แวะมาแจ้งข่าวนิดนึงค่ะ !!! เดือนนี้มันเป็นเดือนรกแตกของเค้าเองแหละ มันคือฤดูแห่ง final น่ะจ่ะก็เลยตัดกิเลสด้วยการงดใช้คอมส่วนตัวเป็นเวลาหนึ่งเดือน ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก สุดท้ายก็ทำไม่ได้ !!

คิดถึงเล้า คิดถึงเพื่อนๆลูกเป็ดทุกตัว...แง้.........
พรุ่งนี้เค้าจะสอบโทเฟลแล้วนะ ส่วนไฟนอลก็ช่วยกันบีบ(อาจารย์)ให้เสร็จภายในสิ้นเดือนนี้... สอบเสร็จเมื่อไหร่...จะมาอัพลงให้ยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยเนอะ

วันนี้เลยเอาสปอยล์มาให้ก่อน...เห็นเรื่องอื่นเค้ามีง่ะเลยอยากทำมั่ง...เหออออออออออออออออ
--------------------------------------- - ----- - ----- - - - - ---- -- - - -
.
.
.
"นี่...เธอเองก็รู้เรื่องนกยูงดีเหมือนกันนะ...ตอนแรกฉันนึกว่าลูกนกยูงนั่นเป็นพวกไก่ฟ้าเสียอีก...รู้ได้ยังไง...บอกหน่อยสิ..." รังสิมันต์ถามกระตุ้นความสนใจ...น้ำฟ้ายังตีหน้าบูดอยู่ตอนเหลือบปลายหางตามามอง แต่ก็ยอมตอบแต่โดยดี...
"ก็อ่านเอา...ผมเรียนอักษรฯมามันก็ต้องอ่านเยอะเป็นธรรมดา..." พอได้เริ่มพูดในสิ่งที่ตัวเองรู้แล้วน้ำฟ้าก็เริ่มเคลียร์อารมณ์ขุ่นมัวจากคำแซวนั่นได้บ้าง เลยบอกข้อมูลตามสิ่งที่ตนรู้ต่อ "...แล้วคุณรู้หรือเปล่า...ว่าฝูงนกยูงเนี่ยนะ ส่วนใหญ่ก็จะมีแค่นกยูงตัวเมียกับลูกๆที่จะอยู่ด้วยกัน ส่วนตัวผู้พอถึงช่วงผสมพันธุ์ก็จะออกจากฝูงไปอยู่เดี่ยวๆ... ทิ้งเมียกับลูกให้อยู่กันตามลำพังแล้วก็ร่อนไปหาตัวเมียตัวอื่นต่อ..."
พูดถึงตรงนี้น้ำฟ้าก็มองแม่นกยูงที่ทำท่าต้อนลูกๆให้ออกไปไกลจากตัวม้าเล็กน้อยแล้วก็พูดต่อ...โดยไม่ได้สนใจผู้ฟังตัวโตที่ก็พยักหน้ากับตัวเองเป็นเชิงว่าเข้าใจกับสิ่งที่คนตัวเล็กผิวบางพูด... "แล้วก็นะ...นกยูงน่ะเป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณระวังภัยสูง หวาดระแวงและขี้สงสัย แถมยังมักตกใจกับเสียงผิดปกติอะไรได้ง่าย... อย่างพวกเสียงกิ่งไม้หัก เสียงไม้ล้มดัง เสียงร้องเตือนของสัตว์ป่าอื่นๆ...ไม่ก็เสียงปื..."
"...ตั๊ก...ตั๊ก...โต้งโฮ้ง !!!!...""...ฮี้ !!!!!!!!..." จู่ๆระหว่างที่น้ำฟ้ายังพูดไม่ทันจบดี เจ้านกยูงสีสวยตัวใหญ่ตัวหนึ่งก็ร้องดังขึ้นและฝูงนกยูงก็พากันแตกฮือบินกระจัดกระจาย บางตัวบินขึ้นต้นไม้ บ้างก็วิ่งไปหลบหลังหิน
ส่วนเจ้าม้าพ่วงพีจู่ๆก็ร้องออกมาดังลั่นพร้อมถอยหลังแล้วถีบขาหน้าขึ้นเมื่อถูกรังสิมันต์ขืนรั้งบังเหียนเอาไว้ก่อนที่มันจะทันสะบัดตัวคนขี่หลังลงหล่นพื้น... เจ้าม้ามีท่าทีตกใจและไม่ยอมเดินไปข้างหน้า แถมยังสะบัดขาสะบัดหัวและพ่นลมออกจากจมูกแรงอยู่ตลอดเวลา...
แขนขวารังสิมันต์หยิบปืนแล้วโอบแขนอ้อมมือกอดทั้งตัวน้ำฟ้าและหนูลินไว้โดยอัตโนมัติ ส่วนมือซ้ายก็หยิบปืนพกตรงราวเอวขึ้นชี้ออกไปทางกอพุ่มไม้ใหญ่นอกเขตรั้วสีขาวที่ห่างกับบริเวณที่เขาอยู่ไม่ไกลมากนัก ชายหนุ่มพลิกปืนในมือซ้ายให้ขนานกับพื้น ก่อนจะหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วลั่นไกออกไปสองนัดซ้อน ปืนพกเก็บเสียงปลายกระบอกสั้นแต่ผ่านการดัดแปลงให้มีประสิทธิภาพสูงสุดส่งลูกตะกั่วสองนัดพุ่งเข้าเจาะเป้าหมายอย่างแม่นยำ... ส่วนมือขวาชายหนุ่มก็จัดการยิงเข้ากอหญ้าที่ห่างจากตัวม้าไปไม่มากนักในทางเดียวกันอีกสองนัดเสียงดังลั่น...
......ปัง ! ปัง !.............----------------------------------------------------------->>> to be continue...