พอผมต้องเจอหน้าแม่ ผมรู้สึกเลยว่าทุกอย่างเหมือนจะเปลี่ยนไปแล้ว เดิมทีผมกับแม่สนิทกันมาก แม่จะคอยปกป้องผมเสมอ ไม่ว่าพ่อจะรุนแรงกับผมแค่ไหน แม่ไม่เคยห่างผม
“ แม่ไปไหนมาครับ ” ผมเป็นฝ่ายถามก่อน
“ แม่ออกไปกินข้าวกับพ่อตาข้าวกล้องมา ” เฮ้อ คงไม่ไปวางแผนมาถล่มผมกับท่านวากดิษอีกนะ
“ อร่อยไหมแม่ ”
“ พอหายหิวนะ ” แม่เริ่มยิ้มให้ผม
“ แม่ เรื่องพ่อไม่มีอะไรใช่ไหมครับ ”
“ จ้ะ ไม่มี แต่ครั้งนี้พ่อเอาจริงเอาจังจนแม่ตกใจ อยู่กันมาหลายสิบปีไม่เคยเห็นเป็นแบบนี้ ” ท่าจะน่าตกใจจริงแหละ
“ ตอนนี้พ่ออยู่ไหนล่ะครับ ” คือผมเห็นท่าทีของพ่อแล้วแอบกลัวครับ กลัวจะทะเลาะกัน
“ อยู่ที่เรือนใหญ่นั่นแหละ อารมณ์เย็นลงแล้ว ”
“ ผมขอโทษครับแม่ ผม ...... ” ไม่รู้จะพูดยังไงดีอะครับ ไอที่อยากพูดหรือจำเป็นก็พูดไปหมดแล้ว จะบอกว่าไม่อยากเป็นแบบนี้ก็โกหกตัวเอง บอกว่าผมก็อยากคบผู้หญิงก็ไม่จริงอีก
“ แม่อาจจะเคยรู้สึกเหมือนคิมนะลูก แม่ไม่ตำหนิหรอก ”
“ ยังไงแม่ ”
“ ถือไฟฉาย แล้วไปเดินรอบๆกับแม่ ” เหอะๆๆๆ ชักจะตื่นเต้นนะครับ
ผมไม่ได้บอกพวกข้างในว่าจะออกมาเดินกับแม่ แม่กับผมเดินมาใกล้ๆกับเรือนเล็กของผม
“ ตอนที่พ่อได้แม่ แม่อายุสิบห้าเอง ” โห
“ พ่อพรากผู้เยาว์หนิ ”
“ จ้า พ่อพาแม่มาที่ไร่ แม่ต้องมาหลบซ่อนอยู่ในไร่นี้ พ่อกลัวว่าย่าไม่ยอมรับแม่ เพราะตอนที่แม่ไปบอกอาม่าของลูก (ยายผมเป็นคนจีนนะ) แม่ถูกไล่ออกมาจากบ้าน พ่อกลัวว่าถ้าย่าของลูกไม่ยอมรับอีกแม่จะไม่มีที่อยู่ แม่เลยต้องมาอยู่ที่ไร่ ” ฟังแล้วเข่าอ่อนยวบๆจริงๆเลยครับ ผมไม่เคยรู้ประวัติของแม่มาก่อน
“ แม่ต้องนอนที่เรือนของคิมนั่นแหละ ตอนนั้นเป็นแค่เพิงเก่าๆต้องกางมุ้ง จุดเทียน ไม่มีรั้ว ” ชีวิตของแม่ผมลำเค็ญกว่าที่ผมคาดไว้มากเลยครับ
“ แม่ต้องทนอยู่แบบนี้ห้าปี แม่ก็มีเคน (พี่คนโต) พ่อตัดสินใจพาแม่ไปพบกับปู่และย่าของลูก เคนเป็นหลานชายคนโตของตระกูล ปู่เลยรักมาก จากนั้นแม่ก็พอมีที่ยืน ไม่ถูกกีดกันเหมือนตอนแรก ” เราเดินไปเรื่อยๆ และผมก็ฟังไปเรื่อยๆครับ
“ แต่ย่าของลูกน่ะยังไม่ยอมรับ ท่านคอยด่าและว่าแม่อยู่ตลอดเวลา ” ย่าของผมป่วยและเสียชีวิตนานแล้วครับ
“ ไหนแม่บอกว่าย่าน่ะรักแม่ไง ” เคยได้ยินมาครับ แฮะๆๆ
