Tsundere Boy เมื่อหนุ่มซึนมาหลงรัก ตอนที่ 33.1
ตอนพิเศษ :: หลายเหตุการณ์ ณ สถานที่เดียวกัน
โมน & มะนาวท่ามกลางท้องฟ้ายามดึกที่มีดวงดาวกระจัดกระจายต่างจากในกรุงเทพทำให้คนที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสเห็นดาวเท่าไรนักก็มานั่งมองได้อย่างเพลิดเพลิน มะนาวเองหลังจากที่ทุดคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้วเธอจึงมานั่งดูดาวอยู่ตรงระเบียงบ้าน
“มะนาว ไม่หนาวเหรอ” น้ำเสียงอ่อนโยนของร่างสูงที่เดินเข้ามาหาทำให้มะนาวหันไปมอง ในมือของโมนมีผ้าคลุมไหล่ผืนโตอยู่
“ขอบใจนะจ๊ะ” สัมผัสนุ่มของผ้าคลุมไหล่ที่พาดมาบนไหล่ของเธอทำให้รู้สึกอุ่นวาบขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ
“ทำไมมานั่งดูดาวข้างนอกคนเดียวล่ะ”
“แล้วจะให้มะนาวมากับใครละจ๊ะ ก็มะนาวไม่ได้มีคู่มาเหมือนใครเขานี่” พูดแล้วก็ยิ้มเศร้าๆ สนุกนะ มีความสุขนะ แต่พอกลางคืน มันก็เหงาทุกครั้ง
“มะนาวอย่าพูดแบบนั้นสิ..ยังไงมะนาวก็ยัง...ยัง..” มะนาวหันมามองโมนที่นั่ลงข้างๆและพูดจาอึกอักไม่จบประโยคเสียที ดวงตาโตจ้องเป๋งไม่ละสายตายิ่งพาให้โมนอึกอักเข้าไปใหญ่
“ยัง..ยังมี..” โว้ยยย ไอ้โมน ทำไมเรื่องแค่นี้พูดไม่ได้วะ
“ฮิฮิ มะนาวดีใจที่ตอนนี้มีโมนมานั่งข้างๆนะจ๊ะ” เสียงหวานใสเหมือนกระดิ่งลมพูดเรียบๆ แต่หัวใจของคนฟังก็พองโตไปแล้ว ถ้อยคำที่เขาอยากจะพูด กลับถูกอีกฝ่ายแย่งพูดเสียนี่ แต่ก็ดีใจเหลือเกินที่ได้ยิน
“งั้นโมนจะนั่งเป็นเพื่อนมะนาวทั้งคืนเลยดีมั้ย!”
“บ้า ใครเขาจะนั่งกันทั้งคืนละจ๊ะ ง่วงตายเลย”
“อ่า..นั่นสินะ” พอรู้ตัวว่ายิ่งพูดมากก็ยิ่งหลุดเยอะ จึงได้แต่นั่งนิ่งๆ และมองหญิงสาวตรงหน้า หญิงสาวที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรก็ลอยเข้ามาอยู่กลางใจเขาทุกวินาที รู้ตัวอีกทีหายใจเข้าออกก็เป็นมะนาวอย่างเดียว
“มะนาว ยังชอบน้ำอยู่หรือเปล่า” อยากจะตบปากตัวเองให้เลือดท่วม ถามทำไมวะ ถามไปได้ยังไงว้า ดูหน้ามะนาวสิ มองมาแบบเจ็บปวดสิ้นดี กูไม่น่าถามเล้ยยยย
“ชอบสิจ๊ะ” โมนก้มหน้านิ่งกับคำตอบนั้น มันเจ็บแปล๊บที่ใจ..
“มะนาวชอบทุกคนที่เป็นเพื่อนมะนาวทั้งนั้นแหละ” เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว ใบหน้านั้นยังแฝงความเศร้า แต่คราวนี้มันเจือรอยยิ้มที่สดใส และค่อยๆกลบความเศร้าไปจนมิด
“โมนไม่ต้องเป็นห่วงมะนาวหรอกนะ เรื่องของน้ำน่ะ มะนาวไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว เพียงแต่ว่า...”
“เพียงแต่ว่า?” โมนทวนคำพูดที่มะนาวค้างไว้ หญิงสาวยิ้มหวานและลุกขึ้นยืน
“มาด้วยกันสิจ๊ะ” มือเล็กๆที่ยื่นมาตรงหน้าดูเชิญชวนให้โมนยื่นมือไปสัมผัสตอบ...และไม่ปล่อยอีกตลอดชีวิต..
