(เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10  (อ่าน 20631 ครั้ง)

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
(เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
« เมื่อ02-09-2010 17:25:28 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

.....

เรื่องนี้จะออกแนวกึ่งบราค่อน และ กึ่ง 3P ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจาก 2 เรื่องที่ผ่านมา ชอบไม่ชอบอย่างไร  ติชมได้เสมอนะคะ

 “Hilight & Deep shade”
  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17315.0

“ในค่ำคืนอันเงียบงัน”
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17805.0
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-09-2010 11:40:19 โดย wan_sugi »

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#1 by HAKURO 2/9/10
«ตอบ #1 เมื่อ02-09-2010 17:33:09 »

“นี่  ไอริ  ฉันชวนนายมาเดทนะ  ไม่ได้ชวนมางานศพ  ดูทำหน้าเข้าสิ”  ร่างสูงเจ้าของเรือนผมดำยาวประบ่าดวงหน้าเข้มรกครึ้มไปด้วยหนวดเคราบ่นขึ้นเมื่อผู้ที่นั่งอยู่ฟากตรงข้ามของโต๊ะเอาแต่หมุนถ้วยกาแฟเล่นพลางทำหน้าซังกะตาย

“ฉันรู้  ไค”  คนถูกเรียกกว่าไอริตวัดตาขว้างค้อนเข้าให้วงใหญ่ก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมที่ยาวถึงกลางหลังอย่างรำคาญ ๆ  “แล้วก็นะ...ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เลิกเรียกฉันว่าไอริเสียที  จะเรียกไอดะหรือจะเรียกชื่อจริงก็เอาสักอย่าง”

“ก็ไอริมันน่ารักดี  เรียกแบบนี้แหละดีแล้ว”  ไคยักไหล่พลางยกถ้วยกาแฟของตัวเองขึ้นจิบ
คิ้วเรียวของดวงหน้าสวยขมวดมุ่นแล้วเสมองออกไปนอกหน้าต่าง  เขารู้ว่าเขามาเดท  แต่ก็รู้อีกว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในอารมณ์ที่ไม่เหมาะกับการเดทเท่าไรนัก

ไคมองหน้าคนที่เรียกได้ว่าเป็นคนรักแล้วก็ถอนใจเฮือกใหญ่  เขารู้ว่าไอริมักจะชอบทำหน้าเฉยเมยไร้อารมณ์อยู่เสมอจนเป็นนิสัย  แต่ไอ้ความเป็นกังวลที่ฉาบอยู่บนใบหน้านั้นมันดูจะมากเกินกว่าเจ้าตัวจะสะกดเอาไว้ภายใต้ความเยือกเย็นได้

“คิดอะไรเรื่องน้องชายอีกแล้วใช่ไหม?”  ร่างสูงเอ่ยขึ้นเบา ๆ  แต่ถ้อยคำนั้นทำเอาอีกฝ่ายสะดุ้งน้อย ๆ

ดวงตากลมเหลือบกลับมามองหน้าไคเหมือนจะถาม

“อย่าถามนะว่าฉันรู้ได้ยังไง”  ไคดักคอ  “นายเป็นแบบนี้เมื่อไหร่...ก็มีอยู่แค่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละที่นายจะคิด”

ไอริระบายลมหายใจยาว  เขาถูกผู้ชายคนนี้มองทะลุมาตั้งแต่เจอกันได้ไม่นานนัก  ทั้งที่ที่ผ่านมาเขามักจะถูกคนรอบข้างติงว่าเย็นชาเสียจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่  แต่ไคดูเหมือนจะรู้ไปเสียทุกเรื่องที่อยู่ในใจเขา  แถมยังมีวิธีล่อลวงให้เขายอมพูดเรื่องราวเหล่านั้นออกมาเสียด้วย...ที่จริงมันก็ดีที่มีคนเข้าใจ  แต่บางทีเขาก็เกลียดคนรู้ทันแบบนี้ชะมัด

“มีอะไรกับน้องชายสุดที่รักอีกล่ะ?”  ไคลากเข้าประเด็น
“ไม่มี...ก็แค่...มะรืนนี้วันเกิดยูก็เท่านั้น”
ไคพยักหน้าหงึกหงัก  “แล้วไงอีก?”
“ก็ไม่อะไร...”  ปากบอกอย่างนั้นแต่สีหน้ายังคงมีแววกังวล
“ยังไม่ได้ซื้อของขวัญเหรอ?”
“ซื้อแล้ว”  ไอริบอกพลางล้วงมือลงไปควานในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งแบบที่ชอบใส่เป็นประจำ  “ซื้อไอ้นี่มา”

มือเรียววางแหวนเงินลงบนโต๊ะแล้วเลื่อนไปตรงหน้าไค  มันเป็นแหวนเงินลงยาดำแกะเป็นรูปเถาหนามพันรอบตัวเรือน  สำหรับคนที่ไม่รู้อะไรก็คงคิดแค่ว่ามันเป็นแหวนที่สวยดี  แต่สำหรับไค...เขาหยิบมันไปพิจารณาแล้วก็พูดออกมาเบา ๆ เหมือนจะรำพึงกับตัวเอง

“กะจะพันธนาการเอาไว้เลยสินะ”

ไอริไม่พูดอะไร  เขาเข้าใจความหมายที่ไคพูดดี...และเขาเองก็อยากจะทำอย่างที่ไคว่าเหมือนกัน  แต่...ทั้งที่ตั้งใจจะทำแบบนั้น  กลับไม่เคยทำได้สำเร็จ
“ไอริ...”  ไคพูดขึ้นด้วยเสียงหนัก ๆ  “ถ้าคิดถึงขนาดนั้นละก็...พูดออกไปเลยดีกว่านะ”
“เรื่องพรรค์นั้นน่ะนะ...จะบ้าหรือไง”
“ผิดเหรอ?”
“ไม่รู้...”
“ฉันจำได้ว่าบอกนายไปหลายครั้งแล้วนะว่ามันไม่ได้มีอะไรเสียหาย  ในเมื่อนายกับเด็กนั่นไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ กัน”  ไคเลื่อนแหวนคืนมาให้ไอริ
“พูดน่ะมันง่ายหรอก  ถ้าทำแล้วมันง่ายเหมือนที่พูด  ฉันทำไปนานแล้ว”  ไอริยกมือขึ้นเสยผมอย่างหัวเสีย
“ก็ทำเสียสิ”
“อย่ามาพูดบ้า ๆ นะ”  คราวนี้แหวเข้าให้...นาน ๆ ครั้งหรอกนะที่ไอริจะแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวถึงขนาดนี้
“เฮ่อ...บรรยากาศไม่ดีเลยนะ  อุตส่าห์เป็นวันหยุดแท้ ๆ”  ไคแสร้งมองออกไปนอกหน้าต่าง  “เปลี่ยนที่กันดีกว่า  ไม่งั้นก็คงได้นั่งถอนใจใส่กาแฟจนจืดกันไปข้างหละ”

พูดแล้วก็ยกกาแฟขึ้นดื่มจนหมดถ้วยแล้วเรียกพนักงานมาคิดเงินโดยไม่สนใจว่าไอริจะเห็นด้วยหรือไม่  เรียบร้อยแล้วก็คว้ามือไอริจูงออกจากร้านไปตามประสาคนทำอะไรตามใจตัวเอง

ไคพาไอริเดินแหวกหมู่คนไปตามทาง  วันนี้อุตส่าห์เป็นวันที่พวกเขาได้หยุด  แต่ไอริดันอารมณ์ไม่ดีเสียนี่  ร่างสูงรู้ว่าอากาศต้นฤดูร้อนทำให้คนหงุดหงิดง่าย  แต่จะว่าไปแล้วมันก็ไม่ได้ร้อนขนาดจะทำให้ไอริหงุดหงิดถึงขนาดนี้...สาเหตุก็มีอยู่แค่เรื่องนั้นเรื่องเดียวเท่านั้นแหละ

เรื่องของซึคาสะ  ยูยะ...น้องชายสุดที่รักของไอริ

ถูกละ...น้องชายสุดที่รัก...รักมากเสียจนเจ้าตัวไม่อยากเรียกว่าน้องเสียด้วยซ้ำ  แต่อะไรบางอย่างในหัวใจทำให้ไอริไม่สามารถก้าวข้ามกำแพงสุดท้ายนี้ไปได้

ในที่สุดไคก็พาไอริกลับมาที่ห้องพักของตน  เครื่องปรับอากาศทำให้บรรยากาศในห้องที่อวลไปด้วยกลิ่นบุหรี่ที่เจ้าของห้องสูบเป็นประจำเย็นฉ่ำ  แต่ไอเย็นนั้นไม่ได้เข้าไปถึงหัวใจของไอริเลย  ร่างเพรียวพลิกแหวนในมือตัวเองเล่นอย่างไร้ความหมาย  ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มเหม่อซึม  นาน ๆ ทีก็จะถอนใจเสียครั้งหนึ่ง  กระทั่งแก้วน้ำเย็นที่มีน้ำแข็งเต็มแก้วถูกวางลงตรงหน้า  ไอริจึงได้เหลือบตาขึ้นมอง

“จะไม่ไหวแล้วใช่มั้ย?  เรื่องยูยะน่ะ”  ร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าถาม
ไอริจ้องหน้าไคนิ่งอยู่เป็นครู่  ก่อนที่จะหลบตาโดยไม่ตอบอะไร  ชายหนุ่มจึงนั่งลงข้าง ๆ  มือแกร่งโอบไหล่บางรั้งร่างนั้นให้เอนมาหาตัว  ซึ่งไอริก็ไม่ได้ขัดขืน  เขาเอนกายพิงไหล่หนาแล้วพริ้มตาลงเบา ๆ
“ไอริ  ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าอยากทำอะไรก็ให้ทำลงไปเลย”  ไคเอ่ยด้วยเสียงต่ำ ๆ พลางลูบไล้เรือนผมสีดำยาวนิ่มมือเล่น
“และฉันก็บอกแล้วใช่มั้ยว่าทำไม่ได้”  น้ำเสียงเรียบเรื่อยสวนตอบทันที
“แล้วจะปล่อยเอาไว้อย่างนี้เหรอ?”
“ฉันปล่อยมันไว้แบบนี้หลายปีแล้ว”
“ไอริ...นายกับยูยะน่ะ  ยังไงก็คนละพ่อกันนะ  ไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ กันเสียหน่อย  ไม่มีอะไรเสียหายไม่ใช่หรือไง”  ริมฝีปากที่ครึ้มไปด้วยหนวดจูบลงเบา ๆ ที่เส้นผมดกหนา
“แต่ยังไงก็ได้ชื่อว่าเป็นพี่น้อง...แม่เดียวกัน”
“ก็คนละนามสกุลอยู่ดี”
“นี่นายจะหาเหตุให้ฉันให้ได้ใช่มั้ย  ไค?”
“ก็เพื่อตัวนายเอง”

มือใหญ่ช้อนปลายคางมนให้เงยหน้าขึ้นแล้วบรรจงจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากอิ่มนุ่ม  เคล้าคลอบดคลึงอย่างอ่อนหวานก่อนจะค่อย ๆ ผละออก

“ไม่ได้เหรอ...ไอริ...นายจะมีความสุขมากกว่านี้ไม่ได้เหรอ?”

ดวงตาที่มักจะฉายแววเย็นชาอยู่เสมอ  บัดนี้จ้องมองไคด้วยอารมณ์อันวูบไหว  แม้จะดูเป็นผู้ชายกระด้าง ๆ แต่คำพูดของไคมักจะอ่อนโยนและกระทบใจเขาเสมอ...ความสุขของเขางั้นเหรอ...เป็นความสุขที่ต้องแลกมาด้วยอะไรมากมายเหลือเกิน
“ยัง...ไม่ใช่ตอนนี้...ยูยะน่ะ...”
“จะ 15 หรือมากกว่านั้น...ก็เหมือนกันแหละ  ไอริ  ถ้านายจะทำละก็นะ”
“มันผิด...”
“มันไม่ผิด  ถ้านายรักเด็กนั่นจริง”

ไอริจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของคนรัก  ดวงตาสีเข้มมีแววจริงจัง...ไคไม่เคยบอกว่าสิ่งที่เขาคิดอยู่มันผิด  ไม่เคยบอกให้เลิกคิด  ไม่เคยห้ามปราม...ที่ไคบอกอยู่เสมอคือให้เขาทำอย่างที่ใจอยาก  เขาเองเสียอีกที่ไม่มีความกล้าพอจะก้าวข้ามเส้นกั้นเขตแดนแห่งศีลธรรมนี้ไป

“ไหน...ตอบมาซิ  รักยูยะจริง ๆ หรือเปล่า?”  คราวนี้มีรอยยิ้มระบายที่มุมปาก  ทั้งแววตาที่มองมาก็แสนจะอ่อนโยน
“รักสิ...รักมาตลอด...รักเสียจนอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้”  ไอริตอบด้วยเสียงแผ่วหวิว...เขาออกจากบ้านมาตั้งแต่อายุ 18  หลังจากจบมัธยมปลาย  เพราะรู้ตัวดีว่าถ้าขืนยังอยู่ที่บ้านต่อไป  สักวันเขาจะต้องทำอะไรร้ายแรงลงไปเป็นแน่
“พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและปกป้องยูยะตลอดไปไหม?”
“นี่นายเป็นบาทหลวงหรือไง?”
“ตอบมาเถอะน่า...”
“...อือ”
“แบบนั้นก็ดี...เลิกคิดมากได้แล้ว”  พูดจบ  ริมฝีปากอุ่นร้อนก็ประทับแนบลงมาที่เรียวปากอิ่มอีกครั้ง

ไอริไม่ปฏิเสธที่จะตอบรับจุมพิตนั้น  เขาพริ้มตาลงและตอบสนองจูบนั้นอย่างแสนหวาน  ไคเป็นแบบนี้เสมอ...ทั้งที่เขาแน่ใจว่าเขาคงไม่สามารถรักใครได้มากไปกว่าน้องชายตัวเอง  แต่เขาก็ชอบไค

...

ไอดะ  ริทสึกะออกจากบ้านมาตั้งแต่จบมัธยมปลายและปฏิเสธที่จะเรียนต่อ  เขาได้งานทำในกองบรรณาธิการของนิตยสารแห่งหนึ่ง  งานที่เด็กอายุเท่าเขาจะทำได้ก็แค่ช่วยงานเบ็ดเตล็ดทั่วไปและจัดการเอกสารอะไรทำนองนั้น  หรือไม่ก็ถ้าฝ่ายไหนขาดคนก็เข้าไปช่วยเสริมตรงนั้นให้  และครั้งหนึ่งที่ได้ไปช่วยงานฝ่ายถ่ายแบบ  เขาก็ได้พบกับไค...

ไคเป็นตากล้องมืออาชีพที่อายุน้อยที่สุดในบริษัท  แต่ด้านฝีมือแล้วไว้วางใจได้เลยทีเดียว  แต่คงเพราะดวงหน้าที่รกครึ้มไปด้วยหนวดเคราละมั้งที่ทำให้ไอริรู้สึกว่าไคน่าจะอายุประมาณ 30 ไปแล้ว

ตอนที่เจอกันครั้งแรก  ไคมองไอริตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพินิจพิจารณาเสียจนไอรินึกอยากจะซัดลูกตาดำ ๆ นั่นให้สักเปรี้ยง  แต่ก่อนที่จะได้ขยับตัวหรือขยับปากจะว่าอะไร  ไคก็พูดขึ้นมาก่อน
“นายแบบใหม่เหรอ?”
ไอรินิ่งอึ้ง...เขาเนี่ยนะ?
“เปล่า  ผมมาช่วยงานเฉย ๆ”  ตอบกลับไปแบบนั้นทั้งยังงง ๆ
“ช่วยงานอะไร?”  ไคถามต่อทั้งยังจ้องสำรวจไปตรงนั้นตรงนี้...เป็นสายตาที่น่ารำคาญใจจริง ๆ
“ก็...จัดฉาก  ยกไฟ”
“เสียของเนอะ”  ไคพูดแค่นั้นแล้วก็เดินจากไปยุ่งอยู่กับกล้องของตัวเอง  ทิ้งไอริให้ยืนเหวออยู่คนเดียว

ไอ้ที่ว่าเสียของนั่นมันหมายถึงเรื่องอะไรกันแน่  ไอรินึกสงสัยอยู่ในใจตลอดการทำงาน  แต่เมื่อเริ่มปฏิบัติงานจริง ๆ แล้ว  ก็ดูราวกับว่าอิมเมจของตากล้องปากคันนั่นจะเปลี่ยนไปเป็นหน้ามือหลังมือ...ไคดูเงียบขรึมและเอาจริงเอาจังกับการทำงานจนไอริอดนึกไม่ได้ว่านั่นเป็นคนเดียวกับที่พูดกับเขาเมื่อครู่หรือเปล่า  แต่ทั้งที่ดูเอาจริงแบบนั้น  บรรยากาศรอบกายของร่างสูงก็ไม่ได้ทำให้คนที่ทำงานด้วยตึงเครียดแม้แต่น้อย  คำสั่งกำกับท่าดูดุเข้มก็จริง  แต่เมื่อลั่นชัตเตอร์เสร็จก็มักจะยิ้มอย่างถูกใจอยู่เสมอ  กระทั่งการถ่ายแบบเสร็จสิ้น  ไอริก็ช่วยสต๊าฟคนอื่นจัดการเก็บกวาดสถานที่ให้เรียบร้อย  แต่ก็นึกแปลกใจว่าทำไมถึงยังมีเสียงชัตเตอร์ลั่นอยู่เป็นระยะ ๆ

“เฮ้ย  เด็กยกไฟผมยาว ๆ คนนั้นน่ะ  หันมานี่ซิ”  เสียงห้าว ๆ ดังขึ้นลั่นสตูดิโอ
กลุ่มคนที่จัดไฟอยู่มองหน้ากันเลิกลั่ก  และก็พบว่าคนที่ผมยาวก็มีแค่ไอริคนเดียวเท่านั้น  ไอริทำตาปริบ ๆ  เสียงนั้นก็เรียกซ้ำมาอีก
“เฮ้ย  อย่ามัวทำเล่นตัว  หันมานี่หน่อย”

...ใครวะ...ไอรินึกในใจแล้วหันกลับไปตามเสียงเรียก  เสียงชัตเตอร์ลั่นแชะ  แล้วไอริก็เห็นไคลดกล้องลงพร้อมกับยิ้มกว้าง