“ ก่อนที่ย่าจะเสีย ย่าบอกแม่ว่า ย่าไม่เคยเกลียดแม่เลย เพราะย่ารักพ่อของคิมมาก เลยต้องทำให้แม่กลัว แม่จะได้ไม่กล้าทิ้งและให้เกียรติพ่อของคิม แต่แม่ไม่เคยรู้สึกโกรธท่านเลยนะ เพราะลึกๆแม่ก็รู้สึกได้ ”
“ แม่ แม่ต้องผ่านเรื่องราวมาตั้งมากมาย แม่ไม่น่าต้องมาเจอปัญหาของผมเลย ” แม่ของผมหยุดเดินเอาดื้อๆ
“ คิม แม่แค่อยากให้ลูกมีความสุข ”
“ ผมก็อยากเห็นแม่มีความสุขครับ ” ผมและแม่มองตากันอยู่ครู่นึง แม่ก็ลูบหัวผมและพูดว่า
“ งั้นคิม ทำให้ตัวเองมีความสุข แม่ก็จะมีความสุขด้วย ไม่ต้องหลบต้องซ้อนใครนะ ”
“ แม่ ” ผมโผเข้ากอดแม่ และร้องไห้ด้วย แม่ของผมก็สะอื้นเล็กน้อย
ผมไม่รู้ว่า ในการกินข้าวที่แม่ของผมไปกินข้าวกับพ่อของท่านวาก สองคนคุยอะไรกันมา แต่ดูเหมือนว่าแม่ของผมจะไม่คัดค้านที่ผมกับข้าวกล้องตัดสินใจคบกัน ถึงแม่ว่าแม่จะไม่ได้ยอมรับเหมือนที่พ่อผมยอมรับ แต่ผมถือว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุด ที่ผมจะได้พิสูจน์ให้แม่เห็นว่าผมสองคนเราไปด้วยกันได้
แม่กับผมเดินจูงมือกันกลับมาที่เรือนรับรอง ท่านวากข้างกล้องกำลังนั่งหันหน้าไปที่ท้องฟ้า สูบบุหรี่ปุ๊ยๆ
“ บุหรี่น่ะ จะสูบอีกนานไหม ”
“ น้า !!!! ” แม่ของผมถามเสียงดัง ดังขนาดที่ว่าพวกที่อยู่ในบ้านเดินออกมาดูเลยครับ
“ เวลาอยู่กับคิม สูบแบบนี้หรือปล่าว ” ไอดิษนิ่งไป มันรีบเขี่ยๆบุหรี่ให้ดับและโยนทิ้ง
“ ไม่ครับ ปกติผมไม่สูบ ” อันนี้น่าเชื่ออยู่นะครับ
“ น้าไม่ว่าอะไรเรื่องนั้น ทำอะไรก็ทำกันไป ...... แต่น้าจะคอยดูเธอไม่ให้ห่างเลย ” พูดจบแม่ของผมก็เดินไป ไม่ได้ลาผมด้วย ทำไมแม่ของผมถึงแข็งกร้าวขึ้นมาแบบนั้นนะ
“ พี่ๆ ” ไอเดย์วิ่งหูรี่มาเลยครับ สัญญาณสอดเรื่องชาวบ้านเด่นมาแต่ไกล
“ อะไร ”
“ แม่พี่ยังไม่ยอมรับเหรอ เรียกพี่ไปว่ามาใช่ไหม ” มันยิงคำถามใส่เป็นชุดเลย
“ แม่เลี้ยงใจแข็งขนาดนั้นเลยคิม ” พี่หมอเดินมาถามอีกคน
“ แม่พี่ .... ”
“ พอๆๆๆ จะไม่เว้นช้องว่างให้กูตอบซักคำถามเลยหรือไงวะ ” ผมรีบเบรกพวกมันครับ
“ งั้นก็เล่าๆมาดิ ”
“ ไม่ปฏิเสธ แต่ไม่ยอมรับ ใช่มะ ” ท่านวากดิษชิงถามผมก่อนครับ
“ รู้ได้ไง ” ผมถามมัน
“ ทำอะไรก็ทำไป ...... แม่เลี้ยงบอกมาแบบนี้ แสดงว่าเราได้ไฟเขียว ” แม่เลี้ยงความหมายของท่านวากคือแม่ผมนะครับ
“ งั้นก็ได้คบกันแล้วสิ ไวไฟจริงๆเลยบ้านนี้ ” พี่หมอกริชพูดครับ
“ เรื่องนี้ต้องขอบคุณแม่ของพี่ดิษนะ ” ไอวินเงียบอยู่นาน ได้ทีพูดบ้างครับ