“จะไปไหนเหรอมะนาว” โมนรู้สึกว่าเสียงของตัวเองสั่นนิดๆเพราะถูกหญิงสาวที่เป็นเหมือนนางฟ้าของเขามาตลอดกำลังจูงมือเดินไปตามชายหาด
“แค่มาเดินเล่นน่ะ” มะนาวตอบแล้วก็เงียบ บางทีก็ก้มหน้า บางทีก็เงยหน้ามองท้องฟ้า โมนจึงเงียบบ้าง แต่เป็นการเงียบเพื่อที่จะรอฟังว่ามะนาวอยากจะบอกอะไร..
‘มีความสุขโว้ยยย’ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับมือข้างที่ถูกมะนาวจับอยู่ เหมือนกับฝันที่ได้จับมือนุ่มนิ่มข้างนี้จริงๆ! ตามเฝ้ามาตั้งแต่
ม.ต้น จนตอนนี้จะเข้ามหาลัยอยู่แล้ว เพิ่งจะได้จับมือ แต่แค่นี้ไอ้โมนก็ดีใจจะตายแล้ววววว
“มะนาวกำลังครุ่นคิด... มีเรื่องๆหนึ่งที่ติดอยู่ในใจของมะนาวมานานแล้ว” โมนนิ่งฟังอย่างตั้งใจและคิดตามที่มะนาวพูดในใจ
“มะนาวไม่เคยคบใคร ไม่สันทัดเรื่องความรัก มันทำให้มะนาวสับสนกับความรู้สึกนี้..
ตั้งแต่วันที่มะนาวรู้เรื่องเขื่อนกับน้ำ มะนาวก็รู้สึกว่าตัวเองเศร้า เศร้าเหมือนแบกโลกไว้สิบใบ
ไม่อยากมองหน้าน้ำตาล ไม่อยากมองหน้าเขื่อน ไม่อยากคุยกับใคร” มะนาวพูดช้าๆ เสียงหวานเหมือนจะหมดแรงพูด โมนเองแค่ฟังเฉยๆก็เจ็บไปด้วย ทำไมเขาจะไม่รู้ว่ามะนาวเจ็บแค่ไหนในตอนนั้น เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ
“แต่ว่าวันนั้น วันที่เกิดเรื่องอาจารย์ปฐพี ถึงแม้มะนาวจะสลบไปไม่รู้เรื่อง แต่มะนาวยังจำได้ถึงสัมผัสอบอุ่นที่คอยประคองมะนาวไว้เสมอ และพอลืมตาขึ้นมา ก็เป็นใบหน้าของคนที่มะนาวรับรู้ได้ว่าเขาอยู่เคียงข้างมะนาวเสมอ
แต่มะนาวก็ไม่เคยเห็นค่าของเขาเลย...” โมนหันไปมองใบหน้าของมะนาว แววตาของโมนสื่อความหมายของคำว่ารักไว้เต็มเปี่ยม มาก...มันมากเกินกว่าจะพูดออกมาได้
“มะนาวขอบใจโมนมากนะจ๊ะ ที่เลือกอยู่เคียงข้างมะนาวโดยไม่เรียกร้องมาตลอด” โมนหันไปมองใบหน้าหวานที่แดงเรื่อ อา...เขาปล่อยให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายพูดมาได้ยังไงตั้งนาน...พอคิดดังนั้น จึงแตะนิ้วลงไปที่ริมฝีปากอ่อนนุ่มของหญิงสาวเบาๆ
“มะนาวไม่ต้องพูดแล้ว โมนเข้าใจ ขอโทษนะที่ให้มะนาวเอาแต่พูดเพียงฝ่ายเดียว” โมนเข้าใจ เข้าใจแล้ว เข้าใจว่าหญิงสาวที่เขารักนั้น ก็มีความรู้สึกที่ดีให้เขาเหมือนกัน แม้เจ้าตัวจะไม่รู้ว่าใช่รักหรือเปล่า แต่แค่นี้ก็ดีมากเกินพอสำหรับโมนแล้ว..
