มีคนสงสัยว่าป้านองบีรู้จักพริกเกลือหรือเปล่า คำตอบคือ...ป้าเค้ารู้จักนะครับแต่กว่าผมจะอธิบายว่า ไอ้ ‘พริกเกลือ’ ที่ผมว่ามันไม่ใช่พริกดองเกลือ หรือพริกชุบเกลืออย่างที่ป้าเค้าประเคนมาให้ผม ผมอธิบายว่ามันคือการผมสมระกว่างเกลือละเอียด พริก แล้วก็น้ำตาล ป้าเค้าก็ทำซะกลายเป็นซุปแปลก ๆ ที่ผมผสมพริกที่ดูยังไงก็ไม่ควรภูมิใจว่ามันเกิดเป็นพริก เพราะมันเป็นพริกที่เสียชาติเกิดมาก ๆ ก็ป้าแกเล่นไปทำอิท่าไหนไม่รู้มันไม่เผ็ดเลยแม้แต่น้อย จนผมโมโหแดกพริกสด ๆ ทดลองว่าทำไมมันไม่เผ็ด จริง ๆ มันเผ็ดแต่คุณป้าแกไปทำอะไรสักอย่างมันถึงจืดสนิท สรุปโดยรวมแล้วว่าไอ้กระผมก็กินสตอเบอรี่เปล่า ๆ ตั้งแต่แรกก็หมดปัญหา
เราผ่านเรื่องพริกเกลือนั้นไปดีกว่าครับ ตอนนี้ผมละเบื่อ...เบื่อสุด ๆ วันนี้มีหน้าที่เดินไปเดินมา แล้วก็อ้วกแตก พออ้วกจนหน่ำใจก็เดินมานอน พอนอนเสร็จก็ลุกมากิน กินแล้วก็อ้วกต่อเป็นอย่างงี่มา 3- 4 วันแล้ว
‘โฟมได้ยินพี่ไหม’ คุณไม่ต้องตกใจว่าอยู่ ๆ เสียงไอ้สามีผมมาจากไหน ครั้งแรกผมก็ตกใจเหมือนกันครับอยู่ ๆ เสียงมันก็ตามหลอกหลอนไปเสียทุกที่ เข้าห้องน้ำมันยังตามมาคุยกับผมได้ มันบอกแค่โทรศัพท์หาผม แต่ผมจำไม่ได้ว่าผมไปกดปุ่มรับตอนไหน หรือว่าอนาคตแค่เราตดก็ติดต่อกันได้แล้ว
“ออ...ว่ามา” ผมกำลังนอนอยู่มุมโปรดกำลังยกขาทับไอ้ไฮโลที่มันนอนเป็นช้างตายอยู่ไม่ไกล
‘อารมณ์ไม่ดีหรอ....อยากกินอะไรไหม’
“อยากกินส้มตำปู-ปลาร้า ไม่ต้องเผ็ดเอาเปรี้ยว ๆ ข้าวเหนียวไม่ต้อง ลาบน้ำตก ต้มแซบกระดูกอ่อน จะให้ดีขอแหนมหลอดสัก 3 แท่งแล้วกัน” นั้นเป็นของที่ผมอยากกินมาตั้งแต่เมื่อวาน ร้องไห้ฟูมฟายยังไงไอ้ส้มตำปู-ปลาร้าก็เหมือนสลัดเน่า ๆ อยู่ดี
‘ถ้าพี่หามาได้ พี่จะไปยกมาทั้งร้านเลย ขอแค่บอกว่ามันขายตรงไหน’ ผมก็รู้ว่าพูดไปมันก็ไม่มีปัญญาเอามาให้ผมกินหรอกครับ แต่มันอยากกินได้ยินเสียงเหมือนจะยอมหาตับปูมาให้ผมกินเมื่อผมต้องการ ผมก็เลยเอาแต่ใจไปหน่อย
“มันก็ขายทุกที่ในเมืองไทยนั้นแหละ เบื่อโว๊ย!”
