"พิมตะวัน" : P.66 (20/10/2011)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "พิมตะวัน" : P.66 (20/10/2011)  (อ่าน 485597 ครั้ง)

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เพิ่งเห็นค่ะ อ่านรวบยอดที่เดียวสองตอน แต่ยังไม่จุใจ  :serius2:
คู่หมอกิมกับหมอใหญ่ดูเหมือนจะลงตัวแล้วนะคะ
แต่หมอเพชรของเราเพิ่งออกจากความเน่า  กว่าจะตามหาน้องดอว์นเจอ
กว่าจะปรับความเข้าใจกันได้ (หรือว่าจะไม่ได้) ไหนจะคุณแม่ของน้องอีก
อีกหลายด่านเลยอ่ะ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5
“ใหญ่รักกิม” ขอแบบนี้ :o8:
เรียบร้อยแล้วสำหรับคู่กิม-ใหญ่
แต่พี่เพชรจะตามหาน้องดอว์นเจอเมื่อไหร่
แล้วจะเข้าใจกันมั้ย เครียดแทน
ยัง+1ไม่ได้+เป็ดไปก่อนนะคะครบแล้วจะกลับมาบวกให้ค่ะพี่นุ่น :กอด1:


//บวกให้แล้วนะคะพี่นุ่น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-10-2011 21:23:42 โดย i1_to*pp »

nan_chp

  • บุคคลทั่วไป
หูยยย...ในที่สุดก็บอกรักกันแล้ว หมอใหญ่กับหมอกิม "mission complete" ^^

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
โดดเข้ามาอ่านน!!
แแอร๊ยยย ในที่สุดก็มาต่อแล้ว ><
เพิ่งเห็นจ้าา อ่านตอนล่าสุดแล้วแทบกรี๊ด
ใหญ๋จ๋า รู้ใจตัวเองได้ซักทีแล้วนะ
สมใจกิมจ๋าแล้วสิเนี่ยะ ^ ^

สงสารหมอเพชรทรมานน่าดูเลย เฮ้ออ
รออ่านตอนต่อไปอยู่จ้า
+1 ให้นะ จุ๊บๆ

ออฟไลน์ POPEA

  • Blood Type :: Y
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • http://writer.dek-d.com/popae/writer/view.php?id=794488
อ๊าย~
ดีใจที่มาต่อค่ะ :กอด1:
+1 ไว้ก่อนอ่านเลย :o8:


ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
เปิดเพจนี้มา 3 ชั่วโมง กว่าจะอ่านจบ
เรื่องของเรื่อง
อ่านตอนรถติดไฟแดง 555
นอกจากจิ้มไม่ทันแล้วยังเม้นไม่ทันคนอื่นอีกต่างหาก
กรรมจริงๆตูข้า

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
ฮี่ๆๆ
อย่าได้เครียดกันไปท่านทั้งหลาย

คืนนี้ท่านไหนอยู่ดึกดื่นค่อนคืน
ข้าพเจ้าจะมาส่งตอนต่อไปเจ้าค่ะ

กอดแน่น หมุนๆด้วย เอาให้วิงวิ้งๆ ^o^

ขอบคุณที่ยังตามมาอ่านกันนะคะ
ดีใจมากมาย คิดว่าจะถูกเมินแล้วด้วยซ้ำ :กอด1:




คุณแป้งจี่ อี่ อี่ อี่ อี่
กี๊ดเติงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงหาค่ะ
v
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2011 00:02:46 โดย anajulia »

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
เข้ามาสวัสดีแม่นาง. อิอิ. วันนี้อยู่ดึกเจ้าค่ะ. แต่ยังไม่ได้อ่านสองตอนใหม่ที่เอามาลงเน้อ. เก็บไว้ละเลียดอ่านทีละนิดน่ะค่ะ.  :กอด1:

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
เนื้อเรื่องในตอนนี้ คุณ Anajulia เขียนออกมาได้บีบหัวใจสุด ๆ เลยค่ะ  :o7:
เจ็บแปล๊บ ๆ ที่ใจกับความรู้สึกของหมอใหญ่ที่กลัวจะสูญเสียคนสำคัญที่สุดอย่างหมอกิมไป
ตอนที่หมอกิมฟื้นขึ้นมา ความรู้สึกใจสลายเหล่านั้นได้หายไปพลัน
ยิ่งพอมาเจอประโยคสุดท้าย    “ใหญ่รักกิม”   โอ้...มาย บุดด้า  o7
อยากจะกรีดร้อง กรี๊ด ๆ ฉันรออ่านประโยคนี้มานานเท่าไรเนี่ย ???


ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
อิฉันก็ยังอยู่นะคะ
(ยังไม่ตาย) มารอค่ะมารอ
555
อุ้ยตายแล้วตี 2 กว่าๆ แล้วหรือนี่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
อีกไม่นานก็คงเช้า อยากจะเข้ามาบอกว่าอยู่ดึกจริงอะไรจริง :sad4:

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณขา  :laugh:


ปล. ล้มกายลงนอนด้วยเหนื่อยอ่อน

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
ยังไม่เสร็จ กี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ทุบหม้อข้าวหม้อแกงแล้วตั้งใจว่าไม่เสร็จจะไม่กินข้าว สู้เฟร้ยยยยยยยยยย

butajang

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
^


กร๊ากกกกกกกกก  จิ้มก้นจึ๊กๆๆ ไม่ได้รอนะเออ เเค่ยังไม่ได้นอนเอ๊ง อิอิ

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
หมอกิมใช้พลังงานในการกล่อมเพื่อนมากถึงขนาดที่เจออุบัติเหตุแล้วหลับยาวเลยหรือครับ อย่างนี้หมอเพชรต้องพิจารณาตัวเอง เพราะนอกจากจะทำให้หมอกิมเหนื่อยหนัก ยังทำให้คนอ่านเป็นทุกข์ด้วย
สมควรไปหานำเพื่อนดอว์นกลับมาในเร็ววัน 555
ไจฟ์ครับ

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
มาส่งแล้วเจ้าข้าเอ๊ยยยยยยยยยยยยยย
..................................................................



ตอนที่๓๓ ที่ได้พบ...



