THE END: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 17 (04/03/2012)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: THE END: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 17 (04/03/2012)  (อ่าน 95151 ครั้ง)

dragonfly08

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part4 05/10/10
«ตอบ #120 เมื่อ06-10-2010 23:20:59 »

ของเค้าแรงจริง อะไรจริง

ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1
ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part5 07/10/10
«ตอบ #121 เมื่อ07-10-2010 10:47:45 »

   เราดื่มเบียร์ที่นั่นไปคนละสองสามแก้วแล้วย้ายไปอีกร้าน อีกร้าน อีกร้านไปเรื่อยๆ สำหรับเราแล้วคืนนั้นเป็นคืนที่มันส์จริงๆ เราทำตัวเหลวไหลกันเต็มที่ ผมจะเล่าวีรกรรมต่างๆที่ทำไว้ในคืนนั้นให้ฟังแล้วกัน



 - เรื่องนี้ตอนที่เรากำลังเดินย้ายร้านกันอยู่ ผมเจอสาวสวยคนนึงที่เดินอยู่บนถนน

“เฮ้ คุณชื่ออะไรน่ะ” ผมเข้าไปทักสาวคนนึง

“อ๋อ ฉันน่ะเหรอ เรียกฉันวย่าแองเจลีน่า โจลี่ละกัน” เธอตอบกวนๆ

“ถ้าอย่างคุณเป็นโจลี่งั้นผมก็เป็นแบรดด์ พิตล่ะวะ” ผมตอกเธอกลับไป แบรตเห็นท่าไม่ดีเลยกระซิบเตือนผม “เฮ้ย! เพื่อนมุขมันไม่ขำนะโว้ย”

“คุณแต่งงานแล้วเหรอ” ผมลุยต่อไม่สนแบรต

“ใช่” เธอตอบสั้นๆ

“อยู่กันดีมั้ย กับสามีคุณน่ะ”ผมถามต่อ

“ดีเยี่ยม”

“งั้นเราสองคนก็ไม่มีโอกาสที่จะทำอะไรต่อมิอะไรกันล่ะสิ”

“ถูก”

“เยี่ยมเลย ถ้างั้นคุณมีเพื่อนสวยๆที่สามีของเขาทำการบ้านแย่ๆมั่งมั้ย   เฮ้! คุณจะไปไหนน่ะ ผมล้อเล่นน่า เฮ้ๆ คุณจะไปไหนน่ะ จริงๆแล้วผมเคารพในการมีผัวเดียวเมียเดียวนะคุณ เฮ้ เดี๋ยวสิ! นังคุณตัวเอ๊ย” เธอไม่ยอมคุยด้วย ผมเลยด่าไล่หลังซะเลย



- ดอร์ธตี้ถ่ายรูปคู่ให้ผมกับสาวสวยคนนึงแล้วเขาก็บอกเธอว่า “ไว้คุณไปดาวน์โหลดรูปของตัวเองตามเวบโป๊ได้เลยนะ” แค่นั้นแหละเธอก็เดินหนีไปทันที



- แบรตหมกมุ่นอยู่กับตัวเองแล้วก็เหล้ายินเหมือนเคย คืนนั้นของเขาผ่านไปโดยมีสิทธิ์จะเกิดเรื่องหรืออาจถึงขั้นก่ออาชญากรรมได้ทุกขณะ ผมสาบานว่าคืนนั้นของเขาเสี่ยงต่อการโดนข้อหาพรากผู้เยาว์มาก ผมจึงพยายามให้เขาหยุดพูดเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศเด็กเพื่อให้เขาเป็นนกต่อที่ดีของผม เขาก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุยไปตามแบบของเขา เช่น “เพื่อน  นายยังสูบบุหรี่อยู่อีกเหรอ ฉันขออะไรอย่างนะ ถ้านายยังดูดไอ้แท่งปั่นทอนชีวิตนี่ต่อไป นายช่วยแนะนำยี่ห้อว้อดก้าที่ช่วยทำให้สมรรถภาพทางเพศของฉันทำงานได้ดีขึ้นหน่อยได้ไหม” หรือไม่เขาก็คุยกับผู้หญิงคนนึงว่า”คุณครับ เราช่วยข้ามบทสนทนาที่เป็นมารยาททางสังคมไปเลยได้ไหม มันเสียเวลา คุณช่วยไปกับผม ตรงไปที่เบาะหลังรถ เรียกผมว่ากัปตันเคิร์ก(*) แล้วช่วยใช้มือสร้างความสยิวให้ผมหน่อย” นี่ล่ะ นกต่อในแบบแบรต แมคเทอร์เนอร์



- ตัดมาอีกตอนนึง ไทริคขอให้ผมเป็นนกต่อให้เขา แต่เพื่อนของหญิงคนที่เขาจีบนี่สิ อ้วนอัปลักษณ์สุดๆ ผมเลยพยายามทำหน้าที่นี้ให้จบลงโดยเร็วที่สุด ผมบอกกับเธอว่า “คุณอย่าคุยกับผมเลย เพราะไอ้น้องชายของผมมันติดโรคซุกซนจนงอมแงม” แต่เธอกลับคิดว่าผมยิงมุข ผมเลยต้องงัดไม้ตายออกมาใช้ “ห่วงยางที่คุณพกไว้รอบเอวน่ะ คุณเอาไว้เป็นล้ออะไหล่ของรถเก๋งหรือรถกระบะเหรอ” คราวนี้ได้ผล เธอเผ่นเลยทันที พอไทริคเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผมจึงบอกเขาไปว่า “ไม่รู้ว่ะเพื่อน ฉันช่วยนายเต็มที่แล้วนะ แต่แม่นั่นดันไม่เล่นด้วย จะให้ทำไงได้วะ เธอไม่ชอบฉันนี่หว่า”



- ในที่สุดแบรตก็ไปจีบสาวสวยคนหนึ่งได้ เขาคิดว่าเธอไม่ใช่ประเภทร่านๆ ผมแปลกใจมากเพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ผมพกเอาความสงสัยเข้าไปคุยกับเธอทันทีที่มีโอกาส แล้วผมก็รู้สาเหตุ สาวน้อยคนนี้อายุไม่เกินสิบเจ็ดเท่านั้นเอง แบรตกระซิบบอกกับผมว่า “วัยขนาดนี้แหละโว้ยเพื่อนที่นักกฎหมายในเท็กซัสเรียกว่า ‘วัยพ้นตารางการฟัน’ ”ตอนนั้นสิ่งเดียวที่ยังเป็นอุปสรรคต่อแบรตคือเธอยังไม่เชื่อว่าเขาเคยเรียนที่โรงเรียนมัธยมออสตินเหมือนเธอ เธอเคยถามแบรตว่าตัวมาสคอตของที่นั่นเป็นตัวอะไร แต่แบรตเถียงเธอไปว่าเธอนั่นแหละที่ไม่ได้เรียนที่นั่นแล้วพยายามจะล้วงเอาข้อมูลจากเขาไป ผมรีบจัดแจงเข้าไปกู้สถานการณ์ทันทีด้วยความรักเพื่อน ผมเสนอให้แบรตและเธอกระซิบคำตอบบอกผมทีละคน ผมจะบอกว่าเขาตอบถูกหรือไม่ สาวน้อยนั่นตกลงแล้วกระซิบอะไรบางอย่างให้ผมฟัง จากนั้นผมก็ให้แบรตกระซิบต่อจากเธอ ผมหันไปบอกเธอว่า “เขาบอกไม่ได้หรอกว่าไอ้ตัวมาสคอตนั่นมันตัวอะไร แล้วเขาก็ไม่สนด้วย สิ่งที่เขาสนตอนนี้คือการได้สาวแบบคุณไปฟัน บังคับให้คุณดูดให้เขาจนคุณสลบโดยที่ปากคุณยังมีไอหนูของเขาคาอยู่” ผมคงไม่ต้องบอกคุณใช่ไหมว่าผลเป็นยังไง




        เรื่องที่ผมเล่าให้ฟังผ่านไปอย่างสนุกสนานแต่มันก็กำลังจะจบลงแล้ว และสิ่งที่สำคัญคือเรายังไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันกันเลย ผมเริ่มเครียดและต้องลงมือทำอะไรซักอย่างเพื่อให้หายเครียดนั่นคือ “สอยหญิง” เรากระจายกลุ่มกันออกไปปฎิบัติภารกิจ ผม แบรตและไทริค เราเตร่กันไปจนเจอกลุ่มผู้หญิงสามสาวเข้ากลุ่มหนึ่ง หลังจากเหล้าเข้าปากไปหนึ่งรอบและเรื่องตลกอีกสองสามเรื่อง ทุกอย่างก็เริ่มเข้าทางและสถานการณ์ก็ดูจะไปได้สวย ผมจับคู่กับคนที่ดูร้อนแรงที่สุด แบรตเลือกเอาคนที่ดูดี ส่วนไทริคได้สาวที่ดูอวบๆหน่อย ผมจัดแม่คนอวบให้เขาเพราะตอนนี้เขาเมาที่สุด นมโตๆจะทำให้เขาไม่สนใจองค์ประกอบอื่นๆของร่างกายไม่ว่าจะเป็นพุง หน้าตา หรือความสะอาด



-----------------------------------------------------------

Captain Kirk ตัวละครตัวหนึ่งจากสตาร์แทร็ค

ขอบคุณขาประจำทุกท่านด้วยคะ น่ารักมากๆเลย

ว่างเมื่อไหร่ก็อย่าลืมแวะมาอ่านเรื่องนี้กันนะคะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part5 07/10/10
«ตอบ #122 เมื่อ07-10-2010 11:18:08 »

ตรูจะบ้าตาย  ความคิดของคาร์แบลท์แต่ละอย่าง  เปลี่ยนชื่อเป็นคาร์บวมหรือคาร์บ๊อง  หรือคาร์บ้าดีกว่ามั๊ย
ไม่แปลกใจทำไมถึงคบกันได้กับแบรต  แซคได้  คนแปลก ๆ ก็ต้องคบกับคนแปลก ๆ ด้วยกันเอง  ชิมิ

dragonfly08

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part5 07/10/10
«ตอบ #123 เมื่อ07-10-2010 13:27:50 »

แบดบอยสุดๆ อะ

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part5 07/10/10
«ตอบ #124 เมื่อ09-10-2010 10:02:03 »

มีคนปกติซักคนมั้ยนิ

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part5 07/10/10
«ตอบ #125 เมื่อ09-10-2010 10:15:13 »

รวมพลแก๊งค์ติสแตก -,-


ออฟไลน์ CanonDNattari

  • ☆.•:*´เชื่อในสิ่งที่เห็นและต้องการให้เป็น ¨`*:•☆
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part5 07/10/10
«ตอบ #126 เมื่อ09-10-2010 10:56:38 »

 :z6: ทั้งกลุ่ม พวกมันมารวมกลุ่มกันได้ไงเนี้ย อัจฉริยะ กับคนบ้ามันคือความแตกต่าง ในความคล้าย  :z6:

ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1
ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part6 09/10/10
«ตอบ #127 เมื่อ09-10-2010 21:25:46 »

     หลังจากเหล้าหมดเป็นรอบที่สองพวกเธอก็ตกลงไปหาอะไรกินอะไรกับเราต่อแถวเคอร์บี้เลน ระหว่างที่เราเดินไปขึ้นรถมีตำรวจซักโหลนึงได้กำลังไล่จับพวกขี้เมา โดยพวกเขาไล่หวดพวกขี้เมาด้วยกระบองหรือไม่ก็เตะต่อยอย่างไม่มีเหตุผล ผมรู้สึกขำกับสิ่งที่เห็นตรงหน้ามากๆ แต่พวกสาวๆดูจะตกมากกว่า ส่วนแบรตก็เสือกเสนอตัวไปให้ตำรวจพวกนั้นอัดเล่นๆ แล้วไทริคหายไปไหน? พอหันไปอีกทีผมก็เห็นว่าหมอนั่นกำลังวิ่งตะโกนโหวกเหวกเข้าไปหาตำรวจ แม้ว่าผมจะเมานิดๆแต่ผมก็จำคำพูดของเขาในคืนวันนั้นได้ทุกคำ


“ผมเป็นนักกฏหมาย ผมสาบานต่อพระเจ้าไปเลยว่าตามกฎหมายปี 2526 คุณจะถูกตัดสินตามมาตราที่ 4 ว่ากำลังละเมิดสิทธิ์ของชายคนนั้น”  นั่นแหละเพื่อนผม ผู้ผดุงความยุติธรรมแบบโง่ๆ เพียงแต่ตอนนี้มันไม่ใช่ในศาลน่ะสิ  แต่สถานการณ์ก็จบลงด้วยดี เพราะผมพยายามอธิบายให้สาวๆฟังว่าไทริคเป็นนักกฎหมายด้านการต่อต้านอาชญากรรม และเขาก็เรียนอยู่ที่เดียวกับผม...ในที่สุดผมก็ปกป้องเพื่อนเอาไว้ได้


   เมื่อหมดปัญหาเราก็ออกรถไปเคอร์บี้เลนกัน ระหว่างทางผมชำเลืองมองกระจกมองหลัง ผมเห็นว่าไทริคกำลังระดมจูบไปทั่วหน้าแม่คนอ้วน พอผมมองต่ำลงไปอีกนิดก็เห็นว่าหมอนั่นกำลังเอามือล้วงเข้าไปใต้กระโปรงเธอ นั่นทำเอาผมเกือบลืมหิวไปเลย แต่แม้จะเห็นภาพชวนกินไม่ลงที่ว่าเมื่อผมไปถึงร้านจริงๆผมก็รู้สึกว่าตัวเองหิวโซอยู่ดี


   ผมรู้ดีว่าแม่สาวที่ผมคั่วอยู่อยากเปิดศึกกับผมเต็มแก่ ผมก็เลยต้องรีบๆยัดของกินเข้าปาก ผมจะได้จัดการเธอให้สิ้นเรื่องสิ้นราวเสียที พอกินเสร็จผมก็ลากแขนเธอให้เดินจ้ำพรวดๆออกจากร้าน เธอหันกลับไปบอกอะไรซักอย่างกับเพื่อนเธอในขณะที่ผมกำลังเดินผ่านเสาไฟฟ้าต้นหนึ่ง แล้วผมก็ได้ยินเสียงกระแทกตามด้วยเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด


 “โอ้ยยยยยย หน้าฉัน”   ผมหันกลับไปมองก็เห็นว่าเธอลงไปดิ้นอยู่บนพื้นเอามือกุมหน้าร้องครางอย่างเจ็บปวด เพื่อนๆของเธอรีบวิ่งเข้ามาดูอาการเธอทันทีในขณะที่ผมกำลังยืนดูผลงานที่ทำให้สถานการณ์คืนนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ผมยิ้มเจื่อนๆพร้อมกับพูดว่า “ดีนะที่ผมไม่ได้ชนซะเอง” แล้วผมก็เดินกลับเข้าไปในร้านอีกครั้ง

   ถ้าผมมีลูกสาว ผมคิดว่าเธอน่าจะได้เที่ยวกับผู้ชายแบบผมนะ คงมันส์พิลึก..คุณว่าไหม?  แต่มันคงเป็นแค่ความคิดที่ไม่สมหวังล่ะนะ พระเจ้าคงเห็นว่ามันคงไม่ดีแน่ๆถ้าจะมีเรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้น ปัจจุบันนี้ผมถึงได้เป็น...อีกแบบไงล่ะ


   คุณจะบอกว่าผมชั่วใช่ไหม? ใช่เลย สาวๆดูจะโกรธผมมาก แบรตเองก็เริ่มไม่ชอบใจแล้วเพราะสาวที่ติดพันกับเขาเคยนอนกับคนอื่นมาก่อน เขาก็เลยเห็นเธอเป็นผู้หญิงขายตัวไร้ค่าอีกคนนึง ไอ้หมอนี่มันมีปัญหายิบย่อยเยอะจริงๆ ส่วนไทริคนั้นเมากว่าใครเพื่อน ดูเขามีความสุขเรากับควายได้แช่ปลักเลยทีเดียว ผมมองตากับแบรต แวบเดียวเราก็เข้าใจกัน ผมกับเขาออกสอยหญิงมาด้วยกันจนรู้ใจกันดีอยู่แล้ว ตอนนี้เขาอยากชิ่งจากแม่พวกนี้อย่างแนบเนียนที่สุดเหมือนกับผม แต่ก่อนที่เราจะไปเราต้องมั่นใจก่อนว่าเพื่อนของเราที่ยังอยู่จะจัดการกับพวกเธอได้

“เพื่อน ฉันจะไปฉี่ ไปด้วยกันไหม” ผมชวนไทริคเป็นนัยๆ

“ไม่เป็นไร ฉันไม่ปวด” หมอนี่ซื่อกว่าที่ผมคิด ผมเลยเปลี่ยนวิธีเป็นเตะหน้าแข้งเขาเต็มแรงซะหลายทีจนในที่สุดเขาก็เข้าใจ และไปวางแผนกับผมในห้องน้ำ

“ฉันกับแบรตจะชิ่งแล้วนะ นายจะไปกับเราหรือจะกลับไปฟันแม่นั่น” ผมถามเขา

“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ ฉันว่าเธออ้วนไปหน่อย นายว่าฉันควรเอาไวดีล่ะ” ไทริคดูลังเล ตอนนี้เขาเมามากจนตาแทบเหล่ ยืนฉี่แอ่นหน้าแอ่นหลังจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ แต่ผมก็ให้คำแนะนำเขาไปว่าเขาควรไปจัดการหล่อนให้เรียบร้อย

“ฉันว่านายควรจะไปบ้านหล่อนนะ เธอไม่อ้วนหรอก แต่ที่แน่ๆนมเธอโคตรใหญ่เลย ฉันยังอยากฟันเธอซะเองเลย” ผมยุเขา

“ช่ายๆ โนมหย่ายใช่มะ ช้านชอบโนมหย่ายๆ ตกลง ช้านจาปายกับเธอ ขอบจายมากเพื่อน พวกนายเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ”



   ผมไปส่งไทริคให้แม่นั่นถึงที่ จากนั้นผมกับแบรตก็จ้ำพรวดๆไปที่ประตูทันที แม่สาวที่ชนเสาตะโกนถามเราว่า”พวกนายจะไปไหนกันน่ะ” ผมกับแบรตตะโกนออกไปพร้อมกันว่า”ห้องน้ำ” ผมได้ยินเธอตะโกนไล่หลังมาว่า “แต่ห้องน้ำมันอยู่ทางโน้นนี่คุณ”




   จากนั้นพวกผมก็กลับมาที่โรงแรม ผมไม่รู้ตัวเลยว่าปวดท้องอึแค่ไหนจนกระทั่งเข้ามาถึงห้อง ขณะที่ผมกำลังถอดกางเกงอยู่แบรตก็ปาดหน้าผมเข้าห้องน้ำไปก่อน...ไม่เป็นไร ผมหันมาเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดกับบ็อกเซอร์แทนเพื่อเตรียมตัวนอน ผมอดทนรอแบรตราวๆสามนาที พอชักทนไม่ไหวผมก็ทุบประตูห้องน้ำแล้วตะโกนบอกเขาไปว่า”ถ้าแกไม่รีบออกมา ฉันจะไปอึไว้บนเตียงนอนของแกเองแบรต”  

   อีกเดี๋ยวนึงเขาก็ออกมาจากห้องน้ำแล้วหัวเราะแหะๆ เขาบอกผมว่า “เป็นเป็นอึกองโตที่สุดในชีวิตฉันเลยว่ะ ฉันกำลังปล่อยให้ส้วมนั่นจัดการกับมันอยู่” พอผมชะโงกเข้าไปดูในห้องส้วมผมก็ต้องผงะ ในโถส้วมมีอึจำนวนมหาศาล น้ำอึสีน้ำตาลล้นออกมาจากโถไหลนองไปทั่วพื้นห้องส้วม โชคยังดีที่ตอนนี้มันยังไม่ไปถึงห้องอาบน้ำ ชักโครกส่งเสียงขลุกขลักเหมือนกับพยายามจะดูดแต่ไม่สำเร็จ

ไอ้สันดารแบรต! แกทำส้วมโรงแรมตันได้ยังไงวะ


   ส้วมในห้องน้ำโรงแรมนั้นปกติก็ทำขนาดใหญ่พิเศษอยู่แล้ว มันออกแบบมาดีขนาดรองรับอึช้างได้ด้วยซ้ำ แถมระบบชักโครกยังเป็นเครื่องยนต์เจ็ทที่แรงพอจะดึงเด็กทารกออกจากท้องแม่ได้ แต่นี่มันอะไรกัน ไอ้ห่านี่ถล่มมันลงได้อย่างราบคาบ


   ผมรู้สึกสยองจริงๆ ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมสาปแช่งหมอนั่นไปหลายคำแล้วก็ตะโกนใส่หน้าเขาเต็มๆ”นี่มึงแดกอะไรเข้าไปวะ” จากนั้นผมก็วิ่งออกจากห้องชนโคมไฟจนคว่ำ ข้าศึกโจมตีผมอย่างหนักหน่วงแล้ว ผมคิดว่ายังไงซะล็อบบี้ก็ต้องมีห้องน้ำ คิดออกผมก็พุ่งไปที่ทางเดินแล้วเดินเข้าลิฟท์ไปทันที

   แต่พอลงมาถึงผมกลับหามันไม่เจอ ผมก็เลยวิ่งไปที่ฟร้อนท์ ซึ่งมันไม่ได้หันหน้าเข้าหาล็อบบี้ ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณตีสี่ ไม่มีพนักงานอยู่ที่นั่นเลย ผมจึงเริ่มกดกระดิ่งเรียกอย่างบ้าคลั่ง กิ๊ง กิ๊ง กิ๊ง กิ๊ง กิ๊ง กิ๊ง กิ๊ง กิ๊ง กิ๊ง กิ๊ง กิ๊ง กิ๊ง ในที่สุดก็มีพนักหญิงคนหนึ่งโผล่ออกมาในสภาพน่าสงสาร เธอบอกผมว่าห้องน้ำอยู่ตรงมุมล็อบบี้อีกฝั่งนึง ผมรีบแจ้นออกมาจากฟร้อนท์ ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าไอ้ล็อบบี้รูปสามเหลี่ยมของโรงแรมนี้มันกว้างขนาดไหน พอพ้นมุมมาผมก็เห็นประตูสีขาวอยู่ที่มุมซ้ายมือ ผมเดินตูดบิดไปที่ประตูนั่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ นาทีนั้นผมปวดอึจนต้องเอามือทั้งสองมาบีบก้นเข้าไว้ด้วยกันเพื่อไม่ให้มันทะลักออกมา


   พอผมไปถึงประตูนั่นก็ผลักเข้าไปอย่างแรงจนประตูแทบหลุดออกไปทั้งบาน พร้อมกับได้ยินเสียงร้องอย่างตกใจ “ว้ายยยยยยยย” นั่นทำให้อึผมเกือบเล็ดออกมา มันไม่ใช่ห้องน้ำแต่เป็นห้องภารโรง ในนั้นมีภารโรงหญิงตัวเล็กๆชาวแม็กซิกัน ชั่ววูบหนึ่งผมคิดจะอึใส่ถังที่ภารโรงใช้ทำความสะอาดเสียเลย แต่ก็เปลี่ยนใจเพราะภารโรงนั่นเป็นผู้หญิง

“ห้อง  น้ำ  อยู่  ไหน”

“ No No hablo Inges” ไม่ไม่ ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้

“โธ่ว้อย เอ่อ อืม Donde esta fucking bano” ผมต้องมานั่งนึกภาษาสเปนในวินาทีที่ปวดอึที่สุดในชีวิต ผมจึงถามเธอไปว่าห้องน้ำเวรนั่นอยู่ไหน

เธอชี้มือไปที่อีกมุมหนึ่งของล็อบบี้ มันอยู่สุดอีกมุมหนึ่งเลยล่ะคุณ ห่างจากที่ผมอยู่ตั้ง 50 เมตร ที่มุมนั้นมีประตูหลายบาน และมีป้ายติดชัดเจนว่า’สุขา’ แม่คนที่อยู่ที่ฟร้อนพูดถูก ห้องน้ำอยู่ตรงมุม...แต่ไม่ใช่มุมนี้


   ผมวิ่งเต็มฝีเท้าโดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไปถึงที่นั่นก่อนที่จะอึรดกางเกง ผมเคยเล่นฟุตบอล เบสบอลและบาสเก็ตบอลสมัยม.ปลาย จนถึงเดี๋ยวนี้ผมก็ยังฟิตอยู่ ผมเคยวิ่งหนีตำรวจ วิ่งหนีหมา วิ่งหลบลูกปืน แต่ไม่มีครั้งไหนที่ผมจะวิ่งได้เร็วเท่าครั้งนี้  
แต่โชคร้ายที่ผมวิ่งไม่เร็วพอ


ผ่านไปยี่สิบเมตร ผมรู้สึกได้ว่ามีอะไรมาถ่วงตรงก้นกางเกงใน


ผ่านไปสามสิบเมตร ปราการด่านสุดท้ายกำลังพังทลาย สิ่งที่ไม่พึงประสงค์เริ่มไหลย้อยลงมาตามขา


ผ่านไปสามสิบห้าเมตร กางเกงในผมรูดลงมาอยู่ตรงต้นขา ผมพยายามดึงมันขึ้นมาใหม่  


ผ่านไปสี่สิบห้าเมตร ผมรู้สึกได้ว่าท่อนล่างเปียกและเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างมากระทบด้านหลัง หัว และหู


ในที่สุดการเดินทางห้าสิบเมตรก็สิ้นสุดลง เมื่อไปถึงห้องน้ำผมแพ้อย่างราบคาบ ผมอึกแตกรดกางเกงในไปเรียกร้อยแล้ว



   พอเข้าไปข้างในได้ กางเกงในก็ลงไปกองอยู่ที่พื้น ผมก้าวขาออกมาจากกางเกงในที่มีอึอยู่ ผมหลับหูหลับตาสลัดมันออกไปไกลๆแล้วผลักประตูห้องส้วมอย่างรุนแรง พอทรุดตัวนั่งลงบนโถผมก็ลื่นจนเกือบนอนลงมากองบนพื้น เพราะก้นของผมเปื้อนคราบอึจนลื่นไปหมด พอตั้งตัวได้ผมก็เริ่มปล่อยของเสียออกทันที ในสองนาทีต่อมาผมรู้สึกว่าน้ำหนักผมลดลงราวๆเก้ากิโลได้ ระหว่างที่ผมหยุดพักการปล่อยของเสียผมก็พบว่าชักโครกเต็มไปด้วยอึ ผมพยายามจะกดชักโครก แต่ว่าน้ำล้นออกมาจากโถทันที  ไม่เป็นไร  ผมย้ายไปอึอีกห้อง ปฏิบัติการอันสุนทรีของผมดำเนินต่อไปเรื่อยๆแต่คราวนี้ผมคอยกดชักโครกทุกๆ 3-4 วินาที


   พออึเสร็จผมรู้สึกอ่อนเพลียอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างกายของผมเริ่มขาดน้ำอย่างรุนแรง น้ำตาผมไหลจากการเบ่งอึอย่างเอาเป็นเอาตาย พอหันไปเห็นกระดาษชำระที่เหลืออยู่ไม่ถึงสองแผ่น ผมก็หัวเราะเยาะโชคชะตาของตนเอง ผมถอดเสื้อออกก็พบว่าด้านหลังเต็มไปด้วยเศษอึที่เท้าผมดีดขึ้นมาตอนวิ่ง สายตาของผมหยุดมองไปที่กางเกงในและบ็อกเซอรของผมนอนสงบนิ่งเป็นก้อนกลมอยู่ และตรงนั้นคือที่พักพิงที่สุดท้ายของมัน..


   ในที่สุดผมก็อยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่าเนื้อตัวเต็มไปด้วยอึของตัวเอง แล้วผมก็หัวเราะออกมา ถ้าผมไม่หัวเราะผมคงต้องร้องไห้แน่ๆ ในขณะที่ผมกำลังจะเปิดประตูเพื่อไปยังล็อบบี้ผมก็ถามตัวเองในใจว่า”จะมีใครในโลกนี้ที่มีคืนที่เลวร้ายไปกว่ากูอีกไหมเนี่ย”


ทันใดนั้นผมก็ได้คำตอบ


      สิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมคือเส้นทางแห่งกองอึ ตรงที่ผมยืนอยู่คือจุดที่มีการกระจายตัวกว้างที่สุด แล้วมันก็ค่อยๆแคบๆลงแล้วไปบรรจบที่ปลายรองเท้าเล็กๆสีขาวคู่หนึ่งที่ไม่ใช่ของใครอื่นนอกจากภารโรงหญิงชาวเม็กซิกันตัวเล็กๆ

เราสองคนสบตากัน เราทั้งคู่ถูกแบ่งแยกกันด้วยสิ่งต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นภาษา วัฒนธรรม และฐานะทางสังคม แต่ตอนนี้เรากำลังมีความรู้สึกแบบเดียวกันอยู่ ผมเห็นมันได้บนสีหน้าของเธอ

       สภาพตอนนั้นผมแก้ผ้าหมด มีคราบอึเลอะตั้งแต่ก้น ขาหลัง ไปยันหัว ผมยืนอยู่ห่างเธอราวๆสิบเมตร เธอคงเดินตามรอยอึมา ถ้าเป็นคุณคุณจะทำยังไง? ผมว่าในหนังสือสมบัติผู้ดีไม่ได้ระบุสถานการณ์นี้เอาไว้หรอก

        ผมยักไหล่ให้เธอพร้อมกับบอกเธอว่า “เอ่อ...ขอโทษนะ ผมหมายความว่า เอ่อ Io siento ราตรีสวัสดิ์ Buenos noche..ถูกรึปล่าววะเนี่ย...ช่างมันเหอะ” จากนั้นผมก็เดินโทงๆเข้าลิฟท์ไป

      เมื่อผมเข้าไปในลิฟท์แก้ว แล้วมองทะลุลงมา ผมก็เห็นเธอร้องไห้อย่างไม่อายใคร โดยสภาพของล็อบบี้บอกเหตุผลได้เป็นอย่างดี ขณะที่ผมวิ่ง ผมไม่เพียงดีดอึขึ้นมาโดนหลัง หัว และก็หูของตัวเองเท่านั้น แต่ยังดีดอึก้อนเล็กก้อนน้อยไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้รับแขก ผนัง ทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ

       ตอนที่ผมกลับมาถึงห้อง แบรตขึ้นไปนอนบนเตียงเรียบร้อยแล้วพอเขาพลิกตัวมาเห็นผมเข้า เขาก็หัวเราะเยาะอย่างไม่ปราณีปราศัย ในที่สุดเขาก็หยุดหัวเราะเพราะกล้ามเนื้อหน้าท้องของเขาทำงานหนักเกินไป เขาต้องใช้เวลาเกือบห้านาทีกว่าจะรวบรวมคำพูดเพื่อพูดกับผมได้ สภาพผมตอนนี้มันน่าหัวเราะเยาะจริงๆ มันทำให้แบรตเจ้าแห่งสุขอนามัยลืมเรื่องพวกนี้ไปเลย

“กะ กะ กางเกงมึงหายไปไหนวะ”

“เพราะมึงนั่นแหละไอ้เวร ความผิดมึงคนเดียวเลว ไอ้ห่าขี้ก้อนเท่าควาย ถ้ามึงไม่ทำส้วมตันนะ กูคงไม่เปื้อนขี้ทั้งตัวและหัวอย่างนี้หรอก”

มันระเบิดเสียงหัวเราะออกมารอบสอง ครั้งนี้มันไม่หยุดหัวเราะนานพอที่จะพูดกับผมได้เลย ผมรวบรวมศักดิ์ศรีเท่าที่มีเหลืออยู่พาตัวเองไปอาบน้ำ ตอนอาบน้ำเสร็จไอ้เวรนั่นยังไม่หยุดหัวเราะผมเลย เขาพยายามอย่างมากที่จะพูดอะไรซักอย่าง จนผมจับใจความได้ว่า

“ชัดรึยังเพื่อน เวรกรรมมีจริงว่ะ เที่ยวนี้แม่งกรรมติดจรวจซะด้วย”



----------------------------------------
ตอนนี้ยาวเน๊อะ
คาแบลท์มันค่อนข้างแหกกฎพระเอกทั่วๆไปนิดนึง(นิดเหรอ?) นักอ่านหลายๆท่านต้องทำใจหน่อยนะคะ

พระเอกเรื่องนี้มันเลวจ๊าดดดดดด
55555

dragonfly08

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part6 09/10/10
«ตอบ #128 เมื่อ09-10-2010 22:35:09 »

 :jul3: :m20: :laugh:

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part6 09/10/10
«ตอบ #129 เมื่อ10-10-2010 01:25:09 »

 :laugh: :laugh: :laugh:
เหลืองอร่าม งามตาเลยพ่อคุณ
อ่านปิดท้ายก่อนนอน ขำซ๊ะลืมความง่วง

+1 ขอบคุณค่ะ :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part6 09/10/10
« ตอบ #129 เมื่อ: 10-10-2010 01:25:09 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






getto

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part6 09/10/10
«ตอบ #130 เมื่อ10-10-2010 23:15:44 »

 :กอด1:ป้า
ตอนนี้ทั้งฮาทั้ง....
กลุ่มนี้นี่ไปที่ไหน เอาตามตรงซวยทุกที่ :laugh:
สงสารคนมาตามเก็บกับผู้พบเห็นจริงๆ

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part6 09/10/10
«ตอบ #131 เมื่อ11-10-2010 12:56:28 »

โอย อ่านแล้วเหม็น
กร้ากกกกกกกกกกกส์

ดีนะอาหารมื้อนี้ไม่ใช่ผัดฟักทอง พี่ปุ๋ยขรา นุ่นถึงกับกินข้าวต่อไม่ไหวเลย
ไม่ใช่เพราะภาพกับกลิ่นนะคะ แต่ถึงตอนที่พิมพ์รีพลายอยู่นี่ก็ยังไม่หยุดขำ
โอย เหนื่อย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


(มีพิมพ์ผิดสองสามที่นะคะ ที่ตอนที่แล้ว บรรทัดแรกเลยที่หนึ่ง แล้วก็ตอนนี้ตรงที่ไทริคกำลังมีความสุข "ราวกับ" ควายเจอปลัก ราวนะคะ ไม่ใช่เรา)
ไม่ไหวแล้ว ขำเหนื่อยมาก สงสารคุณแม่บ้าน สงสารล๊อบบี้โรงแรม กร้ากกกกกกกกกกกกกกส์

ออฟไลน์ CanonDNattari

  • ☆.•:*´เชื่อในสิ่งที่เห็นและต้องการให้เป็น ¨`*:•☆
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part6 09/10/10
«ตอบ #132 เมื่อ12-10-2010 16:46:29 »

 :m20: :jul3: :laugh:
ด้วย ตกลงมีพระเอกไหมคุณปุ๋ยเรื่องนี้นะ อ่าน ๆ มาหลายตอนเหมือนจะเห็นแต่พวกป่วนเมือง ไม่ก็ตลกคาเฟ่  :m20: อีกรอบ
Ps. กำลังเครียด ๆ กับงาน มาเจอแก๊งค์นี้ โอ้ยไม่ไหว เจ้านายถามไอ้นัทแกเป็นไร หัวเราะกับหน้าคอม  :laugh:
+1 จ้า

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part6 09/10/10
«ตอบ #133 เมื่อ12-10-2010 17:02:49 »

คาเบลลเอร้ยยยย แน่ใจนะว่าเป็นแบดบอย

อ่านตอนนี้เหมือนเป็นเด็กปัญญาอ่อนมากกว่า  o18

สงสารคนเก็บขี้

55555555




ดูเขามีความสุขเรากับควายได้แช่ปลักเลยที
นายว่าฉันควรเอาไวดีล่ะ

ออฟไลน์ ლїЯдςLΣϛlθTtεR

  • มิราเคิ้น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +355/-3
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part6 09/10/10
«ตอบ #134 เมื่อ12-10-2010 21:02:17 »

เม้นให้ป้าก่อน ดันๆๆๆๆ
เด๋วมาอ่านนะป้า คิคิ

ออฟไลน์ CanonDNattari

  • ☆.•:*´เชื่อในสิ่งที่เห็นและต้องการให้เป็น ¨`*:•☆
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part6 09/10/10
«ตอบ #135 เมื่อ14-10-2010 18:41:56 »

เข้ามาดันแก๊งค์อัจฉริยะก่อน อึบ ๆๆๆ

ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part7 20/10/10
«ตอบ #136 เมื่อ20-10-2010 16:52:18 »

วันที่สาม

วันรุ่งขึ้นผมตื่นตอนที่ไทริคกลับมาประมาณสิบโมง ผมเล่าเรื่องขี้ๆให้เขาฟัง หลังจากเขาตั้งตัวจากการหัวเราะได้แล้วเขาก็เล่าเรื่องหลังจากที่ผมและแบรตแยกตัวออกมาให้ฟัง

“ขอบใจนายมากนะฮูแซก สำหรับความหวังดีประสงค์ร้ายของนายเมื่อคืน” ไทริคเล่นงานผมก่อน

“เฮ้! ไม่ใช่ความผิดของฉันนะที่นายตกไปอยู่ในฝูงพะยูนน่ะ” ผมรีบแก้ตัว

“ทำไมล่ะ แม่นั่นส่งเสียงเรียกพะยูนตัวอื่นตอนที่นายกำลังมุดเข้าถ้ำเธอเหรอ” แบรตแหย่เขาบ้าง

“ส้นสิ” ไทริคสบถอย่างหัวเสีย

“งั้นนายก็ฟันเธอแล้วสิ” ผมถามไทริคอย่างจริงจัง

“เออ”

“โอ ฉันแทบรอไม่ไหวแล้วว่ะที่จะได้เห็นแม่พะยูนนั่นจูงเด็กอ้วนหัวโตอัจฉริยะมาหาแล้วบอกว่าเด็กนั่นเป็นลูกนาย” ผมแหย่เขาไม่เลิก

“อะไรนะ! นายฟันเธอแล้วเหรอ แล้วให้แหวนหมั้นเธอไปรึยัง” แบรตล้อต่อไปอีก

“แม่นั่นมีอยู่แล้ว” ไทริคบอก

“คุณตัวชัดๆ” แบรตสรุป



   แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้เราได้หัวเราะกันอีกยกหนึ่ง จริงๆยัยอ้วนนั่นบอกแบรตไปแล้วว่าเธอกำลังจะหมั้นกับแฟนซึ่งออกไปนอกเมืองพอดี(แต่ไม่ได้บอกไทริค) ปรากฎว่าแบรตพูดถูกทุกอย่าง แม่นั่นก็เป็นแค่คุณตัวตอแหลอีกคนหนึ่งเท่านั้น ไทริคเล่าต่อว่า

“มิน่า แม่นั่นถึงไม่ยอมให้ฉันฟันเธอบนเตียง เพราะเตียงเธอหักน่ะเอง แล้วเธอก็ไม่อยากให้เพื่อนรู้ว่าเธอนอกใจแฟน”

“ฉันเกลียดผู้หญิงว่ะ” แบรตเริ่มมีอารมณ์

“พวกนายน่าจะได้เห็นตอนที่เธอมาส่งฉันเมื่อเช้านะ พอมาถึงโรงแรมเธอก็บอกว่า’ขอบคุณนะ ดีใจจริงๆที่ได้เจอคุณ’” ฉันก็เลยตอบกลับเธอไปว่า ‘ก็งั้นแหละ ขอบใจที่มาส่งนะ’ ไทริคเล่าต่อ

“นายไม่ได้ชวนเธอมากินข้าวเช้าด้วยกันเหรอ” ผมถาม

“เลี้ยงทำซากอะไรเล่า” เขาสบถอีกครั้ง

“เขาไม่มีปัญญาเลี้ยงน่ะเพื่อน กำลังมีปัญหาด้านการเงิน” แบรตสรุปให้อีกครั้ง



   จากนั้นผมบอกให้แบรตโทรลงไปที่ฟร้อนท์ให้ส่งคนมาช่วยจัดการห้องน้ำให้หน่อย สามสิบนาทีต่อมาเธอก็มาถึงห้องของเราหน้าตาของเธอยังกับย่าของผมเลยล่ะ มาถึงเธอก็ตวาดใส่พวกเรา

“ใครทำส้วมฉันตัน” เธอถามด้วยสำเนียงแม็กซิกัน

“ผมเองครับ ขอโทษจริงๆ แล้วพรุ่งนี้ผมจะเขียนจดหมายมาขอขมาคุณ” แบรตแสดงตัว

“ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ขึ้นไปเปื้อนบนเพดานเหมือนที่คนเมื่อคืนเจอ ฉันล่ะอยากรู้จริงๆอึมันขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ยังไงกัน” เธอว่า



   เธอเริ่มทำงานอย่างเชี่ยวชาญทันที ทุกๆสองสามนาทีเธอจะส่งเสียงออกมาจากห้องน้ำ “พ่อคู๊ณ กินอะรัยกันกันปายเนี่ย ฉ้านว่าพวกคุณต้องกินอีโมกันบ้างก็ดีนะ ฮ่าๆๆๆๆ”



   วันนั้นเราใช้เวลาหมดไปกับการพักผ่อน จากนั้นก็รวมตัวกันอีกครั้งที่อพาร์ทเม้นท์ของแมทธ์ เราอุ่นเครื่องกันเล็กน้อยก่อนจะออกไปต่อกันที่ออสตินอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เราไปในย่านคนทำงานมากกว่าย่านนักศึกษา เราแวะร้านร้านหนึ่งซึ่งมีชัพเฟิลบอร์ดให้เราเล่น และเชลดอนก็ติดไอ้เกมส์นี่อย่างบ้าคลั่ง


   ผมกับดอร์ธตี้แข่งกับทีมของเชลดอนและแมทซ์ ตลอดสองชั่วโมงทีมผมชนะตลอด ชัยชนะของเราทำให้เชลดอนโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเพราะเขามั่นใจในการเล่นของเขามาก ทุกครั้งที่ผมชนะความภาคภูมิใจของเขาจะลดลงเรื่อยๆ

   เขาเลยเริ่มดื่มด้วยความขมขื่น ดูเหมือนเขากำลังดับความโกรธด้วยแอลกอฮอล์ ยิ่งเราชนะเขายิ่งดื่มเร็วขึ้น หลังจากแพ้ติดต่อกันสองชั่วโมงเขาก็เมาแอ๋แถมยังพลุ่งพล่านไปด้วยอารมณ์โกรธ ในฐานะเพื่อนที่ดีผมก้ต้องทำหน้าที่เป็นผู้ชนะที่ดีด้วย


“ฉันคิดว่านายจะเล่นเกมส์นี่ได้ดีซะอีกนะเชลดอน แต่นายทำเราผิดหวังว่ะ ฉันกับดอร์ธไม่อยากเล่นแล้วว่ะ เอาชนะนายนี่แม่งโคตรหมูเลยว่ะ นายนี่มันตุ้ดจริงๆ แฟนนายไม่ได้เอา’ไอ้นั่น’ใส่มาให้ในสัมภาระนายรึไง” ผมถากถางเขาตามประสาคนชนะ

“ไอ้พวกเวร ฉันจะเตะตูดพวกแก!”เขาคำรามด้วนความโกรธ

“เล่นชัพเฟิลบอร์ดให้ชนะยังไม่ได้เลย จะมีปัญญาเตะฉันเหรอวะ นายเป็นง่อยรึปล่าววะ โยนลูกยังไม่ตรงเลย ฉันเจ๋งกว่านายเยอะ นายมันห่วยแตก กินเหล้ายังสู้ฉันไม่ได้เลย” ผมยั่วเขาต่อ

“อะไรนะ? แกน่ะเหรอ? แกน่ะคออ่อนที่สุดที่ฉันเคยเจอมาเลยฮูแซก แก่มันคออ่อนยังกะเด็กเจ็ดขวบ” เขาเย้ยผมกลับแล้วเสนอสิ่งที่อาจจะเปลี่ยนแปลชีวิตเราไปตลอดกาล

“มาเลยไอ้เวร ฉันจะกินเหล้าแข่งกับแก ต่อให้สามหนึ่งเลย เหล้าอะไรก็ได้ แกกินหนึ่งฉันกินสาม ไอ้อ่อนเอ๊ย”

   ผมยั่วโมโหเขาหนักไปหน่อย แทบทันทีที่เขาเชลดอนพูดจบ แมทซ์ก็ปรากฎตัวขึ้นพร้องกับเตอกีล่าสี่แก้ว เตอกีล่ากับผมนี่เป็นอะไรที่ไปกันไม่ค่อยได้ซะด้วย เพราะมันจะเปลี่ยนผมจาก “คาแบลท์ ฮูแซกผู้มีความสุข” ไปเป็น “คาแบลท์ ฮูแซกผู้ก้าวร้าว ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า”

“ฉันยอมกินฉี่ดีกว่าเตอกีล่าว่ะ” ผมบอกแมทซ์

แมทซ์ทำจมูกฟุดฟิดแล้วบอกว่า“ฉันได้กลิ่นตุ๊ดว่ะ”



    เอาก็เอาวะ...ผมกรอกเหล้าเข้าปาก พยายามเต็มที่ไม่ให้อ้วกออกมา พยายามอย่างเต็มที่ไม่ให้อ้วกออกมา เหล้านี่อัศจรรย์จริงๆ นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ผมถูกคนอื่นชักจูงให้ทำเรื่องที่ไม่อยากทำขึ้นมา


   เชลดอนจัดการกับสามแก้วตรงหน้าอย่างไม่ยากเย็นอะไร ห้านาทีต่อมาแมทซ์ก็เอาเหล้ามาอีกสี่แก้ว ผมกับเชลดอนจ้องหน้ากัน เหมือนเข้าใจกันดีว่าถ้าจัดการกับเหล้าที่อยู่ตรงหน้า เราทั้งสองคนจะจบเกมส์ทันที ผมคงต้องไปอ้วกในขณะที่เขาจะระเบิดอารมณ์และพับไปในที่สุด แต่ตอนนั้นเราเป็นหนุ่มเลือดร้อน คุณคิดว่าเราจะลดราวาศอกกันไปง่ายๆเหรอ


   ผมจัดการกับส่วนของผมก่อน เพราะดูแล้วคงจะไม่เสียหายอะไรถ้าจะลุกไปอ้วก เพราะผมไม่ได้เป็นคนท้า พอเชลดอนซัดแก้วที่สองไป ผมก็พุ่งไปอ้วกที่ถังขยะทันที


   ต่อจากนั้นก็เป็นตาของเชลดอนที่จะเยาะเย้ยผมอย่างไร้ความปราณี ผมจำต้องทนรับมัน เพราะผมเพิ่งจะอ้วกแตกหลังจากซัดเตกีล่าไปแค่สองแก้ว(และเบียร์อีกอย่างน้อยสิบหกแก้วที่ผมล่อไปก่อนหน้านั้น) สิ่งที่พอจะปลอบใจผมได้หลังจากตอนที่เชลดอนซดเหล้าแก้วสุดท้าย ภาพตรงหน้าของผมเหมือนดูไฮไลท์กีฬา ทุกอย่างเคลื่อนไหวแบบสโลว์โมชั่น เหมือนกับได้เห็นวินาทีที่นักมวยถูกน็อค วินาทีที่นักฟุตบอลถูกสกัดจนกระดูกหักแล้วกระดูกทิ่มออกมา สำหรับเชลดอนเขาค่อยๆทรุดลงไปกอง ตาของเขากลอกไปมาอย่างไร้ทิศทางเหมือนตากิ้งก่า เข่าค่อยๆทรุดลงไปจนต้องพยุงตัวไว้กับโต๊ะ อนาคตของเขาจบลงคืนนี้เช่นเดียวกับผม เขาพยายามจะยืนขึ้นอีกครั้ง แต่ผมดื่มกับเขามานานพอที่จะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นขึ้นต่อไป คืนนี้เขาต้องไปนอนในมุ้งสายบัวแหงๆ



   แบรตเดินเข้าไปที่ซุ้มเครื่องดื่มเพื่อสั่งเบียร์ให้กับเราทุกคน เขาแวะคุยกับผู้หญิงที่แก่กว่าพวกเราคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่นั่น พร้อมกับอุ้มหมาพุดเดิ้ลไว้บนตัก

“ฉันอยากกลับไปเป็นสาวๆอีกครั้งจัง จะได้มีชีวิตชีวาเหมือนกับพวกคุณ” เธอเริ่มบทสนทนา

“เราก็แค่กินเหล้ากับอาหารแม็กซิกันเข้าไปเยอะๆแค่นั้นเอง คุณก็ทำได้” แบรตบอกเธอ

“คุณนี่ตลกจริงๆ” เธอดูจะถูกใจแบรต


   ระหว่างที่เขาคุยกับเธออยู่ แบรตก็แอบเอาเบียร์ให้หมาของเธอกิน พอเธอเห็นเข้าก็ออกอาการไม่ปลื้มเอามากๆ

“โอวพระเจ้า คุณทำอะไรน่ะ!  ปุ๊กกี้ๆหนูเป็นอะไรมั้ยลูก” เธออุทานอย่างตกอกตกใจ

“หมาคุณดูเหมือนจะมีปัญญาติดเหล้าน่ะ คุณควรจะเอาใจใส่มันหน่อยนะ พามันไปบำบัดที่ศูนย์เลิกเหล้าสำหรับหมาหรือที่ไหนสักที่สิ” แบรตตอบด้วยเสียงทุ่มๆแหบๆของเขาอย่างใจเย็น

“คุณเอาเบียร์มาให้หมาฉันกินทำไม” เธอต่อว่าแบรต

“เฮ้ อย่ามาปรักปรำนะ หมาคุณกินเบียร์ผมเองต่างหาก” แบรตรีบปกป้องตัวเอง

   ถึงตอนนั้นคนชงเหล้าก็เดินเข้ามา

“ผมขอเชิญทุกคนออกไปจากร้านครับ” เขาไล่เราอย่างสุภาพ

“อะไรนะ! ผมเป็นนักกีฬา ผมรวยและอัจฉริยะมาก  ผมหนักแปดสิบกิโล สุขภาพดี สามารถรีไซเคิลเหล้ากลับมาใช้ประโยชน์ได้ คุณมาพูดอะไรไร้สาระน่ะ ไปเอาเบียร์กับสาวๆมาให้ผมอีกเยอะๆดีกว่า ให้ไว!” แบรตโวยวายใส่หมอนั่น

“อย่าให้ผมต้องเรียกตำรวจนะครับ” เขาย้ำอีกครั้ง



    โดนไล่ออกมาจากร้านเป็นเรื่องปกติของเราอยู่แล้ว แมทซ์พาเราไปหาร้านใหม่ที่อยู่ลึกเข้าไปในตรอก ขณะนั้นเองก่อนที่พวกเราจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรเชลดอนก็จับเอาถังขยะมาทุ่มใส่คอนเทนเนอร์ของรถขยะ แล้วก็เตะจนประตูคอนเทนเนอร์เกือบหลุดออกมา ตอนนี้โปรแกรมทำลายล้านของเชลดอนเต็มพิกัดแล้ว หมอนี่เป็นประเภทที่หากคุณเห็นเขาเมา คุณจะสัยทันทีว่าทำไมคนเราถึงจัดแอลกอฮอล์ไว้เป็นยาเสพติดประเภทกดประสาท



   เราต้องรีบพาเขาออกไปที่ถนนโดยด่วน ระหว่างที่เราไม่รู้จะจัดการกับเขายังไงดี เราก็เดินมาถึงถนนสายที่หก ซึ่งแถวนั้นนักดนตรีข้างถนนอยู่เต็มไปหมด นักกีต้าร์กำลังเล่นเพลง เฟรนด์ อิน โลว์ เพลสเซส ของการ์ธอยู่ ก่อนที่พวกเราจะรู้ตัวเชลดอนก็เข้าไปกอดคอหมอนั่นร้องเพลง

“เพราะฉันมีเพื่อนในที่แห่งนี้..ที่ที่มีเหล้าล้างความเศร้า...แต่ฮูแซกมันเอากับเกย์” ท่อนสุดท้ายเขาแต่งเอง

   นักกีต้าร์หยุดเล่นเพลงทันทีพร้อมกับพยายามสลัดเชลดอนออกจากตัวเขา

“นายวางขวดเบียร์ซะก่อนดีกว่า ที่เท็กซัสมีกฎหมายห้ามกินเหล้าในที่สาธารณะนะ” เขาบอกเชลดอน

“หรือนายจะอาวววววววววววว” เชลดอนเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง

“เชลดอนหยุด! ไม่มีอะไรหรอก เขาแค่อยากจะช่วยนายร้องเพลงน่ะ” ประโยคสุดท้ายผมหันไปพูดกับนักกีต้าร์

“แล้วก็อยากกระทืบคนด้วยว้อยยยยยยยยยยยยย มาเลยไอ้ตูดหมึก เล่นเพลงของเการ์ธให้ฉันหน่อย ถ้าไม่ ฉันจะเดินไปเตะปากของแก เข้ามาเล้ยยยยยยยยยย” เชลดอนเริ่มท้าตีท้าต่อย

“ผมว่าคุณพาเพื่อนคุณไปดีกว่า” นักกีต้าร์บอกผม



   ถ้าผมได้เงินครั้งจะหนึ่งเหรียญจากประโยคที่ว่า “ผมว่าคุณพาเพื่อนคุณไปดีกว่า” ป่านนี้ผมซื้อเฟอร์รารี่ขับได้แล้ว



   จากนนั้นเราก็แห่กันไปที่คลับเปลือยอีกแห่ง ความคิดของเราตอนนั้นตลกสิ้นดี เราตัดสินใจไปที่นั่นกันเพราะเชลดอนเมาจนเดินอาละวาดไปทั่ว เราคิดว่าการพาเขาไปที่ที่มีผู้หญิงเปลือยกับนักเลงคุมร้านจอมโหดน่าจะช่วยเขาได้บ้าง ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ สถานที่ที่มีแต่ความรื่นรมย์และลูกแมวยั่วสวาท


   พวกเรามีกันหกคันก็เลยต้องเรียกแท็กซี่สองคัน คันแรกมีผม แมทซ์แล้วก็ดอร์ธตี้ ส่วนอีกคันมีเชลดอน แบรตและไทริค เราใช้เวลาแค่สิบนาทีในการเดินทางไปที่นั่น คันที่ผมนั่งมาถึงที่นั่นโดยไม่มีปัญหา พอลงจากรถแมทซ์ก็บอกว่า “ขอต้อนรับสู่เมืองคนบาป”


   ถ้าคุณออกมาเที่ยวบ่อยๆ คุณจะพบว่าการทำให้เกิดความรื่นรมย์นั้นไม่ใช่สิ่งยากเย็นเลย แค่คุณดูว่าในคืนนั้นคุณอยู่ที่ไหน แล้วทำตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่คุณอยู่ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้นของมันเอง เหมือนกับที่คลับเปลือในคืนนี้


   คนในร้านมีไม่เยอะเท่าไหร่เพราะเป็นคืนวันอาทิตย์ แต่กลับมีนางระบำเยอะแยะทีเดียว คืนนั้นเราสามคนแต่งตัวดีแถมยังมีเงินในกระเป๋าเพียบ เราเข้าไปนั่งได้ไม่นานเท่าไหร่ก็มีนางระบำสี่ห้าคนเข้ามาเตร่อยู่แถวๆโต๊ะของเรา


   หลังจากดอร์ธตี้ประเมินสถานการณ์แล้ว เขาก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผมแล้วเริ่มเปิดเกมส์อย่างที่เขาถนัดทันที “สาวๆคุณรู้ไหมว่าหมอนี่เป็นใคร” เขาชี้มาทางผม “เขาคือคาแบลท์ ฮูแซก เขาอาจจะดูซอมซ่อแต่จริงๆแล้วเขาคือหนึ่งในผู้ก่อตั้งเวบไซด์ยาฮู และเป็นหนึ่งในสี่คนที่ถือหุ้มมากที่สุดด้วย อ้อ..ผมคงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าเวบยาฮูคืออะไร” แต่ในสาวๆพวกนั้นมีสองคนที่ไม่รู้จักเวบยาฮู ส่วนที่เหลือคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดีแถมมีคนนึงถือหุ้นอยู่ด้วย


   แน่นอนว่าเรื่องที่ดอร์ธตี้พูดมาไม่เป็นความจริงเลย แต่เขาใช้หลักการสำคัญที่เขาเรียนมาจากพีทีบาร์นัมสคูลออฟมาเกตติ้ง นั่นก็คือ”ยิ่งโกหกมากคนยิ่งมีโอกาสที่จะเชื่อมาก”


   ผมพยายามถ่อมตัวและทำตัวเฉยๆเข้าไว้ ปล่อยให้ดอร์ธตี้ปั้นเรื่องให้ผม ถ้าเราพยายามจะสอยพวกเธอทั้งหมดด้วยวิธีอื่นโอกาสคงมีไม่มากเท่านี้ ที่เจ๋งที่สุดคือผมสามารถปราบแม่คงที่ถือหุ้นยาฮูลงได้ แม่นั่นดูจะมีความรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้นอยู่นิดหน่อย ก็เลยลองภูมิผมโดยถามผมว่าซีอีโอยาฮูเป็นใคร ก่อนจะตอบผมจ้องหน้าเธอเขม็งแล้วพูดว่า “อย่ามาล้อเล่นน่า ผมมีส่วนหนึ่งในการจ้างทิม คูเกิ้ลด้วยซ้ำ” เธอแทบจะคุกเข้าให้ผมตรงนั้นเลยล่ะคุณ


   เพื่อบทบาทที่สมจริง ผมก็เลยสั่งเปิดเหล้าทั้งขวด พอรู้ตัวอีกทีสาวๆพวกนั้นก็ขึ้นมาเต้นอยู่บนตักให้เราฟรีๆ ในบรรดาหนึ่งในนั้นมีคนหนึ่งเคยเล่นหนังโป๊มาก่อน ผมจึงถามเธอในเรื่องที่ผมคาใจมานาน

“ผมพอเข้าใจนะว่าเวลาเลือกผู้หญิงไปแสดงหนังโป๊น่ะเขาทำกันยังไง แล้วผู้ชายล่ะ ถ้าคุณไม่ได้มีน้องชายขนาดยักษ์ หรือไม่ได้พ่นพิษได้มากกว่าคนปกติแต่อยากเล่นหนังโป๊ต้องทำยังไง”

“ของพรรค์นั้นเรียกว่าเครือข่ายเพื่อน เครือข่าย” แมทซ์แทรกขึ้นมา

“ไม่รู้สิ ที่ฉันทำก็แค่นอนกับผู้ชายตามที่เขากำกับ แล้วจ่ายให้ฉันหนักๆก็พอแล้ว” นางระบำคนนั้นตอบ

“ฟังดูดีเนอะ ผมว่าพ่อแม่คุณคงภูมิใจในตัวคุณมากแน่ๆ” ผมประชด


   ในที่สุดเราก็ชวนสาวๆทั้งห้าคนนั่นมาที่โรงแรมได้สำเร็จ ตอนนั้นเองแมทซ์ก็นึกขึ้นได้ว่า “เชลดอนไปไหววะเนี่ย”


   เรามัวแต่ง่วนอยู่กับการคั่วนางระบำจนลืมพวกเขาสามคนไปเลย ผมเอาโทรศัพท์มาดูก็พบว่าไทริคโทรมาตั้งสี่ครั้ง ซึ่งตอนที่เขาโทรเข้ามาผมแค่สงสัยว่า’อะไรมันสั่นอยู่ในกระเป๋ากูวะ’เท่านั้น


   แมทซ์คว้าโทรศัพท์จากมือผมแล้วออกไปหาที่โทรข้างนอก ราวห้านาทีเขาก็กลับมาพร้อมกับใบหน้าที่ดูโมโหสุดๆ “เฮ้ยเพื่อน เชลดอนอยู่โรงพักว่ะ เราต้องรีบไปด่วนเลย”

   เราจำเป็นต้องทิ้งนางระบำพวกนั้นกับคืนที่ควรจะเต็มเปี่ยนด้วยความหฤหรรษ์ไว้ แล้วกลับไปที่โรงแรมซึ่งไทริครอเราอยู่แล้ว เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในแท็กซี่คันที่พวกเขานั่งให้เราฟัง


   ทันทีที่ขึ้นแท็กซี่ไทริคกับแบรตก็รู้ทันทีว่าเชลดอนเมาหนักกว่าที่คิดอาการของเขาข้ามขั้นที่เรียกว่าเมาอาละวาดไปสู่การเมาไร้สติเรียบร้อยแล้ว สองคนนั้นพยายามทำให้เขาตื่นโดยคำถามต่างๆกับเขา แต่เชลดอนตอบคำถามวกไปวนมาจนกระทั่งเขาฟุบลงบนตักของแบรต สองนาทีต่อมาแท็กซี่ใกล้ถึงร้านเต็มทีจู่ๆเขาก็ลุกขึ้นพรวดพราดพร้อมกับตะโกนเสียงดังว่า “เราต้องจอดเดี๋ยวนี้!”


   คนขับแท็กซี่เข้าใจว่าเชลดอนอยากอ้วก เขาจึงขับรถเข้าไปจอดในลานของร้านสะดวกซื้อทันที เชลดอนพุ่งตัวออกจากรถเดินโซเซอยู่สองสามวินาทีก่อนที่จะถอดกางเกงแล้วฉี่ตรงกลางลานจอดรถนั่นแหละ


   เชลดอนยืนแอ่นหน้าแอ่นหลังด้วยความเมา ไทริคไม่อยากให้เขาฉี่เลอะกางเกงก็เลยไปยืนข้างหลังเขาแล้วเอาแขนโอบรอบตัวเพื่อดึงให้เขายืนตรงๆ



   ผมเห็นภาพตามที่เขาเล่าทันที ณ แท็กซัสเวลาเที่ยงคืนวันอาทิตย์กลางลานจอดรถของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง มีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่กางเกงหลุดลงมากองที่หัวเข่า ส่วนชายอีกคนยืนประกบอยู่ข้างหลังแขนโอบรอบลำตัวของชายคนแรก ถ้าเป็นคุณมาเห็นเข้าคุณจะคิดยังไง...

   ผมก็คิดเหมือนคุณนั่นแหละ และตอนนั้นตำรวจก็ขับรถผ่านมาพอดี

   ไทริคเล่าว่าเขาได้ยินเสียงเบรคดังเอี๊ยดก่อนที่ตำรวจประจำเมืองออสตินตัวเบ้อเริ่มจะกระโจนออกมาจากรถพร้อมกับตะโกนใส่พวกเขาด้วยสำเนียงแท็กซัสว่า

“นั่นพวกนายทำบ้าไรกันน่ะ”


   แบรตพยายามออกจากแท็กซี่เพื่ออธิบายให้ตำรวจฟัง แต่หมอนั่นชักปืนออกมาพร้อมกับตวาดใส่เขา “อยู่ในรถนั่นแหละ” แบรตเชื่อฟังอย่างว่าง่าย เพราะเขาไม่ใช่คนชอบเสี่ยงกับอะไรอย่างนี้


   ไทริคปล่อยเชลดอนแล้วก้าวออกมายืนด้านหน้า “ขออภัยครับคุณตำรวจ ขอให้ผมได้อธิบายหน่อย เพื่อนผมเมามาก เราจอดรถตรงนี้เพราะคิดว่าเขากำลังจะอ้วก แต่จริงๆแล้วเขาปวดฉี่ ผมไปยืนข้างหลังเขาเพื่อที่จะช่วยให้เขายืนตรงๆ ตอนนี้เขาเมามากแล้ว ผมจะพาเขากลับไปนอนที่โรงแรม”


   แต่ในหัวของตำรวจออสตินเต็มไปด้วยขี้เลื่อย เขาบอกว่า “งั้นเหรอ นายก็เลยคิดว่าจะยืนฉี่ตรงนี้ได้ ข้างถนน กลางลานจอดรถของร้านสะดวกซื้อ ห่างจากที่นี่ไปสองแยกมีโรงพยาบาลอยู่ เราพยายามอย่างมากที่จะรักษาสุขอนามัยในบริเวณใกล้เคียง แต่นายกลับมายืนฉี่เนี่ยนะ”


   โชคดีที่ไทริคมีคุณสมบัติในการอดทนสูงมากเพราะเขาเป็นลูกนายทหาร เขาจึงยังใจเย็นอยู่ และใช้เวลาห้านาทีต่อมาอธิบายสิ่งต่างๆให้ตำรวจฟังอย่างสุภาพและมีเหตุผล เขายืนยันกับตำรวจว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยและดูเหมือนเขาเกือบจะดึงเชลดอนออกมาจากปัญหาสำเร็จอยู่แล้ว


   ตำรวจอีกคนที่อยู่ในรถดึงตัวเชลดอนไปคุยอีกทาง ไทริคบอกว่าเขาเผลอไปแค่สองนาทีหันไปอีกทีก็เห็นเชลดอนออกท่าออกทางโมโหสุดขีด ชี้หน้าด่าตำรวจว่า”ไอ้หัวปิงปอง”พริบตาเดียวเชลดอนถูกใส่กุญแจมือแล้วยัดเข้าไปในรถตำรวจ ตอนที่ตำรวจออกไปเชลดอนยังเอาเท้าเอาถีบกระจกหลังปึงปังอยู่เลย และตอนนั้นแหละที่ไทริคเริ่มโทรหาผม




   ตัดกลับมาที่โรงแรมตอนนั้นราวๆตีสามแล้ว เราตัดสินใจว่าจะส่งไทริคกับแมทซ์ไปประกันตัวเชลดอนออกมา ตกลงกันได้คนที่เหลือก็เข้านอน(ตอนนั้นเราง่วงและยุ่งกับเรื่องของเชลดอนมากจนลืมไปว่าแบรตหายไปอีกคน) ตื่นมาอีกทีตอนแปดโมงเช้าปรากฎว่าพวกเขายังไม่กลับมา โทรศัพท์ผมก็ไม่ได้เปิด พอเปิดเครื่องมาก็พบว่ามีข้อความเสียงมาสี่ครั้ง ผมเปิดฟังแล้วก็ขำกลิ้งจนต้องปลุกพวกที่เหลือขึ้นมาฟังด้วย


ข้อความที่หนึ่ง – 01.30 “ไอ้เวรเอ๊ย! ตอนนี้ฉันอยู่ในคุกว่ะ...เอ่อคุกไงเพื่อน ห้องขังประจำเมืองออสตินน่ะ นายต้องโทรหาฉันด่วยเลยนะโว้ย รีบมาประกันตัวฉันออกไปที  ฉันอยู่ในคุกโว้ย! ช่วยด้วย”


ข้อความที่สอง – 02.46 “เฮ้เพื่อน ฉันติดคุกอยู่ นี่เชลดอนนะ นายมาเอาฉันออกไปที เอ่อ..ไทริคโทรมา..ไม่ไหวเลยว่ะ มาเอาฉันออกไปด่วนๆ”


ข้อความที่สาม – 07.39 “คาแบลท์ นี่เชลดอนนะ ฉันอยู่ที่โรงพักออสติน เพื่งได้ออกจากห้องขัง ฉันไม่รู้ว่าใครช่วยฉัน แต่นายคงรู้แหละ ช่างมันเถอะ เดี๋ยวฉันจะหาทางกลับไปหาพวกนาย มาดัลลัสเที่ยวนี้ไม่ค่อยโสภาเท่าไหร่เลยว่ะเพื่อน”


อีกข้อความจากแบรต ข้อความที่ทำเอาผมขำจนลงไปกองกับเพื่อน
ข้อความที่สี่ – 05.17 “ฮูแซก แกอยู่ไหนกันวะ เมื่อกี้ฉันเพิ่งฟันแม่สาวอังกฤษคนหนึ่งที่เจอแถวๆโรงแรม เธออายุสิบเก้าเธอบอกฉันว่ายังซิงแต่ตอนนี้ฉันไม่แน่ใจว่ะ แล้วเธอก็สอบตกวิชาแคลลูลัส ฉันปลอบเธอ เธอชอบฉัน เรามีเซ็กส์กันอยู่ๆถุงยางก็แตก ฉันชักออกมาแทบไม่ทัน ฉันซวยแล้วว่ะเพื่อน ไอ้หนูของฉันติดโรคแหงๆ”




-----------------------------

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นและกำลังดันคะ 5555

ตอนหกอีกสองพาร์ทมั้งคะ เดี๋ยวก็เจอชีวิตผกผันของพระเอก(หรือตัวร้ายหว่า) กันแล้วล่ะคะ

ปล. แต่งแบรตกับเจสันไว้เล่นๆตอนนึง ใครจะเอาก็บอกนะคะ เดี๋ยวพีเอ็มไปให้คะ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2010 16:54:09 โดย SweetSacrifice »

ออฟไลน์ ๛゙★βra_11!☆゙

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part7 20/10/10
«ตอบ #137 เมื่อ20-10-2010 18:02:33 »

 :m20: :jul3:

กลุ่มนี้เพี้ยนดี 555
คาแบลท์ น่ารักนะ  o18

อยากอ่าน
แบรตกับเจสัน ด้วยคนค่า  :o8:
 :L2: :L1: :L2:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part7 20/10/10
«ตอบ #138 เมื่อ20-10-2010 20:42:47 »

 ถ้าผมได้เงินครั้งจะหนึ่งเหรียญจากประโยคที่ว่า “ผมว่าคุณพาเพื่อนคุณไปดีกว่า” ป่านนี้ผมซื้อเฟอร์รารี่ขับได้แล้ว

.....  ข้อความนี้การันตีได้ว่า  บ้าทั้งกลุ่ม  และบ้าสุดขีด

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part7 20/10/10
«ตอบ #139 เมื่อ20-10-2010 21:07:26 »

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
รู้สึกเหมือนไม่เจอคาแบลท์และผองเพื่อนนานมาก

กอดพี่ปุ๋ยค่ะ ^o^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part7 20/10/10
« ตอบ #139 เมื่อ: 20-10-2010 21:07:26 »





ออฟไลน์ ๛゙★βra_11!☆゙

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part7 20/10/10
«ตอบ #140 เมื่อ21-10-2010 17:34:41 »

ขอบคุณมากจ้าา !!  :m13:
ได้รับpm แล้ว อ่านแล้ว
ชอบบบ 55

คู่นี้ก้น่ารักอีกคู่ แบรตร้ายม๊าก ~
เถื่อนๆดี :))

อยากอ่านเรื่องของคู่นี้อ้ะ  :-[
555
 :L2: :L1: :L2:

ออฟไลน์ CanonDNattari

  • ☆.•:*´เชื่อในสิ่งที่เห็นและต้องการให้เป็น ¨`*:•☆
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part7 20/10/10
«ตอบ #141 เมื่อ21-10-2010 18:19:54 »

กลุ่มนี้ (ยังคงคอนเซ็ป) เจอที่ไหนบรรลัยที่นั้น  :laugh: เขาคัดเลือกคนเข้ากลุ่มได้สุดยอดดดดด
บีเจ เอ้ยยยยยยยยยยย คิดถูกคิดผิดลูกที่มาเป็นผู้สืบสันดานของแบรตเนี้ย กลุ้มใจแทนน้อง  :laugh:
+1 ให้คุณปุ๋ยจ้า :กอด1: เขาอยากรับเลี้ยงบีเจ ทำไงดี ทำไงดี (ได้ข่าวบีเจกำลังจะมีแม่ใหม่ :z2:)

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part7 20/10/10
«ตอบ #142 เมื่อ24-10-2010 20:09:06 »

บีเจ ถือกำเนิดแล้วใช่ไหมนั่น *0*

ออฟไลน์ ლїЯдςLΣϛlθTtεR

  • มิราเคิ้น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +355/-3
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part7 20/10/10
«ตอบ #143 เมื่อ24-10-2010 22:22:00 »

มันดันป้า
เอ๊ยย
ดันทู้ัป้า
เดี๋ยวเผียป้าเข้าใจผิด คิคิ

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part7 20/10/10
«ตอบ #144 เมื่อ27-10-2010 23:01:26 »

 :3123:

ออฟไลน์ ლїЯдςLΣϛlθTtεR

  • มิราเคิ้น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +355/-3
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part7 20/10/10
«ตอบ #145 เมื่อ31-10-2010 13:05:07 »

 :z1:
รอป้า

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part7 20/10/10
«ตอบ #146 เมื่อ31-10-2010 18:49:34 »

ช่วยโทรตามคนแต่ง

ที่บ้านพักคนชราที  :z3:

ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part8 31/10/10
«ตอบ #147 เมื่อ31-10-2010 20:14:17 »

วันที่สี่-กลับบ้าน

   ปัญหาของเชลดอนยังไม่สิ้นสุด เขาก่อความผิดพลาดไว้อย่างมหันต์เมื่อโทรหาคู้หมั้นขณะเมาจัด ปลุกเธอตอนตีสามแล้วโทรหาพ่อแม่ของเธอด้วย คุณฟังชัดๆนะ เขาโทรหาพ่อแม่ของคู่หมั้นจากในห้องขัง แน่นอนเธอมีปัญหาต้องเคลียกับพ่อแม่ ส่วนตัวเขาถูกข้อหาเมาอาละวาด เขาก็เลยต้องอยู่ออสตินต่ออีกสองสามวัน

   พวกเราที่เหลือทั้งสามคนตัดสินใจกลับดัลลัสกันแล้วค่อยไปที่เดอร์แฮมต่อ ผมให้เหตุผลการกลับดัลลัสกับเพื่อนๆว่า “เรากลับดัลลัสกันได้แล้ว เพราะที่ออสตินนี่คงไม่เหลืออะไรมันส์ๆให้ทำอีกแล้ว แต่ถ้าอยากทำอะไรที่ตื่นเต้นกว่าสองคืนที่ผ่านมาเราคงต้องเผาเมืองหรือไม่ก็ฆ่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเล่นซักคนแล้วล่ะ”

   ผมไปเช็คเอ้าท์ที่โรงแรมเอ็มบาทซี่สูท ผู้จัดการที่นั่นขอคุยกับผมก่อนที่เราจะกลับออกมา “ประทานโทษคะคุณฮูแซก คุณเป็นคนที่ทำให้เกิด...อุบัติเหตุ ที่ล็อบบี้เมื่อวานซินใช่ไหมคะ” ผมยอมรับและขอโทษเธอแต่เธอตีหน้านิ่งใส่ผมพร้อมกับบอกว่า “ดิฉันขอแจ้งให้คุณทราบว่า นับแต่นี้เป็นต้นไป คุณไม่สามารถเข้าพักที่นี่หรือโรงแรมใดๆในเครือเอ็มบาสซี่สูทได้อีก”

   นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย?

   “เรามีฐานข้อมูลรายชื่อ’แขกไม่พึงประสงค์’แลกเปลี่ยนกันระหว่างโรงแรมต่างๆคะ และชื่อของคุณก็อยู่ในนั้นด้วยและหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว เราจึงติดสินใจว่าคุณไม่ควรเข้าพักในโรงแรงของเครือข่ายเราอีกต่อไป”

   ผมเพิ่งโดนห้ามเข้าพักโรงแรมในเครือเอ็มบาสซี่สูททุกแห่งตลอดชีวิต!

   ในที่สุดผมก็เข้าใจว่ากรรมมีจริง

   พอเรากลับถึงดัลลัสเราก็เข้าพักที่โรงแรมเรดิสัน หลังจากที่งีบไปจนถึงเวลาอาหารเย็น คืนนั้นพวกเราออกไปเที่ยวกันในดีพเอลลัม

   คืนนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมใช้เวลาหมดไปกับการดื่มแล้วก็นอนกับผู้หญิง ผมกลับเข้าไปที่ห้องพักตอนแปดโมงเช้า พอเปิดประตูเข้าไปก็พบกับกองอ้วกกระจายเต็มพื้นไปหมดเห็นได้ชัดว่าแซนด์วิชรูเบน(*)ที่แบรตสั่งกินที่บาร์เมื่อคืนนั้นเป็นตัวเลือกที่ผิด เมื่อคืนเขาเมาขนาดที่พร้อมจะถูกหามเข้าห้องฉุกเฉินได้ทุกขณะ เพราะหลังจากดื่มชนิดที่เรียกว่าหัวราน้ำมาตลอดสี่คืนภูมิคุ้มกันความเมาต่างๆของเขาจึงหยุดทำงานโดยสิ้นเชิง สภาพของเขาไม่แตกต่างอะไรจากเด็กหกขวบที่มือกุดเพราะโดนโรคเรื้อนนัก – หลังจากคืนถุงยางแตกไอ้หมอนี่ก็ดื่มให้กับชะตาชีวิตของตัวเองที่เขาคิดเป็นตุเป็นตะเอาว่าอีกไม่กี่เดือนเขาอาจจะตายเพราะกามโรคที่ติดมาจากเธอ ผมและไทริคสัญญากับเขาว่าเราจะตามหาประวัติคร่าวๆของแม่นั่น และหากเราเจอเธอ เราจะลากเธอไปเจาะเลือดทันที นั่นทำให้แบรตดีขึ้นนิดหน่อย

   ผมกับไทริคผลักกันขับรถแซทเทิร์นสีเปลือกมังคุดของผมกลับเดอร์แฮม ส่วนแบรตหลังจากคลานขึ้นมานอนที่เบาะหลังแล้วก็ขดตัวอยู่ในท่าเดียวกับเด็กในท้องแม่และส่งเสียงครางทุกสองสามนาที ตอนผมขับรถไปถึงแถวอาคันซัส เขาก็ลุกพรวดพราดแล้วทุบที่นั่งของผมจนผมตกใจ ผมหักพวงมาลัยเข้าจอดข้างทางทันที ก่อนที่จะหันไปดูเขาผมก็ได้ยินเสียงนำมาก่อน

“อ๊อกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกแหวะ......”

   แบรตเปิดประตูรถ เพิ่งออกไปได้ครึ่งตัวแต่ไม่ทัน เขาอ้วกเลอะรถผมไปเรียกร้อยแล้ว แต่ยังมีระลอกสองอีก เขาก็เลยออกไปอ้วกบนพื้นหญ้าข้างถนนต่อ
   หลังจากใช้เวลาราวๆสิบนาทีหมดไปกับการอ้วกอันแสนทรมาณ แบรตก็คลานกลับขึ้นมาที่เดิมอีกครั้ง เราออกเดินทางต่อ แต่รถแล่นได้ไม่ถึงนาทีหมอนั่นก็เอามือปัดขาให้วุ่นวายพร้อมกับร้องอย่างเจ็บปวด ไอ้ติงต๊องนั่นดันไปเหยียบเอารังมดแดงเข้าตอนลงไปอ้วก เราทั้งสามก็โดนมดแดงที่กำลังโกรธกัดกันถ้วนหน้า ทำให้เราต้องออกจากทางด่วนทันทีที่ทำได้

   เราหยุดแวะปั๊มของพวกผิวดำแห่งหนึ่งในอาคันซัส แบรตทำความสะอาดอ้วกและเอามดแดงออกจากรถโดยใช้หนังสือพิมพ์ เพราะไอ้ปั๊มห่วยๆนี่ไม่มีเครื่องดูดฝุ่น

   เขาทำไปบ่นไปด้วยอารมณ์ห่อเหี่ยวเต็มที่ “วันนี้ต้องเป็นวันที่แย่ที่สุดในชีวิตฉันแน่ๆ ขนาดเพิ่งตื่นมาแค่สามชั่วโมงยังมีเรื่องเฮงซวยขนาดนี้ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย...”

   การเดินทางช่วงที่เหลือเป็นไปอย่างจืดชืด ผมกับไทริคขับรถกันไปก็คุยกันไปเรื่องตรรกะ ปรัชญา เรื่อยไปจนถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆ ส่วนแบรตก็นอนส่งเสียงครวญคราง พอถึงแถบแซตตานูก้า เขาก็เขียนอะไรขยุกขยิกใส่เศษกระดาษแล้วส่งมาให้เราก่อนจะพับไปอีกรอบ  ผมจะอ่านข้อความในกระดาษที่เขาเขียนบอกเราให้คุณรู้ละกัน
 
“ช่วยฆ่าฉันทีเถอะ ทรมาณเหลือเกิน พ่อกับแม่ฉันไปคาปรี โทรหาน้องชายฉันซะคาแบลท์ หมอนั่นจะมารับศพฉันเอง” ข้างล่างมีเบอร์โทรศัพท์ที่เป็นเบอร์บ้านเขียนไว้ ผมยิ้มแล้วกดโทรศัพย์หาเบอร์ที่หมอนั่นจดไว้ ผมไม่ได้ให้น้องชายไอ้ติงต๊องนี่มารับศพมันไปหรอก แต่จะให้มารับหมอนี่กลับไปนิวนอร์คต่างหาก ผมคงไม่ว่างมากถึงขนาดไปส่งแบรตถึงนิวยอร์คหรอก



“ไฮ” เสียงใสๆที่เหมือนจะแตกหนุ่มแต่ไม่ได้แตกส่งมาตามสาย

“ไฮ นี่คาแบลท์ ฮูแซกนะนั่นเนท แมคเทอร์เนอร์หรือปล่าว”

“อือฮึ” เขาขานรับสั้นๆ

“ฉันเป็นเพื่อนของแบรตพี่ชายนาย ตอนนี้เขาแย่มาก นายมารับเขาที่เดอร์แฮมได้หรือปล่าว” ผมบอกเขาเรียบๆ

“เมาแอ๋อีกแล้วล่ะสิ” เสียงของเนทบอกมาอย่างหน่ายๆ ไม่รู้ทำไม ผมถึงยิ้มกับคำพูดธรรมดานั่นแล้วยังเผลยกมือขึ้นเกาท้ายทอยตัวเองจนไทริคหันว่าแซวว่า ‘แกเขินเหรอวะฮูแซก’

“เอ่อ ทำนองนั้นแหละ คุณจะมาได้ตอนไหนครับ” ผมเผลอใช้คำพูดสุภาพกับเขา

“พรุ่งนี้เช้าแล้วกันนะ ฝากคุณดูแลเขาด้วยนะ...อูวววววว ผมต้องไปแล้วล่ะ บ๊าย” ผมยังไม่ทันขานรับเขาก็กดตัดสายทิ้งไปซะแล้ว



หลังจากเราถึงเดอร์แฮม แบรตตื่นขึ้นมาแล้วซัดเบียร์เข้าไปอีกสามกระป๋องจากนั้นก็หลับเป็นตายไปอีกรอบ ไทริคต้องกลับไปเร่งทบทวนกฎหมาย ผมกับแซคจึงรับหน้าที่ดูแลแบรต อันที่จริงหน้าที่นี้เป็นของผมแต่แซคมาเกี่ยวด้วยเพราะหมอนี่เป็นเพื่อนแบรตและหมอนี่ยังเป็นเมทของผม


          รุ่งเช้าเนทโทรเข้ามาหาผมหลังจากที่ถึงสนามบิม แซคอาสาออกไปรับเนทเพื่อมาที่อพาตเม้นท์ของเรา
 
“เฮ้แบรต นายลุกไปอาบน้ำหน่อยไหม น้องชายของนายกำลังจะมาถึงที่นี่แล้ว” แบรตพยักหน้าให้ผมแล้วล้มตัวลงไปนอนต่อ

“เฮ้ๆ ตัวนายเหม็นยังกับศพเลยวะพ่อคนสะอาดนิวยอร์ค นายได้ยินฉันไหมวะ น้อง ชาย นาย กำ ลัง มา”

“เยี่ยม” พูดจบแบรตก็ลุกเข้าไปอาบน้ำทันที ผมจึงลุกไปนั่งจิบกาแฟดูข่าวหน้าโทรทัศน์





“เฮ้” เสียงใสๆเรียกผมให้เบนสายตาจากโทรทัศน์
 
“เฮ้” ผมทักตอบหลังจากจ้องหน้าเขาอยู่พักนึง...ผมก็เพิ่งรู้นี่แหละคุณเอ้ยว่าไอ้รักแรกพบนี่มันเป็นยังไง ถึงแม้ว่าไอ้คนที่ยืนอยู่เหนือหัวผมมันจะเป็นผู้ชายก็เถอะ แต่มันถูกชะตาผมอย่างบอกไม่ถูก


   หลังจากที่เขาถอดโค้ทแล้วนั่งรอแบรตตรงโซฟาตัวเล็กๆข้างๆผม ผมจึงไม่พลาดที่สอดส่องอย่างชำนาญไม่ให้เขารู้ตัว เนทมีเสน่ห์แบบแปลกๆที่ผมก็ไม่สามารถบอกได้ เขาไม่ใช่คนหล่อแต่ก็ไม่ได้ดูธรรมดา  ไม่ใช่พวกที่ดูสำอางแต่ก็ไม่ได้ดูสกปรก ไม่ได้ดูเหมือนเด็กแต่ก็ไม่ได้ดูเป็นผู้ใหญ่ ไอ้ความเป็นกึ่งกลางของเขามั้งที่ทำให้เขาดูมีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ แต่หลังจากที่เราพูดคุยกันได้ซักพักนั่นก็ทำให้ผมค้นพบอีกข้อคือเขาไม่ใช่พวกฉลาดแต่ก็ไม่ได้โง่ แล้วเขายังมีการพูดคุยและนิสัยแปลกๆจนผมคิดว่ามันดูน่ารักอย่างที่ผมไม่เคยเจอ


---------------------------------------

ขอข้ามความสัมพันธ์ของเนทกับคาแบลท์นะคะ เพราะถือว่าเป็นแฟนเก่าเนทคงออกมาแค่ตอนนี้กับตอนหน้าคะ ^^


ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part8 31/10/10
«ตอบ #148 เมื่อ01-11-2010 01:37:51 »

พฤติกรรมของคาแบลท์+แกงค์นี่ ... สุดๆไปเลยใช้ชีวิตได้คุ้มมาก

นั่งฮาตอนที่คาแบลท์ ทำอุบัตเหตุบางอย่างในโรงแรม นึกภาพตาม 555+
เป็นเราคงอายแล้วเช็กเอ๊าออกคืนนั้นเลยอ่ะ อยู่สู้หน้าพนักงานในตอนเช้าไม่ไหว

     ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 6 part8 31/10/10
«ตอบ #149 เมื่อ01-11-2010 11:53:53 »

 :m30: :m30: :m30:
กรรมเวนชีวิต รอบที่แล้วแล้วเหลืองอร่าม
มารอบนี้อ้วกกระจาย อ่านก่อนกินข้าวอีกตะหาก 
พาอิ่มซ๊ะประหยัดไปหนึ่งมื้อ :m15:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด