ผมโทรไปอ้อนวอนแม่เท่าไรแม่ก็ไม่ยอมฟัง แถมยังบอกว่าดีแล้วที่ปล่อยให้มันเป็นคนคุมเรื่องค่าใช้จ่ายและความประพฤติไปในตัว พ่อเองก็เห็นดีเห็นงาม ส่วนพี่นิคไม่ต้องพูดถึงเลย แค่คิดจะโทรไปเล่าก็นึกถึงคำพูดและน้ำเสียงออก ‘ไหนตอนเด็กๆ อยากจะอยู่กับพี่โก้ อยากไปหาพี่โก้ นี่ก็ได้อยู่แล้วไง โชคดีนะน้องรัก’ มันจะต้องออกมาแนวนี้ ต้องจิกกัดผมด้วยคำพูดสมัยยังเด็กไร้เดียงสา ความคิดปัญญาอ่อน ทั้งๆ ที่มันก็รู้ว่าตอนนี้ไม่มีทางที่ผมจะคิดแบบนั้นอีก...ไม่มีทาง
“คีย์ทำไรอยู่”ผมเดินออกนั่งหน้ามินิมาร์ทเล็กๆ หน้าคอนโดฯ แกะบุหรี่ซองใหม่ที่เพิ่งซื้อเมื่อครู่แล้วจุดสูบให้เต็มปอด หัวค่อยโล่งหน่อย
“จัดกระเป๋า”
“พรุ่งนี้มาถึงกี่โมง”
“ค่ำๆ ล่ะมั้ง”
“โหย ทำไมมาช้าวะ มาเร็วๆ หน่อยดิ คิดถึง”
“ฮึๆ มีอะไร ท่าทางหงุดหงิดนะมึง”
“อย่ามารู้ทัน เบื่อว่ะ อยากอยู่หอเดียวกับมึงอ่ะ”
“ก็ทนๆ ไปก่อนดิ แล้วเดี๋ยวค่อยไปอ้อนพ่อมึงใหม่ พ่อมึงตามใจมึงอยู่แล้วแหละ”ก็จริงนะ พ่อรักผมมากที่สุด ตามใจผมที่สุด ขนาดล่าสุดไปรับผมที่โรงพักยังไม่ว่าผมสักคำ มีบ่นๆ นิดหน่อยแต่พอผมกอดเอวแล้วยกมือไหว้ขอโทษพ่อก็กลับมาโอ๋ผมใหม่ ต่างจากแม่ที่ชอบโหดกับผมตลอด เรื่องที่ขึ้นโรงพักนี่แม่บ่นไปสามวัน แต่คนรู้กันเกือบทั่วตลาด อายนะไม่ใช่ไม่อาย แม่ก็บอกว่าดี จะได้ไม่ทำ ใช่แล้ว รับรองคราวหน้าจะไม่ทำให้ถูกจับได้อีก สัญญาเลยครับ
“เซ็งอ่ะ”
“เหงาล่ะสิมึง”
“เออมั้ง ไม่รู้ว่ะ พรุ่งนี้กูนอนห้องมึงนะ”
“เฮ้ยไม่ได้ พรุ่งนี้เด็กกูไปส่งด้วย มันจะค้างสองคืน”
“ไรวะ!! เด็กไหนอีก”
“ก็น้องตองไง”