‘ใจเย็น ๆ นะโฟมแล้วพี่จะกลับไปให้ระบาย’ ผมลุกเดินหนีไปจากเตาผิง กะจะเดินไปดูอะไรกินเล่นๆ ในครัวเสียหน่อย หูผมก็ได้ยินอะไรสักอย่างเข้า
“ตาเท่าไร ลงมาก่อนนะ” เสียงป้านองบีกำลังคุยกับใครนะ
“ตาเท่าไรก็ได้ใช่ไหมป้า” ผมค่อย ๆ ย่องเข้าไปตามเสียงในห้องครัว
“ใส่มาเถอะน่า เร็ว ๆ เดี่ยวนายใหญ่ตื่น” ตื่นแล้วป้า...หันหลังมาดูสิ
“ป้า...นะ นะ นาย” ทุกคนเมื่อเห็นผมจะรีบโกยแน๊บสะอย่างนั้น
“หยู๊ด! สต๊อป หยุดทุกคนไม่งั้นไล่ออก!” ทั้งพ่อครั้ว แม่บ้าน คนใช้ คนสวน หยุดชะงักชะงันเหมือนเสียงของผมเป็นคำสาป
“ใครเป็นคนเริ่ม” ผมก้มไปหยิบสิ่งที่อยู่คู่คนไทยมานาน
“คือ..คือ ป้า ป้าเอามาลองเล่นเฉย ๆ นะคะ พวกมันอยากเล่นเอง” ป้านองบีมองสิ่งที่อยู่ในมือผมอย่างหวาด ๆ ผมยิ้มที่มุมปาก
“ป้าทำอย่างงี่ได้ไงหะ!” ผมตะโกนสุดเสียง
“อย่าไล่ป้าออกเลยนะคะ ป้าเป็นหัวหน้าแม่บ้านไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียถ้าโดน...” ผมหัวเราะก๊ากทีเดียวที่ป้าลนลาน
“ทำไมป้าไม่ชวนผมเล่น เมื่อกี้ใครเล่นบ้างห้ามหนีนะออกไปเล่นกันข้างนอกด้วย ตามมาให้หมด” พวกคุณเริ่มทายถูกรึยังว่าผมกำลังจะเล่นอะไร ยังหรอ....ฮ่า ๆๆๆ
“ป๊อก 3 เด้ง! ฮะ ฮะ ฮ่า” ไอ้กระผมยอดชายนายโฟมกำลังนั่งล้อมวงเล่นไพ่กันให้สนุก
รูปร่างหน้าตาของไพ่ก็คล้าย ๆ กับของเมื่อก่อนนั้นแหละครับ แต่เปลี่ยนฝรั่งหัวเลืองเป็นหัวดำแทน เปลี่ยนอักษรอังกฤษเป็นอักษรไทยซะ แต่ความมันยังคงไม่ลดลงเลย การพนันช่างอยู่ในสายเลือดคนไทยทุกยุคทุกสมัยจริง ๆ
“นายใหญ่ป๊อกอีกแล้วหรอคะ เอ๊า! พวกเสียก็จ่ายเสียทีจะได้จ่ายคนได้” ป้านองบีเริ่มหัวเสียเมื่อผมเล่นได้เกือบทุกตา เงินทุนก็ยืมจากป้านั้นแหละ ผมไม่รู้ด้วยว่าที่ยืมมามีค่าเท่าไรให้มาแค่ไหนก็แทงแค่นั้นแหละ
“นายใหญ่คะ ให้ฉันร่วมเงินด้วยได้หรือเปล่าคะ” ขี้ปลาทองคนหนึ่งที่นั่งข้างหลังผมขอสมทบทุนในครั้งนี้ด้วย
“ถ้ามันเสียอย่ามาว่ากันนะ” ยายขี้ปลาทองพยักหน้าแล้ววางเงินทับเงินของผม
“ตานี้นายใหญ่เล่นเยอะนะคะ” ป้านองบียิ้มให้ผม แหม๋...ป้ากะจะแดกห่าผมละสิ
