"น้อย! กลับมาคุยกันก่อน! "พศวัตตวาดลั่นห้อง มือแกร่งทำท่าจะดึงสายน้ำเกลือออกเพื่อตามเด็กหนุ่มไป ยังไม่ทันที่ประตูห้องพักของคนป่วยจะปิดลง มือเรียวขาวของใครบางคนก็ยื่นเข้ามารับไว้
"อ้าว นั่นน้อยนี่พี่แมน...รีบไปไหนของเขานะ" เสียงรามินทร์ ดังขึ้นที่หน้าประตูก่อนที่จะก้าวเข้ามาเห็นท่าทางของพี่ชาย
"เฮ้ย พี่แมกซ์อย่าดึงนะ.....เลือดพุ่งแน่เลย " รามินทร์ร้องลั่น เขาเกลียดเข็มหรือโรงพยาบาลมาแต่ไหนแต่ไร อยู่แล้วยังจะต้องมาเจอภาพชวนหวาดเสียวแบบนี้อีก
"ไอ้แมน! มึงไปตามน้อยมาหากู เดี๋ยวนี้!! " พศวัตสั่งน้องเขยตัวเองเสียงดัง เขาไม่สนใจเลยว่าที่นี่คือโรงพยายาลและทุกคนต้องการความเงียบ
"เอ่อ.. ครับ" ทำเอากตัญญุต้องเอาของเยี่ยมไข้ยัดใส่มือคนรักแล้วรีบตามเด็กหนุ่มไป
"อะไร อะไรกันนนน พี่แมกซ์ เป็นอะไรไป..." ทั้งๆที่ดูจะเข้าใจสาเหตุดีแต่รามินทร์กลับถามเหมือนไม่รู้เรื่อง พศวัตร้องออกมาไม่เป็นภาษาด้วยความหงุดหงิดเมื่อ น้องชายที่ถามดีๆ (??) กลับโดนตวาดไปด้วย คนป่วยทำท่าจะดึงสายน้ำเกลือออกอีกรอบ
"พี่แมกซ์ ...จะดื้อไปไหนนี่... เดี๋ยวก็ไปตามมาให้หรอกน่า "รามินทร์ว่าพล่งเดินเข้าไปคว้าแขนของพี่ชายเอาไว้
"เพิ่งเคยเห็นเหมือนกันนะ เต้นผางๆ จะเอาเด็กให้ได้เนี่ย" น้องชายยิ้มกวนก่อนจะตบไหล่พี่ชายเบาๆให้นอนลงเหมือนเดิม
"นอนไปเลย คนป่วย"
"พูดให้มันดีๆ "คิ้วหนาขมวด ไม่รู้ทำไมแต่เขาไม่ชอบให้ใครมาพูดถึงสมปองของเขาแบบนั้นแต่ก็ต้องยอมนอนลงไปที่เดิม ชายร่างสูงถอนหายใจ พลางมองไปที่ปิ่นโตข้างๆ
" ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย หน้าก็ฟ้องอยู่ชัดๆว่าคิดยังไง ทำไมถึงทำแบบนี้วะ? "
"แล้วคิดไหมล่ะว่า...เด็กที่มันชอบพี่มากๆอ่ะ อยู่ๆถึงจะมางอนพี่เอาๆ แบบนี้? "
"แล้วใครจะไปรู้วะว่าทำอะไรให้มันงอน กลับมาถึงกรุงเทพ โทรหาก็ไม่ติด ไปตามถึงวัดก็ดันสึกออกไปแล้ว .. ทั้งๆที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เจอหน้ากันทำดีๆด้วยหน่อยก็ไม่ได้ "พอได้บ่น เขาก็บ่นเสียยาวเหยียดเลยทีเดียว ราวกับอัดอั้นมานาน
"แล้วคิดไหมล่ะว่า เขาโทรหาตัวเองก่อนไหม? เขาออกตามหาตัวเองหรือเปล่า? บอกไหมว่าจะไปไหนตอนไหน...พี่แมกซ์ น้อยมันเนี่ยนะ...สึกออกมารู้ไหมว่ามันมาหาใครก่อนคนแรก..."รามินทร์เอ่ยถามพี่ชาย
" แล้วใครจะไปรู้ว่ามันจะสึกเมือ่ไหร่?
ใช่พี่บอกว่าจะรอมัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะนั่งรอมันเฉยๆได้นะ .. แล้วถ้าไม่รักมัน ไม่อะไรกับมันจริงๆ กลับมาพี่จะรีบขับรถไปขอนแก่นกลางดึก กับอีกแค่จะไปใส่บาตรที่หน้าวัดเหรอ? "ชายหนุ่มบอกสิ่งที่ตัวเองไม่คิดจะบอกใครมาก่อน และเรื่องเช้านั้นมันทำให้เขาเจ็บไม่น้อยเลยทีเดียวที่หอบความหวังว่าจะได้เจอเด็กคนนั้นห่มจีวร ท่าทางสงบนิ่งเปิดบาตรรับของที่เขาเลือกมาให้
"ฮ่ะๆ..."คำพูดของพี่ชายทำให้รามินทร์ยิ้ม
...เอาจริงเนอะ...."แล้วสถานะเขาเนี่ย ณ ตอนนั้นน่ะ จะให้เขาโทรมาบอกได้เหรอว่า เณรจะสึกวันไหน... แต่นะเขาสึกออกมา เขาไม่เหลือใคร ก็มาเจอว่ามีแต่เงินวางเอาไว้ให้ไม่ได้มีคำอธิบายเนี่ย นอกจากจะงงมากๆ แล้วมันเหมือนดูถูกเขาไปไหม น้อยมันต้องการแค่เงินจากพี่เหรอ...
เด็กมันก็มีศักดิ์ศรีนะ คิดดูซิ่ว่าก้มหน้าก้มตาทำงานมาตลอด ไม่เคยคิดจะขอยืมใคร เอาเงินเดือนแค่นั้นไปเลี้ยงแม่อยู่ได้ตั้งนานเนี่ย .... น้อยมันคงไม่ทนมาขนาดนี้หรอก ถ้ามันไม่มีศักดิ์ศรีน่ะ แล้วพี่ทำอะไรให้มันอ่ะ...
รักชอบน่ะเข้าใจ แต่ในอีกทางนึง พี่ก็เหยียบศักดิ์ศรีเด็กมันไปเรื่อยๆเหมือนกัน ...เห็นแล้วมินไม่ทนหรอกว่ะ ..." ประโยคหลังของน้องชายทำให้พศวัตหันมามองหน้าทันที
" แล้วแกเห็นอะไร ทนอะไร .. เฮ้ย อย่าบอกนะเว้ย ว่าไปพูดอะไรกับเด็กมัน? " ดวงตาคมจ้องหน้ารามินทร์เขม็ง
"ก็แล้วทีตัวเองรู้เห็นอะไรมาตั้งหลายปีเนี่ย...เคยบอกน้องบ้างไหม ปล่อยมันโง่กันสองคนมาหลายปีเนี่ย ...เขารักกันจะตายน่ะ เคยช่วยน้องบ้างไหม" รามินทร์ถามกวนๆ เขาไม่ได้คิดจะเคืองพี่ชายอะไรมากมายอยู่แล้ว แค่อยากเห็นพี่ชายเต้นผางๆ ยอมทำทุกอย่างเหมือนที่เขากับกตัญญูทำเพื่อความรัก เพื่อความรู้สึกของตัวเอง และ คนที่รักแบบ...จังๆกับตาสักครั้ง เลยได้นึกแผนแกล้งไปแบบนั้น
"อ้าว ไอ้มิน นี่แก้แค้นเหรอ? "คิ้วเข้มๆนั่นขมวด ไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย
"ก็ใช่ ที่ตอนนั้นพี่ไม่คิดว่าไอ้แมนจะดูแลเราได้มันมีแต่ตัวกับหนี้แล้วก็รู้โว้ยว่ามันรักแกจริงๆ แต่ฉันเป็นพี่แก ฉันก็ห่วง "
"แก้แค้นอ่ะดิ่...นี่เทียบกับพวกผมยังโดนน้อย นะ ของพี่มันเพิ่งจะเจ็ดสิบสองชั่วโมงเอง..." รามินทร์ว่าพลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
"แต่สำหรับพี่ ถ้าแค่สามวันยังจะลงแดงตายกับการนั่งรอใครเนี่ย พี่ว่า เจ้าน้อยมันเจ็บหนักกว่าพี่ไหม....ขอเหอะ ไอ้มุกโอนเงินเนี่ย ไม่เข้าท่า"
"แล้วถ้าเป็นแก จะทำยังไง? "คนที่ไม่เคยฟังใครกลับยอมถามน้องชายของตนเป็นครั้งแรก
"ก็แค่ติดต่อเขาบ้าง ไม่ใช่หายไปแล้วทิ้งเงินไว้...หาเวลาอยู่กับเขา...เวลาที่เขาต้องการพี่จริงๆน่ะ มันไม่ใช่แค่ตอนที่เสียแม่ไปหรอกนะ มันต่อจากนี้ไปต่างหาก..."รามินทร์ตบไหล่พี่ชายเบาๆ
"เงินมันไม่ใช่ทุกอย่างหรอกนะพี่" “..........................................” พศวัตครุ่นคิดกับคำพูดของน้องชาย
++++++++++++++++++
"เข้ามาสิวะ " มือแข็งแรงของเชฟหนุ่มดึงแขนเล็กๆแต่แข็งแรงของสมปองให้เดินตามเขาเพื่อจะเข้าไปในห้องพิเศษของโรงพยายาลแห่งนี้
"............." สมปองเหลือบมองคนที่อยู่บนเตียงคนป่วยก่อนจะเบือนหน้าเล็กน้อย เขาได้ยินหมดทุกอย่างที่รามินทร์คุยกับพศวัต
"น้อย....." รามินทร์ถอนหายใจก่อนจะกวักมือเรียกให้อีกฝ่ายเดินมาหา
"พี่ขอโทษนะ...พี่เองก็เป็นคนทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่โต..แต่พี่ก็ได้เห็นว่าเราน่ะ พยายามจริงๆ พยายามเพื่อพี่ชายงี่เง่าของพี่เนี่ย ขอบใจนะ" ชายหนุ่มว่าพลางตบลงบนบ่าของเด็กหนุ่ม
"เอ้า...คุยกันไปนะ ของเยี่ยมก็วางแล้ว...พี่แมน เราไปกันเถอะ" รามินทร์หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเดินไปคว้าแขนคนรัก
"อีกแล้วนะมิน.. "กตัญญุดุคนรักเบาๆ แล้วก็รีบลากแขนให้รามินทนร์รีบออกจากห้องไปโดยไวปล่อยให้ทั้งสองคนที่มีเรื่องจะต้องสะสางได้คุยกันแบบเป็นจริงเป็นจังเสียที
++++++++++++++++++
“........................................”
“...........................................”
ทั้งพศวัตและสมปองได้แต่มองหน้ากันนิ่งท่ามกลางความเงียบและแอร์เย็นจนแทบจะเรียกได้ว่าหนาวของห้องในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง
"เดี๋ยวนี้เงินเดือนเท่าไหร่แล้ว? "พศวัตทำลายความเงียบขึ้นมาด้วยการถามถึงเรื่องทั่วๆไป
"หมื่นห้าครับ" เด็กหนุ่มตอบเสียงเบา ยังไม่กล้ามองหน้าของอีกฝ่ายตรงๆ มิหนำซ้ำยยังยืนห่างอีกเป็นวา
"คืนเดือนละ สามพัน ก็พอ .. ที่พี่โอนให้เราไปสามหมื่นน่ะ สิบเดือนไม่คิดดอกเบี้ย "คนที่นอนอยู่บนเตียงบอกไปแบบนั้น แล้วถาม ดวงตาคู่คมมองหน้าเล็กๆนั่นนิ่ง
" จะให้พี่ทำอะไรอีก? …. ให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ""..............." สมปองเม้มริมฝีปากแน่น
"ให้ผม.....อยู่ข้างๆคุณแมกซ์จะได้ไหมครับ...ผมรู้ว่าผมทั้งเด็ก...ทั้งโง่...หน้าตาก็ไม่ได้ดีอะไรแล้วยังมีแต่หนี้ จนอีก...
แต่ขอให้ผมพยายามกว่านี้ จะได้อยู่ข้างๆคุณแมกซ์..."เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่าย
"จะได้ไหมครับ" เด็กหนุ่มเอ่ยทั้งๆที่เสียงสั่นเครือ ดวงตากลมนั้นมีทั้งความกังวล ความหวัง และความดื้อรั้นแบบเด็กๆปนเปกันไปฉายแววออกมาให้เห็นเด่นชัด ดวงตากลมโตที่สบตาเขา ด้วยแววตาเหมือนต้องการที่พึ่ง ราวกับว่าที่กำแพงที่แข็งแรงต่อหน้าเขามาตลอดหลายวันที่ผ่านมา กำลังจะพังทลายไปตรงหน้า
" งั้น..มาหาพี่นี่..มา " ชายหนุ่มกางมือทั้งสองข้างออกจากกัน สมปองที่มีท่าทีดื้อดึงให้เห็ยเมื่อวานกลับเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย สองแขนเล็กคว้าอีกฝ่ายเอาไว้ใบหน้าซุกลงกับอกแกร่ง
"พี่รักเรานะครับ .. อย่าทำเหมือนไม่สนใจพี่อีก จะได้ไหม? "มือข้างที่มีสายน้ำเกลือเสียงอยู่ลูบผมของอีกฝ่ายเบาๆเหมือนอย่างที่เคยทำ
"...คุณแมกซ์ครับ...." เด็กหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามนั้น
"ไม่เอาแล้วนะครับ อย่าทำแบบตอนนั้นอีกนะครับ ผมอยากเดินไปกับคุณแมกซ์นะครับ...
ผม..ขาดคุณแมกซ์ไม่ได้ก็จริง แต่ผมไม่เคยคิดที่จะขอคุณแมกซ์กินนะครับ เชื่อผมนะครับ"สองมือยิ่งยึดแน่นกับเสื้อของโรงพยาบาล
"น้อย..พี่ขอโทษนะ พี่..ทำตัวไม่ถูก
เราเป็นคนแรกที่พี่จริงจังด้วย แล้วพี่ก็ห่วงเรามาก อยากให้มาอยู่ใกล้ๆแต่ก็ทำไม่ได้ พี่ถึงทำแบบนั้นไป ขอโทษนะครับ "น้ำเสียงแบบนั้นของสมปองทำให้พศวัตต้องแตะใบหน้าเล็กให้มองหน้าเขาตรงๆ
"ครับ.." เด็กหนุ่มยิ้ม เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่สมปองคิดว่าได้ยิ้มออกมา เพราะรู้สึกเป็นสุขในหัวใจจริงๆ
"ผมขอโทษครับที่ทำตัวแบบนั้น... แต่ผมคิดว่าคุณแมกซ์ทิ้งผมไปจริงๆ"
"ใครจะเป็นคนทิ้งกันแน่หา? พี่น่ะแก่แล้วจะโดนเด็กทิ้งเมื่อก็ไม่รู้ "ถึงจะตัดพ้อ แต่ริมฝีปากหนากลับยิ้มกว้าง มือแกร่งแตะผิวแก้มเนียนแล้วรั้งให้เข้ามาใกล้
" ใช่ไหม? "
"จะมีใครมาเอาเด็กบ้าแบบผมเล่า..." เด็กหนุ่มหน้าแดง
"แล้วคุณแมกซ์ก็ยังไม่แก่ด้วย...พอแล้วแหย่ผมเล่นอีกแล้ว" ว่าพลางก็ทำท่าจะดิ้นขลุกขลักออกจากวงแขนของอีกฝ่าย
จุ๊บ
ริมฝีปากหนาแตะกับอีกฝ่ายทันทีที่คนในอ้อมแขนเริ่มโวยวาย เด็กหนุ่มตาโต ก่อนจะหยุดนิ่งในอ้อมแขนนั้น ยอมให้อีกฝ่ายจูบเขาแต่โดยดี ไม่วายที่ริมฝีปากของสมปองจะเม้มเข้าหาเป็นการตอบรับสัมผัสจากอีกฝ่าย รสชาติหวานๆที่ห่างหายไปนานยิ่งทำให้พศวัตได้ใจ ปลายลิ้นร้อนรุกเร้าเข้ามาเมื่ออีกฝ่ายตอบรับสัมผัสเป็นอย่างดี มือไม้ก็ซุกซน สอดเข้าไปในชายเสื้อสัมผัสผิวภายใน
"คุณแมกซ์...โรง..พยาบาลนะครับ..." เมื่อเจอรุกหนักเข้าสมปองกลับมาโวยวายอีกรอบมือก็พยายามดึงเอามือคนป่วยออกไป
"ไม่เห็นเป็นไรเลย .. "ชายหนุ่มเริ่มมือไม้เป็นปลาหมึก ริมฝีปากก็งึมงำอยู่ผบนผิวกายของเด็กหนุ่ม
"เป็นดิ่ คนป่วยอ่ะ...ไม่เอาอ่ะเดี๋ยวพยาบาลเข้ามาทำไง...ปล่อยเลย มีแต่กลิ่นโรงพยาบาลด้วยนะครับ คุณแมกซ์นะครับ" สมปองเริ่มอ้อนวอนให้อีกฝ่ายปล่อย ทั้งๆที่ใบหน้าก็แดงก่ำไปหมด พศวัตต้องถอนหายใจอย่างเซ็งๆ แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระในที่สุด
"ทำไมถอนหายใจแบบนั้นล่ะครับ" สมปองยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นพลางถอยออกจากเตียง
"เป็นคนป่วยน่ะ ต้องพักเยอะๆนะครับ จะได้มีแรงทำงาน" ว่าพลางก็ดึงผ้าห่มมาคลุมอีกฝ่ายเสียจนถึงคอ
"ห้ามกลับก่อนพี่ตื่นนะ รู้ไหม "พศวัตบอกราวกับเป็นเด็กๆ
"แต่พี่หมีรออยู่ข้างนอกอ่ะ..." สมปองสวนทันควัน
"เกรงใจอ่ะ ผมนั่งรถพี่เขามาอ่ะครับ"สมปองตอบหน้าซื่อ
"ก็ไล่มันกลับสิ "ชายหนุ่มเริ่มเอาแต่ใจอีกรอบ นิสัยแบบนี้แก้ยากจริงๆ
"พูดเอาแต่ใจอีกแล้ว....จะให้ไล่กลับได้ยังไงล่ะครับ ผมรบกวนพี่เขามานี่ฮะ" เด็กหนุ่มทำหน้ามุ่ย
"ใครเด็กกว่ากันเนี่ย"ไม่วายหันมาต่อว่าอีกฝ่าย
"เหอะ อยู่กับเด็กก็ต้องเด็กกว่าสิ" มือแกร่งจับมืออีกฝ่ายเอาไว้
" อยู่กับพี่นี่แหละ .. นะ "ไม่พูดเปล่ามืออีกข้างคว้าโทรศัพท์กดโทรหากตัญญูบอกให้อีกฝ่ายบอกให้เชฟหมีกลับไปเสีย
"คุณแมกซ์เอาแต่ใจชะมัด...." พอรู้ว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้แล้วสมปองก็ได้แต่บ่น ก่อนจะดึงเก้าอี้มานั่งลงข้างๆเตียงคนป่วย
"ถ้าอย่างนั้นก็ นอนนะครับ...พักผ่อนซะ เดี๋ยวคุณพยาบาลเข้ามาได้ดุผมพอดี"
"ครับ " ริมฝีปากหนาปรากฏรอยยิ้ม แล้วดึงมือที่เขาจับไว้ขึ้นมาจูบเบาๆ ก่อนจะหลับตาลง ปล่อยให้สมปองเฝ้าเขาอยู่แบบนั้น โดยที่ไม่ยอมปล่อยมือ สมปองถอนหายใจเบาๆก่อนจะปล่อยให้อีกฝ่ายจับมือเขาไว้แบบนั้น ดวงตากลมโตมองหน้าคนที่ผล็อยหลับไป ริมฝีปากของสมปองหยักยิ้ม ก่อนจะหมอบลงบนเตียงโดยที่ดวงตาคู่นั้นยังไม่ละจากใบหน้าของชายหนุ่มอายุมากกว่า
....คิดถึงคุณแมกซ์นะครับ....สมปองคิดแบบนั้นในใจพลางหลับตาลงทั้งๆที่ใบหน้ายังระบายด้วยรอยยิ้ม
++++++++++++++++++
รีดเดอร์คะ
มีเรื่องจะมาแจ้งสองเรื่องค่ะ
เรื่องแรก .. ซีรี่ส์ แมกซ์-น้อย ตอนหน้าก็จะจบโดยสมบูรณ์แล้วนะคะ ขอบคุณมากสำหรับแฟนๆของคนทั้งคู่ค่ะ
เรื่องที่สอง...ตอนนี้โคไรเตอร์หายตัวไปอย่างลึกลับค่า~~~ ไรเตอร์หาตัวโคไรเตอร์ไม่เจอ โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ เป็นห่วงมากกกกกกกกก อะ ... ทำไงดีๆๆๆ
Edit : หาตัวโคไรเตอร์เจอแล้วค่ะ ..อยู่โรงพยาบาลค่ะ เป็นไข้เลือดออกค่ะ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ อยู่ในมือหมอแล้ว แล้วก็โทรกลับมาหาไรเตอร์เป็นที่เรียบร้อย .. ยังไงก็ขอเวลาให้โคไรเตอร์รักษาตัวจนกว่าจะมาต่อเรื่องTouching Youด้วยนะคะ ส่วนไรเตอร์เองก็มีสต๊อกซีรี่ส์ที่4ไม่เยอะเท่าไหร่ ทำยังไงกันดีน้อ
เอาไว้คราวหน้า(ตอนจบ)จะโปรยเรื่องที่ 4 ไว้ให้นะคะ