สองเดือนมาแล้วที่บุตรชายคนเล็กของครอบครัวเวชชากรทำตัวเป็นคนติดบ้านจนผิดตา ห้องชุดในคอนโดมิเนียมซึ่งเคยเป็นที่อยู่ประจำแทบจะถูกทิ้งร้าง


เพราะหลังจากตัดสินใจว่าต่อให้คนรักหนีไปไกลสุดหล้าฟ้าเขียวก็จะต้องตามหาให้พบ ชีวิตของหมอเพชรก็เหมือนกงล้อของหนูถีบจักร....พอมีหวังก็เหมือนถูกหมุนไปด้านบน หากเมื่อข้อมูลที่ได้มาถูกตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นข่าวที่ไม่ใช่ สภาพจิตใจของคุณหมอก็ตกต่ำลงจนเรี่ยดิน

หลังจากไปในทุกๆที่ที่คิดว่าดอว์นจะไปแล้วก็ไม่มีวี่แวว ติดต่อสอบถามไปตามเพื่อนของน้องเท่าที่รู้จัก ก่อคุณกับอิระวดีก็ปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็น แถมทั้งสองคนยังมีสีหน้าแปลกใจด้วยซ้ำที่รู้ว่าอรุณรุ่งย้ายบ้านไปอยู่ต่างจังหวัด แล้วพอบุกไปหาถึงบ้านนายวิสุทธิ์ที่นครปฐม ก็พบว่าเช...เพื่อนคนสุดท้ายในกลุ่มของคนรักกำลังเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศ และทั้งที่ต่างคนก็กำลังวุ่นวายทั้งหางานทำ ทั้งจัดการเรื่องเรียนต่อ ก็ยังพยายามช่วยตามหากันเต็มที่ แต่อย่างว่า ถ้าสามคนนี้ไม่รู้ก็ไม่มีทางอีกแล้วที่คนอื่นๆจะมารู้ความเป็นไปของอรุณรุ่งได้

สำนักงานนักสืบที่วัชระเคยใช้บริการมาคราวนี้ก็กลับคว้าน้ำเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ใช่แค่ประเทศไทยไม่มีนักกายภาพบำบัดชื่อนายอรุณรุ่ง  โพเวลล์ แต่มันราวกับว่าโลกนี้ไม่เคยมีคนชื่ออรุณรุ่ง  โพเวลล์ เลยต่างหาก



“กิม อาทิตย์นี้ไอ้ใหญ่มารึเปล่า?”

วัชระรู้ว่าเกิดอุบัติเหตุกับเพื่อนเอาก็เมื่อผ่านไปได้สองวันแล้ว ตอนที่ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ได้รับคำยืนยันจากแพทย์เจ้าของไข้ว่าขอดูอาการอีกสองวัน แล้วถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไรก็จะให้กลับไปพักที่บ้านได้เลย

มาเห็นสภาพเพื่อน พอตั้งท่าจะรู้สึกผิดเพราะเป็นต้นเหตุให้เพื่อนต้องขับรถค่ำมืดเสียหน่อย ก็ได้รับคำยืนยันกลับมาจากคนเจ็บที่นั่งหน้าระรื่นเอนพิงหัวเตียงมีไอ้ใหญ่บริการส่งองุ่นแช่เย็นใส่ปากให้ไม่ขาดว่าไม่เกี่ยวกับที่ออกจากกรุงเทพฯ ช้าหรอก เพราะมันไม่ใช่อุบัติเหตุ ไม่ได้หลับใน แต่ที่เจ็บเพราะหมอกิมซวยเองที่มาขับรถผ่านกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้วิธีปาหินใส่กระจกรถเพื่อชิงของมีค่า

วัชระกำลังจะสบายใจอยู่แล้วเชียว ถ้าไม่ติดที่ว่าไอ้คนเงียบเป็นเป่าสากที่ทำหน้าที่เฝ้าไข้ได้ดีจนน่าให้รางวัลมันจะไม่พูดออกมาลอยๆว่า
‘....ก็ถ้าไม่ขับมาดึกๆ แล้วจะเจอไอ้พวกนั้นมั้ยล่ะ’
‘ฮื้อ...ใหญ่’


และแค่เสียงเรียกชื่อหนักๆของไอ้คนเจ็บที่ท่าทางจะมีความสุขที่สุดในโลก ไอ้ใหญ่มันก็กลับไปสงบเสงี่ยมทำหน้าที่ประเคนองุ่นเม็ดอ้วนๆต่อง่ายๆ แถมอีกสักพักพอวัชระตั้งท่าจะกลับกรุงเทพฯ เพื่อนหมอที่แรดๆมาจากตากยังมากระซิบสั่งอีกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้มันก็ต้องกลับไปทำงานแล้ว ให้วัชระแวะมาดูกิมบ่อยๆด้วย เพราะเป็นสาเหตุให้คืนนั้นไอ้คุณหมอตาตี่มันต้องกลับดึก

“ห่านี่ กูถามว่าว่าไงนะ มึงจะใจลอยไปไหนเนี่ย?” คนเจ็บที่ตอนนี้แทบจะเป็นปกติทุกอย่างแล้วยกเว้นแต่แขนซ้ายยังใช้งานได้ไม่ดียื่นปากกามาเคาะเข้าที่หน้าผากเพื่อนหนึ่งป๊อก

“อ้าว เออ กูถามว่าอาทิตย์นี้ไอ้ใหญ่จะมารึเปล่าไง”

“มาดิ หึๆๆ จนกูจะหายอยู่แล้วไอ้ใหญ่มันยังไม่ยอมเลิกไปถามตำรวจถึงโรงพักทุกทีที่มาเลยว่าคดีไปถึงไหน ตามจับคนร้ายได้รึยัง มันบ้าเนอะ แค่พวกมันเข้ามาเอาเงินกับโทรศัพท์ไปแล้วทิ้งกูไว้เฉยๆไม่เข้ามาซ้ำนี่ก็ดีเท่าไหร่แล้ว มืดจะตาย พยานก็ไม่มี กูก็เห็นแค่หินที่มันปามาแวบๆเอง.....ว่าแต่ว่ามึงถามถึงไอ้ใหญ่ทำไม มึงจะให้มันช่วยหาน้องเหรอ? นี่กูถามจริงๆเลยนะ ร่วมสามเดือนแล้ว ความรู้สึกของมึงยังเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า?”

หมอเพชรเงยหน้ามองตาเพื่อนตรงๆ พร้อมระบายยิ้มน้อยๆ ยิ้มที่ในสายตาของเพื่อนสนิทอย่างหมอกิมรู้สึกว่าถ้าจะยิ้มอย่างนี้ก็ปล่อยน้ำตาให้ไหลพรากๆแบบช่วงแรกๆที่น้องดอนหายไปเสียยังดีกว่า

“ถ้ามึงหมายความว่ากูรักน้องเหมือนเดิมรึเปล่า....กูตอบได้ว่ากูไม่เคยหยุดรักน้องเลย แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แค่รัก...ที่กูอยากเจอดอว์นจนจะเป็นบ้าอยู่ทุกวันนี้มันเพราะไอ้คำถามที่คอยวนเวียนอยู่ในหัวกูตลอด....กูอยากรู้เหตุผลของน้อง...อยากรู้ว่าเพราะอะไรน้องถึงทิ้งกูไป........กู คิดถึง....”

