“อาบน้ำกันไหม” หลังจากจัดการช็อคโกแลตมูสเสร็จ ไอ้พายก็เอ่ยปากชวนผมอาบน้ำ
“มึงยังไม่ได้อาบเหรอ เห็นใส่ชุดคลุม”
“ยัง... กูไปสปามา เสร็จแล้วก็ขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะมันเหนอะน้ำมัน แล้วก็กะว่าจะรออาบน้ำพร้อมมึงนี่แหละ”
“อืม... งั้นก็ไปอาบน้ำกัน”
“มึงเข้าไปก่อน เดี๋ยวกูรอรูมเซอร์วิสมาเก็บโต๊ะ” ผมพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
ในห้องน้ำค่อนข้างกว้าง มีอ้างล้างหน้าคู่ พร้อมกระจกบานใหญ่ ถัดไปเป็นห้องกระจกที่มีฝักบัวแบบเรน ชาวเวอร์ และไฮไลท์ของห้องน้ำห้องนี้อยู่ที่อ่างอาบน้ำขนาดกลางที่อยู่ติดริมกระจกใส มองออกไปเห็นวิวของอ่าววิกตอเรีย แช่น้ำไปมองวิวไปสบายทั้งกายสบายทั้งตา... ในอ่างอาบน้ำตอนนี้มีน้ำอยู่เต็มพร้อมฟองสบู่กลิ่นหอมผ่อนคลาย ไอ้พายคงเข้ามาเปิดทิ้งไว้ก่อนผมจะมา
เอาจริงๆ เลยนะ แค่เห็นบรรยากาศในห้องน้ำ ผมก็จินตนาการไปแล้วว่า การฉลองวาเลนไทน์ยกแรกของเรา มันต้องเริ่มต้นขึ้นที่นี่แน่นอน ไม่ในอ่างอาบน้ำ ก็ใต้ฝักบัวฉ่ำ หรือไม่ก็ทั้งสองแห่ง...
ผมยืนอยู่หน้าอ่างล้างหน้า มองตัวเองในกระจกก็เห็นความล้าบนใบหน้า วันนี้ผมเหนื่องมาทั้งวัน ตั้งแต่เช้าตื่นมาก็ต้องหาเมียตัวเองที่หายไป ตกบ่ายก็ต้องทำงาน ตกเย็นก็ต้องขึ้นเครื่องมาฮ่องกง จนลืมไปเลยว่าเมื่อเช้าผมลืมโกนหนวดหน้าถึงทั้งล้าทั้งโทรมขนาดนี้.... กำลังจะเดินออกไปหยิบที่โกนหนวดในกระเป๋า ก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้หยิบมา พวกสบู่ยาสีฟันแปรงสีฟัน เชฟ และอาฟเตอร์เชฟ ทุกสิ่งอย่างอยู่ที่คอนโดหมด... ขี้ลืมจริงๆ เลยกู จริงๆ อาจเป็นเพราะผมเสียนิสัยจากการที่ไอ้พายมักเป็นคนเตรียมของทุกอย่างให้เสมอ เวลาเราจะไปข้างอ้างแรมที่อื่นกัน คราวนี้ไม่มีเมียเตรียมให้ เลยลืมแม่งซะเกือบทุกอย่าง ดีนะที่เสื้อผ้าและกางเกงในยังเอามา
ผมเลยต้องหยิบของไอ้พายออกมาใช้แทน จริงๆ ของทางโรงแรมก็มี แต่อยากใช้ของเมียใครจะทำไม ไม่ต้องสงสัยว่าไอ้พายโกนหนวดด้วยเหรอ? ไอ้พายก็ผู้ชายนะครับ มันมีหนวด และมันก็ต้องโกนเหมือนกัน...