“โมนจะรอมะนาว อีกสิบปีโมนก็รอได้ ขอแค่ให้มะนาวสบายใจ และเลือกโมนด้วยความรู้สึกจากหัวใจของมะนาว ไม่ใช่เพราะความรู้สึกรับผิดชอบเถอะนะ”
“ขอบใจนะจ๊ะโมน” ใบหน้าหวานยิ้มให้ แต่ทำไมใบหน้านั้นเคลื่อนมาใกล้ขนาดนี้...มันใกล้ขึ้นๆ และเจ้าของใบหน้านั้นก็หลับตาลง ก่อนจะแตะริมฝีปากนุ่มนิ่มที่เขาใฝ่ฝันมาทั้งชีวิตกับริมฝีปากของเขา...
“อือ..โมน” รู้ตัวอีกที โมนก็โอบมือไปที่เอวคอดนั้นและออกแรงดึงให้ร่างบอบบางนั้นแนบชิดเข้ามาอีก จากผิวกายสู่ผิวกาย จากสัมผัสสู่สัมผัส จูบที่ลึกล้ำเหมือนจะกลืนกินเขาไปทั้งตัว...
“พะ..พอแล้ว..หยุดเถอะจ้ะ..” แรงผลักเบาๆที่อกของโมนทำให้เขาต้องจำใจปล่อยร่างบางตรงหน้าออก ใบหน้าหวานๆนั่นดู
เซ็กซี่ยั่วยวนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“โมนรักมะนาวที่สุดเลย..” โมนก้มลงกระซิบข้างหูของคนที่อายจนหน้าแดงไปหมดแล้ว มาจูบเขาก่อนยังจะอายอีก น่ารักจริงๆเลยที่รักของโมน...
“ตอนนี้..มะนาวก็ให้ได้แค่นี้แหละนะจ๊ะ แต่ถ้าโมนอดใจรอ สักวันมะนาวจะให้โมนมากกว่านี้จริงๆ มะนาวสัญญา..”
“ครับ ทั้งชีวิตโมนก็รอได้” โมนกระชับกอดให้แน่นขึ้นอีก สมบัติของเขาที่ใช้เวลาไขว่คว้ามาหกปี ในที่สุดก็ได้มาเสียที แม้จะยังไม่ทั้งหมด แต่แค่นี้เขาก็พอใจที่สุดแล้ว
ปล.กรี๊ดๆๆๆ โมนเป็นสุภาพบุรุษจังเน้อออออ
แทม & เดือนวาด“ไม่ได้นะ ผมไม่ให้คุณไป”
“เอ๊ะ อะไรของเธอเนี่ย ชั้นนัดกับพริ๊นซ์ไว้แล้วนะ อุตส่าห์เที่ยวเล่นกับเด็กๆทั้งวันแล้วก็ขอออกไปหาความสนุกแบบผู้ใหญ่บ้างสิ” ประโยคที่ทำเอาแทมเดือดเป็นไฟถูกตะโกนออกมาไม่ขาดสาย ทั้งที่จริงแค่ไปผับแค่นี้ทำไมเขาจะไม่ให้ไป แต่พอเห็นแม่เจ้าประคุณทั้งสองแต่งตัวกันเหมือนอัตคัตผ้าผ่อนแล้วก็ให้หงุดหงิดจนทนไม่ไหว ส่วนคุณพรี๊นซ์น่ะเหรอ ถูกไอ้เทมส์ลากเข้าห้องไปแล้ว ดังนั้นเลยเหลือแต่คุณเดือนที่เขาต้องฉุดกระชากลากถูให้เข้ามาเคลียร์ในห้องที่คุณเดือนพักเพราะเกรงใจไอ้เขื่อนกับน้ำที่เข้าไปนอนนานแล้ว
“คุณจะไปหาความสนุกหรือจะไปจับผู้ชาย แต่แน่ละ แต่งตัวแบบนี้คงเดินน้ำลายหกตามคุณมากันเป็นแถว” แทมมองชุดที่เดือนวาดใส่ด้วยความโมโห ชุดเดรสซีทรูสีดำที่มองเห็นข้างในเป็นเกาะอกและกางเกงสั้นจุ๊ดจู๋ ทำไมผู้หญิงคนนี้ชอบแต่งตัวยั่วยวนนะ!!
“เออ ทำไมชั้นละ ก็ชั้นไปเที่ยวแบบคนโสดไงยะ ผู้ชายเขาก็ต้องเดินตามชั้นสิ”
“ใช่สิ ผมมันไปกับคุณไม่ได้ไง คุณเลยไประเริงสนุกสนานกับผู้ชายอื่นได้” ก็แล้วแทมจะไปผับได้อย่างไร เพราะยังอายุไม่ถึง 20 เลยนะจ๊ะ เดือนวาดส่ายหัวอย่างระอา ไอ้เด็กนี่มันจะทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเกินไปแล้วนะ!