“สวย...”  ไคหยิบแผ่นภาพโพลาลอยด์มาโบกเล่นพลางเดินเข้ามาใกล้  “ดูอะไรนี่นะ”

ร่างสูงหยิบเอาภาพโพลาลอยด์หลายใบในกระเป๋าออกมายื่นให้ไอริดู...ภาพของเด็กยกไฟที่กำลังทำงานยุ่งอยู่  ถูกแอบถ่ายไว้โดยไม่ให้รู้ตัว  กระทั่งภาพสุดท้ายที่ถูกเรียกให้หันไปมองกล้อง

“สวยเนอะ”  ตากล้องหนุ่มยิ้มกว้าง

ไอริเบิกตากว้าง...บ้าอะไรของหมอนี่เนี่ย  แอบถ่ายรูปเขาไว้เนี่ยนะ...แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร  ร่างสูงก็เดินเกร่ไปรอบ ๆ สตูดิโอพร้อมกับเอาภาพของไอริไปอวดคนนั้นคนนี้  ไอ้ถูกชมมันก็ดีหรอก  แต่แบบนี้ไม่ชอบเลย...ไอริตรงรี่เข้าไปดึงเสื้อไค
“ขอรูปผม”
“หือ?”  ไคหันมาทำหน้าแปลกใจ
“เอารูปให้ผม...ทั้งหมดเลย”
“อะไร...ไม่ให้หรอก  จะเอาก็จ่ายค่าฟิล์มมา  แพงนะ  ไอ้แผ่นโพลาลอยด์เนี่ย  ให้ฟรี ๆ ได้ไง”  ภายใต้สีหน้าเหมือนจะพูดจริงจัง  ไอริเห็นรอยยิ้มซ่อนอยู่ในดวงตาคู่นั้น

ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น  นึกอยากชกหน้าหมอนี่ให้สักเปรี้ยงจริง ๆ...แต่ถ้าทำอะไรลงไปมีหวังตกงานแน่ ๆ

“น่า...จะเอารูปตัวเองไปทำอะไร  ให้ฉันเก็บไว้ดีกว่า  ฉันมีคอลเลคชั่นของคนในกองถ่ายเก็บไว้เต็มเลย  เห็นนายหน้าใหม่ก็เลยถ่ายไว้ไงล่ะ”  พูดแล้วร่างสูงก็ยิ้มกว้าง
“ไหนว่าแพง”
“หือ?  อะไรนะ?”
“ไหนว่าแผ่นโพลาลอยด์แพง  แล้วเอามาถ่ายเล่น  เงินบริษัทนะ”  ไอริว่าเข้าให้
“เอ้อ...”  โดนแบบนี้ก็แก้มุขไม่ออกเหมือนกันแฮะ
“ไม่ได้เรื่อง”  จบสั้น ๆ แล้วเด็กยกไฟโดยหน้าที่ก็หนีกลับไปทำงานต่อ  ปล่อยให้ไคยืนเกาหัวแกรก ๆ อยู่อย่างนั้น

แต่หลังจากนั้น  ไอริก็ต้องไปช่วยงานที่กองถ่ายบ่อย ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ  อะไรมันจะขาดคนได้ตลอดแบบนั้น  แต่ในเมื่อเป็นคำสั่ง  แม้จะไม่ชอบขี้หน้าตากล้องนิสัยประหลาดนั่นก็ตามก็ต้องไปตามหน้าที่อยู่ดี

“วันนี้มาเป็นนายแบบ?”  ไคถามทันทีที่เห็นหน้า
“มายกไฟ”  คำตอบสั้นห้วนแล้วก็ทำท่าจะเดินหนี
“เดี๋ยวซี่  จะรีบไปไหน  งานเขาเสร็จไปเยอะแล้ว  ไม่ต้องรีบขนาดนั้นหรอกน่า”  ตากล้องหนุ่มเรียกไว้
“แล้วจะให้อู้งานอย่างใครบางคนหรือไง?”  ดวงตากลมตวัดมามองอย่างเคือง ๆ
“ไม่ได้อู้นะ  แค่ยังไม่ถึงคิวฉัน”  ไคยักไหล่  “ว่าแต่...ไม่สนใจเป็นนายแบบบ้างเหรอ?”
“ไม่”  ไอริปฏิเสธสั้นห้วน  “ตอนนี้คิวผมทำงาน  ไม่ว่างคุยหรอกนะ”
“เฮ่อ...เสียของจริง ๆ”  ไคส่ายหัวดุกดิก
“เสียของที่ว่านั่น...ได้ยินหลายหนแล้วนะ  หมายความว่าไง?”  คนโดนว่าหันมาถาม
“ถึงคิวนายแล้ว  ไปทำงานไป๊  ว่างมาคุยด้วยเหรอ?”  ไล่กันเห็น ๆ แล้วก็เดินหนีไปดื้อ ๆ

...คนอะไรอย่างงี้วะ!!?

แต่พอไอริสงบจิตสงบใจทำงานไปได้สักพัก  ก็มีเสียงโวยวายลั่นมาจากด้านตากล้อง

"นี่นึกจะแคนเซิล  ก็แคนเซิลงั้นเรอะ  งานอั๊วะไม่ได้มีถ่ายแบบแค่เจ้าริวคนเดียวนะ  ไหนต้องไปถ่ายนอกสถานที่อีก  ถ้าไม่ได้ถ่ายวันนี้  งานก็ดีเลย์  ถูกเฉ่งกันฉิบหายหรอก"  ไคตะโกนใส่สต๊าฟกลุ่มหนึ่งอยู่ลั่น ๆ...ดูท่าจะมีปัญหาเรื่องนายแบบกระมัง

จากนั้นก็เป็นเสียงโวยวายล้งเล้งและเสียงขอโทษขอโพยดังสลับกันดูวุ่นวายไปหมด

ไอริได้แต่ยืนกอดเสาไฟไว้  ไอ้ประเภทที่นายแบบไม่มานะ  เขาก็เจอมาบ่อยเหมือนกัน  แต่ทำไมครั้งนี้ถึงโกลาหลกันไปหมดแบบนี้นะ
"คาโนะซัง  ทำไมวันนี้ถึงโวยวายกันน่าดูเลยล่ะครับ?"  ไอริกระซิบถามผู้ช่วยกองบรรณาธิการคนหนึ่งที่พอจะสนิทกัน
"เออ  ก็งานนี้นะต้องปิดเล่มมะรืนนี้"  คาโนะบอกทั้งใบหน้าซีดเผือด  "ถ้าไม่ถ่ายวันนี้  เผื่อซ่อมแก้พรุ่งนี้ก็ไม่ทันแล้ว  แถมไคยังต้องไปถ่ายงานต่ออีกหลายคิวด้วย"
“อ่า...แบบนี้ก็แย่เลยสิครับ”  ถึงจะพูดแบบนั้น  แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาที่เขาจะช่วยแก้อะไรได้อยู่ดี

ในขณะที่ยังไม่มีใครรู้ว่าควรจะทำยังไง  หัวหน้ากองบรรณาธิการก็กระหืดกระหอบมาถึงกองถ่าย  แล้วเรื่องก็ดูเหมือนจะยิ่งวุ่นวายมากขึ้น

แต่เมื่อทุกคนเริ่มเอะอะขึ้นมาพร้อม ๆ กัน  คนที่เริ่มโวยวายก่อนเป็นคนแรกกลับนิ่งเงียบไปอย่างใช้ความคิด  ไคกอดอกแล้วนิ่งคิดอยู่เป็นนาน...ในที่สุดก็ทะลุกลางปล้องขึ้นมาดัง ๆ

"...ถ้าหาคนที่โอเคมาแทนได้  ถึงแม้จะโนเนมก็ไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ  บอส?"
“หือ?  ก็...มันก็ได้หรอก  ยังไงงานนี้ก็ถ่ายเน้นเสื้อผ้าอยู่แล้ว  ไม่ได้เน้นนายแบบ”  หัวหน้ากองบรรณาธิการบอก
“ถ้างั้น...”  หางเสียงลากหายไปในลำคอ  แล้วดวงตาคมกริบก็ปรายมาทางไอริ  “หมอนั่นเป็นไง?”
“หา!?”  คนถูกพาดพิงร้อง

คนทั้งกองถ่ายหันขวับมามองไอริเป็นตาเดียว  ยิ่งหัวหน้ากองบรรณาธิการและฝ่ายแฟชั่นยิ่งแล้วใหญ่  พวกนั้นมองเขายังกับจะให้ทะลุไปถึงดีเอ็นเอกันเลยทีเดียว
“ใช้ได้นี่...ถ้าไคว่าโอเคก็ได้เลย”  หัวหน้าสรุปเอาดื้อ ๆ
“เดี๋ยว!  ผมยังไม่ได้ตกลงอะไรด้วยเลยนะ”  ไอริโวย
“ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว  ตกลงไปเลยแล้วกัน  ลงเรือลำเดียวกันแล้ว”  นอกจากจะไม่ฟังแล้วยังทึกทักเอาเองดื้อ ๆ  ไอริกำลังจะปฏิเสธอยู่แล้วเชียว  ถ้าไม่มีประโยคต่อไปตามมา  “นี่...ไอดะ ถ้าเธอช่วยครั้งนี้  ฉันจะให้ค่าตัวเท่านายแบบคนที่เบี้ยวเลย"

ไอริอ้าปากค้าง  สมองด้านขวาที่ว่าด้วยหลักวิทยาศาสตร์ทำงานอย่างรวดเร็ว...เงินหลักหมื่นที่ทำแค่วันเดียว  แถมเลขตัวหน้าก็คงไม่ต่ำกว่า 5 แน่ ๆ...นั่นมันเท่ากับเขาทำงานมาทั้งอาทิตย์เลยนะ...

แล้วจะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่าง...ไอริก็รับงานถ่ายแบบงานนั้น

...สวย...สวยอย่างที่คิดไว้เลย  ไม่สิ...ยิ่งกว่าที่คิดไว้อีก...ไคบอกกับตัวเองขณะมองผ่านเลนส์กล้อง  แม้จะไม่เคยงานและดูแข็ง ๆ ขืน ๆ อยู่บ้าง  แต่ไอริก็สามารถทำได้ดีมากสำหรับคนที่เพิ่งจะถ่ายแบบเป็นครั้งแรก

เรือนผมสีดำยาวและดวงหน้าหวานสวยนั้น  รับกับเสื้อผ้าสไตล์ยูนิเซ็กส์อย่างเหมาะเจาะ  และสีหน้ากับดวงตาคู่นั้นก็ให้บรรยากาศแปลกประหลาด  สวย...แต่ก็ดุดันจนน่ากลัว...ทว่าในความน่ากลัวนั้น  กลับมีอย่างสิ่งที่น่าค้นหา  และ...มีบางอย่างที่คนอื่นไม่อาจเห็น...แต่ไคมองเห็นได้ผ่านดวงตาที่จ้องตอบเลนส์กล้อง

...อะไรบางอย่างที่ไอริเก็บงำไว้ในส่วนลึกที่สุดของหัวใจ...
...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-09-2010 13:39:47 โดย wan_sugi »

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#1 by HAKURO 2/9/09
«ตอบ #2 เมื่อ02-09-2010 18:08:13 »

อยากอ่านต่อแล้วค่ะ
อยากอ่านต่อแล้วค่ะ
อยากอ่านต่อแล้วค่ะ


(หงิงๆ Y_Y)

ตัวละครที่หลักที่ออกมาแล้วทั้งไอทั้งไค อิมเมจในสมองน้อยๆของข้าพเจ้าให้ความรู้สึก"น่าหลงใหล"ทั้งคู่เลยค่ะ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#1 by HAKURO 2/9/09
«ตอบ #3 เมื่อ04-09-2010 13:24:51 »

มาต่อเร็วๆนะคะ

ไคนี่น่าค้นคว้ายิ่งกว่าไอริอีกน้า

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#1 by HAKURO 2/9/09
«ตอบ #4 เมื่อ04-09-2010 15:09:52 »

แล้วอะไรยังไง งงจังนะ รักน้องชายคนละแม่แต่ก็ชอบไค

ออฟไลน์ Shock_n2n

  • Deep cute...
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#1 by HAKURO 2/9/09
«ตอบ #5 เมื่อ04-09-2010 15:35:15 »

+1 กำลังใจ จร้า หนุก ดี
อิอิ
 :L2: :L2:

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#2 by HAKURO 5/9/10
«ตอบ #6 เมื่อ05-09-2010 13:53:22 »

มาต่อแล้วคะ  ขอบคุณสำหรับกำลังใจและการเข้ามาอ่าน

anajulia - ใช่เลยคะ อิมเมจทั้งคู่ดูดีไปคนละแบบ ^^
sukie_moo - หลงเสน่ห์ไคเข้าให้แล้วสินะคะ
iamnan - ดูสับสนและซับซ้อนสักเล็กน้อยเนอะ
Shock_n2n  - ขอบคุณคะ ดีใจที่อ่านแล้วสนุก
...

เรือนผมสีดำยาวและดวงหน้าหวานสวยนั้น  รับกับเสื้อผ้าสไตล์ยูนิเซ็กส์อย่างเหมาะเจาะ  และสีหน้ากับดวงตาคู่นั้นก็ให้บรรยากาศแปลกประหลาด  สวย...แต่ก็ดุดันจนน่ากลัว...ทว่าในความน่ากลัวนั้น  กลับมีอย่างสิ่งที่น่าค้นหา  และ...มีบางอย่างที่คนอื่นไม่อาจเห็น...แต่ไคมองเห็นได้ผ่านดวงตาที่จ้องตอบเลนส์กล้อง

...อะไรบางอย่างที่ไอริเก็บงำไว้ในส่วนลึกที่สุดของหัวใจ...

...

งานนั้นไม่ได้ทำให้ไอริดังเปรี้ยงปร้างทะลุฟ้าหรือเปลี่ยนชีวิตตามแบบฉบับนิยายน้ำเน่าอะไรแบบนั้น  แต่ทั้งที่ตั้งใจจะทำงานถ่ายแบบแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว  ก็ดูเหมือนว่านายแบบที่นัดไว้ถ่ายแบบจะขยันป่วยกันเสียเหลือเกิน  ไอริรับงานแทนนายแบบพวกนั้นจนบางทีก็นึกว่ามันเกิดโรคระบาดอะไรขึ้นในหมู่นายแบบหรือยังไงกัน...แต่ก็ดี  อย่างไรเสียก็ได้เงินมากขึ้น  ควบคู่กับที่ทำงานในกองบรรณาธิการไปด้วย  ทั้งเงินเดือนและเงินรายได้พิเศษจากการถ่ายแบบทำให้ไอริสามารถขยับขยายชีวิตตัวเองให้มีสภาพดีขึ้น  จากห้องพักเล็ก ๆ ที่ไม่มีทั้งครัวและห้องอาบน้ำ  ก็สามารถมาอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นต์ที่มีครัวและห้องอาบน้ำในตัวได้

และจากงานถ่ายแบบนี้  ก็ทำให้น้องชายสุดที่รักของเขารู้สึกปลาบปลื้มในตัวเขามากขึ้น

ดังนั้น...ไอริจึงไม่ได้เกลียดงานนายแบบนี้  เพียงแต่...การทำงานกับไคมันทำให้รู้สึกคันมือคันเท้าอยากออกแม่ไม้มวยไทยยังไงชอบกล
"ไค  คุณเป็นตากล้องไม่ต้องมาคอยเทคแคร์อะไรผมมากมายขนาดนี้ก็ได้นะ  บอกเฉย ๆ ก็พอ"  ไอริพูดขึ้นอย่างเหลืออด  เมื่อไคเข้ามาคอยป้วนเปี้ยน  แตะผม  แตะหน้าตอนที่ช่างแต่งหน้ากำลังแต่งตัวให้เขาอยู่ตลอดเวลา  ยิ่งตอนถ่ายแบบยิ่งแล้วใหญ่  มือไม้เหมือนหนวดปลาหมึกไม่ผิด
"ก็ฉันอยากให้งานออกมาดี  แล้วนายก็เป็นเด็กใหม่  เลยต้องช่วยๆ กันดูแลไง"  ไคพูดแล้วก็เสยปอยผมที่ลงมาระอยู่บนใบหน้าขึ้นให้
...ทีนายแบบคนอื่นไม่เห็นจะยุ่งแบบนี้เลยฟะ...ไอรินึกค่อนอยู่ในใจ  เขายอมรับละว่าภาพที่ไคถ่ายนั้นออกมาสวยจริง ๆ  แต่ไอ้วิธีการพูดจากวน ๆ  แถมท่าทางส่อแววแบบนั้น  มันน่าอัดใช่ย่อยเสียเมื่อไร  แถมหลังเลิกงาน  ไคมักจะชอบชวนทุกคนไปดื่ม  แล้วก็หาเรื่องเลี้ยงเขาตลอด  โดยการอ้างเหตุว่าเขาเด็กที่สุด  นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เขารู้สึกไม่ดี

และวันนี้ไคก็ชวนเขาไปดื่มอีกแล้ว  ไอริก็คร้านที่จะปฏิเสธไป  เพราะถึงอย่างไรก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี  ไคจะต้องหาเรื่องลากเขาไปด้วยจนได้ทุกครั้งนั้นแหละ
"ฉันเจอร้านดี ๆ อยู่ที่นึง  วันนี้ไปดื่มกันดีกว่า"  ไคบอกกับไอริในตอนที่นายแบบจำเป็นกำลังล้างเครื่องสำอางบนใบหน้าออก
"ก็ได้ครับ  แต่ห้ามเลี้ยงผมอีกนะ"
"ขนหน้าแข็งชั้นไม่ร่วงหรอก  เลี้ยงเด็กคออ่อนๆ แบบนายน่ะ"  ไคว่าแล้วก็เดินหัวเราะลั่นสตูดิโอจากไป
...ใครก็ได้  ช่วยเอาหมาออกจากปากหมอนี่ทีเถอะ  ไม่งั้นเขาต้องได้ตะบันหน้าหมอนี่เข้าสักวันแน่ ๆ...


