เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงก่อนที่เอกจะรู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งตัว ความรู้สึกอึดอัดคืออีกสิ่งที่รู้สึกได้เมื่อลืมตาตื่น
เด็กหนุ่มเห็นท่อนแขนแกร่งวางพาดทับร่างของตัวเอง เอกขมวดคิ้วมุ่น พลางดันท่อนแขนนั้นออกไปอีกทาง มองไปเห็นท้องฟ้าด้านนอกมืดสนิท เขาหลับไปนานเท่าไรแล้วก็ไม่อาจจะคาดเดา
เสียงครางดังขึ้นอย่างรำคาญเมื่อถูกรบกวนการนอนอันแสงสุขหลังร่างกายได้ปลดปล่อย ร่างหนาของประธานเชียร์ยังคงนอนอยู่แบบนั้น โดยที่ไม่มีอะไรปกปิดร่างกาย
เอกหันไปมองหน้าของคนข้างๆที่ยังนอนไม่รู้เรื่องพลันนึกถึงเรื่องที่อีกฝ่ายทำกับตัวเองก็ถึงกับหน้าแดง
ไม่ว่าจะด้วยความโกรธหรือความอาย เด็กหนุ่มยกมือที่ในคราวนี้เหมือนจะไร้เรี่ยวแรงมากกว่าเดิมตบลงบนไหล่ของคนที่นอนอยู่ข้างซ้ำๆ เขาไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัวลุกหนีด้วยซ้ำ
" อะไรเล่า! " เสียงนั้นดังขึ้นอย่างรำคาญ ก่อนจะผงกหัวขึ้นดู แล้วก็ต้องตกใจว่าใครเป็นคนปลุกเขา
บาสรีบขยับตัวออกห่างอีกฝ่าย ก่อนจะก้มลงมองสภาพของตัวเองและผลงานบนผิวขาวเนียนของเอก ใบหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนสีหน้าทันที เมื่อรู้ตัวว่าได้ทำอะไรลงไป...แล้ว
" เอก...พี่... " มือแกร่งทำท่าจะแตะตัวอีกฝ่าย
"ลุกออกไป....." เอกเอ่ยเสียงสั่น ทั้งโกรธทั้งอายแต่เมื่ออีกฝ่ายยังอยู่ข้างๆแบบนี้เขาสู้ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มแบบนี้ต่อไปไม่ดีกว่าเหรอ เมื่ออีกฝ่ายยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เอกทำหน้ายุ่งพลางทำเสียงอย่างขัดใจ พยายามจะลากตัวเองลงจากเตียงไปเสียเอง แต่ก็ขยับไม่ได้ไปมากกว่าคืบ เด็กหนุ่มทิ้งตัวละกับหมอนอีกครั้ง ก่อนจะเหวี่ยงแขนไปทุบคนข้างๆ
"บอกให้ลุกออกไปยังไงเล่า"
" เอ่อ..ลุกครับ ..ลุกแล้วครับ แต่ๆ..เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้นะ "ดูเหมือนบาสยังตั้งสติไม่ได้นัก ในหัวของเขาสับสนไปหมด ทั้งๆที่ไม่ได้คิดว่ามันจะหลายมาเป็นแบบนี้แท้ๆ แต่ตอนนี้ เอกยังไม่สบายแล้วเขายังทำแบบนั้นลงไปอีก ชายหนุ่มรีบลุกจากเตียงแล้วเข้าไปเตรียมน้ำกับผ้าขนหนูเช็ดตัวทั้งๆแบบนั้น
"ใส่เสื้อผ้าด้วยซิ่ โอ้ย อุจาดตา...." เอกหลับตาแน่น ไม่อยากจะรู้ไม่อยากจะเห็น
....คนอะไรวะ ไล่ก็ไม่ไป....
....แล้วนี่มันอะไรเนี่ย....ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว
" เอก หันมานี่ก่อน "บาสเผลอดึงแขนของเด็กหนุ่มให้หันมาทางเขาเพื่อที่จะเช็ดตัว ดวงตาคู่สวยที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจหันมาสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง
" เดี๋ยวพี่...เช็ดตัวให้นะ "อีกฝ่ายยิ้มสู้ ทำเป็นไม่สนใจสายตานั้น ทั้งๆที่ก็รู้ดีว่าคงถูกเกลียดเข้าให้แล้ว
มือแกร่งลากผ้าขนหนูเย็นๆไปตามตัวอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา ผิดกับตอนที่สติหลุดหายไปเมื่อครู่ ชายหนุ่มถอนหายใจกับการกระทำของตนเอง เอกในตอนนี้มีแต่รอยแดงช้ำ ยิ่งแผ่นอกก็ยิ่งเห็นชัดเจน ..
"...............พอแล้ว..."เอกเอ่ยออกมาเสียงเบา แต่ระดับเย็นของชานั้นเพิ่มมากขึ้นไปอีก
" ให้พี่ทำเถอะเอก.. "บาสจับขาเรียวนั้นแยกออกก่อนจะเช็ดคราบตามเรียวขาและช่องทางนั้น ก่อนจะต้องถอนหายใจอีกรอบ
"ถอนหายใจทำไม..."เอกถามเสียงเรียบมองอีกฝ่ายค่อยๆเช็ดทำความสะอาดร่างกายให้ตัวเองด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
แต่ก็ไม่มีคำตอบใดจากบาส เมื่อชายหนุ่มเช็ดตัวให้เสร็จแล้วก็รีบหยิบกางเกงยีนส์มาสวมอย่างเร่งรีบแล้วเอากาละมังใส่น้ำไปเก็บ เอาผ้าขนหนูไปซัก แล้วจึงออกมา ดวงตาคมมองคนที่นอนห่มผ้าอยู่บนเตียง เอกหันหน้าไปอีกทางไม่ยอมมองหน้าเขาเลยแม้แต่น้อย
" พี่ทำโจ๊กกับเตรียมให้กินนะ .. กินแล้วก็นอนซะ ..จะได้ไม่มีไข้นะครับ "
เอกหันมามองหน้าของอีกฝ่าย ในดวงตานั้นดูสับสน แต่ก็มีความโกรธเคืองปนอยู่ไม่น้อย
อีกฝ่ายยังคงใส่กางเกงยีนส์ตัวเดียง บนไหล่ ยังมองเห็นรอยเล็บเป็นแผลแดงอยู่ มันคือความรู้สึกของเขาที่ระบายลงบนผิวกายของอีกฝ่าย
เด็กหนุ่มเบือนหน้าไปอีกทางพลางยกมือขึ้น เขายังไม่อยากจะพูดกับอีกฝ่ายตอนนี้
"ใส่เสื้อซะ... พี่อยากจะกลับไป ก็ออกไปแล้วล็อคห้องซะ ผมอยากจะพัก ...คนเดียว"
ชายหนุ่มที่อยู่หน้าไมโครเวฟไม่ตอบอะไร เพียงไม่นาน กลิ่นโจ๊กกึ่งสำเร็จรูปก็ลอยมาเตะจมูกคนที่สบาย บาสวางถ้วยโจ๊กลงกับโต๊ะญี่ปุ่น ไม่ห่างจากเตียงนัก ยาแก้ปวดเองก็ถูกจัดใส่ถ้วยเล็กๆ และน้ำอุ่นๆบนโต๊ะเดียวกัน
" กินสิ..กินโจ๊กกับยาก่อน เดี๋ยวค่อยนอน..นะ "
"เดี๋ยวผมจะกิน ผมก็ลุกไปกินเอง..." เอกตอบ เอกกัดริมฝีปากแน่นมือทั้งสองข้างกำแน่นเสียจนเห็นข้อขาว รู้สึกอับอายอย่างบอกไม่ถูก ยังจำได้ถึงเสียงตัวเองที่เอ่ยออกไปให้อีกฝ่ายกระทำกับร่างตัวเอง เสียงนั้นฟังดูน่าอับอายขนาดไหนอีกฝ่ายจะรู้บ้างรึเปล่า
แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังไม่ยอมขยับไปไหน และดูท่าคงจะไม่ยอมขยับไปไหนถ้าเขายังไม่ลุกไปกินโจ๊กนั่น เอกขยับตัวคว้าเอากางเกงขาสั้นที่ตกอยู่ปลายเตียงมาใส่อย่างลวกๆ ก่อนจะค่อยๆขยับลุกไปนั่งกินโจ๊กที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้ เมื่อขยับเดิน ได้ยินเสียงเอกส่งเสียงครวญออกมาเบาๆ เหมือนจะเจ็บร้าวอยู่ไม่น้อย ความจริงเด็กหนุ่มไม่ควรจะขยับลุกไปไหนด้วยซ้ำ
ชายหนุ่มตัวต้นเหตุทำท่าจะเข้าไปช่วย แต่ ความใจกล้า หน้าด้านของเขามันหายไปไหนหมดกันนะ
เสียงเจ้าของห้องทำเสียงในรำคอเหมือนไม่พอใจกับความเชื่องช้าของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้รอ หรือสนใจว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาช่วยหรือเปล่า ค่อยๆเดินไปนั่งที่โต๊ะญี่ปุ่น ยกโจ๊กขึ้นมาททานไปเรื่อยๆ เหมือนไม่มีอีกฝ่ายยืนอยู่ในห้อง
ความเงียบเข้าปกคลุมอยู่นาน ก่อนที่เอกจะหยิบยามากิน แก้วน้ำถูกวางลงบนโต๊ะพร้อมเสียงถอนหายใจ
"เรียบร้อยแล้ว...พี่ก็น่าจะกลับบ้านไปได้แล้วนะครับ"
" เดี๋ยวพี่รอเอกนอนก่อน.. ให้เอกหลับก่อนแล้วพี่จะไป " อย่างน้อยในตอนนี้ถึงอีกฝ่ายจะเกลียดเขาแล้วก็เถอะ ก็ขอให้เขาได้สบายใจที่เห็นว่าเอกได้หลับสนิทไปแล้ว .. ถึงจะกลับบ้านได้
"ดื้อด้านเป็นบ้า...." เอกมองหน้าของอีกฝ่าย สายตาไม่ได้เป็นมิตรเอาเสียเลยก่อนจะขยับลุกขึ้นช้าๆ ไปนั่งที่เตียง
"ถ้าพี่จะออกไป ก็ล็อคห้องให้ด้วยนะครับ...
แล้วอาทิตย์หน้า พี่ไม่ต้องมาสอนแล้วนะ ผม....ไม่อยากเรียนแล้ว" เด็กหนุ่มพูดไปตามตรง ก่อนจะล้มตัวลงนอน ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมเสียจนมิด
มีเพียงความเงียบที่เป็นคำตอบ .. บาสยืนมองผ้าห่มที่คลุมร่างอีกฝ่ายไปจนมิดแบบนั้นอยู่นาน เขาอยากจะเข้าไปกอด อยากจะขอโทษ
.. แต่คงทำไม่ได้แล้วใช่ไหม ? ตลกดีเหมือนกันนะ..ทำแบบนี้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายจากไปไหน แต่เอกที่เป็นแบบนี้ ก็ทำให้เขาต้องปล่อยมือแล้วงั้นเหรอ..บาสยืนอยู่แบบนั้นเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนจะเปิดประตูห้องของเด็กหนุ่มและเปิดให้เบาๆ
เสียงประตูที่ปิดลงเบื้องหลังทำให้คนที่อยู่ใต้ผ้าห่มค่อยๆขยับลุก ไฟฟืนบาสยังใจดีดับให้จนหมดทิ้งเขาเอาไว้ในความมืดก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ
"..............แล้วจะให้ทำยังไงต่อไปล่ะ...." เอกถามตัวเองแต่แน่นอนอยู่แล้วว่าเขาไม่มีคำตอบใดๆให้กับตัวเองได้เลย
...ทั้งที่ปฏิเสธ....
....แต่ท้ายที่สุดก็.....
....กอดเขาเอาไว้แบบนั้น....++++++++++++++++++
เช้าวันรุ่งขึ้นเอกไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแบกทั้งหน้าและตัวเองไปเรียน ทั้งๆที่อยากจะหยุด แต่เขายังต้องรับผิดชอบกับการเรียนที่ตัวเองพยายามเป็นอย่างมากเพื่อที่จะได้เข้ามาเรียนที่นี่
...เรื่องแค่นี้น่ะ ไม่เห็นจะต้องไปใส่ใจเลย...แม้จะบอกกับตัวเองไปแบบนั้น แต่ก็เดินใจลอยออกจากห้องมาโดยที่ลืมอุปกรณ์สำคัญในการพยายามทำตัว "ธรรมดา" ของตัวเองไปเสียสนิทใจ เอาหนังสือมาก็ไม่ครบ ผมเผิมก็ไม่ได้จัดแต่งเป็นทรงเหมือนอย่างทุกที
"เจ้าหญิง" ในสายตาของใครๆวันนี้ดูแตกต่างไปจากทุกครั้ง ทั้งใบหน้าที่ไม่มีแว่นตามาปิดบังให้เกะกะตา และ ทรงผม และดวงตากลมที่ดูจะเป็นประกายแตกต่างไปจากทุกๆวัน
" เอก...โห วันนี้ดูแปลกไปว่ะ " พี่หนึ่ง พี่รหัสเดินเข้ามาทักน้องรหัสคนสวยของตัวเอง ที่มักจะทำอะไรก็ตามเพื่อไม่ให้เป็นจุดเด่น ต่างจากวันนี้
ดวงตากลมโตวันนี้ไม่มีแว่นมาเกะกะ ไหนจะทรงผมที่ยุ่งๆดูเหมือนบอยแบนด์เกาหลีนี่อีก และเพราะเจ้าหญิงเป็นแบบนี้จึงทำให้เขาถูกมองมาตลอดทางตั้งแต่หอพักจนเข้ามาถึงในคณะ
"พี่หนึ่ง........" สายตาที่มองมายังพี่รหัสทำให้อีกฝ่ายต้องสะดุ้ง มือเรียวแต่กำลังวังชานั้นเหลือล้นแทบวางแบบเกือบจะเรียกได้ว่าตะปบลงบนไหล่ของร่นพี่
"ผมไม่เรียนแล้วนะ ไอ้ดรออ้งดรออิ้งอะไรเนี่ย ไม่เอาแล้ว..." เด็กหนุ่มที่ปรกติมักจะพูดเสียงเบาๆ วันนี้กลับพูดเสียงดัง ท่าทางสับสนอยู่ไม่น้อย
" อ้าว? หาาาา ไม่เรียนได้ไง! อย่างนี้พี่บาสเอาพี่ตายห่าแน่ "สิ่งที่น้องรหัสของเขาพูดทำเอาหนึ่งแทบจะล้มลงไปกองกับพื้น
"เอาพี่...?....เอ้อ ก็ให้เอาไปเลย เอาให้ตาย" ปรกติที่เป็นเด็กเรียบร้อย เอกวันนี้ดูหงุดหงิดได้ที่
"พี่กับไอ้พี่บาสอะไรเนี่ย รวมหัวกันมาแต่แรกใช่ไหมล่ะ ผมรู้หรอก..." เด็กหนุ่มมองหน้าร่นพี่อย่างเอาเรื่อง
" เปล่าโว้ยยย พี่บาสเขาให้พี่ช่วย เขาจะจีบเอกอะ .. เฮ้ย เห็นแบบนั้นพี่เขาก็ดีนะเว้ย พวกพี่เคารพพี่เขาทุกคน แต่ถ้าเอกจะบอกเลิกเรียนก็ต้องไปบอกเองว่ะ พี่ไม่กล้า "
พี่รหัสรีบบอก ดูเหมือน การที่บาสชอบผู้ชายเหมือนกันจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่นี่ และดูเหมือนว่าทุกคนจะยอมรับได้
"พวกพี่เคารพเขา..."ดวงตาของเด็กหนุ่มอ่อนแสงลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงหน้าของคนที่กำลังพูดถึง
"แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นคนดีอะไรนักนี่....
แผนเยอะ มีแฟนอยู่แล้วยังจะมา.... แย่ที่สุด..."เด็กหนุ่มพึมพำเหมือนพูดคนเดียวก่อนจะมองหน้าของพี่รหัส
"พี่ไม่ต้องห่วงนะ ผมบอกเขาไปแล้ว แค่จะพี่ว่า ไม่ต้องห่วงเกรดผม ผมไม่ต้องการติวเตอร์อีกแล้ว" ว่าแล้วก็หันหลังให้รุ่นพี่เดินไปอีกทางทันที ท่าทางเหวี่ยงๆเหมือนของขึ้นทำให้หนึ่งไม่กล้าทักท้วงอะไร
++++++++++++++++++
ดูเหมือนฟ้าจะเป็นใจให้เอกได้ระบายอารมณ์หงุดหงิด โกรธ และสับสนของตัวเองลงกับใครซักคน เด็กหนุ่มเดินผ่านกลางคณะไปเห็น "ตัวต้นตอ" นั่งอยู่ที่โต๊ะตรงลานกลางคณะ อยู่กับเพื่อนหน้าตาดีคนนั้น ท่าทางพูดคุยกันอย่างสนิทสนม บาสดูจะยิ้มอยู่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มิหนำซ้ำจุนเจือยังคว้าคอบาสมากอดพลางยกกล้องมือถือขึ้นมาถ่ายด้วยซ้ำไป
ไม่มีอะไรระงับสติของเอกเอาไว้ได้อีกช่วงขายาวสาวฉับๆ ไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวบาสเป็นที่เรียบร้อย
"พี่บาส!" เสียงที่เรียกชื่อของอีกฝ่ายนั้นดังพอจะเรียกความสนใจจากคนรอบๆข้างได้
เสียงที่ดังขึ้นมาจากด้านหลังทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งโหยง ไม่ต้องหันไปเขาก็รู้ดีว่าคือใคร มือแกร่งผลักเพื่อนสนิทออกโดยอัตโนมัติ
" เอก? " เสียงนั้นหงอยลงไปทันที
ไม่ต้องทันได้ตั้งตัวอะไรมากหมัดลุ่นซัดเข้าที่หน้าของประธานเชียร์เสียจนคนที่นั่งอยู่กับโต๊ะล้มครืนหน้าหงายลงไปทั้งอย่างนั้น เรียกเสียงฮือฮาจากคนรอบข้างได้ไม่น้อย
"เฮ้ย...บาส...."จุนเจือตั้งสติได้หลังจากที่อึ้งไปหลายอึดใจ ก่อนจะเข้าไปดึงตัวเพื่อนเอาไว้ แต่เมื่อมองกลับมาก็เห็นเจ้าของหมัดยืนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่อย่างนั้น
"เอก นี่มันอะไร ต่อยเพื่อนพี่ทำไม....มีเรื่องอะไรกัน!"
"พี่ทำลงไปได้ยังไง! ไม่แฟร์เลย! " เอกตะคอกใส่หน้าคนที่ล้มลงไปกองเสียงดัง ก่อนจะวิ่งไปอีกทาง
" โอ๊ย!! เอกกกกกกก เดี๋ยวเอกกกกกกกกกกก!!!! " บาสทำท่าจะลุกขึ้น ปากก็ตะโกนเรียกอีกฝ่ายเอาไว้ แต่เขาก็ตามไปไม่ได้ เพราะโดนจุนเจือดึงเอาไว้
" อะไรของมึงเนี่ย สาดดดดดดด ปล่อยกู "
"มึงไปทำอะไรน้องมัน" จุนเจือดึงเพื่อนเข้ามาใกล้กระซิบถามเบาๆ เขารู้ว่ามันจะเป็นคำถามที่ทำให้อีกฝ่ายนิ่งได้
แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ บาสหยุดโวยวายแล้วก็ได้แต่เงียบ ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาแล้วหันไปมองหน้าสวยๆของอีกฝ่าย
"
มึงบอกให้กูทำอะไรมั่งล่ะ สาดดดดดดด "
"หา......" จุนเจือเลิกคิ้วสูง ก่อนที่คิ้วเรียวจะขมวดมุ่น ใบหน้าสวยเอียงไปอีกทาง
"กูบอก
อะไรมึงไปเหรอ?"
บาสลุกขึ้นเดินหนีไปอีกทาง ไม่ยอมตอบคำถามนั้น เป็นสิ่งที่ผิดปกติอย่างมากสำหรับผู้ชายคนนี้
"อ้าวเฮ้ย บาส...บาสมึงลืมกระเป๋า ห่านี่.... " จุนเจือเรืยกอีกฝ่ายเอาไว้แต่ก็ไม่ทัน หันมองรอบตัวมีแต่สายตามองมา เป็นครั้งแรกหลังจากอยู่มาสามปีที่รู้สึกว่า อาย เป็นจริงเป็นจัง จุนเจือรวบหนังสือสมุดกระเป๋าของตัวเองและอีกฝ่ายวิ่งตามไป อย่างน้อยก็ให้เร็วกว่าที่อาจารย์จะมาจากเสียงดังเอะอะเมื่อครู่
+++++++++++++++
กลับมาอัพแบบป่วยๆค่ะ รีดเดอร์ .. ขอยืนยันอีกครั้งนะคะ จุนเจือเพื่อนเลิฟของพี่บาสจริงๆนะ!
