วันนี้เลขสวย
เมื่อคืน ผมนั่งๆนอนๆคุยกับไอวินทั้งคืน เพราะมันบอกว่านอนไม่หลับ ดีที่วันนี้ยังไม่เปิดเรียน เพราะพวกผมต้องรับน้องกันตั้งแต่วันแรกที่เปิดเรียน ถ้าไปในสภาพนี้คงจะซ่าไม่ออก
“ วันนี้กลับไปบ้านก่อน เดี๋ยวพี่โทรหาอีกที ” รุ่งเช้าผมพามันมาหาอะไรกิน ก่อนจะส่งมันที่หน้าประตูมหาลัย
“ มากับใครน้องคิม ” ใครวะ
“ อ้าว สวัสดีครับพี่นาก ” ท่านหัวหน้าวินนี่เอง แต่งตัวเป็นวินมอเตอร์ไซค์อีกล่ะ
“ เมทน่ะครับ ”
“ กำลังจะรับน้องแล้วใช่ไหม ”
“ ใช่ครับ แล้วคณะพี่ล่ะ เอ้อ ไอโปรด้วย เป็นไงมั่งครับ ” ผมถามเป็นชุดๆ
“ เรื่อยๆทุกอย่างแหละ ” ถามตั้งเยอะ ตอบแค่เนี่ย
“ เรื่องพี่โจล่ะครับ ”
“ ไม่รู้สิ ” สงสัยอารมณ์จะไม่ค่อยดี ผมขอตัวกลับมาที่หอ
“ ไปไหนมาตั้งแต่เช้า พี่เคาะประตูตั้งนาน ” ไอวากดิษยืนรอที่หน้าหอ
“ ส่งไอวินมัน เจอพวกปีหนึ่งคณะเรายังอะ ”
“ ยังนะ แต่เห็นว่าหน้าตาเรียบร้อยๆหลายคน ” เรียบร้อยเหมือนกูสิ ฮ่าๆ
“ เดี๋ยวรับโทรศัพท์ก่อน ...... ฮัลโหล ” ผมรับโทรศัพท์
“ พี่คิมครับ อยู่ไหนอะครับ ” ไอจ้าวอีกละ
“ อยู่หอ มีอะไร ”
“ ได้ใส่นาฬิกาที่ผมให้หรือยังครับ ” ไอดิษมองซ้ายมองขวาไปเรื่อย คงไม่สนใจเท่าไหร่
“ มีสาระมากกว่านี้หน่อยได้ปะ ”
“ นี่แหละสาระที่สุดแล้วนะ ไหนว่าพี่เรียนนิติด้วยไง มาช่วยติวหน่อยสิ ” อะไรของมันเนี่ย
“ เปิดเรียนก่อน ไว้จะพาไปหาหนังสือ ” ผมพอรู้เรื่องหนังสือที่คนนิยมศึกษากันอยู่ครับ พอดีพ่อแนะนำให้รู้จักนักกฎหมายหลายๆคน
“ ก็ได้ครับ ” ผมกดวางสาย
“ น้อง ”
“ อะไร ”
“ นาฬิกา ...... ตรงหัวเตียง สวยมากนะ ซื้อที่ไหน ” ซวยล่ะตู
“ คือ ....... ว่า ”
“ ซื้อที่ไหน ” กดดันผมด้วยอะ
“ ดิษ ไอจ้าวมันซื้อให้ กูจะบอกมึงอยู่นะ ” ไอดิษยิ้มที่มุมปาก
“ จะบอกเมื่อไหร่ ตอนไหน ”
“ กะว่าถ้ามึงถามก็จะบอก กูไม่รู้ว่าจะบอกยังไง ....... กลัวมึงโกรธ ” ผมก้มหน้ามองพื้น ไม่กล้ามองตามัน
“ อืมๆๆ เข้าใจแล้ว ปะเหอะ ” ดีแฮะ ไม่โกรธ เหอะๆ วันนั้นทั้งวัน ผมไม่ได้ไปไหน เดินไปเดินมาใกล้ๆกับหอพัก รอจนถึงช่วงค่ำๆ ไอวินกลับมาที่หอ ผมกับพวกเพื่อนๆ รวมถึงไอวากดิษมานั่งคุยกัน
