มาแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆๆๆ เลยนะคะทุก ๆ คน
ตอนที่ 7
พลกฤษณ์ตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ เมื่อเขาลืมตาขึ้น เขาก็พบกับพ่อแม่พี่น้องของเขาและพีร์กับพ่อแม่ยืนล้อมรอบเตียงเขา ทุกคนตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อเห็นชายหนุ่มฟื้นแล้ว
“แจ๊ค....ลูก” คนเป็นแม่ดีใจจนพูดอะไรไม่ออก “ลูกฟื้นแล้วจริง ๆ ด้วย..”
เธอจับมือคนเป็นลูกขึ้น คนเป็นพ่อก็เข้ามาจับมือลูกชายเหมือนกัน น้ำตาคนเป็นพ่อแม่ไหลออกมาอย่างดีใจ
“ตื่นซะทีนะแจ๊ค ก๊อก็เป็นห่วงว่าแกจะไม่ฟื้นมาช่วยก๊อเลี้ยงลูก ฮ่ะ ๆ” สุกฤษณ์ที่เพิ่งมาถึงบ้านเมื่อคืนก็มาเยี่ยมน้องชายในวันนี้ด้วย เขาอุ้มลูกชายเข้าไปหาคนเป็นน้อง
“อาแจ๊คคับ อย่าทิ้งน้องพอลกับน้าพีไปนะคับ”
“ไม่หรอกครับ อาแจ๊คไม่ทิ้งน้องพอลหรอก อาแจ๊คสัญญา” เขารับคำ และหันไปถามน้องชายทั้งสองที่มาเยี่ยม “เอ่อ แล้วนี่ขาดไต่ก๊ออีกคนนะความจริง” เขาแซวเล่น เพราะว่าวันนี้ทุกคนอยู่กันเกือบพร้อมหน้าจริง ๆ
“เดี๋ยวก็มาก๊อ” น้องคนเล็กตอบ
“เฮ้ยย จริงดิ”
“จริงก๊อ เนี่ยไต่ก๊อพาอากงอาม่ามาด้วยเลย”
“โห เป็นเรื่องเลยนะหน่ะ”
“ก็แน่นอนหล่ะลูก ทุกคนเป็นห่วงลูกไงถึงได้มาเยี่ยม ใช่มั๊ยคะคุณกวง” แม่ของเขาหันไปถามพ่อของพีร์
“ไม่ได้เป็นห่วงหรอก...แต่ขึ้นมาด่าเฉย ๆ” พ่อของพีร์พูดขวาง ๆ แต่เจือไปด้วยความเป็นห่วงในน้ำเสียง
“อะไรกันแจ๊ค ป๊ายกลูกป๊าให้แล้วนะ จะทิ้งไปอย่างนี้ได้ไงวะ”
“ผมขอโทษครับป๊า”
“ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ อย่าทำให้พีร์เสียใจ เห็นมั๊ยร้องไห้จนผอมแล้ว” คนเป็นพ่อมิวายเล่นต่อ ทำให้ทุกคนขำออกมา
“ป๊าอ่า..” พีร์เขินที่พ่อตัวเองพูดอย่างนั้น
“ฟาดเคราะห์นะลูก ทีนี้ก็ระวังเนื้อระวังตัวด้วยละกัน” แม่ของพีร์สมทบ
“ครับม้า”
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น นายแพทย์และพยาบาลนั้นเข้ามาตรวจอาการของพลกฤษณ์ในรอบเช้า พวกเขามองครอบครัวของพลกฤษณ์ทึ่ง ๆ เพราะไม่ค่อยเห็นคนไข้คนไหนมีญาติมาเยี่ยมเยอะขนาดนี้
