รีดเดอร์คะ .. ไรเตอร์ป่วย 55+
แต่ทำหน้าที่ก่อนค่ะ!!++++++++++++++
วันรุ่งขึ้น รามินทร์ยังคงทำหน้าที่เป็นสารถี ขับรถให้พี่ชายนั่งไปยังร้านขายกาแฟของตัวเองตั้งแต่เช้าตรู่เพิ่อที่จะได้มีเวลาเหลือพอที่จะ ไปรับของที่สั่งเอาไว้ ก่อนที่จะเข้าไปที่ร้าน ที่มีเจ้าน้อยคอยทำความสะอาดเตรียมของเอาไว้ส่วนหนึ่งตามหน้าที่ประจำวันอยู่แล้ว จะมีบ้างก็ช่วงสุดสัปดาห์ที่เจ้าน้อยจะขอกลับไปนอนที่บ้านญาติที่เปิดเป็นร้านรับตัดเย็ยเสื้อที่ฝั่งธนฯ
" ข้าไม่อยู่ ร้านเป็นไงบ้างวะ? " เชฟหนุ่มถามเด็กในร้านที่กำลังเช็ดโต๊ะอย่างขยันขันแข็ง
"อ้ะ คุณรามินทร์สวัสดีครับ....โอ้ว เฮีย นึกว่าจะหายไปฮันนี่มูนเสียอีก" เพราะได้ยินเสียงรามินทร์ก่อน เจ้าน้อยจึงรีบลุกขึ้นมาสวัสดีอย่างนอบน้อมก่อนจะหันไปทักทาย ชายร่างสูงอย่างกันเองโดยที่ไม่ได้รู้เรื่องราวใดๆเลย
" โสดแล้ว ไม่แต่งแล้วว่ะ ไปช่วยข้าในครัวไป " ชายหนุ่มตอบเจ้าน้อยกลับมาสั้นๆ ก่อนจะเดินแยกจากรามินทร์ไปในครัว
"หะ?...." เจ้าน้อยอุทานออกมาเบาๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าของรามินทร์ด้วยความงุนงง
"ทำตาม ที่พี่เขาว่าไปเถอะ เร็วๆเข้า วันนี้ งานเยอะนะ..." รามินทร์เลี่ยงที่จะตอบคำถามจากสายตาของเด็กหนนุ่ม ร่างเล็กเดินไปอีกทางเพื่อเตรียมอุปกรณ์สำหรับชงกาแฟ วันนี้ จิ๊บเองก็ลางานไปสอบ เขาเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ดีเสียอีกที่จิ๊บจะไม่มาเพราะถ้าจิ้บมา ก้องภพก็ต้องตามมาใช้บริการที่ร้าน บรรยากาศเป็นเช่นนี้ ตัวเขาเองคงจะรับมือไม่ได้แน่ ดวงตารีเรียวเหลือบมองไปทางแผ่นหลังกว้าง
......ไม่มีใครช่วยปลอบแล้วนี่.....++++++++++++++
ระหว่างวัน แทบจะไม่มี การพูดจาหยอกล้อ เหมือนอย่างที่เจ้าน้อยเคยเห็น เด็กหนุ่มดูจะงุนงงเพราะกลายเป็นเหมือนม้นส่งข่าวระหว่างคนที่อยู่หน้าร้านกับหลังร้านเสียหัวปั่น โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่า ทุกครั้ง ที่เจ้านายร่างเล็กของตัวเองฝากข้อความ หรือ ออเดอร์อะไรเข้าไปหา เชฟหนุ่มในครัวนั้น ดวงตารีเรียวก็จะแอบมองตามไปยังคนที่อยู่ในห้องครัวอยู่เสมอๆ
"พวกเฮียทะเลาะกันเหรอ.... " เจ้าน้อยเอ่ยถามตามตรง
"แล้วไอ้ พัฟของเฮียเนี่ย วันนี้ ห่อแย่มากเลยอ่ะไส้แตกไส้แตน เป็นหมาโดนรถทับแล้ว....ผมขี้เกียจซ่อมนะ"
" เปล่า ไม่ได้ทะเลาะ .. ส่วนนั่นน่ะ ถ้าไม่ดี ก็โยนให้หมากินไป " กตัญญูตอบกลับมา ก่อนจะหันไปสนใจในสิ่งที่ทำอยู่
"โยนไง แป้งยังไม่สุก หมากินท้องอืดตายชัก" เจ้าน้อยย้อนกลับ ก่อนจะเลือก อันที่ซ่อมไม่ไหว ไปอีกทาง...กะไว้ในใจว่า ถ้า อีกฝ่ายไม่เอาจริงๆ จะฉวยโอกาสตอนไม่มีลูกค้าเอาเข้าเตาอบมากินเสียเอง
"ไม่ใช่ไร เห็น พี่กับคุณมินทร์ดูเหม่อๆ แปลกๆกัน...เมื่อกี้เห็นทำแก้ว เกือบหลุดมือ...น้ำร้อนลวกไปรอบ"
" น้ำร้อนลวก? " ชายหนุ่มทวนคำ ก่อนจะวางมือจากงานตรงหน้า ล้างมือแล้วเช็ดมือให้เรียบร้อย แล้วออกจากครัวไปยังส่วนของเคาท์เตอร์ชงกาแฟ มือแกร่งดึงแขนบางของคนที่กำลังบดกาแฟออกมาดู และรอยแดงเพราะน้ำร้อนลวกยิ่งเห็นได้ชัดเพราะผิวขาวจัด
"โอ้ย.... "รามินทร์ร้องออกมา แต่ก็เงียบเสียงเมื่อหันไปเจอหน้าของอีกฝ่าย "มินเจ็บนะ....."รามินทร์มองหน้าของอีกฝ่ายก่อนจะขืนมือออก
" ทำไมยังไม่ไปทำแผล? "คิ้วหนาขมวดอย่างไม่พอใจก่อนจะออกแรงลากรามินทร์ไปหลังร้าน
"พี่แมน ปล่อย มินไม่ได้เป็นอะไร ล้างน้ำเย็นแล้วเดี๋ยวก็หาย..."ร่างเล็กโวยเพราะแรงลากของพี่ชาย
" หายเหรอ? "กตัญญูย้อนถาม แล้วจับให้รามินทร์นั่งที่ม้าหินอ่อนหลังร้าน ตรงที่จิ้บชอบมานั่งอ่านหนังสือสอบเป็นประจำ เขาหายเข้าไปในครัวซักครู่แล้วกลับมาพร้อมกับยาทาแก้ไปไฟม้ น้ำร้อนลวก
" ยามีอยู่ในครัว ทำไมไม่บอกเจ้าน้อยให้มันมาเอาให้ก็ได้ "เชฟหนุ่มว่าพลางละเลงยาที่แขนขาวนั้นอย่างเบามือ ดวงตารีเรียวของชายหนุ่มมองใบหน้าคมของผู้เป็นพี่ ด้วยความแปลกใจ...
....ทำไม....ก็รังเกียจไม่ใช่รึไง....."ผมไม่เป็นไรหรอก.... พี่เข้าไปทำงานเถอะ...." ชายหนุ่มหยุดมือของอีกฝ่ายเอาไว้สัมผัสของเนื้อยาและปลายนิ้วของอีกฝ่าย ทำให้ใจเขาเต้นรัว ใบหน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เขายอมทำตามที่อีกฝ่ายว่า แต่ก็ตั้งเงื่อนไขขึ้นมาเช่นกัน
" งั้นก็พักอยู่นี่ เดี๋ยวพี่ไปชงกาแฟเอง "
"ไม่... เดี๋ยวผมทำเอง ไม่ได้เจ็บอะไรขนาดนั้น..." รามินทร์ว่าพลางลุกขึ้นยืน
"แค่นี้ยังไกลหัวใจ......."
" แล้วไม่กลัวกลิ่นยาจะติดไปกับกาแฟรึไง? " กตัญญูย้อนถามในสิ่งที่รามินทร์ไม่สามารถจะเถียงได้
" พักอยู่นี่แหละ
ตอนมินไม่อยู่ และเจ้าพวกนี้ยังไม่มาพี่ยังทำเองได้ "ว่าแล้ว เชฟร่างสูงก็เข้าไปในร้าน
"ก็แน่ล่ะซิ่...................
.พี่อยู่เองได้นี่" รามินทร์เอ่ยออกมาเบาๆ พลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แสงแดดจัดจ้านในตอนเช้า อีกเดี๋ยวลูกค้าก็คงจะเข้าร้าน และยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะปิดร้าน เขาจะทนกับสภาพแบบนี้ ต่อไปได้อีกแค่ไหน
++++++++++++++
แม้แดดจะจัดแต่ยังพอมีร่มไม้ ทำให้ไม่ร้อนมากเกินไปนัก ยิ่งหลังร้านเป็นช่องลม มีลมพัดตลอด ทำเอาคนที่ตื่นเช้ากว่าปรกติผล็อยหลับไปได้อย่างง่ายดาย รามินทร์ฟุบหลับไปตรงนั้นเอง รามินทร์นอนไปได้พักใหญ่ กตัญญูจึงให้เจ้าน้อยไปเรียก แต่เมื่อพบว่าเข้าของร้านหลับอยู่ และด้วยความไม่กล้าไปทัก เจ้าน้อยจึงกลับไปบอกเฮียของเขาซื่อๆว่าเจ้าของร้านหลับสบายไปแล้ว เขาจึงเดินมาที่หลังร้านด้วยตัวเอง
และเจ้าของร่างขาวตรงหน้าที่กำลังหลับสบายด้วยท่านอนฟุบบนโต๊ะหินอ่อนเย็นๆ ทำให้ไม่อยากปลุกซักเท่าไหร่ เขารู้ดีว่าตลอด 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา รามินทร์ต้องฝืนตัวเองมาตลอดจะเหนื่อยจนนอนหลับยาวขนาดนี้ก็ไม่แปลก
"พี่แมน...." เสียงดังขึ้นเบาๆจากร่างบางก่อนจะเงียบไปอีกครั้ง ปลายนิ้วเรียวกระตุกเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกตัวอะไร
" มิน..มิน "ชายหนุ่มเรียกอีกฝ่ายเบาๆ มือแกร่งแตะกับไหล่บางพอให้รู้สึกตัว
"อืม...."เสียงครางเครือดังขึ้นในลำคอ ชายหนุ่มขยับหัวกลับมาหาทางที่กตัญญูยืนอยู่
" ตื่นเถอะ มากินข้าวเถอะ พี่ทำไว้แล้ว "มือแกร่งนั้นเผลอลูบผมอีกฝ่ายอย่างที่มักจะทำเสมอ
"อืม......." เสียดังขึ้นอย่างขัดใจ ก่อนจะรู้สึกตัว รามินทร์สะดุ้ง เมื่อรู้สึกถึง ฝ่ามือของอีกฝ่าย
"อ่ะ...ผมหลับไปเหรอ....." รามินทร์ดูงุนงง เพราะ หลับไปนานแค่ไหนก็ไม่แน่ใจ โลกเหมือนจะหมุนๆ วิงเวียนพิกล
"แล้วพี่มานี่....ทิ้งหน้าร้านได้ไง.... " ร่างเล็กผุดลุกทันที
" เจ้าน้อยมันบอกว่ามินหลับ ไม่กล้าปลุก ปะ ไปกินข้าวกับเจ้าน้อยมันเถอะ เย็นมากแล้ว " รามินทร์หมายจะลุกจากม้าหิน แต่ก็ก้าวออกมาไม่นพ้น ปลายขาติดกับ เก้าอี้หิน จนเซจะล้ม ชายหนุ่มว่าก่อนจะต้องหันมา มือแกร่งรับร่างนั้นไว้โดยอัตโนมัติ
" เป็นอะไรรึเปล่า? "
"ไม่เป็นไร...."รามินทร์ส่ายหน้า ตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่เป็นไร จริงๆตามคำที่ตอบไป ชายหนุ่มฝืนตัวออกเล็กน้อย เพราะเกรงว่า ถ้า อยู่ใกล้อีกฝ่ายไปมากกว่านี้ อีกฝ่ยจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรง เพราะสิ่งที่คัวเอง เรียกว่า เป็น "ความตกใจ" จากการสะดุดเมื่อครู่ กตัญญูจึงปล่อยมือออกเพื่อเปิดประตูให้เจ้าของร้านเข้าไปก่อน
++++++++++++++
มื้อเย็นผ่านไป โดยมีเสียงเจื้อยแจ้วของเจ้าน้อย คอย บ่น ของพูดเรื่องราวประจำวัน หาก เป็นปรกติ คงได้บ่นกับจิ๊บบ้างแต่วันนีิ้้ จิ๊๊บไม่มาก็ถือวิสาสะบ่นมันกับ เจ้าของร้านและเชฟใหญ่เสียเลย
"..............อันที่จริงนะ ผมว่า ผมเนี่ย ออกจะทำงานเกินค่าแรงด้วยซ้ำ....พี่จิ๊บบางทีก็ไม่มา.... แต่ผมไม่ได้จะขอขึ้นเงินเดือนหรอกนะครับ คุณมิน แค่ให้ผมนอนที่นี่ ก็ถือว่าเป็นบุญหัวผมแล้ว.... ผมน่ะไม่ได้ขอ
ใครเขาอยู่ฟรีๆหรอกนะ ผมทำงานหนักใช้ด้วย.....คุณแมกซ์ น่ะ ดูไม่ค่อยรู้เรื่องงานหนักซักเท่าไร ว่าเงินบาทสองบาทนี่มันก็มีค่าเหมือนกันนะ...." เจ้าน้อยเอ่ยก่อนจะเงียบเสียงเพราะรู้ว่าเริ่มพูดจาไม่เข้าทีเข้าให้
"เอ้ยย ผมไม่ได้ตั้งใจจะว่า คุณแมกซ์หรอกนะครับ"
"พี่แมกซ์ก็ยังอุตส่าห์มานั่งเล่นที่ร้านบ่อยนะ จิ๊บมาบ้างไม่มาบ้างแท้ๆ กินอะไรฟรีไปหรือเปล่า" รามินทร์เอ่ยถาม
"โอ้ย ไม่ต้องห่วงครับ ผมจดไว้เรียบร้อย"เจ้าน้อยว่าพลางยิ้มร่า ไม่ได้รู้เลยว่า คำพูดของตัวเองเกี่ยวกับเรื่อเงินทอง อะไรนั่นจะทิ่มใจเจ้านายไปแล้วหลายดอก
" ก็ดีแล้ว จะได้ไม่เสียเปรียบ .. จดแล้วก็เอามาฟ้องเจ้านายด้วยล่ะ เขาจะได้ขึ้นเงินเดือนให้ " เชฟหนุ่มเหลือบมองมาทางรามินทร์เล็กน้อย
"ก็จดไว้ก็แล้วกัน... พี่เขาทำอะไรไป ก็จะได้มาคิดบัญชีกันทีหลัง......แล้วเรื่องเงินเดือนเดี๋ยวพี่ดูให้อีกที....." ชายหนุ่มว่ารู้สึกได้ถึงสายตาจากเชฟหนุ่ม รามินทร์รวบช้อนส้อมทันที
"น้อยล้างจานให้หน่อยได้ไหม...
