อาลูบหัวปลอบใจผมก่อนจะบอกให้ขึ้นไปอาบน้ำล้างหน้านอนพักผ่อน อาจะแวะไปดูที่ร้านแล้วจะเอาเค้กกับลาเต้มาให้ ผมขึ้นมาอาบน้ำตามที่อาปุ้ยบอกที่จริงเวลาหกโมงไม่ใช่เวลานอนเพราะถ้านอนตอนเย็นตื่นมาผมจะปวดหัว แต่เพราะผมไม่ค่อยได้นอนมาหลายวันพอหัวแตะหมอนบวกกับยาแก้ปวดที่ผมกินก็ทำให้ผมหลับได้ไม่ยาก
ผมตื่นมาอีกทีตอนทุ่มกว่าๆเพราะอามาเรียกให้ไปกินข้าว ข้าวเย็นมื้อนี้ทำเอาผมต้องหัวเราะเพราะมันเยอะมากไม่รู้กินสองคนหรือจะเลี้ยงคนทั้งโรงงาน พอผมหัวเราะอาปุ้ยก็เชิดใส่ บอกว่าก็เห็นหลานผอมลงเลยจะขุนให้อ้วน อายังบอกอีกว่าถ้ากินไม่หมดจะตัดลิ้นทิ้ง
ระหว่างทานข้าวอาก็ชวนคุยหาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาเล่าส่วนมากจะนินทาพ่อผมนี่แหละ สองพี่น้องนี้เขาคู่กัด ผมก็เลยพอยิ้มพอหัวเราะได้ ทานข้าวเสร็จผมก็อาสาล้างจานเอง ส่วนอาก็ไปเปิดทีวีรอดูพระเอกละคร ล้างเสร็จผมขึ้นมาหยิบมือถือบนห้องก่อนจะลงมานั่งดูทีวีเป็นเพื่อนอาปุ้ย ซักพักเสียงกริ่งหน้าบ้านดัง ผมกับอามองหน้ากันเพราะนี่จะสามทุ่มแล้ว ใครมาหาดึกขนาดนี้
อาหรี่ตาและขยิบตาใส่ผมเหมือนจะบอกว่าแกน่ะแหละออกไปดูชั้นกำลังดูบอย ปกรณ์ ผมเลยแกล้งไปยืนบังจอทีวี อาถึงกับกรี๊ด ผมหัวเราะร่าก่อนจะรีบวิ่งหนีของที่อาจะเขวี้ยงใส่
“มาแล้วครับ มาแล้วๆ ……แม่” รอยยิ้มค่อยๆจางหายไปจากใบหน้าของผม เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าบ้านคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมคือคนที่ผมเพิ่งไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลวันก่อน สองแก้มของท่านเปื้อนคราบน้ำตา ใบหน้าดูอิดโรยซีดเซียวแต่ยังคงยิ้มใจดีมาให้ผมเช่นทุกครั้ง
“แม่ทำไมมาดึกๆล่ะครับ” ผมรีบเปิดประตูรั้วและเข้าไปพยุงแม่ทั้งที่ความกลัวพาจิตใจผมไปไกล
“พีม แม่ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย”
“ครับได้แต่แม่เข้าบ้านก่อนนะครับ” ผมพาแม่เข้ามาที่ห้องรับแขก แม่สวัสดีอาปุ้ยผมแนะนำทั้งสองคน พออารู้ว่านี่คือแม่ของภูมิอาก็มองผมและยิ้มพยักหน้าให้ อาบอกคุณแม่ว่าเชิญตามสบายแล้วอาก็แยกออกไป ในห้องเงียบลงทันทีเมื่อไร้อาปุ้ยและเสียงของทีวีและเป็นผมที่ทำลายความเงียบที่เยียบเย็น
“แม่ดื่มอะไรอุ่นๆมั้ยครับ”
“ไม่เป็นไรลูก พีมมาใกล้ๆแม่หน่อยสิจ๊ะ” ผมขยับเข้าไปใกล้แม่ตามที่ท่านบอก
“แม่ไม่สบายอยู่นะออกมาข้างนอกแบบนี้อาการจะยิ่งแย่นะครับ” แม่มองหน้าผมและยิ้มให้ผมดวงตาสวยๆเริ่มคลอด้วยน้ำใสๆ ท่านยื่นมือมาลูบแก้มผมอย่างเอ็นดู
“เพราะพีมน่ารักแบบนี้สินะภูมิถึงได้รัก ที่ผ่านมาแม่ก็เคยสงสัยนะว่าทำไมภูมิถึงพาพีมมาหาแม่บ่อยๆเล่าเรื่องพีมให้แม่ฟังบ่อยๆ แม่ก็คิดว่าภูมิอาจจะแค่ชื่นชมเพื่อน แม่รู้สึกถูกชะตากับพีมมากเลยรู้มั้ย แม่ยังเคยคิดเล่นๆเลยว่าอยากได้พีมมาเป็นลูกชาย คงจะเลี้ยงง่ายไม่ดื้อเหมือนพี่ฟ่างกับน้องภูมิ” ผมยิ้มแม้ว่าจะเริ่มแน่นหน้าอกยิ่งแม่รักและเอ็นดูผมมากเท่าไรความรู้สึกผิดยิ่งถาโถมมาใส่หัวใจผมมากเท่านั้น
“แต่พอ……คุณพ่อมาบอกว่าภูมิกับพีม…..รักกันแม่ตกใจมากแม่ไม่ได้รังเกียจนะลูกแต่แม่ไม่คิดว่าลูกชายของแม่จะมีความรักแบบนี้เพราะน้องภูมิก็คบผู้หญิงมาตลอดแล้วพีมก็ดูเป็นผู้ชายธรรมดาคนนึง”
“พีมขอโทษครับ”
“แม่ไม่เคยอยากได้คำขอโทษจากพีมหรือจากภูมิเลยเพราะแม่ได้ได้โกรธ แต่แม่ก็ไม่รู้จะทำยังไง แม่ไม่รู้จริงๆพีม แม่ทรมานเหมือนใจจะขาดตอนที่น้องภูมิมาคุกเข่าอยู่หน้าบ้าน หัวอกของคนเป็นแม่แค่ลูกเจ็บนิดเดียวแม่ก็อยากเจ็บแทน แม่ไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะเลวร้ายขนาดนี้ จนถึงขั้นตัดพ่อตัดลูกกัน ภูมิคือทุกสิ่งทุกอย่างของแม่……พีม”
“ครับ”
“เป็นแค่เพื่อนกับภูมิได้มั้ย ฮึก ได้มั้ยลูก ให้ภูมิกลับมาหาพ่อกับแม่ได้มั้ย” คำขอร้องของแม่คือสิ่งที่ผมไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธใช่มั้ย “แม่ไม่อยากให้คุณพ่อกับภูมิทะเลาะกันไปมากกว่านี้ พีม แม่ขอโทษ นะ ฮึก ขอโทษที่เห็นแก่ตัว”
“ครับ ไม่เป็นไรครับแม่ พีมเข้าใจ” ผมพูดออกมาทั้งๆที่ร่างกายไม่รับรู้อะไรแล้ว บางทีคนเราก็ไม่สามารถทำทุกอย่างตามที่ใจเราต้องการ บางครั้งมันก็มีข้อจำกัดและบางครั้งผมก็ไม่อยากจะหายใจแล้ว ผมขยับเข้าไปกอดแม่ ผมรักและเคารพท่านเสมอ ผมไม่อยากให้ผู้หญิงที่แสนใจดีคนนี้ต้องร้องไห้อีกและผมก็จะเลือกทางที่จะมีคนเจ็บน้อยที่สุด
ถึงเวลาที่ต้องปล่อยมือกันแล้วสินะ“พีมอย่าเกลียดแม่นะ มาเป็นลูกชายของแม่อีกคนพีมเรียกแม่อีกซักครั้งได้มั้ยลูก” ผมเม้มปากแน่นสายตาก็พร่ามัว ผมไม่โกรธและไม่คิดจะเกลียดแม่เลย ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลยหรืออาจจะเป็นเพราะผมกำลังจะไร้ความรู้สึกในอีกไม่ช้า
“ครับแม่”
“ฮึก ขอโทษนะลูก แม่ขอโทษ”
“ไม่เป็นไรครับ” แม่ยังร้องไห้ในอ้อมกอดเล็กๆของผมและพร่ำบอกแต่คำขอโทษซึ่งผมก็ไม่ได้อยากได้จากแม่เลย ถ้าผมจะขอแม่ซักอย่าง อย่างเดียวที่ผมอยากจะขอ
“แม่ครับฝากดูแลหัวใจพีมด้วยนะครับ”
ผมเดินออกมาส่งแม่ที่หน้าบ้านเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วแต่ตอนนี้ผมก็ยังนั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนกลางสวน ผมนั่งอยู่ที่เดิมไม่ลุกไปไหน จิตใจที่อ่อนแอพาผมไปทุกทิศทุกทาง ผมอยากจับมือภูมิไว้แต่ทำไมมันต้องแลกด้วยน้ำตาของหลายคนจัง
แต่ถ้าผมปล่อยมือจากภูมิผมจะอยู่ได้เหรอไม่เท่ากับเป็นการทิ้งลมหายใจตัวเองรึไง ผมกับภูมิก็คงเหมือนนกที่เพิ่งจะเริ่มหัดบิน แม้จะพยายามประคองกันแค่ไหน จะพยายามพยุงกันสักเท่าไรแต่สุดท้าย เราก็ทำได้แค่นี้
มือถือของผมสั่นครืดๆอยู่ตรงหน้า ไม่ต้องดูก็รู้ได้จากเสียงเพลงเรียกเข้าว่าใครโทรมา ผมก้มมองหน้าจอที่โชว์รูปของผมกับภูมิ รูปที่ภูมิถ่ายเองกับมือมันบังคับผมให้หอมแก้ม ผมยิ้มทั้งน้ำตามองชื่อที่ภูมิเมมเองว่า “แฟนมึง” ผมมองอยู่นานก่อนจะกดรับสายด้วยน้ำเสียงที่ผมบังคับมันให้เป็นปกติอย่างสุดความสามารถ
“ว่าไง โทรมาดึกเลยมึง”
(รับช้า ทำอะไรอยู่) )เสียงของภูมิขึ้นจมูกและแหบเหมือนคนเป็นหวัดแสดงว่าไข้มันยังไม่หาย
“อยู่ในครัวน่ะ ไม่ได้ยิน”
(มึงโกหก ไหนบอกจะกลับมาไง ทำไมทิ้งกูไว้คนเดียวล่ะ) ผมเบื่อที่จะเช็ดน้ำตาได้แต่ปล่อยให้มันไหลไป
“อาปุ้ยอยากให้ค้างน่ะ ขอโทษนะ”
(งั้นเหรอ ฝากบอกอาปุ้ยด้วยคิดถึง แล้วมึงทำอะไรอยู่)
“เพิ่งคุยกับอาปุ้ยเสร็จก็นั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน”
(เหรอ ยุงไม่กัดรึไง เข้าบ้านได้แล้วไปเดี๋ยวโดนน้ำค้าง) ความห่วงใยที่ส่งผ่านเสียงของภูมิทำให้ผมกลัวสิ่งที่จะเกิดในวันพรุ่งนี้ ผมจะต้องทำร้ายคนรักของผมจริงๆใช่มั้ย
“ภูมิ”
“ครับ”
“เราหนีกันมั้ย”
(……….หึ จะหนีไปที่ไหน) มันเงียบไปซักพักก่อนจะตอบ
“ไปไหนก็ได้ มีแค่กูกับมึง นะภูมิเราหนีกันเถอะ” เสียงผมติดๆขัดๆต้องหายใจทางปากเพราะผมหายใจไม่ออกตอนนี้ผมไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว
(ถ้าหนีเราต้องหนีทั้งชีวิตเลยนะพีม กูไม่อยากให้มึงลำบาก มึงจะอยู่ได้เหรอไม่ได้เจอเพื่อน ไม่มีครอบครัวจะทนได้เหรอ)
“ฮะๆ นั่นสิเนอะ กูนี่ก็คิดอะไรบ้าๆ ขอโทษนะ”
(ไม่เป็นไรเพราะกูก็เคยคิด เตี้ยมึงรีบกลับมานะ พรุ่งนี้เราไปหัวหินกัน) ผมต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างเพื่อปิดปากร้องไห้ ผมใช้อีกมือขยุ้มเสื้อตรงตำแหน่งหัวใจ ทำไมถึงทรมานขนาดนี้ ภูมิกูขอโทษ กูรักมึง
“ป่วยอยู่จะไปทะเลได้ไง”
(งั้นก็รีบกลับมาดูแลกูสิกูจะได้หาย มึงไม่อยู่ก็เหงารู้มั้ย)
“อื้ม จะ….กลับไป จะกลับไปหานะภูมิ”
(จะรอ รีบกลับมานะมาเช้าๆเลยนะ)
“ได้ งั้นมึงไปนอนเถอะเดี๋ยวจะไข้ขึ้นอีก” ผมกำลังจะทนไม่ไหว ผมกัดปากกลั้นเสียงสะอื้นไม่ไหวแล้ว
(ก็ได้ ฝันดีนะพีมรักมึงนะ)
“อื้ม รัก รักมึงเหมือนกัน ฝันดีภูมิ”
ภูมิวางสายไปแล้วแต่ผมยังกำโทรศัพท์แนบหูไว้เช่นเดิม ทุกอย่างที่อยู่ในกรอบสายตาของผมพร่ามัว ความรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกมันเล่นงานผมอีกแล้ว
“ภูมิ อยากฟังเพลงมั้ย กูอยากร้องเพลงให้มึงฟังจะได้หลับฝันดี” ผมพูดราวกับคนที่วางสายไปแล้วจะได้ยิน ผมกลืนก้อนที่มันจุกอยู่ตรงหน้าอกก่อนจะค่อยๆเปล่งเสียงสั่นๆและขาดห้วงเอื้อนเอ่ยทำนองเพลงพร้อมน้ำตา
http://www.4shared.com/embed/171163745/28cc181b อยากต่อว่าฟ้าดินที่ให้เราพบเจอ แต่ไม่ยอมจับเราคู่กัน
ฟ้าดินจงใจแกล้งเรา เธอว่าหรือเปล่า
ทำไมนะต้องห้ามรักกัน ความเหมาะสมน่ะหรือที่ยืนยาว
ถึงในใจมันค้าน สุดท้ายต้องยอมจำนน
ก่อนถนนของเราแยกกัน ก่อนความฝันของเราสิ้นลง
แค่อยากพบกับเธอสักหนสบตาอีกครั้ง
แค่ให้ฉันได้บอกเธอซักคำ พูดในวันที่จำต้องจาก
อยากให้รู้ว่ารักเธอมาก และจะรักรักตลอดไป
เกิดชาตินี้แค่ได้พบเจอเกิดชาติหน้าค่อยฝันกันใหม่
วันนี้ใจสลาย ยอมจำนนให้ฟ้าดินแยกเราไกลกัน
พอใจแล้วใช่ไหมฟ้าดิน ที่ได้เห็นว่าคนต้อยต่ำ
มันต้องเจ็บต้องช้ำ ต้องน้ำตาตก
โลกใบนี้มีคนมากมาย ทำไมต้องเป็นเราสองคน
ยอมจำนนให้แล้วหวังว่าคงพอใจ
ก่อนถนนของเราแยกกัน ก่อนความฝันของเราสิ้นลง
แค่อยากพบกับเธอสักหนสบตาอีกครั้ง
แค่ให้ฉันได้บอกเธอซักคำ พูดในวันที่จำต้องจาก
อยากให้รู้ว่ารักเธอมาก และจะรักรักตลอดไป
เกิดชาตินี้แค่ได้พบเจอ เกิดชาติหน้าค่อยฝันกันใหม่
วันนี้ใจสลาย ยอมจำนนให้ฟ้าดินแยกเราไกลกัน
คนรักกันใยฟ้าดินถึงไม่เข้าใจ……….TBC >>>>>>>>>>>>>
…………………………………
- คนชอบพูดกันว่าชีวิตจริงมันยิ่งกว่านิยาย ตาลก็เห็นด้วยนะคะ อ่านจากหลายๆคอมเม้นบอกว่าเคยเจอปัญหาคล้ายๆภูมิกับพีมทั้งที่พบเจอด้วยตัวเอง ของพี่ ของเพื่อ ของญาติหรือคนใกล้ตัว ตาลก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านพ้นมันไปได้นะคะขอให้ทุกคนเข้มแข็งนะ ลองสู้เพื่อความรักของเราซักครั้งและไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไงแต่อย่างน้อยเราก็จะได้ไม่เสียใจเพราะเคยพยายามทำแล้ว ตาลเอาใจช่วยทุกคนนะคะ