“หมอขอตรวจอาการหน่อยนะครับ” นายแพทย์พูดกับทุกคนก่อนจะลงมือวัดความดันต่าง ๆ และตรวจอาการอื่น ๆ
“เป็นไงมั่งครับหมอ” คนเป็นพ่อถาม
“อาการทั่วไปดีขึ้นนะครับ คุณพลกฤษณ์ปลอดภัยแล้ว ที่เหลือก็แค่พักฟื้นร่างกายจนเข้าที่”
“ขอบคุณครับหมอ” พลกฤษณ์กล่าวยิ้ม ๆ และทุกคนที่มาเยี่ยมต่างก็มีสีหน้ายินดีที่ได้ยินอย่างนั้น
เมื่ออยู่กันสองคนพีร์ก็ดูแลชายหนุ่มเป็นอย่างดี เขานั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงและจับมือชายหนุ่มไว้เหมือนเดิม
พลกฤษณ์มองคนรักแล้วยิ้มให้ ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาจากคนทั้งสอง พลกฤษณ์ค่อยเลื่อนมือขึ้นไปจับแก้มของพีร์อย่างแสนรัก
“ขอบคุณนะ” เขาพูดกับร่างอวบด้วยความรู้สึกดีใจที่สุด
“หะ..ขอบคุณ อะไรเหรอ”
“ขอบคุณที่คุณรักผมไง”
“หลงตัวเอง...เค้าบอกตอนไหนล่ะ” พีร์เฉไฉเพราะความเขิน
“ไม่รู้สินะ ตอนที่ผมมาถึงโรงพยาบาล ใครกันน้า...วิ่งตามผมแล้วมาจับมือบอกแต่คำว่าผมรักคุณ ๆ”
“คุณแจ๊คอ่า...” พีร์เขินมากจนพูดไม่ออก
“แต่ก็ขอบคุณจริง ๆ นะที่ในที่สุดผมก็ได้ยินคำนี้จากคุณ” เขาถอนหายใจ “ถ้าผมจะตายไปในตอนนั้น ผมก็คงตายตาหลับแล้วหล่ะ เพราะคุณบอกว่าคุณรักผมแล้ว”
พีร์ใช้นิ้วชี้แตะปากชายหนุ่มเป็นการบอกให้หยุด “อย่าพูดคำว่าตายได้มั๊ยอ่ะ เค้าใจไม่ดี”
“อืม แต่ผมก็ดีใจนะ ที่ผมเห็นคุณไม่อายที่จะรักผมจริง ๆ”
พีร์มองหน้าคนรักอย่างสงสัย
“ก็เมื่อวานไง ผมขอบคุณนะที่ไม่กลับไปเป็นของไอ้หยกมัน และคุณก็บอกมันว่าคุณเลือกผมแล้ว”
“นี่คุณ...” พีร์ตกใจที่รู้ว่าพลกฤษณ์ก็ได้ยินเขาคุยกับศิลาด้วย “แสดงว่าคุณได้ยินหมดเลยเหรอ”
“เปล่า ๆ”
“แล้วคุณฟื้นมาตอนไหนอ่ะ”
“ก็ตอนที่คุณคุยกับไอ้หยกอ่ะแหล่ะ และก็เห็นฉากเด็ดด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น” พลกฤษณ์ยิ้ม “ขอบคุณนะที่เลือกผม”
“คุณแจ๊คอ่ะ เจ้าเล่ห์” พีร์แหวใส่ “นี่แสดงว่าตอนหลังนี่แกล้งหลับใช่มั๊ย”
“ก็จะให้ทำไงล่ะ”
“แล้วว่าไงอ่ะ ที่เมื่อวานพี่หยกจะจูบเค้า”
พลกฤษณ์นึกแล้วก็ไม่สบอารมณ์ “ถ้าผมไหว ผมคงลุกไปชกมันแล้วหล่ะ” เขาพูดขวาง ๆ