ผมยืนโกนหนวดและแปรงฟันจนเสร็จ ไอ้พายก็เดินเข้ามาในห้องน้ำ มันเดินเข้ามายืนข้างๆ ผม เราส่งยิ้มให้กันผ่านกระจก แล้วไอ้พายก็หยิบแปรงสีฟันขึ้นมาจัดการกับตัวเองบ้าง ผมยังยืนอยู่ที่เดิม ยืนมองมันแปรงฟัน มันก็มองผมบ้างมองฟันตัวเองบ้าง จนมันแปรงฟันบ้วนปากเสร็จ เราสองคนก็ยังคงยืนอยู่ข้างๆ กัน ส่งยิ้มให้กันผ่านกระจก ไม่มีคำพูดอะไร มีแต่ความเงียบ และกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวไอ้พาย... ผมเริ่มขยับตัว เดินไปยืนซ้อนหลังมัน ก่อนจะก้มลงไปจูบซอกคอขาว
ผมค่อยๆ เอื้อมมือไปปลดสายรัดชุดคลุมของไอ้พายออก ไล้มือผ่านหน้าท้องแบนราบที่เรียบลื่นขึ้นมาจนถึงยอดอกเล็กที่กำลังชูชันแข็งขืนเป็นตุ่มไตเตรียมสู้กับนิ้วมือของผมที่กำลังปัดป่าย และบี้คลึง... ปากที่ยังคงซุกไซ้ซอกคอก็ทำหน้าที่ต่อไปอย่างไม่ลดละ สองสายตาก็ยังคงประสานกันผ่านกระจก สายตาไอ้พายวาวแววอ้อนวอนและเคลิบเคลิ้ม สายตาของผมก็ส่งแววปรารถนาออกไปอย่างไม่ปิดบัง
ผมหยอกเอินกับยอดออกไอ้พายหนักหน่วงขึ้น จนไอ้พายต้องพิงผมไว้ทั้งตัว มันแหงนหน้าขึ้นพร้อมปากที่เผยอและเสียงครางแผ่วเบา ความซ่านที่กำลังก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทำให้ไอ้พายของผมเซ็กซี่เป็นบ้า!!!
ผมละมือจากยอดอกของไอ้พายมาปลดเสื้อคลุมออกจากตัวมัน ภายใต้ชุดคลุมสีขาวมีเพียงร่างบางเนื้อเนียนที่ไร้ซึ่งอาภรณ์ใดๆ แค่นี้ก็ทำให้ผมยิ่งคลั่งเข้าไปใหญ่… ผมเคลื่อนปากจากซอกคอขาวมายังต้นคอด้านหลังแล้วค่อยๆ ลากลิ้นลงไปตามแนวสันกระดูก ยาวเรื่องลงมาจนถึงซอกลับที่คุ้นเคย สองมือประคองฟ่อนเฟ้นเนื้อแน่นที่สะโพกและก้น ก่อนจะแหวกร่องหลืบให้ลิ้นร้อนได้เข้าไปชอนไช… ไอ้พายครางหนักและดังขึ้นเมื่อลิ้นผมลากเลียและแหย่ลึกเข้าไป แต่… มันยังไม่ถึงจุดที่จะทำให้เจ้าตัวแดดิ้นมากกว่านี้ ผมเลยจัดการยกขาขวาของไอ้พายขึ้นเพื่อเปิดเผยช่องทางให้กว้างและชัดเจนพอให้ลิ้นของผมได้เข้าไปสำรวจลึกมากกว่านี้...
“อ๊ะ... ริว ริว!” ไอ้พายครางดังขึ้นอย่างสมใจ เมื่อผมแหย่ลิ้นแทงลึกเข้าไป พร้อมบดขยี้ลากไถไปมา จนไอ้พายต้องจิกมือกับขอบอ้างล้างหน้าไว้แน่น... เมื่อช่องทางฉ่ำชื้นได้ที่ ผมก็จัดการเปลี่ยนอุปกรณ์สำรวจเป็นนิ้วหยาบของผม... เริ่มจากหนึ่งค่อยๆ แทรกเข้าไปควานหาจุดที่จะทำให้เมียผมได้สุขสม เมื่อได้ยินเสียงหวีดด้วยความเสียวสุดผมก็เพิ่มอีกนิ้วเข้าไปช่วยกันทำหน้าที่ทรมาน ผมว่ามันช่างเป็นความทรมานที่แสนหอมหวาน และไอ้พายก็ชอบที่จะผมทรมานมันแบบนี้เสมอ
“อืออออ ริวววว ริวววว ริวจ๋า ริว!! เข้ามาเถอะ” ปกติผมจะไม่รอช้าและตามใจมันเสมอ แต่ไม่ใช่วันนี้ ผมอยากทรมานมันอีก ซึ่งนั่นก็หมายถึงว่าผมก็ต้องทรมานตัวเองเช่นกัน แต่ผมอยากให้การปรนเปรอในครั้งนี้มันยาวนาน แนบแน่น และเต็มที่ จนกว่าทุกอย่างจะพร่างพรายออกมา
“อย่าเพิ่งสิที่รัก... ไปที่อ่างกันนะ” ไอ้พายส่งเสียงอื้ออ้าอย่างขัดใจที่ผมปล่อยขามันลง และดึงนิ้วออกจากช่องทางของมัน ผมยืดตัวขึ้นยืนซ้อนมันอีกครั้ง และกำลังจะจับจูงมันไปที่อ่าง... แต่ก็ไม่ทันไอ้พาย มันหันมาเขย่งตัวและโน้มคอผมเข้ามาจูบอย่างหนักหน่วงและโหยหา จูบหวานๆ ที่เผ็ดร้อนขึ้นเรื่องๆ เสียงจ๊วบจ๊าบสลับเสียงหอบเล็กๆ ดังก้อง ลิ้นนุ่มๆ ของไอ้พายเข้ามาทักทายและหยอกเย้าลิ้นอุ่นของผมอย่างยั่วยวน... มือไอ้พายก็ทำหน้าที่แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของผมออกอย่างรวดเร็ว เมื่อเสื้อเชิ้ตหลุดออกจากตัว ไอ้พายก็ลากมือไปตามแผงอกของผม เรื่อยลงมาตามหน้าท้องลูบวนเบาๆ ที่แอ่งสะดือ ก่อนจะจัดการกับกางเกงยีนส์ของผมให้พ้นทาง
“อืมมมม พาย” คราวนี้ถึงตาที่ผมจะทรมานบ้างแล้ว... ไอ้พายลูบไล้มือบนแก่นกลางลำตัวผมที่แข็งขึงตั้งแต่สำรวจช่องทางไอ้พายแล้ว มือนิ่มๆ ของมันให้ความรู้สึกดีเสมอเวลาสัมผัสผม มันค่อยๆ ลูบและลากมืออย่างช้าๆ ก่อนที่มือเล็กจะสอดหายเข้าไปด้านใน เพื่อสัมผัสกับเนื้อแท้ของจริง....
“อ้าาาาาาาาา” ผมครางยาวอย่างเสียวซ่าน เมื่อไอ้ตัวดีทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้น แล้วดึงชั้นในผมลงเพื่อที่จะได้ครอบครองแก่นกลางได้อย่างเต็มที่... มันจัดการครอบปากลงไปแล้วดูดเลียอย่างมีความสุข แถมมีการช้อนสายตาขึ้นมามองผมอย่างยั่วๆ แหม... มันน่าจับซัดซะตรงนี้เลยจริงๆ แต่เดี๋ยวก่อน ปล่อยให้มันได้ทำหน้าที่ที่คุ้นเคยอย่างเต็มที่ซะก่อน ถือเป็นการฝึกความอดทนทั้งสองฝ่าย
ไอ้พายครอบงำ ดูดดึง และไล้เลียวน ตั้งแต่ส่วนปลายยันโคน ปากบางสีชมพูสดขยับเข้าออกเร็วขึ้น... จนในที่สุดความอดทนผมก็ถึงขีดจำกัด ผมก้มลงดันตัวไอ้พายออกจากแก่นกลางของผม ไอ้พายเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย แต่ไม่ทันที่จะให้มันเอ่ยปากถามอะไร ผมก็จัดการช้อนตัวมันอุ้มขึ้นแนบอก และเดินไปที่อ่างอาบน้ำอย่างรวดเร็ว... น้ำในอ่างยังคงอุ่นกำลังดี ผมค่อยๆ วางไอ้พายลงในอ่างก่อน แล้วตัวเองก็ค่อยๆ ก้าวลงไปนั่งซ้อนมันอีกที เราสองคนหันหน้าออกไปยังวิวแสงไฟยามค่ำคืนของฮ่องกง...
