ไปไหนกันหมดๆ ไม่มาเมนต์บ้างเลย เดี๋ยวงอนหนีกลับบ้านนอกนะเอา ฮ่าๆ
ผมเดินมาเรียนที่อาคารเรียนรวม มองอะไรขัดหูขัดตาไปหมด อารมณ์ไม่ค่อยจะดีมากๆวันนี้ เพิ่งโดนเกย์ไล่ต้อน ยังไม่ทันได้ทำใจ ต้องมารู้อีกว่าพี่รหัสพิศวาสตัวเอง
“ อีคิม เป็นไรยะ ” ผมเดินไปที่โต๊ะของพวกสาวๆ ส่วนใหญ่เป็นคนที่ทำกิจกรรมกับผม ไอวาฬก็อยู่ด้วยครับ
“ หุบปาก ” ยัยนัทเข้ามาหาผิดจังหวะ
“ โอ้โห ติดเชื้อหน่อยเดียว ... แกเป็นไรไหมอะ ” ผมนั่งลงข้างๆไอวาฬ เรื่องนี้เล่าให้ใครฟังก็ไม่ได้ซะด้วย
“ ถามอะไรหน่อยได้ปะ ”
“ ว่ามาสิยะ ทำหน้าตาเครียดๆ ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก ” ของเค้าดีนะครับ รายนี้ก็ยังไม่รู้อีกว่าหวานใจกำลังจะตีจาก
“ สมมติแกมีคนมาแอบชอบ โดยที่แกรู้ว่ายังไงก็รักกันไม่ได้ จะทำยังไงกัน ”
“ หมายความว่าไงรักกันไม่ได้ ” ไอวาฬรีบสงสัยก่อนใคร
“ ไงดีล่ะ ประมาณ พี่รหัสน้องรหัสไรเงี้ย ”
“ บ้าหรอแก พี่รหัส พ่อรหัส ปู่รหัส ทำไมจะชอบกันไม่ได้ ” นัทตอบบ้าง เออ ผมคงยกตัวอย่างไกลไปนิด
“ เออแบบ พ่อเลี้ยงไรงี้ล่ะ ” จอยกับพวกสาวๆเริ่มทำหน้าไม่ดีละ
“ ไปรู้อะไรมาหรือปล่าว เรื่องในคณะหรือปล่าว ” ผู้หญิงคนนึงถาม ผมนิสัยแย่อะครับ จำชื่อไม่ค่อยได้
“ ไม่ๆ ตกลงมีใครบอกได้บ้างปะ ”
“ ถ้าเป็นความรัก มันบอกไม่ได้หรอกว่าอะไรเหมาะไม่เหมาะ มันต้องคิดเอาเอง ” ไอวาฬตอบ พวกสาวๆคงเห็นด้วยครับ ไม่มีใครแย้งอะไร เรื่องนี้ผมคงต้องเผชิญเองคนเดียวสินะ
“ แล้วเรียนวิชาอะไรกันอะ นั่งเรียนด้วยได้ปะ ” เบื่อๆครับ หาเข้าเรียนด้วยดีกว่า วิชามันไม่ตรงกันครับ พวกนี้จะเรียนเหลื่อมกับผมคาบหนึ่ง ผมไม่ได้เข้าพอดี
“ ไปสิแก ไม่มีคนหรอก ” ผมตามกลุ่มนี้ไปเรียน กินข้าวเที่ยงด้วยกัน ช่วยให้ผมไม่คิดเรื่องวันนี้ได้บ้าง จนมาถึงคาบเรียนของผม คือคาบเย็น คาบนี้ยัยนัทขอมาเรียนเป็นเพื่อนผมบ้าง
“ ตายห่ะ ลืมหนังสือ ” ผมอุทาน
“ ขยันเข้าไป ขยันให้ตายไปเลยนะจ้ะ ขยันจนลืมหนังสือ ” สวยแต่ปากอย่างงี้ไม่เอาทำเมียหรอกว่ะ อะไรจะกัดเก่งขนาดนั้น ตอนออกมาจากหอคงไม่ได้เปิดดู เพราะจริงๆวันนี้ผมมีเรียนตามตารางแค่คาบนี้คาบเดียว ในห้องเหลือใครบ้างล่ะเนี่ย เอาวะ ยังเหลืออีกสิบกว่านาที ผมรีบโทรหาไอโต้ง
“ ว่าไงคิม ”
“ โต้ง มึงยังอยู่ในห้องกูปะ ”
“ หึ ไม่อะ มีอะไรเหรอ ” เวรล่ะงานนี้ วิชานี้ อาจารย์สอนตามหนังสือครับ ชอบให้เน้นในหนังสือ ถ้าไม่พกมาเรียน ก็ควรโดดๆไปซะ
“ กูลืมหนังสือ ”
“ พี่โจ ... เอ่อ เดี๋ยวกูกลับไปเอาให้ ” มันต้องเรียนเหมือนกันนี่ แต่คนละวิชา ถ้าให้มันไปคงลำบากแย่