“กรี๊ดดด ชั้นเบื่อๆๆๆ” เดือนวาดอดรนทนไม่ได้ อยู่กับไอ้เด็กนี่ทีไรเธอสติแตกทุกทีสิน่า ทั้งๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตอนที่คบกับปัฐเธอไม่เคยวีนเลยสักครั้งหนึ่งนะ!
“คุณเดือน โตแล้วอย่ามาทำตัวเป็นเด็กนะ” แทมตวาดซ้ำ ทำไมจะพูดดีๆกับเขาไม่ได้เลยนะ
“เธอมีสิทธิ์อะไรมาว่าชั้น เธอไม่ได้เป็นอะไรกับชั้นเลยนะไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม!”
“คุณกล้าพูดได้ยังไงว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วผู้หญิงคนที่ร้องครวญครางออดอ้อนอยู่ใต้ตัวผมวันนั้นน่ะ มันใครวะ!” นึกแล้วก็ยิ่งแค้น พอเหล้าเข้าปากก็มาออดอ้อนเขาไม่ห่าง ทั้งๆที่ยังจำสัมผัสของร่างกายนุ่มเนียนนั่นได้ไม่ลืม แล้วไหนจะหน้าอกหน้าใจเหลือล้นนั่นอีกล่ะ มันเป็นของเขาคนเดียวโว้ยยยย
“อ๊ะ ไอ้เด็กบ้าๆ พูดอะไรมา ชั้นไม่รู้เรื่องสักหน่อย อย่ามาลามปามนะ!” แทมปราดเข้าไปล็อกเอวเดือนวาดมาแนบชิดทันทีที่
ได้ยินคำนั้น คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก ดูสิว่าเด็กอย่างเขาจะทำให้คุณเดือนกระอักความสุขได้มั้ย?
“อือ อ๊ะ..” เสียงหวานรัญจวนเล็ดลอดจากปากของคนที่ทำสีหน้าเย้ายวนเหมือนจะขาดใจให้ได้ แทมขบเม้มเนื้ออุ่นตรงซอกคออย่างหมั่นเขี้ยว แค่ไซร้นิดหน่อยก็อ่อนระทวยเสียแล้ว
“ผมรู้นะว่าคุณไม่ได้อยากไป แต่คุณแค่จะยั่วผมล่ะสิ” แทมลูบไล้ผิวเนียนที่หัวไหล่ของคนบนตักอย่างเพลินใจ ออกแรงฟัดให้หมดแรงและสงบลงแล้วจึงลากมานั่งตักบนโซฟานุ่มๆตัวนี้ ไฟในห้องก็ปิด ปล่อยให้มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาในห้องนี้
“หลงตัวเอง ใครเขาอยากจะเรียกร้องความสนใจจากเธอล่ะ” เสียงหวานๆที่เอ่ยออกมาเบาๆทำให้แทมอมยิ้มก่อนจะจรดริมฝีปากตรงขมับเนียน
“ก็คุณไง พระจันทร์ดวงเดียวของผม” เดือนวาดหน้าแดง แอบแหงนหน้าไปมองเด็กบ้านั่นนิดหนึ่งก็เห็นแต่ใบหน้าหล่อเหลา แนวกรามที่มีไรหนวดจาๆบ่งบอกว่ากำลังโตขึ้นเรื่อยๆ แทมแข็งแกร่งขึ้นมาก โตขึ้น หล่อขึ้น แต่เธอนั้นก็แก่ลงทุกวัน และอาจมีวันที่เขาเบื่อคนแก่ๆอย่างเธอ
“คุณเดือนเห็นพระจันทร์ไหม ผมชอบพระจันทร์มากเลยนะ แสงมันนวลตา เห็นแล้วผมก็รู้สึกสบายใจ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ร้อยปี พระจันทร์ก็ยังคงเป็นพระจันทร์ดวงเดิม ที่งดงามเหมือนเดิม จริงมั้ย?” เทมส์กระชับแขนที่กอดเดือนให้แน่นขึ้นอีก อยากจะอยู่แบบนี้ไปนานๆ แต่จนได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆจึงต้องจับเดือนวาดให้หันหน้ามา
“คุณเดือนร้องไห้ทำไม??”
“ไม่ต้องมายุ่งกับชั้น เด็กบ้า เด็กปากดี ฮึก..ไม่ต้องมาสนใจ”
“ผมจะไม่สนใจได้ยังไง ในเมื่อรู้ตัวอีกที หัวใจของผมก็มีแต่คุณ สายตาของผมก็เฝ้าแต่มองหาคุณ แล้วแบบนี้ผมจะไม่สนใจคุณได้เหรอ”
“แต่...แต่ว่าชั้น...ไม่เหมือนพระจันทร์หรอกนะ ชั้นเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ไม่ได้งดงามเหมือนพระจันทร์หรอกนะ..”
“อืม เรื่องนั้นผมรู้ แต่ผมก็รักคุณเดือนที่แก่ได้ ไม่ใช่คุณเดือนที่อยู่ยงคงกระพันนี่นา สำหรับผม คุณมีค่ามากกว่ารูปกายภายนอกนะ” แทมลูบหลังของคนที่เริ่มหยุดสะอื้นและช้อนตามองเขาอย่างออดอ้อน ไม่ว่ามองยังไงก็เหมือนสาวแรกแย้ม ไม่เห็นจะโตสักที..
“จริงเหรอ..” ปากเล็กๆนั่นพร่ำถามคำเดิมมาหลายครั้ง เห็นทีจะต้องทำให้หยุดพูดสักที
“อื้อ..” รสจูบที่ตอบกลับมาแทนคำพูดน่าจะพิสูจน์ได้ดีกว่าสิ่งไหน ริมฝีปากบางของเดือนวาดชุ่มฉ่ำและหวานหอมเหมือนน้ำผึ้ง ก็เดือนวาดน่ารักเสียขนาดนี้ เขาจะหนีไปไหนได้ล่ะ
“เพราะเธอแท้ๆเลยนะแทม ที่ทำให้ชั้นเป็นแบบนี้..” มือเล็กดันอกเขาออกและเงยหน้ามาพูดด้วย
“แบบนี้? ยังไงเหรอครับ”
“เดี๋ยวนี้น่ะ ชั้นเป็นยัยเจ๊หัวงูไปแล้วนะ เวลาเห็นเด็กหนุ่มๆตัวโตๆหน้าหล่อๆแล้ว ชั้นคอยจะมองเหลียวหลังอยู่เรื่อยเลย” ท่าทางที่แสนน่ารัก นิ้วชี้ที่เขี่ยวนอยู่บนอกเขาช่างน่ารักเกินห้ามใจ แต่ไอ้ประโยคนั้นมันหมายความว่ายังไง!!
“ไม่ได้นะคุณเดือน คุณจะมองคนอื่นไม่ได้สิ”
“เอ๋..แต่เด็กหนุ่มๆน่ารักดีออกนะ เวลาชั้นมองแล้วก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยดี” เห็นท่าจะพูดไม่รู้เรื่อง คงต้องทำให้จำเอาไว้เสียแล้วว่าถ้ามองคนอื่นนอกจากเขาแล้วจะเป็นยังไง..
“อ๋า แทม..อย่านะ ไม่เอา คนอยู่กันเยอะแยะ” เดือนวาดโวยวายทันทีเมื่อเห็นแทมเดินไปล็อกประตูห้อง
“เขาอยู่ข้างนอก ไม่ได้อยู่ในห้องเสียหน่อย” ตรวจดูว่าล็อกแน่นหนาแล้ว ก็หมุนตัวกลับมาหาคนที่นั่งเลิ่กลั่กอยู่บนโซฟา
“คุณชอบไม่ใช่เหรอ เด็กหนุ่มน่ะ ลองสัมผัสผมดูสิ” แทมถอดเสื้อโชว์ร่างกายที่แข็งแรงด้วยกล้ามเนื้อ ดึงมือเล็กที่สั่นอยู่นั้นมาแตะลงบนแผงอก ใบหน้าสวยเก๋นั้นดูหวั่นไหว แต่มือเล็กก็ยังคงลูบไล้ไม่ลดละ
“ชอบมั้ยครับ”
“อือ ชอบ..ชอบจ้ะ”
“งั้นผมจะทำให้คุณชอบมากกว่านี้”
“มากแค่ไหนเหรอ?”
“มากจนละสายตาจากผมไปมองคนอื่นไม่ได้เลย”
>>>>> TBC