“อีตองลีดฯ อ่ะนะ ยังไม่เลิกอีก แรดจะตาย ไม่เห็นน่ารักเลย”ผมไม่ชอบเด็กมันคนนี้เลย รุ่นน้องปีเดียวชื่อตอง มันเป็นคนเดียวที่ผมเรียก ‘อี’ ตัวสูงเท่าๆ ผมนี่แหละแต่มันอ้วนกว่า เมื่อก่อนตอนมันเพิ่งเข้ามาเรียนปวส.1 เป็นช่วงที่ผมใกล้จะเลิกกับคีย์รอบที่สอง ตอนนั้นมันยังตัวเตี้ยกว่าผมนิดหน่อย แล้วชอบทำท่าเหนือกว่าผม ประมาณว่ามันตัวเล็กกว่านะ เตี้ยกว่า น่ารักกว่า ไม่รู้เอาเซลล์สมองส่วนไหนคิดถึงได้เอาความเตี้ยของมันมาข่มคนอื่น แถมชอบทำตัวแอ๊บแบ๊ว ไอ้คีย์จีบแค่สามวันก็เสร็จมันแล้ว แรกๆ เพื่อนบางคนคิดว่าอีนี่ไร้เดียงสาของจริง ประมาณว่าไม่เคย คีย์ได้เปิดซิงแน่ๆ พอได้จริงๆ คีย์บอกลีลาสุดยอด เทคนิคใช้ปากชั้นครู ผมก็บอกมันตั้งแต่แรกแล้วว่ามันแรดเงียบ แกล้งแบ๊วไว้จับผู้ชาย แต่ไอ้คีย์ดันชอบจริงๆ นี่สิ ไม่ใช่ชอบแบบน่ารักหลงรักอะไรหรอกนะครับ ชอบที่ว่ามันลีลาดีต่างหาก
“เออกูชอบของกูแล้วกันน่า เดี๋ยวก็ห่างกันแล้ว ขอส่งท้ายกันหน่อยสิวะ”
“ระวังเอดส์แดกนะมึง ไว้ข่าวว่าทั้งทีมบาสเสร็จมันหมดแล้วด้วย”อันนี้พูดเล่นครับ
“ไอ้เนม ตกลงมึงจะให้กูเป็นเอดส์ตายให้ได้ใช่มั้ย แช่งกูตลอด”ตั้งแต่มันเริ่มมีอะไรกับอีตองผมก็แช่งคีย์ตลอด
“เลิกๆ ไปเหอะ ที่นี่แจ่มๆ เพียบนะเว้ย ขาวๆ ตัวเล็ก ก้นงอนๆ สเป็คมึงเลย”
“น้ำลายไหลเลยกู”
“ไอ้หื่น!”
“ก็มึงพูดยั่วกูเอง แล้วนี่อยู่ไหนวะ ทำไมได้ยินเสียงรถ”
“หน้าคอนโด กูออกมาซื้อบุหรี่”
“เพลาๆ หน่อยนะมึง เดี๋ยวก็ป่วยอีก”
“รู้แล้วน่า แล้วตกลงพรุ่งนี้กูไปค้างด้วยได้มั้ย”
“....อีกสองวันแล้วกันนะ”
“ไอ้เชี่ยคีย์!!! มึงเห็นอีนั่นดีกว่ากูเหรอ”
“โหยมึงอ่ะ เพื่อเพื่อน ความสุขของเพื่อน มึงท่องไว้หน่อย แม่งถ้ามึงได้ลองก็ติดใจเหมือนกูแหละ ตอนนี้ก็รอกูอยู่ในห้องน้ำแล้วด้วย ซี้ดดดด กูไม่คุยกับมึงแล้วดีกว่า ตัณหาเรียกร้อง กูไปนะ ซื้อเหล้าไปแดกให้หลับสักขวดไปมึง เดี๋ยวพรุ่งนี้กูโทรหา”มันร่ายยาวทีเดียวแล้วก็ตัดสายผม ไอ้เพื่อนชั่ว!!
ผมนั่งสูบบุหรี่ไปเรื่อยๆ มวนที่สามแล้ว เซ็ง นี่ผมหายมาจากห้องสักพักแล้วนะ มันยังไม่รู้เหรอว่าผมไม่ได้อยู่บนนั้น ไม่ได้อยู่ในห้อง หรือ...มันจะไม่ได้ออกมาดู...หรือมันรู้แล้วแต่ไม่สนใจ....เอาไงดี นี่ผมกะว่าถ้ามันหาผมไม่เจอต้องรีบลงมาตามหาแน่ๆ ไม่ใช่ว่าผมอยากให้มันตามหาหรอกนะ แต่แค่อยากเห็นมันวิ่งพล่านบ้าง อย่างน้อยๆ ผมคงอารมณ์ดีขึ้น
โอ๊ะ!...นั่นไง กำลังนึกเพลินๆ ก็เห็นมันเดินออกจากคอนโดฯ มาแล้ว ผมมองซ้ายมองขวาหาที่หลบ แต่คิดอีกทีเปลี่ยนใจไม่หลบดีกว่า ถ้ามันตามหาผมมันก็มองจนเห็นแน่ๆ เพราะผมนั่งหน้ามินิมาร์ทเลย ไฟสว่างจ้า โล่ง ไม่มีอะไรบดบัง ผมคีบบุหรี่จ่อปากสูดลึกๆ เข้าปอด นั่งมองรถที่ขับผ่าน มองฝาท่อระบายน้ำ แต่หางตาผมเห็นแล้วว่ามันกำลังเดินเข้ามาใกล้ทุกที เชื่อเถอะว่าประโยคแรกที่ผมเตรียมพูดกับมันคือ ‘อย่ามายุ่ง’ เพราะว่ามันจุ้นกับผมเกินไปแล้ว ผมนั่งคิดหาคำพูดเจ๋งๆ เจ็บๆ ไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกที....มันเดินผ่านหน้าผมไปแล้ว!! มันเดินผ่านหน้าจริงๆ ครับ ใกล้จนจะเหยียบเท้ากันอยู่แล้ว แต่...มันเดินเลยไป หรือว่าเพราะผมนั่งก้มหน้ามันเลยไม่เห็น ผมรีบมองซ้ายมองขวา เห็นฝาขวดน้ำอัดลมอยู่ใกล้ๆ เลยเอื้อมมือไปหยิบแล้วรีบขว้างใส่ถังขยะเสียงดัง ปุ!.....ถังพลาสติก โอยยยย อยากจะบ้าตาย เสียงเบาขนาดนี้ผมคนขว้างยังเกือบไม่ได้ยิน แล้วมันเดินไปโน่น...แล้ว….!!
“เฮ้ย!!”ตกใจหมด เงยหน้ามองหามันอีกที มันมายืนอยู่ตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไร
“จะอยู่นี่อีกนานมั้ย”นั่นไง ในที่สุดคำพูดที่เตรียมไว้ก็ได้ใช้สักที
“อย่ามายุ่ง!!”
“เออ งั้นถ้าเข้าห้องไม่ได้ก็นั่งรอหน้าประตูแล้วกัน”มันพูดจบก็เดินไปเลย เวรเอ้ย!!!
“เอากุญแจมา!”ผมตะโกนสุดเสียงจนมันหันกลับมามองนิ่งๆ ก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ
“อย่าดีกว่า กูไม่อยากพังประตูห้องตัวเองดึกๆ เพราะเด็กปัญญาอ่อนแกล้งล็อคไม่ให้เจ้าของเข้าห้อง”มันรู้ทันความคิดผมได้ไงเนี่ย เซ็งๆๆๆ
“แล้วจะไปไหนน่ะ ไปนานเปล่า”
“หาไรกิน สักครึ่งชั่วโมงมั้ง”
“ไกลป่ะ”
“อยากไปด้วยก็ลุกมา”มันพูดจบก็หันหลังให้แล้วเดินต่อไปโดยไม่สนใจว่าผมจะเดินตามมันหรือเปล่า ความจริงมันคงได้ยินเสียงผมวิ่งตามแล้วนั่นแหละ ก็ผมเพิ่งมาอยู่ใหม่นี่ จะให้นั่งเปลี่ยวๆ คนเดียวโดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะกลับได้ยังไง แต่ผมก็แค่เดินกึ่งวิ่งตามหลังมันนะ ไม่ได้เดินไปตีเสมอมันหรอก
