กิมตี๋+เนะ.....ผมชอบนะครับ ที่อื่นเขาไม่เชื่อ ก็ช่างเขา มาเล่าที่นี่ก็ได้
คนเราก็แปลกอย่างนี้แหละ อะไรที่ตัวเองไม่รู้ ไม่เคยเห็น ก็มักคิดว่า ไม่มีจริง
ส่วนคนที่เคยรู้ เคยเห็นมาแล้ว ก็ไม่กล้าเล่า เพราะกลัวถูกหาว่าบ้า เฮ้อ!

เมื่อก่อนผมขลังกว่านี้เยอะ นั่งเห็น นอนฝันเห็นก็มี
ที่บ้านเก่าผม หลังที่อยู่กับพ่อแม่ผม ก็มีเสาเอกตกน้ำมันต้นหนึ่งเหมือนกัน
ทุก ๆ วันพระ จะมีน้ำมันไหลซึมออกมาจากตรงตะปูที่ตอกเอาไว้พร้อมผ้ายันต์
ไม่รู้ว่า ใครทำไว้ เพราะพ่อผมซื้อต่อเขามาอีกที
พอช่วงเวลาตั้งแต่ 20.00-22.00 น. น้ำมันจะไหลเยิ้มออกมามากเป็นพิเศษ
ขนาดที่ลูบแล้วมีน้ำมันติดมือออกมาเลย แต่แปลกที่น้ำมันจะไหลมาสุดตรงโคนต้นแล้วซึมหายไป
ไม่ไหลลงมาเลอะพื้น แถมยังมีกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วบ้าน เป็นกลิ่นเหมือนน้ำอบน้ำปรุงสมัยโบราณน่ะแหละ
พอหลังสี่ทุ่มไปแล้ว น้ำมันจะค่อย ๆ น้อยลง และกลิ่นก็จะค่อย ๆ หายไปด้วย
แม่ผมจะนำพวกพวงมาลัย ดอกไม้หอมและผลไม้ไปถวายไว้ตรงโคนต้นเป็นประจำทุกวันพระ
ห้องนั้นก็เลยทำเป็นห้องพระไปเลย ทำอย่างอื่นไม่ได้ แถมแม่ผมมักจะถูกหวยบ่อยมากกกกกกก
เรียกว่า นางไม้ท่านให้ลาภ เพราะแม่ผมเคยฝันเห็นท่านด้วย เวลาไปไหนมาไหน ก็จะบอกท่านให้ดูแลบ้านให้
บางทีเพื่อนบ้านข้าง ๆ ยังไม่รู้เลยว่า พวกผมไม่อยู่บ้านกัน เพราะเขาบอกว่า ก็เห็นคนเดินไปมาในบ้าน ไฟก็เปิดตามปกติ
ผมเคยพาเพื่อนไปนอนที่บ้าน ด้วยความที่มากันหลายคน ก็เลยแบ่งกันไปนอนในห้องพระด้วย
พอตกดึก มีเพื่อนคนหนึ่งลุกขึ้นโวยวายหน้าตาตื่น บอกว่า พอเคลิ้ม ๆ ใกล้หลับ
ก็รู้สึกเหมือนมีผู้หญิงนุ่งห่มสไบมายืนอยู่ข้างตัว พร้อมกับไล่ให้ออกไปจากบ้าน
ผมก็เลยถามมันว่า มึงไปทำอะไรไว้หรือเปล่า ปรากฏว่า เพื่อนผมมันปากไม่ดี
ไปวิพากย์วิจารณ์ท้าทายเสาต้นนั้น นางไม้ในเสาท่านก็เลยสำแดงเดชให้เห็นเป็นประจักษ์ซะเลย
ตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่ค่อยมีเพื่อนคนไหนอยากมานอนค้างที่บ้านผมอีกเลย 5555
กุ้ง.....โห! หายเงียบไปนาน นึกว่า เลิกเข้ามาแล้วนะเนี่ย คิดถึง คิดถึง

บรรยากาศดีมากครับ ก็ขับรถไปเยี่ยมพี่ชายญาติผมที่เมือง Reading ต่อด้วยไปเยี่ยมเพื่อนที่ Bermingham
จากนั้นก็เลยขึ้นเหนือกันสองคน ไปสก็อตแลนด์ สวยมากกกก ขอบอก แล้วก็เป็นอย่างที่กุ้งถามน่ะแหละ อิอิ

น้องที..... กอด กอด กอด
หูย! หายหน้าไปนานเลย แอบซุ่มเงียบแบบพี่กุ้งล่ะสิเนี่ย แล้วไจฟ์ไปไหนล่ะครับ
เปิดเทอมนี้ก็ขึ้น ม. 6 แล้วสินะ ถ้ามีเพื่อน ๆ คนไหนสนใจคนมีอายุ (ไม่อยากพูดว่า แก่ เดี๋ยวจะแสลงใจใครในที่นี้หลายคน อิอิ)
ก็แนะนำให้พี่เนะ พี่ตี๋ได้รู้จักบ้างนะครับ ถือว่า ทำบุญต่ออายุคนมีอายุเนาะ ทีจะได้มีแต่คนรักคนหลงไงล่ะครับ

ส้ม.....ตอนสมัยวัยรุ่น เลือดลมมันแรงน่ะ ก็เลยหาทางเอาออกซะบ้าง
แต่ไม่ดีหรอกครับ น้อง ๆ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง มันเป็นอดีตด้านมืดของพี่น่ะ
รอดตายมาได้เนี่ย ถือว่า เป็นบุญแล้ว
เมื่อก่อนนี้ เวลาไปเที่ยวที่ไหนกับเพื่อน เพื่อนพี่มันจะต้องคอยดูอยู่สองคน คือ พี่กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง
เพราะเวลามีเรื่องกัน พี่กับเพื่อนคนนั้น มักจะพุ่งออกตัวก่อนเพื่อน แบบว่า เคยโดดข้ามโต๊ะเตะก้านคอคนสลบมาแล้ว
ดีที่สมัยก่อน คนเรายังมีความเป็นลูกผู้ชายมากกว่าสมัยนี้เยอะ ไม่มีหมาหมู่รุมกระทืบแบบที่เป็นข่าวหรอก
ส่วนใหญ่ เวลามีเรื่องกัน เขาก็จัดให้คู่กรณีเคลียร์กันเอง เพื่อน ๆ มีหน้าที่คอยระวังให้
ถ้าตัวต่อตัว พี่ไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ เพราะเรียนมวยไทย+ยูโดมาบ้าง
เมื่อก่อนเทควันโด้ยังไม่ฮิตเหมือนสมัยนี้ แถมพ่อส่งไปเรียนยิงปืนอย่างถูกวิธีอีก
ทั้งนั่งยิง นอนยิง วิ่งยิง แบบที่ ศรภ. เขาสอนอยู่ทุกวันนี้ ก็เลยยิ่งห้าวขึ้นไปอีก
แต่พอหลังจากที่บวชแล้ว มันได้คิดน่ะครับ ก็เลยเพลา ๆ ลงไปเยอะ
อีกอย่าง พอเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว สังคมมันเปลี่ยน
เจอเพื่อนในก๊วนน้อยลงมาก เพราะถูกส่งไปเรียนที่ต่างจังหวัด
แต่ขนาดไปเรียนไกลถึงต่างจังหวัด ก็ยังมีสาว ๆ ตามไปหาถึงที่
เคยเจอรถไฟชนกันก็มี แต่สาว ๆ สมัยพี่ เขาไม่ออกตัวแรงเหมือนสมัยนี้
ยังมียางอายมากอยู่ ก็เลยไม่มีรายการตบแย่งผู้ชายให้เห็นเหมือนทุกวันนี้