ตอนที่ 54 เที่ยวทะเล [Part.1]
เย้เฮ้ฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! วันนี้เป็นวันดีครับ พวกผมได้ฤกษ์เดินทางสู่กระบี่แล้วคร้าบบบบบบบบบบบบ^o^ ตื่นเต้นจนนอนแทบไม่หลับ ไปๆมาๆเลยไม่ได้นอน เพราะหลังจากที่ผมจัดของ จัดกระเป๋าเสร็จเกือบๆเที่ยงคืนกำลังจะนอน
ไอ้แทนเสือกโทรมาบอกว่าจะเปลี่ยนเวลาออกเดินทาง จากตีห้ามาเป็นตีสาม เหตุเพราะเชี่ยฟ่างองค์ลง เกิดอยากไปกระทันหัน ห่าแทนแม่งก็เอาใจเมีย เลยโดนไอ้ภูมิด่าไปคนละยกทั้งพี่ชายพี่เขย เพราะภูมิมันยังไม่ได้นอน กูก็ยังไม่ได้นอนเหมือนกัน เชี่ยฟ่าง
สรุปก็ได้งีบกันแค่คนล่ะชั่วโมงสองชั่วโมง แล้วก็ออกจากคอนโดกันตั้งแต่ตีสาม จนตอนนี้จะบ่ายแล้วแต่แม่งยังขับไม่ถึงไหนกันเลยครับ เจอปั๊มก็พัก เจอไข่เค็ม ข้าวหลามข้างทางก็แวะ ตรงไหนสวยๆแม่งก็ลงไปถ่ายรูป ไม่ทราบว่ามึงจะชิลล์กันไปไหนคร้าบบบบ ชาติหน้าจะถึงไหมเนี่ยกระบี่เนี้ยยยยย
อาจจะเป็นเพราะทริปนี้พวกเรายังยึดคอนเซปสโลแกนเดิมประจำกลุ่มครับ นั่นคือ “ชิลล์” สั้นๆง่ายๆได้ใจความ เพราะฉะนั้นการเดินทางสู่จังหวัดกระบี่ครั้งนี้เลยมารถส่วนตัวกัน โดยมีผู้ร่วมอนุโมทนาอาสาเอารถมาสามคัน คือ รถไอ้เบียร์ ไอ้แทน และรถไอ้หมาภูมิ ผู้โดยสารสัมพะเวสีที่เกาะรถไอ้เบียร์ก็มี ไอ้เชน ไอ้มิค ไอ้แมท
ส่วนรถไอ้แทนจะมีใครไปไม่ได้ครับ นอกจากตุ๊กตาหน้าหล่อที่นั่งหน้ารถคู่คนขับ ใช่ครับไอ้ฟ่างนั่นเอง ตามมาด้วยแขกผู้มีเกิบอย่างไอ้ปัน ผมว่าป่านนี้มันคงโดนไอ้ฟ่างล้วงควาบลับไปถึงพวงองุ่นแล้วมั้งฮ่าๆๆ
(ซับไตเติ้ล“เกิบ”เป็นคำนามแปลว่า”รองเท้า” แต่บางครั้งเกิบอาจจะทำหน้าที่เป็นคำกริยาแสดงอาการได้ อาทิเช่น บิน ลอย กระแทกปาก โปเต้น(ผวนเอง) ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และอารมณ์ของผู้สวมใส่ในขณะนั้น เกิบ เป็นภาษาไทยที่นิยมใช้ในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ// ภาษาไทยวันละคำกับทะเลหัวใจ บู่ววว:P)
ส่วนรถภูมิ ก็ต้องมีผมแสตนบายอยู่แล้ว ^^และยังมีไอ้คู่รักป่วนประสาทเชี่ยคิวกับเชี่ยน้องเต้ย นั่งโต้วาทีกันอยู่ข้างหลัง พวกมันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ออกจากกรุงเทพจนจะเข้าประจวบแล้วครับ-_-เรียกว่าไม่ต้องเปิดเพลงรถก็ไม่เงียบเหงา
