12.2
ผมครางในลำคอเมื่อทีมก้มลงมาจูบ มือหนึ่งประคองหน้าผมเอาไว้ ส่วนอีกมือก็ล้วงเข้าไปหลังคอพร้อมคลึงเบาๆ เป็นการปลุกอารมณ์ผมไปอีกทาง แค่อึดใจเดียวไอ้ทีมที่ดูเหมือนจะมีอารมณ์กรุ่นๆ มาอยู่แล้วก็เริ่มรุกหนักขึ้น ปลายลิ้นเริ่มสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของผมและตวัดเกี่ยวรัดกับลิ้นของผมไปมาช้าๆ
ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้หญิงหลายคนถึงยอมเพียงเพื่อจะมีอะไรกับไอ้เหี้ยนี่
ทีมไม่ได้เห็นแก่ตัวมากพอจะพาตัวเองให้ไปสู่ปลายทางเพียงคนเดียว แม้มันจะดูเป็นผู้นำอยู่เสมอ แต่ก็นำเพียงก้าวเดียวเท่านั้น มันค่อยๆ จูงผมไปตามทำนองอารมณ์ช้าๆ รอจนมีการตอบสนองมันถึงเริ่มสอนบทเรียนใหม่ให้
“ดะ..เดี๋ยว ทีม” ผมระล่ำระลั่กออกมาเมื่อไอ้ห่านป่ามันยอมละริมฝีปากออกให้ได้หายใจ ใบหน้าผมร้อนวูบวาบจนคล้ายมีเปลวไฟอยู่ไม่ห่าง ทีมมันยิ้มออกมาแล้วจูบแก้มผมแรงๆ สองที
“มีอะไรครับ”
“ไป..ไปทำบนห้อง” ผมพูดแทบไม่เป็นคำเมื่อมือหนึ่งของไอ้ทีมที่เคยระไปมาอยู่แถวสันคอเลื่อนลงไปคลึงหน้าอกผมด้วยแรงที่ไม่มากแต่ก็ไม่เบาเกิน
“ตามบัญชาครับ” มันบอกด้วยรอยยิ้มยั่วเย้า ผมยิ่งรู้สึกอายมากขึ้นเมื่อสำนึกได้ว่าตัวเอง..”เป็นฝ่ายเริ่มก่อน” ทั้งที่เมื่อก่อนผมก็ใช่ว่าจะอินโนเซนต์อะไรมากมาย แต่พอเจอหน้ามันทีไร ไอ้ทีมก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กตัวเล็กๆ ที่ต้องการการชี้นำและชักจูงจากมัน
ทั้งที่จากห้องนั่งเล่นขึ้นไปบนห้องนอนไม่ได้ไกลอะไรมากมายนัก แต่ทุกวินาทีที่เดินขึ้นไป ทีมมันจูบผมเบาๆ ไปตลอดทาง แน่นอนว่ามันไม่ได้อุ้มแต่มันดันให้ผมหันหลังขึ้นบันได ทำท่าว่าจะล้มก็อยู่หลายครั้งแต่ไอ้ห่านป่าก็ยังรั้งเอาไว้ในอ้อมกอดของมันแน่น
ประตูห้องนอนของมันถูกเปิดและปิดลงด้วยมือคู่เดียวกันกับที่โอบผมเอาไว้ เพียงเดินเข้ามาในที่ลับตาคนได้ ไอ้เหี้ยทีมก็ออกลายทันที มันตรงเข้ามาจูบผม แลกลิ้นกันจนลมหายใจติดขัดอยู่พักใหญ่ เสื้อผ้าก็เริ่มกลายเป็นสิ่งเกินความจำเป็น ทุกอย่างลื่นไหลราวกับร่างกายของผมและมันรู้จักกันดีอยู่แล้ว
ไอ้ทีมที่เหลือเพียงกางเกงยีนส์ขายาวก็ผลักผมที่ไม่เหลืออะไรนอกจากกางเกงชั้นในลงบนเตียง ริมฝีปากอุ่นร้อนจูบไล่จากต้นคอลงไปยังยอดอก วนเล่นอยู่นานจนผมทนแทบไม่ไหว ทั้งที่ไม่ได้ต้องการแต่ร่างกายก็บิดเร่าพร้อมเสียงครางที่ลอดออกจากปากแบบที่ไม่น่าเชื่อว่านี่คือเสียงของผม
“อะ อ๊า ทีม ทีม...อื้อ!” ผมร้องเสียงดัง เมื่อมือหนึ่งของมันลูบเข้าที่ส่วนกลางลำตัว ไอ้ทีมเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้วูบหนึ่ง มันสบตากับผม แววตาคู่นั้นบอกผมให้รู้ชัดถึงสิ่งที่มันจะทำต่อไป จนผมรับรู้ได้...ใจตัวเองกำลังสั่น
กางเกงชั้นในตัวบางถูกไอ้ห่านป่ามันรูดออกไปทางปลายเท้า ลมหายใจร้อนผ่าวระอยู่ที่ตรงนั้นของผม มือหนึ่งจับหมับเข้าที่ส่วนโคนก่อนจะรูดขึ้นลงเบาๆ สัมผัสต่อมาคือสิ่งที่ผมไม่ทันได้คาดคิด ปลายลิ้นเปียกชื้นทว่าร้อนเร่ากำลังหยอกล้อกับส่วนปลายของผม
“ทีม อย่า มึง...” ผมได้ยินตัวเองพึมพำออกไป ทว่านาทีนี้ต่อให้โลกแตก ทีมมันก็คงไม่สนใจอะไรอีกแล้ว สัมผัสเปียกชื้นครอบกลืนส่วนอ่อนไหวของผมไปจนหมด “อะ อา...ทีม...ทีม....”
ผมพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ร้องเรียกชื่อมันและครางออกมาอย่างไร้ยางอาย ทีมมอบความสุขที่แทบล้นออกจากอกให้ผมจนเกือบสุดปลายทาง มันก็ขยับตัวขึ้นมาจูบอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ดวงตายาวรีบัดนี้เปี่ยมด้วยความต้องการที่อบอุ่นจนเซ็กส์ซี่เป็นบ้าเป็นหลัง มันจับจ้องผมไปทุกส่วน
“เห็นหมดทุกส่วนแล้วนะ” มันบอกพร้อมยิ้มกว้าง
“มึงมันนิสัยไม่ดี” ผมด่า
“ที่ล้อมึงน่ะเหรอ...กูยังเลวได้มากกว่านี้อีกนะ” ทีมบอกขำๆ แล้วจูบผม...อีกครั้ง...และอีกครั้ง
จูบของทีมวันนี้ไม่เหมือนทุกที ปกติแล้วมันจะจูบผมเหมือนแค่เอาปากแตะกัน แต่วันนี้เปี่ยมทั้งความรัก ความต้องการ ความเอาแต่ใจ และอยากครอบครอง...แทนที่ผมจะเกรงในสัมผัสนั้น กลับกัน ผมกลับอยากให้มันจูบมากกว่านี้ รักผมให้แรงกว่านี้....
“ทำให้กูไหวมั้ยฝุ่น”
ผมพยักหน้าที่ร้อนจนแทบระเบิดให้มันแทนคำตอบ ทีมยิ้มออกมาอีกครั้ง ก่อนจะพลิกตัวเองไปนอนอยู่ด้านล่างโดยมีผมคร่อมมันเอาไว้ด้วยท่าทางที่เงอะงะ
“ถอดกางเกงให้หน่อยนะ เหนื่อยแล้วอะ”
แล้วผมจะเลือกอะไรได้(วะ)!