“แจกไพ่เลยป้าเสียไม่กลัว กลัวแจกช้า” ป้านองบีจากที่นังพับเพียบกลายเป็นนั่งขัดสมาธิ สับไพ่อย่างมืออาชีพฉั๊วะ ๆ กรีดไพ่อย่างชำนาญ แล้วเจ๊แกก็โยนไพ่แจกคนละ 2 ใบอย่างรวดเร็ว ผมเห็นป้าแกหยิบไพ่ค่อย ๆ ดูเหมือนกลัวเลขมันจะเปลี่ยน ตาก็แทบจะติดกับไพ่ แล้วเจ๊แกก็ยิ้มให้ผม เฮอะ...เดี่ยวเจ๊คอยดูไพ่ผม
ผมนั่งชันเข่าวิญญาณลำยองเข้าสิง ผมบี้ไพ่ในมือออกช้า ๆ ผมกับยายปลาทองข้างหลังลุ้นสุดตัว ผมใช้นิ้วปิดตัวเลขไว้ก่อน ไพ่ใบหน้าผมได้คิงแบบไทย ๆ ดอกเป็นใบลาน ผมค่อย ๆ ขยับไพ่ทีละนิด ๆ เห็นเส้นข้าง ๆ ก็รู้ว่าผมได้ขอบแน่นอน แล้วไอ้ขอบก็มีเฉพาะพวก ชะนี คิง มะเร็ง เท่านั้น (K, Q, J) ผมมองป้านองบีแล้วก็ไพ่ที่วางหน้าตักของป้า แต่ป้าไม่ได้หงายไพ่แสดงว่าป้าไม่ได้ป๊อกอย่างที่คิด ผมใจชื่นขึ้นมาเป็นกอง
“ไงคะนายใหญ่...จะเรียกไว้ช่วยอีกสักใบไหมคะ” ป้านองบียิ้มให้ผมแล้วยื่นไพ่ให้ผมใบหนึ่ง ผมที่อยู่ขาที่ 3 หันไปมอง 2 ขาแรกเอาไปทั้งคู่
“เอามาเลยป้า บอดสนิท” ผมทำท่าเซ็ง ๆ ป้านองบียิ้มแก้มปริคิดว่าต้องกินเงินก้อนนี้ของผมกับยายขี้ปลาทองแน่ ๆ
ผมได้ไพ่มาก็นั่งทางลำยองอีกครั้ง ผมไม่ดูไพ่ใบที่สองเมื่อกี้เพราะผมรู้แล้วว่าไงก็ขอบ พอมาไพ่ใบที่สามผมไม่คิดอะไรมากผมเปิดต่อหน้าป้าเค้าเลย ผมได้ ร.เรือ ก็ประมาณ J นั้นแหละครับ
“ต๊าย...บอดสนิทเลยหรอคะนายใหญ่” ป้านองบียิ้มเมื่อผมเปิดไพ่ที่ป้าแจกให้ใบที่ 3 แต่ 2 ใบแรกผมยังไม่เปิดไพ่
“ป้าก็ไม่ป๊อกเหมือนกัน แถมเรียก 3 ใบเหมือนผมอาจจะบอดเหมือนกันก็ได้” ผมใช้จิตวิทยาเข้าข่มป้านองบีทันที ป้ายิ้มให้ผมแล้วหงายไพ่
“เจ็ดแต้ม อ. คุมคะ” ป้านองบีหงายไพ่หมายเลข 6 กับ องอ่าง ที่ผมเดาก็คงไม่พ้น A นั้นแหละ ผมยิ้มเยาะมุมปาก
“ผมบอด แต่......” ผมหงายไพ่อีกสองใบ พระพุทธเจ้า! มันขอบไม่พอสมัยผมมันเรียก เสตรทฟลัช ผมอ้าปากค้างจริง ๆ ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าไพ่ใบที่สองเป็นอะไร
“ชายดำ หญิงดำ เรือดำ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!” นายใหญ่คะ ได้ 5 เท่าเลย! เรารวยแล้ว
“ว๊าก! ยายขี้ปลาทองเรารวยแล้ว” ผมกับยายขี้ปลาทองลุกขึ้นกระโดดโล้ดแรดได้ไพ่ซะลืมลูกลืมผัว
“นายใหญ่โกงป้ารึเปล่าคะ!”