“ มึงว่า ... เค้าอยู่ในห้องใช่มะ ” ถ้าเป็นคนอื่นผมคงพูดว่ามึงไปแล้ว แต่นี่ไม่รู้สิครับ ถึงคนๆนี้จะทำให้ผมโกรธแค่ไหน ผมไม่ยักจะทำรุนแรง มีครั้งเดียวคือที่ต่อยลงไปกองเท่านั้น
“ อืม เห็นว่ารอไปเรียนที่อาคารเรียนรวม ” อาคารนี้นี่หว่า ช่างมันเถอะ ยังไงก็ต้องคุยกันอยู่ดี
“ ขอบใจๆ ” ผมรีบโทรศัพท์ไปหาเค้า
“ ครับ ” สงสัยไม่ดูเลยว่าใครโทรมา เสียงเซงกะตายมาก
“ พี่ ... ผมลืมหนังสือ วิชา ... ”
“ ออกมาเอา พี่เอามาให้แล้ว ยืนอยู่หน้าห้องน้ำนะ ” เฮ้อ ทำไมกูต้องใจอ่อนกับคนที่ทำแบบนี้ด้วยวะ
“ ครับ ” ผมเดินออกจากห้อง ตรงไปอีกด้านของอาคาร เค้ายืนอยู่ข้างๆระเบียง
“ เอา อย่าลืมบ่อยๆล่ะ ” แปลกว่ะ พอส่งหนังสือให้ผมแล้ว เค้าเดินจากไปเลย น้ำเสียงเย็นชา ไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ เหมือนตอนเจอกันแรกๆเลย
พอเรียนจบ นัทบอกว่ามีนัดไปเดินเที่ยวกับไอโต้ง ผมพยายามเงียบเรื่องนี้ไว้ ไม่อยากทำตัวเป็นปัญหากับเพื่อน ผมเดินกลับคณะคนเดียว วันนี้ไอวากดิษบอกว่าคณะจะหารือเรื่องรับน้องกันต่อ
“ สวัสดีพี่หมี ”
“ เออ เป็นไงบ้างมึง หายดีแล้วเหรอ ” พี่หมีกำลังนั่งเขียนอะไรไม่รู้ครับ หันมาทักทายผม
“ น่าจะ แล้วเรื่องรับน้องเราว่าไงพี่ ”
“ คืองี้ ตอนนี้คงคุยแค่ระยะเวลา ส่วนวิธีการ กูว่าจะจัดแบบสัมมนา นี่กำลังเขียนของบ ” วู้ว สัมมนาๆ
“ สุดยอดๆ ไปที่ไหนกันพี่ ”
“ ไร่มึงง่ะ ”
“ เฮ้ย มึงบ้าปล่าวพี่ ” ผมตกใจเลย จะบ้ากันไปใหญ่ละ
“ มึงแหละบ้าหรือปล่าว ไอสัด ! กูพี่มึงนะ ” แฮ่ะๆ มันเผลออะพี่ แหมโมโหเหมือนหมีโดนขโมยรังผึ้ง
“ โทษพี่ แต่ทำไมไม่บอกผมล่ะ ”
“ บังเอิญมึงไม่ใช่เจ้าของไร่ กูคุยกับเจ้าของไร่แล้ว ” เจ้าของไร่ก็พ่อกูสิ เหอะๆๆ
“ อ้าว ” อันนี้งงจริงๆครับ
“ อ้าวทำไม มาๆมานั่งเป็นเพื่อนกูหน่อย ช่วยนึกคำขอให้ด้วย ” เซงเลย แบบนี้เรียกข้ามขั้นตอนไหมเนี่ย
“ ไงไอหมี ... ” ไอวากนรกมาละครับ ไม่ดิ ต่อไปต้องเรียกประธานซีเนียร์
“ ดี หายดีทั้งคู่ ต่อไปคณะคงไม่สงบอีกแล้วใช่มะ ”
“ อะไร ! ” เอ้า พูดพร้อมกันอีกกู
“ เรื่องสัมมนาว่าไง จะไปไหน ” แสดงว่าลับจริงครับ ไอนี่ไม่รู้เรื่อง
“ ไปไร่ลูกชายมึง กูคุยกับพ่อมันแล้ว ” ย้ำอีก
“ ปีสองตกลงกันครบแล้วนะ มึงจะดูใบรายงานไหม จริงๆพวกมึงก็ต้องดูแหละ ” พี่หมีลุกไปหยิบแฟ้ม แล้วเอามาวางตรงหน้า ผมกลังจะหยิบดู แต่ไอวากนรกมันแย่งผม
“ เป็นเด็กเป็นเล็กสู่รู้ ” ปาด
“ ผู้ใหญ่ห่าไร แย่งเด็กดู ”
“ ไอนี่ ... ”
“ กูกะแล้ว แม่งสงบได้ไม่ถึงสองวัน ” พี่หมีแซวเลย ไอวากยืนหัวเราะเหอะๆ สันดานมันแก้ไม่ได้จริงๆอะครับ
“ ไอโจ ... ไหนมึงว่ามันเป็นเลขารุ่นไง ” ไม่ค่อยอยากได้ยินชื่อนี้
“ รุ่นเค้าเปลี่ยน กูไม่รู้หรอก ”
“ ได้ไง แล้วมันย้ายมาอยู่ฝ่ายวินัยของไอคิมได้ไง ” หา !!!