“ พอมีคนช่วยงานครับ เพราะแขกไม่มาก ”
“ เจอเพื่อนบ้างหรือยัง บอกพวกนั้นช่วยบอกอาจารย์ให้สิ เรามีเหตุผลจริงๆ ท่านไม่ว่าหรอก ” ไอหนิงท่านประธานปีหนึ่งบอกไอวิน
“ ครับ ”
“ พรุ่งนี้แล้วนะเว้ย เตรียมพร้อมกันด้วยล่ะ ” ไอวากดิษบอกกับทุกคนเรื่องรับน้อง ตัวมันเองยังไม่ต้องลงครับ มันลงคราวสุดท้าย ไม่รู้จะโหดมากหรือปล่าว
“ พี่คิมครับ ..... ผมเห็นแหวนวางอยู่ตรงหัวเตียง ทำไมไม่เก็บให้ดีล่ะครับ ” ผมกับไอวินเดินขึ้นมาที่ห้อง มันทักเรื่องแหวน แหวนอะไรวะ
“ ไหน ” ผมเดินไปดูที่หัวเตียง ปรากฏว่ามีแหวนเงินสีสดใสวางอยู่ ผมหยิบขึ้นมาดู
“ น่าจะเงินแท้นะครับ ”
“ อืม ..... คิมดิษ ? ” พอเจอข้อความถึงรู้ครับว่าเป็นของไอวากดิษแน่นอน แสดงว่าเมื่อเช้ามันเป็นคนเข้ามาในห้อง จะเอาแหวนมาวาง แต่ดันเห็นนาฬิกา เหอะๆๆ มึงนี่จริงๆเลยนะ
วันรุ่งขึ้น ไอวินรีบไปเรียนเช้า ส่วนผมต้องแอบมาเตรียมการที่หลังมอก่อน จากนั้นค่อยไปเรียน ผมมองเด็กคณะผมเหมือนกัน แต่ละคนหน้าตาไม่น่าจะไหวเลยแฮะ หรือว่าเดี๋ยวนี้คณะของผม ไม่ได้มีให้เฉพาะพวกดิบเถื่อนแล้ว .... และแล้วช่วงเวลานั้นก็มาถึง
“ ใครให้วิ่งห๊ะ คลานลงไป ! ” พอพวกน้องๆมาถึง ผมก็เริ่มสั่ง เป็นคนแรก จากนั้นไม่นานปีสองของพวกผมก็เริ่มตะคอกตะโกนกันอย่างเมามัน
“ มองหน้าทำไม คลานลงไป ก้มหน้าด้วย ! ” ไม่รู้เสียงใครเป็นเสียงใครล่ะครับ วุ่นวายไปหมด
“ ตั้งแถวตอนเรียงห้า เร็ว ” ผมเป็นคนสั่งครับ เรากำลังจะให้ปีหนึ่งเดินเรียงแถวกลับคณะ ไปเข้าห้องมืด ซึ่งใช้เร็วกว่าปีที่แล้ว ปีสองค่อยๆเดินนำพวกปีหนึ่งไป พอถึงห้องมืดก็ปฏิบัติการทันที เราบอกสัญลักษณ์ ชื่อคณาจารย์ที่ต้องทราบ กับแกล้งเล่นนิดๆหน่อยๆ
“ วันนี้ ใครถอดเนกไทมาเรียน ลุก ! ” พอเข้าห้องมืดจนน้องๆตัวสั่นดีแล้ว ก็เดินกลับกันมาที่หลังมออีกที ระหว่างที่รับๆกันอยู่ ผมเหลือบไปเห็นพวกจากองค์การเดินมาแอบมองเป็นระยะ
“ ผมครับ ” แปลกแฮะ มีไม่กี่คนเอง
“ เพื่อนครับ ช่วยพาปีหนึ่งที่ไม่ให้เกียรติสถาบันไปสั่งสอนด้วย ” พวกเพื่อนๆผมเดินมาคุมตัวพวกนั้นไป จากนั้นผมก็เห็นไอเด็กคนนึงแอบมองมาที่ผม คือปกติเวลามาอยู่ในซุ้มต้องก้มหน้าทุกคน ห้ามมองรุ่นพี่เพราะจะทำให้รุ่นพี่ประหม่า เหอะๆๆ