เดินมาแป๊บเดียวก็ถึงรถขายก๋วยเตี๋ยวไก่ มีข้าวมันไก่อยู่ในร้านเดียวกัน มันสั่งข้าวมันไก่พิเศษและเกาเหลาหนึ่งชาม ส่วนผม...ข้าวมันไก่ทอด...ถึงจะทานแล้วก็ทานอีกแล้ว ใช้พลังงานในการโวยวายไปเยอะนี่นา
นั่งรอไม่นานข้าวมันไก่ทอดหอมๆ ก็มาวางตรงหน้า แต่เกาเหลาของมันกลิ่นหอมน่ากินมากเลย ไม่เป็นไร ผมก็มีน้ำซุปของผม มันนั่งทานของมันไป ผมก็ทานของผม จนผมทานเกือบหมดนั่นล่ะมันถึงได้เริ่มพูดก่อน
“ไปมหาฯลัยถูกยัง”
“ไม่ได้โง่”
“นั่งรถสายอะไร”
“แท็กซี่ก็มี ให้เพื่อนมารับก็ได้”เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปหาคีย์แล้วให้มันมาส่ง พอเปิดเรียนตอนเช้าก็ให้มันมารับ หรือไม่ก็นั่งแท็กซี่เองก็ได้ แต่คีย์มันต้องคอยมารับมาส่งช่วงแรกๆ อยู่แล้วล่ะ
“หัดประหยัดๆ ซะบ้าง ไม่สงสารแม่รึไง แท็กซี่ร้อยกว่าบาทเอามาขึ้นรถเมล์ได้กี่รอบรู้รึเปล่า”
“เสือกอะไรด้วยล่ะ”
“รวยนักมื้อนี้ก็จ่ายให้ด้วยล่ะกัน ขอบใจที่เลี้ยง”มันพูดแล้วก็ลุกเดินไปเลย ไก่ทอดชิ้นสุดท้ายยังคาช้อนผมอยู่ ผมยังทานไม่หมด แต่มันทานหมดแล้ว และ...เดินไปโน่นแล้วอ่ะ แม่ง! นิสัยเลว!!
ผมรีบตักไก่เข้าปากแล้วแอบซดน้ำเกาเหลาของมันอีกสามช้อนติดๆ ก่อนจะเดินไปหาคนขายแล้วถามราคาค่าอาหาร ซึ่ง...แพงกว่ากินที่บ้านอีก ซื้อกินที่บ้านข้าวมันไก่ธรรมดาหรือไก่ทอดก็แค่จานละ 20 บาทเอง นี่ของผมตั้ง 35 ของมันพิเศษก็ 35 เกาเหลาอีก 35 บาท ค่าน้ำแข็งแก้วละบาท แบงค์ร้อยใบเดียวยังเอาไม่อยู่ นี่รถเข็นธรรมดาเองนะ ไม่ใช่ร้านตามตึกแถวซะหน่อย ทำไมขายแพงจัง
“งานการก็มี ห้องก็ออกจะหรู แม่งให้เด็กเลี้ยง นิสัยเสีย”ผมเดินกำเงินทอนบ่นเบาๆ ตามหลังไอ้คนกินแล้วหนี
“บ่นไร”
“ด่ามึงอ่ะแหละ”
“ขึ้นมึงขึ้นกูอีกครั้งเดียวกูจะหักเงิน ไปเอานิสัยนี้มาจากไหน ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ กูน่ะอายุมากกว่ามึงกี่ปี หัดรู้เรื่องซะมั่ง”
“อ๋อ จะบอกว่าตัวเองแก่ว่างั้นเหอะ”มันแก่กว่าผมตั้งหกปีแน่ะ ครึ่งรอบเลยนะ ตอนนี้มันใกล้สามสิบแล้ว แก่ว่ะ ยี้
“เค้าเรียกวัยคุณภาพ”
“แหว่ะ”
“ทำหน้าปัญญาอ่อน”มันหันมาหัวเราะใส่แล้วก็เดินต่อ เล่นเอาผมเกือบเดินสะดุด อยู่ดีๆ ก็หัวเราะใส่ ไอ้บ้า เซ็งๆๆๆ ทำมาเป็นหัวเราะเยาะ ไอ้แก่เอ๊ย
