ตอนพิเศษ บทสรุป ของ 3 หัวใจ
“นัท กลับบ้านเรากัน” ลมบอกก่อนที่เราจะเดินจับมือไปที่รถท่ามกลางสายตาล้อเลียนของเหล่าพนักงานในร้าน
ตอนนี้ผมมีร้านอาหารเล็กๆเป็นของตัวเองครับ จริงๆคุณหมอเขาจะไม่ยอมให้ผมทำ เพราะสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง
แต่นายนัทซะอย่าง อยากได้อะไรเคยมีใครห้ามได้ที่ไหนคร้าบบบบบ
เฮ้อ ตั้งแต่เป็นแฟนกันได้ปีกว่า ลมแทบจะไม่ปล่อยให้ผมห่างตัวเลยนอกจากเวลาที่เข้าเวร คิดๆไปก็ตลกดีนะครับ
กว่าที่เราจะได้รักกันมันนานเหลือเกิน ผมกับ ลม ต้องผ่านอะไรด้วยกันมาตั้งมากมาย ส่วนพี่ฟงไม่สิต้องเรียกว่าหลวงพี่ฟงสินะ
หลังจากที่ผมออกจากโรงพยาบาลท่านก็ตัดสินใจบวชทันที ผมไม่รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านตัดสินใจแบบนั้น
เพราะท่านเพียงแค่บอกว่าอยากหาความสงบให้จิตใจ
“นัทคิดอะไรอยู่เหรอ”
“เปล่าหรอกแค่คิดอะไรเพลินๆน่ะ”
“ลมรักนัทนะครับ”
“หือ อารมณ์ไหนเนี่ย”
“ก็อารมณ์รักไง” ลมพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเลือนมือมากุมมือผมแน่น
“พอลมได้ฟังเรื่องของน้องโอกับน้องตองที่น้องอิท(ทำไมมันหลายน้องจังเนี่ย)เล่าแล้วมันทำให้ลม กลับมาคิดนะว่า ถ้าวันนั้นลมช่วยนัทไม่ได้ ลมจะทำยังไง” ผมรู้สึกถึงแรงบีบที่เพิ่มขึ้นจากมือของลม
“มันผ่านไปแล้วนะลม วันนี้นัทยังอยู่กับลมนะ แล้วก็นัทรักลมนะครับ”
“ลมก็รักนัทนะ” เราสองคนยิ้มให้กันอย่างเป็นสุข ถึงตอนนี้ผมอยากจะขอบคุณใครคนนั้นเหลือเกิน ใครคนนึงที่ยอมบริจาคหัวใจให้ผม ไม่ว่าเขาจะเป็นใครผมก็อยากบอกเขาว่า ขอบคุณนะครับที่ทำให้ผมมีชีวิตอยู่ ขอบคุณที่ทำให้ผมได้อยู่กับคนที่ผมรัก
“ใครจะพยายามแทรกกลางระหว่างเรา รู้ไว้นะว่าเขาไม่มีวันเข้ามาได้” เสียงริงโทนคุ้นหูดังขึ้น
“ใครโทรมาเหรอลม”
“อ้อ โรงพยาบาลน่ะ” ลมพูดก่อนจะใส่แฮนด์ฟรีเพื่อคุย แล้วเราก็ต้องเปลี่ยนเส้นทางจากกลับบ้านไปที่โรงพยาบาลแทนเพราะทางโรงพยาบาลโทรมาบอกว่ามีคนไข้ที่ต้องผ่าตัดด่วนแล้วก็น่าจะเป็นคนไข้ที่สำคัญมากๆด้วยเพราะลมดูรีบมาก
“นัทไปรอลมที่ห้องพักก่อนนะลมต้องรีบไปดูคนไข้ก่อน” ลมพูดกับผมทันทีที่เลี้ยวเข้าโรงพยาบาลก่อนเขาจะวิ่งไปที่แผนกทันที
ผมนั่งรอลมที่ห้องพักมาได้ราวๆ 2 ชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าของห้องจะกลับมาสักทีสงสัยเคสนี้ท่าจะอาการหนักผมตัดสินใจออกไปเดินเล่นซะหน่อยเพราะถ้ารอต่อไปคงหลับแน่ๆ
“นี่เธอ เธอเห็นพระที่แอดมิดเข้ามาวันนี้ไหม” เสียงนางพยาบาลคนนึงพูดขึ้น
“หลวงพี่ฟงนะเหรอทำไมล่ะ” คนที่สองตอบแต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องหยุดฟังคือชื่อของพระรูปนั้นตังหาก หวังว่าคงจะไม่ใช่รูปเดียวกับที่ผมคิดหรอกนะ
“ดูท่าจะอาการหนักมากเลย เนี่ยหมอลมผ่าตัดตั้ง2ชั่วโมงแล้ว”
“ขอโทษนะครับ คุณพยาบาลไม่ทราบว่าพระท่านผ่าตัดที่ห้องไหนครับ” ผมเดินเข้าไปถามหลังจากที่ลังเลอยู่นาน บางอย่างที่อยู่ในใจมันบอกผมว่าผมต้องไป
“อ้อ ห้องผ่าตัด3ค่ะ” พยาบาลคนนั้นตอบ
“ขอบคุณมากครับ” ผมรีบวิ่งไปที่ห้องผ่าตัด3ทันที และสิ่งที่ผมเห็นทันทีที่ไปถึงทำให้ผมแทบก้าวขาไม่ออก ภาพของบุรุษพยาบาลเข็นเตียงของ หลวงพี่ออกมาจากห้องผ่าตัดบนตัวท่านมีสายระโยงระยางค์ไปหมด ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะครับว่าหลวงพี่ท่านอาพาธหนักขนาดนี้