“ มึงเป็นอะไรมากปล่าวเนี่ย ก็แค่ไปทำงานกับไอคิม ไอคิมมันเป็นวากขึ้นกับกู ไม่ได้เป็นลูกน้องลูกพี่ใคร เรื่องพี่ๆน้องๆไม่มีปัญหา มึงรู้ดีนี่ ”
“ มันไม่ใช่เรื่องนั้น ” อ้าวๆ ไอเวรนี่จะหลุดเรื่องเมื่อเช้าไหม
“ แล้วอะไรของมึง ”
“ ... ฝ่ายวินัย มันไม่ถูกกัน ” ไอวากนรกหยุดคิดพักนึง ก่อนจะพูด
“ ไหน ใครไม่ถูกกับใคร ”
“ เนี่ย มันเคยหาเรื่องตอนก่อนรับรุ่น มึงจำได้ไหม ” ไอวากเดินไปถกกับพี่หมี ท่าทางจริงจัง
“ ไอโง่ มันคนละคน มึงอย่างอแงๆ ” ไอวากหันมาจ้องหน้าผม
“ เออ มึงปล่อยมันทำงานไป เดี๋ยวรู้เอง ”
“ เดี๋ยวๆ มีเรื่องอะไรที่กูพลาดไปไหม ช่วงนี้มีอะไร ”
“ ไอโจมันชอบไอคิม ”
“ อะไรนะ !!!!! ” พี่หมีเปล่งเสียงสะท้านคณะ ผมอึ้งแดกเรียบร้อย มันพูดออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ มึงพูดเหี้ยไรเนี่ย หุบปากซะ ” ผมด่าไอวาก ห้องทำงานไม่มีคนอื่นครับ
“ อะไรกัน มึงสามคน มึงเป็นบ้าอะไรกัน ” พี่หมีพูดกับผม
“ ผมน่ะไม่รู้เรื่อง ไอสองคนนั้นน่ะ มันเล่นบ้าอะไรไม่รู้ ”
“ ไม่ใช่ๆ กูรู้ว่าไอดิษคิดไรกับมึง ” ช็อก ...
“ มึง ไอดิษ ... มึงบอกหมดทุกคน ใช่ไหม ” ผมหันไปหาไอวากนรก
“ ไม่ต้องบอกหรอก กูเป็นเพื่อนมันมานาน มันชอบใครกูดูออก ” ชักจะไปกันใหญ่แล้วครับ ไอวากนรกมันไม่อายบ้างหรือไง ที่มันชอบผู้ชายด้วยกัน ผมเดินไปคว้าเป้
“ ผมกลับนะพี่ ” ผมหน่ายมากๆ ไม่รู้จะบรรยายยังไงดี มันอึดอัดจนระบายออกมาไม่หมด ยิ่งรู้ว่ามีหลายคนที่รู้เรื่องแบบนี้ แต่กลับเฉยไม่พูดไม่จาไม่ห้ามปราม กลายเป็นผมที่สับสนอยู่คนเดียว ผมควรทำอย่างไรเวลาเจอหน้าคนพวกนี้
“ ซัน อยู่ไหนอะ ”
“ นั่งหน้าร้านหนังสือ คิมมาหาทีสิ ” ไม่ต้องขอให้ไปหาหรอกครับ นาทีนี้อยากไปหาใจจะขาด
“ รอเดี๋ยวนะ ” ผมเดินลัดเลาะไปที่ร้านหนังสือทันที พอถึงหน้าร้านหนังสือ ผมเห็นซันกำลังคุยกับผู้ชายร่างสูงคนหนึ่ง เข้าไปใกล้ๆ ยิ่งเห็นว่าหน้าตาดีมากๆด้วยครับ คนนี้เป็นแฟนของซันเหรอ
“ ดีครับซัน ... ใครอะ ”
“ แฟนเค้า ” เหมือนโดนหินหล่นทับหัวอย่างจัง
“ ... ”
“ เห็นปะ ” ซันหันไปคุยกับผู้ชายคนนั้น
“ อืม ”
“ งั้น คิมไปก่อนนะ ” ทำไมวันนี้กูต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ซ้ำๆซากๆด้วยวะ
“ เดี๋ยว ” ไอผู้ชายคนนั้นเรียก
“ อะไร ” ผมหันกลับไปหา
“ ผิดหวังขนาดนั้นเลย ? ” แม่งถามกวนบาทา นี่ถ้าไม่ติดว่ามันสูงใหญ่กว่าผมนะ มีต่อย
“ น่าผิดหวังไหมล่ะ ” มันมองหน้าซัน ซันก็ดีครับ ทำหน้าอมยิ้มให้ ไม่ได้รู้สึกรู้สาเลย ทำไมเป็นแบบนี้
“ ถ้ากูบอกเลิกซันเดี๋ยวนี้ มึงจะกลับมาหาไหม ” อ้าวเฮ้ย
“ มึงมาคุยกับกูสองคนดีกว่า อย่าทำแบบนี้ต่อหน้าผู้หญิง ” อารมณ์ที่สุมมาตลอดทั้งวัน เริ่มจะร้อนถึงที่แล้ว เอาวะ วันนี้ต้องดวลกับควายกูก็ยอม
“ ตอบที่กูถามดีกว่า ”
“ กูไม่ชอบคบมีเจ้าของ และถ้ามึงเลิกตอนนี้ กูก็ไม่จีบ ” ผมยืนเอาหน้าเข้าไปใกล้กับมัน ถึงจะอยู่แค่ระดับจมูกของมันก็ตาม
“ ทำไมไม่จีบล่ะ ”
“ เค้ากำลังเจ็บ กูไม่อยากเป็นตัวแทนใคร ”
“ โห ... ซัน คนนี้เข้าท่า ” ห๊ะ ...
“ เล่นแรงอะ ฮิ ” อะไรวะ
“ นี่อะไรน่ะ ”
“ นั่นพี่ชายซัน ชื่อแซน ปีสี่นิติ ” โหกู ทำห่าไรไปบ้างวะเนี่ย แล้วหาเรื่องนักกฎหมายด้วยกู
“ พี่ไม่ค่อยเชื่อซันน่ะ เห็นเค้าคุยถึงทั้งวันทั้งคืนแล้วหมั่นไส้ ” ผมยิ้มออกครับ ที่แท้ซันกับพี่แซน คิดเล่นกับผมนี่เอง
“ ขอโทษนะพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจ ”
“ อืมๆ อย่าคิดมาก พี่เล่นแบบนี้กันบ่อย เอาไงซัน ” หืม เอาอะไร
“ คิมไปกินข้าวบ้านซันนะ ” สุดยอด ฮ่าๆ
“ พ่อแม่พี่กำลังกลับ ไปรอเลยปะ ” อิ๋บอ๋าย พ่อแม่ด้วยเหรอพี่
“ จะดีเหรอพี่ ”
“ บอกเป็นเพื่อนซัน ไม่เป็นไรหรอก ” พูดง่ายนี่ พ่อแม่พี่นี่ เหอะๆ ขณะที่กำลังตัดสินใจก็มีคนโทรมาหาผมพอดี
“ ว่าไงนัท ”
“ ฮือ ... คิม ฮืออ ” เฮ้ย ... อะไรน่ะ
“ นัท ... นี่ เป็นอะไร นัท ”
“ โต้ง ... ฮือ โต้งน่ะ ” ท่าไม่ดีแล้วว่ะ ไอโต้งมันบอกเลิกนัทแน่เลย
“ ตอนนี้อยู่ไหน เดี๋ยวกูไปหา ”
“ อยู่เรือนพยาบาล ฮือ ” หืม อะไรกัน บอกเลิกกันถึงขนาดแทงกันเลือดสาดเลยเหรอวะ ไม่มั้ง
“ เออๆ เดี๋ยวกูไปเดี๋ยวนี้แหละ ” พี่แซนกับซันมองหน้าผม
“ คือเพื่อนผมอยู่เรือนพยาบาล ผมขอตัวไปดูก่อน ยังไงจะโทรบอกนะครับ ”
“ เอาไงล่ะซัน ” บ้านนี้ดีแฮะ มีอะไรถามกันตลอด
“ เดี๋ยวซันตามพี่ไปแล้วกัน ”
“ ... พี่ว่าไปเรือนพยาบาลด้วยกันก่อน เผื่อมีอะไรให้ช่วย ปะๆ ” โชคดีที่พี่แซนใจกว้างครับ ผมสามคนรีบไปที่เรือนพยาบาลทันที ...