เจ็บชิ...หาย
เจ็บกันทั้งเรื่อง ทั้งคนอ่าน
เห็นจะมีแต่คนเขียนเท่านั้นแหละมั้งที่ไม่เจ็บ
เหอะๆ

เจ็บสิคะ .. ไรเตอร์สองคนนะคะ คือ เขียนคู่กันน่ะค่ะ แล้วก็เจ็บกันทั้งคู่นั่นแหละค่ะ
รีดเดอร์อาจจะไม่ทราบว่า เรื่องภาค มิน-แมน นี่แหละที่ทำให้ไรเตอร์กับโคไรเตอร์ เจ็บปวดที่สุด อินที่สุด ... แล้วก็..มีคนร้องไห้ตรงหน้าคอมด้วยล่ะค่ะ .. ถึงจะเจ็บปวดมากแต่ก็เขียนกันออกมาจนได้นั่นแหละค่ะ .. ต้องขอโทษด้วยทีี่อาจจะทำให้เครียดบ้าง ดราม่าบ้าง อินเกินไปบ้าง แต่ก็อยากให้อ่านกันต่อไปนะคะ ..
โคไรเตอร์ : ขอบคุณคนอ่านด้วยนะคะ ที่แม้จะเจ็บปวด แต่เราก็ยังเจ็บปวดไปด้วยกัน เอาล่ะ .. มาซดมาม่ากันต่อค่ะ! 
+++++++++++++
กตัญญูขับรถสปอร์ตสีขาวของรามินทร์กลับมาจอดยังที่จอดรถของคอนโดหลังจากที่แวะซื้อเบียร์ที่ร้านสะดวกซื้อ ตลอดทางดูเหมือนความหงุดหงิดและเสียใจจะไม่ได้ลดลงไปเลย เสียงไขกุญแจห้องดังขึ้นเพียงเสียงเดียวบนทางเดินระหว่างห้องพัก ในเวลาแบบนี้เพื่อนบ้านของเขายังไม่กลับมา ซึ่งนั่นก็คงจะเป็นการดีที่จะได้เมาให้สะใจ และจะได้ลืมความเจ็บปวดกับคำพุดของคนที่เขารักอยู่ข้างเดียวลงไปได้บ้าง ทันใด เสียงโทรศัพท์ ก็ดังขึ้นท่ามกลางห้องเงียบสนิท
"TTT TTTT!!"
และชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอก็ทำให้กตัญญูต้องถอนหายใจ
.... คุณหญิงจิตรา..." สวัสดีครับ "
"แมนเหรอลูก....." เสียงโทนสูงหากแต่ฟังดูอ่อนโยนดังขึ้นจากปลายสาย
" ครับ คุณหญิง " หากแต่เสียงของชายหนุ่มกลับแหบพร่า เมื่อได้บินน้ำเสียงที่อ่อนโยนและใจดีนั้น
คุณหญิงจิตรา ให้ที่อยู่และการศึกษาแก่เขาอย่างเต็มที่ เธอทำราวกับว่าเขาเป็นลูกชายคนหนึ่งของเธอ แม้แต่จัดห้องนอนไว้ให้ที่เรือนใหญ่ หรือเคยถามเขาด้วยซ้ำว่าอยากจะไปเรียนที่กอดองเบลอที่ฝรั่งเศสหรือไม่ แต่สิ่งที่เขาทำกับรามินทร์ มันทำให้เขาละอายใจ
"เป็นอะไรน่ะเรา....เสียงไม่ดีเลยนะ...เป็นหวัดรึเปล่า" เสียงจิตราถามด้วยความห่วงใย
"แล้วน้องล่ะ คงไม่ได้ไปกวนอะไรเรานะ....มินน่ะ ไม่โตเสียที อ้อนพี่ชายตลอด"
" เอ่อ .. พอดีมินเขาความดันตกน่ะครับ ... ตอนนี้นอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลน่ะครับ ผมว่ากำลังจะโทรบอกคุณหญิงพอดี.. " ชายหนุ่มพยายามทำให้ตนเองเป็นที่น่าสงสัยน้อยลง
"อีกแล้วเหรอ?....ตายแล้วลูกคนนี้ แต่หมอว่า โอเคใช่ไหม" คุณหญิงจิตราเอ่ยถาม รามินทร์มักจะเข้าโรงพยาบาล เพราะเรื่องแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง
" ครับ ก่อนผมจะกลับมามินก็ฟื้นแล้วครับ ..เอ่อ คุณหญิง ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ.. " ความรู้สึกผิดเกาะกินอยู่ในใจ เขารู้ตัวดีว่าเกลียดการโกหกมากแค่ไหน แต่กลับต้องมาทำเสียเองแบบนี้
"ยังไงก็ฝากน้องด้วยนะแมน...มินเขาเกลียดโรงพยาบาลแค่ไหน ลูกก็รู้" คุณหญิงจิตราเอ่ย
"แต่ในเมื่อน้องจะไปอยู่กับเราแล้ว... เราก็ต้องดูแลน้องด้วยนะ..." เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบาๆ
"แมน...
แม่น่ะ มีลูกชายอยู่สองคน ลูกแท้ๆ ที่แม่คิดว่า คงไม่ได้จะอุ้มหลานที่เป็นเลือดเป็นเนื้อของเขาหรอก แม่ก็รู้ ...แม่ศรีเอง ก็คงอยากจะมีหลานตัวเล็กๆมาอุ้มมากอดเหมือนกัน...แต่มันก็เป็นเรื่องของพวกเรานะ...แม่ขออย่างเดียว คือถ้าจะทำอะไรก็คิดให้ดีเพราะท้ายที่สุดสิ่งที่จะทำให้พวกแม่เจ็บก็คือพวกเรา...จะแมกซ์ ก็ดี แมนเองก็ดี หรือแม้แต่มิน...แม่ก็ไม่อยากให้ใครมาผิดใจ เสียความรู้สึกอะไรกันหรอกนะ"คุณหญิงจิตราเอ่ย ทำไมเธอจะไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด ในเมื่อรามินทร์เป็นคนมาบอกเธอเอง ในวันที่กลับบ้านมาเอาเสื้อผ้า และทางบ้านของกตัญญูก็โทรมาเล่าให้เธอฟังด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
" คุณหญิงครับ...ผม..ผมขอโทษนะครับทำให้คุณหญิงต้องเป็นห่วงขนาดนี้ ส่วนเรื่องมิน... "ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่าางยากลำบาก ตอนนี้เขาอยากจะดื่มเบียร์ที่กองอยู่ตรงหน้านี้ไปให้หมด เพราะถ้าเมาคงจะลืมได้บ้าง
" อีกไม่นาน..มินจะกลับบ้านครับ "
"แมน...." จิตราเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เธอเสียใจไหม ใช่...แต่เธอคงเสียใจมากกว่า หากว่า ลูกๆของเธอจะต้อง เสียใจ มากไปกว่านี้ เจ็บปวดไปมากกว่านี้
"แม่จะไม่พูด ไม่บังคับอะไรเราหรอกนะ.... แต่บอกแค่ว่า
ให้ตัดสินใจให้ดี อย่าให้ใครเสียใจ และ อย่าให้ตัวเอง ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง...เข้าใจแม่หรือเปล่า
และก็เลิกเรียกแม่ว่า คุณหญิงอะไรนั่นเสียที.... แม่เป็นคุณหญิงแค่นอกบ้านเท่านั้น นี่เรื่องในบ้าน
แม่ คือแม่อีกคนของเรานะ...ได้ไหม" เพราะรับปากแล้วว่า จะรัก และดูแลกตัญญูเหมือนลูก เธอจึงปฏิบัติ กับอีกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกับลูกชายทั้งสองมาโดยตลอด แต่ดูเหมือนว่า อีกฝ่ายจะไม่ได้คิดเช่นนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมา
" ............................... "ชายหนุ่มกลับใช้ความเงียบแทนคำตอบ
"สรุปว่า...พรุ่งนี้ พ่อกับแม่ จะไปเมืองนอกนะ...พอดีคุณหญิงสดศรี เขามีทัวร์ยุโรป เจ็ดประเทศ....คงสนุกแน่ล่ะ เอาเป็นว่าแม่จะฝากน้อง ฝากพี่แมกซ์ กับเราได้ไหม" เสียงอีกฝ่ายหัวเราะคิกคัก
" เอ่อ ..ครับ "น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของคุณหญิงจิตราทำให้กตัญญูรีบตอบกลับมา แม้จะแปลกใจไม่น้อย
"โอเคนะ
ฝากน้องด้วยนะ...แมน" หญิงสูงวัยเน้นคำ ด้วยความรู้สึก ที่หวังว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจ
" ครับ... "คำพูดของคุณหญิงจิตรา เป็นสิ่งที่เขาเคยรับปากได้อย่างแข็งขันและตั้งใจจะทำให้ได้เสมอ หากแต่วันนี้เขาไม่มั่นใจในการรับปากของตนเองเลย ฐานะที่ผูกมัด คือความเป็นเจ้าหนี้และลูกหนี้ กับการใช้หนี้ด้วยวิธีนั้น มันเจ็บปวดเกินไป
"โอเค งั้นฝากด้วยนะแมน แม่ต้องไปแล้ว" คุณหญิงจิตราวางสาย ปล่อยให้ กตัญญูอยู่กับ ตัวเอง อีกครั้ง
กตัญญูโยนโทรศัพท์ไปอีกทางก่อนจะเปิดกระป๋องเบียร์ตรงหน้าตนเอง เขายกขึ้นดื่ม กระป๋องแล้วกระป๋องเล่าแม้รู้ดีว่าสิ่งนี้ไม่ได้ช่วยอะไรเลยนอกจากความเมาแต่หากว่าถ้าเมาแล้วลืมความเจ็บปวดได้ก็คงดี
+++++++++++++
ส่วนรามินทร์ที่ต้องนอนโรงพยาบาล ที่แสนเกลียดคนเดียว ชายหนุ่มแทบจะไม่แตะอาหารที่ทางโรงพยาบาลยกมาให้ ร่างบางนอนคดตัวอยู่บนเตียงที่โรงพยาบาลแบบนั้น เหมือนจะไม่มี กระจิตกระใจ อยู่ติดกับเนื้อกับตัว รามินทร์หยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาดู ไม่มีสายเข้า ชายหนุ่มถอนหายใจ ออกมา
......ไม่มีแม้แต่จะโทร.... โกรธของจริงเลยซิ่นะ...แน่ล่ะจนเช้า รามินทร์ ก็แทบจะหลับไม่ลง จนพยาบาลต้องโทรตามอาจารย์หมอ
"คนไข้ ไม่ยอมทาน ไม่ยอมนอนแบบนี้แย่นะคะ อาจารย์"
"โทรตามญาติเขามาดีกว่า ถ้ายังไม่ทานอะไรแบบนี้จะให้อาหารทางสายยาง แล้วถ้ายังไม่นอน อาจจะต้องให้ ยาช่วยให้หลับนะแบบนี้"
"คุณรามินทร์คะ ทานอะไรซักนิดเถอะค่ะ... ถ้าไม่อย่างนั้น จะต้องให้อาหารกันทางสายยางแทนนะคะ...." เสียงพยาบาลเดินเข้ามาไกล่เกลี่ยแต่ก็ไม่เป็นผลรามินทร์ไม่ยอมแม้แต่จะคุย การจะเข้าใกล้เพื่อ ตรวจวัด ความดัน หรือวัดไข้ในแต่ละครั้งก็แสนยากเย็น ชายหนุ่มสะบัดแขนหนีแทบทุกครั้ง
จนพยาบาลต้องวานให้บุรุษพยาบาลเข้ามา
"พยาบาลต้องวาน พี่บุรุษพยาบาลช่วยกดแล้วนะคะ...แค่วัดความดันนิดเดียวเองนะคะ" หญิงสาวว่าพลางพยักหน้าให้ บุรุษพยาบาลก้าวเข้าไปหา มือใหญ่ ของบุรุษพยาบาลจับสองไหล่ ที่พยายามดิ้นกดลงกับเตียง ในขณะที่อีกคน ก็จะเอาสายรัดมา รัดข้อมือ เงาร่างสูงใหญ่ทาบทับเหนือร่างของรามินทร์
"ไม่....ไม่เอา ม่ายยยยยย ไม่เอา
พี่แมน พี่แมน....." ทันใด รามินทร์ร้องตะโกนลั่น กล่องเล็กๆที่เก็บเอาไว้ ใน หัวใจ ถูกเทกระจาด ความทรงจำเก่าเก็บลึกเข้าปกคลุมจิตใจ เงามืดของความกลัวเคลือบหัวใจของชายหนุ่มเสียจนมิด ดวงตารีเรียวเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว สองขาทั้งยันทั้งถีบ แต่ก็ไม่ได้ผล ยิ่งทำให้บุรุษพยาบาล ต้อง รีบรัดร่างของชายหนุ่มเอาไว้ ด้วยสายรัด รามินทร์ร้องดังจนร่างกระตุก หอบหายใจแรง จนเหมือนจะขาดอากาศ
"คนไข้ชัก ตามหมอเร็วๆ" บุรุษพยาบาลตะโกนลั่น พยาบาลรีบ กดปุ่มฉุกเฉิน ก่อนวิ่งหาอุปกรณ์มาช่วยในการหายใจของรามินทร์นทันที
เป็นนานกว่าจะจัดการกับอาการของรามินทร์ได้ หมอต้องเข้ามาฉีดยาให้สงบลงบ้าง รามินทร์ผล็อยหลับไปเพราะฤทธิ์ยา
+++++++++++++
ส่วนกตัญญูที่ถูกโทรศัพท์เรียกให้มาหารามินทร์เป็นการด่วนก็ต้องเดินไปเดินมาอย่างเป็นห่วงที่หน้าห้องผู้ป่วยไม่บอกก็รู้ว่าในห้องนั้นวุ่นวายขนาดไหนไหนจะพยาบาลสาวที่คอยยืนประกบห้ามไม่ให้เขาพรวดพราดเข้าไปอีก กตัญญูเดินแทรกประตูห้องผู้ปวยเข้าไปทันทีที่มันถูกเปิดออกโดยที่ใครก็ดึงเอาไว้ไม่ทันและสิ่งที่เขาเห็น...
ร่างที่อาจเรียกได้ว่าผอมของรามินทร์ ถูกตรึงอยู่กับเตียงด้วยเข็มขัดที่ใช้รัดผู้ป่วยเอาไว้กับเตียง มือทั้งสองข้างเองก็ถูกยึดเอาไว้ข้างตัวด้วยเข็มขัดแบบเดียวกัน สายน้ำเกลือและถุงน้ำเกลือเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เขาเคยเห็น ส่วนหนึ่งเป็นสารอาหารเสริมทดแทนในส่วนที่รามินทร์ไม่ยอมรับประทานเข้าไปในมื้อก่อนๆ ใบหน้าขาวของชายหนุ่มซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด ดวงตานั้นเหม่อลอย มองออกไปยังหน้าต่างด้านนอก ยากำลังออกฤทธิ์ให้ชายหนุ่มสงบลง
"ญาติคนไข้...ใช่ไหมครับ" เสียงคุณหมอที่กำลังยืนสั่งการพยาบาลให้จดสิ่งที่จะต้องเตรียมในการให้ยาในครั้งต่อไปหันมาถาม
"
นี่มัน..เกิดอะไรขึ้นครับ? ทำไมเขาเป็นแบบนี้?! " กตัญญูถามขึ้นมา เขาไม่เคยเห็นรามินทร์เป็นแบบนี้ และสิ่งที่โรงพยาบาลเอกชนชั้นยอดทำกับน้องชายของเขาขนาดนี้ ทำไม?
"คนไข้มีอาการชัก...เอ่อ...ขัดขืนตอนที่พยาบาลจะมาให้ยาน่ะครับ.... เขาไม่ได้นอน และไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่ เย็นเมื่อวาน...ทางเราก็พยายามติดต่อคุณแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าว่าอาจจะต้องให้อาหารเสริมทางอื่น แทนกับให้ยาที่ช่วยให้เขาได้พักผ่อน....แต่ก็ติดต่อไม่ได้ จนเมื่อครู่" หมอเจ้าของไข้ดูมีท่าทีลำบากใจ
"แต่ดูจากอาการแล้ว เรากลัวว่า คนไข้ จะมีอาการ ชัก หรือ พยายามทำร้ายตัวเองทางอื่นอีก เลยต้องให้ ใช้เข็มขัดรัดตัวผู้ป่วยเอาไว้...แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ เป็นเพียงแค่การรัดหลวมๆ เขาจะไม่รู้สึกเจ็บอะไร ถ้าไม่กระชากหรือดึงอย่างแรง"
" ปล่อยเขาได้ไหมครับ? " เชฟหนุ่มถามเสียงเรียบ เขากำลังเก็บความไม่พอใจเอาไว้เป็นอย่างมาก
"เอ่อ...."หมอดูลังเล ก่อนจะพยักหน้าให้พยาบาลปลดเครื่องพันธนาการทั้งหลายออก
"มีอะไรจะซักถามเพิ่มอีกไหมครับ"
" ไม่มีครับ .. เชิญคุณหมอเถอะครับ " คุณหมอยิ้มก่อนจะบอกให้พยาบาลเดินตามออกไปทิ้งให้ผู้ป่วยและญาติอยู่กันเพียงลำพัง
+++++++++++++
ทันทีที่ประตูปิดลงกตัญญูปราดเข้าไปหารามินทร์ทันที ร่างผอมในวันนี้ดูบอบบางเหลือเกิน นั่นเป็นเพราะเขา สิ่งที่เขาพูดออกไปจนอีกฝ่ายต้องเป็นแบบนี้ มือแกร่งสั่นขณะที่เอื้อมไปแตะผิวแก้มเย็นของอีกฝ่ายเบาๆ
" มิน...นี่พี่แมนนะ " ดวงตาเลื่อนลอยหันมามองหน้าของกตัญญู แต่ก็เหมือนจะมองเลยออกไป
"พี่แมน.........." เสียงแหบพร่าเอ่ยชื่อของอีกฝ่ายขึ้นมา
" มิน .. พี่อยู่นี่แล้ว พี่ขอโทษ มิน พี่ขอโทษ "มือแกร่งนั้นรับจับมืออีกฝ่ายมาบีบเอาไว้ทันที
"ไหน...พี่แมนอยู่ไหน.....
พี่แมน ช่วยมินด้วย...." คำที่กล่าวออกมาปานสะอื้นเหมือนเด็กๆนั้น ไม่ได้บ่งบอกถึงการมีอยู่ของคนตรงหน้า
" พี่อยู่นี่แล้ว "ชายหนุ่มไม่รู้จะทำอย่างไร สิ่งที่หมอบอกคือการฉีดยาอะไรบางอย่างให้รามินทร์สงบลง
และนั่นคงทำให้เกิดอาการแบบนี้ อ้อมแขนแกร่งรัดร่างบางนั้นให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนทันที
" ไม่ต้องกลัวนะ .. หลับซะ .. พี่จะอยู่ตรงนี้ "
"
พี่แมนไม่มาช่วยผม....เขามัดผม.....เขามัดผม......." เสียงประท้วงดังอยู่แนบอกมือเรียวทุบ แต่แรงที่กระทบลงบนอกของกตัญญูนั้นแทบจะไม่มีให้รู้สึก
"เขา...มัด....." เสียงที่เอ่ยออกมานั้นนอ่อนแรงเหลือกเกิน
" ไม่มีใครทำอะไรแล้ว...นอนซะ มิน ..นอนซะ "ชายหนุ่มลุบหัวอีกฝ่ายอย่างที่มักจะทำเสมอ
ความอบอุ่นจากมือแกร่ง นานเท่าไรแล้วที่ไม่ได้รู้สึกปลอดภัย วางใจ ในอ้อมแขนของอีกฝ่าย
"อยู่กับผมนะ......." เสียงแหบพร่า ก่อนที่ร่างของรามินทร์จะอ่อนแรง และมีเพียงเสียงหายใจแผ่วๆดังขึ้นเบาๆ
กตัญญูวางร่างนั้นลงกับเตียง เขาแกะมือบางของรามินทร์ที่ขยำเสื้อของเขาจนยับออก มือแกร่งเกลี่ยเส้นผมออกจากใบหน้านั้น
นี่เขาทำอะไรลงไป?
+++++++++++++
กตัญญูดูแลรามินทร์ที่นอนหลับไปพร้อมฤทธิ์ยา น้องชายคนนี้ต้องได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ
พยาบาลคอยเข้ามาดูอาการเป็นระยะ จนรุ่งเช้าที่รามินทร์ตื่นขึ้นพร้อมกับความมึนงง ดูเหมือนว่าจะจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานได้เพียงลางเลือนเท่านั้นเอง
"พี่แมน....." คนป่วยเอ่ยเรียกคนที่เขาตื่นมาแล้วเห็นนั่งอยู่ข้างเตียง
" หืม..ตื่นแล้วเหรอ กินน้ำไหม หรือจะเข้าห้องน้ำ? "กตัญญูหันมาตามเสียงเรียกทันที
"วันนี้....วันอะไรแล้ว..." เสียงแหบพร่าถามขึ้น ปลายนิ้วเรียวพยายามขยับเบาๆ
"ผมหลับ...ไปนานไหม"
" วันนึง กับอีกคืน " เขาพยายามยิ้ม หากแต่มันกลับทำได้ไม่ง่ายเลยเพราะตลอดเวลาที่นั่งอยู่ตรงนี้เขาเองก็คิดหาทางออกกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งคู่
...รามินทร์จะยอมรับไหม..."แล้วพี่อยู่กับผม...ตลอดเวลาเลยใช่ไหม..." ปลายนิ้วแตะเบาๆ ที่ปลายนิ้วมือของอีกฝ่าย
ชายหนุ่มร่างสูงพยักหน้าแทนคำตอบ
รามินทร์เม้มริมฝีปากพลางยิ้ม
"ถ้าวันนี้ หมอบอกให้กลับบ้านได้ เรากลับกันเถอะนะ ไปที่คอนโด" รามินทร์ไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย แม้ความจำในช่วงเวลาหลังจากที่อีกฝ่ายเดินจากไปยังเลือนลางแต่คำพูดของกตัญญูก่อนหันหลังให้เขาไปนั้นยังเด่นชัด
" อืม " น่าแปลกที่กตัญญูกลับรับคำได้ง่ายๆ ไม่มีการโต้เถียงใดๆ มีแต่รับคำและปฏิบัติตามเท่านั้น
"ขอบคุณครับ" รามินทร์ยิ้มอย่างโล่งใจ ก่อนจะจับผมของตัวเองที่ไม่ได้สระมาสองวัน
"ผมดูแย่มาก....อยากกลับเร็วๆจัง"