มีเรื่องมาเล่า แล้วเหยียบให้มิดไว้นะครับ จุ๊จุ๊
วันนี้ ผมไปทำธุระที่ ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ก็ไปจ่ายบัตรเครดิตกับ KTC น่ะครับ
เผอิญไปเจอน้องผู้ชายคนที่ผมเคยปลื้มออกสื่อที่นี่เมื่อปีก่อน
ซึ่งหลังจากวันนั้นแล้ว ก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย
เมื่อปีก่อน น้องเขาเหมือนเพิ่งจบมาใหม่ ๆ หน้ายังดูใส ๆ ตัวอวบนิด ๆ เหมือนเด็กกำลังกินกำลังนอน
อยู่ในวัยกำลังค้นหาหนทางของตัวเอง สิ่งผมชอบในตัวเขา คือ นัยน์ตา
ตาเขาคม หวานซึ้งมาก ขนาดผู้หญิง ผมว่า หาคนตาคมหวานแถมขนตาเป็นแพแบบนี้ได้ยากนะ
จนมาวันนี้ หนึ่งปีผ่านไป ได้เจอกันอีกที ณ ที่เดิม (รู้สึกเหมือนพระเอก กำลังเจอนางเอกเลยแฮะ)
น้องเขาน่ารักกว่าเดิม ตัวเพรียวลง แต่ดูดีขึ้น หน้าก็ยังใส ๆ เหมือนเดิม
แต่รูปหน้าเรียวลง ปากนิด จมูกหน่อย เรียกว่า หน้าเป๊ะมาก ลงตัวทุกองศา
แถมวันนี้เปลี่ยนแนวการแต่งตัว ดูเป็นหนุ่มทำงานมากขึ้น
เขาใส่เสื้อยืดคอวีไว้ข้างใน แล้วสวมแจ็กเก็ตทับ เห็นแล้วอยากดึงคอเสื้อ ชะโงกดูไส้ในชะมัด
ระหว่างที่รอเรียกไปจ่ายเงิน ผมก็ยืนมองเขาทำงานอยู่แถวนั้น ก็มองเพลินไปล่ะครับ
สักพักเขาคงรู้ตัว เห็นเงยหน้ามองมาทางผม พอเห็นผมจ้องมองอยู่ เขาก็จ้องตอบ
อย่าคิดว่า ผมจะอายนะ ที่น้องเขารู้ตัวว่า ผมแอบมองอยู่
ถ้าเป็นคนที่ชอบหรือถูกใจนี่ ผมหน้าด้านครับ จัดเต็ม 5555
ก็เล่นเกมส์ปลากัด จ้องตากันไปสักครู่ แถมผมแอบปล่อยฟีโรโมนออกไปเล็กน้อย
สักพักเขาก็หลบตาผม เสมองไปที่อื่น เขาก็ออกแนวเขิน ๆ อาย ๆ
เห็นก้มหน้างุด ก้มหน้าก้มตาทำงาน ไม่กล้ามองมาทางผมอีกเลย
ถ้าตาไม่ฝาด หรือแสงไฟหักเห ผมว่า ผมเห็นหน้าเขาขึ้นสีนิด ๆ นะ หุหุหุ กูยังมีเสน่ห์อยู่ว่ะ
อยากจะบอกว่า เขาเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมของขึ้นได้ โดยไม่ต้องทำอะไรเลย
เสียดาย......เวลาแห่งความสุข มักผ่านไปเร็วเสมอ เฮ้อ!

พอผมจ่ายเงินแล้ว กำลังจะเก็บกระเป๋าตังค์ ก็มีฝ่ามือพิฆาตซัดผัวะมาที่หัวผมอย่างแรง

คงไม่ต้องบอกนะครับว่า ฝีมือใคร คนที่คุณก็รู้ว่าใครนั่นแหละ
นอกจากฝ่ามือพิฆาตแล้ว ยังมีสายตามรณะยิงรังสีอำมหิตมาทิ่มแทงผมอีก
พอเดินออกมาจากตรงนั้น เขาก็กระซิบบอกผมว่า.....อย่าคิดนะว่า ไม่เห็น เผลอไม่ได้เลยนะ.....บลา บลา บลา
แถมท้ายด้วยคำว่า ...... ทิ้งกู มึงตายยยยยย......
เล่นเอาไอ้ที่กำลังตื่นตัวคึกคัก ๆ ก็พลันโศกเศร้าเหงาหงอยขึ้นมาทันทีเลย