พีร์ยิ้มปลื้มที่ชายหนุ่มหวงเขา พลกฤษณ์พูดต่อ “ผมก็ลุ้นนะว่าจะเป็นไงต่อ แต่ผมก็ดีใจนะที่เห็นคุณทำอย่างนั้นกับมัน”
“ก็แน่นอน” พีร์ยักหน้าอย่างแสนกล พร้อมจับมือคนรัก“ก็แฟนเค้านอนป่วยอยู่บนเตียงหนิ จะให้หนีไปกับคนอื่นได้ไงล่ะ”
พลกฤษณ์ยิ้มดีใจที่ได้ยินประโยคดังกล่าวจากพีร์ เขาดีใจเหลือเกินที่วันนี้หนุ่มน้อยของเขารักเขาจริง ๆ แล้ว
“ผมกลัวนะคุณแจ๊ค ผมกลัวว่าคุณจะไม่กลับมาอีกแล้ว”
“อืม...” พลกฤษณ์พยักหน้ารับคำ เขานึกอะไรบางอย่างออก “พี ตอนที่ผมไม่อยู่อ่ะ ผมจะบอกว่า ผมเจอวินด้วยนะ”
“หะ...” พีร์ได้ยินอย่างนั้นก็ใจเสีย เพราะพลกฤษณ์ไปเจอกับคนรักที่ล่วงลับไปแล้วของเขา หมายความว่าคนรักของเขาใกล้จะจากไปจริง ๆ แล้วหรือนี่
“อืม ผมเจอวิน...วินเค้าไม่ได้มารับผมหรอกนะ”
พีร์ทำหน้าโล่งใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“แล้วคุณวินเค้าว่าไงมั่งอ่ะ”
“อ่อ เค้าก็บอกว่า เค้าสบายดี และก็ดีใจที่เห็นผมอยู่กับคุณ”
“เหรอ”
“อืม” พลกฤษณ์ยิ้ม ๆ
พีร์ไม่พูดอะไรนอกจากจับมือคนรักไว้เหมือนอย่างเคย เขามองหน้าคนรักที่ยิ้มอบอุ่นให้ เขาสัญญากับตัวเองว่าต่อจากนี้ไปเขาจะรักชายหนุ่มอย่างที่ชายหนุ่มนั้นรักเขา
“หยก วันนี้ตอนเย็นไปเยี่ยมแจ๊คกันมั๊ย” นลพรรณโทรศัพท์บอกกับสามีขณะที่เธอเองกำลังจะเลิกงาน
“ไปสิ” ศิลาตอบเรียบ ๆ แต่น้ำเสียงแฝงด้วยความรู้สึกผิด
“หยก เป็นไรรึเปล่า”
“ปะ..เปล่า..” ศิลาพูดต่อ “เดี๋ยวผมไปรับแพรวนะ จอดรถทิ้งไว้นั่นหล่ะ”
“อืม ได้ค่ะ เจอกันนะคะ”
นลพรรณรอสักพักศิลาก็มารับเธอ บรรยากาศในรถเงียบอยู่สักพักหนึ่ง นลพรรณเห็นศิลามีท่าทีเหมือนกังวล เธอเลยถามสามีว่า
“หยก เมื่อคืนที่ไปเยี่ยมแจ๊คอ่ะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
ศิลาเงียบไปสักพักก่อนเขาจะบอกว่า “คือ ผม...ผมเห็นน้องพีร้องไห้แล้วก็เข้าไปกอดเค้า”
“แล้ว...” เธอเดาว่ายังไม่จบ แต่ก็ใจคอไม่ค่อยดี สามีเธอคงไม่ได้ทำอะไรเด็กหนุ่มมากกว่านี้ใช่ไหม เธอได้แต่ภาวนา
“ก็ อย่างที่ผมบอก ผมลืมน้องพีไม่ได้ ผมเลยพยายามจะ...เอ่อ...”
“หยก!....” เธอตกใจ ไม่คิดว่าสามีจะทำจริง
“แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ เพราะว่าน้องพีไม่ยอมผม”
นลพรรณพรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก แล้วหันไปพูดกับศิลา “หยก...แจ๊คเค้ายังไม่ตายนะ แล้วอีกอย่างเค้าก็อยู่ในห้องด้วย ที่สำคัญน้องพีเค้ารักแจ๊ค คุณจะไปทำอย่างนั้นอีกทำไม”
“ผม ผมขอโทษ ผมมันผิดเองที่ไม่รู้จักห้ามใจ”
นลพรรณมองหน้าสามีอย่างเห็นใจ “เอาเถอะ ๆ แพรวว่าน้องพีเค้าคงไม่โกรธคุณแล้วหล่ะ ที่เหลือก็แค่คุณทำใจดี ๆ ก็แล้วกัน แพรวรู้ว่ามันยาก แต่หยกก็ต้องทำนะ ไหนหยกบอกว่าอยากเห็นน้องพีมีความสุขไง”
“อืม ขอบคุณนะ”
นลพรรณยิ้มเป็นกำลังใจให้คนข้าง ๆ เธอคิดว่าศิลานั้นต้องเข้าใจทำความเข้าในตัวเองอีกเยอะ กับชีวิตที่เพิ่งค้นพบนี้
นลพรรณกับศิลานั้นมาถึงโรงพยาบาลและห้องพักของพลกฤษณ์ในไม่ช้า
“หวัดดี แจ๊ค” นลพรรณทักทายคนป่วยที่อยู่บนเตียง และบอกกับคนที่นั่งข้าง ๆ “ดีใจด้วยนะจ๊ะน้องพี”
“ครับขอบคุณครับ” พีร์รับคำและมองศิลาที่ยิ้มให้เขาเศร้า ๆ เขาเองก็เข้าใจศิลาเช่นกัน
แต่พลกฤษณ์มองพีร์ที่ส่งสายตาเห็นใจให้สลับกับมองศิลาอย่างไม่พอใจ เขาไม่รอช้าที่จะพูดออกไป
“อะไรกัน อะไร ชั้นยังไม่ตายเว้ย ไม่ต้องป้อเมียชั้นขนาดนั้นก็ได้”
ศิลามองเพื่อนที่รู้ทัน พลกฤษณ์เลยพูดต่อ “ยังตายไม่ได้เว้ย ถ้าชั้นตายแล้วเดี๋ยวคนแถวนี้จะดีใจ”
“คุณแจ๊ค!” เขาหันไปดุคนรัก “ไม่เอาน่า อย่าพูดอย่างนั้นสิ เค้าบอกแล้วไงว่าอย่าพูดเรื่องตาย”
“ก็มันจริงหนิ” พลกฤษณ์ฉุน
“ไม่เอาน่า ใจเย็น ๆ เกรงใจพี่แพรวเค้าหน่อยสิ”
ชายหนุ่มพูดไม่ออกด้วยความหงุดหงิด ศิลาเห็นอย่างนั้นก็ตัดบท
“ไม่ตายก็ดีแล้วไอ้แจ๊ค ชั้นจะได้สบายใจว่าแกไม่ทิ้งน้องพีไปไหนอีก”
“แน่นอน อุตส่าห์ไปแย่งกับแกมาแทบตาย ขืนตายไปก็โง่แล้ว” ชายหนุ่มไม่วายยียวนตามประสา
“คุณแจ๊คอ่ะ” พีร์ปราม “พอเลย เพิ่งฟื้นเมื่อวานนะ ใจเย็น ๆ หน่อยซี่..”
“หยก แพรวว่าเรากลับกันก่อนดีกว่า” นลพรรณลากแขนสามี
“อืม ผมก็ว่างั้น อยู่ไปเดี๋ยวไอ้แจ๊คมันความดันขึ้นสูงตายก่อนพอดี”
“เออ ไปเลย แต่จะบอกไว้ก่อนนะเว้ยว่าคนอย่างชั้นไม่ตายง่าย ๆ หรอก”
“คุณแจ๊ค!” พีร์ปรามคนรัก
“อืม พี่กลับก่อนนะน้องพีร์ วันหลังพี่มาใหม่”
“ครับ ขอบคุณนะครับ”
“ไปเลยป่ะ...อย่ามองเมียชั้นมาก อย่านะเว้ย อย่า” พลกฤษณ์ไม่วายหวง เมื่อศิลากับนลพรรณออกไปแล้วเขาก็หันมาแหวคนรักทันที
“คุณแจ๊ค อะไรเนี่ยะ ทำไมไปพูดอย่างนั้นกับพี่หยกเค้าล่ะ”
“เอ้า แล้วจะให้บอกว่า ตามสบายครับเพื่อน เอาเลย อยากทำอะไรก็ทำเลยงั้นเหรอ” พลกฤษณ์ฉุน
“ไม่ใช่ อะไรอ่ะ เรียกเค้าว่าเมียแบบนี้ได้ไง ใครเมียคุณหะ” พีร์ไม่ชอบที่ชายหนุ่มเรียกเขาแบบนั้น
“อ๊าวว” ชายหนุ่มไม่ยอม “แล้วคุณเป็นเมียผมจริงมั๊ยล่ะ อีกอย่างผมก็อยากให้มันรู้ไว้ว่าผมไม่ยอมจริง ๆ”
“ก็เค้าไม่ชอบหนิ เรียกเค้าอย่างนี้เค้ารู้สึกแปลก ๆ นะ”
“อ่ะ ขอโทษ หายงอนนะครับที่รัก”
“อืม...” พีร์ยิ้มพอใจ “ผัวจะไม่เรียกเมียว่าเมียอีกแล้ว”
“คุณแจ๊ค!” พีร์แหวหนักกว่าเดิม พลกฤษณ์ยิ้มขำที่คนรักเหวี่ยง
“ล้อเล่น...” เขาง้อพีร์ที่งอนแล้ว “ยิ้มหน่อยไม่ได้เหรอ อย่าหน้างอสิ”
“เงียบเลย” พีร์เหวี่ยง “หลับไปเลย ถ้ายังกวนแบบนี้”
“นะครับที่รัก ยิ้มหน่อย เร้ว...”
พีร์ไม่พูดอะไรนอกจากย้ายไปนั่งที่โซฟาอย่างงอน ๆ พลกฤษณ์เห็นอย่างนั้นก็นิ่งเฉย เพราะยังไงเขาก็ดีใจที่พีร์นั้นรักเขาจริง ๆ โดยที่เขาไม่ต้องหวั่นใจว่าพีร์จะกลับไปหาคนเก่า ๆ อีก
พลกฤษณ์กับพีร์อยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลากว่าสัปดาห์ เมื่อสักครู่นายแพทย์เพิ่งมาบอกกับคนทั้งสองว่าให้พลกฤษณ์กลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้ พีร์เข็นรถพาคนรักมาเปลี่ยนบรรยากาศข้างนอกบ้างหลังจากอยู่แต่ในห้องมาเป็นสัปดาห์
พลกฤษณ์ที่ตอนนี้ถอดเฝือกที่คอออกแล้ว นั่งบนรถเข็นที่มีพีร์เป็นคนเข็นเพื่อจะไปในสวนบนตัวตึกที่โรงพยาบาล ระหว่างทางพีร์นั้นแอบมองตามนายแพทย์หนุ่มหน้าตี๋ จนคนที่นั่งอยู่อดกระแอมออกมาดัง ๆ ไม่ได้
ชายหนุ่มมองพีร์งอน ๆ พีร์เองก็มองเขาตอบแบบแสนกล
แต่ไม่นานพลกฤษณ์ก็มองตามบุรุษพยาบาลร่างเล็กที่เดินผ่านหน้าไป พีร์เห็นอย่างนั้นก็ดึงหูชายหนุ่มทันที
“อะ....โอ๊ยยยยย เจ็บ ๆๆ” พลกฤษณ์หันไปบอกกับพีร์ “ที่รักอ่ะ ผมเจ็บนะ”
พีร์ไม่ตอบอะไรนอกจากทำหน้างอน ๆ ชายหนุ่มเลยยิ้มขำคนรัก เขาดีใจที่พีร์ก็หึงหวงเขาเหมือนกัน
เพราะแสดงว่ามีนั้นมีใจให้เขาแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
“คุณพลกฤษณ์คะ มีแขกมาเยี่ยมที่ห้องพักค่ะ” พยาบาลคนหนึ่งเดินมาบอก คนทั้งสองสงสัย
“ใครครับ”
“อ่อ เป็นผู้หญิงนะคะ มากับชาวต่างชาติผู้ชาย รู้สึกว่าจะชื่อคุณเขียวนะคะ”
คนทั้งสองมองหน้ากัน พอรู้ว่าเป็นใคร จึงรีบกลับไปที่ห้องพักทันที
“อ่าว พี คุณแจ๊ค มาแล้ว” เขียวที่รอหน้าห้องยิ้มดีใจเมื่อเห็นคนทั้งสอง พีร์เปิดประตูให้พยาบาลเข็นรถพาชายหนุ่มเข้าห้อง และช่วยกันประคองเขาให้นอนบนเตียง
“ดีใจด้วยนะคะคุณแจ๊คที่ดีขึ้นแล้ว”
“ครับ ขอบคุณครับ” พลกฤษณ์รับคำ
“แล้วนี่ทำไมเพิ่งมาหะเขียว คนอื่นเค้ามากันครบแล้ว เหลือแกนี่หล่ะ”
“แหม่ ก็ที่ร้านสมุยมันงานยุ่งหนิ เคลียร์ไม่ลงตัวซักที” เธอหมายถึงเกสต์เฮาส์ของครอบครัวสามี
“ใช่ครับ เขียวพูดถูก” สามีของหญิงสาวสมทบ แขนล่ำโอบไหล่ภรรยากระชับขึ้น แล้วพูดต่อ “ผมก็อยากให้เขียวมาก่อนนะ แต่ก็ไม่ดีกว่า รอมาพร้อมกันทีเดียว”
“แบบว่าสามีติดหน่ะคร่ะ ฮ่ะๆ” เขียวกอดร่างสูงใหญ่ของสามีตอบและมองเพื่อนไปอย่างเยาะเย้ย
“จ้าาา แม่คนมีเสน่ห์ แม่คนสวย..” พีร์ประชดเพื่อน
“ขอบคุณค่ะ” เขียวไม่สะท้าน พร้อมจิกหน้าใส่เพื่อน พลกฤษณ์ยิ้มขำเพื่อนของคนรัก ที่เขาคุยกับหญิงสาวรู้เรื่องอาจเป็นเพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบนี้ที่กล้าแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง
“หายดีแล้วอย่าลืมไปเที่ยวนะคะคุณแจ๊ค”
“แล้วมีส่วนลดมั๊ย” พีร์ชิงถาม
“ค่ะ ลดแน่ค่ะ แต่ชั้นจะติดกล้องที่ห้องพวกแก ทีนี้ล่ะค่ะ ได้เยอะกว่าคิดค่าห้องอีก”
พลกฤษณ์หัวเราะขำ หญิงสาว เพราะพวกเขาเจอคนทะลึ่งกว่าเข้าแล้ว
“เอ่อ ที่รัก บอกคุณแจ๊คเลยดีมั๊ย” สามีของเขียวเปลี่ยนเรื่อง
“อืม..”
“เรื่องอะไรอ่ะมาร์โค่” พลกฤษณ์ถาม
“ก็...ไงดี” มาร์โค่เริ่มไม่ถูก เขียวเลยพูดแทน
“ก็ที่มาโรงพยาบาลวันนี้ก็มีธุระส่วนตัวด้วยนิดนึงอ่ะค่ะ นี่ก็เสร็จปุ๊บก็มาหาคุณแจ๊คเลย”
“หืม มีอะไรกันเหรอครับ” พลกฤษณ์สงสัย
“ใครเป็นอะไรเหรอเขียว” พีร์ก็สงสัย
“ก็ ไม่มีอะไรหรอก ชั้นเพิ่งไปฝากครรภ์มา” หญิงสาวพูดยิ้ม ๆ มาร์โค่เองก็โอบกอดภรรยาแน่นขึ้นเช่นกัน
“ก็เรากำลังจะมีลูกหน่ะครับ”
“จริงเหรอ...” พีร์ตื่นเต้น “เขียว ชั้นยินดีด้วยนะแก๊...”
“ขอบใจจ้ะ”
“ยินดีด้วยนะครับมาร์โค่ คุณเขียว” พลกฤษณ์บอกคนทั้งคู่อย่างยินดีจากใจ
“กี่เดือนแล้วอ่ะเขียว” พีร์ถาม
“อืม สิบสัปดาห์ ก็เกือบ ๆ สองเดือนหน่ะ”
“แล้วแกรู้ได้ไงล่ะว่ากำลังจะมีน้อง”
“ก็ ตอนอยู่ที่สมุยหล่ะ ชั้นเวียนหัวแต่เช้า และก็รู้สึกแปลก ๆ แบบว่าคลื่นไส้อาหารทะเล และเดือนที่แล้วประจำเดือนก็ขาด ชั้นก็เลยไปซื้อที่ตรวจครรภ์มา ก็เลยรู้ว่ามาร์โค่ทำสำเร็จแล้ว ฮ่ะๆๆ”
พีร์มองเพื่อนแบบหมั่นไส้ในความแสนกล แต่เขาก็ยินดีกับเพื่อนจริง ๆ
“แล้วนี่อยากได้ผู้หญิงหรือผู้ชายกันล่ะครับ” พลกฤษณ์ถาม
“ก็ได้หมดหล่ะค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้แฝดหรือเปล่า
“ทำไมล่ะเขียว”
“ก็แบบว่า เบิ้ลกันไปหลายที ก็คงมีติดซ้ำมาบ้างหล่ะ ฮ่ะๆๆๆ”
“แวร๊งงงงงง” พีร์ว่าให้ และขำเพื่อนน้ำหูน้ำตาไหล พลกฤษณ์เองก็ขำ เหมือนกัน เขียวเลยพูดต่อ
“แต่ก็คงสู้แกกับคุณแจ๊คไม่ได้หรอก ดูสิคะ ในท้องนังพีคงมีลูกดองไว้หลายโหลเลยนะคะหน่ะ”
พีร์มองหน้าหญิงสาวเชิด ๆ “แหม อีกหน่อยแกก็ท้องโย้กว่าชั้นแล้ว และตอนนี้แกก็ไม่ผอมไปกว่าชั้นหรอกย่ะ”
“อ่าค่าาา” เขียวรับคำ
เขียวและสามีอยู่กับเพื่อนจนเย็นจึงขอตัวกลับ พวกเขารู้สึกอิ่มใจกับเรื่องดี ๆ ที่เพิ่งได้ยินในวันนี้ พีร์บอกกับชายหนุ่มว่า
“อยากรู้จังว่าลูกนังเขียวจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย และมันจะหน้าตาเหมือนใคร จะหล่อเหมือนมาร์โค่มั๊ย และก็จะปากร้ายเหมือนนังเขียวมันมั๊ยเนี่ยะ”
“หืม..เมื่อกี๊ว่าไงนะ มาร์โค่หล่อเหรอ”
พีร์ได้ยินอย่างนั้นก็เล่นลิ้นกลับบ้าง “อืม เค้าหล่อดีอ่ะ นี่ถ้าไม่เห็นว่านังเขียวกับเค้าชอบกันตอนนั้นนะ เค้าอาจจะเป็นแฟนผมตอนนี้ก็ได้”
“เหรอ...” เขาหน้าตึงทันที
“แหมเค้าล้อเล่น” พีร์ไม่เล่นต่อ “ใครจะมาน่ารักสู้คุณได้ล่ะครับ คุณแจ๊คกี้...”เขาไม่พูดเปล่าพร้อมหยิกแก้มคนรักไปด้วย พลกฤษณ์ก็หยิกแก้มคนรักตอบ เหมือนความต้องการใกล้ชิดของคนทั้งสองจะส่งถึงกัน พีร์เลยเข้าไปมอบจูบให้คนรักอีกครั้ง
คนทั้งสองประโคมจูบกันด้วยความรัก จนสักพักพลกฤษณ์ก็เป็นฝ่ายขอให้หยุด
“พอก่อน”
“หืม..”
“พอก่อนพี เดี๋ยวผมไม่ไหว” พูดพลางหอบแฮ่ก “เดี๋ยวลูกผมมันตื่นนะ”
“โอเค ๆ” พีร์ยิ้มรับ ก่อนจะหอมหน้าฝากคนรัก และกระซิบบอก “เรื่องนั้น หายเมื่อไหร่ค่อยว่ากันเนอะ”
พลกฤษณ์ยิ้มรับ เขาดีใจที่เห็นพีร์ในวันนี้เปิดใจกับเขามากในทุกเรื่องจริง ๆ ชายหนุ่มรู้สึกว่าพีร์คงจะเข้าใจอะไรในตัวเองและในตัวของเขามากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ก็ไม่เท่าที่เขารู้ว่าพีร์ก็รักเขามากเหมือนกัน