ผมหันกลับไปมองไอ้สองตัวเขียวๆที่เถียงกันอยู่ข้างหลัง ที่เขียวไม่ใช่มุมปากหรือเบ้าตานะครับ แต่เป็นเสื้อจำได้ใช่มั้ยครับที่ไอ้คิวเป็นโรคชอบให้คนในกลุ่มใส่เสื้อเหมือนกัน คราวนี้มันสั่งมาในตีม รด.ซึ่งมันทำให้พวกผมปวดตับมาก ดีนะที่ผมยังรื้อเจอ ไม่ได้ใส่มานาน แต่ไม่น่าเชื่อว่ากูหาเจอครับ ที่สำคัญกูยังใส่ได้ครับพี่น้อง
ถึงแม้มีเสียงคัดค้านว่าขอเปลี่ยนตีมได้มั้ยแต่สุดท้ายก็ต้องใส่(บอกแล้วว่าไอ้คิวมันมีของ แม้แต่ไอ้ฟ่างยังต้องยอมให้เลยเรื่องเสื้อ) แม่งผ่านด่านตรวจแต่ละทีกูกลัวจะถูกเค้าคิดว่าเป็นทหารกองเกินถูกเรียกไปช่วยรบที่ชายแดนใต้ ก็เล่นเขียวขจีขยี้ปอดทั้งคันรถ เสื้อ รด กางเกงขาสั้น หนีบแตะ เหมือนลดอายุพวกผมไปเยอะเลย แต่ยังไง ไอ่พีมก็หล่อ อุวะ อุวะ ฮ่าฮ่าฮ่า ขอหมายเหตุนิดนึง ภูมิใส่เสื้อ รด แล้ว หล่อมากกกกก
“เฮียๆๆๆเฮียภูมิ เฮียเบียร์จะแซงเราแล้ว เฮียสปีดเลยๆ ทำไมเฮียเบียร์ขับเร็วจังวะ”
“มันก็ขับเร็วสิ ไอ้เบียร์มันเป็นแชมป์แข่งรถ มึงไม่รู้เหรอ” ไอ้ภูมิถาม
“เฮียภูมิก็แชมป์เหมือนกันเต้ยรู้ เฮียอ่ะเร็วๆดิเดี๋ยวพวกเฮียเบียร์ชนะ อ๊ากกก เค้าแซงแล้วอ้า โหยยยยยยย ไอ้แมทต้องหัวเราะเยาะเต้ยแน่ๆ”
เอ่อ เชี่ยน้องเต้ยครับ เราไม่ได้แข่งแรลลี่รถครอบครัวนะเว้ย แต่จะว่าไปแล้วรถพวกผมรั้งท้ายตลอดเลยว่ะ ก็เพราะไอ้เต้ยนี่แหละเดี๋ยวให้จอดดูนั่น เดี๋ยวจะลงซื้อนี่ มีหนนึงตอนนั้นไอ้คิวมันเปลี่ยนมาเป็นคนขับ
(พวกผมจะเปลี่ยนมือกันทุกๆร้อยกิโลเมตรน่ะครับ ขับชิลล์ๆกินลม ขับไม่เร็วเหยียบแค่100 120กรั่กๆ) ไอ้เต้ยมันอยากลงไปซื้อว่าวที่เค้าขายตามข้างทางอ่ะครับ ไอ้คิวก็พาลงไป แล้วมันก็แกล้งทิ้งไอ้เต้ย โดยการวิ่งกลับมาแล้วออกรถไม่รอแฟน กร้ากกกกก ไอ้เต้ยมันโกรธลงไปนั่งกลางถนนเลย ดีนะที่ไม่มีรถสวนมา ไม่งั้นเหอๆ
“เต้ย มึงไปยุ่งอะไรกับเค้า นั่งเงียบๆซักสองนาทีได้มั้ย” เอาแล้วครับ เริ่มเปิดฉากอีกแล้ว
“ก็เต้ยอยากให้รถเรานำหน้าคนอื่น ดูดิอุตส่าห์แซงเฮียแทนได้ ถูกเค้าแซงกลับล่ะ”
“ถ้ามึงไม่บอกให้กูจอดบ่อยๆเราคงไปถึงมาเลเซียแล้วล่ะเต้ย” ไอ้ภูมิยิ้มให้ไอ้เต้ยผ่านกระจก ไอ้เด็กนั่นก็ไม่สนใจ มันคุ้ยถุงของกินต่อ
“แฮ่ ทาร์ตไข่ เฮียพีมเฮียภูมิกินมั้ย”
“ฮื่อไม่เอาไม่ชอบของหวาน แล้วมึงกินไข่ได้แล้วเหรอเต้ย ไหนบอกว่ากินเจ” ไอ้ภูมิถาม
“มันหมดช่วงกินแล้วเฮียภูมิ หม่าม๊าบอกว่าปีนี้เต้ยทำตัวดี ซื่อสัตย์ เต้ยจะได้บุญเยอะ”
“ถุย ซื่อสัตย์? กูเห็นแม่งซื้อหูฉลามมา บอกทำจากแป้ง ถ้ามึงจะกินแบบนั้นนะ กูว่ามึงกินวัวเป็นตัวๆเลยดีกว่า แม่งตัดกิเลสไม่ได้” ฮ่าๆๆ กินวัวเป็นตัวๆนี่ปอบรึเปล่าวะคิว
“ฮุ๊ พี่คิว ก็เต้ยอยากกินอ่ะมันก็ต้องมีบ้าง แต่ช่วงกินเจมันลดการฆ่าสัตว์ได้เหอะ พี่คิวกินไวท์ช็อคป่ะเต้ยป้อนกินมั้ย” สามารถมากน้องกู มีหลายอารมณ์ในประโยคเดียว
“ฮื่อ กูจะขย้อนออกมาล่ะ มึงจะยัดห่าไรนักหนาห๊ะเต้ย เลิกกินได้แล้ว”
“มึงก็เอาใจมันหน่อยดิคิว อย่าเอาแต่ด่าแต่ว่ามัน” ผมหันไปบอก จริงๆคืออยากแกล้งพวกมันมากกว่า ไม่ได้ห่วงไอ้เต้ยหรอก เป็นพี่ที่ดีมากกู คึคึ
“ใช่ๆเฮียพีม พี่คิวชอบว่าเต้ย ด่าเหมือนเต้ยไม่มีหัวใจ เต้ยก็เจ็บเป็นนะ พี่คิวแกะปีโป้ให้เต้ยหน่อยดิ” ปากมันก็พูดไป มือมันก็ควานหาของกินไป คือ มึงไม่ได้จริงจังกับคำพูดมึงเลยใช่มั้ยไอ้เต้ย
“หึหึ มึงปวดหัวมั้ยคิว”
“มากกกกกกกกกกกภูมิ กูพูดจริงๆนะมึง บางครั้งกูอยากได้ยาสลบมาโปะไอ้เต้ยมากมันไฮเปอร์จริงๆนะเว้ย แม่งบางคืนนะ มันลุกมาเต้น ตีลังกาเอาหัวไถไปกับพื้นตอนตีสามสี่ ห่า กูตกใจนึกว่าผีเข้า” ถึงจะบ่นยังไง ไอ้คิวก็กำลังเอาปากแกะปีโป้ โดยมีไอ้เต้ยกัดปากชะโงกหน้าเข้าไปรอลุ้นอยู่ใกล้ๆ
ใครจะพยายามแทรกกลางระหว่างเรา
รู้ไว้นะว่าเขาไม่มีวันเข้ามาได้
จะไม่มีตรงกลางที่เหลือว่างเผื่อใคร
ถ้าใจเรายังผูกกันเสียงเพลงเรียกเข้าของผมดังปุ๊บไอ้ภูมิก็หันมามองปั๊บ และก่อนที่ผมจะกดรับสาย ผมก็ต้องยื่นโทรศัพท์ไปให้ภูมิดูหน้าจอก่อนว่าคนที่โทรเข้ามาเป็นใคร เพื่อที่มันจะได้พิจารณาว่าให้กระผมรับสายได้หรือไม่ได้ ถ้าเป็นเบอร์แปลกๆนี่หมดสิทธิ์ครับ มันจะเอาไปคุยเอง โรคหวงขึ้นสมอง ToT
ซึ่งครั้งนี้คนที่โทรมาก็คือคนที่ขับรถนำขบวนอยู่ ไอ้หมอฟันครับ พอภูมิเห็นมันก็หันไปสนใจการขับรถต่อ
“เออว่าไงมึง….อืม….. เออๆได้” ไอ้เชนมันโทรมาบอกว่าแวะพักรถ(อีกแล้วครับท่าน)
“ว่าไง”
“พวกมันบอกว่ารออยู่ปั๊มหน้า” แวะปั๊มอีกแล้ว -_- กูอยากถึงกระบี่เร็วๆ กูอยากเล่นน้ำ เข้าใจกูม๊ายยยยยยยยยยย
“ดีเหมือนกันเมื่อยแล้ว คิวมึงมาเปลี่ยนกูด้วยนะ”
“อืม เออภูมิ มึงเติมน้ำมันเลยดีกว่า กูขี้เกียจแวะอีก จะได้ขับยาวเลย”