ผ่านไปค่อนคืนแล้ว  เหล้าตรงหน้าก็หมดไปหลายแก้ว  แต่ดูเหมือนว่าไคจะยังไม่มีอาการมึนเมาแม้แต่นิดทั้งที่ดื่มเหล้าเพียว ๆ แบบออน  เดอะ  ร็อกมาตลอดแท้ ๆ  ไอริที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เสียอีกที่โดนออน  เดอะ  ร็อกเข้าไปแก้วเดียวก็ถึงกับยกหัวไม่ขึ้น  ได้แต่นั่งฟุบมองไคละเลียดเหล้าในมืออยู่อย่างนั้นมาร่วมชั่วโมงแล้ว
“คุณไม่เมาบ้างเหรอ  ไค?”  ในที่สุดไอริก็ถามขึ้นเบา ๆ เมื่อไคสั่งเหล้ากับบาร์เทนเดอร์เพิ่มอีกแก้ว
“ก็ไม่นี่  นี่ขนาดปกติของฉัน”  ไคบอกพลางยกแก้วขึ้นเขย่าเบา ๆ ให้น้ำแข็งก้อนกลมในแก้วละลายบาง ๆ เพิ่มความเย็นให้น้ำสีอำพันโดยรอบก่อนจะจิบน้อย ๆ  “นายนั่นแหละ  ปกติก็ดื่มแต่เบียร์ตลอดไม่ใช่หรือไง  วันนี้นึกยังไงอยากลองออน  เดอะ  ร็อกขึ้นมา?”
“...เพราะคุณนั่นแหละ”  ไอริงึมงำเบา ๆ ให้อีกฝ่ายไม่ได้ยิน...ที่เขาดื่มออน  เดอะ  ร็อกทั้งที่แทบจะไม่เคยได้ดื่มอะไรนอกจากเบียร์หรือพวกคอกเทลเลยก็เพราะคำพูดของไคที่ว่าเขาคออ่อนนั่นแหละ  นึกแล้วก็เจ็บใจ...ถือว่าอายุมากกว่าจะมาพูดอะไรก็ได้งั้นเหรอ  ให้มันรู้เสียบ้าง  อะไรที่ไคทำได้เขาก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ...คิดแบบนั้นแล้วก็วางมือจากเบียร์หันไปสั่งเหล้าชนิดเดียวกับที่ไคดื่มเป็นประจำ  ลืมตัวไปแล้วว่าที่จริงตัวเองอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะดื่มเหล้าหรือเบียร์ได้ด้วยซ้ำ  ที่มาดื่มกับทุกคนได้ก็เพราะไคซึ่งคุ้นเคยกับเจ้าของร้านดีเป็นคนพูดให้ต่างหาก...และโดนเข้าไปแก้วเดียวก็จอด  ไม่ถึงกับเมาเสียสติอะไร  แต่ยกหัวขึ้นไม่ไหวกันเลยทีเดียว
“...ขี้โกง”
“หา?  อะไรนะ?”  คราวนี้ดันหูดีได้ยินเข้าเสียอีก
“บอกว่าคุณขี้โกง  ทำไมดื่มตั้งเยอะแล้วไม่เมา”
“เพราะฉันไม่ใช่เด็กคออ่อนอย่างนายไง”  คำตอบมาพร้อมกับรอยยิ้มยียวนที่ไอริไม่เคยชอบ
...ไม่น่าถามให้หมอนี่แขวะเอาได้เลย...ไอริทำหน้ายุ่งแล้วหลับตาลง  อีกเดี๋ยวคงจะรู้สึกดีพอจะกลับบ้านได้ละนะ

เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้  กระทั่งมือใหญ่ ๆ มาเขย่าปลุก  เด็กหนุ่มถึงได้ลืมตาขึ้น
“เขากลับกันหมดแล้ว  เราก็กลับกันเถอะ”  ไคนั่นเองที่เป็นคนปลุก
“เอ๊ะ  กลับหมดแล้วเหรอ?”  ไอริยันตัวขึ้นจากเคาน์เตอร์ก่อนจะฟุบลงไปอีก  ในหัวหมุนติ้วยังกับขึ้นเครื่องเล่นที่สวนสนุกมาสักยี่สิบรอบอย่างนั้นแหละ
“ไม่ไหวสินะ  เฮ่อ...เด็กก็แบบนี้นะน้า...”  ไคบ่นกับตัวเอง  แต่คนได้ยินเม้มริมฝีปากแน่น...คำก็เด็ก  สองคำก็เด็ก...ไอ้ผู้ใหญ่บ้า  หน้าแก่เกินวัย...  “เอ้า  มานี่”
โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง  มือแกร่งก็สอดเข้าใต้วงแขนของเด็กหนุ่มแล้วช้อนตัวให้ลุกขึ้นยืน  จับแขนเรียวพาดไหล่ของเขาแล้วโอบประคองไว้อย่างนั้น
“อ่ะ...ทำอะไร...?”  ไอริจ้องหน้าไคด้วยความตกใจ
“ถ้าแบบนี้ก็พอจะเดินไหวใช่มั้ย?  ไม่เป็นไร  พิงมาเถอะ  กลับให้ถึงบ้านก่อนแล้วกัน”
ไอริได้แต่ซบหัวลงกับไหล่หนาและปล่อยให้ไคพาเดินออกจากร้านมา  ทั้งรู้สึกดีและรู้สึกแย่ไปพร้อม ๆ กัน  บนแท็กซี่  เด็กหนุ่มก็ได้แต่นั่งพิงร่างสูงอยู่อย่างนั้นไปตลอดทาง  เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไคพาไปไหน...แต่ก็คงไม่ใช่บ้านของเขาหละ  ก็ไคไม่รู้จักบ้านของเขานี่นา

แน่นอนว่าเป็นแบบนั้น  ไคพาไอริกลับไปที่แมนชั่นของตัวเอง  ห้องของไคเป็นห้องชุดที่ไม่กว้างมากนักและเรียบง่ายจนน่าแปลกใจ  แต่ก็รกสมเป็นห้องหนุ่มโสด
“ยืนไหวมั้ย?  ไปล้างหน้าล้างตาหน่อยไป  จะได้รู้สึกดีขึ้น”  ตากล้องหนุ่มบอกกับคนในอ้อมแขน  “หรืออยากแหวะบ้างไหม  ถ้าแบบนั้นก็เข้าห้องน้ำ”
“ไม่...แค่มึน”  ไอริบอกก่อนจะค่อย ๆ ผละจากไคแล้วเดินเซแถ่ด ๆ ไปที่ห้องน้ำ

เมื่อกลับออกมาก็พบว่าไคได้ต้มน้ำชงชาเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว  ไม่น่าเชื่อ...คนอย่างหมอนี่ชงชาเป็นด้วย
“ชาร้อน ๆ ช่วยให้หายเมาเร็วนะ  เอ้า  ดื่มซะ  คืนนี้นอนมันที่นี่แหละ  เดี๋ยวเอาเสื้อให้เปลี่ยน”  โดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับหรือปฏิเสธ  ไคก็เข้าไปค้นเสื้อผ้าในห้องนอนออกมาให้

เอาเถอะ...จะยังไงก็ช่าง  ใช่ว่าจะไม่เคยไปค้างบ้านคนอื่นเสียเมื่อไร...ไอริบอกกับตัวเอง  พลางยกชาขึ้นจิบ...อืม...ชาร้อน ๆ นี่ทำให้รู้สึกดีขึ้นจริง ๆ ด้วย...ไคเองก็ดื่มชาของตัวเองจนหมดแล้วก็ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า...ดื่มมาขนาดนี้ยังอาบน้ำ  ถ้าเป็นเขาละก็  นอนมันทั้งอย่างนี้แหละ...ไอริคิด

คืนนั้น...บนเตียงของไค  ไอรินอนพลิกตัวกระสับกระส่ายไปมา  ไม่สบายตัวเพราะเหล้าก็ส่วนหนึ่ง  อีกส่วนหนึ่งก็คงเพราะเสื้อผ้าของไคที่เจ้าของให้ยืมมา  พอถูกโอบล้อมด้วยกลิ่นอายของผู้ชายที่นึกอยากตะบันหน้ากันวันละหลาย ๆ รอบแบบนี้แล้ว  มันสงบใจได้ยากยังไงบอกไม่ถูก...และอีกส่วนหนึ่งซึ่งเด็กหนุ่มรู้สึกได้จากส่วนลึกในหัวใจก็คือ...เขาไม่ได้นอนใกล้ชิดกับใครแบบนี้นานแล้ว  ตั้งแต่ออกจากบ้านมา  แม้จะไปค้างบ้านเพื่อนบ้าง  ก็มักจะนอนที่พื้น  แต่วันนี้ไคบอกให้นอนเสียด้วยกันเพราะไคไม่มีเครื่องนอนสำรอง  เวลาใครมานอนที่บ้านก็นอนบนเตียงเดียวกันแบบนี้ทุกครั้ง...การมีไออุ่นของใครบางคนแนบชิดอยู่ข้างกายแบบนี้  มันทำให้ไอริคิดไปถึงใครอีกคนที่มักจะนอนอยู่ใกล้ ๆ เขาแบบนี้

ยูยะ...น้องชายสุดที่รักของเขา

“นอนไม่หลับเหรอ?”  เสียงห้าวดังขึ้นเบา ๆ ทางด้านหลัง  ทำเอาไอริสะดุ้ง  เขาคิดว่าไคหลับไปแล้วเสียอีก
เด็กหนุ่มไม่ได้ตอบ  หากคนถามค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้นแล้วเอื้อมมือมาเกลี่ยเส้นผมที่ปรกระใบหน้าของเขาออกให้อย่างเบามือ
“ฉันทำให้ไม่สบายใจหรือเปล่า  ที่ทึกทักให้นายค้างที่นี่แบบนี้”
“...เปล่า  ผมแค่ไม่คุ้นกับการนอนกับคนอื่น”  ไอริตอบโดยไม่หันไปมอง
“งั้นฉันไปนอนที่พื้นก็ได้นะ”
“ไม่ต้องหรอก  คุณนอนไปเถอะ  เดี๋ยวผมก็หลับ”  ใช่...ปกติเขาเป็นคนหลับง่ายอยู่แล้ว  เดี๋ยวอีกสักพักก็คงหลับได้เองแหละ
หากร่างสูงไม่ได้กลับลงนอน  เขายังคงลูบไล้เรือนผมหนานุ่มมือเล่นอยู่อย่างนั้น
“มีอะไรในใจหรือเปล่า  ไอดะ?”  นั่นเป็นนาน ๆ ครั้งที่ไคจะเรียกชื่อของอีกฝ่าย
“ทำไมถามแบบนั้น?”
“ฉันเห็น...จากดวงตาของนายที่มองตอบกล้องมา”  ไคเอ่ยเบา ๆ  “อะไรบางอย่างที่นายไม่อยากให้คนอื่นรู้  อะไรบางอย่างที่นายเก็บไว้ในใจคนเดียว...มาตลอด”
ไอรินิ่งอยู่ชั่วครู่  “...คุณไม่ต้องรู้หรอก”
“ไม่อึดอัดเหรอ?”
“ถึงจะอึดอัด  แต่ไม่จำเป็นจะต้องบอกคุณไม่ใช่หรือไง”  คราวนี้เด็กหนุ่มหันมาจ้องตาร่างสูงที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงช่วงแขน  ดวงตากลมโตเป็นประกายวาววับราวกับจะเตือนว่าจะเดือดร้อนแน่หากเข้ามาก้าวก่ายมากกว่านี้
“...นายอยากบอกใครสักคน  ไอริ...อยากบอกใครสักคนมาตลอด  อะไรบางอย่างที่นายซ่อนเอาไว้  อะไรบางอย่างที่นายรู้สึกผิด”
มือเรียวคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายแล้วกระชาก  “หุบปากนะ!!”
ริมฝีปากอิ่มใต้หนวดครึ้มกระตุกยิ้มน้อย ๆ  “ฉันแทงใจดำเข้าสินะ  ถึงได้ร้อนรนถึงขนาดนี้”
“ไค  คุณ...!!”

ยังไม่ทันได้พูดอะไรมากกว่านั้น  ริมฝีปากอุ่นก็ฉกวูบลงมาประกบปิดเรียวปากอิ่ม  บังคับให้เก็บกลืนทุกถ้อยคำที่คิดจะพูดกลับไปในลำคอ
ไอริดิ้นขลุกขลักอยู่ใต้ร่างของไค  ถูกขโมยจูบแบบไม่ให้ตั้งตัวแบบนี้ทำให้ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก  แต่ก็มีสติพอที่จะต่อต้าน  หากเรี่ยวแรงที่พยายามผลักไสไปดูเหมือนจะไม่มีผลอะไรกับไคเลย
แต่จูบนั้นก็ไม่ได้ล่วงล้ำเข้ามาและไม่ได้เคล้าคลออยู่นานนัก  ผู้ร้ายขโมยจูบก็ค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออก  และยกมือขึ้นรับกำปั้นลุ่น ๆ ที่เจ้าตัวกะเอาไว้แล้วว่ามันจะต้องตามมา

“ไอ้หมาบ้า!!  กล้าดียังไงทำอย่างนี้วะ!!”  ไอริตะโกนใส่หน้าพลางพยายามดึงมือออกจากการจับกุมไว้
“แค่จูบน่า  อย่าบอกนะว่าไม่เคย”  ไคแค่ยิ้มกวน ๆ ตามนิสัย
“ไอ้...”  อีกมือที่ว่างอยู่ปล่อยหมัดออกไปหมายจะให้ซัดไอ้รอยยิ้มกวนอารมณ์นั่นให้ยิ้มไม่ออกเข้าเสียทีหนึ่ง  แต่ไคก็คว้ามือเขาเอาไว้ได้อีก
“ใจเย็น ๆ น่า  ไอริ  ฉันแค่ทำให้นายเลิกด่าฉันเท่านั้นเอง”  พูดแล้วก็แนบริมฝีปากลงมาอีกก่อนที่ไอริจะได้โวยวายอะไรต่อ
“อื๊อ...”  เด็กหนุ่มได้แต่ส่งเสียงทักท้วงอยู่ในลำคอ  หากจูบของไคไม่เร้าหรืออยู่นาน  ชายหนุ่มค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างนุ่มนวล
“จะเลิกโวยวายได้หรือยัง  เจ้าเด็กดื้อ”
“อย่าให้ผมหลุดไปได้นะ  ผมเล่นคุณแน่”  ไม่เพียงแต่คำพูด  หากดวงตาที่จ้องมาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อบอกชัดว่าคนพูดเอาจริง...เป็นดวงตาที่ทำให้สะท้านวาบเอาได้ง่าย ๆ  หากไคยังคงยิ้ม...นี่แหละ  ความดุดันที่เขาได้เห็นมาตลอดนับตั้งแต่การถ่ายแบบครั้งแรก
“ไอริ...”  ตากล้องหนุ่มแนบริมฝีปากร้อนเข้าที่หน้าผากมนสวย  “จะไม่ลองพูดออกมาดูเหรอ  เผื่อว่ามันจะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอย่างที่นายคิด”
ไอริเม้มปากแน่น  ผู้ชายคนนี้พูดอะไร...กำลังจะหลอกล่อให้เขาพูดอะไร...ความลับที่เขาเก็บงำเอาไว้ในใจมาตลอด  จะให้เขาพูดออกไปงั้นเหรอ  คิดว่าตัวเองเป็นใคร...
“ผมไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ  แล้วก็ปล่อยได้แล้ว  ผมจะนอนเสียที”
“แล้วก็จะนอนไม่หลับ  เพราะคิดถึงใครบางคน...แล้วก็รู้สึกผิดที่คิดถึงเขาอีก...ใช่ไหม?”

...เกลียด...เกลียดหมอนี่...เกลียดหมอนี่ที่สุด...ไอริร้องอยู่ในใจ  ทำไมไคถึงได้รู้ไปหมดนะว่าเขาคิดอะไรอยู่  เขาไม่เคยพูด  เขาไม่เคยทำตัวสนิทสนมกับหมอนี่  ก็แค่ร่วมงานกัน  เป็นตากล้องกับนายแบบ  เป็นตากล้องกับเด็กยกไฟ  เคยดื่มด้วยกันไม่เท่าไร  ไม่ได้สนิทสนมขนาดจะเรียกว่าเพื่อนร่วมงานด้วยซ้ำ...แล้วมันเรื่องอะไร  ทำไมไคถึงได้รู้เรื่องที่เขาเก็บงำเอาไว้ในใจมาตลอดได้  รู้ได้ยังไงว่าเขารู้สึกผิดกับอะไรบางอย่างในใจ  รู้ได้ยังไง...

อย่า...อย่าล่วงล้ำเข้ามาในหัวใจเขามากกว่านี้  อย่ามาขุดคุ้ยสิ่งที่เขาพยายามลืมมาตลอดได้ไหม...อย่ามาทำให้เขารู้สึกทรมานมากไปกว่านี้เลย

“ถ้าจะพูดอะไรมากกว่านี้...ก็ให้ผมกลับบ้านเถอะ”  ไอริไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าแบบไหน  แต่คนที่คร่อมอยู่เหนือร่างของเขาถึงกับสลดวูบ
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ  ไอดะ  ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้นายรู้สึกไม่ดีขนาดนี้นะ”
“คุณ...ทำไปแล้ว”  ไอริว่าพลางดึงมือออกจากการเกาะกุม  ซึ่งคราวนี้หลุดมาได้ง่าย ๆ เพราะอีกฝ่ายยอมปล่อยโดยดี
“ขอโทษ...”
ขอโทษงั้นเหรอ...ไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากปากของผู้ชายคนนี้  ผู้ชายที่หาเรื่องแขวะกัดเขาได้ตลอดเวลาคนนี้...ขอโทษเขางั้นหรือ...
“อย่าร้องไห้นะ”

ร้องไห้อะไร...เขาไม่ได้ร้องไห้...ไคพูดบ้าอะไร...

หากร่างสูงแนบริมฝีปากลงมาจูบซับหยาดน้ำที่ปลายหางตาให้อย่างแผ่วเบา  แล้วค่อย ๆ ขยับพรมจูบไปทั่วใบหน้า...แผ่วผิว...อ่อนโยน...และอ่อนหวาน...เป็นสัมผัสที่ไอริไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผู้ชายอย่างไคจะทำได้  แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร  ไอริกลับไม่ได้ต่อต้าน  หากหลับตาลงรับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ


เด็กหนุ่มรู้อยู่เต็มอกว่าถ้าหากไม่หยุดเสียตอนนี้  ทุกอย่างจะต้องเลยเถิดแน่นอน...แต่เขาก็ไม่ได้ห้ามไค  เขาปล่อยให้ไคทำตามใจชอบทุกอย่าง  เรียวปากรุมร้อนที่แนบจุมพิตลงมาครั้งแล้วครั้งเล่ากระตุ้นให้ห้วงอารมณ์ลี้ลับบางอย่างโหมกระพือ  ไอริไม่ได้ไร้เดียงสาเสียจนไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้  แต่เพราะรู้...ถึงได้ยอมให้ไคพาเขาไปสู่จุดนั้น  ก็ในเมื่อไคเป็นคนทำให้เขารู้สึกแย่ถึงขนาดนี้แล้ว  ก็ควรจะเป็นคนทำให้เขารู้สึกดีถึงที่สุดไม่ใช่หรือ

ไอริปล่อยหัวใจและความรู้สึกให้เพริดไปกับห้วงแห่งความปรารถนา  บิดกายเร่าเมื่อถูกโพรงปากอุ่นร้อนเข้าครอบครองส่วนที่อ่อนไหวที่สุด  มือเรียวขยุ้มเรือนผมสีดำยาวของไคแล้วกดเข้าหาตัวอย่างเรียกร้อง  จนในที่สุดก็พรั่งพรูทุกความต้องการออกมา
“หวาน...”  ไคพึมพำขึ้นเบา ๆ หลังจากเก็บกลืนทุกหยาดหยดของเด็กหนุ่มเข้าไป
“...อย่ามาโกหก  ไอ้ของพรรค์นั้น...มันจะหวานได้ยังไง”
“เคยชิม?”
“แหงอยู่แล้ว...ไม่งั้นจะยอมให้คุณทำแบบนี้เหรอ”
ไคทอดสายตามองร่างที่นอนระทดระทวยด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการปลดเปลื้องอารมณ์ไปเมื่อครู่แล้วยิ้มบาง ๆ...เจ้าเด็กนี่ดื้อจริง ๆ  ทั้งที่เมื่อกี้ครางเสียหวานขนาดนั้น  พอเสร็จเรียบร้อยก็ปากดีได้อีกแล้ว
“มีแฟนแล้ว?”  ไม่ถามเปล่า  หากยังก้มลงไปจูบระไปตามดวงหน้าหวาน
“ก็ไม่เรียกว่าแฟน  แค่นอนด้วยกัน”
“นอนกับคนอื่นมากี่คนแล้ว?”  ริมฝีปากซุกซนไล้ลงมาถึงอกบางที่แอ่นขึ้นรับสัมผัสของเขาทันที
“จะกี่คน...ก็ไม่ใช่ธุระของคุณนี่นา”
“อยากรู้...”  ก็ในเมื่อการตอบสนองดีถึงขนาดนี้  คงไม่ใช่แค่คนสองคนละมั้ง  “แล้วก็อยากรู้ด้วยว่า...เคยโดนทำมากกว่านี้หรือเปล่า”
ยังไม่ทันที่ไอริจะได้ตอบอะไร  ปลายนิ้วสากกร้านก็แตะลงกับช่องทางเร้นลับแล้วขยี้คลึงเบา ๆ
“ฮึก...อ่ะ...”  เด็กหนุ่มผวาเกร็งขึ้นทั้งตัว
“ว่าไง  เคยมั้ย?”
“...เคย...”  ไอริตอบพลางหลบตา
“จริง?”
“นี่...ถ้าจะทำ  ก็ไม่ต้องถามมากได้มั้ย”  ดวงตาที่หรุบหลบด้วยความเขินอายเมื่อกี้กลับมาจ้องเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออีกครั้ง
“ครับ ๆ...ไม่ถามแล้ว”  พูดแล้วก็ผละไปเปิดลิ้นชักของชั้นข้างหัวเตียง  ควานหาอะไรกุกกักอยู่แป๊บหนึ่งก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างออกมาได้  “ว้า...มีแค่ไอ้นี่นะ  ได้มั้ย?”
ไอริจ้องซองคอนด้อมในมือไคอย่างงุนงงนิดหน่อย  “แล้ว...ยังไง?”
“ไม่มีเจลช่วย  ไม่เป็นไรนะ?”
“...คงงั้น”  ไหน ๆ ก็จะทำอยู่แล้ว  จะถามทำไมก็ไม่รู้
“หึ...เจ็บก็...ร้องดัง ๆ แล้วกัน”  พูดจบก็ชิงจูบเข้าที่ริมฝีปากอิ่มเสียก่อนที่ไอริจะได้โวยวายอะไรเกี่ยวกับคำพูดของเขาอีก

และหลังจากนั้น  ไคก็ไม่เปิดโอกาสให้เด็กหนุ่มได้พูดอะไรอีกนอกจากส่งเสียงครางเครือด้วยความหวามหวิวในอารมณ์  ไอริตอบสนองทุกสัมผัสที่ไคมอบให้อย่างเร่าร้อน  ไม่ว่าจะด้วยมือหรือริมฝีปาก  หากเป็นจุดที่พึงพอใจแล้วละก็  ไอริจะขยับเข้าหาอย่างเรียกร้องอย่างคนที่คุ้นเคยในเชิงกาม

เจลหล่อลื่นน้อยนิดในซองคอนด้อมถูกนำมาใช้ช่วยขยับขยายช่องทางเร้นลับที่หุบแน่นราวกับดอกตูม...แล้วแบบนี้จะให้เชื่อได้ยังไงว่าเคยผ่านมือใครมาแล้ว  ถึงการตอบสนองทางกายอื่นใดจะบอกชัดว่าเคยผ่านเรื่องแบบนี้มามาก  ก็ใช่ว่าจะเคยถูกล่วงล้ำมาไม่ใช่หรือไง...แต่ในเมื่อฝ่ายที่ถูกกระทำไม่ได้ห้าม  ไคก็ไม่คิดจะหยุด

ในตอนที่ร่างอันแข็งขืนแทรกกายเข้ามา  ไอริก็กรีดเสียงด้วยความเจ็บปวด  เรียวเล็บจิกลงกับแผ่นหลังที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อได้รูปเพื่อระบายความรวดร้าว  สิ่งที่รุกล้ำเข้ามารุมร้อนและคับแน่นจนแทบหายใจไม่ออก  อีกฝ่ายคงรู้ดีถึงความทรมานของเขา  จึงค่อยประโลมจูบไปทั่วเพื่อช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดให้  แล้วความเครียดขึงทั้งมวลก็หายไปอย่างน่าอัศจรรย์เมื่อร่างนั่นล่วงล้ำเข้ามาจนสุดทาง  หากที่ตามมาคือความร้อนแรงที่แทบจะเผาผลาญเด็กหนุ่มให้กลายเป็นจุล

เซ็กส์ของไคเร่าร้อนและดุดัน  ทุกลีลาการเคลื่อนไหวกระชากอารมณ์ของไอริให้กระเจิดกระเจิง  แต่แม้จะหนักหน่วงถึงขนาดนั้น  ก็ไม่ได้รุนแรงจนทำให้เจ็บปวดแต่อย่างใด  หนำซ้ำยังทำให้ผู้ที่ถูกครอบครองพึงพอใจอย่างประหลาด
“เจ็บหรือเปล่า?”  เสียงห้าวต่ำถามมาปนหอบกระเส่า  พลางดึงจังหวะให้เนิบช้าลง
“...ไม่...ไม่เป็นไร  ต่อสิ...”
“ชอบแบบนี้เหรอ?”
ไอริไม่ตอบหากโอบรั้งลำคอของร่างสูงลงมาแตะจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปาก  ไคคลี่ยิ้มบาง ๆ...เจ้าเด็กปากแข็ง  แต่ก็น่ารัก...
“เคยทำเรื่องแบบนี้มาแล้ว...ไม่น่าจะมีอะไรให้รู้สึกผิดได้เลยนะ”  พูดพลางก็ขยับสะโพกเข้าออกช้า ๆ แต่หนักหน่วง
“อึ่ก...มะ...มันไม่เหมือนกัน...”
“ก็ที่ทำอยู่นี่มันก็ผิดไม่ใช่หรือไง”  ...ถ้าในแง่ศีลธรรมละก็นะ...
“ไม่...เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว”  ไอริแหวเอาอย่างขัดใจ
“หึ ๆ...ไม่พูดก็ได้  แต่ช่วยส่งเสียงเพราะ ๆ ให้ฟังอีกหน่อยได้มั้ย”

ขาดคำก็โถมกายเข้าหาชนิดไม่ให้ตั้งตัว  ประเคนความเร่าร้อนราวกับเพลิงลาวาเข้าหาร่างเพรียวอย่างหนักหน่วง  ไอริดิ้นทุรนอยู่ใต้ร่างสูง  ได้แต่ส่งเสียงครวญครางไม่ขาดปาก  ในหัวถูกย้อมเป็นสีขาวโพลนด้วยไฟราคะที่โหมกระพือราวกับไม่มีวันมอดดับ  สองขาเกี่ยวกวัดสะโพกหนาเปิดทางรับเอาทั้งหมดของไคเข้าสู่ร่างของตนอย่างเต็มที่  เรียวแขนทั้งสองโอบกอดร่างสูงไว้แน่น  กดเล็บจิกกรีดแผ่นหลังกว้างเป็นระยะเพื่อบรรเทาความกระสันเสียวที่ทวีขึ้นทุกขณะ
แล้วปลายทางแห่งห้วงอารมณ์ก็เดินทางมาถึง  ในชั่วขณะที่ความตึงเครียดพุ่งถึงขีดสุด  ไอริรู้สึกได้ถึงริมฝีปากอุ่นร้อนที่แนบจุมพิตลงบนริมฝีปากของเขา  อ้อมแขนแกร่งที่โอบรัดร่างของเขาเข้าหาตัวราวกับจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน  ก่อนที่โลกทั้งโลกจะดับวูบลง...


มารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อผ้าขนหนูชุบน้ำเย็น ๆ แตะซับลงบนใบหน้า  พอลืมตาขึ้นก็เห็นไคนั่งอยู่ข้างเตียงและค่อย ๆ เช็ดตัวให้เขาอย่างอ่อนโยน
ผู้ชายที่หยาบกระด้างและปากเสียคนนั้น...อ่อนโยนได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ...
บางที...ถ้าเป็นผู้ชายคนนี้...เขาอาจจะพูดออกไปได้ก็ได้
“ไค...”
“อ้าว  รู้สึกตัวแล้วเหรอ?  อยู่ ๆ ก็วูบไป  ตกใจหมด”
“...คุณบอกว่ามันไม่ผิดใช่มั้ย?”
“หือ?  เรื่องอะไร?”
“เซ็กส์...กับผู้ชายด้วยกัน”
“หึ ๆ ๆ...ไม่ผิดหรอก  นายก็มีความสุขไม่ใช่เหรอ?”  ถ้าบอกว่าผิด...เขาก็ผิดด้วยสินะ
“...แล้วถ้า...อีกฝ่าย...”  ดวงตาสีเข้มไหววูบอย่างลังเล...จะพูดออกไปได้ไหมนะ...ถ้าพูดออกไป...ทุกอย่างที่เขาอุตส่าห์เก็บงำเอาไว้...ตัวตนของเขาจะถูกทำลายหรือเปล่า

ไครู้สึกได้ถึงความหวั่นไหวนั้น...และนั่นก็เป็นสิ่งที่เขาสัมผัสได้มาตลอด  เด็กคนนี้มีอะไรบางอย่างที่อยากบอกใครสักคน  แต่ไม่กล้าจะพูด...มันคงเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากในความรู้สึกของเจ้าตัวเอง...ถ้าจะช่วยแบ่งเบาอะไรได้  เขาก็ยินดีรับฟัง
“พูดออกมาเถอะ  ถึงฉันไม่เห็นด้วยยังไง  ฉันก็ไม่บอกใครหรอก  เห็นฉันปากหมาแบบนี้แต่ฉันก็ปากหนักนะ”
“หึ...บ้า”  คำพูดของไคทำให้ไอริอดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ใช่  บ้า...ไหนลองเล่าให้คนบ้าคนนี้ฟังซิ...มีอะไรทุกข์ใจเหรอ?”  มือใหญ่ลูบเรือนผมหนานุ่มอย่างอ่อนโยน
“ไค...ผม...รักน้องชายตัวเอง...”

เพียงแค่นั้นก็เหมือนเปิดสวิตช์  เรื่องราวทั้งหมดพรั่งพรูออกมาจากปากของเด็กหนุ่มอย่างหยุดไม่ได้...เขาหลงรักซึคาสะ  ยูยะ...น้องชายต่างพ่อของตัวเอง  ยิ่งยูยะเข้าใกล้เขาด้วยความไร้เดียงสา  เขาก็ยิ่งอึดอัดทรมานจนแทบบ้า  สุดท้ายก็ต้องออกจากบ้านมาก่อนที่จะพลั้งมือทำอะไรร้ายแรงลงไป...แต่แม้จะทำอย่างนั้น  ความรู้สึกที่มีต่อผู้เป็นน้องก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย...เขารู้ว่ามันผิด  และก็กลัวว่าใครจะมาล่วงรู้ความรู้สึกของเขาเข้า...ความกลัวนี้เองที่ทำให้เขากลายเป็นคนเก็บตัวและไม่ค่อยพูดค่อยจา  ไม่กล้าที่จะยุ่งกับใคร...แต่ความต้องการทางกายเป็นเรื่องเกินระงับ  ตั้งแต่ออกมาอยู่คนเดียว  เขาก็หาคู่นอนเรื่อยไปทั้งชายและหญิง...และทุกคนล้วนแต่มีส่วนคล้ายน้องชายสุดที่รักทั้งสิ้น...มีบ้างที่ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ  เพราะเผลอตัวลืมไปว่าอีกฝ่ายไม่ใช่น้องชายแถมยังเป็นผู้ใหญ่กว่า  แต่ในเมื่อรู้สึกดีก็ไม่ได้แย่อะไรนัก  เพียงแต่ไม่บ่อยนักที่เขาจะยอมรับบทนั้น...ไอริใช้ชีวิตแบบนี้มาจนกระทั่งไคเข้ามายุ่งกับเขา

ตลอดเวลาที่ไอริพูด  ไคเพียงแต่รับฟังอยู่เงียบ ๆ  พยักหน้ารับและคอยปาดเช็ดน้ำตาให้...ทรมานมามากสินะ  ถึงขนาดกลั่นออกมาเป็นน้ำตาแบบนี้...กระทั่งไอริเล่าเรื่องทั้งหมดจบลง  ชายหนุ่มถึงได้เอ่ยขึ้นเบา ๆ
“ไอริ...มันไม่ผิดหรอกนะ...ถ้าหากนายรักเด็กคนนั้นอย่างบริสุทธิ์ใจ  ไม่มีอะไรผิดหรอก”


จากค่ำคืนนั้นคือจุดเริ่มต้นของการคบกับไค...ไอริก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้ยอมคบกับไคเหมือนกัน  ทั้งที่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยคบกับใครจริงจัง  ไคเป็นคนแรกที่ได้ชื่อว่าเป็น  “คนรัก”  ของเขา...ถึงแม้จะไม่รู้เหตุผล  แต่จะพูดว่าเพราะไคกุมความลับของเขาเอาไว้ก็ไม่ใช่  เพราะไคไม่เคยปริปากเรื่องนี้ออกไปเลยจริง ๆ


การเป็นคนรักของพวกเขาไม่ได้ราบรื่นหรือมีความสุขอะไรมากมายนัก  ต่างก็มีเรื่องให้โต้เถียงและทะเลาะเบาะแว้งกันไม่ได้ว่างเว้น  ไคเองก็ปากร้ายและไอริก็หัวดื้อ  เป็นคนเอาแต่ใจสองคนที่คบกันได้ยาวนานจนคนรอบข้างก็แปลกใจ...ชื่อ  “ไอริ”  นี้ไคก็ทึกทักตั้งให้  บอกให้ใช้เป็นชื่อนายแบบ  ซึ่งไอริไม่ได้เห็นด้วยเลยสักนิด  ค่าที่มันน่ารักเกินไปในความรู้สึกของเขา...แต่...ยูยะก็ดันชอบเสียอีก

แต่ทั้งที่คบกันอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ แบบนี้  ไอริก็ชอบที่จะอยู่กับไค  จากจุดเริ่มต้นนั้นผ่านมาได้สามปีแล้ว  ไคไม่เคยเปลี่ยนไปเลย  ไคยังคงหาเรื่องแขวะกัดเขาได้ตลอดเวลา  และในยามที่เขาซึมเศร้าเรื่องน้องชายจนถึงขีดสุด...ไคก็ยังยิ้มให้อย่างอ่อนโยนและบอกเขาอยู่เสมอว่า...มันไม่ผิด...

คำพูดของไคช่วยประคับประคองความรู้สึกของเขามาตลอด  ดังนั้น...ถึงคนเดียวที่เขารักจะเป็นน้องชาย...แต่เขาก็ชอบไค
...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-09-2010 23:17:45 โดย wan_sugi »

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#2 by HAKURO 5/9/10
«ตอบ #7 เมื่อ05-09-2010 14:57:10 »

กระจ่างแจ่มแจ้งเลยค่ะ ว่าทำไมแฟนอย่างไคถึงยอมรับได้ที่คนที่ตัวเองรักอย่างไอริ
ทั้งพูดทั้งกระทำว่ารักผู้ชายอีกคนมากมายสุดหัวใจขนาดนั้น

เจ็บปวดมามากจนกลั่นออกมาเป็นน้ำตา....
นอกจากไคจะรักไอริ มันคงมีความรู้สึกที่ตอนแรกอยากค้นหา
ตอนนี้คงเป็นอารมณ์อยากปกป้อง อยากช่วยให้ไม่ต้องเสียน้ำตาอีกด้วยนะคะ

ปลื้มไคจังเลย แล้วก็.....รู้สึกเหมือนตอนหน้าอาจจะได้เจอน้องยูยะ
อยากจะรู้จักน้องยูยะแล้วค่ะว่าจะมีเสน่ห์และน่าหลงใหลแบบไคกับไอริอีกคนรึเปล่า

ปล.ตอนที่สองคนเขาเริ่มต้นนัวเนียกัน ไอริปล่อยให้ตัวเอง"เพริศ" ไปกับอารมณ์แบบนั้น ไม่ใช่"เพลิด"นะคะ
(แต่คุณHARUKO จะยอมให้แก้คำผิดรึเปล่าไม่รู้นะคะ แหะๆ)

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#2 by HAKURO 5/9/10
«ตอบ #8 เมื่อ05-09-2010 23:24:40 »

กระจ่างแจ่มแจ้งเลยค่ะ ว่าทำไมแฟนอย่างไคถึงยอมรับได้ที่คนที่ตัวเองรักอย่างไอริ
ทั้งพูดทั้งกระทำว่ารักผู้ชายอีกคนมากมายสุดหัวใจขนาดนั้น

เจ็บปวดมามากจนกลั่นออกมาเป็นน้ำตา....
นอกจากไคจะรักไอริ มันคงมีความรู้สึกที่ตอนแรกอยากค้นหา
ตอนนี้คงเป็นอารมณ์อยากปกป้อง อยากช่วยให้ไม่ต้องเสียน้ำตาอีกด้วยนะคะ

ปลื้มไคจังเลย แล้วก็.....รู้สึกเหมือนตอนหน้าอาจจะได้เจอน้องยูยะ
อยากจะรู้จักน้องยูยะแล้วค่ะว่าจะมีเสน่ห์และน่าหลงใหลแบบไคกับไอริอีกคนรึเปล่า

ปล.ตอนที่สองคนเขาเริ่มต้นนัวเนียกัน ไอริปล่อยให้ตัวเอง"เพริศ" ไปกับอารมณ์แบบนั้น ไม่ใช่"เพลิด"นะคะ
(แต่คุณHARUKO จะยอมให้แก้คำผิดรึเปล่าไม่รู้นะคะ แหะๆ)

ขอบคุณคะที่ปรูฟให้  ตรวจดูในพจนานุกรมแล้วผิดจริงๆ ด้วย

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#2 by HAKURO 5/9/10
«ตอบ #9 เมื่อ06-09-2010 19:54:34 »

ขอเป็นแฟนคลับด้วยคนครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#2 by HAKURO 5/9/10
« ตอบ #9 เมื่อ: 06-09-2010 19:54:34 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#2 by HAKURO 5/9/10
«ตอบ #10 เมื่อ06-09-2010 23:11:47 »

เข้ามาด้วยชื่อเรื่อง

อ่านแล้ว ประทับใจไคมากๆ
ผิดไม่ผิด บาปไม่บาป ในระหว่างความรักและจิตใจ จะกำหนดอย่างไร

บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสต์มากๆ
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End of part by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #11 เมื่อ13-09-2010 17:39:59 »

ขอบคุณ YAOIGIRL, anajulia, ordkrub, namtam ที่เข้ามาอ่านและเม้นท์กันนะคะ
และทุกคนๆ คนที่เข้ามาถึงจะไม่ได้เม้นท์ก็ตาม ทุกเม้นท์ ฮะคุโร่ได้อ่านหมดแน่นอน

ตอนจบนี้ออกแนวอิโรติคดราม่า แล้วจะได้เห็นว่ายูยะมันเป็นเด็กที่น่ารักน่าหมั่นไส้ + แก่แดดนิดๆ ซะด้วยซ้ำ
จะตรงใจกันแค่ไหนอ่านกันได้เลยค่ะ
อ้อ เรื่องนี้ฮะคุโร่ได้เขียนไว้แค่นี้จริงๆ แต่ถ้ามีคนชอบเยอะอาจจะเขียนต่อก็ได้นะคะ
...

“สุขสันต์วันเกิด  ยูยะ”  ชายหนุ่มสองคนพูดขึ้นพร้อม ๆ กันพลางชูกระป๋องเครื่องดื่มในมือขึ้นเป็นการอวยพร
“แหะ ๆ  ขอบคุณครับ”  หนุ่มน้อยเจ้าของวันเกิดยิ้มอาย ๆ พร้อมกับยกเครื่องดื่มของตัวเองขึ้นรับคำอวยพรนั้น
“เผลอแป๊บ ๆ ก็อายุ 15 แล้วเนอะ  ตอนที่เจอกันยังตัวเท่าเห็ดอยู่เลย”  ไคว่าพลางทำมือเป็นระดับสูงเกินพื้นมาสักฟุตหนึ่ง
“แหม...มากไป  คุณไคก็...ไม่ได้เป็นเห็ดเสียหน่อย”  ยูยะเถียงพร้อมตวัดตาค้อน...แบบเดียวกับไอริผู้เป็นพี่ชายไม่มีผิด
“เปล่า...แค่จะชมว่าโตเร็ว”
“ถ้าแบบนั้นก็บอกสิครับว่าสูงขึ้นเยอะอะไรแบบนี้”
“ความหมายเดียวกันแหละ”  ไคทำไม่รู้ไม่ชี้
ยูยะทำแก้มป่องอย่างขัดใจแล้วก็หันไปฟ้องพี่ชาย  “ริทจัง  ดูแฟนพี่สิ”
“น่าจะชินแล้ว”  ไอริบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ  ยูยะรู้จักกับไคหลังจากที่พวกเขาคบกันได้ไม่นานนัก  และก็ไม่ได้ต่อต้านอะไรกับการที่เขามีคนรักเป็นผู้ชายด้วยกัน
“มันก็ชินหรอก  แต่แหม...”  ยูยะส่ายหัวดุกดิก  ไม่รู้ว่าพี่ชายของเขาทนปากไคได้ยังไง...แต่ก็นั่นแหละ  เขารู้ว่าไคปากร้ายแต่ไม่มีอะไร  แถมยังออกจะใจดีซะอีก...ดีไม่ดีจะใจดีกว่าไอริเสียด้วยซ้ำ

ไอริเพียงแต่ยิ้ม ๆ แล้วยกเครื่องดื่มมึนเมาของตัวเองขึ้นกระดก  วันนี้เป็นวันเกิดของยูยะ  และโชคดีที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุดทำให้ยูยะสามารถมาฉลองและนอนค้างที่ห้องของเขาได้  พวกเขาซื้อเค้ก  ของกิน  และเครื่องดื่มเข้ามาเลี้ยงกันตามประสาผู้ชายที่ไม่มีใครอยากทำอาหาร  การนั่งกินดื่มและพูดคุยกันด้วยบรรยากาศเป็นกันเองแบบนี้ก็สนุกอยู่ไม่น้อย...แต่ไอริไม่ได้รู้สึกดีขนาดนั้น  ด้วยอะไรบางอย่างในหัวใจกดดันเขาเสียจนรู้สึกเครียด  ไม่ใช่แค่ยูยะอยู่ใกล้ ๆ หรอก...แต่มากกว่านั้น...เพราะเขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้

หลังจากวันนั้น...ที่เขาได้ตัดสินใจแล้ว...

“ริทจัง  เป็นอะไรไปเหรอ?  เงียบไปเลย”  พร้อมกับคำถาม  ร่างบาง ๆ ก็ขยับเข้ามาหาพร้อมกับเอาคางเกยไหล่  ทำเอาไอริที่กำลังอยู่ในห้วงความคิดถึงกับสะดุ้ง
“ฮะ...เอ่อ...ไม่มีอะไร  แค่คิดอะไรนิดหน่อย”  ร่างกายที่สัมผัสแนบชิดจนรู้สึกได้ถึงไออุ่นทำให้หัวใจเต้นระรัว...จะดีหรือ...ถ้าก้าวข้ามไปแล้ว...จะดีจริง ๆ หรือ...
“คิดอะไรล่ะ?  อย่านอกเรื่องสิ  วันนี้วันเกิดผม  คิดเรื่องผมก็พอแล้ว”  พูดแล้วก็ยิ้มแต้  โดยไม่รู้เลยว่าคำพูดของตัวเองบาดลึกลงไปในหัวใจคนฟังมากแค่ไหน

...ก็คิดเรื่องของนายนั่นแหละ...ไอริอยากจะตอบอย่างนั้นออกไปใจจะขาด  แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้...ไม่สิ...ทั้งที่ตัดสินใจไปแล้ว  แต่ความหวั่นไหวนี้คืออะไร...ทั้งที่อยากกอดคนตรงหน้านี้จนแทบทนไม่ได้  แต่ถึงขนาดนี้แล้ว  ก็ยังคงลังเล...หวั่นไหวจนเจ็บแปลบที่หัวใจ  ทรมานยิ่งกว่าที่เคยทรมานมาทั้งชีวิตเสียอีก
ดวงตากลมเหลือบมองร่างสูงที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรัก  ไคสบตาคู่นั้นแล้วก็ถอนใจ...ศีลธรรมกำลังเล่นงานไอริอีกแล้ว  ถ้าจะมาลังเลเอานาทีสุดท้ายแบบนี้  ก็อย่าชวนน้องชายมาฉลองที่ห้องเสียแต่แรกสิ...เพราะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองคิดจะทำอะไร  ถึงได้ชวนยูยะมาที่ห้องไม่ใช่หรือไง...แต่ก็นั่นแหละ  ถ้าไม่เป็นแบบนี้  เรื่องทั้งหมดก็คงไม่ดำเนินมาจนถึงตอนนี้ได้
เอาเถอะ...ไหน ๆ ก็ทำตัวเป็นปีศาจชั่วร้ายที่คอยยุยงส่งเสริมมาตลอดอยู่แล้ว  จะช่วยอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป
“ยูคุง  ลองนี่หน่อยมั้ย?”  ไคพูดพลางยื่นกระป๋องเครื่องดื่มคอกเทลรสโคล่าให้
“เหอ?  ผมอายุยังไม่ถึงเกณฑ์นะครับ”
“ดื่มกันเองในห้อง  จะเป็นไรไปล่ะ  ตำรวจมันไม่แล่นมาจับนายหรอก”  ว่าแล้วก็ขยับกระป๋องเข้าไปใกล้อีกเป็นการเชิญชวน
“แต่...ง่า...”  หนุ่มน้อยเหลือบมองพี่ชาย...ใจน่ะอยากจะลองอยู่แล้วตามประสาวัยรุ่นเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม  แต่คนใกล้ตัวจะว่าอะไรหรือเปล่า
ไอริเม้มปากแน่น...ไครู้ว่าเขาลังเล  และพยายามหาทางออกให้...การใช้แอลกอฮอล์เข้าช่วยจะทำให้เรื่องง่ายขึ้น  ที่เขากำลังดื่มอยู่นี่ก็เพื่อย้อมใจเหมือนกัน  แต่ถึงขนาดจะให้ยูยะดื่มด้วยมันก็...

แต่...ถ้าถอยกลับตอนนี้  ก็คงไม่มีวันได้อัญมณีเม็ดนี้มาไว้ในมือ...ไปตลอดชีวิต...

“เอาสิ  นิด ๆ หน่อย  ไม่เป็นไรหรอก”  ไอริเอ่ยคำอนุญาตเบา ๆ  รู้สึกได้ว่ามือของตัวเองเย็นเฉียบ...พูดออกไปแล้ว...
“แหะ ๆ...งั้น...ไม่เกรงใจนะครับ”  ยูยะรับเครื่องดื่มในมือไคมาเปิดแล้วยกขึ้นจิบนิดหน่อย  “หือ...เหมือนโคล่าเลยนี่  แค่มีรสขม ๆ นิดหน่อยเอง”
“ก็แบบเด็ก ๆ...เพิ่งหัดดื่มเอาแค่นี้ก็พอ  อย่าทำอย่างพี่ชายนาย  ขานั้นเปรี้ยว  ริไปลองออน  เดอะ  ร็อก...เมากลิ้งไม่เป็นท่าเลย”  ไคพูดพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ พลางพยักเพยิดไปทางไอริ
“ไม่ถึงขนาดนั้นซะหน่อย  แค่ลุกไม่ขึ้น”  นายแบบหนุ่มเถียง...ไคขุดเรื่องเมื่อตอนนั้นมาเผาเขาอีกแล้ว
“หึ ๆ...นั่นสินะ  ลุกไม่ขึ้น...ข้ามวัน”  ดวงตาสีดำเป็นประกายเจ้าเล่ห์ส่งมาพร้อมรอยยิ้มคันอารมณ์ที่มุมปาก
“ไอ้นั่นมัน...”  ไอริที่ตั้งท่าจะโวยรีบกัดปากตัวเอง  ใจจริงอยากจะบอกว่าที่เขาลุกไม่ไหวนั่นเพราะคืนนั้นไคเล่นเขาเสียหลายรอบต่างหาก...แต่ตอนนี้มียูยะอยู่ด้วย  พูดออกไปไม่ดีแน่  “...จำไว้ละกัน  ไอ้หมาบ้า”
“อื้ม  จำแน่  จำได้ตลอดเลยหละ”
ไอริเข่นเขี้ยวอยู่ในใจ  นี่ถ้าอยู่กันสองคนมีหวังได้ต่อยปากกันสักเปรี้ยงแล้ว...ฝากไว้ก่อนแล้วกัน...คิดแล้วก็ยกเบียร์ในมือตัวเองขึ้นกรอกเข้าปากเฮือกใหญ่
ไคมองอาการฉุนเฉียวของคนรักแล้วก็ยิ้ม ๆ  ลองฟึดฟัดขึ้นมาได้แบบนี้ก็แปลว่าความเครียดลดลงบ้างแล้ว  และก็เพราะไอริชอบทำหน้าเฉยเมยไร้อารมณ์น่ะสิ  เขาถึงได้ชอบแหย่ให้ออกอาการบ่อย ๆ  แบบนั้นมันดูเป็นธรรมชาติกว่านี่นา...แต่จะว่าไป  ก็อยากจะเห็นตอนยิ้มให้บ่อยกว่านี้ละนะ

“ฮ้า...อร่อย”  ในระหว่างที่พวกพี่ชายกำลังเถียงกัน  ยูยะก็จัดการกับเครื่องดื่มของตัวเองจนหมดกระป๋อง  “มีอีกมั้ยครับ?”
“เฮ้ย  อะไรวะ  หมดแล้วเรอะ?”  ไคโวย  ถึงมันจะเป็นรสโคล่าแต่มันก็เป็นคอกเทลเชียวนะ
“ก็มันอร่อยนี่นา  ผมว่าอร่อยกว่าโคล่าธรรมดาอีก  อันนั้นมันหวานเลี่ยน ๆ”  พูดแล้วก็ไม่รอให้ใครหยิบให้แต่ลุกไปควานหาในตู้เย็นเองเลย
“อย่าให้มากนักนะ  ยู”  ไอริตั้งท่าจะห้ามแล้วก็นึกขึ้นมาได้  เลยเงียบไว้
“อ๊ะ  มีแบบอื่นด้วย  รสองุ่นเหรอ?  ผมลองอันนี้ด้วยได้มั้ยฮะ?”  ประโยคสุดท้ายยูยะหันมาถามไค
“บ๊ะ  เอาเถอะ  อยากดื่มอันไหนก็ตามสะดวกละกัน”  ไคโบกมืออย่างไม่ใส่ใจแล้วก็ตักเค้กเข้าปาก  ที่จริงเขาตั้งใจซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบเด็ก ๆ นี่มาเพื่อการนี้อยู่แล้ว...ถ้าไม่ใช้อะไรช่วยเลย  ดูท่าความฝันของไอริจะเป็นจริงได้ยาก


คอกเทลสามกระป๋องของยูยะ  และเบียร์อีกจำนวนไม่น้อยของไอริ  ทำให้คนดื่มเริ่มจะตึง ๆ กันได้ที่  ไอริพูดน้อยลงทุกขณะ  ความมึนเมานี้เองที่ช่วยให้โซ่ตรวนบางอย่างในหัวใจค่อย ๆ คลายตัวออก
“ฮื้อ...ดื่มเจ้าพวกนี้แล้วร้อนเนอะ”  ยูยะเขย่าคอเสื้อยืดตัวเอง  “แต่ก็อร่อย  ริทจังชิมมั้ย?”
ไอริส่ายหน้าปฏิเสธกระป๋องเครื่องดื่มสีสวยที่ผู้เป็นน้องชายยื่นมาให้  ยูยะจึงเอามันกลับไปดื่มเสียเอง  ชายหนุ่มมองเรียวลิ้นสีสดที่แลบเลียริมฝีปากเพื่อเก็บรสชาติหอมหวานของเครื่องดื่มเข้าไปให้หมด...จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม  แต่นั่นช่างเย้ายวนเหลือเกินในความรู้สึกของไอริ
ผู้เป็นพี่ขยับเข้าไปใกล้แล้วโอบไหล่รั้งร่างบางที่กำลังยกคอกเทลขึ้นดื่มอีกครั้งเข้าหาตัว  ยูยะเหลือบตามองพี่ชายแล้วเลิกคิ้วเหมือนจะถาม
“ขอชิม...หน่อยนะ”

ขาดคำ  มือเรียวก็ช้อนใบหน้าของยูยะขึ้น  ริมฝีปากอิ่มฉกวูบลงแนบกับเรียวปากบางเฉียบอย่างรวดเร็วโดยไม่ให้ตั้งตัว  แม้แต่ไคก็ยังตะลึงงัน  เขาไม่คิดว่าไอริจะลงมือเร็วและอุกอาจขนาดนั้น
เรียวลิ้นร้อนลิ้มชิมความหวานหอมของเครื่องดื่มที่ตกค้างอยู่บนลิ้นนุ่มของอีกฝ่าย  เท่านั้นไม่พอ...ยังกวาดควานไปทั่วเพื่อค้นหารสชาติที่แท้จริงของผลไม้ต้องห้ามที่เขาได้แต่เฝ้ามองและหักห้ามใจตัวเองมานานปี 
ยูยะได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนแกร่งที่โอบกอดเขาไว้ไม่ปล่อย  ตกใจเกินกว่าจะตั้งสติได้  สองมือที่ควรจะผลักไสหรือหยุดยั้งการกระทำของผู้เป็นพี่ได้แต่เกาะยึดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งเอาไว้แน่น  ความรู้สึกแปลกประหลาดแผ่ซ่านจากปลายลิ้นที่ถูกครอบครองและรุกราน...มันคืออะไร...ความหวามหวิวในอกนี้คืออะไร
หอม...หวาน...เรียวลิ้นไร้เดียงสาที่ได้แต่ตั้งรับและถูกเขาชักพาไปทั้งอุ่นและนุ่ม  ดูเหมือนจะเกร็งไปหมดทั้งตัวเสียด้วยสิ  น่ารักเกินไปแล้ว...ยูยะของเขา

ใช่...ของเขา...เป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น  เขาจะไม่ยกยูยะให้ใครอื่นอีก

ไอริพลิกร่างในอ้อมแขนลงนอนกับพื้นทั้งยังไม่ยอมละริมฝีปากออก  ถึงตอนนี้ร่างบางถึงได้พยายามผลักไส  หนุ่มน้อยรู้สึกว่าตนกำลังจะขาดอากาศหายใจ  ชั่วจังหวะที่ไอริถอนริมฝีปากออก  ยูยะก็ผวาสูดอากาศเข้าไปเฮือกใหญ่  แต่ผู้เป็นพี่ชายไม่เปิดโอกาสให้เขาได้หายใจได้เต็มปอด  ริมฝีปากนั้นก็เข้ามาครอบครองและช่วงชิงความหวานล้ำอีกครั้ง

...นี่มันอะไร...ริทจังกำลังทำอะไร...

จูบ...สมองอันมึนเบลอบอกกับตัวเองแบบนั้น  ทำไมพี่ชายของเขาถึงทำแบบนี้...ไม่เข้าใจ...ยูยะไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย  เพียงแต่...จูบที่เรียกร้องและเอาแต่ใจนั้นช่างแสนหวาน  แม้จะดุดันและรุนแรงอยู่บ้าง  แต่หนุ่มน้อยกลับรู้สึกได้ถึงรสชาติปร่าแปลกบางอย่างที่ซึมแทรกมากับการเคลื่อนไหวของปลายลิ้น...จนนึกอยากจะลิ้มลองให้มากกว่านี้
ไอริก็คิดแบบนั้น...แม้นี่จะเป็นผลไม้ต้องห้าม  แต่นั่นจะสำคัญอะไรล่ะ  หากใครเด็ดไปครอบครองแล้วมิได้ทะนุถนอมอย่างที่ควรจะเป็นแล้วจะทำยังไง...ยูยะกำลังเริ่มโตเป็นหนุ่ม  ร่างกายนั้นยังไม่เป็นชายหนุ่มเต็มตัวเสียด้วยซ้ำ  แถมลักษณะท่าทางและโครงหน้าก็ละม้ายผู้เป็นแม่เสียมาก  ความเป็นชายและหญิงในคนคนเดียวกันบวกกับท่าทีที่ไม่เกรงกลัวใครนั้น  เชิญชวนให้ใครต่อใครปรารถนาจะลิ้มลองอย่างไม่รู้ตัว...หากจะต้องเป็นแบบนั้นละก็  สู้เขาครอบครองไว้เองเสียดีกว่า...ก็ดูสิ  ขนาดตกใจและตั้งตัวไม่ติดแบบนี้  ยูยะก็เริ่มจะตอบสนองเขาเสียแล้ว...อันตรายจริง ๆ...นี่ถ้าเป็นคนอื่นมาทำแบบนี้  จะว่ายังไง...
ไอริค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง  ทอดสายตามองร่างที่นอนหอบระทวยอยู่ใต้ร่างของเขา  ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของผู้เป็นน้องค่อย ๆ ปรอยปรือขึ้นมองเขา  แววตานั้นเต็มไปด้วยคำถามและความสับสน...แต่เขาไม่สับสนอีกต่อไปแล้ว

“ยู...พี่รักยูนะ”  เสียงทุ้มนุ่มกระซิบแผ่ว
“...ริทจัง...พี่...?”
“เป็นของพี่นะ...”  เสียงกระซิบนั้นราวกับจะเว้าวอน
ไม่ใช่ไม่เข้าใจความหมาย  ยูยะไม่ใช่เด็กที่ไร้เดียงสาขนาดนั้น  จะว่าไปเขาร้ายและซนใช่เล่นเลยทีเดียว  ไอ้เรื่องแอบดูหนังสือโป๊ที่เพื่อนแอบฉกของพี่ชายมาแบ่งกันดูนั่นก็ทำกันบ่อย ๆ  เรื่องเปิดกระโปรงเพื่อนผู้หญิงหรืออะไรทำนองนี้ก็ทำมาแล้วทั้งนั้น...เขารู้ความหมายของคำพูดที่ไอริเอ่ยออกมาดี  แต่ที่ไม่เข้าใจคือ...ไอริที่เป็นพี่ชายของเขา  ทำไมถึงพูดคำนี้ออกมา...ทำไมถึงบอกกับเขาอย่างนี้
หากอะไรบางอย่างในดวงตาสีเข้มคู่นั้นสะกดหนุ่มน้อยให้นิ่งงัน  พี่ชายของเขาเอาจริง...หมายความอย่างที่พูดจริง ๆ...
“...รัก...เหรอ?”  ยูยะพึมพำออกไปอย่างเลื่อนลอย
“ใช่  รักมาก...รัก...จนอยู่ใกล้ ๆ ไม่ได้”  นั่นคือสิ่งที่อยากบอกมาตลอด...นั่นคือเหตุผลที่เขาไม่สามารถให้ได้ในวันนั้นที่เขาตัดสินใจย้ายออกมาอยู่คนเดียวและยูยะถามเขาทั้งน้ำตา
“...ทำไม?”
“พี่...อยากให้ยูเป็นของพี่มาตลอด...ถ้าพี่อยู่ข้าง ๆ ยู  พี่อาจจะทำอะไรร้ายแรงลงไปก็ได้...พี่ถึงได้หนีมา”  แต่ถึงจะหนีไปไกลสักแค่ไหน  ก็รู้ใจตัวเองดีว่าไม่เคยลืมได้...และปรารถนาที่จะทำเช่นนั้นมาตลอด
“เป็นของพี่เถอะนะ...พี่ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว”  ไอริกำรวบข้อมือน้องชายไว้แน่น...แน่นเสียจนยูยะนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด
“ไอริ...นั่นนายคิดจะทำอะไรน่ะ?”  เป็นไคที่ขัดขึ้นมาก่อนที่ไอริจะได้ทำอะไรลงไป
“อย่าห้ามฉัน  ไค”  ไอริพูดโดยไม่หันไปมอง  น้ำเสียงนั่นสั่นพร่า  “ฉันทรมานมาทั้งชีวิตแล้ว  ถ้าจะให้ทนมากไปกว่านี้...ก็ฆ่าฉันเลยดีกว่า”

หยดน้ำอุ่น ๆ ตกลงมากระทบใบหน้าของหนุ่มน้อยที่ยังคงนอนนิ่งอยู่บนพื้น  ยูยะเบิกตากว้าง...ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง  ไอริกำลังร้องไห้...ไอริเนี่ยนะ  ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเห็นพี่ชายของเขาร้องไห้แม้แต่ครั้งเดียว  ขนาดตกต้นไม้บาดเจ็บอะไรแค่ไหนก็ไม่เคยร้องสักแอะ...แล้วนี่...ไอริคนนั้น...ร้องไห้อย่างนั้นหรือ...เพราะเรื่องของเขา...เพราะรักเขาอย่างนั้นหรือ...
“ริทจัง...อย่าร้องไห้...นะฮะ...อย่าร้อง...”  มือเรียวดึงออกจากการเกาะกุมแล้วเอื้อมมาแตะที่ข้างแก้มของผู้เป็นพี่ชาย
ไอริจับมือนั้นมาจูบเบา ๆ ที่กลางฝ่ามือแล้วแนบมันเข้ากับแก้มอย่างแสนรัก...ยูยะที่รัก...น้องชายสุดที่รักของเขา
ริมฝีปากอิ่มแนบลงมอบจุมพิตแสนหวานให้อีกครั้ง  คราวนี้ยูยะไม่ได้ขัดขืนหรือปฏิเสธ  เรียวปากบางเผยอแย้มรับจูบนั้นอย่างเต็มใจเสียด้วยซ้ำ  ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ห้าม  ไอริจึงไม่คิดจะหยุด...ไม่สิ...แม้จะห้ามได้  เขาก็หยุดตัวเองไม่ได้อีกแล้ว

ไม่เพียงแต่ปลายลิ้นจะลิ้มรสหวานล้ำของผลไม้ต้องห้ามนี้เท่านั้น  มือเรียวยังลูบไล้สัมผัสไปทั่วเรือนกายบอบบางราวกับจะให้ตัวเองแน่ใจว่าร่างในอ้อมกอดนี่อยู่ตรงนี้จริง ๆ มิใช่เพียงความฝันที่เคยเห็นมาตลอด  ร่างเล็กบิดเร่าด้วยไม่เคยกับการสัมผัสแบบนี้มาก่อน  ปลายนิ้วกร้านที่แตะต้องเคลื่อนไหวอยู่บนผิวกายให้ความรู้สึกหวามไหวอย่างประหลาด  ใช่เพียงแต่จะเสียวซ่าน...แต่ความรู้สึกที่ไม่เคยรู้จักนี้ดูจะลึกล้ำกว่านั้น
ริมฝีปากร้อนที่ระเรื่อยไปตามผิวเนื้ออ่อนบางราวกับเหล็กเผาไฟร้อนแดงที่ขบแนบตีตราความเป็นเจ้าของไปทั่วร่าง  ลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดก็ราวกับเปลวเพลิงที่แผดเผาความรู้สึกสำนึกชั่วดีใด ๆ ให้มอดไหม้ไปสิ้น  ยูยะได้แต่บิดกายไปมาและส่งเสียงครางเครือด้วยความหวั่นไหวในห้วงอารมณ์
จนเมื่อถูกครอบครองร่างแห่งอารมณ์ไว้ด้วยโพรงปากรุมร้อน  หนุ่มน้อยก็หวีดเสียงออกมาเบา ๆ  เอวบางเดาะขึ้นรับสัมผัสนั้นอย่างลืมตัว  ไอริขบเลียและดูดดุนร่างนั้นราวกับเป็นขนมอันหอมหวาน  ลงแรงหนักหน่วงราวกับจะกลืนกินร่างเล็ก ๆ นั้นเข้าไปทั้งตัว  เพียงไม่นานนัก  ก็ได้ลิ้มรสที่สุดแห่งห้วงอารมณ์ของร่างที่ครอบครองอยู่อย่างเต็มที่

...หวาน...

คำพูดในคืนนั้นของไคผุดขึ้นมาในหัว...ไม่ใช่แค่ลิ้มรสชาติด้วยลิ้นเท่านั้นสินะ  หากต้องลิ้มรสด้วยความรู้สึกถึงจะเข้าใจได้ว่าความหอมหวานเช่นนี้เป็นเยี่ยงไร  แม้จะผ่านใครต่อใครมามาก  แต่ไอริก็เพิ่งจะได้เข้าใจเอาตอนนี้
หอมหวานเสียจนแทบมึนเมา...ไอริไม่สามารถหยุดตัวเองได้อีกแล้วจริง ๆ   ทั้งที่รู้อยู่ว่ายูยะเพิ่งจะถึงจุดสุดยอดไปเมื่อครู่  หากชายหนุ่มก็ไล้เลียนิ้วของตัวเองจนเปียกชุ่มแล้วแตะมันลงไปที่ช่องทางเร้นลับ
ยูยะสะดุ้งผวาขึ้นทั้งร่าง  ปลายนิ้วกร้านของผู้เป็นพี่ชายค่อย ๆ กดขยี้และบดคลึงบังคับให้กลีบดอกที่หุบแน่นของดอกตูมที่ยังไม่แย้มบานให้คลี่ออก  ก่อนจะดุนดันจนมันผลุบหายเข้าไปภายใน  หนุ่มน้อยหวีดร้องขึ้นมาในวินาทีนั้น  มันไม่ได้เจ็บปวด  หากซ่านเสียวเสียจนทนแทบไม่ได้



ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End of part by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #12 เมื่อ13-09-2010 17:42:17 »

ตลอดเวลานั้น...ไคได้แต่เฝ้ามองทั้งสองอยู่เงียบ ๆ  ภาพของไอริที่กำลังก้าวข้ามเส้นแบ่งเขตแดนศีลธรรมในหัวใจของตนนั้น  ทำให้เขาไม่อาจละสายตาได้...ราวกับเทวดาที่ย้อมปีกของตนเป็นสีดำสนิทและค่อย ๆ จมดิ่งลงสู่ขุมนรก...หากสีหน้านั้นช่างเปี่ยมสุข
ไอริไม่เคยมีสีหน้าแบบนี้เลยตลอดเวลาที่อยู่กับเขา  ไม่ว่าจะได้สัมผัสกันสักกี่ครั้ง  แนบชิดกันสักกี่หน  ก็ราวกับว่าไอริได้แต่มองไปยังที่ไกลแสนไกลและมีความสุขกับภาพฝันที่ไม่มีวันสัมผัสได้  ไม่ใช่มีความสุขกับเขาที่อยู่ตรงหน้า...แต่ในตอนนี้  ภาพฝันนั้นได้กลายเป็นความจริงและมาอยู่ในมือนั้นแล้ว...รอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาและความพึงใจในของขวัญต้องห้ามของไอริช่างแสนหวาน  ไครู้ว่าคนรักของเขาเป็นคนสวย  เครื่องหน้าของไอริสวยกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก...แต่ในตอนนี้...ณ วินาทีที่ไอริได้สัมผัสยูยะนั้น  ใบหน้านั้นช่างงดงามอย่างประหลาดและเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเร้นลับบางอย่างแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ตากล้องหนุ่มคว้ากล้องถ่ายรูปที่วางอยู่ข้างตัวขึ้นมาเก็บภาพตรงหน้า  ยิ่งมองผ่านเลนส์กล้อง...ก็ยิ่งสวย...ไม่ใช่แค่ไอริเท่านั้น  แต่หนุ่มน้อยที่ถูกครอบครองไว้ในอ้อมกอดก็งดงามไม่แพ้กัน

ความไม่ประสาของวัยเยาว์ทำให้แสดงความรู้สึกออกมาอย่างไร้จริต  แม้ยูยะจะโตเป็นวัยรุ่นที่รู้ความแล้ว  แต่นี่คือรสสัมผัสที่แท้จริงที่เจ้าตัวไม่เคยรู้จักมาก่อน  รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพี่ชาย...แต่ด้วยความอยากรู้อยากลองแห่งวัยคะนองผลักดันให้ทุกอย่างดำเนินมาจนถึงจุดนี้  ทั้งที่หลบสายตาเขินสะเทิ้นอายเช่นนั้นแต่ก็ยังขยับกายเข้าหาทุกสัมผัสอย่างเรียกร้อง...กลัวทั้งกลัว  แต่ก็ต้องการจะเรียนรู้ให้มากกว่านั้น
ทั้งที่เป็นพี่น้องกัน  แต่ความงามของทั้งคู่ช่างแตกต่าง...ไอริกับเรือนผมสีดำยาวนั้นให้ความเป็นเอเซียแท้ ๆ  ผิดกับยูยะที่มีเชื้อสายยุโรปผสมอยู่หนึ่งในสี่...ในชั่วขณะที่ความงามอันแตกต่างนี้กำลังจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน...ไครู้สึกราวกับว่าภาพตรงหน้านี้ไม่ใช่ความจริง
สุดจะห้ามแล้ว...อดทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว...ไอริรู้สึกราวกับอะไรบางอย่างในสมองขาดผึง  เขาไม่อาจสะกดกลั้นความต้องการของตัวเองไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว  ชายหนุ่มถอนนิ้วออกจากร่างที่ครอบครองอยู่  จรดร่างแห่งความปรารถนาของตนเข้ากับช่องทางเร้นลับที่ไม่เคยมีใครได้ล่วงล้ำมาก่อนแล้วกดกายเข้าไปทันที

“อ๊า!!!!”
ยูยะกรีดร้องออกมาสุดเสียง  ยกสองมือขึ้นผลักผู้เป็นพี่ชายออกห่างด้วยความเจ็บปวดอันยากจะทนทาน  แต่ไอริคว้ามือนั้นไว้แล้วกดลงกับพื้น  ขยับกายแทรกเข้าไปอย่างไม่ยอมหยุดยั้งหรือผ่อนปรนให้  ในหัวมันขาวโพลนไปหมด  ไม่เห็น  ไม่ได้ยินและไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว  รู้เพียงความอ่อนนุ่มที่โอบรัดเขาไว้แน่นนี้ให้ความสุขสมเสียจนแทบจะทะลักทลาย

ต้องมากกว่านี้...ลึกเข้าไปมากกว่านี้...ต้องครอบครองร่างนี้เอาไว้ทั้งหมด...

แต่ในตอนที่รู้สึกแบบนั้น  ทั้งร่างก็ถูกกระชากออกมา  และเรียวปากร้อนของใครบางคนกดแนบลงมาบนริมฝีปาก  สอดปลายลิ้นเข้ามากระหวัดพัวพันกับลิ้นของเขาอย่างเร่งเร้าดุดัน  ลมหายใจของไอริสะดุดขาดห้วง  ฟันเรียบของใครคนนั้นขบเข้าที่ริมฝีปากของเขาหนัก ๆ จนสะดุ้งผวา  แล้วความเร่าร้อนนั้นก็ผละห่างออกไป
“ไอริ...ได้ยินมั้ย?”
เสียงห้าวทุ้มนั้นราวกับดังมาจากที่ไกลแสนไกล  เสียงนั้นเรียกชื่อของเขาซ้ำอีก  ไอริจึงได้กระพริบตาถี่ ๆ และพบว่าไคอยู่ตรงหน้า
“...ไค...?”
“ทำบ้าอะไรแบบนั้น  น้องร้องไห้แล้วนะ  เห็นมั้ย?”

...น้อง...

ดวงตากลมโตเหลือบมองร่างของยูยะที่นอนสะอื้นอยู่บนพื้น  ซอกขาขาวมีคราบเลือดเปรอะเปื้อนอยู่ให้เห็น...ไอริเบิกตากว้าง...เมื่อกี้เขาทำอะไรลงไป  มันเกิดอะไรขึ้น  เขาทำร้ายยูยะอย่างงั้นเหรอ...
“ยู!!”  ชายหนุ่มรีบคว้าร่างนั้นมากอดไว้แน่น  “ยู...ขอโทษ...พี่ขอโทษ...”
ยูยะขยุ้มเสื้อของผู้เป็นพี่ชายไว้แน่น  สะอื้นบอกด้วยเสียงสั่นพร่า  “เจ็บ...เจ็บด้วย...”
“ขอโทษ...”  ไอริกระซิบปลอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นไม่แพ้กัน  “ขอโทษ  พี่ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนี้...พี่...พี่...ขอโทษ...ขอโทษนะ...”
ยูยะรู้สึกได้ว่าร่างที่กอดเขาไว้สั่นสะท้าน  ลมหายใจของพี่ชายสะดุดขาดห้วง
“ริทจัง...พี่ร้องไห้เหรอ?”
“พี่ขอโทษ...ขอโทษ...”  ไอริได้แต่พร่ำบอกอย่างนั้น  เขาไม่ได้ตั้งใจ  เขาไม่ได้อยากทำร้ายคนที่เขารักที่สุดในชีวิต...แต่เขาต้องการยูยะมากเกินไป...มากเสียจนสูญเสียการควบคุมตัวเอง

เรียวแขนบอบบางยกขึ้นโอบกอดผู้เป็นพี่ชายไว้แน่น
“ริทจัง  อย่าร้องไห้นะ...ผมไม่เป็นไร...ผมก็รักพี่นะ  แต่...ไม่คิดว่าจะเจ็บขนาดนี้”
“ทำแบบนั้นมันก็ต้องเจ็บแน่หละ”
เป็นไคที่ขัดขึ้นมา  เมื่อกี้เขาเห็นท่าไม่ดีแล้วถึงได้เข้ามาขวางไอริเอาไว้  เขารู้ว่าเขายุยงไอริมาตลอด  แต่ไม่คิดว่าพอถึงเวลาจริงแล้วไอริจะถึงกับหน้ามืดไม่ฟังอะไรเลยแบบนั้น  แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว...ก็ช่วยให้ถึงที่สุดแล้วกัน
“เอ้า  นี่”  ไคโยนหลอดเจลหล่อลื่นเล็ก ๆ ที่ควานออกมาจากกระเป๋ากล้องให้ไอริ  “ใช้นี่ซะ  ยูคุงยังไม่เคย  แค่ที่ทำเมื่อกี้น่ะไม่พอหรอก”
ไอรินิ่งอึ้งไป...นี่คนรักของเขามีของพรรค์นี้ติดตัวอยู่เสมอหรือไงเนี่ย...ว่าแต่  เมื่อกี้นี้...ต่อหน้าไค...ชายหนุ่มคว้าตัวน้องชายมากอดไว้แน่นกว่าเดิมอย่างหวงแหน
“ออกไปเลยนะ”  ไอริแหวเข้าให้
“อ้อ...ทีแบบนี้มาไล่  ไปก็ได้...แล้วคราวนี้ระวังหน่อยล่ะ  ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปนะ  เดี๋ยวจะกลายเป็นรังแกน้องเข้า”
“หุบปากแล้วออกไปได้แล้ว”
“ครับ...ครับ”
ร่างสูงลุกขึ้น  แต่ไม่ได้ออกจากห้องไปไหน  หากแต่เข้าไปในส่วนที่เป็นห้องนอนของไอริแล้วปิดประตูปังใหญ่  ตามมาด้วยเสียงโทรทัศน์ดังสนั่น
ไอริถอนใจเฮือกแล้วก้มลงมองหน้าน้องชายที่นั่งทำตาปริบ ๆ อยู่ในอ้อมกอด  มือเรียวลูบเรือนผมสีน้ำตาลนุ่มมือเบา ๆ
“ยู...ขอพี่แก้ตัวได้มั้ย?”
หนุ่มน้อยเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายแล้วก็รีบหลบตา...แววตาที่ไอริมองมานั้นอ่อนโยนเกินไป  ไม่ต้องมองแบบนั้นก็ได้นี่นา...
“...ผม...ผมก็รักริทจังนะ...ริทจังเข้มแข็ง  ทำอะไรได้ด้วยตัวเองทุกอย่าง...เป็นนายแบบ...เป็นอะไรทุกอย่างที่ผมภูมิใจ...ผมรักริทจังนะ  แต่...แบบนี้...มันผิดหรือเปล่า?”

ใช่...นั่นเป็นคำถามที่น่ากลัวทีเดียว  และเป็นคำถามเดียวกันกับที่ไอริถามตัวเองมาตลอดจนถึงวันนี้

“ไม่รู้...พี่รู้แต่ว่าพี่รักยู  และจะไม่ยอมปล่อยมือจากยูอีกแล้ว”
นั่นคือคำตอบที่เขาให้กับตัวเอง  ณ ตอนนี้...อย่างไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว
โดยไม่รอคำตอบใด ๆ อีก  ไอริแนบริมฝีปากของตนเข้ากับเรียวปากบางเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ กดแนบเข้าหา...และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง...


ด้วยมือที่ช่ำชองในเชิงกาม  ทำให้ห้วงอารมณ์ลี้ลับของยูยะถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้งได้ไม่ยากนัก  เจลหล่อลื่นถูกนำมาช่วยขยับขยายช่องทางที่แม้จะยังเจ็บปวดจากบาดแผลที่ได้รับเมื่อครู่  แต่เมื่อเจ้าของร่างยอมเปิดกายรับ  ความเจ็บปวดก็ถูกขจัดหายไปในที่สุด  และถูกแทนที่ด้วยความซ่านเสียวเสียยิ่งกว่าที่ได้รับในครั้งแรกเสียอีก...เรื่องแบบนี้มันจะถูกต้องหรือไม่  ยูยะไม่รู้อะไรอีกแล้ว  เขารู้แต่เพียงว่าสิ่งที่ไอริทำให้นั้นมันสุดยอดเหลือเกิน  และหนุ่มน้อยก็อยากจะรู้ให้มากกว่านั้น
เมื่อแน่ใจว่าได้จัดการร่างกายของยูยะให้พร้อมดีแล้ว  ไอริก็ถอนนิ้วออกและชโลมเจลลงบนแก่นกายของตน  ก่อนจะจับมันจรดเข้ากับร่างของยูยะ  พลันก็รู้สึกได้ถึงอาการเกร็งของผู้เป็นน้องชาย  ชายหนุ่มก้มลงไปจูบเบา ๆ ที่ข้างแก้มและกระซิบปลอบ
“ไม่เป็นไรนะ...ไม่ต้องกลัว  คราวนี้พี่จะค่อย ๆ ทำ”
“อะ...อื้อ...”  แม้จะรู้ว่าใจของตัวรู้สึกกลัวความเจ็บปวดที่อาจจะเกิดขึ้นมากแค่ไหน  แต่ยูยะก็ไม่ได้ปฏิเสธผู้เป็นพี่

หากทันทีที่ร่างนั้นล่วงล้ำเข้ามา  ยูยะก็สะดุ้งขึ้นทั้งตัว  กรีดร้องออกมาอย่างสุดระงับ...ความเจ็บปวดที่ได้รับไม่ได้น้อยไปกว่าครั้งก่อนเลย  เจลหล่อลื่นเพียงแต่ช่วยให้ไอริแทรกกายเข้ามาได้สะดวกขึ้นเท่านั้น
พอได้ยินเสียงร้องด้วยความรวดร้าวของผู้เป็นที่รัก  ไอริก็ชะงักการกระทำ...นี่เขาทำร้ายยูยะอีกแล้วสินะ...บางที...ยูยะอาจจะยังเด็กเกินกว่าจะรับเรื่องแบบนี้ได้
“ยู...หยุดมั้ย...”  ถามออกไปเพราะไม่อยากเห็นยูยะต้องทรมานมากไปกว่านี้
หากยูยะส่ายหน้าทั้งน้ำตา  และคำตอบที่เอ่ยออกมาทำเอาไอริถึงกับอึ้ง

“ไม่...ริทจัง...ทำเถอะ  ทำแบบที่พี่อยากทำ...เผื่อยังไง...ครั้งหน้า...จะได้ไม่เจ็บอีก”

ร้ายกาจเกินไปแล้ว...ยูยะ...เล่นมาพูดแบบนี้  ในเวลาแบบนี้  ด้วยสีหน้าแบบนี้...ใครหน้าไหนมันจะทนต่อไปได้...และไอริก็ไม่ทน
ชายหนุ่มก้มลงไปประกบริมฝีปากบดจูบร่างบางที่ครอบครองอยู่แนบแน่นแล้วเสือกกายเข้าไปในครั้งเดียว  ยูยะกระตุกเกร็งขึ้นทั้งตัวและกรีดเสียงอยู่ในลำคอด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส
หากเพียงแค่ไม่นานเท่านั้น  ความเจ็บปวดที่คิดว่าจะตายเสียให้ได้ก็ค่อย ๆ บรรเทาลง  และเมื่อไอริเริ่มขยับกายเคลื่อนไหว  คลื่นความรู้สึกบางอย่างก็แผ่ซ่านจากจุดนั้นไปจรดปลายนิ้ว...ราวกับคลื่นทะเลที่ซัดเข้ากระแทกโขดหิน  กระชากอารมณ์ให้โยกคลอนและสั่นไหวอยู่ตลอดเวลา  ด้วยความรู้สึกที่ราวกับลอยคว้างอยู่กลางทะเลที่มีพายุโหมกระหน่ำ  ยูยะโอบกอดร่างของผู้เป็นพี่ชายไว้เป็นหลักยึด  ปล่อยตัวเองไปตามคลื่นอารมณ์นั้นสุดแต่ว่าไอริจะนำพาไปทางไหน
ช่างเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด  ทั้งที่ทรมานราวกับร่างกายกำลังจะถูกบดขยี้เป็นผุยผงด้วยด้วยความปรารถนาที่รุนแรงและดุดันของผู้เป็นพี่  แต่ในส่วนลึกของหัวใจกลับรู้สึกอิ่มเอมเหมือนกับว่าช่องว่างบางอย่างในหัวใจได้ถูกเติมเต็มด้วยห้วงปรารถนานี้

ถูกละ...ยูยะรักไอริ...รักและชื่นชมพี่ชายคนนี้มาตลอด  ไอริเป็นคนเก่ง  สามารถยืนหยัดอยู่ด้วยตัวเองมาตลอด  ยูยะรู้ดีว่าพ่อของเขาไม่ค่อยนำพาไอริเท่าไรนัก  ค่าที่ว่าเป็นลูกติดของแม่  และยังถูกทางบ้านของพ่อแท้ ๆ ขอร้องให้ใช้นามสกุลไอดะเสียอีก  สำหรับพ่อของเขาแล้ว  ไอริเหมือนเป็นคนอื่นที่เพียงแค่อาศัยอยู่ในบ้านเท่านั้น...แต่สำหรับยูยะมันไม่ใช่  ไอริคือพี่ชายคนเดียวของเขา  พี่ชายที่คอยดูแลเขามาตลอด  พี่ชายที่คอยจูงมือไปไหนมาไหน  พี่ชายที่อยู่เคียงข้างเสมอไม่ว่าเมื่อไร...และทั้งที่เป็นอย่างนั้น  อยู่มาวันหนึ่งไอริกลับตัดสินใจออกจากบ้านไป  ทิ้งเขาเอาไว้คนเดียว  ไม่ว่าจะถามกี่ครั้งก็ไม่เคยมีคำตอบกลับมา...แต่ไอริที่ออกจากบ้านไปนั้น  กลับทำให้ยูยะภาคภูมิใจยิ่งขึ้นไปอีก  พี่ชายของเขาทำงานเลี้ยงตัวเอง  พี่ชายของเขาเป็นนายแบบ  แม้จะไม่มีชื่อเสียงอะไรมากมายนัก  แต่ไอริเป็นคนสวย...เรือนผมสีดำยาวและรูปหน้าที่สวยหมดจดทำให้ใครต่อใครฉงนสงสัยและหลงใหลได้ปลื้ม  นายแบบที่มีความเป็นหญิงและชายในคนเดียวกันอย่างยากจะมีใครเหมือน...และยูยะก็หลงใหลในตัวพี่ชายที่เป็นแบบนั้น

และวันนี้...ยูยะก็เพิ่งได้รู้สึกสาเหตุที่ไอริออกจากบ้านมา...ไอริรักเขา  รักมากเสียจนอยู่ใกล้ไม่ได้...รักมากเสียจนต้องการทั้งหมดที่เขาเป็น...ไอริที่เขาหลงใหลคนนั้นต้องการเขา
เพราะแบบนี้ยูยะจึงยอมให้ทุกอย่างที่ไอริต้องการ  และรับความรักทั้งหมดของไอริมาเป็นของตน
แม้ร่างกายจะเจ็บปวด  แต่หัวใจจึงอิ่มเอม...ความรักและความต้องการที่มีต่อกันและกัน  ได้รับการตอบสนองแล้ว...
“...ยู...อา...พี่รัก...ยูนะ...พี่รักยู...”
“อือ...ผมก็...รักริทจัง...อึ๊...อ๊า...”
แล้วความปรารถนาอันร้อนแรงก็ถูกเติมเต็มเข้าไปในร่างของยูยะ  หนุ่มน้อยรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกหมุนคว้าง...ราวกับทะยานขึ้นสูงและร่วงหล่นลงมาในพริบตาเดียว...รู้สึกได้เพียงแต่อ้อมแขนอุ่นที่โอบกอดความรักของเขาไว้ไม่ให้พลัดหลงไปไหนอีกแล้ว...

ดีเหลือเกิน...ที่ร่างอันอ่อนระทวยที่นอนทอดกายอยู่ตรงหน้านี้ไม่ใช่ความฝัน  ไอริได้ครอบครองยูยะไปแล้ว  ได้ถ่ายทอดทุกความรักและรับเอาทุกความรู้สึกของยูยะมาแล้ว...ความฝันของเขาเป็นจริงแล้ว
ไอริลูบไล้เรือนผมสีน้ำตาลนุ่มมือของผู้เป็นน้องอย่างแสนรัก  จูบซับหยาดน้ำตาที่คลอรื้นดวงตาสีอ่อนที่ปรอยปรืออย่างล้าแรงเบา ๆ  ก่อนจะค่อย ๆ ถอนกายออกช้า ๆ  ร่างบางสะอุ้งน้อย ๆ รู้สึกราวกับสูญเสียบางส่วนของตัวเองไป
“ริทจัง...”  มือเล็กเผลอเอื้อมไขว่คว้าคนตรงหน้า
“พี่อยู่นี่  ยู...”  ไอริจับมือนั้นมาแนบแก้ม
ยูยะมองพี่ชายเหมือนจะให้แน่ใจอีกครั้ง  ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ แล้วพริ้มตาลง  ทั้งเจ็บทั้งเหนื่อยแต่กลับรู้สึกดีเกินจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้  มือของไอริที่ลูบไล้เบา ๆ ราวกับจะปลอบโยนนั้นอบอุ่นเหมือนที่เคยเป็นมา  หากมีความรู้สึกบางอย่างที่เพิ่มขึ้น  ความรู้สึกลึกล้ำที่ไอริไม่เคยแสดงออกมาก่อน...รัก...

“เอาละ  เข้าใจกันก็ดีแล้ว  ถึงคิวของฉันหรือยัง?”  เสียงห้าวต่ำดังขึ้นข้างหลังทำให้ไอริหันขวับไปดู
และโดยไม่ทันตั้งตัวไอริก็ถูกแขนแกร่งรั้งเข้าสู่อ้อมกอด  ริมฝีปากอุ่นร้อนกดแนบลงบนเรียวปากอิ่มอย่างหนักหน่วง  มือหยาบใหญ่ลูบไล้ไปตามเรือนร่างของนายแบบหนุ่มอย่างรวดเร็ว  ไอริดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนนั้น  ในที่สุดก็หลุดมาได้
“ไค!!  ทำบ้าอะไรของนาย!?”
“ทำอะไร...?  ก็จะกอดนายน่ะสิ”  ไคพูดทั้งยังกอดเอวบางไว้หลวม ๆ  มือซนไล้เบา ๆ ไปบนสะโพกเปลือยเปล่า
“กอดบ้าอะไร!  ปล่อยฉันนะ...ไค!!”  ทั้งที่พยายามผลักไสให้ออกห่าง  แต่ดูเหมือนจะไม่มีผลอะไรกับคนรักที่มักจะเอาแรงถึกมาใช้ในเวลาแบบนี้เลย
“ปล่อยไม่ได้แล้วละ  ฉันทนมาตั้งนานแล้วนะ  เห็นแบบนั้นอยู่ตรงหน้าเนี่ย...มันเกินจะกลั้นจริง ๆ...”  พูดพลางก็พรมจูบไปตามใบหน้าและแผ่นอกของไอริ
“เห็นอะไร...ไค!...ปล่อยฉัน  อย่าจับตรงนั้นนะ!!”  พอหยุดตรงนั้นก็โดนจูบตรงนี้  พอหยุดตรงนี้ก็โดนจับตรงโน้น...นี่ไคมันเป็นปลาหมึกหรือไง
“ก็เห็นนาย...กับยูยะ...แบบนี้ไง”  ไคหันไปหยิบภาพโพลาลอยด์ที่ถ่ายไว้โดยพรึ่บลงตรงหน้า
ไอริเบิกตากว้าง...นี่...ที่เขาทำกับยูยะเมื่อกี้นี้...ไคถ่ายไว้ทั้งหมดงั้นหรือ!?
“เห็นมั้ยล่ะ...สวยขนาดนี้  ทั้งพี่ทั้งน้อง...ฉันทนได้ขนาดนี้ก็สุดยอดแล้วนะ”  ไคกระซิบแล้วขบเบา ๆ ที่ใบหูนุ่ม  เบียดส่วนกลางกายเข้าหาสะโพกมน  “รู้สึกใช่มั้ย?...ยังจะให้ฉันทนต่ออีกเหรอ”
ไอริหน้าแดงซ่าน  แน่นอน...เขารู้สึกได้...ร่างที่แข็งอย่างกับท่อนไม่ที่เสียดสีอยู่ที่สะโพกนั้นบอกชัดว่าไคมีความต้องการมากจนทนไม่ได้อีกแล้ว  เพราะดูเขากับยูยะถึงเป็นแบบนี้ก็พอจะเข้าใจ  แต่...ถึงขนาดถ่ายรูปไว้นี่มัน...

“ไค...รูปพวกนี้  ถ่ายไว้ทำบ้าอะไร!?”  ไอริแหวเอาแล้วหันขวับไปอย่างเอาเรื่อง
แต่นั่นเข้าทางไคพอดี  ตากล้องหนุ่มปล้ำจูบร่างในอ้อมแขนได้อีกครั้ง  คราวนี้ไม่เพียงแต่รุกรานหรือเรียกร้อง  หากค่อย ๆ ตะล่อมเล็มลิ้มความหอมหวานและชักจูงให้ไอริคล้อยตามช้า ๆ  จนเมื่ออาการขัดขืนหมดลงและลิ้นนุ่มเริ่มตอบสนองจึงถอนริมฝีปากออก
“ถ่ายเอาไว้  เพราะมันสวยมากยังไงล่ะ”  เสียงทุ้มลอดออกมาจากริมฝีปากที่ยังเคล้าคลออยู่ที่ข้างแก้ม  “ฉันก็เป็นแบบนี้  ชอบเก็บของสวย ๆ ไว้ในภาพถ่าย  เหมือนที่ถ่ายรูปนายไว้ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกไงล่ะ...สวยจนไม่อยากละสายตา  สวยจนอยากเก็บไว้ดูนาน ๆ...”
“ไม่ต้องทำเป็นพูดดีเลย  เจ้าคนลามก”
“ไม่ได้ลามกนะ  แต่คนเราจะสวยที่สุดตอนมีเซ็กส์  ไม่รู้เหรอ”  ไม่เพียงแต่ริมฝีปากที่พรมจูบไปทั่ว  สองมือยังลูบไล้และคลึงเคล้นกระตุ้นจุดไวสัมผัสอย่างยั่วเย้า
“ไม่...หยุดนะ  ไค...ยูดูอยู่...”  แม้ปากจะพูดอย่างนั้น  แต่ด้วยความที่เพิ่งจะถึงจุดสุดยอดไปเมื่อครู่  ประสาททั้งร่างเลยยังตื่นตัวเต็มที่  ทำให้ร่างกายเริ่มตอบสนองการกระทำของไคเสียแล้ว
“ดูอยู่ก็ดีสิ  ยูยะจะได้รู้ไง  ว่าพี่ชายของเขายอดเยี่ยมแค่ไหน...ไอ้ที่เห็นในนิตยสารน่ะมันเด็ก ๆ”

และโดยไม่พูดอะไรให้ยืดยาดมากไปกว่านั้น  ไคจัดการกระตุ้นความต้องการของไอริขึ้นอีกครั้ง  ซึ่งก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรด้วยร่างกายของไอริพร้อมจะสนองอยู่แล้ว  แต่ดวงตาปรอยปรือของยูยะที่จับจ้องมาทำให้ไอริออกอาการขัดขืนไม่น้อย

หากสุดท้าย  ไคก็แทรกกายเข้าไปจนได้
“อึก...อ๊า...”  นายแบบหนุ่มส่งเสียงครางหวาน  ทบท่าวลงคร่อมร่างของผู้เป็นน้องแล้วยกสะโพกขึ้นรับการรุกรานของไค  ห้วงอารมณ์ที่ปั่นป่วนทำเอาสติกระเจิดกระเจิงจนลืมทุกอย่างไปเสียสิ้น
หนุ่มน้อยที่ยังนอนทอดร่างอย่างไร้เรี่ยวแรงมองภาพตรงหน้าแล้วก็ใจสั่น  ใช่อย่างที่ไคพูด...ไอริของเขาสวยเหลือเกิน  ใบหน้าหวานราวกับผู้หญิงแดงระเรื่อและเปี่ยมด้วยห้วงอารมณ์ลี้ลับ  สวยยิ่งกว่าที่เคยเห็นภาพจากการถ่ายแบบ...และยิ่งกว่าพวกผู้หญิงที่เขาเคยเห็นในหนังพรรค์อย่างว่า  อาจเพราะนี่คือสีหน้าและอารมณ์ที่เกิดจากความรู้สึกแท้ ๆ มิใช่การเสแสร้งแต่งปั้น...หรืออาจเพราะไอริเป็นผู้ชาย
ความรู้สึกของทั้งสองเพศในคนเดียวกันทำให้เกิดบรรยากาศอันแปลกประหลาด  ซึ่งยูยะก็คุ้นเคยกับความบรรยากาศเช่นนี้ของพี่ชายดี  แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นไอริอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาสและปลดปล่อยเสน่ห์ทางเพศออกมาเต็มที่อย่างนี้...เมื่อกี้เขาไม่ได้สังเกต  อาจเพราะมัวแต่ปล่อยตัวเองไปตามที่ไอริชักพาไป  หรืออาจเพราะคู่ของไอริตอนนี้เป็น...ไค
ลักษณะความแข็งแกร่งและความเป็นชายแท้ ๆ ของไคยิ่งขับให้ความสวยหวานของไอริให้โดดเด่นขึ้น  ทั้งยังสามารถทำให้ไอริที่มักจะเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งหลอมละลายลงได้ด้วยเพลิงราคะอันเร่าร้อน

ราวกับเห็นภาพฝัน... ดีแล้วที่เป็นไอริ...ดีแล้วที่เป็นไค  เพราะเขารักสองคนนี้มากเหลือเกิน
ยูยะคลี่ยิ้มกับตัวเองแล้วหลับตาลง  ก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนในนาทีนั้นเอง...


แสงแดดยามเช้าลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามากระทบลงบนเรือนผมสีน้ำตาลของร่างที่ขดซุกอยู่บนเตียง  แสงที่สาดลงมาต้องใบหน้ารบกวนให้ต้องตื่นจากห้วงนิทรา  แต่ยังไม่ทันที่หนุ่มน้อยจะลืมตาขึ้น  มืออุ่นของใครบางคนก็วางลงบนศีรษะทุยแล้วลูบเบา ๆ
“ยู  ตื่นแล้วเหรอ?”  เสียงนุ่มคุ้นหูดังขึ้นใกล้ ๆ ตัวทำให้ยูยะค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมอง
“ริทจัง...”  เอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้าด้วยเสียงงัวเงีย
“เป็นไงบ้าง  รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
“ทำไมถามแบบนั้น...อุ๊บ...”  เพียงแค่ขยับตัวเบา ๆ ก็ร้าวระบมไปทั้งสะโพก  “อูย...เจ็บ...”
“ก็...ขอโทษนะ”  ไอริบอกพลางยิ้มเจื่อน ๆ  เขารู้ดีว่าเมื่อคืนเขาโหมแรงไปเต็มที่  ไม่ได้พยายามรั้งตัวเองไว้เลย  ที่ยูยะจะเจ็บตัวมันก็ไม่แปลกหรอก
“...ริทจัง”
“หือม์?”
“เมื่อคืน...ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย?”  ทั้งเรื่องระหว่างเขากับไอริ...และเรื่องระหว่างไอริกับไคด้วย
“...ไม่ได้ฝันหรอก  ยูเป็นของพี่แล้วจริง ๆ”  ไอริยิ้มบาง ๆ อย่างเปี่ยมสุขและอ่อนโยน  “แล้วก็...เมื่อคืนพี่มีของที่จะให้  แต่ลืมให้”
“อะไรเหรอ?”  แน่นอนว่าต้องเป็นของขวัญวันเกิดแน่...แต่อะไรล่ะ?
ไอริจับมือเล็กของผู้เป็นน้องขึ้นมากุมไว้แล้วบรรจงสวมแหวนเงินที่ตนเลือกมาเข้ากับนิ้วหัวแม่มือของยูยะ
“สุขสันต์วันเกิด  ยูยะของพี่”
ยูยะมองแหวนในมือแล้วทำตาโต
“โห...สวยจัง  นี่ริทจังซื้อให้ผมเหรอ?”
“ใช่...ตั้งใจเลือกเพื่อนายเลยละ”  ไอริยิ้ม...ยูยะอาจจะไม่เข้าใจความหมายของลวดลายบนแหวนนั้น  แต่อย่างน้อย  เขาก็ได้มอบทุกความรู้สึกให้ยูยะไปแล้ว  และยูยะก็เข้าใจความรู้สึกนั้น...มันดียิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น
“สวย...ชอบจัง”  ยูยะลูบ ๆ คลำ ๆ แหวนวงนั้นอย่างตื่นเต้นยินดี  แล้วก็ชะงัก  “ว่าแต่...ทำไมเป็นนิ้วโป้งล่ะ?”
“นิ้วโป้งแล้วไงล่ะ?”
“ก็...แหวน...ที่ริทจังให้ผม...ก็น่าจะ...นิ้วนางไม่ใช่เหรอ?”
ไอรินิ่งอึ้งไปชั่วอึดใจ...ยูยะไม่รู้ความหมายของลวดลายบนแหวน  แต่ไม่ใช่ไม่รู้ความหมายของแหวนวงนั้น...ใช่  นี่คือแหวนที่เขาจะใช้ผูกพันยูยะไปตลอดกาล  มันควรจะอยู่ที่นิ้วนาง
มืออุ่นลูบลงบนเรือนผมนุ่มอีกครั้ง
“ไว้นายโตกว่านี้  ก็จะใส่ที่นิ้วนางได้เองแหละ...รอหน่อยแล้วกันนะ”
“อื้ม”  ยูยะพยักหน้ารับพลางยิ้มกว้าง  พลันก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้  “ริทจัง...แล้ว...คุณไค...”
“ไค?...ทำไมเหรอ?”
“ก็...ผมกับริทจัง...แล้วคุณไคล่ะ...?”
“ฉันก็เป็นคนรักของไอริน่ะสิ”  เสียงห้าวดังขึ้นหน้าประตูห้องนอน  ร่างสูงที่สวมเพียงกางเกงยีนส์ตัวเดียวยืนพิงกรอบประตูอยู่ตรงนั้น  “อ้อ...จะพูดให้ถูก  ถึงนายจะเป็นของไอริ  แต่ไอริก็เป็นของฉันอยู่ดีนั่นแหละ”
“เหอ?”  ยูยะเบิกตากว้าง  มองหน้าไอริกับไคสลับกันไปมา
ไอริได้แต่ถอนใจ  “ไอ้หมาบ้านี่มันไล่ไม่ไปน่ะ  ยู...พี่พยายามไล่มันไปแล้วน่ะนะ”
“พูดอะไรแบบนั้น  ฉันก็สัญญาแล้วไงว่าจะเป็นหมาที่ดี  ไม่แว้งกัดนายและยูยะ”  ไคว่า

เมื่อคืนตากล้องหนุ่มถูกไอริเอ่ยตัดสัมพันธ์หลังจากที่ช่วยกันจับยูยะที่หลับไปแล้วอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว  ที่จริงจะถอยก็ได้หรอก...แต่ถึงขนาดนี้แล้ว  เขาที่เป็นคนคอยผลักดันไอริมาตลอด  ถึงตอนที่ตัวเองสมหวังแล้วจะมาถีบหัวส่งกันง่าย ๆ เนี่ย  มันยอมไม่ได้...ด้วยศักดิ์ศรีของคนรักคนแรกของไอริ  มันยอมไม่ได้...ชายหนุ่มก็เลยจัดการเกลี้ยกล่อมนายแบบหนุ่มทั้งด้วยวาจาและร่างกาย  เอาจนไอริยอมลงให้จนได้...ใจจริง...ถ้าให้พูดแบบชั่วร้ายที่สุดก็คือ  เขาอยากเห็นตอนที่สองพี่น้องคนสวยอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ  มันจะเป็นอิริยาบทที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้เห็น...เป็นความสวยงามที่เป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
“ก็ลองแตะต้องยูดูสิ”  ไอริหันไปจ้องหน้าไคพร้อมดวงตาเป็นประกายวาบ
“ครับ ๆ...ไม่แตะหรอกครับ  จะแตะก็แตะนายคนเดียวเท่านั้นแหละ  ก็สัญญาแล้วไง...ไม่แตะ  แต่แค่ดูคงไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
“อันไหนก็ไม่ได้โว้ย!!”  ไอริแหวเข้าให้
“งก...อุตส่าห์ช่วยจนวินาทีสุดท้ายยังมางกอีก”  ไคทำเป็นบ่น  “บ๊ะ  ช่างเหอะ  หิวแล้ว  มา  ยูยะ  ฉันจะอาบน้ำให้  ส่วนไอริก็ไปหามื้อเช้าไว้รอซะ  มองอะไรล่ะ  นายอุ้มยูยะไหวหรือไง  ไปหาข้าวไป๊”
โดยไม่รอให้ไอริว่าอะไรได้  ไคก็อุ้มยูยะจากเตียงแล้วรีบเผ่นเข้าห้องน้ำไปทันที  ไอริที่ได้แต่อ้าปากค้างอยู่กระทืบเท้าอย่างขัดใจ

ก็เป็นเสียแบบนี้ทุกครั้งสิน่า...ไอ้หมาบ้า...
End of part

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End of part by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #13 เมื่อ13-09-2010 18:06:10 »

 :o8: :-[

จบแล้วก็จบได้อ้ะค่ะ แต่จะต่ออีกก็ดีนะคะฮะคุโร่ซัง
แบบว่า......ปลื้มทั้งสามตัวละครนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

คุณไคก็เท่ห์ ไอริจังก็เสน่ห์เย้ายวนเกินห้ามใจ แล้วยังน้องยูสุดน่ารักอีก
โอย ใจละลาย

ขอบคุณมากนะคะ  :กอด1:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End of part by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #14 เมื่อ13-09-2010 18:37:17 »

แล้วก็จบอย่างมีความสุขแบบแปลกๆเล็กน้อย  :m1:

ปลื้มไคที่สุด ใจกว้างดีนะ แต่ยังไงไคก็กำไรสุดอยู่ดี
ยังได้เป็นคนรักของไอริ และก็ได้เห็นความงดงามของไอริกับยูยะเพียงผู้เดียว

โชคดีของไอริที่ยูยะก็รักพี่ชายไม่น้อยเช่นกัน

ขอบคุณมากๆนะคะ

ตอนนี้มีหนังสือของ คุณ Hakuro อยู่ในมือสองเรื่อง Kousoku กับ Come closer
แต่อ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้แล้วยิ้มปลี้ม มีความสุข  :laugh:

อยากอ่านตอนพิเศษ ถ้ามีหวังนะคะ

บวกอีก 1 แต้ม ขอบคุณมากๆอีกครั้งค่ะ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End of part by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #15 เมื่อ15-09-2010 19:39:57 »

บรรยายได้สวยงามมากครับ

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End of part by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #16 เมื่อ15-09-2010 21:03:26 »

น่ารักม๊าก เปงความรักที่แปลกดี  สามพี 55

Rinze

  • บุคคลทั่วไป
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #17 เมื่อ21-09-2010 18:18:55 »

แปลกดี
แต่น่ารักเชียว มันไม่ค่อยจะสามพีแฮะ
 เป็น...อะไรอ่ะ...ลูกโซ่มั้ง

KM

  • บุคคลทั่วไป
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #18 เมื่อ21-09-2010 20:56:39 »

เลือดไหลเลย

moony

  • บุคคลทั่วไป
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #19 เมื่อ22-10-2010 00:46:30 »

สมกะที่อ่านจนจบจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
« ตอบ #19 เมื่อ: 22-10-2010 00:46:30 »





ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #20 เมื่อ25-11-2010 23:56:40 »

:m3: ปลื้นไคค๊าาาาา
จริงๆก็น่ารักทั้งสามคนละเนอะ
อยากอ่านต่อจัง จะมีตอนที่สามพีแบบจริงจังไหมเน้อ
 :haun4: :haun4:
รออ่าน part ต่อไปนะคะ

jinni

  • บุคคลทั่วไป
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #21 เมื่อ26-11-2010 00:42:30 »

โหไค เสียชาติเสือว่ะ
เป็นเพ่ จะไม่ให้เหลือทั้งพี่ทั้งน้องเลย คริ คริ

ออฟไลน์ Meen_Emp

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #22 เมื่อ28-11-2010 12:47:12 »

--ขอบคุณค่ะ--

น่ารักทั้ง2คู่อ่ะ

เป็นความรักอีกแบบหนึ่งที่น่ารักดีค่ะ...

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #23 เมื่อ24-12-2010 20:06:27 »

 :L1:

ออฟไลน์ BBnuna

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 299
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #24 เมื่อ24-03-2012 01:11:00 »

 o13 o13
กรี๊ด เรื่องนี้อ่านแล้วแบบ สุดยอดมากกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #25 เมื่อ24-03-2012 16:31:41 »

ไคนี่เป็นคนรักที่เสียสละมากนะ ในเมื่อความรักเป็นเรื่องของคนสองคน
แต่ไคกลับคิดถึงความสุขของไอริมาเป็นอันดับหนึ่ง
ยอมให้คนรักของตัวเองสมหวังกับอีกคน เพื่อจะเห็นเขามีความสุข
แล้วสุดท้ายไคก็ได้ผลตอบแทนของความเสียสละที่คุ้มค่ามาก
ได้คนสวยมาอยู่ในครอบครองทั้งสองคน
คนหนึ่งได้ทั้งกาย ทั้งใจ
ส่วนอีกคนถึงจะได้แค่ภาพกับแตะนิดแตะหน่อย
แต่ก็คุ้มเกินคุ้มแล้วล่ะนะ  :impress2:

Beast12honey

  • บุคคลทั่วไป
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #26 เมื่อ25-03-2012 01:32:40 »

สนุกเว่อร์อ่านเเค่สองบรรทัดรู้เลย ชอบ เเต่แปะไว้ก่อนยังอยากตามเรื่องอื่นๆของคุณนักเขียนต่อ ^^

The darkness

  • บุคคลทั่วไป
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #27 เมื่อ22-05-2012 13:02:06 »

อ่านแล้ว รู้สึกว่าเรื่องนี้...น่ารักจัง...

ไม่รู้เหมือนกันอธิบายไม่ถูก แค่รู้สึกว่ามันซิลๆ ไม่หนักเท่าไหร่

สรุปคือ  o13... :bye2:

ออฟไลน์ aezac

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #28 เมื่อ25-06-2012 02:24:12 »

 o13 o13 o13 o13 o13

Laloly

  • บุคคลทั่วไป
Re: (เรื่องสั้น) SINLESS#End by HAKURO 13/9/10
«ตอบ #29 เมื่อ29-06-2012 14:16:00 »

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดพี่ไคน่ารักมาก ปลื้มมมม  :o12:

อ่านไปนึกว่า2P พอเจอเป็น3P ปุ๊บถึงกับผงะ!  :a5:
แต่ไม่เป็นไร  :o8: เราก็อ่านต่ออย่างสบายใจเฉิบ 55555+  :laugh:

ขอบคุณมากค่า ไว้จะติดตามอ่านเรื่องต่อไปน๊า  :call:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด