าไปดูให้มั้ยครับนาย...” ลูกน้องคนหนึ่งของเขาถามขึ้น แต่ธรรณธรกลับถลึงตาจ้องกลับแล้วบอก
“โง่อย่าพวกมึงจะดูออกได้ยังไง ว่าเอกสารไหนจริงหรือปลอม... กูจะเข้าไปดูเอง... แต่ถ้าประเดี๋ยวพวกมันเล่นตุกติกอะไรขึ้นมาล่ะก็... มึงจ่อปืนยิงไอพวกนั้นได้เลย อย่าให้เหลือ...แม้แต่คนเดียว...” ธรรณธรพูดเสียงดัง... จงใจกะขู่ให้อีกฝ่ายกลัวไปด้วยตัว... ก่อนที่ตัวเองจะค่อยๆเดินสืบเท้าเข้าไปใกล้นายพิชิต
ธรรณธรเพ่งมองเอกสารในมือของพิชิตที่เป็นฉโนดที่ดินก่อน เขาไล่สายตามองรายละเอียดและตราสัญลักษณ์ต่างๆจนถ้วนถี่ แล้วก็พบว่ามันเป็นของจริง...
“แผ่นต่อไป...” เขาบอก พิชิตหยิบเอกสารรายละเอียดแผ่นต่อไปมายื่นจ่อหน้าให้ดู แล้วค่อยๆไล่ไปเรื่อยๆ... เอกสารรายละเอียดมีทั้งหมดประมาณสิบแผ่น... และแผ่นที่สำคัญที่สุดคือแผ่นสุดท้าย...
ธรรณธรกวาดสายตาเช็คทุกรายละเอียดและพบว่าทุกแผ่นนั้นล้วนเป็นของจริงทั้งสิ้น ซึ่งกว่าเขาจะอ่านมาได้จนครบทุกแผ่นก็กินเวลาชั่วครู่ใหญ่ กระทั่งมันมาถึงเอกสารแผ่นสุดท้าย ...เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินและที่ดินบนเกาะเหลาลาดิง... เอกสารที่มันสมควรจะเป็นของเขาตั้งแต่แรกแต่ไปตระกูลบ้านี่กลับเล่นตุกติกแย่งมันไปหน้าด้านๆ...
เขากวาดตามองอย่างละเอียด มือสั่นระริกเพราะดีใจที่กำลังจะได้เป็นเจ้าของ... ทว่าเมื่อลองเช็คตราสัญลักษณ์และคำพูดบางประโยคแล้ว เขารู้สึกว่ามันผิดแปลกไปจากเอกสารโอนกรรมสิทธิ์ทั่วไป... เอ๊ะ...หรือว่า...
“นี่มันเอกสารปลอม !!” “รู้ตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว... ไอ้ธรรณธร...” เสียงเยียบเย็นของรังสิมันต์ดังขึ้น ก่อนที่เสียงล้อรถบดถนนที่ดังอยู่ด้านนอกโกดังจะดังเข้ามาใกล้...
ทั้งสองฝ่ายชักปืนจ่อเตรียมยิงใส่กันทันที แต่ทว่าที่ยังไม่มีการยิงเกิดขึ้นเพราะนายใหญ่ของทั้งสองฝ่ายยกมือห้ามไว้... จนเมื่อรถสปอร์ตคันหรูสีดำขับเข้ามาจอดอยู่ใกล้ๆกับเฟอร์รารี่สีแดงสด... และเมื่อคนขับค่อยๆก้าวลงมาจากรถพร้อมกับยกมือข้างหนึ่งขึ้นถอดแว่น ส่วนมืออีกข้าง...กลับมีกุญแจมือสีเงินคล้องข้อแขนใหญ่เอาไว้กับใครอีกคน ที่ถูกลากให้ลงมาจากรถทางประตูของคนขับเช่นเดียวกัน... เสียงร้องโอดโอยของคนถูกลากทำเอาธรรณธรมืออ่อน
ก็นั่นน่ะ...มัน...
ลูกชายของเขานี่ !!! ------------------------------------------ ----- - - - - - ----- - - - --- - - -
to be continue...
...ตอนนี้มีแต่คำหยาบเยอะแยะเลย... เลี่ยงคำหยาบแรงๆเอาไว้ด้วย เด็กๆอย่าเลียนแบบกันนะจ๊ะ...
...เหลืออีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วล่ะ... ...เรื่องนี้ก็จะจบไปพร้อมกับชีวิตของตูข้าด้วย...ห้าห้าห้า...
...ไปแล้วล่ะ สอบแคลพรุ่งนี้ แถมยังมีละครแคลคูลัสรอให้ฉายต่อจากนี้ด้วย...(เป็นหนังฆาตกรรมเลยนะเออ...!)
...ปล. ขอให้คนอ่านทุกคนสุขภาพแข็งแรง ทานอาหารอย่างระมัดระวัง มิเช่นนั้นจะมีอาการท้องเสียตามข้าพเจ้ามาได้... T^T มันทรมานมากเลยนะกับการที่เราท้องเสียแล้วไม่มีน้ำล้างก้น มีแต่กระดาษทิชชู่เป็นเพื่อนตายติดห้องน้ำเนี่ย แงงง... ไปแล้วจ้า แล้วเจอกันตอนหน้าคร๊าบ ติดตามข่าวสารและเข้าใกล้หนูลินอีกนิดได้ที่นี่จ้า >>https://www.facebook.com/pat.majestic.1<< จิ้มโลด !