"ผม....เปลี่ยนไปจริงๆซิ่นะ" เมื่อไม่ได้รับ คำตอบ จากอีกฝ่าย รามินทร์หัวเยาะตัวเอง
"คงแย่มากเลยซิ่นะ....แค่คำขอโทษมันคงใช้การไม่ได้หรอกใช่ไหม"
" พี่ไม่อยากให้มินเป็นแบบนี้..เพราะพี่ใช่ไหมที่ทำให้มินเป็นไปขนาดนี้ " ชายหนุ่มบีบมือเรียวนั้นเบาๆ ความผิดของเขา สัญญาบ้าๆ เซ็กส์ที่ไร้ความหมายกับคนที่เปราะบางอย่างรามินทร์ เขาทำไปได้อย่างไรกัน รามินทร์ขมวดคิ้ว มองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง
"พี่จะบอกอะไรผม..."รามินทร์ค่อยขยับลุก
" พี่จะไม่ทำแบบนั้นกับมินอีก "เขาตอบกลับมาตรงๆ "เพราะเรื่องนี้ของเราพี่ถึงได้ทำร้ายมินไปขนาดนี้ "
"ไม่ทำ?....แต่..." รามินทร์ไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อ เขาจะพูดว่า แต่เรายังมีหนี้ต่อกันอย่างนั้นเหรอ....เขาจะทำร้ายอีกฝ่ายมากไปกว่านี้ กตัญญูกล้ำกลืนมาพอแล้วกับสิ่งที่เขาก่อ แต่เขาเองก็ไม่รู้จะหาทางไหนมาบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่า....ไม่อยากจะเสียอีกฝ่ายไป มือเรียวยึดมือของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น
"พี่ไปไหนมา...."ดวงตารีเรียวมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง "ที่ออกไปข้างนอก พี่ไปไหนมา"
" ไปสงบอารมณ์มา..พี่ไม่อยากทะเลาะกับมินอีก ...พอแล้ว.. "เขาตอบกลับมาพลางถอนหายใจ ก่อนจะปล่อยมือบางออกแล้วยื่นหน้าไปจูบหน้าผากของรามินทร์เบาๆ
" ถ้ากินยาแล้วดีขึ้น ก็กินเถอะ นอนซะ "
รามินทร์นิ่งเงียบ อยากจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง แต่ก็ดีแต่จะทำให้กตัญญูยิ่งรู้สึกแย่กับเขามากขึ้น
"ผมตื่นแล้ว" รามินทร์ขยับตัว ออกจากผ้าห่ม รามินทร์มองหน้าของอีกฝ่าย
"ผมทำให้พี่โกรธมากซิ่นะ...ผมขอโทษ ถ้าพี่ยังจะรับฟัง" รามินทร์หันมามองหน้าของอีกฝ่าย
" และก็ไม่ต้องห่วงหรือก คืนนี้ ผมจะพยายามหลับเอง ไม่กินยาแล้วก็ได้"
" ขอบใจนะ "ชายหนุ่มยิ้มออก เขาลุกขึ้นจากตรงนั้นแล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หน้าตู้เสื้อผ้าเหมือนทุกวัน กล้ามเนื้อสมส่วนแข็งแรงปรากฏยามที่ถอดเสื้อเชิ้ตตัวนั้นออก ดวงตารีเรียวเหลือบมองแผ่นหลังแกร่งนั้น กระจกที่ติดอยู่กับบานประตูตู้ทำให้เขามองเห็นแผ่นอกกว้างได้อย่างไม่ยากเย็น