“ ยังไง ”
“ อ้าว ไหนว่าแม่พี่ดิษของขึ้นกลางวงเลยไม่ใช่เหรอ ผมว่าพ่อพี่ดิษกับแม่พี่คิม อาจจะได้สติกันมาตอนนั้น ” อาจจะจริงของมันนะครับ
“ งั้นต้องฉลองกันดิ ” พี่หมอกริชบอกพวกเรา
พี่กริชกับดิษซื้อของติดไม้ติดมือกันมาตั้งแต่ตอนที่เราออกไปข้างนอกกันครับ เรานั่งฉลองกัน ผมไม่ลืมที่จะโทรหาพี่ๆที่ให้กำลังใจผมมาตั้งแต่เกิดเรื่อง พี่แท้ๆของผมนั่นเอง
พี่ๆของผมบอกว่า แม่ยอมไวกว่าที่คิม ที่จริงทุกคนไม่เคยเห็นเวลาที่แม่ของผมหมดความอดทนเลยพากันกลัวไปต่างๆนาๆ แต่ในที่สุด ผมก็ได้รู้ความหมายของคำว่า พ่อ และ แม่ มากขึ้น ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณครับแม่
คืนนั้น เราเมากันมากเลย ไอวินอ้วกแล้วอ้วกอีกจนนอนพับก่อนเพื่อน ไอเดย์ก็ขอแข็งไม่เบาเลยครับ แต่ก็ไม่มากถ้าเทียบกับผมและพี่วากดิษนะ ส่วนพี่หมอกริช ........
“ ไอกริชไปไหนวะ ” พี่วากดิษเดินหาพี่หมอครับ
“ เรียกพี่ผมเพราะหน่อยสิครับ ” ไอแบงค์นั่งตาใสมากเลย อย่างว่าแหละ มันเคยทำงานกลางคืนมาก่อน เหล้าแค่นี้ทำอะไรมันไม่ได้อยู่แล้ว
“ เหอะ ผัวมึงล่ะสิ ถึงให้เรียกเพราะ ” เวลาพี่ดิษเมานี่ น่าต่อยเป็นที่สุดครับ
“ อย่าปากไม่ดีได้ไหมวะ ” ผมพูด ไอดิษมันดึงผมเข้าไปกอด
“ วันนี้ พี่ดีใจมากเลยที่รัก พี่อยาก xxx ที่รักมากเลยน้า ” ผมรีบผละจากมันเลยครับ และตบหน้ามันหยอกๆ
“ ปากอะปาก ” ไอดิษยังยิ้มไม่เลิก นี่มันเมาจริงๆนะเนี่ย
“ ปล่อยพี่เค้าเถอะคิม แบงค์ไม่ถือ ชอบซะอีก ...... แน่จริงพี่ดิษ xxx คิมโชว์ผมดิ ” ชักไม่ค่อยดีละ
“ เอาไหมล่ะ ” มันส่งสายตายั่วยวนมาที่ผม แล้วเวลากูเมาๆกูยิ่งควบคุมตัวเองไม่อยู่ด้วย
“ พอเลย เลอะเทอะว่ะพวกนี้ ” ผมรีบเดินหนีออกมา จากนั้นไม่นานไอดิษก็สลบไป ส่วนไอแบงค์ก็ไปนอน
ผมออกมานั่งจุดบุหรี่สูบด้านนอก (ตอนนี้ ผมเลิกแล้วนะครับ) นั่งมองไปรอบๆไร่ของพ่อและแม่ ผมไม่เคยรู้เลยว่า อดีตกว่าจะเป็นไร่ที่มีทุกอย่างสำหรับเราอย่างทุกวันนี้ พ่อและแม่ต้องต่อสู้กันมาขนาดไหน
และผมก็มีสะดุดคำพูดของแม่ผมเอง ที่แม่ของผมบอกว่าย่าไม่เคยเกลียดแม่ผมเลย แต่ต้องทำเหมือนเกลียดเพราะอยากให้แม่รัก ซื้อสัตย์ และให้เกียรติพ่อ ........ หรือว่าที่แม่ของผมทำแบบนั้นกับไอดิษเมื่อตอนค่ำ แม่อาจกำลังเลียบแบบย่าเพื่อปกป้องผม ?
พออัดมะเร็งเข้าปอดแล้วก็กลับมาในเรือน กะจะนอนใกล้ๆกับท่านวากดิษ แต่ไม่เห็นตัวมันครับ ผมมองหารอบๆก็ไม่เจอ มันไปไหนวะ ผมเลยลองปืนขึ้นไปดูที่ระเบียงด้านบน แต่ภาพที่เห็นทำเอาผมแทบตกจากบันได
“ อื้มมมม ...... อา ...... พี่กริช .....อา เบาหน่อย ” โชคดีมากๆที่ตรงนั้นมืด และสองคนนั้นคือพี่หมอกริชกับแบงค์กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม เลยไม่เห็นตัวผม ผมรีบปืนลงมาจากระเบียง
“ น้อง ขึ้นไปข้างบนทำไมเหรอ ” ท่านวากเนี่ย เป็นคนที่สร่างเมาเร็วมากครับ
“ ขะ ข้างๆ บนๆๆๆ ” ผมสั่นเลยครับ ไม่เคยเห็นภาพแบบนี้เต็มๆตา
“ น้องคิมตื่นอะ ” ผมรีบปิดที่เป้าของตัวเองครับ ใครเห็นภาพแบบนั้นจังๆแล้วไม่ตื่นก็เก่งไปละ
“ ไม่ต้องปิดเลย ” ไอดิษดึงมือผมออก และจูบปากผมทันที ผมพยายามผลักมันแต่ไม่เป็นผลครับ มันลากผมมามุมๆนึง เพื่อไม่ให้ไอวินกับไอเดย์เห็น จากนั้นมันก็เปิดฉากรุกผมเต็มๆ
“ ดิษ ....... มันไม่เข้าเว้ย ” ไอดิษมันเริ่มจะหงุดหงิดกับน้องชายของมันละครับ ครั้งนี้ไม่มีอุปกรณ์อะไรช่วยแม่แต่อย่างเดียว
“ คิมแยกขากว้างๆแล้วกัน ” ไอดิษเอื้อมไปปิดไฟ และค่อยๆเริ่มบทรักกับผม แม้ว่าจะเกิดเร็ว แต่เราสองคนก็พอใจมากเลยครับ ผมครางเสียงดังทีเดียว ไอดิษก็คำรามดังพอๆกัน เรียกว่าไม่อายใครแล้ว
หลังจากทำเรื่องน่าอายกันเรียบร้อย ผมกับไอดิษก็เดินออกมา เอาผ้าห่มคลุมตัว กะจะล้างตัว และพักผ่อน แต่ก็ต้องตกใจแทบช็อคอีกรอบของค่ำคืน
“ ไอเดย์ !!!! ”
“ พี่คิม ” คนที่ร้องเรียกชื่อผมน่ะ ไม่ใช่ไอเดย์หรอกครับ แต่เป็นคนที่กำลังโดนไอเดย์ทับร่างอยู่
“ มึงๆ ”
“ อย่ายุ่งดีกว่าน้อง ....... ทำๆไปเหอะ เบาหน่อยล่ะไอเดย์ ” ไอเดย์ก้มหน้างุดๆ รีบเอาผ้าห่มมาคลุมตัว ส่วนไอวินน่ะอายจนม้วนไปแล้ว
“ วันนี้มาเกิดอารมณ์อะไรพร้อมๆกันวะ ” พอเข้าห้องน้ำ ผมรีบถามไอดิษ
“ ........ ” ไอบ้านั่นเอาแต่ยิ้มไม่ยอมตอบ
“ ยิ้มทำไม ตอบเด้ มึงไม่ได้วางแผนอีกใช่ปะ ” ไอดิษรีบส่ายหน้า
“ พี่รู้มาว่าเดย์กับวินไม่เคยมีอะไรกันมาก่อน ...... กริชกับแบงค์ก็ด้วยนะ วันนี้เค้าคงจะดีใจกับเรา ” เออ ดีมาก ดีใจกับกู แล้วมาซัดกันแบบไม่อายอีก
“ มาเสียซิงที่บ้านกูกันหมด ”
“ พรุ่งนี้ค่อยถามพวกนั้น วันนี้แกล้งทำเป็นไม่รู้ไปเถอะ ” ก็ควรเป็นตามนั้นแหละ เหอะๆๆ ภาพติดตาจริงๆว่ะ
รุ่งเช้า ผมหกคนหุบปากเงียบ ไม่มีการพูดจากันเลย เพราะท่านวากข้าวกล้องเล่นเอาไปแฉกันตั้งแต่เช้าว่าเห็นพวกมันอึ๊บกัน
“ เมื่อคืนหลับสบายกันไหม ” พ่อผมถาม
“ ดีครับ ” พี่หมอกริชตอบ ท่าทางจะประสบการณ์สูงครับ เลยไม่ค่อยอาย
“ เอ่อ แม่เองก็ไม่ว่าอะไร หมดห่วงได้ ทีนี้กลับไปตั้งหน้าตั้งตาหาอนาคตกันได้แล้ว ข้าจะได้อุ่นใจ ” พ่อผมมีธุระต้องไปทำงานในตัวจังหวัด เลยรีบออกไป
“ มึงขึ้นไปบนระเบียงทำไมกริช ” พอพ่อผมไป ไอดิษก็ยิงคำถามใส่หมอกริชทันที
“ พี่กะว่าข้างบนน่ะมิดชิดที่สุดแล้ว ....... เลยชวนแบงค์ ”
“ เหอะ ...... แล้วมึงสองคนล่ะ เกิดอะไรขึ้น ” ผมหันไปถามน้องสุดที่รักสองคน
“ ผมเห็นพี่คิมกับพี่ดิษกำลังใส่กันน่ะ โคตรเซ็กซ์ เลยลองมาทำกับไอวิน แล้วมันก็ยอม ”
“ เดี๋ยวๆๆ มันว่าไงนะ ไอเดย์ ”
“ ฮ่าๆๆๆๆ ” เรื่องอย่างว่าคงไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดอะไร สำหรับพวกผม คงพร้อมจะเดินหน้าต่อไปแล้วครับ เรามาที่ไร่โดยที่ทุกอย่างไม่ค่อยชัดเจน แต่ตอนนี้ เราได้เห็นความรักใหม่ของคนสามคู่เลย ถ้ารวมที่แม่ของผมใช้ชีวิตกับพ่อผมอีก ก็ยิ่งน่าภูมิใจนะ
ก่อนที่ผมจะกลับไปมหาลัย ผมทุกคนเดินมาเพื่อกราบขอขมาแม่ และออกเดินทาง ผมพร้อมสำหรับชีวิตต่อจากนี้แล้วครับ
*****************************************************
ยังไม่จบนะ แฮะๆๆ พอดีช่วงนี้ตันๆ ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเล่าเรื่องไปทางไหนดี เลยรวบรวมความกล้าไปถามพี่วากดิษ
ได้คำแนะนำว่า
" เล่าเรื่องหมอหมา กับน้องเด็กดริ๊งค์สิ " พอพูดมาพี่ท่านก็ทำหน้ามุ่ยเลย ยังไงจะรีบมาต่อนะครับ ลำดับก็ต่อจากที่กลับไปมหาลัยนั่นแหละ
หลับฝันดีนะครับ