ทิปพิเศษ" วางพลางก็วางแบงค์ร้อยให้กับเด็กหนุ่ม
"พี่จะรีบกลับ"
"ได้ครับผม..."เสียงเด็กหนุ่มเริงร่าทันใด เขาชักจะชอบรามินทร์มากขึ้นเสียแล้ว ปรกติเห็นเป็นคนเงียบๆ ดูถือตัวเล็กๆ ไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้ แต่ให้ทิปกันแบบนี้ คงไม่ว่ากันเรื่องอื่นแล้ว
"พี่แมน กลับกันเถอะ....น้อยปิดร้านได้ใช่ไหม" รามินทร์หันมามองหน้าของเด็กหนุ่มที่อาศัยชั้นสามของตึกเป็นที่พัก
"ครับได้ครับ รับรอง ผมดูแลร้านอย่างดีเลย" เจ้าน้อยว่าพลางยิ้มแล้วเริ่มลุกขึ้นเก็บจานเมื่อเห็นรามินทร์เองก็ลุกขึ้นตั้งท่าจะกลับอย่างที่บอก คำชวนนั้นราวกับคำสั่งเสียมากกว่า ชายหนุ่มลุกขึ้นอย่างว่าง่ายจนน้อยอดแปลกใจไม่ได้
" เก็บร้านดีๆก็แล้วกัน "
"ครับๆ พวกพี่ก็ขับรถกลับดีๆนะครับ" เจ้าน้อยว่า
เพราะมัวแต่อยู่ทานข้าวที่ร้าน ฟ้าด้านนอกจึงมืดแล้ว รามินทร์ไม่ได้รอร่างสูง ชายหนุ่มเดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเอง แล้วเดินออกจากร้านไป ติดเครื่องยนต์รอให้กตัญญูเดินตามมา เจ้าน้อยเดินตามออกมาเพื่อปิดประตูหน้าร้าน ท่าทางของสองพี่น้องวันนี้ดูแปลกตาไปมาก กตัญญูเองก็ดูท่าจะเจ็บมือทำงานช้ากว่าปรกติที่ถือว่าสปีดเสียจนเขาเอาไปเสิรฟแทบไม่ทัน บางทีก็เหม่อลอย ยิ่งรามินทร์ยิ่งแล้วใหญ่ ปรกติเห็นจะเข้าไปคุยกับกตัญญูก่อนเสมอแต่คราวนี้ก็ไม่
บรรยากาศแปลกๆระหว่างทั้งคู่นั้น ดูออกได้ไม่ยากเลย
++++++++++++++
เสียงทีวีเปิดอยู่ ดังขึ้นพร้อมเสียงดังกุกกักที่หน้าชั้น รามินทร์กำลังค้นหาอะไรที่เขาคิดว่าซื้อมาไว้เมื่อวันก่อน
"ดูซีรีย์ด้วยกันไหม..."รามินทร์เอ่ยถาม ได้กลิ่นสบู่หอมลอยมาจากด้านหลัง อีกฝ่ายคงอาบน้ำเสร็จพอดี
" เรื่องอะไร? " ชายหนุ่มถามเสียงอู้อี้เพราะกำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมของตนอยู่
"อืม Prison Break...." รามินทร์ตอบ
"แนวแอคชั่น พี่ชอบนี่ " ว่าพลางก็เดินไปเปิดซีรีย์ขึ้นทันที รามินทร์นั่งลงบนโซฟาก่อนจะหันไปมองหน้าของกตัญญูที่ยังยืนอยู่
"ดูด้วยกันซิ่ครับ "
...นี่คือคำสั่งสินะ…กตัญญูคิดในใจแล้วเดินมานั่งบนโซฟาข้างๆกับเจ้าหนี้ของตน รามินทร์ยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินมา ก่อนจะหยิบหมอนมาพิงหลัง แล้วเอนตัวเข้าไปหาอีกฝ่ายเล็กน้อยเหมือนที่ชอบทำเป็นประจำ ดวงตาคู่สวยของชายหนุ่มจับจ้องที่หน้าจอโทรทัศน์ที่เริ่มมีภาพเคลื่อนไหว ซีรี่ส์ฮิตในอเมริกานี้ เริ่มเป็นที่นิยมในเมืองไทยจนกระทั่งเคเบิ้ลทีวีต้องซื้อลิขสิทธิ์มาฉาย กตัญญูเคยบอกว่าอยากดูแต่เขาไม่มีเวลาที่จะมานั่งดูโทรทัศน์เท่าไหร่นัก ฉากแอคชั่นตื่นเต้น ด้วยความชาญฉลาดของพระเอก กับ กำลังจากพี่ชายช่วยกันฝ่าฟันเหตุการณ์ไม่คาดคิดหลายต่อหลายประการ เพื่อเป้าหมายเดียวคือ อิสระภาพ เมื่อถึงช่วงตื่นเต้นบีบเค้นหัวใจร่างเล็กจะเผลอสูดลมหายใจเข้าลึก เอียงหน้าเข้าหาไหล่กว้างนั้นทุกครั้ง เสียงเพลงที่ทำให้ทั้งคู่ต้องลุ้นระทึกกับการหนีที่ต้องพยายามหลายครั้งหลายหาน แต่ก็ไม่สำเร็จ ทำให้คนดูทั้งคู่แทบกลั้นหายใจ จนฉากสุดท้าย มือของพี่ชายที่คอยดึงน้องให้ร่วมกันข้ามผ่านรั้วเหล็กสูงของคุกออกไป ฝ่ามือแกร่งที่จับมือของน้องชายเอาไว้มั่น กับสายตาที่เป็นห่วงเป็นใยนั้น ทำให้รามินทร์ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ มือเรียวจับมือแกร่งของพี่ชายเอาไว้หลวมๆ ทำให้กตัญูต้องหันไปมองใบหน้าขาวนั่นอย่างแปลกใจ
"เป็นพี่เป็นน้องที่ช่วยเหลือกันดีนะ.........อิจฉายังไงก็ไม่รู้ซิ่" รามินทร์เอ่ยก่อนจะหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย ดวงตารีเรียวที่มองสบตาของอีกฝ่ายนั้น เหมือนจะบอกว่า คิดถึง ความรู้สึกเช่นนั้นเหลือเกิน
" แล้วพี่แมกซ์ ไม่ช่วยเหลือมินรึไง..ไม่ต้องอิจฉาหรอก "ดวงตาสีดำสนิทนั้นสบตาน้องชาย
"พี่แมกซ์เขาก็ดูแลผมได้ห่างๆ...เขาไม่อดทนกับ
คนแบบผมหรอก....."ดวงตารามินทร์อ่อนแสงลง เชฟหนุ่มไม่ว่าอะไร เขาดึงมือของตนเองออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายช้าๆ แต่มือเรียวกลับฉวยมือของอีกฝ่ายเอาไว้แทบจะทันที ความอบอุ่นกับสัมผัสเมื่อครู่ เขาต้องการมันใจเขาต้องการมือคู่นี้ ไม่ได้ต่างจาก น้องชายที่ยังต้องคอยกำลังสนับสนุนจากพี่ในจอทีวีเมื่อครู่
"อยู่กับผมได้ไหม......" เสียงนุ่มเอ่ยแผ่วเบา ก่อนจะสบตาอีกฝ่ายอีกครั้ง ดวงตาคมที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าคมนั้น ใช่...เขาไม่ควรจะคิดอะไรเลยเถิดกับพี่คนนี้อีกแล้ว กตัญญูไม่ได้ต้องการอะไรเช่นนั้น แต่ริมฝีปากตรงหน้านี้...หากได้สัมผัสมันอีกครั้ง บางที.... รามินทร์ขยับเข้าหาอีกฝ่ายเล็กน้อย ก่อนจะแตะริมฝีปากของตัวเองกับอีกฝ่ายเบาๆ
...อาจจะรู้สึกอบอุ่นที่หัวใจขึ้นมาอีกก็เป็นได้…สัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากทำให้กตัญญูมองหน้าคนที่เริ่มก่อนนิ่ง ... รามินทร์ต้องการให้เขาทำอะไร..