รอยแผลถลอกแดงยังคงประทับบนไหล่กว้าง ราวกับมันจะประทับแน่นไม่หายไปไหนกตัญญูเองก็เหลือบมองร่างของคนที่นั่งอยู่บนเตียงผ่านกระจกเงาบานนั้น ราวกับจะจำภาพของอีกฝ่ายที่อยู่กับเขาตรงนี้เอาไว้ให้นานที่สุด สายตาที่สบกันผ่านกระจกเงานั้นทำให้รามินทร์ต้องเบือนหน้าไปอีกทาง รอยบนไหล่นั้น มันคงไม่ใช่ ฝีมือใครอื่นนอกจากเขาเอง
"ห่างจังเลยนะ..."รามินทร์เอ่ยออกมาเบาๆ ริมฝีปากเรียวยิ้มน้อยๆ ความสิ้นหวังเกิดขึ้นในหัวใจ เขาทำอะไรไม่ได้แล้ว ทุกหนทางที่คิดเอาไว้ดูจะตีบตันไปเสียหมด
แม้จะได้ยินคำพูดลอยๆนั้น แต่กตัญญูก็ทำราวกับไม่ได้ยินอะไรเขาปิดตู้เสื้อผ้าเมื่อเปลี่ยนเป็นชุดลำลองเรียบร้อย
" จะนอนต่อไหม? "
"ผมตื่นแล้ว..."รามินทร์ยิ้ม
"พี่จะช่วยชงโอวัลตินให้ผมซักแก้วได้ไหมครับ" ร่างเล็กถาม ด้วยคำขอร้องที่เหมือนสมัยยังเป็นเด็กชายตัวเล็กๆ "บางที มันอาจจะช่วยให้ผมหลับได้ดีขึ้น คืนนี้"
" โอเค เดี๋ยวพี่ไปทำให้ "ชายหนุ่มยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วเดินออกจากห้องเข้าไปในครัว
รามินทร์สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปล้างคราบน้ำตาบนใบหน้าออก เขาเดินออกไปนั่งที่โซฟาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กตัญญูไม่ได้พูดอะไรกับเขา ทั้งเรื่องที่ว่า จะไม่ทำ เรื่องแบบนั้นกับเขาอีกด้วย เพียงไม่นานแก้วใส่กลิ่นโอวัลตินร้อนสูตรเข้มข้นแบบที่รามินทร์ชอบก็วางอยู่ตรงหน้า
" เอ้า ดื่มซะ ..เดี๋ยวพี่จะไปที่ร้านหน่อยนะ ไม่ได้เข้าไปหลายวันแล้ว "ชายหนุ่มยกแขนขึ้นมาดูเวลา
"พี่จะไปตอนนี้น่ะเหรอ..."รามินทร์ยกแก้วโอวัลตินขึ้นจิบ ก่อนจะหันไปดูนาฬิกา "ป่านนี้ พี่แมกซ์ปิดร้านหนีไปเที่ยวแล้ว..."
"แวะไปดูบัญชีหน่อย ไม่ได้ไปดูหลายวันแล้ว ไม่นานหรอก " เชฟหนุ่มตอบกลับมา
ชายหนุ่มปล่อยมือจากแขนอีกฝ่ายขึ้นเสยผมตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะยกแก้วโอวัลตินขึ้นดื่ม รวดเร็ว ก่อนจะต้องบ่นออกมาเบาๆ
"โอ้ย ร้อนๆ"
"อ้าว ก็บอกเองนะว่าอยากกินร้อนๆ" กตัญญูหัวเราะแล้วดึงกระดาษเช็ดปากให้อีกฝ่าย
"ก็รีบนี่" รามินทร์อ้อมแอ้มตอบกลับ รับกระดาษนั้นมาเช็ดปาก ริมฝีปากได้รูปนั้นเปลี่เป็นสีแดงระเรื่อ ก่อนจะลุกขึ้นยืน "โอเค ไปกันๆ"
" อ้าว จะไป? "ชายหนุ่มถามอย่างแปลกใจ แต่พอนึกได้ว่าอีกฝ่ายเป็นเจ้าของร้าน มันคงไม่แปลกนัก จึงขับรถพารามินทร์ไปที่ร้าน
++++++++++
"ไฟฟืนไม่ปิด....แล้วทิ้งร้านไปไหนเนี่ย ...น้อย...." รามินทร์โพล่ไปที่ช่องบันไดแล้วตะโกนขึ้นไป
"น้อย...เจ้าน้อย..." รามินทร์หันซ้ายขวาเมื่อไขประตูด้านหลังเข้ามาในร้านเห็นไฟฟืนเปิดสว่างแต่ไม่เห็น ร่างผอมเกร็งของเจ้าของชื่อ เด็กประจำร้านหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
" อ้าว ไปไหนล่ะมัน? " กตัญญูถาม หลังจากที่ขับรถไปจอดด้านหลังร้าน
"พี่แมนโทรหาหน่อยซิ่
ทิ้งร้านแบบนี้ได้ไง..." รามินทร์ว่า ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องที่จัดเป็นออฟฟิศเล็กๆ สมุดบัญชีถูกวางทิ้งไว้บนโต้ะ เหมือนทุกครั้ง เชฟหนุ่มกดโทรศัพท์ซ้ำไปซ้ำมา แต่ก็ไม่มีคนรับสาย
"
เอ้า ไม่รับอีก ... มึงโดนแน่ไอ้เด็กเวร "เขาสบถออกมาอย่างอารมณ์เสียแล้วเดินตามรามินทร์เข้าไปด้านใน
"เอาเถอะ..."รามินทร์เอ่ย ก่อนจะส่งสมุดบัญชีให้อีกฝ่าย
"มาดูบัญชีไม่ใช่เหรอ...พี่แมกซ์ทำวางไว้ให้แล้วล่ะ" ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ
"แต่เช็คหน่อยก็ดี รายนั้นเก่งเลขที่ไหน"
กตัญญูรับเอาสมุดบัญชีมาดูก่อนจะไล่ดูตัวเลขทีละบรรทัด " ก็ถูกแล้วนี่ ..แต่บัญชีเลอะคราบกาแฟกับคราบมันด้วยแฮะ มินดูสิ "เขายื่นสมุดบัญชีหน้าสุดท้ายให้อีกฝ่าย
"หะ?...แปลก พี่แม๊กซ์ กินขนมไปทำงานไปที่ไหน" ชายหนุ่มชมวดคิ้วเรียว เข้าหากัน
"เขาคิดอะไรอยู่ พี่แมนรู้รึเปล่า...."ชายหนุ่มว่า พลางขยับเสื้อไปมา อากาศร้อนไม่น้อย
" หืม? "ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ก่อนจะต้องเหลือบมองไปอีกทางเพราะคอเสื้อที่เปิดออก
"พี่แมกซ์น่ะซิ่....จ้องเด็กในร้านตาเป็นมัน กับจิ๊บน่ะใช่ไหม....แต่กับ......เจ้าน้อยนั่นคนล่ะแบบนะ เลย งงว่าเขาคิดอะไรอยู่" รามินทร์ว่าพลางเดินออกไปนั่งที่โต้ะสแตนเลสกลางห้องครัว
"ร้อนอ่ะ ออกมาเช็คข้างนอกนี่ได้ไหม" รามินทร์ว่าพลางยกแขนขึ้นปาดเหงื่อ
" ร้อนเหรอ? สงสัยฝนใกล้ตกมั๊ง? " เชฟหนุ่มมองผ่านหน้าต่างห้องในออฟฟิศออกไปด้านนอก ฟ้ายามค่ำคืนสีแดงๆบนเมฆทำให้รู้ได้ว่า อีกไม่นานฝนคงจะตก
"ก็คงงั้นล่ะ...เร็วเถอะร้อนมากมินถอดเสื้อนะเนี่ย" รามินทร์ว่าพลางหัวเราะ กระพือชายเสื้อยืดตัวหลวมที่ตัวเองใส่อยู่ขึ้นลง "จะเปิดแอร์ก็เปลืองไฟ ..."
" อยู่กันแค่สองคน เปิดทำไมล่ะ? เอาน้ำเย็นหน่อยไหม? หรืออยากจะกินน้ำผลไม้ " กตัญญูวางสมุดบัญชีตรงหน้าเจ้าของร้านพลางถาม
"ขอน้ำเย็น..." รามินทร์แทบจะนอนลงไปกับโต้ะสแตนเลส
"นอนได้ไหมเนี่ย เย็นดี..." รามินทร์ว่า น่าแปลกที่นึกอยากจะอ้อนอีกฝ่ายขึ้นมาดื้อๆ เขาก็ได้แค่หวังว่ากตัญญูจะไม่ว่าอะไร
"ตามใจสิ ร้านปิดแล้วนี่ " เชฟหนุ่มว่าแล้วเดินออกไปเปิดตู้เย็นตรงส่วนด้านหน้าร้านด้านหลังเคาท์เตอร์กาแฟ
"งั้นก็ไม่เกรงใจ......."รามินทร์เอนกายลงไปนอนกับโต้ะสแตนเลส มือหนึ่งก็หยิบสมุดบัญชีขึ้นมาดู อีกมือยังขยับชายเสื้อตัวเองเบาๆ
"อืม ไม่อยู่ร้านสองสามวัน ....ก็ยังพอมีกำไรเหมือนกันนี่นะ...."
เพียงไม่นานก็กลับมาพร้อมกับแก้วทรงสูงของร้านใส่น้ำแข็งและน้ำเปล่ามาจนเต็ม
" เอ้า "
"ขอบคุณครับ"รามินทร์ขยับลุกขึ้นมารับน้ำเย็นจากมือของอีกฝ่ย ชายหนุ่ม ดื่มน้ำเย็นลงไปรวดเร็วด้วยความร้อนจากอุณหภูมิโดยรอบ น้ำเย็นบางส่วนไหลเปื้อนลงมาที่คอ แต่ก็ไม่ได้สนใจ มือเรียวปาดน้ำเรื่อยไปกับคอขาว
"อืม...เย็นดีจัง"
"เลอะหมดแล้ว "ชายหนุ่มร่างสูงถอนหายใจก่อนจะดึงแขนเจ้าของร้านขึ้นมาจากโต๊ะที่เอาไว้ทำขนม
"ไม่เลอะหรอก เดี๋ยวก็แห้ง....ไม่ใช่น้ำหวานนี่ไม่เหนียวหรอก" รามินทร์ตอบไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก แต่ก็ต้องหยุดนิ่งเมื่อหันไปมองหน้าของเชฟหนุ่มแล้วพบว่า หน้าของทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมากเหลือเกิน
ดวงตารีเรียวมองใบหน้าคมของอีกฝ่าย ผิวกายเข้มคล้ำกว่าเขาบอกให้รู้ว่ากตัญญูเองก็ทำงานที่ออกแดดตากลมมาไม่น้อย กตัญญูปล่อยมือเรียวนั้นออกหากแต่มืออีกข้างกับแตะกับแก้มขาวนั่นเบาๆ
" เปียกแล้ว.. "
"ก็เช็ดออก..."รามินทร์ว่าพลางยกมืออีกข้างจะปาดความชื้นนั้นออกจากใต้คาง แต่สายตาก็หลบไปจากดวงตาของอีกฝ่ายไม่ได้ น้ำเย็นที่เลอะบนลำคอของรามินทร์ทำให้เชฟหนุ่มรู้สึกร้อน อากาศด้านนอกมันร้อนอบอ้าวเกินไป
"เปียกก็ถอยไป เดี๋ยวก็เปียกเสื้อพี่อีกคน..." รามินทร์เอ่ยเสียงเบา
ดวงตาสีนิลมองตามซอกคอที่ยังเปียกลงมายังแผ่นอกบาง
" เปียกก็ถอดเสื้อออกสิ..ตากไว้เดี๋ยวก็แห้ง "
"เอางั้นเลยรึไง...."รามินทร์หัวเราะออกมาเบาๆ เพราะเป็นทุกที กตัญญูจะไล่ให้ไปหาเสื้อมาเปลี่ยน ไม่ก็กุลีกุจอไปหาผ้ามาเช็ดให้แล้ว ชายหนุ่มว่าพลางตลบชายเสื้อยืดตัวโคร่งออกไปอีกทาง ผิวกายขาวมีหยาดน้ำเกาะพราวตั้งแต่ช่วงลำคอลงมาเผยตรงหน้าของเชฟหนุ่ม รามินทร์ยื่นเสื้อให้กับพี่ชาย
"ตากให้ผมหน่อย" กตัญญูรู้สึกคอแห้งผากชายหนุ่มกลืนน้ำลายก่อนจะดึงเสื้อตัวนั้นไปตากไว้ที่เก้าอี้ในออฟฟิศพลางเปิดพัดลมที่ตั้งอยู่ตรงนั้นเป่าให้แห้ง ใช้เวลานานไม่น้อยกับแค่การเดินไปตากเสื้อ
กตัญญูดูสับสนเล็กๆ...อากาศมันร้อนเสียจนเขาพูดอะไรแปลกๆไปจริงๆ
"มาดูบัญชีซิ่..." รามินทร์เรียกให้อีกฝ่ายหันกลับมาสนใจงานเหมือนเดิม ท่าทางของกตัญญูดูแปลกๆ ชายหนุ่มหยักยิ้มน้อยๆ
"พี่ร้อนเหรอ ก็เปิดแอร์ก็ได้นะ"
"ไม่ล่ะ เปลืองค่าไฟ"กตัญญูเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วเทน้ำใส่แก้ว เขาดื่มไปอึกใหญ่อย่างน้อยมันคงจะช่วยให้เย็นขึ้นได้บ้าง
"เปิดตู้เย็นบ่อยมันก็เปลืองไฟเหมือนกันนั่นล่ะ" รามินทร์หัวเราะออกมาเบาๆ ร่างบางนั่งเปลือยท่อนบนอยู่บนโต้ะสแตนเลส สองขาใต้กางเกงยีนแกว่งไปมาเล็กน้อย ท่าทีที่ดูสบายๆนั้นแตกต่างจากตอนที่ต้องไปออกงานสังคมกับคุณหญิงจิตราอย่มากโข
"พี่จะดูบัญชีไหม สรุป...หรือจะนอนนี่ รอเจ้าน้อย"
"รอด่ามันก่อนแล้วค่อยกลับก็แล้วกัน" ชายหนุ่มแทบจะปล่อยมืออกจากแก้วน้ำที่ตนเองถืออยู่เมื่อหันหลังมาแล้วพบว่ารามินทร์กำลังสวมกางเกงตัวเดียวแล้วนั่งแกว่งขาอยู่บนโตีะที่เขาเอาไว้ทำขนม
"งั้นก็จะรอ ก็รอ..."ว่าพลางขยับลงนอนราบไปกับโต้ะอีกรอบ "เฮ้อ เย็น แบบนี้ค่อยดีขึ้นหน่อย...หาไปทำเตียงดีไหม"
" เดียงแบบนี้ เขาเอาไว้
ผ่าศพไม่ใช่รึไง? ... นอนแบบนี้นะ ยิ่งเหมือนเลยนะ "เขาทำเป็นแหย่อีกฝ่าย เพื่อจะได้ลงมาจากโต๊ะเสียที
"แล้วพี่เป็นหมอรึไง" รามินทร์ที่นอนราบอยู่ หันคอมามองคนที่ยืนอยู่หน้าตู้เย็น
"ถ้ามินตายล่ะ...." ชายหนุ่มแหย่กลับก่อนจะหลับตานิ่งร่างทั้งร่างไม่ไหวติง
" ฮะ ฮะ .. เป็นหมอเหรอ? ถ้าพี่หัวดีก็อยากเป็นหรอก .. ถ้ามินยอมให้พี่ผ่านะ จะเป็นตอนนี้เลยก็ได้ "ชายหนุ่มว่าก่อนจะเปิดลิ้นชักที่เก็บอุปกรณ์สปาตูล่าที่ทำด้วยสแตนเลสเพื่อใช้สำหรับปาดครีมถูกหยิบขึ้นมาลากกับร่องอกบางนั่นเบาๆเขานึกอยากแกล้งขึ้นมาเสียแบบนั้น
"อึ้ย...จะทำอะไร
โรคจิตแล้ว" ร่างที่แกล้งตายอยู่เมื่อครู่ผวาเฮือกเพราะหลับตาอยู่จึงไม่รู้ว่าความเย็นเรียบบางที่สัมผัสได้บนแผ่นอกนั้นคืออะไร มือเรียวคว้าข้อมือแข็งแรงของอีกฝ่ายเอาไว้ทันที ก่อนจะเห็นได้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายถืออยู่คือสปาตูล่า ร่างเล็กกว่าจึงหัวเราะออกมาเบาๆ
"บ้าเอ้ย ของแบบนี้ จะผ่าได้ที่ไหน ผ่าออกมา...."ท้ายเสียงนั้นแผ่วเบา
"ก็คงเห็นแต่หัวใจของมินนั่นล่ะ""หัวใจของมิน..คงเป็นสีดำล่ะมั๊ง.. "ชายหนุ่มว่าพลางหัวเราะก่อนจะเก็บสปาตูล่าใส่ลิ้นชัก
คำพูดที่ได้ยินทำให้รามินทร์หลับตานิ่ง
"
ก็ลองแหวกอกมินดูซิ่....."มือเรียวยกขึ้นแตะที่อกซ้าย
" แต่พี่ไม่ใช่หมอนี่ "กตัญญูตอบหลังจากที่เงียบไปชั่วอึดใจ แล้วชายหนุ่มที่นอนอยู่บนพื้นผิวเรียบของโต้ะเย็นเฉียบ ขยับลุกใช้ข้อศอกยันตัวท่อนบนขึ้น ในขณะที่ขาช่วงล่างยังถอดยาวไปที่อีกด้านของโต้ะ ดวงตารีเรียวหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย
"แต่พี่ก็บอกว่าอยากเป็นไม่ใช่เหรอ เมื่อกี้" ปลายคางขยับเชิดขึ้นเล็กน้อยหงายคอไปด้านหลัง
"ลองดูซิ่ว่า
ใจผมดำจริงอย่างพี่ว่าไหม.... " ท่าทางเหมือนเตรียมพร้อมรับหากจะมีมีดกรีดลงมาตรงกลางอก
"ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ
หัวใจที่ผ่าออกมาแล้ว มันก็คงใส่กลับไปเหมือนเดิมไม่ได้แล้วนะ "ร่างสูงหันกลับมาที่โต๊ะทำชนมของเขา มันตั้งอยู่กลางห้องครัว และ ร่างบางของคนที่เขารัก
เพียงคนเดียว...อยู่บนนั้น
"ก็ช่างมันเป็นไร....
พี่จะทิ้ง จะทำอะไรกับมันก็ได้นี่ เพราะผมตายไปแล้ว" ชายหนุ่มเอนกายลงกับผื้นผิวเย็นอีกครั้งมือเรียวฉวยมือของอีกฝ่ายมาวางทาบลงบนอก
"จะทำยังไงก็ได้ทั้งนั้น"
ดวงตารีเรียวสบดวงตาคมเข้มของพี่ชายนิ่ง เสียงหัวใจของรามินทร์ หัวใจที่อีกฝ่ายบอกว่ามันคงจะเป็นสีดำนั้นเต้นระรัวอยู่ภายในอก มือแกร่งนั้นลากกับแผ่นอกเรียบเนียนของอีกฝ่ายเบาๆ ดวงตาสีข้มนั้นสบตากับรามินทร์นิ่ง
....ทำไมเราถึงกลายเป็นแบบนี้นะ...
"จะผ่าดูไหม.....หรือจะปลุก
ศพอย่างผมให้ตื่น"รามินทร์เอ่ยก่อนจะยันกายลุกขึ้นริมฝีปากบางได้รูปสัมผัสกับริมฝีปากของพี่ชาย ชายหนุ่มถอนสัมผัสแผ่วเบานั้นออกเพียงเล็กน้อย
"ศพที่ตื่นแล้วมันอยู่ได้ไม่นานหรอก....แล้วมันก็จะตายไป...ตลอดกาล"....และถ้านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย....
.....ผมก็อยากจะทำให้พี่รู้บ้างว่าผมคิดยังไง....