ผมจัดการปลดเข็มขัดและถอดกางเกงยีนส์ของไอ้ห่านป่าออกอย่างยากลำบาก เพราะขามันเดปเกินไป ทีมหัวเราะนิดหน่อยตอนมันช่วยผมจัดการดึงกางเกงออกทางปลายเท้า
ทีมมันจัดการเอาหมอนมากองสุมๆ กันไว้ที่หัวเตียงก่อนจะนั่งพิง เพื่อจะคุมจังหวะผมได้ง่ายๆ แต่แหมะ...ถอนตัวตอนนี้ยังทันป่ะวะ
ผมอายตัวเองแล้วก็เขินมันตอนที่ทั้งตัวผมและทีมเองไม่เหลือเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น กลายเป็นชุดวันเกิดกันซะอย่างนั้น ถึงข้างนอกจะดูว่าไอ้คุณชายมันผิวค่อนไปทางขาวแต่อาจเพราะต้องออกงานกลางแจ้ง รวมไปถึงเล่นกีฬาทำให้ดูคล้ำกว่าส่วนที่ไม่โดนแดดค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะ...ที่เป็นสีเนื้อธรรมดาก็จริง แต่ส่วนปลายยอดติดจะอมชมพูเหมือนแก้มเด็กเลยด้วยซ้ำ และที่สำคัญตอนนี้ไอ้ทีมกำลังเสียมารยาท เพราะมันปล่อยให้ลูกชายสุดรักสุดหวงของมันชี้หน้าผมอยู่อย่างนั้น ไม่คิดจะตักเตือนลูกเลยจริงๆ
“อึ้งอะไร ทำแบบนี้กูก็เขินสิ”
“หน้าระดับมึงยังสะกดคำนั้นเป็นอีกเหรอ” ผมบอกกลบเกลื่อน แต่คิดว่ามันก็รู้แหละครับว่าผมอาย เพราะแม่งยิ้มกว้างกว่าเดิมอีก ฮึ่ม
“ทำสิ” มันสั่งเสียงอ่อน
“สอนสิ” ผมสั่งบ้าง ทีมหน้าเหวอไปเล็กน้อย ก่อนจะปรับอารมณ์ได้ มันยิ้มออกมาบางๆ แล้วเอื้อมมือมาจับส่วนนั้นของตัวเองรูดเบาๆ น้ำเหนียวๆ สีขุ่นนิดๆ ไหลออกมาจากตรงปลาย ผมยิ่งหน้าร้อนหนักกว่าเก่า
“ไม่ลองจับเหรอ ของล้ำค่าเลยนะ”
เดี๋ยวกูจะขโมยไปโยนให้เป็ดกิน แสรด
เมื่อเสนอมา ผมก็สนองให้ด้วยการรับลูกชายมันมาถือไว้ในกำมือ แล้วรูดขึ้นลงเบาๆ ไอ้ทีมครางเสียงสั่นในลำคอด้วยความเสียวซ่าน ผมพยายามปลอบใจตัวเองขณะที่สายตาจับจ้องยังลูกชายตัวใหญ่ของไอ้คุณชายห่านป่านิ่ง
มันจะยากอะไรวะฝุ่น ก็คิดซะว่าทำให้ตัวเองอยู่...แต่ประเด็นคือ กูไม่เคย-อมของตัวเองนี่สิ ทำไงไม่ให้ฟันครูดล่ะครับไอ้ห่านป่า!!
“ไม่ลองเลียดูเหรอ จ้องมันเฉยๆ กูไม่แตกหรอกนะ” ไอ้ทีมมันเร่ง แต่ขอโทษเว้ย กูไม่เคยทำ ดีสอีสมายเฟิร์สไทม์ ยูโน๊ว!?
ว่าแล้ว ผมก็กลั้นใจ เอาวะตายเป็นตาย...ลองแลบลิ้นออกมาสัมผัสกับส่วนปลายของลูกชายมันเบาๆ ไอ้เหี้ยทีมห่อปากครางอย่างไม่ทันตั้งตัว การทำออรัลไม่เลวร้ายอย่างที่ผมคาดเอาไว้ ลูกชายมันก็เหมือนกับผิวเนื้อธรรมดา แค่มันร้อนกว่า มีความรู้สึกมากกว่า แข็งกว่า....และพ่นน้ำได้
ผมพยายามห่อปากเก็บฟันขณะที่เริ่มได้ใจกับเสียงครางของมัน แล้วปฏิบัติการจู่โจมขั้นต่อไป จากแค่แลบลิ้นเลียไอ้ทีมก็เริ่มขอมากกว่านั้น ผมรู้สึกได้ว่ามันเริ่มหายใจแรงขึ้นเมื่อผมก้มลงไปใช้โพรงปากห่อหุ้มส่วนหัวเข้าไปทั้งหมด
ผมก็ไม่รู้หรอกนะครับ ว่าการทำออรัลที่ดีและถูกเป็นยังไง แต่จากประสบการณ์ที่สั่งสม(มาบ้าง) และจากที่ไอ้ทีมมันสาธิตให้ดูเมื่อครู่ ก็พบว่า...อย่าให้ฟันครูดกับลูกมันจะเป็นการดีที่สุด ไม่อย่างนั้นแทนที่จะได้เสียวจนขึ้นสวรรค์ คงได้หน้าดำหน้าแดงเพราะเจ็บตัวกันไป
จากตอนแรกที่ผมทั้งเขินทั้งอาย จนตอนนี้ได้ยินทั้งเสียงครางแหบต่ำจากอารมณ์ที่พุ่งสูงของทีม รวมถึงฝ่ามือร้อนที่ไล้ไปทั่วแผ่นหลัง และสะโพก ทำให้ร่างกายผมรู้สึกพร้อมมากขึ้น มือข้างหนึ่งพยายามประคองลูกชายทีมไว้ ลิ้นก็พยายามมอบความสุขแบบเดียวกันกับที่มันเคยให้ผม แต่ดูเหมือนว่าแค่นี้คงยังไม่พอใจ ทีมถึงได้ดึงผมขึ้นนั่งอ้าขากว้าง คร่อมอยู่บนตัวมัน
“จูบหน่อย” ทีมกระซิบบอกข้างหู ผมที่หน้ามืดมัวเมาไปกับทุกอย่างที่มันร้องขอก็สนองกลับไปให้ถึงใจ
“อ๊ะ!” มันใช้จังหวะที่ผมเผลอ รวบลูกชายของมันกับของหวงของผมไว้ด้วยกันแล้วเริ่มออกแรงขยับมือ จากเบากลายเป็นหนัก ผมหอบขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต่างอะไรกับทีมที่แลบลิ้นเลียตรงหูแล้วกัดมันเบาๆ ด้วยความต้องการ
“อยากเข้าไปจัง อยากทำกับฝุ่น” มันกระซิบเสียงแหบต่ำ ขณะที่มือยังไม่หยุดขยับมอบความสุขให้กับผมและตัวมันเอง
“อา...ทีม...เร็วกว่านี้ จะไม่ไหวแล้ว” ผมพึมพำ แทนที่ไอ้ทีมจะยอมช่วยผมให้เสร็จไปดีๆ มันกลับหยุดมือแล้วพลิกตัวผมลงนอนดังปุ่ก ทั้งที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ผมก็รู้สึกได้ถึงแรงจูบที่กดหนักไปทั่วแผ่นหลังก่อนจะเผื่อแผ่ไปจนถึงสะโพกและช่องทางที่ไม่ได้ใช้งานมาพักใหญ่ๆ “ทีม มึงจะทำอะไร”
ผมถามตื่นๆ แต่ก็ไม่ได้คำตอบที่ดีพอ ไอ้ทีมทำเพียงเอื้อมมือไปหยิบขวดออยล์ทาตัวจากโต๊ะหัวเตียงมาเปิดแล้วเทลงไปเท่านั้น ผมสะดุ้งและพยายามขยับหนีด้วยความหลังฝังใจตั้งแต่มันพยายามจะทำกับผมในห้องน้ำ แต่นาทีนี้ขณะที่กำลังหน้ามืด ไอ้ทีมไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนผมก็ไม่อาจทราบได้ มันยึดตัวผมเอาไว้แน่นแล้วเริ่มทาออยล์ลงไปแถวๆ นั้น
“ทีม...ทีม ไม่เอานะ กูไม่เอา” ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังละเมอ ร่างกายกำลังต้องการ แต่อีกใจหนึ่งก็พร่ำร้องเตือนตัวเองว่าคราวก่อนมันทำให้ผมเจ็บยังไงบ้าง
“ชู่ว..ใจเย็นๆ ไม่เจ็บนะ” มันกระซิบบอก ก่อนจะค่อยๆ สอดปลายนิ้วเข้าไปในร่างกายผมช้าๆ อาจเป็นเพราะแรงอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงจัด ทำให้ทุกอย่างง่ายกว่าที่ผมคาดเอาไว้มาก เพียงไม่นานทีมมันก็เริ่มหมุนปลายนิ้วไปมา แล้วสอดเข้ามาลึกขึ้น
“อือ....ทีม” ผมคราง ก่อนจะสะดุ้งกับนิ้วที่สองที่แตะแล้วเริ่มดันเข้ามา มันไม่หยุดให้ผมได้มีโอกาสดิ้นหรือหายใจแม้แต่น้อย เมื่อนิ้วที่สองเริ่มชินมันก็เริ่มเตรียมการขั้นสุดท้ายทันที
