หอมกลิ่นกาแฟ Series>>4th Story:จะกั๊กไปทำไม..ก็ใจมันสั่งมา
“กูว่า กูจะย้ายออกแล้วนะ ที่นี่มันไกล กูตื่นไม่ไหวว่ะ จิ๊บ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความเงียบในช่วงเช้าที่แสนจะเร่งรีบภายนอกหอพักสีเขียวกลางกรุง เด็กหนุ่มร่างผอมบางว่า ก่อนจะลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำทันที ปล่อยให้คนที่เป็นคู่สนทนาได้แต่มองตามไปที่ประตูห้องน้ำโดยที่ไม่ได้พูดอะไร หากแต่ดวงตากลมโตนั้นกลับเศร้าหมอง คนที่เข้าห้องน้ำเป็นทั้งเพื่อนทั้งคนที่เขากำลังคบอยู่
เอก เด็กหนุ่มหัวดี ครอบครัวทางบ้านก็ดี นิสัยดี พวกเขาคบกันสนิทสนมกันมากในช่วงมัธยมปลาย จนกระทั่งสอบเข้ามหาวิทยาลัย แม้ว่าจิ๊บจะไม่ได้หัวดีเท่าเอก และไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของประเทศเหมือนอีกฝ่าย แต่ก็ยังดื้อแพ่งที่จะมาเรียนที่กรุงเทพ โดยเลือกที่จะเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย นั่นทำให้เวลาของคนทั้งคู่ไม่ตรงกัน เอกดูเหมือนจะเหนื่อยมากกับการเรียน และความลำบากในการเดินทาง ส่วนจิ๊บก็ทำงานพิเศษในช่วงกลางวัน และต้องแบ่งเวลาไปเรียนและสอบเรื่อยๆ ชีวิตที่มีแต่ความเครียดจนเริ่มพูดคุยกันน้อยลงไปโดยปริยายทำให้ เอกตัดสินใจพูดเรื่องนี้ขึ้นมาในเช้าวันนั้น
++++++++++++++++++
สองอาทิตย์หลังจากนั้นเอกก็ย้ายออกจากหอสีเขียวที่นับได้ว่าห่างไกลจากมหาวิทยาลัย มาอยู่ในอพาร์ตเม้นท์ขนาดกลางที่จัดได้ว่าสะดวกสบายพอสมควรและระยะทางนั้นไม่ไกลมากนักทำให้วันใดที่มีเรียนในช่วงเช้าเขาก็ไม่ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนมากนักกับการพยายามวิ่งไปให้ทันเวลาเข้าห้องเรียน เอกค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับการเรียนและเขาไม่อยากขาดวิชาใด รวมไปจนถึงบางครั้งก็หงุดหงิดอยู่ไม่น้อยกับการทำกิจกรรมรับน้องที่ดูจะกินเวลาพักผ่อนเวลาอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนของเขาไปพอสมควร
วันนี้ก็เช่นเดียวกันที่ภายในห้องเชียร์เงียบกริบไม่มีการส่งเสียงใดๆ มีเพียงแต่พีเชียร์ที่ส่งเสียงโวยวายโดยไม่ทราบสาเหตุและใช้พลังเสียงนั้นข่มขวัญรุ่นน้องอยู่ตลอดเวลา
กิจกรรมเชียร์ดูจะเป็นกิจกรรมบังคับของคณะ โชคดีของนักศึกษารุ่นใหม่ๆ ที่กิจกรรมเชียร์นั้นลดความรุนแรงลงบ้าง แต่ก็ยังมีบ้างที่รุ่นพี่ต้องเข้มงวดต่อรุ่นน้อง ด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี ..
เอกเหลือบมองซ้ายขวาใช่ว่าเขาจะรู้สึกไม่เกรงใจแต่มันก็อดไม่ได้ที่จะเปิดปาก
หาวออกมา เพราะอ่านหนังสือจนดึกดื่นเสียทุกคืน ท่ามกลางความเงียบของบรรยากาศภายในห้องเชียร์
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่าาาาาาาาา " เสียงระเบิดหัวเราะดังลั่นก็ดงขึ้นมาจากด้านหน้า ทำเอาทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียวก่อนจะตามมาด้วยเสียงฮือฮาของรุ่นน้องเมื่อพบว่าคนที่หัวร่องอหายอยู่นั่นเป็นหนึ่งในพี่เชียร์นี่เอง
" เชี่ยบาส " พี่คนหนึ่งรีบเตือนสติเจ้าของชื่อ ส่วนอีกคนก็รีบก็สถานการณ์ทันที
" เฮ้ย ไอ้บาส ไปเอาที่นอนมาปูเลยมึง .. น้องเขาจะ
นอน "
คนที่ระเบิดเสียงหัวเราะใส่เอกนั่นเอง ที่กลับมาอีกครั้งหลังจากสงบสติได้แล้ว ชายหนุ่มยิ้มให้รุ่นน้องตรงหน้า
" จัดไป "
เพียงไม่นาน ที่นอนปิ๊กนิคสีแดงโดดเด่นก็ถูกปูบนเวที
" เชิญเลยคร้าบบ .. พักผ่อนตามสบาย " บาสผายมือไปทางที่นอนที่เขาปูให้อย่างดีที่บนเวทีที่ยกขึ้นสูงในห้องเชียร์
"อ่ะ.....ครับ" เอกมองหน้าของรุ่นพี่ทั้งสองเลิกลั่ก ก่อนจะหันไปมองเพื่อนร่วมรุ่นอย่างอายๆ ก่อนค่อยๆลงนอนอย่างช่วยไม่ได้ เขาแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี แต่บรรยากาศแปลกประหลาดระหว่างพี่เชียร์นั้นก็ทำให้เขาไม่กล้าที่จะเดินไปไหนนอกจากทำตามที่รุ่นพี่สั่ง
...อะไรเนี่ย คนนึงก็เข้ม อีกคนนึงก็ดูบวมๆ...นี่มันพี่เชียร์ หรือ พี่สันทนาการกันแน่...แต่ทันใดนั้น คนที่ปูที่นอนให้ก็นั่งยองๆลงข้างเด็กหนุ่มที่นอนอยู่ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มๆมองยิ้มๆ .. ที่จริงยิ้มมากจนเอกเห็นรอยที่หางตาเลยด้วยซ้ำ
" ให้พี่ช่วยกล่อมไหมครับ? "
".....ไม่เป็นไรครับ...ขอบคุณครับ" เอกว่าพลางยกมือไหว้อย่างกล้าๆกลัวๆ ไม่เข้าใจว่ารุ่นพี่ที่อยู่ตรงหน้านี่ต้องการจะทำ หรือ ให้เขาทำอะไร
" งั้นก็...นอนนะครับ เด็กดีๆ "บาสว่าแล้วยิ้มร่าก่อนจะลุกขึ้น ยิ้มกวนๆให้กับ เพื่อนที่ดุที่สุดในห้องนี้ ไม่ได้เกรงกลัวอะไรกันเลย
เอกทำหน้าไม่ถูกก่อนจะจำใจนอนลงตัวแข็งทื่ออยู่ตามคำสั่งอยู่อย่างนั้น
...เรื่องนี้นับได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าอับอายที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ ...
++++++++++++++++++
กิจกรรมการรับน้องดูจะจบไปได้อย่างสวยงาม หลังจากผ่านช่วงครึ่งแรกของเทอมไป และจากเหตุการณ์ในวันนั้นก็ดูจะทำให้เอกเป็นที่รู้จักของเพื่อนมากขึ้น และทุกคนก็ดูจะจำเขาได้ดี จนแอบมีเสียงแซวกันทั้งต่อหน้าและลับหลังว่า
"เจ้าหญิงนิทรา" บ้างล่ะ
"สลีปปิ้งบิวตี้"บ้างล่ะ
มันผิดความตั้งใจของเด็กหนุ่มที่ตั้งใจจะ เรียนเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องการความโดดเด่น หรือกิจกรรมอะไรทั้งนั้น ดังนั้นพอได้ยินฉายาตัวเองทีไรก็มักจะนึกถึงที่มาของมันทุกครั้ง เสียงหัวเราะดังลั่นแบบไม่อายใครของรุ่นพี่คนนั้น
--ตุบ--
แรงกระแทกทำให้คนที่พยายามจะเอาผ้าเช็ดแว่นของตัวเองเซถอยหลังไม่พอแว่นกรอบสีเงินยังหลุดมือตกลงบนพื้นอีกต่างหาก
"ขอโทษครับ" ถึงปากจะบอกไปแบบนั้น กลับห่วงแว่นที่ตกอยู่กับพื้นยิ่งกว่าอะไร เอกรีบคว้าแว่นขึ้นมาใส่
" ไม่เป็นไรครับ .. อ้าว..
เจ้าหญิง? "คนที่ถูกชนทักเอกด้วยเสียงอันดัง มือแกร่งคว้าแขนเอาไว้โดยอัตโนมัติ
" ใส่แว่นเหรอเนี่ย? ถึงว่าพี่หาเราทั่วคณะ ไม่ยักเจอแฮะ "
"............เจ้าหญิง?" เอกดึงแขนตัวเองออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย
"ขอโทษครับ...พี่คงจำคนผิดแล้ว...ลาล่ะครับ" ว่าพลางหันหลังสาวเท้าหนีอย่างรวดเร็ว
คนที่เดินชนนั่นทำไมเขาจะจำไม่ได้ พี่บาสที่เป็นประธานเชียร์นั่นเอง แถมยังมารู้เอาทีหลังด้วยว่าเป็นรุ่นพี่ภาคเดียวกันกับตัวเองอีกต่างหาก ...เพราะเป็นแบบนั้นถึงได้พยายามจะหลบเลี่ยงการเดินเฉียดไปใกล้กลุ่มปีสามมาโดยตลอด
เสียงหัวเราะไม่อายใครนั่นมันหลอกหลอนเขาไม่น้อย
...คนอะไรหัวเราะไม่ไว้หน้ากันบ้างเลย..." ครับ! ตั้งใจเรียนนะน้องงงงงง!!! "บาสยังส่งเสียงตะโกนไล่หลังมาอีก ทำเอาคนต้องหันมามองทั้งคู่อีกรอบ แต่..สำหรับบาสแล้ว นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย
ไหล่สองข้างของเด็กหนุ่มกระตุกจนแทบจะเรียกได้ว่าสะดุ้ง เอกแทบจะจ้ำไปให้พ้นลานระหว่างตึกนั่นแทบไม่ทัน
++++++++++++++++++
Talk :
ค่ะ เจ้าำพ่อ~
ขอแปะอันนี้ก่อนเลยค่ะ .. สำหรับหลายคนที่รอคอย นี่ก็คิวเรื่องที่ 4 เข้าไปแล้วนะคะ .. เรียงลำดับการแต่งนี่ก็เรื่องที่ 4 ค่ะ หลังจากที่ซดมาม่ากันจนสิวขึ้นไปตามๆกัน แล้วก็ป่วยด้วย สำหรับไรเตอร์และโคไรท์เตอร์ เื่องนี้เลยขอชิลๆ หน่อย นะคะ .. หวังว่าคงไม่ต้องได้ผัดมาม่าแจกรีดเดอร์นะคะ!!