“ คนที่เงยหน้า ลุกขึ้น ! ” ผมตะเบงใส่มัน ไอนั่นรีบลุกขึ้นทันที โหแฮะ อย่างกับมองตัวเองในกระจก คนอะไรเหมือนกูจริงๆ
“ เงยหน้าทำไม ”
“ พี่ไม่ได้สั่งให้ผมห้ามมองหน้านี่ครับ ” อ้าว ไอเวรนี่ พวกสาวๆเพื่อนผมแอบหัวเราะด้วยครับ
“ ไม่ได้สั่ง ไม่ได้หมายความว่าจะทำได้ ไป ... ปีสองพาน้องไปตักเตือน ” ทันทีที่ผมเห็นหน้ามัน ผมแอบตั้งใจไว้เลยครับว่าจะเอามันเป็นน้องรหัส เผื่อจะเอาไว้สืบทอดเป็นทายาทเดือน หึหึหึหึ
“ ครั้งหน้า อย่าสาย อย่าขาด นี่เป็นคำสั่ง ได้ยินชัดเจนไหม ” หลังจากรับกันจนเย็น ผมตัดสินใจพอก่อนครับ วันนี้ไม่มีปีสองต้องกระโดดน้ำ เพราะปีหนึ่งชุดนี้เชื่อฟังดี
“ ครับ / ค่ะ ”
“ ต่อไปให้ประธานปีสองมาชี้แจงภารกิจของพวกคุณต่อไป ” ไอหนิงเดินมาแทนที่ผม มันส่งสัญญาณให้ผมเดินไปไกลๆ เพราะปีสองจะทำตัวสนิทกับปีหนึ่งหลังจากรับน้องครั้งแรก ส่วนผมเป็นส่วนหนึ่งของปีสามครับ ต้องชั่วร้ายให้มากที่สุด ผมเลยเดินออกมาจากลานก่อนเพื่อน
หลังจากวันนั้น แทนที่ผมจะกลายเป็นคนที่ถูกเกลียด ดันกลายเป็นคนที่คนรู้จักเยอะที่สุดเฉยเลย แถมไอพวกเด็กปีหนึ่งให้ฉายาอีก ฉายาก็แสนจะ ....
“ หมายความว่าไง วากหน้าหวาน ” พี่หมีถึงกับงง
“ แน่ใจนะว่ารับโหด ” พี่ประธานเชียร์เอาอีกคน
“ ผมทำตามแผนหมดอะพี่ ไม่รู้ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ” พี่หมีตบไหล่ให้กำลังใจ
“ ลงคราวหน้า ขอเอาแบบโหดๆให้เห็นที ” ประธานเชียร์แอบฝากผมก่อนจะออกไปครับ ผมเดินออกมาจากห้องประชุม เจอพวกปีหนึ่งยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่
“ พี่คิมคะๆ ”
“ พวกคุณ !!!! ” ผมตะโกนไปสุดเสียง พวกสาวปีหนึ่งถึงกับผงะ เฮ้อ ขอโทษนะน้องๆ พี่เป็นที่รักไม่ได้อะ เหอะๆ
“ มีอะไรไปคุยกับพี่ๆของพวกคุณ ไป ” ปกติผมแค่ปั้นหน้านิ่งๆอะครับ ไม่ได้ออกทางเสียง พอโหดเข้านิดก็ตกอกตกใจ ผมด่าๆเสร็จก็เดินมาเข้าห้องน้ำ
“ ทำไมพี่วากของเราหน้าตาไม่โหดเลยวะ ” หืม นี่พวกมึงกล้านินทารุ่นพี่ในคณะเลยเหรอวะ
“ ไม่ได้อยู่ที่หน้าตา กูว่าเสียงแกเย็นเป็นน้ำแข็งไปว่ะ พูดแล้วขนลุก ” หึหึหึ