ไอ้ทีมทิ้งผมที่นอนหมดสภาพ ไม่สามารถขยับหนีมันไปไหนได้อีกแล้ว ลุกขึ้นเทออยล์ลงบนฝ่ามือก่อนจะทาเข้าที่ลูกชายของมันให้มีความหล่อลื่นมากขึ้น
“เชื่อใจกูนะ”
“ทีม มึงใส่ถุงยางเดี๋ยวนี้” ผมร้องเสียงดังแล้วพยายามดิ้น แต่มีหรือที่มันจะฟัง ไอ้เหี้ยทีมจับผมพลิกคว่ำอีกครั้ง มันยึดแถวกลางหลังผมเอาไว้ไม่ให้ขยับไปไหนในขณะที่ส่วนปลายของลูกชายมันเริ่มแตะเข้ากับปากทางของผม
จากแค่แตะ มันก็เริ่มดันและสอดแทรกเข้ามาช้าๆ ถึงจะมีออยล์ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่เจ็บและไม่อึดอัด เมื่อส่วนหัวมันเข้าไปได้จนหมด ผมก็เริ่มทนไม่ไหว ไอ้เหี้ยทีมมันจับใบหน้าผมให้หันไปรับจูบ แต่ผมก็สะบัดออก
“ฝุ่น!” มันดุ แล้วจับผมให้หันไปรับจูบจนได้
ทีมที่สังเกต(เอาเอง) ว่าผมเริ่มปรับตัวได้กับการทักทายของลูกชายมัน ก็เริ่มดันตัวเข้ามาช้าๆ พร้อมเสียงครางต่ำแหบ มันพยายามปลุกเร้าอารมณ์ผมให้ลืมความเจ็บด้วยการเอื้อมมือมารูดเอาแถวๆ ตรงกลางลำตัวของผม เมื่ออารมณ์เริ่มพุ่งขึ้นสูงอีกครั้ง ทีมก็ขยับตัวเข้าหาจนแนบสนิท
“อา...อุ่นมากเลยฝุ่น รัดแน่นมาก” มันก้มลงมาครางที่ข้างหูแล้วจูบไซร้ที่กกหู ก่อนจะขบเม้มแรงๆ ตรงซอกคอผม “กูรักมึงนะ...รักมึงคนเดียว”
มันกระซิบก่อนจะเริ่มขยับเข้าและออก..จากช้า เริ่มเป็นเร็ว...
ผมได้แต่นอนรับอารมณ์มัน ไม่มีแรงสามารถโต้ตอบอะไรได้อีกต่อไป ทีมมันเป็นนักรักตัวจริง...มันไม่ได้มีความสุขคนเดียว แต่กลับหยิบยื่นความสุขที่เต็มเปี่ยมนั้นให้ผมได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะขยับเบาหรือแรงเพียงใด ทั้งหมดนั้นไม่มีความทรมานแม้แต่น้อย มีเพียงความสุขที่แทบล้นทะลักออกจากร่างกายผมได้ในทุกวินาทีข้างหน้า
“ทีม...ทีม...กูไม่ไหวแล้ว อื้อ แน่น...” ผมครางไม่ได้ศัพท์ รับรู้ได้ถึงแรงกระแทกที่ถี่เร็วและแรงขึ้นจนไม่นานโลกทั้งใบก็เหมือนกลายเป็นสีขาวโพลนไปชั่วขณะ เสียงครางแหบพร่าของทีมดังขึ้นไม่ห่างจากตัว มันทรุดลงนอนกอดผมเอาไว้แน่น หอบหายใจแรงไม่ต่างกัน
พักใหญ่กว่าทีมและผมจะเริ่มหายใจเป็นปกติ เสียงหัวใจที่เต้นรัวเร็วของมันดังก้องอยู่ที่หลังผม ความร้อนที่แนบเข้ามาในร่างกายก็ยังไม่ยอมถอยห่าง กลับกันไอ้เหี้ยทีมมันทำตัวเลวกดเข้ามาแน่นขึ้นเป็นจังหวะ
“ไม่อยากเอาออกเลย” มันพึมพำ แต่ผมที่เริ่มทนน้ำหนักมันไม่ไหวก็เอาศอกกระทุ้งมันเบาๆ
“แต่กูหนัก”
“งั้นถ้านั่งแบบนี้ก็ไม่หนักใช่ป่าว” มันบอกล้อๆ
“เหวอ~!” ผมร้องลั่น เมื่อมันพลิกตัวผมให้ลุกขึ้นมานั่งพิงหลังมันแทน ทั้งที่ยังไม่ยอมถอยออกไป เพราะท่านั่งเป็นใจ ไอ้เหี้ยทีมมันเลย........