ผมรั้งหน้าไอ้พายให้หันมาจูบกันอีกครั้ง มืออีกข้างก็จัดการกับไอ้พายน้อยที่แข็งไม่แพ้กับของผม ไอ้พายเองก็ไม่ยอมแพ้ มันถูไถช่องทางตัวเองกับแก่นกายของผม ยิ่งมันขยับบิดไปมา ยิ่งยั่วยุให้มังกรด้านล่างมีกำลังที่แข็งแรง ผมก็ยิ่งเร่งมือชักรูดของไอ้พายเร็วขึ้น เราสองคนต่างสงเสียงครางสลับกันไปมา แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปซะก่อน ไอ้พายก็ค่อยๆ ลุกขึ้นหันหน้ามาทางผม แล้วมันก็ค่อยๆ จับมังกรผงาดจ่อเข้าที่ช่องทางของมัน แล้วไอ้พายก็ค่อยๆ ทิ้งตัวลงมาครอบครองความใหญ่โตจนหมดสิ้น...
“อืมมมมมมมมมม” ผมครางยาวอย่างอดไม่อยู่ ไอ้พายเองก็เช่นกัน มันก้มลงมาจูบผมอีกครั้ง ก่อนที่มันจะเริ่มขยับตัวขึ้นลง ไอ้พายก็ยังคงเป็นไอ้พาย หากมันต้องการจะคุมเกม ก็ต้องปล่อยให้มันได้ทำอย่างเต็มที่ และมันก็ไม่เคยทำให้ผมผิดหวังเลยแม้แต่น้อย...
ไอ้พายควบผมเร็วขึ้น แรงขึ้น ผมเองก็เด้งตัวสวนสอดรับประสานกับจังหวะของมัน ไอ้พายสะบัดหัวไปมาอย่างเสียวซ่าน ปากก็ครางเรียกชื่อผมไม่หยุดหย่อน ผมเองก็ไม่ต่างจากมันเช่นกัน...
“ริว... อ๊ะ... ริวววววว ริว”
“อ้าาาาาาา พาย....”
ผมอยากให้มันได้เห็นวิวของอ่าวยามค่ำคืนไปด้วย เลยจัดการ ยกตัวมันขึ้นและจับมันหันหน้าออกไปทางด้านกระจก แล้วก็ค่อยๆ จับมันกดลงมาครอบความแข็งขืนอีกครั้ง... เมื่อได้ที่แล้วไอ้พายก็จัดการขยับขย่มตัวต่อ ผมเองก็เอื้อมมือไปปรนเปรอมันเช่นกัน...
แล้วทุกอย่างก็ถึงที่หมาย ความระยับของแสงไฟด้านนอก ไม่อาจเทียบกับความระยิบของสิ่งที่แตกซ่านออกมาของสองเรา มันงดงาม เต็มอิ่ม และมีความสุข... ไอ้พายค่อยๆ ถอนตัวออก แล้วทิ้งตัวลงนอนพิงมาที่อกผม ผมกอดมันเอาไว้อย่างแนบแน่น ปากก็พร่ำบอกรักกันอย่างไม่หยุดหย่อน...