“ เจอหน้านะจะ .... ”
“ พวกคุณจะทำอะไรผม ” แอบฟังอยู่นานละไอพวกนี้ ผมโผล่หน้าออกมาจากห้องส้วม พวกเด็กปีหนึ่งสามคนกำลังยืนอ้าปากค้างอยู่ หนึ่งในนั้นคือไอคนที่ผมแอบเล็งไว้ด้วย
“ เอ่อ คือว่า ..... ขอโทษคร้าบบบ ผมผิดไปแล้วคร้าบบ ” พวกมันสามคนพร้อมใจกันทำท่าขอโทษผมครับ ในห้องน้ำนั่นแหละ ฮ่าๆๆ มีความสุข
“ ครั้งหน้านินทาให้ลับหูลับตาคนล่ะ ” ผมแอบฝากพวกมันก่อนจะเดินออกมา พวกมันสามคนคงจะงงอะ
ผมเดินกลับมาอยู่ที่หออย่างสบายใจ กะว่าเย็นนี้จะไปช่วยทางบ้านไอวิน
“ แม่ แม่จะช่วยน้องผมไหม ” ผมโทรไปบอกแม่เรื่องไอวินครับ แม่ของผมตกใจมาก
“ ช่วยจ้ะ คิมมีเงินไหมลูก หรือต้องฝากไปให้ ”
“ ผมออกให้ก่อนได้ครับ แม่กับพ่อจะช่วยเท่าไหร่ ”
“ พ่อบอกว่าสามพัน ส่วนคิมจะช่วยหรือปล่าวก็แยกกันนะลูก ” ผมรับปากเรียบร้อยก็เดินออกไปกดเงินครับ ขณะที่กำลังจะออกพ้นหอ ก็มีผู้ชายหน้าตาไม่น่าไว้ใจเดินตามผมมาเป็นกลุ่ม
“ ...... ” ผมแกล้งไม่เห็นครับ พวกนั้นไม่ยอมหยุดตาม ผมหันกลับมาจะถามว่าตามมาทำไม แต่ ......
“ ลากมันไปตรงนั้น ” เฮ้ย ผมโดนคนรวบและถีบไปข้างๆตึก
“ มึงเก่งนักใช่ไหม !@###@@!!@### ” จากนั้นผมจำไม่ได้ว่าเท้าใครเป็นเท้าใคร ยังไม่ทันได้ตั้งตัวอะไรเลย
“ ถ้ามึงยังเก่งอีก พวกกูจะเล่นหนักกว่านี้ ” กูไปเก่งอะไรวะเฮ้ย โอย เจ็บจริงอะ มันตั้งใจเอาผมตายหรือปล่าว ทำไมต้องเล่นแรงขนาดนี้ ผมทันเห็นว่าพวกนี้ไม่ใช่คนของมหาลัยผม เข็มขัดมันไม่ใช่ของมหาลัยผม แต่ที่แปลกกว่านั้นมากคือ มีบางคนที่ถือกระเป๋าเป้ที่คณะผมทำแจกปีหนึ่งด้วย
“ พวกมึง ...... พี่วาก !!!!! ”
“ เฮ้ย ไปเว้ย ”
“ พี่ครับ พี่วากๆๆ ” ผมค่อยๆพลิกตัว ปวดระบมไปทั้งตัวเลย พวกมึงเป็นใครวะ
“ คะ .... คุณ คุณมาได้ไง ” แปลกครับ ไอคนที่ตามมาคือไอเด็กปีหนึ่งที่ผมเล็งไว้นั่นแหละ รู้สึกจะถูกชะตากับไอคนนี้
“ พี่ลุกไหวไหม ไปเรือนพยาบาลนะพี่ ” ผมค่อยๆหายใจเข้าออก แต่มันปวดหน้าอกมาก
“ โอ้ย เข่ากู !!! ” ไอน้องคนนั้นตกใจ รีบถกกางเกงผมขึ้น
“ ชิบหายละพี่ ทำไมเลือดออก ”
“ วิ่งไปหอ .... ห้อง ..... เรียกคนชื่อดิษมา ไปเร็ว ” นาทีนี้ผมนึกถึงมันเป็นคนแรก