“แต่มึงก็ต้องเผื่อใจไว้บ้าง อาจารย์วิท่านรู้นะ ว่าลูกชายท่านยังเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเอาแน่เอานอนไม่ได้อยู่ พวกท่านเป็นห่วงมึงมาก....เพชร มึงมีความรักของมึงก็จริง แต่มึงต้องไม่ลืมว่าชีวิตมึงไม่ได้มีความรักกับคนแค่คนเดียว กูรู้ว่ามึงตัดใจจากน้องดอนไม่ได้ แล้วมึงก็ไม่มีความคิดที่จะตัดใจด้วย แต่มึงจะทำตัวขึ้นๆลงๆจนทำให้คนที่รักมึงเป็นห่วงมึงท่านต้องมาคอยวิตกกังวลแบบนี้ด้วยน่ะ มึงคิดว่าดีแล้วเหรอ....”



วัชระพกพาความรู้สึกผิดกลับกรุงเทพฯ ชายหนุ่มไม่ได้กลับไปที่คอนโดมิเนียม ทั้งยังไม่ได้กลับไปบ้านของครอบครัวที่แน่ใจได้ว่าจะไม่ต้องอยู่คนเดียวในเวลาเย็นย่ำแบบนี้ แต่สถานที่ที่เขาเลือกจะไปกลับเป็นบ้านเก่าหลังเล็กๆ ที่ห่างออกไปจากกลางใจเมือง....บ้านเช่าหลังน้อย ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็นึกถึงกลิ่นอายของเจ้าของที่แท้จริง

น่าแปลกที่ทั้งๆที่การมานั่งปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไปเรื่อยๆทุกสัปดาห์ที่บ้านของอรุณรุ่งก็ทำให้คิดถึงเจ้าตัวได้ไม่ต่างจากยามวัชระต้องอยู่คนเดียวที่ห้องชุดชั้นสิบเก้า แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาเมื่อคิดถึงคนที่ลอยลับหายกลับต่างออกไป

เมื่ออยู่ที่นี่ วัชระไม่เจ็บไม่ปวดจนบางครั้งบางคราวถึงขั้นทรมานแบบตอนอยู่ที่ห้องชุด หากชายหนุ่มกลับรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากกว่า โดยเฉพาะเมื่อเข้าไปนั่งอยู่บนเตียงสองชั้นในห้องนอนเล็กที่สายตาซอกซอนจนเจอกับรอยขูดขีดจนเป็นร่องบนเนื้อไม้....

ร่องรอยของลายมือโย้เย้ที่อ่านออกมาได้ว่า.....ด.ช. อรุณรุ่ง  โพเวลล์  ป.๑/๒  ชายหนุ่มรู้แต่ว่าเมื่อได้ลูบไปตามร่องตื้นๆบนเนื้อไม้นั้นทีไรภาพเด็กน้อยตัวกลมแววตาสดใสกับไออุ่นของผิวเนื้อที่เคยได้โอบกอดไว้เมื่อคราแรกก็ราวกับจะย้อนกลับมาทุกที
.....ดอว์น กลับมาเถอะนะ กลับมาฟังคำอธิบายจากปากพี่....กลับมาฟัง..ว่าพี่รักดอว์นแค่ไหน แล้วพี่จะเล่านิทานเรื่องใหม่ให้ดอว์นฟัง....




พังงาเป็นจังหวัดติดชายทะเล คุณเอมอรทราบเรื่องนี้ดี แต่ที่เธอไม่คิดมาก่อนก็คือแม้บ้านพักของเธอกับลูกจะอยู่ในเมือง ใกล้โรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด และไม่ได้ติดชายหาด แต่ลมทะเลก็ยังทำให้บ้านไม้สองชั้นที่มักจะเปิดหน้าต่างทุกบานให้อากาศถ่ายเทอยู่เสมอเต็มไปด้วยฝุ่นละออง และบางครั้งบางคราวก็หอบเอาไอเค็มของเกลือมาให้ได้สัมผัสโดยไม่ต้องออกไปนอกบ้านเลยด้วยซ้ำ

เธอรู้ว่าลูกชายคนเดียวมีท่าทีแปลกไป อรุณรุ่งที่ไม่ค่อยพูดอยู่แล้วพอเรียนจบออกมาทำงานมีสังคมใหม่ๆแทนที่จะร่าเริงขึ้นอย่างที่เธอนึกหวัง ในสายตาคนเป็นแม่อย่างเธอกลับกลายเป็นเด็กน้อยอ่อนไหวที่ห่อหุ้มตัวเองด้วยเปลือกของความเป็นผู้ใหญ่....เงียบขรึม เอาการเอางาน แต่เมื่อเจ้าตัวคิดว่าไม่มีใครมองมา แววตาที่ยิ่งเสียกว่ากำลังร้องไห้ก็ฉายชัดออกมาหลังกรอบแว่นให้เธอได้เห็นทุกที

อรุณรุ่งทำงานหนักจนเธอออกปากเตือนไปหลายครั้งว่าให้พักเสียบ้าง ลูกชายของเธอทำงานที่โรงพยาบาลสัปดาห์ละหกวัน ใครอยากหยุดไปไหนโยนเวรมาให้อรุณรุ่งก็รับไว้ทั้งหมด แล้วหนึ่งวันที่เหลือแทนที่จะเอามาพักผ่อน อรุณรุ่งกลับรับงานพิเศษออกไปตามบ้านของคนไข้อีก ทำงานมายังไม่ครบปีสมุดบัญชีที่เอามาฝากไว้กับเธอก็มียอดเงินเก็บหลักแสนเข้าไปแล้ว

ลูกชายของเธอทำงานหนัก แถมไม่ได้ไปเที่ยวเล่น ไม่คบหาเพื่อนที่ไหนจนเธอเองยังหวั่นใจ แต่ในเมื่อการปฏิบัติกับเธอของอรุณรุ่งยังเหมือนเดิมทุกอย่าง คุณเอมอรก็ไม่รู้จะเริ่มต้นคุยกับลูกถึงปัญหาที่เธอรู้สึกถึงมันได้อย่างไรเหมือนกัน

คุณเอมอรเองทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะพักงานสักสองสามเดือน ทำตัวเป็นแม่บ้านเต็มเวลาให้ลูก แต่มาอยู่พังงาได้แค่เดือนเดียว เจ้าตัวก็ทนกับเวลาว่างๆหลังจากทำงานบ้านแล้วทำได้แค่นั่งๆนอนๆไม่ไหว เธอตัดสินใจรับบัญชีมาทำที่บ้านเหมือนเคย เมื่อการรับส่งงานผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่เธอคิด

จนกระทั่งวันนี้ที่เธอสะสางงานจนส่งไปเรียบร้อยแล้วเริ่มต้นต่อสู้กับฝุ่นผงและความชื้นจากลมทะเลที่เข้ามาในบ้านด้วยการตัดสินใจทำความสะอาดครั้งใหญ่ คุณเอมอรก็ได้พบกับบางสิ่งที่ทำให้เธอต้องเสียน้ำตา...บางสิ่งที่บอกกับเธออย่างชัดเจนว่า เธอแทบจะไม่รู้จักลูกรักคนเดียวที่เหลืออยู่เลย....


เย็นวันนั้นเธอนั่งรอลูกอยู่ที่ห้องนั่งเล่นกลางบ้าน ด้วยความตั้งใจของแม่คนหนึ่งที่จะไม่ปล่อยให้ลูกชายต้องเผชิญกับปัญหาตามลำพังอีกต่อไป

“หม่าม้ารอดอนกินข้าวเหรอครับ”

อรุณรุ่งเข้าบ้านมาได้ก็พนมมือไหว้มารดาแล้วถามขึ้น รู้สึกถึงความผิดปกติของบรรยากาศรอบตัวได้ทันทีเพราะทุกทีแม่จะทำอะไรต่ออะไรไปเรื่อยๆรอเขา ไม่ใช่นั่งเฉยๆตั้งหน้ารออยู่แบบนี้

“ค่ะ พี่ดอนไปล้างหน้าล้างตาก่อนไป แล้วถ้ายังไม่หิวก็มาคุยกับหม่าม้าหน่อย”

“มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับหม่าม้า เรื่องสำคัญใช่มั้ย?”

อรุณรุ่งไม่ได้เข้าไปล้างหน้าล้างตาตามที่แม่บอก ชายหนุ่มเลือกที่จะนั่งลงตรงข้ามกับคนในครอบครัวคนเดียวที่เหลืออยู่และเตรียมพร้อมจะฟังธุระที่ว่าทันที และก็ต้องใจหายวาบ เมื่อตั้งกระดาษสีไข่ไก่ถูกมือเล็กบางหยิบจากข้างตัวมาวางไว้บนโต๊ะเตี้ยตรงหน้า

“หม่าม้า....”

“หม่าม้าขอโทษที่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของลูก หม่าม้าแค่จะทำความสะอาดโต๊ะเขียนหนังสือในห้อง แล้วเลยตั้งใจจะเอาของบนโต๊ะใส่ลิ้นชักไว้ก่อน แต่เผอิญเห็นจดหมายพวกนี้เข้า...”

ยังไม่ทันทีเธอจะพูดจบ อรุณรุ่งก็ลงมานั่งที่พื้นแล้วคลานเข่าเข้าไปซบหน้าลงกับตักของแม่ โอบแขนทั้งสองกอดเอวบางๆแต่อุ่นที่สุดในความรู้สึกไว้จนแน่น

“ดอนขอโทษ ผมขอโทษครับหม่าม้า ขอโทษ....ขอโทษครับหม่าม้า...”

คุณเอมอรค่อยๆทาบฝ่ามือลงกับศีรษะของลูกชาย คำขอโทษที่ถูกพูดซ้ำไปซ้ำมาเหมือนเจ้าตัวไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้ดีไปกว่านี้ และรู้สึกว่าตัวเองมีความผิดจนกลัวไปเสียทุกอย่างกับน้ำอุ่นๆที่ซึมผ่านเนื้อผ้าบนตัก ทำให้หยาดน้ำตาค่อยๆรินล้นจากคนเป็นแม่อีกครั้ง

“ยังรักเขามากใช่ไหมลูก....ถ้าความรักของพี่ดอนมันมากมายขนาดนี้ พี่ดอนก็กลับไปหาเขาเถอะนะคะ”

“หม่าม้า!?”

อรุณรุ่งเงยหน้าขึ้นสบตากับมารดาทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น พยายามค้นหาว่าในตอนนี้แม่กำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่ และสิ่งที่พบก็ทำให้ต้องยิ้มออกมาทั้งน้ำตา....ในแววตาของแม่ มีแต่ความรัก

“หม่าม้ารู้ว่าพี่ดอนเจ็บมาก จดหมายฉบับหลังๆนี่พี่ดอนเขียนถึงเขาด้วยความรู้สึกแบบไหนทำไมหม่าม้าจะไม่เข้าใจ หม่าม้ารักพี่ดอนมากนะลูก จำได้มั้ยคะ ที่หม่าม้าเคยบอกกับพี่ดอนว่าพี่ดอนเป็นเด็กดีเสมอ ไม่เคยทำให้หม่าม้าต้องเสียใจเลย ครั้งนี้ก็เหมือนกัน...มันอาจจะต้องใช้เวลาทำใจยอมรับบ้าง แต่ในเมื่อลูกเป็นลูกของแม่ แม่ย่อมอยากเห็นลูกของแม่มีความสุข มากกว่าจะจมกองทุกข์อยู่แบบนี้”

“...มันสายไปแล้วล่ะครับหม่าม้า”

“ความรักไม่มีคำว่าสายเกินไป”



“เพชรเขาไปแล้วครับ....เขาไปอเมริกาแล้ว.....”




..โปรดติดตามตอนต่อไป..




 :impress3:

ขออภัยในความล่าช้าค่ะ หงิงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2011 23:55:55 โดย anajulia »

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
อะ ไปเม-กาจิงดิ ไปได้ไงเนี่ย ไรกัน แล้วพี่ดอว์นรู้ว่าหมอเพชรไปเมกา แต่หมอเพชรไม่รู้ว่าพี่ดอว์นอยู่ไหน
ซตพ.เรื่องนี้มีสายลับแหงๆ

(tea ครับ)

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
นุ่นทำพี่ร้องไห้ จิตตกไปตาตุ่ม  :o12:

ไม่มีคำว่าสายสำหรับความรัก แต่ใช่ว่าบางคนอยากจะเลือกให้ตัวเองเป็นคนที่ถูกรักเสมอ
แต่เวลาก็เดินไปข้างหน้าตามวิถีของมันเสมอ และไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้นะคะ
การจากไกลบางทีมันก็เป็นทางเลือกหนึ่งของบางคน ทั้งที่ในใจร่ำร้องเสมอว่ายังรัก

 :เฮ้อ:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2011 11:00:16 โดย PEENAT1972 »

MadamLilac

  • บุคคลทั่วไป
น้องชายซนๆ แนะนำให้อ่านเรื่องนี้ เจอช่วงมาม่าเข้าไปเกือบหยุดอ่านไปแล้ว แต่ด้วยความอยากรู้ทำให้อ่านต่อ พอมาถึงตอนสุดท้ายนี้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ขอบคุณนุ่นค่ะ ที่เขียนเรื่องที่สวยงามทั้งภาษา และการดำิเิินินเรื่อง  ^^

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
ยินดีต้อนรับ แล้วก็ฝากกอดน้องชายซนๆแน่นๆด้วยหนึ่งทีนะคะ

ไจฟ์ แบร่ๆๆๆๆๆๆๆๆ

พี่พีนัท โอ๋ๆๆๆๆๆๆ ไม่ร้องนะคะ เดี่ยวมาอ่านตอนต่อไปกัน


อีกไม่เกินสองชั่วโมงจะมาส่งตอนต่อไปค่ะทุกท่าน ฮึบๆๆ สู้เฟร้ยยยยยยยยยยยยยยย ^o^//


ออฟไลน์ POPEA

  • Blood Type :: Y
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • http://writer.dek-d.com/popae/writer/view.php?id=794488
ทำเสียน้ำตาเลยอะตอนที่่ดอว์นหายไปเฉยๆ :sad4:สงสารเพชร
ดอว์นก็น่าสงสารไม่น่าทรมานตัวเองเลย
แล้วเพชรไปอเมริกาตอนไหนอ่ะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย '
รอมาต่อนะคะ ลุ้นให้เจอกันมากก!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
ใครหนอ เป็นสายส่งข่าวว่าเพชรไปเมืองนอกให้พี่ดอว์น  :z3:

 :serius2:  อยากอ่านตอนต่อไปแย้ววววววว

 :กอด1: แนบแน่น

butajang

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ โฮกกก ฮือๆๆ พี่นุ่นใจร้ายมาสั้นๆเเต่เล่นน้ำตาอาบหน้าเลยอะ อายไลเนอร์ตรูจะหลุดไม๊เนี่ย เมื่อไหร่จะได้เจอกัน เเล้วใครทำตัวเป็นคนปล่อยข่าวเนี่ย ไปๆๆรีบตามไปเดี๋ยวส่ง ฮ.ไปรับมาหาพี่เพชร กระซิก กระซิก

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ยิ่งกว่าเศร้า
ก็ค่อยยังชั่วค่ะ ที่พี่เพชรแกเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย
จะอกหัก รักคุด ยังไง ชีวิตต้องดำเนินต่อไป
ว่าแต่น้องดอว์นก็ยังติดตามข่าวของพี่เพชรได้
แล้วไฉนพี่เพชรถึงไม่สามารถเลย
รอตอนต่อไปใจจะขาด

ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5

พี่นุ่นใจร้ายมาแต่ละตอนน้ำตาซึมตลอด :monkeysad:
ทำไมพี่เพชรไม่รู้ว่าดอว์นอยู่ไหนแต่ดอว์นกลับรู้ว่าพี่เพชรไปอเมริกาแล้ว
รอตอนต่อไป พี่นุ่นสู้ๆค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
โอ๋ๆ น้องดอนขา พี่เพชรไปแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับมาค่ะ
ใช่มั้ยคะน้องนุ่นขา (me/ส่งสายตาข่มขู่เต็มที่ o18)

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
...............
.........................................................


ตอนที่๓๔ ตอนอวสาน




“ตะวัน....รู้ข่าวรึยัง?”


“ข่าวอะไรครับพี่เก๋ ผมเพิ่งกลับมาจากICU เมื่อกี้นี้เอง”

หนุ่มลูกครึ่งในเครื่องแบบกางเกงสีสุภาพกับเสื้อกาวน์สั้นสีขาวสะอาดที่สวมทับเชิ้ตสีอ่อนถามกลับพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ ที่มักจะเผยออกมาทุกครั้งที่มีคนเข้ามาคุยด้วย

“ก็วันนี้ผู้บริหารชุดใหม่ที่เทคโอเวอร์โรงพยาบาลเราไปจะมาน่ะสิจ๊ะ ร้ายน่าดูเลย จะมาตรวจก็ไม่บอกก่อนสักนิด ทำอย่างกับว่าจะมาจับผิดงั้นแหละ”

“หึๆ พี่เก๋ก็คิดมาก ยังไงแผนกเราก็เรียบร้อยดี ได้มาตรฐานอยู่แล้วนี่ครับ”

“งืม นั่นแหละ พี่ยังคิดว่าโชคดีที่คนไข้นอกช่วงนี้มีน้อย ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องให้คนไข้มานั่งคอยนานๆให้ท่านๆทั้งหลายมาเห็น ถึงบนวอร์ดจะเยอะหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับทำให้พวกเรางานล้นมือ แหม แอบกังวลนะเนี่ย พวกข้างล่างกริ๊งกร๊างมาบอกว่าเมื่อกี้เดินดูที่O.P.D. อยู่ตั้งนาน ท่าทางจะเขี้ยว”

รุ่นพี่หัวหน้าแผนกที่อายุมากกว่าเกือบรอบร่ายยาว ในขณะที่ชายหนุ่มทำแค่ยิ้มรับแล้วหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะขอตัวไปรับคนไข้ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในแผนกกายภาพบำบัดพอดี




ชายหนุ่มผิวขาวจัดท่าทางภูมิฐานในชุดสูทสีเทาเข้มชะงักอยู่ที่บอร์ดแนะนำบุคลากรเพียงแค่เลี้ยวเข้ามาในแผนกกายภาพบำบัด ริมฝีปากยกขอบที่ปิดสนิทอ้าออกเล็กน้อยก่อนจะกลับเม้มเข้าจนกลายเป็นเส้นตรง แววตาที่ลุกวาบขึ้นกลับกะพริบถี่ๆอยู่ชั่วขณะ แต่ก่อนที่ใครจะทันสังเกตถึงอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น ชายหนุ่มก็หันไปรับการทักทายจากหัวหน้าแผนกที่กำลังแนะนำตัว

“วันนี้ขึ้นเวรกันกี่คนครับ แล้วใครอยู่บ้าง?”

คำถามแรกจากผู้บริหารหนุ่ม ซึ่งข่าวล่ามาเร็วบอกว่าเป็นบุตรชายคนเล็กของตระกูลเวชชากรเจ้าของโรงพยาบาลศีลเวช ที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานคร ทำให้รุ่งทิพย์แปลกใจจนอดขมวดคิ้วออกมาไม่ได้

“ตอนนี้อยู่สี่คนค่ะ เดี๋ยวหลังสี่โมงจะเหลือนักกายภาพบำบัดสามคน แล้วก็ผู้ช่วยหนึ่งคน”

“แล้วตอนนี้มีใครอยู่บ้างครับ?” ชายหนุ่มเดินลึกเข้าไปในแผนกเรื่อยๆ ทำราวกับกำลังสนใจการแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในแผนก ท่าทางเรื่อยๆเอื่อยๆที่มีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ว่าภายในกำลังร้อนเป็นไฟ

“นอกจากดิฉันก็มีคุณพรพรรณ คุณกาญจนาแล้วก็คุณตะวันค่ะ”

“....คุณตะวัน  หลั่งสินธุ์ น่ะหรือครับ?”