" มิน? "
เจ้าของชื่อขยับถอยออกมา เขาต้องการอะไรจากอีกฝ่ายกันแน่ ที่เป็นอยู่แค่นี้ มันก็ดีอยู่แล้ว แม้จะเจ็บ...เขารู้ว่าเขาเองก็ทำร้ายจิตใจของอีกฝ่ายไปไม่น้อย แต่มันเดินหน้าไม่ได้ จะถอยให้กลับไปเหมือนเดิมก็ไม่ได้ เขาทำอะไรกับความสัมพันธ์นี้ไม่ได้เลย ไม่ว่าทางไหน ก็มีแต่เจ็บกันทั้งคู่ รามินทร์ก้มหน้าลง เขาสับสน พูดอะไรไม่ออก ทางฝ่ายของกตัญญูเองก็รู้สึกลำบากใจไม่แพ้กัน มือแกร่งกำแน่นจนรู้สึกเจ็บ เขาอยากจะกอดอีกฝ่ายเหลือเกิน โอบกอด ลูบหลังปลอบโยนให้หายเศร้าเหมือนทุกครั้ง แต่เขาทำไม่ได้อีกแล้ว
"ขอโทษ.....พี่...คง....เอ่อ....รู้สึกแย่ ขอโทษนะ เอ่อ...
ถือว่าใช้หนี้ไปเลยก็ได้" รามินทร์เอ่ยออกมาเมื่อเหลือบเห็นมือแกร่งนั้นกำแน่น กคัญญูคงโกรธเขาจนอยากจะหักคอเขาให้ตายคามือแน่ ที่ทำแบบนั้นลงไปอีกแล้ว
....พี่จะได้ รีบเป็นอิสระไปจากผมเสียที....คำว่า ใช้หนี้ทำให้ลูกหนี้เจ็บปวด ราวกับมันบาดหัวใจเป็นแผลใหญ่ มือแกร่งที่กำแน่นจึงคลายออกแล้วดึงข้อมือของเจ้าหนี้ให้ลุกขึ้นแล้วออกแรงลากเข้าไปในห้องนอนทันที
"พี่แมน!?" รามินทร์อุทานออกมา
" ใช้หนี้ไง! " ชายหนุ่มตอบกลับมาเสียงดังก่อนจะเหวี่ยงร่างผอมบางลงบนเตียง ในใจของเขาเจ็บ จนทนแทบไม่ไหว คำว่าใช้หนี้ที่ได้ยินจากปากของกตัญญู ทำให้รามินทร์นึกถึงสิ่งที่เขียนลงไปเมื่อวานได้ ร่างเล็กขยับหนีแทบจะในทันที
"ไม่....ผมไม่ทำ....."
..........ถ้าทำ พี่ก็จะใช้หนี้ไปเรื่อยๆ แล้วหนี้ก็จะหมด...พี่ก็จะไป.....ดวงตาที่มองกลับมานั้นสับสน และหวาดหวั่น เขาไม่อยากนึกถึงวันนั้น....วันที่กตัญญูจะจากเขาไป
" ฮะ ฮะ ไม่ทำเหรอ?
แล้วจะให้ทำอะไร?! สั่งมาสิ สั่งมา!! " กตัญญูที่คร่อมร่างบางเอาไว้ทั้งตัวตวาดลั่น
ไหล่ทั้งสองข้างของรามินทร์สั่น และห่อเข้าหากัน เสียงตวาด เงาดำทะมึนจากร่างสูงที่คร่อมอยู่เหนือร่างกาย....กลัว?....แต่เขาก็เป็นคนทำให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้เองไม่ใช่หรือยังไง
"พี่อยากจะใช้หนี้ให้ผมเท่าไร....ก็ทำมาเลยซิ่......" เสียงสั่นลอดผ่านไรฟันที่ขบเข้าหากันดังขึ้นเบาๆ
"แล้ว......................" รามินทร์มองหน้าของอีกฝ่าย ดวงตามีรื้นน้ำตาอยู่
"ผมจะเขียนใบเสร็จวางไว้ให้เอง"ริมฝีปากหนาสั่นด้วยความเจ็บปวดกับคำพูดแบบนั้นของรามินทร์ก่อนจะก้มลงจูบอีกฝ่ายอย่างก้าวร้าวหยาบคาย ความรุนแรงที่ได้รับทำเอาร่างทั้งร่างของรามินทร์เกร็ง กล่องใบเล็กๆที่ซุกเอาไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจถูกเขย่าอย่างรุนแรง จนอะไรบางอย่างที่เลวร้ายนั้นกำลังจะทะลักทะล้นออกมา รามินทร์ดันร่างหนาของเชฟหนุ่มออก ใบหน้าสวยแดงก่ำลมหายใจเหมือนกำลังจะติดขัด ร่างทั้งร่างเกร็งจนสั่นในแววตานั้นแสดงออกได้ถึงความกลัว หวาดหวั่น แต่ก็มีความโกรธเกรี้ยวแฝงอยู่ในที
"อย่ามาทำกับผมแบบนี้!
ถ้าพี่จะทำเพราะพี่โกรธผม หยาบคาย แบบนี้ ก็อย่าใช้หนี้กันไปเลย ติดหนี้กันไปจนตายนั่นล่ะ" ดวงตารีเรียวนั้นสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง แรงผลัก การต่อต้าน ทำให้ชายหนุ่มถอยออกมาทันที มือแกร่งเช็ดริมฝีปากที่เปียกชื้นก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไป มือแกร่งปิดประตูเสียงดัง
ปึง!!!!ทันทีที่เสียงประตูดังขึ้นรามินทร์ลุกขึ้นมานั่งแขนที่ถูกน้ำร้อนลวกเมื่อเช้ากลับมาเจ็บอีกครั้ง สัมผัสก้าวร้าวหยาบคายเมื่อครู่ทำให้เขากลัวเสียจนตัวสั่น เขาแค่คิดถึงสัมผัสอ่อนโยนตอนที่อีกฝ่ายทายาให้ แต่เขาไม่รู้จะทำยังไง เขาอธิบายออกไปไม่ถูก สิ่งที่ทำลงไปทุกอย่างก็ดูจะผิดพลาดไปหมด แล้วตอนนี้กตัญญูก็กำลังโกรธ...โกรธเขามากเสียด้วย ชายหนุ่มมองรอยแดงจ้ำที่ข้อมือ ก่อนจะล้มตัวลงกับเตียงซุกหน้าลงกับหมอนอีกครั้ง
"เจ็บนี่มันเป็นแบบนี้ซิ่นะ......เจ็บจนอยากจะตายไปให้รู้แล้วรู้รอด....มันเป็นแบบนี้นี่เอง" รามินทร์หลับตาลง รู้สึกได้ถึงน้ำตาของตัวเอง
"……..ผมขอโทษ" ดวงตาคู่สวยของชายหนุ่มเหม่อมองไปยังภาพถ่ายของเขาในวันรับปริญญา เคียงข้างด้วยพี่ชายทั้งสองคน วันคืนเก่าที่เขาควรจะมีความสุขยามเมื่อได้นึกถึง กลับยิ่งทำให้โหยหาและเจ็บปวดซ้ำเติมมากขึ้นกว่าเดิม