“กูรักมึงนะพายสุขสันต์วันวาเลนไทน์นะ”
“กูก็รักมึงเหมือนกันนะ รักที่สุดในโลกเลย... แฮปปี้วาเลนไทน์” ไอ้พายหันมาจุ๊บผมอย่างอ้อนๆ อีกครั้ง
“ขอโทษนะปีนี้ไม่มีของขวัญให้มึงเลย” ผมไม่รู้จะซื้ออะไรให้มันดี แต่ก็กะว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยพามันออกไปชอปปิ้งแทน
“ไม่มีที่ไหน แค่มึงบินตามกูมาถึงที่นี่ มาใช้เวลาอยู่ด้วยกันในช่วงวันที่พิเศษแบบนี้ก็เป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้วล่ะ...” น่ารักจริงๆ เมียใครวะเนี่ย
“ขอโทษมึงด้วยนะที่กูต้องไปทำงาน แทนที่จะพามึงไปเที่ยวไกลๆ”
“ขอโทษอีกและ... พอแล้ว มึงไม่ได้ผิดอะไรเลย จริงๆ กูก็เอาแต่ใจไปด้วยซ้ำที่ทำแบบนี้ แต่ก็พยายามทำให้มึงไม่เสียงานมากที่สุดแล้ว... ขอโทษมึงเหมือนกันนะที่ต้องทำให้เหนื่อยขนาดนี้”
“กูยอมรับว่าเหนื่อย แต่ต่อให้กูเหนื่อยกว่านี้แล้วมึงยิ้มได้ตลอดไป กูก็ทนได้... เมื่อเช้ากูแทบบ้า ตื่นมาเมียหาย”
“กูนึกหน้ามึงออกเลยแหละ ฮ่าๆๆๆ” ในที่สุด เสียงหัวเราะนี้ก็ยังคงอยู่กับผม... ผมโยกหัวมันอย่างมันเขี้ยว มันก็อ้อนเอาหัวมาซุกๆ ที่อกผม
“อยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม” ผมถาม
“ก็บอกแล้วว่าได้มึงมานี่ก็พิเศษแล้วไง” น่ารักมาก
“พรุ่งนี้กะว่าจะพาไปชอปปิ้งซะหน่อย งั้นก็คงไม่ต้องแล้วสินะ เห็นวันนี้ก็ชอปมาเยอะแล้วนี่”
“อะไร? ของขวัญพิเศษ กับชอปปิ้งมันคนละเรื่องกันเว้ย... พูดแล้วห้ามคืนคำ พรุ่งนี้ไปตะลุยชอปกันให้ทั่วเกาะฮ่องกงเลย เย้!!!”
“กูพูดตอนไหนวะ กูแค่บอกว่ากะว่า กะว่าไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปนี่หว่า... โอ๊ย!!! ไอ้ห่าพายทุบมาได้” มันหันมาทุบไหล่ผม ดีนะที่ไม่แรงมาก
“ไม่รู้แหละ กูถือว่ามึงพูดแล้ว... อะไรกันเพิ่งจะพ้นวันแห่งความรักมาชั่วโมงกว่าๆ จะขัดใจเมียแล้วเหรอ!!!” เรื่องข่มขู่ ข่มเหงผัวขอให้บอกเถอะครับ คุณพายเธอถนัดที่สุด!
“จ้าๆๆๆ ชอปก็ชอป กูเคยขัดมึงได้เหรอไง...”
“ดีมาก... รักมึงที่สุดเลย” แหม!!!
“จ้า!!!! รักมึงเหมือนกัน”
+++++++++++++++++++++++
+ Talk ตอนนี้ขอยกประโยคที่ลงในเฟสมาลงในนี้นะคะ...
คือ… เมอร์ซี่ดีใจนะคะที่ยังมีหลายๆ คนรออ่านนิยายของเมอร์ซี่กันอยู่ แต่ ตั้งแต่ที่เมอร์ซี่มีบล็อค เมอร์ซี่รู้สึกว่ามีแต่คนอ่าน ไม่มีคนคอมเม้นท์เลย ยอดวิวมีตลอด คนที่ตามมาจากเด็กดีเข้ามาขอพาสเวิร์ดมีทุกวัน คนเข้าไปอ่านในบล็อคก็มียอดวิว แต่ไม่มีคนเม้นท์เลย... คือเมอร์ซี่ไม่ได้จะมาเอานิยายเป็นตัวประกัน เพราะถ้าเป็นคนอ่านเมอร์ซี่จริงๆ จะรู้ว่าเราไม่เคยเรียกยอดเม้นท์จากการเอานิยายมาเป็นข้ออ้าง และไม่ค่อยพูดถึงเรื่องเม้นท์เลยด้วยซ้ำ...