ถึงปั๊มที่นัดแนะกัน ก็เห็นพวกไอ้เบียร์ ไอ้เชนลงมายืนยืดเส้นยืดสาย แต่ไม่เห็นเงาหัวไอ้มิค สงสัยมันคงหลับอยู่ในรถ พอจอดรถให้เด็กปั๊มมาเติมน้ำมัน ไอ้คิวก็กอดคอไอ้เต้ยเดินไปสมทบกับพวกนั้นที่อเมซอน ผมรอไปพร้อมภูมิ เลยลงมายืนบิดคอบิดแขนแก้เมื่อยอยู่ข้างๆตู้จ่ายน้ำมัน ซักพักภูมิมันก็กดเลื่อนกระจกลง
“พีม อย่าไปยืนตรงนั้น เดี๋ยวไฟไหม้” ผมเลิกคิ้ว มองหน้าภูมิงงๆ ไอ้ภูมิมันเลยชี้ไปที่ป้ายที่อยู่ใกล้ๆหัวผม ผมค่อยๆไล่อ่านทีละตัว
“วัต ถุ ไว ไฟ”เชี่ยแม่งงงงงงงง ไอ่ฟายยยยยย ผมวิ่งเข้าไปตบหัวไอ้หล่อเลยครับ มันก็เอาแต่กุมท้องหัวเราะเหมือนถูกใจนักหนา ไอ้ลูกหมา ไอ้เลว ถ้ากูเป็นวัตถุไวไฟ มึงก็เชื้อเพลิงดีๆนี่เอง
สาดดดดดดดดดดดดดด
ช่วงเวลานี้พวกผมกำลังนั่งพัก นั่งจิบกาแฟหอมๆ บรรยากาศในร้านร่มรื่นเป็นธรรมชาติดี เห็นแล้วก็คิดถึงร้านอาปุ้ย สำหรับผมดื่มกาแฟที่ไหนก็ไม่อร่อยติดใจเท่าร้านสวนกาแฟแล้วครับ ขายของสุดตัวนะฮ๊าฟฟฟฟ พอๆ อย่าฮาพีมอย่าฮา
“พีมๆ กูเหมือน ณเดชน์มั้ย” หลังจากพักจนพอใจพวกผมก็เข้ามาซื้อของกินในเซเว่น และไอ้ปันมันกำลังถือขวดน้ำส้มยี่ห้อหนึ่งซึ่งพรีเซนเตอร์คือณเดชน์แฝดน้องของผมเอง(ช่างกล้า) กรั่กๆ มันทำแก้มป่องเหมือนกำลังอมอะไรในปาก “ว่าไงพีม กูเหมือน ณเดชน์ป่ะวะ”
“เหมือน แต่ไม่ใช่ณเดชน์นะ มึงน่ะเหมือน ณ เดดซะมอเล่มากกว่าว่ะ อีกอย่าง…. มึงชอบน้ำส้มหรอว่ะปัน กูนึกว่าแดกแต่น้ำองุ่น หึหึ”
“ไอ้พีมมมมมมมมมมมไอ่ ตะเรี่ยยยยยยยย” อื้อหื้อ เตี้ยเต็มๆหน้ากูเลย แม่งเน้นๆซะด้วย ไอ้ปันเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกจากเซเว่นเลยครับ โอยยย กูฮาปนสะใจ ถึงที่พักก่อนเถอะกูจะเรียกไอ้แทนไอ้ฟ่างมารายงานผล
“พีม ซื้อนมให้ด้วยนะ” ไอ้ภูมิเดินมาสั่งผม ไอ่นี่ก็อีกคนหน้ากูเหมือนเมนูร้านอาหารตามสั่งรึไงวะ แม่งสั่งกูจัง
“นมอย่างเดียวเหรอ เอาขนมอย่างอื่นด้วยมั้ย” แป่วววววว แวว แวว ฮ่าๆไอ่หล่อมันส่ายหน้าก่อนจะลากคอไอ้เชนไปดูหนังสือรถแข่ง ผมก็ไปหยิบนมหมีให้คุณหนูภูมิ เป๊บซี่ ชาเขียว ขนมอีกร้อยแปด
ตอนมาจ่ายเงินเห็นไอ่คุณชายมันกำลังจะจ่ายเลยฝากมันซะเลย ฝากนี่คือฝากของแต่ไม่ฝากเงินนะครับ ฮ่าๆๆๆ ท่านราชนิกูลเบียร์เลยเขกกบาลผมเป็นการเอาคืน
“แฟนก็ไม่ใช่ กูต้องมาจ่ายให้อีก”
“น่าาาาามึง แฟนเพื่อนก็เหมือนแฟนเรา ดูแลดีๆเพื่อนซี้มึงจะได้มีความสุข” ไอ้เบียร์ส่ายหน้าเลยครับ แต่ถามว่าผมอายมั้ย ตอบได้เลยครับว่า ไม่ เพราะกูด้านแล้ว ฮ่าฮ่า
และระหว่างยืนที่ผมกับไอ้เบียร์ยืนรอพี่แคชเชียร์คิดตังค์ ไอ้ฟ่างก็มายืนที่เคาท์เตอร์ข้างๆ มันหันมายักคิ้วให้ผมเพราะสาวแคชเชียร์อีกคนกำลังส่งยิ้มเขินๆและสายตาหวานๆให้มัน
เอ้อ มึงมันหล่อไปไหนสาวก็มองก็ชอบ เดี๋ยวเพื่อนกูมาแล้วมึงจะหนาว พูดยังไม่ทันขาดคำไอ้แทนก็มายืนซ้อนหลังไอ้ฟ่าง จะเรียกว่ายืนซ้อนหรือยืนติดดี ไอ้ฟ่างคงตกใจว่าใครมายืนใกล้ๆมันเลยหันหลังกลับมามอง จมูกไอ้แทนเกือบเฉียดแก้มขาวๆของฟ่างเลย
“ที่รักจ๊ะ จ่ายให้ด้วยนะ”“…………………” ไอ้แทนบอกเสร็จก็เกิดความเงียบขึ้นทันที ทั้งพี่แคชเชียร์คนสวยและคนที่ยืนต่อรอคิวถัดจากผมอีกสองสามคนถึงกับหน้าเหวอไปเลย พอไอ้แทนมันวางของเสร็จก็หันมายิ้มมุมปากให้ผมกับไอ้เบียร์ก่อนจะเดินออกไป
ผมเลยชะโงกเข้าไปดูว่า เชี่ยแทนมันฝากจ่ายอะไรว่ะคนถึงตกตะลึงขนาดนั้น เย้สเข้ OoOกล่อง Durex กระแทกตากูเลยครับพี่น้องคร้าบบบบ ผมเห็นไอ้ฟ่างหลับตาและสูดลมหายใจเหมือนพยายามระงับอารมณ์ มันยิ้มเจื่อนๆให้สาว ก่อนจะหันมาถลึงตาใส่พวกผมให้หยุดขำ ไอ้เบียร์กับผมก็ได้แต่มองหน้ากันก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะ
ฮ่าๆๆๆๆ ไม่ใช่กล่องเดียวด้วยนะครับ ครึ่งโหล กร๊ากกกก ทุกกลิ่น ทุกแบบ
ผมรีบวิ่งออกมาข้างนอกเพื่อเล่าให้พวกไอ้เชนฟัง พวกมันขำกันใหญ่ ซักพักไอ้ฟ่างก็เดินออกมา ตามด้วยไอ้เบียร์ที่หิ้วของให้ ผมสะกิดไอ้เชนเป็นอันรู้กันว่า….ต้องแซว
“ข้าวฟ่างทำไมดูเครียดๆคะ เป็นอะไร” ไอ้ฟ่างหันไปมองไอ้แทนที่ยืนยิ้มพิงรถเขี่ยไอแพดเล่น ก่อนจะพูดเสียงลอดไรฟันว่า
“เป็นม่าย ผัวกำลังจะตาย”กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
และขบวนคาราวานของพวกเราก็ออกเดินทางกันต่อ พอจะเข้าชุมพรไอ้คิวก็เปลี่ยนมาขับให้ภูมิพัก ตอนนี้ไอ้ตัวแสบหลับไปแล้วครับ
“พีม มึงจะไปนั่งข้างหลังกับไอ้ภูมิมั้ย กูจะปลุกไอ้เต้ยให้”
“ไม่เป็นไร ให้น้องมันนอนเถอะ เดี๋ยวกูนั่งเป็นเพื่อนมึงด้วย”
“เหรอ กูก็นึกว่าพวกมึงห่างกันเกินสองวาไม่ได้ หึหึ รู้มั้ยไอ้เชนเรียกมึงว่าถังออกซิเจนประจำตัวไอ้ภูมิ ขาดแล้วมันจะตาย หายใจไม่ออก ฮ่าฮ่า”
“หึหึ” ไอ้ภูมิมันหัวเราะก่อนจะเอนหลับข้างๆไอ้เต้ย
“ลับหลังกูนี่คงเต็มที่เลยเนาะ” ถังออกซิเจนบ้าบออะไร ฮ่วยเดี๊ยะๆไอ้เชน เดี๋ยวกูสับขบวนรถไฟมึงมาชนกันซะหรอก
เราขับมาซักพักทั้งภูมิทั้งไอ้เต้ยก็นอนหลับหัวซุกกัน ผมกับไอ้คิวก็คุยกันเรื่องบ้าบอคอแตก แหกปากร้องเพลง แต่ไอ้สองตัวข้างหลังก็ไม่ตื่นแฮะ และเมื่อมาถึงทางโค้งหนึ่งผมกับไอ้คิวก็หยุดร้องเพลงและหันมามองหน้ากัน
ในกรอบสายตาผมตอนนี้คือผมเห็นรถไอ้แทนจอดอยู่ข้างทางห่างไปประมานสองร้อยเมตรได้ พอขับไปใกล้ๆไอ้คิวเลยชะลอรถและกดเลื่อนกระจกลง ผมนึกว่ารถเสีย ยางแตก ไม่ก็หม้อน้ำระเบิด
แต่พอเข้าไปใกล้ๆไม่ใช่ครับ ไอ้ฟ่างกับไอ้ปันกำลังยื่นฉี่รดหลักกิโลอยู่ กร๊ากกกก แล้วรถพวกไอ้เบียร์ไอ้เชนก็ตามมาถึง รู้สึกจะเป็นไอ้น้องแมทที่เป็นคนขับ พวกมันเปิดกระจกมาตะโกนใส่
“เฮ้ย แม่งพักเอาหนอนเล่นน้ำรึไงว่ะฮ่าๆๆๆ”
“ให้ช่วยพยุงดักแด้มั้ยคะข้าวฟ่าง”
ฮาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
พวกมันโห่แซว เป่าปากเป็นที่สนุกสนาน ไอ้เชนเลยได้รับนิ้วกลางจากไอ้ฟ่างเป็นของกำนัล เมื่อพวกมันแซวจนสาแก่ใจก็ขับรถนำไป ทำได้แสบมาก
“หึหึ แม่งหาที่ฉี่ได้ใจกูมาก ล่อซะทางโค้งเลยสัส” ไอ้คิวพึมพำก่อนจะบีบแตรเสียงดังยาวไปถึงสุไหงโกลกจนไอ้ฟ่างสะดุ้ง แม่งฉี่รดกางเกงมั้ยนั่น
“โอยยยยยยยยย พวกมึงเป็นไรกับเมียกูมากมั้ยสาดดดด ปล่อยให้มันเยี่ยวดีๆเห้ออออ” ไอ้แทนโผล่หัวออกมาด่าพวกผม
“ฮ่าาาาาาา” ผมกับไอ้คิวแท็กมือกัน หัวเราะจนปวดท้อง จนไอ้ภูมิกับไอ้เต้ยตื่น แล้วก็หลับต่อ เหอๆ พวกผมเลยออกรถนำหน้าพวกไอ้แทน
“ไอ้แทนนี่มันก็รักไอ้ฟ่างมากนะ มึงว่ามั้ยพีม”
“เอ๊า ก็แฟนทั้งคนมันจะไม่รักได้ไง”
“แหม๊ เหมือนมึงใช่มั้ย ตั้งแต่คบกับไอ้ภูมิ มึงไม่ค่อยสนใจกูเลยรู้มั้ย” อ้าววววววว
“อย่าคิว อย่ากวนตีนกู ขอร้อง”
“กูพูดจริงๆ” น้ำเสียงจริงจังของไอ้คิว ทำให้ผมยิ้มค้างและอดหันไปมองไม่ได้ มันเหลือบมองผมครู่นึงก่อนจะพูดต่อ
“เมื่อก่อนเราแทบจะตัวติดกัน จนพวกไอ้หนึ่งยังแซวว่ากูกับมึงเป็นผัวเมียกัน มึงชอบไปนอนที่บ้านกู ไปช่วยปั่นงาน บางครั้งกูก็มาค้างกับมึงเป็นเดือนๆ มึงชอบแย่งมาม่ากูแดก ดึกๆก็ออกไปซื้อกระทิงแดงด้วยกัน แล้วตั้งแต่ที่มึงเป็นแฟนกับไอ้ภูมิ มึงจำได้มั้ยว่าครั้งสุดท้ายที่เราได้ทำแบบนั้น…..มันนานแค่ไหนแล้ว”