กอดๆ ไม่ยอมมาต่อซะหลายวัน สงสัยอากาศจะร้อน ฮ่าๆ
****************************************
เช้าวันรุ่งขึ้น น้องสองคนปลุกผมไปที่คณะเพื่อไปพบอาจารย์ที่ปรึกษาของน้องๆ แต่ไม่รู้เป็นยังไง พอมาถึงคณะผมไม่ค่อยอยากเจอหน้าไอปิ่นเท่าไร
“ พี่มองหาใคร ” ไอกรนี่ช่างถามจริงๆ
“ ปล่าว แปลกที่แปลกถิ่นนี่หว่า ขอมองหน่อยไม่ได้รึไง ” แถซะ
“ นึกว่าหาไอปิ่น ” อุ้ยยย
“ ทำไมต้องมองหามันวะ ”
“ เอ้า ผมมองหามันอยู่ไง ไหนว่าจะมาตั้งแต่เช้าๆ ไม่เห็นหัวแม่ง ” เด็กๆหมอน้องหมานี่พูดไม่ค่อยเพราะเนอะ
อย่างที่ผมเคยบอกไปก่อนนี้ว่า คณะเพิ่งตั้งไม่นาน สถานที่ไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางครับ การจัดนิทรรศการก็ต้องไปขอจัดที่ห้องประชุมของมหาลัยส่วนกลาง ไม่มีสถานที่ในคณะ
“ นั่นใครล่ะ ” อาจารย์เหลือบมาเห็นผมพอดี
“ ลูกศิษย์พ่อผมครับ ” ไอกรตอบครับ
“ แสดงว่าพ่อเธอต้องเป็นที่รักแน่เลย ให้มาไกลขนาดนี้ยังยอมมา ” จะบอกดีไหมว่าแลกเปลี่ยนบางอย่างกัน เหอะๆๆ
พอมารวมตัวกันเกือบครบ คือ ขาดไอปิ่นคนเดียว พวกนั้นก็เริ่มเสนอความคิดกัน เป็นงานเป็นการดีครับ ผมก็นั่งอยู่หลังห้องคอยรวบรวมไอที่พวกนั้นสรุปกัน แล้วคิดว่าจะนำเสนอให้น่าสนใจอย่างไร
“ เฮ้ยยยย ” ขณะที่ผมกำลังนั่งอยู่ ก็มีคนเอากองหนังสือกองใหญ่มากๆมากองตรงหน้าผม
“ อะไรพี่คิม ....... เชี้ยปิ่น ” น้องคนนึงอุทาน ไอปิ่นมาละครับ มันเหงื่อแตกซิกมาเลย มันไปทำอะไรมาเนี่ย
“ โฮ่ย เหนื่อยว่ะ ”
“ ไปไหนมาไอปิ่นหยก ” รู้สึกชื่อจะเพราะขึ้นนะ
“ กูมาตั้งแต่เช้า อาจารย์เลยให้ไปหาข้อมูล พวกมึงนี่มาช้า ” พอมันพูดจบก็มีเสียงโฮ่ฮิ้วตามมาทันที
“ มันไปกินยาขยันมาหรือไง ” พอดีได้ยินเค้าคุยกันครับ
“ ทำเหมือนตอนมันเข้าเรียนใหม่ๆเลยเนอะ ”
“ พี่ นั่งเฉยทำไมล่ะ จัดข้อมูลดิ ” อ้าวเฮ้ย ไหงมาใช้กูซะละ
“ พี่เค้าไม่ได้นั่งเฉยๆ นั่งเตรียมงานอยู่ ” ไอน็อตชิงบอกก่อน
“ หนังสือพวกนี้อะนะ พี่จะรู้เรื่องได้ไง ” ผมก็ยังปรับตัวไม่ถูกครับ เพราะจู่ๆมันก็ดีขึ้นมาเฉยๆ
“ อะไรเนี่ย แค่เปิดดูสารบัญแล้วไล่ๆไปไง ไม่ได้ศึกษามาบ้างเลยเหรอพี่ ” แต่ปากนี่น่า ........ น่าอะไรดีวะ
“ มึงไม่ต้องใช้พี่เค้าเลย มึงอะนั่งทำไปเลยไอปิ่นหยก ” ไอปิ่นทำท่าไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ทำโดยดีครับ มันนั่งทำข้างๆผมนี่แหละ
ช่วงที่นั่งอยู่ในห้อง ไอปิ่นมันทำงานขยันขันแข็งมาก ไม่บ่นไม่วุ่นวายเลย เพื่อนๆของพวกมันก็แอบแปลกใจ ไม่รู้ว่าเพราะเรื่องเมื่อวานหรือปล่าว ที่ทำให้มันดีขึ้นแบบนี้ แต่ไม่รู้สิครับ ผมได้กลิ่นความไม่สงบแถวๆนี้ด้วย
หลังจากที่ประชุมกันไปพักนึง น้องๆก็มาพักดื่มน้ำกันข้างนอก ผมก็ตามออกมาด้วย
“ พวกมึงในเนี่ย ใครเป็นเกย์วะ ” กูแทบสำลักน้ำเลย ไอปิ่นมันจะเล่นอะไรวะ
“ ถามกวนๆอะมึง ”
“ ไม่กวนนะเว้ย ถามจริงๆ ” มันถามคนอื่นนะครับ แต่ตามันอะจ้องมาที่ผม ทำให้น้องบางคนมองมาที่ผม
“ หรือว่าปิ่นคิดอะไรกับพี่คิมอ่า ” มีน้องผู้หญิงคนนึงมาช่วยชีวิตผมครับ
“ ฮิ้ววววว ”
“ ไม่ใช่เว้ย ถามเล่นๆ ” มันพูดอะไรของมัน
“ มึงเลอะเทอะใหญ่ละไอปิ่น พอๆทำงาน ”
พอคุยเรื่องเนื้อหาจบ ก็ถึงคิวผมครับ ผมบรรยายให้น้องๆฟังคร่าวๆว่าควรจะแบ่งเนื้อหาให้สมดุล จากที่ไอปิ่นแยกมาให้ก็กำลังพอเหมาะ จากนั้นผมก็ขอให้น้องผู้หญิงช่วยกันจัดของตกแต่ง และแบ่งงานส่วนอื่นๆ โดยรวมก็เรียบร้อยดีครับ
“ เธอ ” อาจารย์ที่ปรึกษาของน้องๆเดินมาเรียกผมครับ
“ ครับอาจารย์ ”
“ เธอทำงานให้คณะด้วยเหรอ ” คงหมายถึงที่ผมเรียนอะครับ
“ ครับ ผมเคยเป็นวากเกอร์ ประธานเชียร์ ตอนนี้เลิกหมดแล้วครับ ”
“ เอ้อๆดีแล้ว เธอมาช่วยน่ะดีมากเลย ปกติพวกนี้แย่งกันทำงาน ไม่สามัคคี ถือว่าช่วยพวกอาจารย์ด้วยแล้วกัน ” ผมลาอาจารย์และเดินกลับมารวมกลุ่มกับน้องๆ
ผมยอมรับเลยว่า ก่อนมาถึงที่นี่ผมกลัวมากๆว่าจะทำงานไม่ได้ และจะมาเป็นตัวถ่วงเปล่าๆ เพราะที่นี่ต่างกับคณะเรามาก ไม่ว่าจะเป็นความเก่ง วิสัยในคณะ แต่เอาเข้าจริงทำงานง่ายกว่าที่คิดครับ
“ พี่ไปเที่ยวกันเหอะ ”
“ เที่ยวอีกแล้วเหรอ ” ผมบ่นครับ ตั้งแต่มานี่เกือบอาทิตย์ พวกนี้ชวนเที่ยวทุกวันเลย
“ อะไรพี่ มาตั้งไกลนะ ปะๆเที่ยวๆ ”
“ ปิ่นไปด้วยกันปะ ” ผมเหล่ๆมองไอปิ่นครับ
“ พี่คิมไปกูไปด้วยก็ได้ ” หืม เรียกชื่อผมด้วยว่ะ ฮ่าๆๆ
“ ไปนะพี่ ไอนี่มันเที่ยวแต่กับสาวๆนะ ” สรุปมันชวนผมไปเที่ยวหรือชวนไอปิ่นกันแน่เนี่ย
“ พวกมึงอย่าพูดถึงเรื่องพวกนั้นได้ไหมวะ กูไม่ชอบ ” หืม ไอปิ่นวีนแตกซะงั้นครับ
“ เรื่องพวกนั้นพวกไหน เห็นมึงภูมิอกภูมิใจนักหนานี่หว่า ” ไอกรถามไม่หยุดเลยทีนี้
“ เอาเป็นว่า ตอนนี้กูไม่ชอบ โอเคปะ ” ผมตกลงไปกับพวกมันนั่นแหละครับ
วันนี้น้องๆพาผมมาเที่ยวงานในตัวเมือง เป็นช่วงที่จังหวัดจัดงานพอดี งานที่ว่าเป็นงานประเพณีอะครับ จะมีร้านเล็กๆน้อยๆมารวมกัน ดูๆไปเหมือนงานวัดบ้านผมเลย
“ พี่ยิงปืนแข่งกับไอปิ่นมะ ” ผมเริ่มรู้สึกว่า พวกนี้แอบเอาใจไอปิ่นเป็นพิเศษนะ
“ มันแม่นเหรอ ” ไอปิ่นกอดอกยิ้มๆ มาดของมันเท่ดีนะผมว่า แต่ขณะที่กำลังคุยๆกันอยู่ ไอดิษก็โทรมาพอดี
“ ว่าไงน้อง ...... อยู่ไหนเอ่ย ทำไมเสียงดังจัง ”
“ ออกมาเดินเที่ยวงานกับน้องๆน่ะ ” ผมก็ยืนคุยเล่นไปเรื่อยๆ
“ คุยกับใครพี่ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ” ไอปิ่นมันเดินตามผมมาเหรอ
“ เอ่อ ดิษ เราวางสายก่อนนะ แล้วจะโทรกลับ ”
“ ดิษ ? ผู้ชายนี่ พี่คุยเหมือนคุยกับแฟนเลยนะ ”
“ แค่คุยกับผู้ชายแล้วยิ้ม หมายความว่าพี่ต้องคุยกับแฟน คิดงั้นเหรอ ”
“ ใช่หรือไม่ใช่ล่ะ ” ผมมองหน้าของไอปิ่น และรู้สึกกลัวนิดหน่อยครับ กลัวว่าถ้าผมบอกความจริงไอปิ่นจะเอาไปล้อเลียน
“ พี่ ..... ”
“ สองคนนี้เดินมาทำไมตรงนี้เนี่ย มาๆแข่งยิงปืนด่วนเลย ” และแล้วไอกรก็มาช่วยชีวิตผม ไอปิ่นดูจะไม่เลิกราหรอกครับ ตามันยังแข็งกร่าวเหมือนเดิม
ผมแข่งยิงเล่นๆกับไอปิ่น ปรากฏว่าไอปิ่นยิงแม่นจริงๆครับ ผมค่อยๆแยกตัวออกไปซื้อน้ำกิน
“ พี่ ”
“ อะไรกร ”
“ พี่ลองๆคุยกับไอปิ่นมันได้ไหมพี่ ผมว่าตั้งแต่พี่มาเนี่ย ไอปิ่นนิสัยดีขึ้นเยอะเลย ” ไม่ดีมั้งน้อง
“ พี่ว่าไม่เกี่ยวมั้งน้อง ”
“ เกี่ยวแน่นอน พี่ลองคุยๆกับมันหน่อยนะ ” ไอกรรีบเดินไป พักนึงไอปิ่นก็เดินมา
“ เรียกผมมามีอะไร ”
“ ไม่มี ”
“ อ้าว แล้วไอกรบอกให้ผมมาหาพี่ทำไม ” ใจนึงก็ไม่อยากยุ่งกับมันครับ แต่อีกใจนึงก็นึกสงสารไอปิ่น ผมอยากรู้เหมือนกันว่า ทำไมมันถึงเป็นคนขวางๆโลก
“ เอ่อ ปิ่น พาพี่ไปดูของดีของจังหวัดทีดิ เผื่อพี่จะมาซื้อก่อนกลับ ”
“ โธ่ แค่นี้เอง มาพี่เดี๋ยวแนะนำ ”
ไอปิ่นพาผมเดินดูไปรอบๆงาน แล้วก็บอกอีกว่า ถ้าผมต้องการซื้ออะไรก็บอกมันได้ มันจะเป็นคนพาผมมาซื้อ และช่วยขนด้วย
“ เอ่อ ปิ่น เรื่องที่ร้านวันนู่นน่ะ ”
“ ....... ” มันเงียบเลยครับ ผมพูดต่อดีไหมเนี่ย
“ พี่ไม่ได้ตั้งใจนะ ”
“ แล้วจูบผมทำไม พี่น่ะทำเรื่องโง่มากเลยรู้มะ ” หน้าชาเลยกู
“ พี่เห็นปิ่นคุกคามผู้หญิง เลย ...... ”
“ ทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่จูบปากน่ะ ทำไม่ได้หรือไง ”
“ แล้วจูบปากนี่เป็นยังไงล่ะ ” ไอปิ่นกลืนน้ำลายอื้ก
“ พี่ไม่ต้องพูดถึงมันหรอก ผมไม่อยากจำ ” ผมน่าจะปล่อยๆให้น้องมันไปใช่ปะครับ แต่มือมันดันไวกว่าความคิด ผมรีบดึงมือมันแทบจะทันที
“ เดี๋ยวๆ ”
“ อะไรพี่ ”
“ คือ พี่รู้ว่าพี่ไม่ได้สนิทกับปิ่น แต่ถ้าปิ่นมีอะไร แบบที่อยากระบาย พี่เป็นผู้ฟังที่ดีอยู่นะ ” ไอปิ่นยิ้มออก
“ พี่จะรู้ไปทำไม ” จะให้บอกไหมว่า เพื่อนๆมึงขอร้องมา
“ เอาเป็นว่าอยากเล่าก็เล่า ไม่เล่าก็ไม่ว่า ” มันยืนคิดอยู่พักนึง
“ คราวหลัง ” อย่างน้อยผมก็ได้ขอโทษเรื่องที่จูบมัน หวังว่ามันจะนิสัยดีแบบนี้ไปจนงานจบนะ
หลังจากวันนั้น ไอปิ่นก็ไม่ได้ทำตัวน่าโมโหเหมือนก่อนครับ เริ่มคุยกับพวกเพื่อนๆ และด้วยความเก่งบวกขยันของมัน ทำให้มันมีประโยชน์ในงานนี้มากๆ
“ พี่คิมคะ พี่มีแฟนหรือยัง ” เอาล่ะ พอนั่งอยู่ในกลุ่มผู้หญิงทีไร เป็นถูกถามงี้ทุกที
“ อยากให้พี่ตอบว่าไงล่ะ ” วิธีเลี่ยงของผมครับ ฮ่าๆ
“ ดูๆไป พี่คิมน่าจะเจ้าชู้นะ ”
“ ไม่หรอก ” เสียงเหมือนไอปิ่นเลย
“ แกรู้ได้ไงปิ่นหยก ” มารู้เอาตอนนี้เองว่า ชื่อเล่นฉบับเต็มคือปิ่นหยก
“ พี่คิมรักแฟนเค้าจะตาย เวลาคุยกับแฟนนะ โลกเป็นสีชมพูเลย ” อ้าวๆ
“ โหยน่าอิจฉาอะ ” แต่ไอปิ่นพูดก็ดีครับ เพราะพวกสาวๆหยุดพูดเรื่องผมซะที
วันสองวันมานี้ ไอปิ่นดูลุกลี้ลุกลนไม่ค่อยปกติ ผมถามมันก็ตอบเลี่ยงๆ แต่ไม่นานผมก็ได้คำตอบครับ
“ เพื่อนๆ มีขวัญใจคนเดิมจะกลับมาหาค่า ” ผมกำลังนั่งหลังห้องประชุมครับ จู่ๆน้องผู้หญิงก็เดินมาบอก
“ ใคร ”
“ สวัสดีคร้าบเพื่อนๆ ”
“ แชมป์ !!!!! ” ผมหันไปมองตามเสียงเรียก ก็มีผู้ชายหุ่นคล้ายๆไอปิ่น ผิวขาว ยืนอยู่ตรงประตู
“ ไม่ค่อยดีละ ” ไอกรแอบกระซิบกับเพื่อนมัน
“ ฮึ่มมม ” ผมได้ยินเสียงขู่ของไอปิ่นฟอดนึง มันลุกขึ้นเดินสวนคนชื่อแชมป์ออกไป
“ อะไรวะ ” ผมบ่นกับน้องๆ
“ ไอนี่แหละคู่แข่งไอปิ่น ” ผมลองมองหน้าของแชมป์ดีๆ และพาลนึกไปถึงไอวินกับเดย์ บางทีผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ว่า สองคนนี้ต้องมีความลับต่อกัน ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆ หรือมากกว่านั้น สงสัยสัญญาณรับรู้ความไม่สงบของผมจะยังใช้ได้ดีนะ
**************************************************
ต้อนรับคนอ่านใหม่ ที่หลงเข้ามาด้วยนะครับ แฮะๆๆๆ