ตอนที่ 28ท่านเซอซัสพาผมออกมาจากโรงเตี้ยม กว่าจะเดินมาถึงวังก็บ่ายแก่แล้ว ผมจูงเจ้าหมูไปส่งถึงเต้นท์ของท่านเซอซัส
“ปล่อยให้มันเดินในเต้นท์ข้านี่ล่ะ เดี๋ยวไอ้บัทกลับมาแล้วจะให้มันเอาไปอาบน้ำ” ยักษ์ถอดเกราะวางที่เตียง ขณะที่ผมกำลังลูบหัวและมองหน้าเจ้าหมูน้อย
“พรุ่งนี้เช้า ผมจะเจอท่านเข้าไปรายงานรึเปล่าฮะ” ผมเอ่ย
“ใช่แล้ว”
ผมปล่อยลูกหมู หันมาเจอท่านเซอซัสที่เดินเข้ามาโอบผม
“เจอกันพรุ่งนี้”
“ฮะ” ผมยิ้ม รู้สึกเศร้าๆเมื่อนึกว่าพวกเราจะต้องกลับไปอยู่ในหน้าที่เดิมอย่างไร
แววตาคมมองผมนิ่งเงียบ เหมือนจะพูดอะไรซักอย่าง แต่เปลี่ยนใจ
“แล้วเจอกัน นากัลน้อย ”ท่านเซอซัสขยี้หัวผม ผมก็หอมเสื้อท่านนึงฟอด ฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินออกจากเต้นท์ไป
…………………..
พอผมไปถึง เมยาก็ลากผมไปที่ห้องทานอาหารกลางฝั่งขวา ท่านบาลิธกลับมาจากซ้อมแล้ว วันนี้กษัตรย์เนบูนิดัสรับสั่งให้ท่านบาลิธร่วม ทานอาหารเย็นด้วยแค่สองพระองค์ วันนี้ท่านกินเร็วเป็นพิเศษฮะ สงสัยท่านจะเหนื่อยจากซ้อมน่าดู เวลาท่านเนบูนิดัสถามก็ตอบน้อย ผมคอยรินน้ำให้ทั้งสองพระองค์ ผมสังเกตุว่าท่านบาลิธไม่ได้คุยเล่นกับผมต่อหน้าพ่อเลยแหละ ส่วนตอนนี้ผมกำลังเหม่อใส่ดอกไม้มุมห้อง
“บาลิธ” ฝ่าบาทเอ่ยระหว่างตักสตูว์
“ครับ ท่านพ่อ”
“เมื้อเช้า ในเอคบาทาน่า เริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้วนะ?”
ผมหันไปมองเมยาที่เดินเอาเหยือกไปเก็บ
“กองทัพเรือหรือ?” ท่านบาลิธกล่าว
“ไม่ พลม้า พวกนั่นลักลอบขนม้าออกไป”
“แต่ท่านลุงที่เอคบาทาน่ารับปากว่าจะดูแลเรื่องจำนวน” ท่านบาลิธชะงัก เงยหน้ามองบิดา
ฝ่าบาทเนบูนิดัสจิบไวน์แก้วที่สองแล้ว “ใช่ และ รู้ใหม ลูกรัก…ข้าคิดว่ามีการยักยอก”
“ท่านพ่อสั่งประหารเขาหรือ?” ท่านบาลิธตกใจ
ท่านเนบูนิดัสดื่มไวน์หมด หันมาหาผม ผมมองอย่างเลิกลั่ก ก่อนจะรีบ รินไวน์ให้ท่าน
“….เขาเลี้ยงข้ามาแต่เด็ก!!!” ท่านบาลิธตะคอก ! ผมสะดุ้ง
“ทำใมไม่พาเข้ามาที่นี้ก่อน !! พ่อต้องยกเลิกกฎหมายฉบับที่ 14!!” ท่านบาลิธวางมีด กระแทกหลังกับพนักเก้าอี้ ผมไม่เคยเห็นท่านโมโหมาก่อน ฝ่าบาทสั่งประหารใครหรอ? น่ากลัวจัง
“บาลิธ เจ้าอ่อนข้อต่อพวกทาสและโจรผู้ร้ายมากเกินไป….อาณาจักรอยู่ไม่รอดถ้าไม่มีกฎข้อนั้น” ฝ่าบาทตอบสีหน้าเรียบเฉย หั่นผักในจาน
ท่านบาลิธนิ่ง ไม่แตะอาหาร
“ท่านพ่อได้ลงไปที่คุกใต้ดินบ้างรึเปล่า? พ่อรู้รึเปล่าว่า กฎหมายข้อนี้กลายเป็นเรื่อง ควักลูกตา ตัดแขนขา ข่มขืน เผาทั้งเป็น- - พวกเขาเป็นแค่ศัตรูทางการเมือง พวกเขาไม่ใช่โจรชั่วร้าย…”
“ศัตรูก็คือศัตรู ลูกเอ๋ย…” ฝ่าบาทตอบ
ผมยืนตัวแข็ง ไม่รู้ว่าควรจะขอตัวออกไปก่อนรึเปล่า ท่านบาลิธจ้องหน้าพระบิดาราวคนผิดหวัง แววตามีความโกรธครุกกรุ่น
“พวกพระซิกกูแรทเริ่มพูดกันแล้ว เรื่องที่พ่อไม่นับถือเทพมาร์ดุก”
“ชาวแอสซีเรียคือนักรบ …บาลิธ “ท่านเนบูนิดัสกล่าว วางซ้อม หันมาสบตาท่านบาลิธ ”เจ้าเป็นนักรบผู้เก่งกาจ ยิ่งว่าพี่เจ้าเนนันตาร์ หรือแม้แต่ข้าเอง - - อย่าปล่อยให้ ความเชื่อบ้าๆบอๆมันบั่นทอนวิญญาณของเจ้า”
“นักรบกับฆาตกรไม่เหมือนกัน” ท่านบาลิธถอนหายใจ
“นี่ไง ดูซี ศาสนาทำให้เจ้าอิดโรยแค่ไหน “ กษัตริยเนบูนิดัสเช็ดมือกับผ้าลวกๆ ส่งสัญญาณให้สาวใช้นอกห้อง เขาค่อยๆลุกขึ้น
“- -กระนั้นเจ้าก็ปฎิเสธความจริงไม่ได้หรอก ลูกเอ๋ย เพราะเจ้าเป็นมาแล้วทั้งสองอย่าง”
“ข้าไม่เคยเป็นฆาตกร ข้าไม่มีทางสั่งประหารท่านลุง” ท่านบาลิธตอบทันควัน
“เจ้าทำ…บาลิธ…”ฝ่าบาทเนบูนิดัสเดินมาทางผม ผมเขยิบไปชิดผนังเพื่อให้ทาง
“เจ้าทำกับอโดนิส”
..
หลังคำพูดของกษัตริย์ผู้ปกครองแคว้นบาบิโลนเนีย ท่านบาลิธก็หยุดโต้ตอบไป เงาของตะเกียงในห้องทำให้ใบหน้าดูวูบไหว ท่านบาลิธก้มหน้าเฉย ไม่น่าเชื่อ ผมคิด ท่านบาลิธฆ่าอโดนิสจริงๆ
“ท่านพ่อเรียกข้ามาทำใม?” ท่านเอ่ยหลังจากความเงียบยาวนาน
“เจ้ารู้”
“ท่านพ่อต้องการจะส่งข้าไปเอคบาทาน่า…. ให้ข้าไปจัดการกลุ่มโจรเปอร์เซียที่นั่น” ท่านบาลิธหันมายิ้มเย็นๆให้ฝ่าบาท
“เจ้าจะทำตามใจพ่อรึเปล่า?”
“ข้าจะออกเดินทางอาทิตย์หน้า”
======================
เย็นวันนั้น ผมเดินออกไปเอาผ้าท่านบาลิธ จากสาวใช้นอกวัง เมยาบอกว่า ถ้าผมชอบข้างนอก เธอจะโยนงานขนผ้าให้ผม เพราะต้องออกไปเอาที่โรงซักรีด ผมเงยหน้ามองฟ้าสีแดง เมฆเป็นเส้นริ้วๆเหมือนขนสัตว์ คนงานชายคนหนึ่งทักผม ผมยิ้มให้ ทั้งๆที่ผมเริ่มจะคุ้นเคยกับที่นี้แล้ว เกือบจะเรียกมันว่าบ้านได้แล้วแท้ๆ ผมเลยไม่รู้ว่าดีใจหรือเสียใจที่ต้องติดตามท่านบาลิธไปที่เอคบาทาน่า
เพราะผมรู้ว่ายังไงองค์รักษ์คนโปรดของท่านก็ต้องติดตามไปด้วย…ท่านเซอซัส ยังไงเราก็ได้อยู่ด้วยกัน
แต่ผมแค่รู้สึกเหนื่อยฮะ เหนื่อยที่ไม่รู้ว่าโชคชะตามันจะเป็นยังไง ผมไม่รู้จักสงครามของพวกผู้ใหญ่ ท่านบาลิธต้องไปรบกับกลุ่มโจรเปอร์เซียที่แอบลักลอบนำม้าไป - -
ผมคิดว่าจะได้เติบโตที่นี้ ในวัง….ผมไม่รู้ว่าความเป็นอยู่ที่เอคบาทาน่าจะเป็นยังไง ท่านบาลิธบอกว่ามันเป็นเมืองทางเหนือติดกับเปอร์เซีย
เปอร์เซียของพี่…ทั้งๆที่พยายามจำมาตลอด แต่ตอนนี้กลับรู้สึกกลัวชื่อนี้จังเลยอะฮะ ไม่รู้ทำใม ผมรู้สึกว่ามันกำลังจะมีอิทธิพลกับชีวิตผมอย่างมาก…มากเกินไปจนผมกลัวแล้วฮะ
-----------------
คืนนี้คือคืนที่กิลนัดผม ท่านบาลิธเครียดมาก หลังอาหารเย็นท่านก็เข้าไปในโรงเก็บอาวุธ เช็ครายชื่อของต่างๆ และกลับไปทำงานที่ห้องต่อ ท่านนั่งเขียนจดหมายโดยที่มีผมนวดให้ ตั้งแต่ที่ท่านไปกินอาหารกับท่านพ่อ ท่านบาลิธก็ดูอารมณ์เสียไปทั้งวัน
“วันนี้เท่านี้ล่ะ…กลับไปที่หอเถอะ นากัล” ท่านสั่ง ก่อนจะลุกเพื่อเอาหนังสือไปเก็บ
“ฮะ” ผมเก็บเก้าอี้ ยกถาดเปล่า กำลังจะเดินออกไป
“นากัล” ท่านบาลิธเรียกไว้ ผมหันไปเห็นท่านกำลังลงมาจากบันใดตู้หนังสือ
“เจ้าเสียใจรึเปล่าที่ต้องไปกับข้า… ที่ต้องออกจากวังน่ะ” ท่านเดินเข้ามาใกล้
ใบหน้าอบอุ่นดูมีร่องรอยความเหนื่อยล้า แต่ตอนพูดกับผม ท่านก็ยิ้ม
“ไม่หรอกฮะ” ผมตอบตามที่รู้สึกจริงๆ อยู่กับท่านบาลิธ ผมไม่เคยรู้สึกเศร้าเลย ถึงแม้ว่าผมจะชอบท่านเซอซัสแค่ไหน
“ท่านบาลิธช่วยชีวิตผมไว้ ผมจะติดตามท่านไปในทุกที่ที่ท่านอยากไปฮะ”
ท่านบาลิธทำหน้าแปลกใจขึ้นมา แล้วท่านก็ยิ้มกว้าง
“ขอบคุณนะ นากัล” ท่านลูบหัวผมเบาๆ
ผมกลับมาที่หอเร็วเกินเวลา และ เลลาห์ก็ยังทำอาหารไม่เสร็จ
“อ่าววันนี้ท่านบาลิธไม่เล่นจ้ำจี้หรอ? ” เอลลี่ทักผมหน้าตาทะลึ่ง
ผมส่ายหน้า มองเจ้าเอลลี่ที่กลิ้งเล่นอยู่บนฟูกห้องโถง
“แล้วเซอซัสล่ะ?”
เลลาห์กระแทกหม้อเสียงดัง!!! หันควับมาส่งสายตาน่ากลัวให้ผมอะ หง๊า!!แย่แล้ว
“…เจ้าโง่!” ผมกระซิบดุๆใส่เอลลี่
“มันหลุดปากน่ะ”
ผมแกล้งฟอร์มทำเป็นนอนกลิ้งตามเจ้าเอลลี่บ้า ฝังหน้ากับฟูก เลลาห์ทำเสียงจิ้จ้ะในลำคอ ก่อนจะมีเสียงหั่นผักต่อ
“แล้วสรุปเจ้าต้องไป เอคา บารานาท่าจริงๆหรอ?”
“เอค-บา-ทา-น่า!” ผมเน้นคำให้อย่างอารมณ์เสีย “เจ้าเกือบทำข้าซวยแล้ว”
“แล้วเจ้าจะกลับมาเมื่อไหร่”
“ข้าไม่รู้…จนกว่าท่านบาลิธจะจัดการพวกโจรเปอร์เซียได้หมดกระมัง - - เอลลี่ข้ามีเรื่องให้เจ้าช่วย”
“อะไร?” เจ้านั่นตะแคงตัว
ผมยันตัวลุกขึ้น เดินไปเอากระดาษบนโต๊ะ กลับมาล้มแผละที่ฝูก
“เจ้าเขียนหนังสือไม่ได้” เอลลี่ย่นหน้า
ผมแลบลิ้นใส่ และลงมือเขียน
…. .เสียงแท่งดินลายมือผมครั้งแรก ผมพยายามจะทำให้เหมือนรอยสักบนแผ่นหลังท่านเซอซัสที่สุด
ใช่แล้วล่ะ…..ลายเส้นแบบนี้..
เอลลี่อ้าปากหวอ พอผมเขียนเสร็จ
“ภาษาอะไรน่ะ?” ผมกำลังจะบอกว่าช่วยไปถามอาจารย์วิชาอักษรหน่อยเถอะแต่ว่า
“เสรีภาพ”
พวกเราสองคนสะดุ้งออกจากกัน เลลาห์ยืนถือหม้อ ค้ำหัวพวกเราอยู่ สายตาหงุดหงิด
“เสรีภาพ ในภาษา เปอร์เซีย- - “ เธอตอบ
========================
ขอบพระคุณผู้อ่านทุกคนนะคะ อ่านเม้นแล้วมีความสุขมาก
นากัลน้อยจะต้องเดินทางสู่การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยแล้ว และเติบโตไปพร้อมกับมัน ขอบคุณที่ติดตามมค่าาาาา
เอคบาทาน่าอยู่มุมขวาบนค่ะ