“ ขืนมันกลับมาซ้ำล่ะพี่ ”
“ ไม่อยากเห็นผมตายก็รีบไปเร็วๆ ” จริงๆไม่ถึงตายหรอก แต่ไม่พูดแบบนี้ มันคงไม่ยอมไป
จากนั้นไม่ถึงห้านาที ไอดิษมาพร้อมกับฝูงเกษตร ผมนับได้ไม่ถ้วนนะครับ แต่หลายสิบคน พวกนั้นยืนร้องเพลงให้กำลังใจผม ไอวากดิษกับพี่หมีถึงกับหน้าแดงกล้ำ ผมรู้เลยว่าสองคนนี้เดือดถึงขีดสุดจริงๆ
“ มันพอพูดได้ไหมพี่ครับ ” ที่เรือนพยาบาล พี่พยาบาลช่วยล้างแผลที่เข่า กับเช็ดๆตามลำตัวให้ผม พี่หมีถามแทรกขึ้นมา
“ ถ้าไม่ช้ำในนะ น้องจ้ะ เข่านี่ ทำไมถึงรูปทรงแปลกๆ ”
“ ไว้ผมจัดการนะพี่ แม่ผมเป็นเจ้าของไข้ ” ไอวากดิษบอก พี่พยาบาลเค้าดีครับ ไม่ถามอะไรต่อ
“ มึงต้องพูดเท่าที่จำได้ พูดมาให้หมด ” พี่หมีกัดฟันจนคอปูดเลย
“ ไอหมี ใจเย็นก่อนมึง ” ไอวากดิษพยายามขอพี่หมี จริงๆผมก็ไม่อยากให้วู่วามนะครับ คณะเรายิ่งโดนเพ่งเล็งอยู่
“ มึงคิดว่าไอที่ยืนรออยู่ข้างนอกเกือบร้อยทนได้ไหม วากคณะโดนแบบนี้ ไม่มีทางจบ วันนี้กูจะเอาเองด้วย ”
“ พี่ อย่าเพิ่งวู่วามนะพี่ ถ้าพี่จะลุยให้ได้ ผมไม่เล่านะ ”
“ แม่งนี่ ..... เออๆๆๆๆๆ เล่ามา ” ผมเล่าเหตุการณ์เท่าที่จำได้ให้ฟัง พี่หมีแกสะดุดตรงที่ผมเห็นคนถือเป้คณะเราครับ
“ มึงแน่ใจนะว่า คนอื่นๆหน้าไม่คุ้น ”
“ ไม่คุ้นพี่ ”
“ มีคนลองของแล้วว่ะ ” ไอวากดิษบอกกับพี่หมี
“ ดิษ มึงบอกปีสี่ด้วย อังคารหน้าเตรียมลง ”
“ พี่หมี อย่าเพิ่งนะพี่ ให้พวกผมจัดการก่อนเถอะ ” ผมรีบห้ามพี่หมีไว้
“ สภาพแบบนี้ มึงยังจะลงอีกเหรอ เมื่อห้าหกปีก่อนก็เคยมี คราวนู้นปีสี่ก็ลงแก้ปัญหาให้ ไม่ใช่ความผิดมึงคิม ”
“ ไม่พี่ ถึงต้องใส่เฝือกลง ผมก็จะต่อ ผมอยากดูเหมือนกันว่าผมไม่คิดเอาพวกมันถึงตาย ทำไมพวกมันต้องทำกันผมแบบนี้ ” พี่หมีหัวเสียมาก ผลักไอวากดิษมาพูดแทน ส่วนแกออกไปข้างนอกแล้ว
“ ไหนบอกพี่ว่าถ้าไม่ไหวจะพอไง ”
“ มันต้องเกิดจากตัวกูเองดิษ ไม่ใช่คนอื่น ”
“ ดื้อให้ถึงที่สุดเลยสินะ แต่ต่อไปนี้ พี่จะให้คนตามดูนะ ..... ถ้าไม่ไหวต้องพูด เข้าใจไหม ” เป็นอันว่าตกลงครับ พี่ปีสี่ยังไว้ใจผมต่ออีกครั้ง เข่าของผมอาการไม่ดีมากๆ ต้องใส่เฝือกถือไม้เท้าเป็นครั้งแรกในชีวิต หึหึ ไอพวกเด็กนรก พวกมึงได้เจอกูแน่ๆ