“นัท มาทำอะไรที่นี่” เสียงของลมทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์
“ลมบอกนัทมาเนี่ยมันเรื่องอะไรกัน หลวงพี่ท่านเป็นอะไร”
“เอ่อ คือ” ลมอึกอักไม่ยอมตอบ
“ทำไมล่ะลม ทำไมไม่ตอบนัท” ผมพยายามคาดคั้นแต่ลมกลับเลือกที่จะไม่พูดอะไรเลย ผมตัดสินใจที่ไม่ถามต่อแล้วรีบวิ่งตามบุรุษพยาบาลไปแทน ลมเดินตามผมมาเงียบๆเราสองคนไม่พูดกันเลยตลอดทางผมยอมรับว่าผมโกรธลมมากที่ไม่ยอมบอกว่าหลวงพี่ท่านอาพาธ ทั้งๆที่ลมน่าจะรู้มานานแล้ว
“นัท จะเงียบไปถึงเมื่อไหร่” ลมพูดขึ้นหลังจากที่เรานั่งเงียบในห้องพักของหลวงพี่มาได้2ชั่วโมง ครับ2ชั่วโมงที่ผมได้แต่นั่งนิ่งๆ ผมยังไม่อยากพูดอะไรกับใครทั้งนั้น
“แล้วเมื่อไหร่ลมจะบอกนัทล่ะว่าหลวงพี่ท่านเป็นอะไร ต้องรอให้นัทมารู้มาเห็นเองใช่ไหม ลมก็รู้ว่าหลวงพี่ดีกับนัทมากแค่ไหน ลมยังจะปิดบังนัทอีกเหรอ” ผมเริ่มพาลใส่ลมทันที
“อย่าไปโทษโยมหมอเขาเลย” เสียงแผ่วๆดังขึ้นจากเตียงคนไข้
“หลวงพี่ ฟื้นแล้วเหรอครับ” ผมรีบวิ่งไปที่เตียงทันที
“อาตมาไม่เป็นอะไรหรอกโยม แต่โยมตังหากที่กำลังเป็น”
“ผมเป็นอะไรเหรอครับ” ผมถามท่าน
“โยมกำลังโมโห แล้วกำลังขาดสติอยู่นะ สงบจิตสงบใจแล้วฟังเหตุผลได้ไหม”
“ครับ” ผมตอบ รู้สึกผิดจังเลยครับที่เผลอแสดงกิริยาแบบนี้ต่อหน้าท่าน
“อาตมาเป็นคนบอกโยมหมอเองว่าไม่ให้บอกเรื่องนี้ให้โยมรู้ เพราะอาตมารู้จักโยมดี”
“แต่ว่า…”
“ขนาดอาตมาเป็นคนป่วย อาตมายังไม่กลัวตายเลย ความตายมันไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหรอกนะโยม คนที่กลัวตายคือคนที่หลงในกิเลสและยังคิดว่าตนเองยังใช้ชีวิตไม่คุ้มแต่ตัวอาตมานั้น ใช้ชีวิตคุ้มแล้ว อาตมาได้ทำในสิ่งที่อยากทำแล้วทุกสิ่ง ไม่มีสิ่งไหนที่อาตมา เสียดายอีกแล้ว มันถึงเวลาที่อาตมาจะพักแล้วก้าวไปสู่โลกแห่งความสุขที่แท้จริงสักที มีเกิด ก็ต้องมีตาย มีพบ ก็ต้องมีจากมันเป็นธรรมดาของโลกอย่าได้ยึดมั่นถือมั่นในสังขารเลย ” ท่านพูดก่อนจะหลับตาลงช้าๆคล้ายคนกำลังจะนอนหลับก่อนที่กราฟวัดอัตตราการเต้นของหัวใจจะกลายเป็นเส้นตรง จนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิตท่านก็ยังคงมีรอยยิ้มให้ผม เป็นรอยยิ้มและความหวังดีที่ท่านมีให้ผมเสมอ ลมเดินเข้ากอดผมแน่นก่อนที่จะกดปุ่มเรียกบุรุษพยาบาลเข้ามาเพื่อนำสังขารของท่านไปที่โรงพยาบาลอีกแห่งตามเจตนารมณ์ที่ท่านได้อุทิศร่างกายให้นักศึกษาแพทย์ได้เรียน ถึงวันนี้จะไม่มีหลวงพี่ฟงอีกแล้วแต่ความดีของท่านจะยังคงอยู่ในใจของผมตลอดไป
.....................................................................................
จบตอนพิเศษ เป็นไงกันบ้างค่ะ สนุกไหมเอ่ย บอกตรงๆว่าที่ตัดสินใจเขียนตอนพิเศษเพราะมันยังมีบางอย่างมี่ไม่เคลียร์ ไม่อยากทิ้งความรู้สึกอึนๆไว้ให้คนอ่านเพราะตอนที่แล้วมันจบเศร้าเลยต้องต่ออีกนิดนึงเพื่อให้ทุกคนเห็นว่าหลังจากนั้นตัวละครไปทำอะไรแต่ก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่เขียนให้พี่ฟงบวช ฮ่าๆๆ ที่จริงมันเป็นทางออกที่ดีนะพิตว่า เพราะถ้าเขียนให้พี่ฟงไปมีคนอื่นมันคงไม่ได้เพราะในเรื่องพี่ฟงรักนัทมากเกินกว่าจะรักใครได้อีก