งานเยอะนะครับพี่น้อง เหอะๆๆ
**************************************************************
“ งามหน้าจริงเลย ” ไอเวรจ้าวมันชื่นชมผมผ่านสื่อเลยครับ
“ พูดห่าไรวะ ” ผมหันไปโวยไอจ้าว
“ ไม่ต้องโวยวายใส่จ้าวหรอก น้องมันหวังดี ” นั่น ดิษปกป้องไอจ้าวครับ
“ แล้วนี่เรื่องเป็นยังไงกันคิม ทำไมถึงมาที่นี่อีกล่ะ ” พี่นากคงยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดิษนี่คงรู้จากปากแมวๆของไอจ้าวหมดแล้วแน่นอน
“ คือ ....... ”
“ ไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่าหรอก พี่จะเข้าไปข้างใน ” ดิษมันตัดบทเฉยเลย ผมรีบลุกแล้วเดินไปขวาง
“ ใจเย็นก่อนดิ เรามีเรื่องจำเป็นนะ ”
“ เรา ????? ” ไอจ้าวมันทำงงครับ ก็น่างงหรอก ปกติผมไม่แทนตัวเองว่าเรา
“ พี่ไม่อยากฟังตอนนี้ ” ไอดิษมันเดินชิ่งไปอีก พี่นากเดินมารั้งผมไว้แทน
“ ปล่อยมันก่อน มันกำลังโมโห ”
“ ใช่ พี่อย่าเพิ่งไปยุ่งดีกว่า ...... โอ้ยๆๆ พี่ๆๆ ผมเจ็บ ” ผมเดินกลับมาลากคอไอจ้าวมา
“ มึงนี่ยุ่งอะไรกับกูห๊ะ ”
“ ผมบอกแล้วไงว่า ไอไก่มันไม่ใช่คนที่พี่จะไว้ใจ ถามมันเด้ !!!!! ” ไอจ้าวว่าไอไก่เป็นชุดๆ เล่นเอาไอไก่ที่นั่งหมอบอยู่ ร้องไห้ออกมา
“ มึงว่ามันทำไมวะ มันเคยหลอกอัดตูดมึงหรือไง ” ผมว่าไอจ้าวกลับไป
“ เหอะ !!!! มันไม่ชอบของผู้ชายหรอก ใช่ไหมไอไก่ ” ไอไก่เงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตามองพวกผม
“ พี่จ้าว พี่จะให้เรื่องเก่าๆหลอกหลอนผมไปถึงไหน ”
“ อะไร มึงจะว่ามึงเลิกแล้วเหรอ ” เลิกอะไรกันอีกล่ะ
“ ถ้าไม่เลิก พี่จะเห็นผมอยู่ในสภาพนี้ไหม ” ไอจ้าวยืนนิ่งไป
“ น้อง ร้านนี้น่ะ ......... เค้าขายกันไม่ใช่เหรอ ” พี่นากถามไอไก่ พี่นากแกรู้เรื่องพวกนี้ดีครับ
“ มีครับ แต่ผมไม่ได้ขาย ผมแค่อยากใช้หนี้ ”
“ นั่นแหละ เมื่อก่อนมึงหลอกพวกเกย์ กะเทยไว้มากไง ” พอไอจ้าวพูดอีกครั้ง ไอไก่ก็ร้องไห้ออกมาอีก ผมก้มลงไปปลอบ ไอไก่โผกอดผม
“ เฮ้ยๆ ลามปามละ มึงอยากให้พี่คนข้างในออกมาฆ่าหรือไง ” ไอจ้าวรีบมาแงะผมออกจากกัน
“ ทำไมพี่คนข้างในต้องฆ่าผม ....... หรือว่า ”
“ คิมกับไอคนข้างใน เค้าเป็นแฟนกัน ” ไอไก่ถึงกับอ้าปากค้าง
“ พี่คิมเป็นเกย์เหรอครับ ” ผมพยักหน้า
“ แบบที่มึงชอบหลอกไง ......... โอ๊ะๆๆ ไม่ต้องลุกแล้วพี่ ” ไอจ้าวมันกลายเป็นเด็กปากดีตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ครับ ผมจะลุกไปทำให้มันเงียบปาก โชคดีที่มันหยุดพูดก่อน
“ ผมไม่ได้ตั้งใจหลอกนะครับ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่เป็น ”
“ เออ พี่รู้ ” ผมบอกมัน
“ ไก่ลองเล่าให้พวกพี่ฟังหน่อยซิ ว่าเป็นมายังไง ” พี่นากถามไอไก่
“ อยากรู้ไปทำไมเหรอครับ ” ไอไก่ถามพี่นากบ้าง
“ เผื่อจะมีเหตุผลดีๆ ทำให้ไอดิษมันหายโกรธไวๆ ” มีเหตุผล เหอะๆๆ
ไอไก่เล่าให้พวกผมฟังว่า ตอนอยู่ที่โรงเรียนเก่า ด้วยความที่มันเป็นคนท่าทางสะอาดเรียบร้อย พวกชอบผู้ชายก็มาข้องแวะกับมันเยอะ มันเกิดรักสนุก อยากมีเงินใช้ เลยเที่ยวหลอกเงินจากคนพวกนี้ แล้วผมก็ต้องอึ้งต่อไป เพราะคนที่มาชอบมัน ให้มันหลายอย่างจริงๆ บางคนถึงกับจะให้รถมันใช้ แต่มันไม่รับ
“ หลังจากนั้น ผมมารู้ว่าคนที่มาติดผมคนนึง เป็นโรคร้าย ผมตกใจมาก เศร้าไปหลายวัน ”
“ ไอไก่ มึงติดมาหรือปล่าว ” ไอจ้าวชิงถามก่อน
“ ไม่ครับ ผมตรวจมาแล้ว พอรู้ว่ารอด ผมไม่คิดยุ่งอีก ”
“ นั่นเป็นสาเหตุที่เอ็งติดหนี้ใช่มะ ” ผมถามไอไก่
“ ครับ หลังจากผมจะเลิกทุกๆอย่าง คนที่เคยเลี้ยงก็มาเอาหลายๆอย่างคืนไปจากผม ”
“ เค้าเอาคืน แล้วน้องติดหนี้ได้ยังไง ” พี่นากถาม
“ ช่วงก่อนจะเลิก ผมพอมีเงินที่เก็บไว้ ผมเอาไปผ่อนนู้นผ่อนนี่ให้แม่ แม่ผมตัวคนเดียว พ่อผมเสียตั้งแต่ผมเด็กๆ ” พอไอไก่พูดเรื่องนี้ ผมสามคนนั่งเงียบเลยครับ
“ พวกพี่อย่าคิดมากไปกับผมเลยครับ ผมโง่เองที่ไม่หางานสุจริต ”
“ ทำไงได้ หน้าตาเราก็น่าเลี้ยงจริงๆ ” พี่นากพูดครับ อยากให้พี่โจมาได้ยินนะนิ ฮ่าๆๆ
“ แสดงว่ามึงต้องติดหนี้อีกมากเลยใช่ปะ ” ไอจ้าวถาม
“ มากอยู่ครับ แต่ผมจะเอาตัวรอดให้ได้ ....... ไม่นึกว่าจะมาติดขัดตอนลงทะเบียน โชคดีที่เจอพี่คิม ”
“ งั้นเราก็ทำถูกแล้วล่ะคิม ” พี่นากบอกผม
“ แต่ไม่ถูกทั้งหมดหรอกนะ ” อ้าว มีแถม
“ คิมกับดิษเป็นแฟนกัน ดิษมันเป็นห่วงคิมมาก คิมชอบทำหลายเรื่องลับหลังจนดิษมันไม่รู้จะพูดยังไง ”
“ ผมรู้ครับ แต่ผมนึกว่าบางเรื่องดิษไม่รู้ก็ได้ไง ”
“ คิดใหม่ซะ พี่จะเข้าไปดูเชิงก่อน แล้วจะโทรบอก ” พี่นากอาสาเข้าไปดูวากดิษก่อนครับ
“ พี่ อย่าทำแบบนี้อีกนะพี่ ” ไอจ้าวหันมาคุยกับผม
“ อืม พี่ผิดเอง ”
“ ผมไม่กล้าคิดเกินเลยกับพี่ซักครั้ง เพราะพี่ดิษนั่นแหละ ผมอิจฉาพี่สองคน ”
“ จ้าว ........ ” ผมตบไหล่ของมัน มันยิ้มให้ และชี้ไปทางไอไก่ ประมาณว่าเคลียร์กับมันซะ
“ ผมทำให้พี่เดือดร้อนใช่ไหมครับ ”
“ ไม่หรอก เป็นแบบนี้ออกบ่อย ” ผมกับไอไก่มานั่งคุยกันหน้าร้าน
“ แฟนพี่ ต้องอดทนมากเลยสิครับ ”
“ อืม มันดีกับพี่จริงๆ ทั้งๆที่พี่ทำเรื่องไม่ดีไว้ตั้งเยอะ ”
“ ผมจำได้ว่า เมื่อก่อน พี่ไม่ได้ชอบผู้ชายนี่ ” เออ ชื่อเสียงกูอะดีอยู่ละ
“ ไม่รู้จะพูดไงดีนะ ”
“ ผมเข้าใจครับ พี่คนนั้นคงต้องดีกับพี่มากจริงๆ ”
“ ไก่ เอ็งจะเอาไงต่อ ”
“ ผมจะทำงานอย่างนี้ไปก่อนครับ จนกว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ” ผมเคยคุยกับไอแบงค์ รู้ว่าการจะเลิกทำงานแบบนี้ ยากเหมือนกัน เพราะมันมีหลายเรื่องหลายสาเหตุขึ้นอยู่กับคน
“ เอาเหอะ หวังว่าเอ็งจะไม่หลงกับมันนะ ”
“ ผมจะพยายามครับ ”
“ ดีแล้วๆ ” ผมบอกไอไก่
“ แต่ ........ พี่จะไม่ชอบพี่หรอกครับ พี่คิม ” ผมยิ้มให้ไอไก่
หลังจากเคลียร์กับไอไก่แล้ว มันเดินกลับเข้าไปทำงาน ส่วนผมเดินเข้าไปเพื่อหาดิษกับพวกๆ ก็เจอดิษกำลังนั่งผงกหัวไปมา ท่าทางเริ่มจะเมา
“ ไหงเป็นแบบนี้ล่ะ ” ผมถามไอจ้าว
“ ตั้งแต่เข้ามา พี่ดิษยังไม่พูดซักคำ ” ผมมองหน้าดิษ แล้วนึกเสียใจครับ ไม่รู้ว่าผมทำให้มันเป็นแบบนี้กี่ครั้งแล้ว นึกไปนึกมาน้ำตาจะไหลซะงั้น
“ กูขอออกไปสูบบุหรี่หน่อยนะ ” ผมบอกไอจ้าว
“ ผมไปด้วย ”
“ ไม่ต้อง เดี๋ยวกลับมา ” ผมออกมาข้างนอก นั่งซุกตรงมุมเดิมที่คุยกับไอไก่
ผมเริ่มคิดย้อนหลับไปครั้งก่อนๆ ตั้งแต่วันที่บอกว่าคบกัน ผมก็ยังทำตัวเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนไป ต่างจากดิษที่เปลี่ยนตัวเองเพื่อผมเยอะเลย
“ ออกมานั่งทำอะไรคนเดียว ”
“ ดิษ ...... ออกมาทำไมเหรอ ” ผมมองไปด้านหลัง ท่าทางจะมาคนเดียวครับ
“ มาดูคนสำนึกผิดไง ”
“ เราเป็นแฟนที่แย่มากเลยเนอะ ”
“ หืม จะบอกเลิกพี่หรือไง ” ดูมันพูดดิ
“ ปล่าว ทำไมพูดงั้นล่ะ ”
“ พูดเหมือนว่าพี่ดีเกินไป น้องคงไม่เหมาะกับพี่ แล้วบอกเลิกไง ” มันพูดแล้วก็ยิ้ม ไอบ้านี่เมาแล้วครับ
“ เรามีสิทธิพูดที่ไหนล่ะ ”
“ ถ้าน้องเลิกกับพี่นะ พี่คงเสียคนแน่เลย ”
“ ดิษ เรารู้สึกไม่ดีจริงๆนะเว้ย ฮึกกกก ” ขี้แงซะงั้นกู เฮ้ออออ
“ ทำไมล่ะ ” ดิษดึงผมไปกอด แถวนั้นไม่น่าอายหรอกครับ เพราะพวกนั้นก็ควงกันออกมาเป็นคู่ๆ เหอะๆๆ
“ แฟนที่ไหน จะห่วงคนอื่นมากกว่าแฟนตัวเอง ”
“ โอ๋ๆ อย่าร้องนะ ” กล่อมกูเป็นเด็กเลยนะมึง
“ ต่อไปจะไม่ให้เกิดขึ้นอีกแล้วนะดิษ ”
“ ............. ” ดิษผละผมออกจากอก
“ ถ้าคิมคิดแบบนี้ เราน่าจะเลิกกันจริงๆนะ ” อ้าวเฮ้ย
“ ทำไมล่ะดิษ ”
“ คิมคิดว่าพี่ไม่รู้มาก่อนเหรอ ว่าคิมห่วงคนรอบข้าง รักเพื่อน รักพี่น้อง ”
“ แต่เรา ......... ”
“ และพี่ก็รู้ว่า คิมห่วงพี่ เพียงแต่ ชอบปากแข็งไม่พูดว่าห่วงกับพี่ ” อ่านทะลุหมดเปลือกเลยอะ ฮ่าๆๆ
“ แล้วโกรธไหม ”
“ โกรธอยู่แล้ว แต่โกรธไม่นานหรอก เพราะรู้ว่าคิมคิดอะไร ”
“ ต่อไปจะไม่ทำแล้วไง ” ผมจะโผเข้าไปกอด แต่ไอดิษมันลุกขึ้นเฉยๆ ผมเกือบพุ่งตกม้านั่งครับ ดูมันทำ
“ ฮ่าๆๆๆ อยากกอดเค้าอะดิ ” หึหึหึหึ ไอวากบ้า
“ มานั่งลงก่อน ” ผมดึงวากดิษให้นั่งลง
“ พี่บอกแล้วไง ว่าอย่าคิดเลิกทำเลย แค่ให้บอกพี่รู้บ้าง พี่อยากเป็นตัวช่วยคิมนะ ” ผมนั่งอมยิ้ม ดิษนี่คนที่ผมแทบไม่เข้าใจอะไรในตัวและความคิดของมันเลย นอกจากรู้ว่ามันชอบผม
“ ขอบคุณครับพี่วาก ส่วนเรื่องของไอไก่ เป็นแบบนี้ ........................ ” พอเราคุยกันจบ ดิษกับผมก็กอดคอกันเดินกลับเข้ามาในร้าน ทำเอาพี่นากกับไอจ้าวงงอะครับ จากนั้นเราก็คุยเล่นกันไป ไอไก่ก็เดินออกมาทักทายบ้าง และขอโทษวากดิษด้วย เรียกว่า จบเรื่องไปไม่มีใครต้องเจ็บปวดครับ
หลังจากเหตุการณ์สองเรื่องติดๆกันผ่านพ้นไป ผมก็ยังคงอยู่แบบเดิม คือเป็นคนดูแลหอพักของแม่ท่านวากดิษ ไปดูน้องๆที่มหาลัย ผ่านไปวันๆ เริ่มเกิดความคิดอยากทำงานครับ เลยตัดสินใจไปบอกท่านวากดิษ
“ ในที่สุดน้องก็คิดได้แล้ว ” มันพูดอย่างกับผมไม่ค่อยฉลาดนะเนี่ย เหอะๆๆ
“ ตกลงให้เราสมัครงานตามปกติใช่ปะ ” ดิษมันเดินเข้าไปหยิบกระดาษออกมาปึกนึง
“ เอาไปกรอกแล้วส่งข้างหน้า ” ผมรับกระดาษมาดู เป็นฟอร์มสมัครงานครับ
พูดถึงที่ทำงานของพ่อท่านวาก เป็นคล้ายๆกับห้างหุ้นส่วนที่ร่วมทุนกันหลายคนครับ พ่อผมก็มีส่วน พนักงานมีประมาณยี่สิบคน คนงานแยกต่างหาก ผมดูจากสถานที่ทำงานแล้วไม่ใช่เรื่องเล่นๆแน่นอนครับ เพราะแต่ละคนเคร่งเครียดกับงาน
ดิษอยู่ในตำแหน่งหน้าที่เป็นผู้จัดการครับ เพราะพ่อท่านวากเป็นหุ้นส่วนใหญ่ แต่ก็อยู่ภายใต้การทำงานของพวกผู้อาวุโส ดิษดูจะเป็นแค่ในตำแหน่ง ผมเขียนใบสมัครเรียบร้อยก็ยื่นด้านหน้า โดยไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าจะจัดให้ผมทำงานส่วนไหน แต่ผมรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมกำลังจะได้ทำงานจริงๆ
" คุณ ..... เชิญสัมภาษณ์ค่ะ " เฮ้ย ดิษไม่เห็นบอกผมก่อนว่าต้องสัมภาษณ์ และคนที่สัมภาษณ์ก็ไม่ใช่ตัวดิษด้วยครับ เอาแล้วไงกู จะอยู่สภาพไหนหว่า
**********************************************************
ช่วงนี้ขอโทษที่ห่างหายไปหลายวันครับ พอดีมีงานเข้ามามาก ขนาดคนใกล้ตัวเค้ายังแอบงอนเลยอะ แฮ่ะๆๆๆ
อาการพ่อท่านวากไม่ดีขึ้นหรอกครับ ทำได้แค่ให้แย่ลงช้าที่สุด ตอนนี้ตัวท่านเองก็ทำใจได้
ขอบคุณทุกคนที่มาติดตามและแสดงความเป็นห่วงผู้ใหญ่ด้วยนะครับ