แต่… อยากให้เข้าใจและเห็นใจกันสักนิดนะคะ วรรณกรรมออนไลน์มันจะอยู่ได้ก็เพราะมีคนอ่านและมีฟีดแบคถูกไหมคะ? บางคนอาจบอกว่า ก็ถ้าอยากจะเขียนก็เขียนไปสิ ไม่ต้องสนใจว่าจะมีคนอ่านหรือไม่อ่าน... สนสิคะ คนอ่านก็คือกำลังใจนะคะ ถ้าคนเขียนได้รับรู้ว่ามีคนมาเม้นท์มาพูดคุยถึงนิยายตัวเองบ้าง ไม่ต้องเป็นเม้นท์ชื่นชมก็ได้ค่ะ เป็นเม้นท์ให้ปรับปรุงก็ได้ นั่นก็ยิ่งดีเลย เพราะคนเขียนเองจะได้รับรู้ คือมีหลายคนที่เลิกอ่านนิยายเมอร์ซี่ไปแล้ว เมอร์ซี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะนิยายเมอร์ซี่เองมาต่อช้าเหลือเกิน จะรอไปอ่านตอนจบเลยก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าไปอ่านแล้วอย่างน้อยก็คอมเม้นท์กันด้วยเถอะค่ะ ชอบหรือไม่ชอบตอนนี้อะไรยังไงก็เม้นท์บอกกัน เมอร์ซี่เคยเจอในทวิตเตอร์ที่มาทวิตด่านิยายของเมอร์ซี่ ซึ่ง! ถ้าไม่ชอบไม่ถูกใจตอนไหนก็คอมเม้นท์กันแบบสุภาพชนสิคะ ไม่ใช้ไปด่าลับหลังในทวิต อย่าลืมว่าอะไรที่มันออนไลน์มันก็ไม่เป็นความลับนะคะ!!!
ตั้งแต่เมอร์ซี่ป่วยมานี่ เวลาลงนิยายเมอร์ซี่ยิ่งอยากอ่านคอมเม้นท์ เพราะเมอร์ซี่ไม่รู้ว่าเมอร์ซี่จะได้อ่านคอมเม้นท์คุณไปได้อีกนานแค่ไหน ปุ๊บปั๊บเกิดอะไรขึ้นมาเราก็ไม่มีวันรู้ได้ ทุกคอมเม้นท์เหมือนเป็นกำลังใจและแรงผลักดันให้เมอร์ซี่ยังฮึดเขียนนิยายต่อจนจบ ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าเมอร์ซี่มาบอกว่า เมอร์ซี่เป็นมะเร็ง แล้วจะขอเลิกเขียนนิยายแล้ว เมอร์ซี่จะทำแบบนั้นก็ได้ แต่เมอร์ซี่อยากจะต่อนิยายของเมอร์ซี่ให้จบ เมอร์ซี่รู้ว่ามันคนที่ยังรออ่านอยู่ คนที่เม้นท์กันสม่ำเสมอ ก็ของคุณมากเลยจริงๆ ค่ะ ตอนอยู่รพ. เมอร์ซี่เปิดอ่านคอมเม้นท์ของทุกคนตั้งแต่ตอนแรกจนตอนล่าสุด และอ่านทุกๆ เรื่องเลย ยิ่งอ่านยิ่งอยากเขียนต่อ มันเป็นแรงฮึดจริงๆ นะคะ....
ถือว่าเป็นการขอร้องแล้วกันนะคะ แต่คุณจะทำหรือไม่ทำเมอร์ซี่ก็ไม่มีสิทธิ์ไปบังคับอะไร เพราะยังไงซะเมอร์ซี่ก็จะลงนิยายจนจบ ถ้ายังไหวและยังอยู่นะคะ... ขอบคุณคนอ่านทุกๆ คนไว้ ณ ที่นี้ค่ะ
ปล. เมอร์ซี่จะลงตอนพิเศษริวพายตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายแล้วนะคะ แล้วกะว่าอีกไม่น่าจะเกิน 3-4 ตอน เรื่องนี้จะจบแล้วค่ะ แล้วตอนพิเศษคงจะเป็นในเล่มเลย ไม่ได้จะหน้าเงินจะเอาแต่ขายหนังสืออย่างเดียวนะคะ แต่ตอนพิเศษในหนังสือจะไม่ลงในเนทแน่นอนค่ะ (นอกจากจะมีคนซื้อไปแล้วสแกนแจกซึ่งคิดว่าทำแบบนี้มันถูกต้องแล้วเหรอคะ) เมอร์ซี่ถือว่าคนที่ซื้อความแลกมาด้วยเงินเพราะเขาอยากอ่านจริงๆ แล้วการที่เอามาลงในเนท จะมีใครแลกด้วยอะไรคะ? เพราะเม้นท์ก็ไม่เม้นท์กันอยู่ดี!
ปล. 2 คำผิดเดี๋ยวกลับมาแก้นะคะขอไปพักก่อน