“เอ่อ....ค่ะ”

“เดี๋ยวอีกสิบนาทีฝากคุณรุ่งทิพย์บอกคุณตะวัน  หลั่งสินธุ์ ด้วยนะครับ ว่าผมขอเชิญพบที่ห้องผู้อำนวยการ”

น้ำเสียงที่เน้นหนักเฉพาะชื่อ-สกุล ของลูกน้องที่ทำงานร่วมกันมาเกือบสองปีทำให้หัวหน้าแผนกอย่างคุณเก๋รู้สึกหนาวๆร้อนๆขึ้นมาดื้อๆ  และก่อนที่เธอจะตอบรับ ท่านผู้บริหารหนุ่มที่ท่าทางประหลาดในสายตาเธอยังสำทับมาอีก

“...ไม่ต้องบอกอะไร นอกจากบอกว่าเชิญพบที่ห้องผู้อำนวยการ เข้าใจใช่ไหมครับ?”

“ขะ...เข้าใจแล้วค่ะ”



เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามครั้ง ต่อเมื่อได้ยินคำอนุญาตคนที่ให้การรักษาผู้ป่วยอยู่ดีๆก็ถูกสะกิดให้วางมือแล้วถ่ายทอดคำสั่งจากท่านผู้บริหารชุดใหม่ให้ฟัง ก็เปิดประตูก้าวเข้ามาในห้องทำงานที่ราวกับเป็นอาณาจักรต้องห้ามสำหรับพนักงานธรรมดาทันที

อันที่จริงเขาก็ใจตุ๊มๆต่อมๆตั้งแต่ได้รับคำสั่งประหลาดแล้ว เพราะนับตั้งแต่เข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้ นอกจากครั้งแรกที่เข้ามาตอนมารายงานตัวว่าเป็นพนักงานใหม่กับผู้อำนวยการคนก่อนซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวฮ่องกงแล้ว เขาก็ไม่เคยได้เหยียบย่างเข้ามาที่ห้องนี้อีกเลย

แสงแดดจ้าจากภายนอกที่ส่องลอดผ่านผนังกระจกหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่เข้ามา ทำให้ภาพของผู้ที่นั่งที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดมองเห็นเพียงรูปเงา ต่อเมื่อกะพริบตาถี่ๆสองสามครั้งพอให้ดวงตาชินกับแสง คนที่เพิ่งก้าวล่วงเข้ามาก็ต้องเบิกตากว้างเหมือนไม่เชื่อสายตา ในขณะที่เท้ากลับทำหน้าทีสืบเข้าไปใกล้รูปเงานั้นเรื่อยๆราวกับต้องการความมั่นใจว่าภาพที่เห็นคือของจริง

“........เพชร”

“สวัสดีครับ คุณตะวัน  หลั่งสินธุ์ .....ผมควรจะบอกว่าไงดี? ยินดีที่ได้รู้จัก...ดีมั้ย?”

น้ำเสียงยั่วล้อที่ได้ยิน เมื่อประกอบกับสีหน้านิ่งสนิทกับประกายตากร้าวที่เห็นทำให้คนฟังถึงกับน้ำตารื้น แต่ด้วยความที่เคยชินกับการเก็บกดอารมณ์ตัวเองก็ทำให้กล้ำกลืนลงไปได้อย่างรวดเร็ว

“ผมขอตัวก่อนนะครับ ท่านผู้อำนวยการ ที่แผนกกำลังยุ่ง”

พูดจบก็กลับหลังหันทำท่าจะก้าวออกจากห้องทันที แต่กลับถูกยื้อเอาไว้ด้วยอ้อมแขนของคนที่เมื่อกี้ยังวางท่าเป็นผู้บริหารอยู่ที่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ พร้อมกับน้ำเสียงที่ข่มให้อยู่ในโทนแหย่เย้าเมื่อครู่กลับกลายเป็นทั้งออดอ้อนทั้งตัดพ้อในคราวเดียว

“เดี๋ยว ดอว์น.....ขนาดนี้แล้ว ยังจะทิ้งพี่ไปอีกหรือ?”

คนที่ตกอยู่ในอ้อมกอดค่อยๆหันกลับมาช้าๆ นัยน์ตาสีอำพันฉายแววเจ็บปวดร้าวรานสะท้อนจากหลังเลนส์ใสจนคนมองสะท้านใจ

“เราเพิ่งรู้จักกัน...ไม่ใช่หรือครับ?”



ปล่อยไปแล้ว....เขาปล่อยคนที่คิดว่าลืมได้แล้วไปง่ายๆอย่างนั้นเอง แค่แววตาร้าวรานที่เห็นจากดอว์นก็ทำเอาเขาไม่อยากจะทำอะไรให้ระคายเคืองแม้เพียงนิด

วัชระเลือกที่จะนั่งลงแล้วทบทวนความรู้สึกตัวเองเงียบๆ แล้วก็ต้องหัวเราะเบาๆกับการใช้เวลาเกือบสองปีที่ล้มเหลวของตัวเอง ไอ้ที่คิดว่าลืมได้แล้ว ไอ้ที่ว่าจะเริ่มใหม่กับใครสักคนนั่น ที่แท้แล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยสักนิด เพราะเพียงแค่เห็นหน้า แค่ได้สบตากับคุณตะวันคนนี้แค่ครั้งเดียว ความรู้สึกและภาพความทรงจำทั้งหวานล้ำและทั้งขมทั้งขื่นก็ย้อนกลับมาจนหมด

คำสั่งแรกของนายแพทย์วัชระ  เวชชากร ผู้ทำหน้าที่แทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่กำลังจะเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ศีลเวช-พังงา’ หลังจากเข้ามานั่งที่โต๊ะประจำตำแหน่งก็คือคำสั่งถึงฝ่ายพัฒนาบุคลากร ให้ส่งข้อมูลประวัติพนักงานประจำแผนกกายภาพบำบัดชื่อนายตะวัน  หลั่งสินธุ์ ขึ้นมาให้ด่วนที่สุด แล้วยังไม่ทันถึงเวลาสี่โมงตรง ท่านผู้บริหารก็จัดการพาตัวเองไปกดออดหน้าบ้านไม้สองชั้นที่มีซุ้มพวงแสดขึ้นอยู่หน้าประตูเรียบร้อยแล้ว



“กลับมาแล้วครับหม่าม้า....อ้ะ คุณ!”

“คุณแม่ไม่อยู่ ออกไปทำเล็บ”

คนที่เพิ่งถอดรองเท้าแล้วก้าวเข้ามาในบ้านถึงกับชะงักอยู่กับที่ เมื่อเห็นชัดว่าคนที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายเปิดอัลบั้มรูปดูด้วยท่าทางสบายๆเป็นใคร หากพอจะหันกลับแล้ววิ่งหนีกันดื้อๆ มือใหญ่ที่ยังให้สัมผัสอบอุ่นไม่เคยเปลี่ยนก็ตรงเข้ายึดแขนเอาไว้มั่น ก่อนจะรั้งเข้าหาตัวแรงจนเกือบจะเป็นกระชาก

“อย่าหนี!! ฟังก่อน....”