ต่ออีกรอบ....
ฟักยูแมน!!!
“กูเกลียดมึง!”
ผมที่นอนพังพาบอยู่บนเตียงหันไปตะโกนใส่หน้ารื่นเริงที่พยายามทำเป็นหงอยๆ ของมัน ไอ้ทีมยิ้มกว้างแล้วเอาผ้าชุบน้ำอุ่นหมาดๆ มาเช็ดหน้าเช็ดมือให้อย่างเอาใจ
“น่า สุดท้ายก็เสียวไม่ใช่เหรอ” มันยังมีอารมณ์มายั่วเย้าผมอีกนะ
มันก้มลงมาจูบปากผมเบาๆ อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่ผมจะทันสังเกตเห็นรอยข่วนแดงๆ เต็มอกมันไปหมด...เออ กูก็ร้อนแรงเหมือนกันนี่หว่า เอิ้ก
“เจ็บนะเนี่ย” มันนั่งลงที่พื้นข้างเตียงเพื่อที่หน้าจะได้อยู่ระดับเดียวกันพลางบอก เมื่อเห็นว่าสายตาผมไปหยุดอยู่บนรอยข่วนนับสิบรอยบนอกมัน
“วันหลังก็อย่าทำกับกูสิ” ผมบอกแล้วพลิกตัวหันหลังให้ โอ้ก....ขนาดพลิกตัวยังเจ็บก้นและเมื่อยไปทั้งตัวได้ขนาดนี้ แล้วพรุ่งนี้ต้องนั่งรถไปต่างจังหวัด กูจะทำยังไงดีครับนี่
“แหงะ ไม่เอาน่า กูก็แซวเล่นหรอก” มันมาสะกิดๆ เอาที่ไหล่แล้วยื่นหน้ามางับเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว “ว่าแต่มึงเถอะ เจ็บมากรึเปล่า”
“ถ้าอยากรู้ กูจะลองจิ้มมึงบ้างดีมั้ย” ผมถามทั้งที่ยังนอนหันหลังให้
“ไม่ดีนะความคิดนั้น” มันหัวเราะแห้งๆ “กูถามเพราะเป็นห่วง ไม่ได้อยากรู้ว่ามันเจ็บขนาดไหน”
“เจ็บ...มากด้วย” ผมบอกเคืองๆ แม่งเล่นจิ้มซะไม่ได้สงสารกูเลย สำนึกบ้างสิว่าพ่อมึงใจดีให้มาเยอะ แล้วกูก็ไม่ได้โปรขนาดถอดกางเกงแล้วยื่นให้จิ้มได้นะโว้ย
“โอ๋ๆ งั้นพรุ่งนี้ทีมพาไปกินอาหารทะเลอร่อยๆ นะครับนะ” มันลุกมานั่งข้างผมแล้วเอนตัวลงนอนกอดอย่างเอาใจ มือข้างหนึ่งโดนไอ้ทีมจับเอาไว้หลวมๆ
“สัญญาแล้วนะ” ผมพึมพำ ต้องรีบบอกก่อนครับ ไม่งั้นถ้าพรุ่งนี้ผมเกิดเป็นไข้ขึ้นมา จะมางอแงไม่พาไปไม่ได้นะโว้ย
“อืม สัญญาสิ เกี่ยวก้อยด้วย” ทีมยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับผมแบบร่าเริง ทั้งที่ผมน่ะรู้สึกเหมือนคางกำลังจะเหลือง.....ฮืออ เกิดเป็นฝุ่นนี่ลำบากแท้
โชคดีที่ผมไม่ได้เป็นไข้ เนื่องจากทีมมันเอายาให้กินดักเอาไว้ รวมถึงคอยเช็ดตัวให้ตลอด ตอนเช้าผมตื่นมาเพราะเสียงกุกกักในห้องจนตอนแรกนึกว่าห้องไอ้ทีมมีหนู ปรากฏว่าห่านครับ ห่านป่ายักษ์...แหะๆ ล้อเล่น ไอ้คุณชายมันกำลังจัดกระเป๋ายัดเสื้อผ้าที่จะเอาไปสำหรับสามวันสองคืนให้ผมและตัวมันเอง
“งือ...ทำไมตื่นเช้าจังวะ” ผมถามออกไป ทีมมันสะดุ้งนิดหน่อย คงเพราะอยู่ๆ ผมก็ทักน่ะครับ ห่านป่ามันลุกขึ้นจากกองกระเป๋ามาหา
“ปวดหัวรึเปล่า”
“ไม่ แต่ง่วงนอน”
ทีมมันหัวเราะกับคำตอบของผม แล้วบอกให้ไปอาบน้ำ นี่เกือบเก้าโมงเช้าแล้ว ไปถึงทะเลจะได้ไม่ร้อนมาก
เอาสิครับ ได้ยินคำว่าทะเล ผมถึงกับตาสว่างลุกขึ้นยืนทันที ทว่า...
“โอ๊ย!” ครึ่งล่างปวดมากครับ โดยเฉพาะตรงสะโพกที่เมื่อวานไอ้ทีมใช้งานซะคุ้มค่า
ทีมมันรีบยื่นมือมาคว้าผมเอาไว้ ก่อนจะพาไปส่งที่ห้องน้ำ
“ไม่ต้องอาบน้ำก็ได้นะ เมื่อคืนกูเช็ดตัวให้ตั้งหลายรอบ ผิวจะใสแล้วมั้ง”
“กูไม่อยากเน่าไปทะเล”
“หึหึ เจอกลิ่นทะเล มึงก็เน่าแล้ว” มันตอบ พอดีกับที่ผมนึกอะไรบางอย่างออก
“ทีม” ห่านป่าที่กำลังจะเดินกลับไปยังกองกระเป๋าก็หันกลับมาหาผม ตอนนั้นเอง...
จุ๊บ “อรุณสวัสดิ์”
ทีมเหวอไปเลยครับ แต่ก่อนที่มันจะตั้งสติได้ ผมก็ปิดประตูห้องน้ำไปแล้ว คริคริ
“เฮ้ย ฝุ่น ออกมาให้จูบก่อน เร็วเข้า!!”
ออกไปก็โง่สิ ว่ามั้ยครับ? (หัวเราะชั่วร้าย)
เจอกันตอนที่สิบสามจ้ะ
eiizes’s talk
มาต่อให้ตามสัญญาแล้วน้า
หวังว่าตอนนี้คงถูกใจสำหรับแม่ยกที่รอคอยลุ้นว่าคู่นี้เมื่อไหร่มันจะได้กัน (ฮา)
อืม บอกก่อนเลยละกันค่ะว่าฉากอะฮิ้วฟีทเจอริ่งแบบนี้มีบ้าง แต่อาจจะไม่มาก ไม่อยากให้คนอ่านทุกท่านมองว่านิยายเรื่องนี้ขายฉากนั้นนะ =_=
คือมันเป็นแค่ความเห็นส่วนตัวเฉยๆนะคะ ว่าเซ็กส์เป็นแค่ส่วนหนึ่งของความรัก มีมันเพื่อให้ความสัมพันธ์แน่นขึ้น ไม่ใช่รักเพื่อที่จะมีเซ็กส์ (กร๊ากก วิชาการ)
อ่อ อีกอย่างนึง วันนี้พี่ทีมทำตัวไม่ดี อย่าลืมนะคะ “กรุณาใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์เพื่อความปลอดภัยของคุณและคนรัก” ค่ะ
ปล. ฉากฟีทเจอริ่งอาจจะประหลาดๆไปบ้าง เพราะเราเองก็ไม่ได้เขียนฉากแบบนี้มานานแล้ว ถ้าไม่ชอบใจยังไงก็บอกได้ค่า จะได้เอาไว้ปรับปรุง
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่า
รักเลิ้บๆ
eiizes