กับคุณชาย เราไม่เคยเมินใส่กันครับ ช่วง 3-4 ปีแรก เราสองคนค่อนข้างมีปากเสียงกันบ่อย
เพราะยังไม่เคยชินกับอุปนิสัยใจคอของกันและกัน และยังต้องปรับตัวเข้าหากันอีกมาก
แต่พอผ่านช่วงวิกฤติน้ำผึ้งพระจันทร์ (Honeymoon Crisis) มาได้แล้ว
เราก็ไม่เคยมีปากเสียงกันอีกเลยครับ เพราะเถียงกันมาเยอะแล้วก่อนหน้านี้ จนรู้ทางกันแล้ว
ถ้าโมโหหรืออารมณ์ไม่ดี เราจะใช้วิธีต่างคนต่างหนีเข้ามุมของแต่ละคน
พอสงบสติอารมณ์กันได้แล้ว ค่อยมาคุยกันใหม่ ซึ่งเราสองคนจะรู้กันดี
เราจะไม่คุยกันตอนอารมณ์กำลังร้อน ๆ เพราะอาจจะพูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจกันได้
แล้วถ้าพูดไม่ดีไปแล้ว มันเรียกกลับคืนไม่ได้ คนที่ถูกกระทำจะรู้สึกฝังใจกับคำพูดนั้นมากกว่า
ถึงปากจะบอกว่า ไม่เป็นไร ไม่คิดอะไร แต่เชื่อเถอะ จะมากจะน้อยมันก็ยังค้างคาอยู่ในใจคุณ
เพียงแต่คุณอาจหลอกตัวเองว่า ช่างมันเถอะ ไม่เป็นไร แต่มันเหมือนตะกอนน้ำที่ตกลงก้นแก้วน่ะครับ
ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้บ่อย ๆ มันก็เหมือนตะกอนน้ำที่ค่อย ๆ เพิ่มจำนวนสะสมที่ก้นแก้ว
พอถึงวันนึงที่ทนไม่ได้กันขึ้นมา ก็ระเบิดอารมณ์ใส่กัน แตกหักกันไป
ไอ้ตะกอนน้ำที่เคยสะสมอยู่ก้นแก้ว ก็จะถูกกวนขึ้นมาให้ขุ่น
แล้วเอามาผสมปนเปกันไป ทั้งเรื่องใหม่เรื่องเก่า
ซึ่งเราสองคนไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา
เราก็เลยตกลงกันว่า มีอะไรให้พูดคุยกันตรง ๆ เวลาที่อยู่กันสองคน
ชอบไม่ชอบอะไรก็ให้บอก ไม่ใช่ให้มานั่งเดาเอาเอง แล้วก็น้อยใจคิดไปเองต่าง ๆ นา ๆ
แล้วเมื่อฝ่ายหนึ่งกำลังพูด อีกฝ่ายก็ต้องนั่งฟังอย่างสงบ ไม่ใช่แย้งขึ้นมาทันควัน
พอฟังเขาพูดจนจบแล้ว นั่นถึงจะเป็นตาเราพูดบ้าง
ต้องพูดกันคนละทีครับ ขืนพูดพร้อมกัน เดี๋ยวจะกลายเป็นโต้เถียงกันมากกว่า
พวกผมก็ใช้วิธีนี้แหละครับ ถึงอยู่กันมาได้นานขนาดนี้
เพราะการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน มันก็เหมือนกันแหละครับ
อย่าไปหาว่า ใครผิด ใครถูก แต่ควรหาว่า เราจะร่วมกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ยังไงดี
ในชีวิตคู่ ไม่ว่าใครผิดหรือถูก มันก็มีผลกระทบกับทั้งสองคนอยู่ดี
แบบว่า หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อน่ะครับ แล้วคนเราส่วนใหญ่ก็ไม่ชอบเป็นฝ่ายผิด
พอเราไปหาว่าใครผิด แล้วคิดเหรอครับว่า จะมีคนยอมรับผิดกันง่าย ๆ
อย่างน้อยก็ขอให้เถียงหัวชนฝาไว้ก่อน พอมีอารมณ์กันขึ้นมา ตอนนี้ ไอ้เรื่องที่ตั้งใจคุยกันแต่แรก
ก็จะถูกเบี่ยงเบนประเด็นไปเป็นอย่างอื่นแล้วครับ หลายครั้งที่ผมจะเป็นคนห้ามทัพให้กับเรื่องของคนอื่นเพราะเหตุนี้
ตอนแรกก็คุยเรื่องมะลิซ้อนกันอยู่ดี ๆ หลัง ๆ กลายเป็นมะลิลาไปได้ยังไงไม่รู้
จนบางที ถ้าถามว่า ตอนแรกกำลังคุยกันเรื่องอะไร บางคนอาจลืมไปเลยก็มี
ผมก็ขอแชร์ประสบการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพียงเท่านี้นะครับ
เอ! มันเกี่ยวกันมั้ยเนี่ย