วัชระชะงักการเคลื่อนไหวไปครู่เมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ห้อยอยู่ใต้เสื้อเชิ้ตเนื้อบางของคนที่ออกแรงดิ้นรนจะผละออกห่างให้ได้...จี้อำพัน เครื่องรางแห่งความรักชิ้นนั้นยังอยู่ตรงนี้ แนบอยู่กับเนื้อเหนือหัวใจของคนที่เขามั่นใจที่จะบอกคำว่ารัก

อรุณรุ่งเกร็งขึ้นทั้งตัวเมื่อรู้สึกได้ว่าคนที่กักตัวเอาไว้ซบหน้าลงกับซอกคอจากทางด้านหลัง ก่อนที่เปลือกตาหลังเลนส์จะพริ้มลงช้าๆเมื่อได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเครือที่ริมหู

“พี่รักดอว์น พี่รักดอว์นคนเดียว ไม่เคยมีอะไรระหว่างพี่กับน้องรุ่ง....”

“หยุด....อย่าโกหกผม”

“พี่บอกว่าอย่าหนีไงดอว์น! ฟังนะครับ พี่ไม่ได้โกหก กับน้องรุ่งมันไม่เคยถึงขั้นรัก ไม่เคยจริงๆ ที่ดอว์นถามพี่ตอนนั้นว่าพี่มองดอว์นครั้งแรกเพราะดอว์นคล้ายน้องใช่มั้ย พี่ตอบว่าใช่....อย่าดิ้นสิดอว์น อยู่นิ่งๆแล้วฟังพี่ให้จบ”

วัชระออกแรงรั้งคนที่กอดไว้ทั้งตัวให้ค่อยๆนั่งลงกับพื้น คุณหมอหนุ่มเลื่อนตัวจนพิงหลังกับฝาบ้านที่สร้างจากไม้ประกอบ แล้วกักตัวคนที่ยิ่งตัวบางกว่าในความทรงจำไว้ด้วยขาและแขนทั้งสองข้าง

“ก่อนดอว์นถึงบ้านรู้มั้ยว่าพี่ทำอะไรอยู่? ไม่ใช่ดูรูปหรอกนะ ก่อนหน้านั้น....พี่อ่านจดหมาย...”

“อะไรนะ?”

“ตั้งหลายฉบับ คนเขียนเขาเขียนเอาๆ แต่กลับงกเงินไม่ยอมเสียค่าแสตมป์ส่งไปรษณีย์ไปให้คนรับ ดีนะ คุณแม่ท่านใจดี พอรับพี่เป็นลูกชายอีกคนก็ไปหยิบมาให้อ่านเองกับมือเลย..... ‘ดอว์นคิดถึงพี่เพชร แต่ดอว์นก็ไม่กล้าจะอยู่ตรงนั้นอีก...ดอว์นไม่ใช่คนดีอย่างที่พี่เพชรเข้าใจ พี่เพชรรู้มั้ยว่าดอว์นอิจฉาน้องรุ่งมากแค่ไหน ที่ความรักของพี่เป็นของน้อง...ไม่ใช่ดอว์น..’

“พอได้แล้ว....ปล่อยผมไปเถอะ นะเพชร ปล่อยผมไป....”

“พี่ทำไม่ได้....”

“เรื่องของเรามันจบไปแล้ว ทั้งคุณทั้งผม....เรามีชีวิตใหม่ด้วยกันทั้งคู่ อย่ารื้อฟื้นอีกเลยเพชร...”

หมอเพชรวางคางลงกับบ่าคนที่กำลังห้ามตัวเองไม่ให้สะอื้นออกมาจนเริ่มสั่นไปทั้งตัว แล้วสองมือที่รัดเอวบางไว้เฉยๆในตอนแรกก็เลื่อนขึ้นมาลูบขึ้นลงไปตามลำแขนที่เจ้าตัวนั่งกอดเข่าตัวเองไว้แนบแน่น

“หึๆ เมื่อวานนี้พี่ก็คิดแบบที่ดอว์นพูดนี่แหละ แต่พอได้เจอดอว์น พี่ก็รู้ตัว ว่าความรู้สึกเหมือนได้หัวใจกลับมาเติมส่วนที่ว่างโหวงไปนานมันเป็นยังไง....ฟังพี่ แล้วก็ได้โปรดเชื่อพี่เถิดนะดอว์น....เรื่องของเรามันเริ่มจากน้องรุ่งก็จริง แต่พี่ไม่เคยเห็นคนดีของพี่เป็นตัวแทนใครเลย ดอว์นก็คือดอว์น คนรักของพี่ที่ทั้งน่ารัก ช่างอ้อน ช่างเอาใจ แต่พอพี่เผลอก็จะถูกเด็กซนคนนี้แกล้งเอาได้โดยไม่ทันรู้ตัว....พี่รักดอว์น รักดอว์นที่เป็นแบบนี้...จะให้พูดกี่ครั้ง พี่ก็ยังจะบอกว่าพี่รักดอว์น...”

อรุณรุ่งกำจับมือใหญ่ที่กำลังปลอบประโลมให้คลายใจเอาไว้ แล้วอย่างช้าๆก็ยกมันขึ้นมาแนบไว้กับข้างแก้ม ก่อนจะจรดริมฝีปากลงกับหลังมือนั้น ในขณะที่วัชระซึ่งนิ่งเป็นหินไปแล้วไม่รู้ตัวเลยว่ากลายเป็นคนที่กำลังหลั่งน้ำตา



ถึงน้องรุ่งที่รักของพี่

   น้องรุ่งคงมองเห็นจากบนสวรรค์แล้วสินะคะว่าสองปีที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายของน้องคนนี้บ้าง มาคิดดูแล้วน้องรุ่งคงเห็นด้วยกับไอ้จี๊ดที่คอยบอกว่าพี่ดอนนี่งี่เง่าเหลือทน

ตลอดเวลาที่ไอ้จี๊ดซึ่งได้งานที่ศีลเวช-กรุงเทพฯ คอยส่งข่าวเรื่องเพชรให้พี่ มันเฝ้าแต่ย้ำอยู่นั่นแล้ว ว่าถ้าเป็นมัน...เมื่อเรารักเขา เราก็ต้องพยายามทำให้เขารักเราตอบสิ ไม่ใช่รักแล้วหนีแบบนี้ เพราะตามตรรกะของมัน มันบอกว่า รักแล้วหนีเป็นเรื่องของคนขี้ขลาด แถมยังโง่อีกต่างหาก ซึ่งผู้หญิงฉลาดอย่างมันจะไม่ยอมทำเป็นอันขาด มันบอกให้พี่ดูมันกับไอ้ก่อเป็นตัวอย่าง เพราะมันสองคนมีแต่วิ่งเข้าใส่กัน ไม่มีการวิ่งหนี ฮ่าๆๆๆ