“อ่าว! ป้า...เสียไพ่แล้วเนียนไม่จ่ายหรอ เห็น ๆ อยู่ว่าป้าจ่ายไพ่เอง คนก็ล้อมอย่างอย่างงี่ผมจะโกงได้ไง”
“ใช่คะ ๆ หนูหุ้นด้วยหนูก็ไม่ยอมนะป้า” ผมกับยายขี้ปลาทองประชันหน้ากับป้านองบี งานนี้เสียเงินไม่ว่า อย่าหาว่าโกงไอ้โฟมไม่ยอม
“ก็ตั้งแต่เล่นป้าเห็นนายใหญ่ได้เกือบทุกตา มารอบนี้ยังได้ 5 เท่าอีกทันน่าสงสัยนะคะ” พอป้านองบีพูดอย่างนั้นขาไพ่ทั้งหลายก็พึมพำเห็นด้วยอีก
“ป้าเป็นคนแจกไพ่เองมาว่าผมได้ยังไง” ไอ้ผมก็ชักจะโมโหกะจะเล่นขำ ๆ พอเป็นไอ้หน้าเงินก็เลยไม่ขำแล้ว
“ยังไงตานี้อิฉันก็ให้แค่ 3 เท่าคะ” หน๋อยอิป้าขี้โกง คิดจะโกงไอ้โฟมหรอ
“ไม่ได้! ป้าจะจ่ายไม่จ่าย!”
“ไม่จ่ายคะ...ยังไงก็ไม่จ่าย!”
“ต้องจ่าย!”
“ไม่จ่าย!” โหยมาเสียงดังกว่าผมอีก
“ต้องจ่าย!”
“ไล่อิฉันออก อิฉันก็ไม่จ่าย!” เมื่อกี้ยังขอร้องให้ผมอย่าไล่ออกเลย มาทีนี้มายุให้ไล่ออก
“ไม่ไล่ออก จะออกก็จ่ายมาก่อน”
“ไม่จ่าย!”
“เล่นอะไรกัน! ฮะ!” เสียงเหมือนยมบาลหมาเน่า ที่ได้แค่กลิ่น เอ๊ย!เสียงก็แตกหือไปคนละทิศละทาง ผมที่เห็นไม่ว่าจะยายขี้ปลาทองที่เคียงข้างประท้วงกันมา หรือป้านองบีขี้งกแล้ว ก็วิ่งโกยไปไม่ห่วงผม แล้วผมจะอยู่ทำสารานุกรมไทยทำไม โกยเถอะโยม....
“หยุด! ห้ามวิ่ง!” เอี๊ยด~! เบรกตรงหน้าบันไดแทบไม่ทัน ดีที่เปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ แต่รับประกันจากเอบีเอส เลยปลอดภัยหายห่วง
“พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามวิ่ง แล้วเล่นอะไรกันฮะ!” มันน่ากลัวมากเลยครับ ในหัวคิดแผนหนึ่ง แผนสองอย่างรวดเร็ว แล้วอะไรบางอย่างก็แล่นมาในหัว
วูบ....เป็นลมหนีปัญหาไปก่อน เอาไว้ค่อยว่ากันไหม
“โฟม!!!!!”
***
แก้ไขคำผิดค้า