กลับมาถึงห้องผมก็เริ่มจัดของ เพราะตั้งแต่มามัวแต่หงุดหงิดเลยไม่ได้รื้ออะไรออกจากกระเป๋าเลย จัดของเสร็จก็อาบน้ำเตรียมนอน ดีนะที่ห้องนี้มีห้องน้ำในตัว แต่เหมือนห้องมันจะไม่มีนะ แล้วทำไมมันไม่อยู่ห้องนี้ล่ะเนี่ย ออกจะสะดวกสบาย ผมปิดโคมไฟที่หัวเตียงแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเกือบลืมภารกิจสำคัญ เลยรีบหยิบโทรศัพท์มาพิมพ์ข้อความก่อนจะกดส่งไปหาคีย์ ทำซ้ำๆ สักห้าหกครั้ง คีย์ชอบตั้งเสียงข้อความเข้าเป็นเสียงเพลงน่ะครับ ถึงจะสั้นๆ แต่ผมส่งซ้ำๆ มันก็คงรำคาญ และอีเด็กเวรที่น่าจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับคีย์ตอนนี้ก็คงหงุดหงิดน่าดู สมน้ำหน้าพวกมัน ผมแถมท้ายด้วยการโทรศัพท์ไปหาคีย์เผื่อมันรู้ทันแล้วปิดเครื่องก่อน ผมโทรรอบแรกแล้ววาง มันยังไม่ปิดเครื่อง เลยโทรใหม่อีกรอบ คราวนี้มันปิดเครื่องหนีแล้ว ผมก็เลยเปลี่ยนเป็นโทรเข้าเบอร์บ้านแทน เพราะคีย์มีเบอร์ส่วนตัวในห้องนอน โทรแล้ววางอีกสามรอบ เฮ้อ.....แค่นี้ผมก็นอนหลับอย่างสบายใจได้แล้ว
ขณะที่ผมกำลังเคลิ้มๆ จะหลับเสียงโทรศัพท์บนหัวเตียงก็ดังจนผมสะดุ้งตื่นแล้วรีบหยิบมากดรับแบบงงๆ
“อืม...พี่คีย์....ดีฮะ....อ๊ะ.......ซี๊ดดดด....เสียวจังเลยฮะ....พี่คีย์....ชอบมั้ยฮะ...ชอบตองมั้ย”
“อ่าห์....ชอบครับ....โอ๊ะ...เร็วหน่อยตอง....เก่งครับ กดลงมาลึกๆ อีก...โคตรฟิตเลยตอง.....อา”ตื่นเลย....อ๊ากกกก...อีตองมันแกล้งผมแน่ๆ เพราะคีย์ไม่มีทางทำแบบนี้เด็ดขาด อีบ้าตองมันต้องแกล้งเอาโทรศัพท์มากดโทรออกแล้วเปิดสปีคเกอร์โฟนให้ผมฟังแน่ๆ เลย มันน่ะบ้า คิดว่าผมรักคีย์เลยพยายามกีดกันมัน แล้วก็ชอบทำท่าข่มผมทุกครั้งที่คีย์ควงมันให้ผมเห็น
“ไอ้คีย์!!!!”ผมตะโกนสุดเสียงให้อีกฝ่ายได้ยินด้วย แล้วมันก็คงได้ยินเสียงผมจริงๆ เพราะได้ยินเสียงมันร้องเฮ้ย ก่อนสายจะตัดไป พรุ่งนี้มึงตายแน่ไอ้คีย์ ปล่อยให้มันมาหยามผมทิ้งทวนงั้นเหรอ เดี๋ยวจะเอาให้กระอักทั้งคู่เลย ผมกดปิดเครื่องแล้วข่มตาให้หลับ แต่เสียงอีเวรนั่นจะหลอนจนหลับไม่ลง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เนม! เป็นอะไรหรือเปล่า”อ้าวเวร สงสัยตะโกนดังเกินเลยทำให้ไอ้บ้าอีกคนตื่น
“ไม่ได้เป็นไร”ผมเดินไปแง้มประตูก้มหน้าคุยกับมัน ก็ตอนนี้ไม่ได้ใส่เสื้ออ่ะ มันก็เขินๆ เหมือนกันนะ
“เมื่อกี้ได้ยินเสียงร้อง”
“อ๋อ...ฝันร้ายอ่ะ ฝันว่าได้ยินเสียงเปรตมาขอส่วนบุญเลยตกใจ”
“อืม นึกว่ามีอะไร ไปนอนต่อไป”มันเดินกลับไปนั่งบนโซฟา นี่มันยังไม่นอนอีกเหรอ จะตีสองแล้วนะ ผมก็นึกว่าทำมันตื่นเสียอีก แต่ก็ช่างเหอะ ไม่เกี่ยวกับผมนี่นา