ส่วนไอ้คุณชายเช นี่เป็นเรื่องที่พี่ดอนอดจะรู้สึกผิดไม่ได้ เพราะพอมันบอกจะไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย พี่ก็ย้ายมาพังงาแล้ว ไม่ได้ทำแม้แต่ไปส่งมันขึ้นเครื่องด้วยซ้ำ  แต่ถึงอย่างนั้น ล่าสุดก็เห้นว่ามันใกล้จะเรียนจบแล้ว และก็คงใกล้จะได้เวลากลับมาบ้านเต็มที ส่วนเรื่องที่ใกล้เรียนจบแล้วใกล้จะตัดใจได้รึยังนั้น...พี่ดอนไม่ได้ถามมันหรอกค่ะ สงสารมันนะคะ...แอบรักเพื่อนแล้วเพื่อนไปรักกันเอง เฮ้อ....เจ็บขั้นกว่าเลยจริงๆ

หม่าม้าของเราสองคนสบายดีนะคะ สุขภาพแข็งแรง แถมสุขภาพจิตดูจะดีกว่าเดิมด้วยซ้ำไป เพราะลูกชายคนใหม่นี่ช่างเอาใจกว่าที่คิด ว่างเมื่อไหร่เป็นโผล่มาชวนไปเที่ยวบ้างล่ะ ชวนเข้าวัดทำบุญบ้างล่ะ แล้วพอลับหลังก็มาทวงค่าแรงเอาใจ ‘คุณแม่’ เอากับพี่

....แต่ก็เอาเถิดค่ะ เพชรจะอยากได้อะไรตอบแทนบ้างก็เอาไปเถอะ ก็รักไปแล้วนี่คะ แถมยังทำร้ายเขาไว้มากด้วย แล้วค่าแรงที่เพชรมาทวงแต่ละครั้งก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก เว้นแต่ครั้งนี้ ครั้งล่าสุดหลังกลับไปบ้านที่กรุงเทพฯ มา เพชรเอาจี้อีกหนึ่งชิ้นมาให้พี่ แล้วก็บังคับว่าให้เก็บไว้ ใส่บ่อยๆยิ่งดี เพราะพี่เสียเวลาที่ควรได้ใส่มันไปตั้งสองปีแล้ว เพราะงั้นต้องชดเชยด้วยการใส่ให้คุ้ม....

พี่คิดว่าตัวเองโง่จริงๆ ที่เอาเวลาไปทิ้งเสียสองปี แต่พอคุยกับหม่าม้า หม่าม้าก็บอกว่าไม่จริงหรอก ให้พี่คิดซะว่า สองปีนั้นเป็นระยะเวลาที่ผ่านไปเพื่อให้เราทั้งสองคนใช้สำรวจใจตัวเองต่างหาก

ขอบคุณมากนะคะน้องรุ่ง แล้วก็ขอโทษ ที่เคยคิดอิจฉาไปเสียมากมาย....พี่รู้แล้วล่ะค่ะ ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่ได้มีชีวิตอยู่ และได้พบกับความรัก....ไม่ว่าความรักจะเข้ามาหาพี่ด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม แต่ผลสรุปของมันก็ดีเหลือเกิน

                                                         ตอนนี้พี่ดอนยิ้มกว้างๆแล้วก็หัวเราะดังๆวันละหลายรอบเชียวค่ะ
                                                                                                      พี่ดอนของน้องรุ่ง

ปล. จะว่าไป นามสกุลแม่ของเรานี่ก็โหลเหมือนกันนะคะ วันนี้มีคนไข้ทักด้วยล่ะว่าคล้ายกับนามสกุลของคนรู้จัก





อวสาน





กอดรวบค่ะ
ไปโรงพยาบาลก่อนนะคะ แบบว่าเข้ากะเรื่องนิดนุง  :กอด1:


*** เดี๋ยวอีกวันสองวันจะเอาตอนแถมมาส่งนะคร้าทุกท่าน
ขอบคุณที่ติดตามอ่าน แม้คนเขียนมันจะหายหัวไปทีเป้นครึ่งปี(ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิด งุงิ อายตัวเอง)
ท่านไหนบอกว่ายังหวานไม่ถึงใจก็รอตอนแถมนะคะ กอดแน่นๆเล้ยยยยยย  :กอด1:


กอดแน่น
v
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2011 23:53:25 โดย anajulia »

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
What?! Are you kidding me?! Like, for real?

กรี๊ด ไม่ยอมนะคะ จบแล้วหรือนี่! o22

เธอจะรีบไปไหนกันคะคุณนุ่น อยากอ่านเรื่องของพี่เพชรกับน้องดอว์นแบบยาวๆ อีกนะคะ

แต่ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการตัดสินใจของนักเขียน ดิฉันได้เก็บไว้เรียบร้อยแล้ว และจะอ่านรวดเดียวเพื่ออรรถรสแห่งเนื้อเรื่อง และหวานแห่งซาบซ่านในรักของทั้งสอง และหวังว่าสามสี่ตอนสุดท้ายจะไม่ turn out to be a tragedy นะคะตัวเธอ มาตรว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ อาจมีการ  :beat: เกิดขึ้น โฮะๆๆ  :laugh:

ไปอ่านก่อนนะคะตัวเอง.

ปล. บวกหนึ่งให้แล้วนะคะ. แต่มิได้บวกเป็ดให้ เนื่องด้วยยังไม่ค่อยเข้าใจกระบวนการสักเท่าไหร่ เอาไว้ดิฉันแจ้งใจถึงขั้นตอนแล้วจะรีบโหวตน้องเป็ดให้นะเคอะ.

ออฟไลน์ POPEA

  • Blood Type :: Y
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • http://writer.dek-d.com/popae/writer/view.php?id=794488
จบซะแล้ว จบเร็วมากเลยอ่ะ' :-[
แต่ก็ดีใจกับดอว์นและเพชรที่เข้าใจกันนะ
+1 ค่ะ อยากอ่านตอนพิเศษทั้งคู่ของกิมใหญ่ ดอว์นเพชรจังเลย~
 :กอด1:

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
อ่าา จบแล้ววว
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
ในที่สุดก็ได้เจอกันซักที

อยากอ่านตอนของหมอกิมกับหมอใหญอ้ะ!
  :mc4:

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดด......คุณนุ่น...จบแล้วจริงๆเหรอคะ  o22

เค้ายังยิ้มกว้างได้ไม่เท่าน้องดอว์นกับพี่เพชรเลยน๊า.....มามะ มาต่อความหวานให้เค้าได้ยิ้มกว้างๆอีกหน่อยเถอะ  o11



แล้วไหนจะพี่หมอใหญ่ดับพี่กิมจ๋าด้วย...มานะคะนุ่น....กระซิกๆๆๆ  :กอด1:

ปล..บวก 1 ได้ทีเดียว เลยได้แต่ บวกเป็ดไปหลายตัว อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด