สวัสดีค่าาา
ได้โปรดอย่าเพิ่งฆ่าแกงกันเลยค่ะ ที่มาช้าแหะๆ แถมมาแบบครึ่งๆ กลางๆ ด้วยค่ะคราวนี้
ตอนแรกพิมพ์ๆ ไปกะว่าจะจบ ดันวูบหลับไปเมื่อกี๊นิดนึง เลยขอตัดฉึบ เป็น 25.1 ก่อนนะคะ
แล้วพรุ่งนี้สัญญาจริงๆ ค่ะ ว่าจะเอาที่เหลือมาลง... วันนี้ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ
ดีใจได้เจอเพื่อนๆ และนักอ่านที่งานมีทติ่งเล้าค่ะ (มีการทวงนิยายกันสดๆ เกิดขึ้น ฮ่าๆ)
ขอบคุณทุกๆ คนเช่นกันค่ะ ที่ยังคงอยู่เป็นเพื่อนกันเสมอมา ขอบคุณทุกกำลังใจ และทุกเม้นท์เลยค่ะ
ปล. คำผิดเดี๋ยวกลับมาแก้นะคะ
ปลล. เดี๋ยววันที่ 16 ว่าจะลงตอนพิเศษที่เรื่องน้องเลิฟนะคะ ฉลองครบ 1 ปี
ปลลล. น้องปันปัน น่ารักมากกกกก (ไม่เกี่ยวกับนิยาย แต่แอบมากรี๊ดเฉยๆ ฮ่าๆๆ) ++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 25
สรุปว่าเรื่องที่ผมจะถามมันเรื่องจัสติน ผมก็ไม่ได้เคลียร์ ไม่ได้ถาม เพราะว่าไอ้พายมันโดนไอ้ฟี่โทรมาปลุกแต่เช้า บอกว่าอาจารย์เลื่อนวันส่งงานเป็นวันนี้ก่อนหกโมง มันเลยต้องตาลีตาเหลือก รีบหอบงาน หอบข้าวของ ไปหาไอ้ฟี่ที่คณะ เพราะไอ้ฟี่รับปากว่าจะช่วยมันปั่น เพราะของไอ้ฟี่มันเสร็จแล้ว แถมก่อนไป ยังหันมาเหวี่ยงใส่ผม หาว่าผมไม่ยอมปลุกมัน… ไอ้ห่า!!! กูสาบานได้เหอะ ว่ากูเรียกมึงเป็นสิบรอบแล้ว มึงอิดออดเอง เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยว!!!
บ่ายสามโมง ผมกับพวกเพื่อนในวงก็เดินทางไปสุวรรณภูมิกันโดยรถตู้ของบริษัท เพื่อจะขึ้นเครื่องไปเล่นงานที่เชียงใหม่… ที่แอร์พอร์ท ก็มีบรรดาแฟนคลับหลายคนที่เห็นพวกเราแล้วก็เข้ามาขอถ่ายรูป ขอลายเซ็นต์ ก็ตามปกติแหละครับ วงผมน่ะอย่าให้คุยเลยฮะ ถ้าไม่ใช่วงร็อค ก็เป็นบอยแบนด์ชัดๆ หล่อสัดๆ กันทุกคน (ยกเว้นเหี้ยแจ็ค) ฉะนั้น ไปไหนนี่สาวกรี๊ดตรึมฮะ
“สวัสดีค่ะ น้องๆ วงXXX พี่จากนิตยสาร gossip world นะคะ ขอสัมภาษณ์แป๊บนึงนะคะ” พวกผมก็หันไปมองพี่นุชว่าเอาไง ก่อนที่พี่เขาจะพยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงว่าให้สัมภาษณ์ได้ เพราะก็มีบ่อยๆ ครับที่ออกมาตามงาน หรือมาข้างนอกแบบนี้แล้วจะเจอพวกพี่ๆ สื่อมวลชนเข้ามาทักทายหรือขอสัมภาษณ์ย่อยๆ ถ้าไม่ได้จริงจังเป็นเรื่องเป็นราวก็พอจะให้สัมภาษณ์ได้นิดๆ หน่อยๆ แต่ถ้าเป็นคอลัมน์จริงจัง ก็ต้องนัดผ่าน AR มาก่อนครับ
“งั้นพี่ขอถามน้องริวหน่อยนะคะ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีข่าวกับสาวๆ เลย ช่วงนี้ไม่ได้คบใครอยู่เป็นพิเศษเหรอคะ” หึหึ ผมเนี่ยอย่าให้คุยเลยฮะ น้องๆ พี่โดมก็ว่าได้ เมื่อก่อนตอนดังใหม่ๆ ผมมีข่าวกับดารา นักร้อง นางแบบสาวๆ เป็นประจำ ทั้งที่ผมไปจีบจริง และที่พี่ๆ นักข่าวเขานั่งเทียนเต้าข่าวกันเองบ้าง แต่ช่วงหลังๆ ที่ผมเริ่มจีบเซย์ และเรื่อยมาจนถึงไอ้พาย ผมก็ไม่มีข่าวกับผู้หญิงอีกแล้วครับ แต่ก็มีบ้างประปรายจากข่าวเต้า
“ไม่มีครับ… ตอนนี้เรียนแล้วก็ทำงานอย่างเดียวเลยฮะ แค่นี้ก็แทบแย่แล้วครับพี่” ผมก็ตอบยิ้มๆ จริงๆ ในใจมีต่อนะครับ แค่เรียน ทำงาน และดูแลเมียอีกคนก็แย่แล้วครับพี่
“เหรอคะ… เหมือนมีคนเห็นวันก่อนไปนั่งดินเนอร์หวานกับน้องยาหยี นางเอกมิวสิควิดีโอคนล่าสุดไม่ใช่เหรอคะ”
เต้ามาอีกและ มั่วแล้วครับพี่ครับ น้องยาหยีเนี่ยเธอมีแฟนแล้วครับ เป็นชะนีด้วยกัน… ถูกแล้วครับ น้องเป็นดี้ครับ แล้ววันนั้นที่ไปนั่งกินข้าวกัน ก็กินกันทั้งวงครับ แต่เรื่องน้องเป็นดี้นี่ น้องบอกว่าต้องปิดเป็นความลับ เพราะผู้ใหญ่สั่งห้ามเด็ดขาด แต่ไปๆ มาๆ ผมว่าตอนนี้ผมว่าผู้ใหญ่ทางน้องอาจจะพยายามสร้างกระแสกับผมอยู่ก็ได้ จะได้ปิดเรื่องดี้ของน้องให้แนบเนียน แต่ผมไม่ค่อยเห็นด้วย ถึงผมจะตกที่นั่งเดียวกับเธอ คือมีแฟนแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ผมก็ไม่คิดที่จะเลือกดึงใครเข้ามาเป็นแพะร่วมชะตากรรมด้วยกันหรอกฮะ
“ไปกันทั้งวงแหละครับพี่ ถามไอ้พวกนี้ได้เลย พี่นุชยังไปด้วยเลยครับ ทำไมเห็นแต่ผมกับน้องอยู่กันสองคนได้ล่ะเนี่ย คนอื่นก็เสียใจแย่เลยดิครับที่พี่ๆ ไม่เห็นอะ” ผมก็ตอบไป ทำหน้าตาตอแหลไป
“อ้าวเหรอคะ พี่ก็ไม่ทราบสิคะ เห็นเล่มอื่นๆ เขาเม้าท์ๆ กันมา พี่ก็มีหน้าที่มาหาความจริง ไขข้อกระจ่างเฉยๆ ค่ะ… อ่อ งั้นอีกสักคำถามนะคะ อันนี้อาจจะไม่ค่อยเกี่ยว หรืออาจจะเกี่ยว คือมีคนเห็นเพื่อนร่วมค่ายที่เพิ่งจะตกเป็นข่าวใหญ่ไปเร็วๆ นี้ น้องพายน่ะค่ะ เห็นเดินเข้าออกคอนโดเดียวกันกับน้องริว ไม่ทราบว่าน้องริวได้เจอกับน้องพายบ้างไหมคะ แล้วน้องเขาย้ายไปอยู่คอนโดนั้นหรือว่าแวะไปหาแฟนรึเปล่าคะ” แหม ผมอยากจะรู้จริงๆ ว่าพวกนักข่าวเนี่ย เขาไปหัดดมกลิ่นกับสุนัขตำรวจรึเปล่า แม่งตามกลิ่นมาเกือบถูกทางตลอด ผมหันไปมองพี่นุชนิดหนึ่ง พี่นุชคิ้วขมวดเครียดเลยครับ แต่ถ้าหากพี่นุชรีบเข้ามาตอบเอง หรือแทรกตอนนี้มันจะดูน่าสงสัย ผมเลยต้องจัดการเองครับ
“ไม่ทราบนะครับ พี่ได้ข่าวมายังไงล่ะ คือคอนโดที่ผมอยู่น่ะ มีดารา นักร้องอยู่กันเยอะมาก เพราะซีเคียวริตี้ดี แล้วก็ปลอดภัย ก็ไม่แปลกถ้าหากพายเขาจะย้ายมาอยู่ที่นี่ ส่วนเรื่องเขาจะย้ายทำไม หรืออะไร ผมว่าตอนนี้เขาคงไม่ตอบหรอกฮะ เพราะว่าเขาก็เพิ่งจะผ่านเรื่องร้ายๆ มา และอีกอย่างตอนนี้เขาก็พักงานในวงการแล้วด้วย พี่คิวเองก็อยากให้พายได้พักผ่อน ถึงได้กันพายออกจากสื่อฯ และไม่ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ผมก็รู้เท่านี้แหละครับ…อ่อ ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วครับพี่ พวกผมขอตัวก่อนนะครับ ขอบคุณมากๆ นะครับที่มาสัมภาษณ์วงพวกผม ถ้าอัลบั้มใหม่ออกแล้วจะเรียนเชิญมางานเปิดตัวนะครับ สวัสดีครับ”
ผมรีบตอบตัดบทและร่ำลาพอเป็นพิธี ให้ดูไม่น่าเกลียดจนเกินไป พี่นุชยกมือทาบอกเบาๆ เป็นเชิงโล่งใจ ก่อนจะหันมายิ้มและยกนิ้วโป้งให้ผม แสดงว่าคำตอบคงเป็นที่น่าพอใจของพี่นุช
………………..
………………..
ผมมาถึงเชียงใหม่ ก็ BB ไปบอกไอ้พายมันซะหน่อยว่าถึงแล้ว เป็นการรายงานตัวประจำวันที่ทำอยู่บ่อยครั้ง มันก็ตอบมาแค่ “เออ เล่นดีๆ ล่ะ” เป็นการตอบรับและอวยพรที่สั้นที่สุดในโลก
งานอีเว้นท์ที่เชิญพวกผมไปเล่นก็ไม่มีอะไรมากเล่นแค่ห้าเพลงฮิตของพวกเรา เล่นเสร็จพวกเราก็เลยชวนพี่นุชให้ออกไปหาอะไรกินกัน เพราะอยากกินอาหารเหนือ ก็เลยมาจบที่ร้านอาหารสไตล์ล้านนาขึ้นชื่อร้านหนึ่ง… พอถึงร้าน ระหว่างรออาหารผมก็ขอตัวออกมาด้านนอก เพื่อมาโทรหาไอ้พายมันครับ
รอสายอยู่พักใหญ่ จนเกือบจะตัดสายอยู่แล้ว มันก็รับครับ
“ฮัลโหลๆ เออ ว่าไง เล่นเสร็จแล้วเหรอ” ไอ้พายทักผ่านมาตามสาย ผมได้ยินเสียงอึกทึก เหมือนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย รอดออกมาตามสายจากมัน
“อืมเสร็จแล้ว กำลังจะกินข้าวน่ะ อาหารเหนือแท้ๆ เลยนะมึง สนป๊ะล่ะ” ไอ้พายมันชอบกินไส้อั่วครับ มันเพิ่งจะบ่นๆ ไปเมื่อวันก่อนว่าอยากกิน แต่ผมก็จนปัญญาไม่รู้จะไปหาซื้อที่ไหนมาในมันดี
“โหยยย อิจฉาหวะ ซื้อไส้อั่วกลับมาให้กูด้วยนะ ห้ามลืมเด็ดขาด ห้ามลืม!!! เข้าใจไหม ถ้ามึงลืมนะ กูจะให้มึงนั่งเครื่องบินกลับไปซื้อใหม่เลยคอยดู” สงสัยจะอยากมากจริงๆ กำชับซะขนาดนี้
“เออ ไม่ลืมหรอกน่า อยากกินซะขนาดนี้ ท้องหรือไงมึง อยากกินนู่นนี่” ไม่วายต้องแซวมันแบบหมาๆ ไปซักที
“เออ ท้องกับเหี้ย” หึหึ เสียงเหวี่ยงๆ ที่ตอบกลับมาไม่ได้ทำให้ผมโมโห แต่กลับเรียกรอยยิ้มที่กว้างขึ้นๆ อย่างหยุดไม่อยู่
“โหหห แสดงว่าเชื้อกูแรงข้ามสายพันธุ์นะเนี่ย ทำแรดท้องด้วยได้น่ะ ฮ่าๆๆๆๆ”
“ไอ้เหี้ยยยยย… เฮ้ย เออ แค่นี้ก่อนนะ…” อ้าวอยู่ดีๆ ก็ทำน้ำเสียงรีบร้อนจะวางซะงั้น
“เฮ้ยเดี๋ยว แล้วนี่อยู่ไหน”
“อยู่สุวรรณภูมิ มารับเพื่อน แค่นี้ก่อนนะเพื่อนมาแล้ว….” แล้วมันก็วางสายไปเลย… อยู่สุวรรณภูมิ มารับเพื่อน ไม่ต้องให้กูเดาเลยว่าใคร แม่งกูคิดได้คนเดียวเลยตอนนี้ ไอ้ห่าจัสตินที่มันโพสอยู่บน wall แน่ๆ แล้วสรุป ไอ้ห่านี่เป็นใครวะ เพื่อนจริง เพื่อนนอน หรือว่าคู่ขาเก่า โอ๊ยยยย กูเครียดเลยนะเนี่ย… ผมพยายามโทรกลับไปมันก็ไม่รับสาย ผมเลยส่ง BB ไปว่า ถ้าถึงบ้านแล้วโทรหาด้วย
……………….
……………….
แล้วอาหารมื้อนั้น แทนที่จะอร่อยสุดๆ กลายเป็นมื้อที่ผมไม่ค่อยได้รับรสมากนัก เพราะกินไปก็ใจลอยไป คิดถึงแต่เรื่องไอ้พาย จนหลายครั้งไอ้แจ็คต้องยื่นตีนมาสะกิดบ่อยๆ ขอบคุณมากที่ยื่นตีนมาสะกิดกู สะกิดที่หัวเลยไหมไอ้สัด
เสร็จจากอาหาร ผมก็รีบขอตัวกลับโรงแรมก่อน เพราะเพื่อนๆ จะไปเดินไนท์บาร์ซากัน มีแต่ผมกับไอ้แจ็คที่ขอตัวกลับมาก่อน พอกลับมาถึงห้องปุ๊บ ผมก็รีบจัดการโทรหาไอ้พายทันที ขณะนั้นเป็นเวลา เที่ยงคืนกว่าได้แล้ว ผมพยายามกดโทรอยู่ห้าครั้ง ก็ยังไม่มีคนรับสาย ผมเลยตัดสินใจโทรเข้าห้องตัวเองที่คอนโด เที่ยงคืนกว่าไอ้พายมันคงกลับบ้านแล้ว มันคงยังไม่หลับ ถึงหลับก็คงต้องสะดุ้งตื่นมารับบ้างแหละ เพราะโทรศัพท์บ้านผมเสียงดัง และที่สำคัญมันอยู่หัวเตียง
ผมรอสายอยู่นานจนสายตัดเข้ารับฝากข้อความ ก็ยังคงไม่มีคนรับอยู่ดี ผมไม่ได้ฝากข้อความใดๆ ลงไป เพียงแค่วางสายลงเงียบๆ และปล่อยตัวเองในนั่งนิ่งๆ คนเดียว… คงไม่มีอะไรมั้ง เราต้องเชื่อใจไอ้พายมันสิวะ มันอาจจะพาเพื่อนไปเที่ยวก็ได้ ไม่มีอะไรหรอก
TBC.