ห้องใหม่สองห้องช่างแตกต่างกันเหลือเกิน ห้องไอ้บ้านั่นที่ผมอาศัยอยู่ไม่ได้หรูอย่างในละครที่มุมโน้นมุมนี้สวยๆ หรูๆ แต่มันก็กว้างและสะดวกสบาย มีของใช้ครบครัน ชุดครัวก็มีอุปกรณ์ครบทุกอย่าง ตู้เย็นสูงท่วมหัวผม ห้องน้ำสองห้อง มีระเบียงที่ตากเสื้อผ้าแล้วก็ยังพอเหลือมุมเล็กๆ ให้นั่งเล่นได้ โถงกลางซึ่งเป็นห้องนั่งเล่นและรับแขกมีชุดโฮมเธียร์เตอร์ โซฟารับแขกตัวยาวสำหรับสามที่นั่งและโซฟาเดี่ยวอีกสอง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ห้องแคบลงไปเลย ต่างจากห้องที่ผมกำลังนั่งมองเอื่อยๆ บนเตียง มันเป็นแค่หอพักที่คอนข้างดี มีหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ กับห้องนั่งเล่นเล็กๆ ที่เรียกว่าเล็กจริงๆ อ่ะ เอาคอมฯ วาง โทรทัศน์วาง ก็เต็มแล้ว แถมยังต้องแบ่งมุมไว้สำหรับซื้อตู้เย็นมาวางอีก มุมเล็กๆ หน้าห้องน้ำนั่นล่ะ มีห้องน้ำอยู่ตรงระเบียง ติดห้องนอนพอดี มันก็ดูดีล่ะนะถ้าเทียบกับบางหอที่เป็นห้องเปล่าๆ ไม่มีห้องแยกแบบนี้ แต่ยังไงไม่รู้ ถ้าผมไม่ได้อยู่ห้องไอ้พี่โก้มาก่อน ผมก็น่าจะยังรู้สึกดีอยู่ แต่ตอนนี้ผมดันรู้สึกเหมือนคีย์มันแพ้ไอ้บ้านั่นหน่อยๆ ก็เลยหงุดหงิด
“ทำไมไม่หาหรูๆ กว่านี้อ่ะ เช่าคอนโดฯ เลยดิ เอาแบบหรูๆ อ่ะ บ้านก็รวย งกอ่ะ”
“ก็มึงนั่นแหละ ตอนแรกจะอยู่ด้วยกันแล้วเสือกเปลี่ยนใจทำไมล่ะ ตอนแรกจะเอาอีกหอ กว้างกว่านี้แต่ไกลกว่าเลยเปลี่ยนใจ หอนี้ก็ใกล้มหาฯลัยดีนะ เดินไปยังได้เลย นี่ๆ มาดูตรงนี้ซะก่อน มองไปดิ เห็นตึกคณะเรามั้ย เจ๋งป่ะล่ะ”คีย์กอดคอผมให้เดินออกไปตรงระเบียง มองไปไม่ไกลก็เห็นบริเวณของมหาฯลัย และยิ่งคณะเรายิ่งเห็นชัด น่าจะมองเห็นห้องเรียนด้วยนะ จะได้นอนเรียนอยู่ตรงนี้
“ก็ดี ใกล้ดี ไว้โดดเรียนจะได้มีที่นอนใกล้ๆ”
“ยังไม่ทันเริ่มเรียนก็คิดจะโดดแล้วเหรอ”
“ก็พูดไปงั้นแหละ หิวอ่ะ หาข้าวให้กินหน่อย”
“ทำตัวเป็นคุณหนูเลยนะ ช่วยจัดก็ไม่ช่วย มาถึงก็เอาแต่นอน”
“ก็ง่วงนี่ เมื่อคืนได้ยินเสียงเปรตเลยนอนไม่หลับทั้งคืนเลย”
“ฮ่าๆๆ พอกันอ่ะ ทั้งคู่เลย”
“เกลียดมันอ่ะ มึงเลิกติดต่อกับมันเลยนะ นิสัยเลวอ่ะ เกลียดมัน”
“มาเรียนนี่แล้วจะได้ติดต่ออะไรอีกล่ะ ปล่อยมันไปเหอะ เดี๋ยวมันก็หาคนใหม่เองนั่นแหละ”
“ให้มันจริง ถ้ามันมาถึงนี่นะกูจะอาละวาดให้ห้องพังเลย”
“เออๆ ถ้ามันมากูจะพยายามหลบๆ มึงแล้วกัน”
“ไอ้ขี้นี่!!”
“กูชื่อคีย์ แม่งเรียกซะเสียเลย ไปล้างหน้าล้างตาไป เดี๋ยวพาไปหาไรกิน แดดแม่งร้อนว่ะ เห็นแล้วไม่อยากออกไปเลย”
“เออ อยู่ตรงนี้ยังร้อนเลย สั่งไก่มากินกันเหอะ นะๆๆ”
“พิซซ่าเหอะ กูเบื่อไก่”
“ก็แน่ล่ะสิ เมื่อคืนก็ฟาดไปแล้วนี่ตัวนึง”
“จะกินไม่กิน”แน๊ะ ทำเป็นฉุน พูดเรื่องจริงล่ะรับไม่ได้ เดี๋ยวติดโรคจากมันมาเมื่อไหร่จะหนาว
“สองอย่างเลยดิ อยากกินไก่ด้วย ขอชิ้นนึงนะ”ต้องสงบปากก่อน เดี๋ยวมันไม่เลี้ยง
“เออก็ได้ มาถึงก็ผลาญกูเลยนะมึง”คีย์ผลักหัวผมเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องไปสั่งอาหารให้ ผมก็เดินเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างมืออย่างสบายใจ อยู่กับคีย์ก็ดีอย่างนี้ล่ะ มันตามใจผมบ่อยๆ แล้วก็ไม่ค่อยทำให้ผมโกรธ อยากย้ายมาอยู่กับมันจัง
+++++++++++++++++++++++
ขอตอบคำถามสำหรับคนที่สงสัยเรื่องหรืองงๆ เรื่องตัวอย่างของตี๋ ที่เคยสปอยไว้ในระเบียงรักว่าไม่ลงแล้ว หรือไม่แต่งแล้ว หรือลงเมื่อไร
ความจริงคือตอนแรกแต่งเรื่องของตี๋ไว้แล้ว(มีสต็อคเยอะกว่าของโก้อีก) แต่ด้วยความชอบโก้ส่วนตัวเลยทำให้ตี๋ไม่คืบหน้า
ก็เลยขอเอาเรื่องของโก้มาให้อ่านก่อนนะคะ จบเรื่องนี้แล้วถึงค่อยเป็นตี๋ สรุปแล้วมันคือไตรภาค กร๊ากกกกกกก อีกกี่ชาติจะแต่งจบหมด
สำหรับคนที่ถามหานุ้งมิ้นว่าไม่ได้โพสต์ให้แล้วเหรอ อันนี้ขอแสดงความเสียใจกับแฟนคลับส่วนตัวของมิ้นด้วยว่า หลังจากมิ้นได้เรียนจบแล้ว ได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้าน และไม่สามารถกลับมาฝั่งไทยได้อีกเพราะไม่สามารถขอใบต่างด้ายกลับมาฝั่งไทยได้แล้ว ตอนนี้เธอเลยต้องใช้แรงงานอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นบ้านของเธอ เสียใจกับนุ้งมิ้นด้วยจริงๆ ค่ะ